Share

บทที่ 126

Author: หว่านชิงอิ๋น
ทุกคนมองไปตามเสียง เห็นเพียงลั่วหรงที่สวมอาภรณ์สง่ากำลังเดินเข้ามาช้า ๆ ด้วยรัศมีความกดดันแรงกล้า

ลั่วหรงเดินถึงหน้าประตู มองไปทางลั่วไห่ผิงอย่างเย็นชา “ท่านอัครเสนาบดี ท่านนี้ เป็นผู้มาเยือนผู้มีเกียรติที่ข้าเชิญมา!”

เมื่อลั่วหรงมองไปทางลั่วชิงยวน กลับเปลี่ยนเป็นใบหน้ายิ้มแย้มที่แสนเป็นมิตรฉับพลัน นางดึงมือของลั่วชิงยวนไว้

ลั่วชิงยวนก็ควงแขนของนางไว้อย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมเอ่ยเรียกอย่างสนิทสนม “ท่านอา”

ลั่วหรงยิ้มพลางตบหลังมือของนางเบา ๆ “ข้าบอกแล้ว งานฉลองวันนี้ เจ้ามาเข้าร่วมได้เลย! ผู้ใดก็อย่าหวังจะห้ามเจ้าทั้งนั้น!”

สีหน้าของลั่วไห่ผิงตะลึง และไม่อยากจะเชื่อ

ผู้มาเยือนคนอื่น ๆ โดยรอบต่างก็ตะลึงไม่แพ้กัน พวกเขารู้ว่า ท่านมหาราชครูไม่ถูกกับท่านอัครมหาเสนาบดีนัก และด้วยนิสัยที่เที่ยงตรงของลั่วหรง นางจึงไม่เคยมีสีหน้าดี ๆ ให้กับท่านอัครมหาเสนาบดีสักครั้งเลย

ยิ่งไม่มีทางยอมให้ลูกสาวของท่านอัครมหาเสนาบดีเรียกตนว่าท่านอาแน่

แต่คำว่าท่านอาของลั่วชิงยวนที่ดังขึ้นอย่างชัดเจน

กลับทำสีหน้าของลั่วหรงเบิกบานราวกับบุปผา

ลั่วไห่ผิงไม่รู้แม้แต่นิดว่าเกิดอะไรขึ้น เหตุใดจึงกลายเป็
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 127

    แม้ท่านมหาราชครูลั่วจะไม่ค่อยสนใจนัก แต่เขาก็ฟังจนจบอย่างใจเย็น พร้อมกล่าวขอบคุณด้วยน้ำเสียงดีใจ ผู้คนส่วนมากเลือกที่จะให้ภาพวาด เมื่อเปิดออก หลากหลายลายเส้น แต่เนื้อหาภาพส่วนมากจะเป็นสาวงามคนหนึ่งกำลังจูงเด็กคนหนึ่ง แกว่งชิงช้า หยอกล้อพูดคุย หรือนอนพักผ่อนใต้ต้นไม้ ภาพต่างวาดออกมาได้ดีมาก แต่เมื่อเห็นเยอะเข้า ย่อมรู้สึกว่ามันธรรมดา ยิ่งไปกว่านั้น ในห้องของท่านมหาราชครูแขวนภาพไว้ร้อยกว่าผืน ลั่วชิงยวนจึงถือโอกาสสังเกต นางอยากรู้ว่าภาพวาดที่ผู้ใดมอบให้นั้นมีปัญหา แต่นางกลับต้องตกใจ เพราะมันมีปัญหาแทบทุกภาพ! เมื่อภาพถูกกางออก จะเห็นแม่ลูกคู่หนึ่งกำลังขัดขืนอยู่ในกองไฟ พวกนางกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง และร้องขอความช่วยเหลืออย่างเจ็บปวด แม้เสียงจะเบา แต่แสบแก้วหูเอามาก ๆ ลั่วหรงที่อยู่ด้านข้างเห็นสีหน้าของลั่วชิงยวนค่อนข้างย่ำแย่ จึงเอ่ยถามเสียงต่ำ “เจ้าสังเกตเห็นอะไรรึ?” ลั่วชิงยวนแนบไปที่ข้างหูลั่วหรง เอ่ยพูดเสียงเบา “บันทึกผู้ที่มอบภาพวาดเอาไว้ เมื่อจบงานไปถามพวกเขาดูว่าผู้ใดเป็นคนวาด” ลั่วหรงพยักหน้า จากนั้นสั่งให้คนใช้ไปบันทึกทันที สมาธิของลั่วชิงยวนถูกภาพวาดและของกำ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 128

    สิ่งที่ตามมา คือเสียงหัวเราะกระหึ่ม “ฮ่า ๆ ๆ ๆ วาดได้ครึ่งหนึ่งก็เอามางั้นเหรอ?” “นี่มันประหลาดเกินไป ข้ามิเคยเจอของกำนัลที่ประหลาดเช่นนี้มาก่อน” ภายใต้เสียงหัวเราะ มีคนขำพร้อมพูดกับลั่วไห่ผิง “ท่านอัครมหาเสนาบดีลั่ว ลูกสาวท่านนี่น่าสนใจจริง ๆ ข้าเข้าใจแล้วว่าเหตุใดท่านถึงมิให้นางเข้าร่วมงานฉลองวันเกิด ช่างน่าขายหน้าเสียจริง” สีหน้าลั่วไห่ผิงมืดครึ้ม ฝ่ามือกำเป็นหมัดแน่น วันนี้ลั่วชิงยวนตั้งใจมาเพื่อให้เขาเสียหน้างั้นหรือ! ลูกทรพี! ลั่วเยวี่ยอิงมองการกระทำเช่นนี้ของลั่วชิงยวน ในใจกลับรู้สึกได้ใจ นังโง่นี่คิดอะไรกัน ให้ภาพวาดก็ให้ภาพวาดสิ เหตุใดจึงให้ภาพวาดที่ไม่สมบูรณ์ รนหาที่ตายจริง ๆ ! “ท่านพ่อ ข้าบอกแล้ว ไม่ควรให้ท่านพี่กลับตำหนักอ๋อง ท่านพ่อดูนาง ทำตระกูลเราขายหน้าเสียจริง!” ลั่วเยวี่ยอิงบ่นอย่างอึดอัด ลั่วไห่ผิงเองก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อย เขาไม่ควรให้ลั่วชิงยวนกลับตำหนักอ๋องจริง ๆ ลูกทรพี! ทำหูทวนลมกับคำพูดเขาเสียหมด ดูเหมือนว่าหลังจากวันนี้ เขาจะต้องหารือกับท่านอ๋อง ให้ท่านเขียนหนังสือหย่า เพื่อหย่าลั่วชิงยวนเสีย แม้การที่ลั่วชิงยวนถูกหย่า จะทำให้เขาเสียหน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 129

    แต่แล้วประโยคของท่านมหาราชครูในวินาทีต่อมา กลับทำผู้คนตะลึงยิ่งกว่า! เขาพูดกับลั่วชิงยวนด้วยน้ำเสียงสั่นคลอน “ภาพนี้ ให้ข้าได้หรือไม่?” ทุกคนต่างมีสีหน้างุนงง นี่มิใช่ของกำนัลที่ให้ท่านมหาราชครูลั่วอยู่แล้วงั้นหรือ? อีกอย่างนี่เป็นเพียงภาพวาดเท่านั้น! แต่ลั่วชิงยวนเข้าใจความหมายท่านมหาราชครูลั่วจะสื่อ เขาอยากได้ทุกอย่างที่อยู่ในภาพนั้น นางเผยยิ้มอ่อนโยน “เจ้าค่ะ นี่เป็นของกำนัลที่จะมอบให้ท่านปู่มหาราชครูอยู่แล้ว! เพียงแค่ท่านต้องการชม ก็จะสามารถชมภาพนี้ได้ตลอดเจ้าค่ะ” เมื่อได้ยินประโยคนี้ มหาราชครูลั่วพยักหน้าดีใจ สายตาที่มองลั่วชิงยวนเอ็นดูขึ้นมาทันที “ได้ เจ้าหนู ขอบคุณที่มอบของกำนัลที่ล้ำค่าเช่นนี้ให้ปู่! ปู่ชอบมากเลย!” สิ้นประโยคนี้ รอบด้านดังเป็นเสียงซุบซิบขึ้น ท่านมหาราชครูยอมรับลั่วชิงยวนเป็นหลานสาวแล้วงั้นหรือ? หลายปีมานี้ ลั่วเยวี่ยอิงไปเยี่ยมท่านมหาราชครูที่จวนหลายครั้ง แม้จะได้เจอกับท่านมหาราชครูลั่วบ้าง แต่เขากลับไม่เคยเหลียวแลนางมาก่อน ยิ่งไม่ต้องว่าเรื่องการยอมรับนางเป็นหลานสาวเลย! ลั่วชิงยวนมีสิทธิ์อะไรกัน!? เพียงแค่ภาพวาดผืนหนึ่งมีสิทธิ์อะไรได้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 130

    “ท่านปู่มหาราชครูรู้หรือไม่เหตุใดท่านจึงติดอยู่ในฝันร้าย?” ท่านมหาราชครูลั่วมองภาพวาดตามสายตาของนาง รู้สึกสงสัย “เจ้ารู้งั้นรึ?” ลั่วชิงยวนดึงภาพผืนหนึ่งมาไว้บนโต๊ะ จากนั้นดึงกระดาษยันต์ออกมาใบหนึ่ง แปะไว้ตรงมุมของภาพวาด อ๊าก… เสียงร้องทรมานดังขึ้นในหูของท่านมหาราชครูลั่ว ภาพแม่ลูกที่กำลังหยอกล้อกันใต้ต้นไม้ กลายเป็นภาพแม่ลูกตะเกียกตะกายอยู่ในกองเพลิง และกำลังร้องเสียงโหยหวนทันที ท่านมหาราชครูตกใจจนลำตัวสั่นคลอน หลุดมือโยนภาพวาดทิ้งทันที เสียงระแวงของเขาสั่นคลอนเล็กน้อย “นี่มันคือสิ่งใดกัน?” ลั่วชิงยวนเก็บภาพขึ้นมาอย่างสงบ ม้วนและไว้ด้านข้าง “มิเพียงแค่ผืนนี้ แต่ภาพทุกผืนในห้องนี้ต่างเป็นเช่นนี้หมดเจ้าค่ะ!“ “นี่คือต้นเหตุที่ท่านฝันร้ายทุกคืน!” สิ้นเสียง สีหน้าของท่านมหาราชครูลั่วเปลี่ยนไปฉับพลัน ตระหนักถึงสิ่งที่ลั่วชิงยวนต้องการจะสื่อทันขวัญ “มีคนจงใจทำเช่นนี้งั้นรึ?!“ ท่านมหาราชครูลั่วตกตะลึง สีหน้าของเขาย่ำแย่ ลั่วชิงยวนพยักหน้า “ข้าดูออกตั้งแต่ครั้งที่แล้ว เพียงแต่ตอนนั้นท่านปู่มหาราชครูดูมิค่อยอยากจะสนใจข้านัก ข้าจึงมิได้ถามถึงเรื่องนี้อีก ภาพวาดเหล่านี้ ทางท

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 131

    ลั่วชิงยวนชะงักเล็กน้อย เห็นลั่วอวิ๋นสี่บุกเข้ามาบุ่มบ่ามเช่นนี้ ท่านมหาราชครูทำหน้าตึงทันที สีหน้าของเขาย่ำแย่ ตำหนิจริงจัง “อวิ๋นสี่! เจ้าไม่มีความเป็นสาวเป็นแซ่แต่นิด!” “ท่านปู่ ลั่วชิงยวนคิดจะมาประจบตระกูลเรา ท่านจะเชื่อคำพูดของนางมิได้นะเจ้าคะ!“ น้ำเสียงของลั่วอวิ๋นสี่ร้อนรน ตั้งแต่รู้ว่าลั่วชิงยวนได้รับความไว้วางใจจากท่านแม่ นางก็โกรธจนล้มป่วยไปหลายวัน ไม่คิดว่าลั่วชิงยวนจะมาหลอกท่านปู่ของนางต่อ! สีหน้าของท่านมหาราชครูลั่วย่ำแย่มากยิ่งขึ้น ลุกขึ้นติด่าอย่างเข้มงวด “กลับห้องของเจ้าเสีย!” “ท่านปู่!” ลั่วอวิ๋นสี่กระทืบเท้าอย่างขุ่นเคือง “กลับไป!” สีหน้าท่านมหาราชครูลั่วมืดครึ้ม ลั่วอวิ๋นสี่กระทืบเท้าเพิ่มหลายที และหมุนร่างจากไป นางไม่มีความกล้าที่จะขัดคำสั่งท่านปู่ ลั่วอวิ๋นสี่วิ่งจากไป ท่านมหาราชครูถอนหายใจทีหนึ่ง “เจ้าเด็กนี่ น่ากังวลที่สุด! เพราะแม่ของนางเข้มงวดไปงั้นหรือ? จึงทำให้นางนิสัยดื้อรั้นเช่นนี้” ”ยิ่งมิให้ทำสิ่งใดนางยิ่งอยากทำ ยิ่งมิให้นางคบหากับลั่วเยวี่ยอิง นางกลับยิ่งเข้าหา” ได้ยินดังนี้ ลั่วชิงยวนจึงรู้ แม้ท่านปู่มหาราชครูจะมิได้สนใจเรื่องภายน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 132

    ลั่วชิงยวนเผยยิ้ม และยื่นภาพวาดให้กับท่านมหาราชครูลั่ว “ท่านปู่ ในภาพวาดที่ได้รับมาในวันนี้ มีเพียงของท่านอ๋องที่ไม่มีปัญหา ฉะนั้นไม่ต้องเผาก็ได้” อย่างไรนี่ก็เป็นของขวัญที่ฟู่เฉินหวนเตรียมให้กับท่านมหาราชครูด้วยความตั้งใจ ท่านมหาราชครูกางภาพออก พยักหน้าทีหนึ่ง “ได้ อย่างไรก็เป็นน้ำใจของท่านอ๋อง ในเมื่อไม่มีปัญหาก็เก็บไว้เถอะ” มองดูภาพผืนนั้น ในใจของท่านมหาราชครูเองก็รู้สึกตื้นตัน เขากล่าวพึมพำ “ภาพของผู้คนมากมาย มีเพียงภาพที่เขาให้นั้นไม่มีปัญหา” ประโยคแฝงความนัย เมื่อได้ยินในหูของคนที่อยู่นอกประตู กลับกลายเป็นความหมายอื่น แววตาของฟู่เฉินหวนเยือกเย็น เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้ ลั่วชิงยวนตั้งใจงั้นหรือ? เขากำหมัดแน่น และหันหลังจากไป ลั่วชิงยวนเองก็ฟังออกว่าในประโยคของท่านมหาราชครูมีความนัยแฝงอยู่ จึงรีบพูดอธิบาย “ท่านปู่ ภาพนี้เป็นภาพที่ท่านอ๋องวาดเองกับมือ เขาพกติดตัวไว้ตลอด ดังนั้นจึงไม่ถูกผู้อื่นฉวยโอกาสเจ้าค่ะ” ได้ยินดังนี้ ท่านมหาราชครูไขว้มือไว้ด้านหลัง มองนางอย่างไม่ใส่ใจทีหนึ่ง “ยัยหนูนี่ เข้าข้างท่านอ๋องของเจ้าเพียงนี้เชียว ข้าพูดหรือว่าข้าสงสัยเขา?” “แม้เจ้าเด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 133

    ท่านมหาราชครูได้ยินก็ขมวดคิ้ว “แม่เจ้าหรือ…” “ข้าเจอหน้าไม่บ่อยนัก จึงจำมิได้ เพียงแต่นางเป็นหญิงสาวที่ดีมาก ๆ ตอนนั้นข้ายังคิด เป็นบุญอะไรของลั่วไห่ผิงกัน จึงได้แต่งกับคนอย่างแม่ของเจ้า” “เพียงแต่ข้ามิได้หาสู่กับแม่ของเจ้า จึงจำมิค่อยได้แล้ว” ได้ยินดังนี้ นัยน์ตาของลั่วชิงยวนเผยแววผิดหวัง “บอกตรง ๆ ว่า ความสามารถเหล่านี้ของข้า ศึกษามาจากตำราที่ท่านแม่ของข้าทิ้งไว้ เพียงแต่ข้าเรียนรู้มาได้เพียงผิวเผิน” นางพูดจบ ท่านมหาราชครูยิ่งรู้สึกฉงน “ที่แท้แม่ของเจ้ารู้เรื่องพวกนี้นี่เอง” “มิน่าล่ะ!” “ข้าก็ว่าเจ้ารู้เรื่องเหล่านี้ได้อย่างไร ไม่เห็นเคยได้ยินมาก่อนว่าในจวนอัคมหาเสนาบดีมีผู้เก่งกาจ” พูดจบ เขาตบไปที่ไหล่ของลั่วชิงยวน “หลายปีมานี้เจ้าเองก็ลำบากมาไม่น้อย จากนี้ไปหากลั่วไห่ผิงรังแกเจ้าอีก เจ้าก็มาหาข้า เดี๋ยวข้าผู้เป็นปู่จะช่วยเจ้าเอง!“ ลั่วชิงยวนพยักหน้า “ได้เจ้าค่ะ ขอบพระคุณท่านปู่!” พูดจบก็ตะโกนสั่งด้านนอก “เรียกลั่วไห่ผิงเข้ามา!” ลั่วชิงยวนชะงัก จากนั้นเดินเข้าห้องตามท่านมหาราชครู ท่านมหาราชครูค่อย ๆ นอนผิงบนเก้าอี้ จากนั้นก็พูดกับลั่วชิงยวน “นั่งลงสิ” ลั่วไห่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 134

    เขาร้องตะโกนทีหนึ่ง ลั่วไห่ผิงตกใจจนก้าวถอยหลังไปหลายก้าว คนใช้สีหน้าซีดเทา ใต้ตาดำมืด ดวงตาคู่นั้นขาวโพลนราวกับปลาตาย มองแล้วดูน่ากลัวนัก “เจ้าเดินไม่มีเสียงงั้นหรือ? บังอาจเสียจริง!“ ลั่วไห่ผิงสงบจิตใจ เขาที่เป็นท่านอัครมหาเสนาบดี ตกใจบ่าวคนหนึ่งถึงขั้นนี้ หากคนอื่นรู้เข้าคงเสียหน้าแย่! เขาสะบัดแขนเสื้อเดินออกไปด้วยน้ำโห ทันทีที่เขาจากไป หัวของบ่าวผู้นั้นก็บิดหันอย่างแข็งทื่อ ดวงตาราวกับปลาตายคู่นั้นจ้องไปที่เขา “มองบ้าอะไร?” ลั่วไห่ผิงโมโห วินาทีต่อมา มือที่ขาวซีดคู่หนึ่ง ยกบีบมาที่เขาฉับพลัน และตะครุบลั่วไห่ผิงจนล้มนอนบนพื้น ลั่วไห่ผิงเดินออกจากเรือนได้ไม่นาน ลั่วชิงยวนก็ได้ยินเสียงตะโกนตกใจทันที หว่างคิ้วของนางกระตุก “ท่านปู่ ข้าไปตรวจดูเสียก่อน” ท่านมหาราชครูลั่งพยักหน้า จากนั่นหยิบภาพวาดไร้หน้าผืนนั้นขึ้นมาดูอีกครั้ง ลั่วชิงยวนเดินไปตามเสียง แม้จะไม่มีเสียงตะโกนแล้ว แต่นางกลับสามารถได้ยินเสียงต่อสู้ เมื่อเหยียบที่เรือนเปลี่ยวร้าง ลั่วชิงยวนสามารถรับรู้ถึงพลังวิญญาณชั่วร้ายอย่างชัดเจน นางกวาดล้างสิ่งอัปมงคลของจวนมหาราชครูไปจนสิ้นแล้วมิใช่หรือ? เหตุใดที่นี่…

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1413

    คนของถูหมิงตายไปหมดแล้ว เหลือเพียงฉีเสวี่ยเวยเท่านั้นในขณะที่พวกเขาเดินทางไปยังถ้ำแห่งที่หกในคืนนั้นผลลัพธ์ที่ได้กลับน่าผิดหวังเพราะในถ้ำว่างเปล่า“ดูเหมือนว่าพวกเราจะมาช้าไปก้าวหนึ่ง”ถูหมิงขมวดคิ้ว “เหลืออีกหนึ่งชิ้น ทำอย่างไรดี? หรือว่าความพยายามทั้งหมดของเราจะสูญเปล่า?”พวกเขาวุ่นวายมาหลายวัน เดินทางไปเกือบทั่วทั้งภูเขาแล้วหากสมบัติหายไปเช่นนี้ เขาคงต้องฆ่าสตรีผู้นี้เป็นแน่!ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิด แล้วกล่าวว่า “เหลืออีกหนึ่งชิ้นก็เหลืออีกหนึ่งชิ้น”“หาที่ปลอดภัยก่อน”จากนั้นพวกเขาก็มายังป่าที่ค่อนข้างสะอาด ไม่มีพุ่มไม้หรือวัชพืชหนาแน่นบนพื้นมากนัก ค่อนข้างโปร่งโล่งหีบทั้งห้าใบวางอยู่บนพื้นลั่วชิงยวนกล่าวว่า “เปิดหีบกันเถิด”ทันใดนั้นดวงตาของถูหมิงก็เป็นประกาย “เปิดได้หรือ?”เขาเห็นว่าบนหีบมีแต่อักขระสีเลือดปกคลุมอยู่ จึงยั้งมือไว้หลายครั้งแม้จะอยากเปิดก็ตามเมื่อได้ยินเช่นนี้จึงรีบเปิดหีบทันทีแต่เมื่อเปิดออกแล้ว ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อไปศพ?!ทั้งยังเป็นศพที่ถูกชำแหละอีกด้วย?ฉีเสวี่ยเวยก็ตกใจกลัวลั่วชิงยวนกลับสงบสติอารมณ์ สั่งให้โฉวสือชีและคนใบ้ช่วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1412

    “ใครกัน?!”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วตอบเสียงแผ่ว “ซูเซียง”“แต่ตอนนี้ควรเรียกนางว่าโหยวเซียง”“ภารกิจที่พวกเจ้าได้รับก็เป็นเพียงการละเล่นของนางเท่านั้น”“นางต้องการให้พวกเจ้าฆ่ากันเอง”และภารกิจหนังหน้าของหญิงงามที่ฉีเสวี่ยเวยได้รับ ก็คงเป็นการล่อลวงให้ฉีเสวี่ยเวยมาฆ่านางหากสามารถยืมมือคนอื่นฆ่าคนได้ โหยวเซียงก็มิจำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนเพียงแต่โหยวเซียงคาดมิถึงว่าฉีเสวี่ยเวยจะฆ่านางมิได้ กระทั่งโหยวเซียงเองก็ฆ่านางมิได้“โหยวเซียงหรือ? นางเป็นคนของเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้หรือ?” ฉีเสวี่ยเวยมองนางอย่างมิเชื่อสายตา“มิแปลกใจเลย… นางท้องแก่ถึงเพียงนั้นยังกล้ามาที่นี่ได้”ลั่วชิงยวนเห็นว่าใกล้รุ่งสางแล้ว จึงให้โฉวสือชีแก้เชือกที่มัดฉีเสวี่ยเวยไว้“ข้าจะยังมิฆ่าเจ้าตอนนี้”“มิว่าเรื่องที่เจ้ากล่าวมาจะเป็นจริงหรือไม่ก็มิสำคัญ ข้าก็มิกลัวว่าเจ้าจะไปบอกเรื่องนี้กับถูหมิง”“หากเจ้าไปบอก เรื่องเดียวที่จะเป็นผลเสียต่อพวกข้าก็คือต้องแบกหีบเพิ่มอีกมิกี่ใบ”“เพียงเท่านั้น”มิใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่นางทำเป็นร่วมมือกับถูหมิง ก็เพียงต้องการใช้คนของเขาไปขวางทางศพชายที่ถูกผนึกไว้ในถ้ำ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1411

    “แม้จะต้องยอมตายไปพร้อมกับถูหมิง ข้าก็ยินดี!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ตกตะลึง แต่ก็ยังคงสงสัยอยู่บ้าง“แต่เจ้าสนิทสนมกับถูหมิงถึงเพียงนั้น น่าจะมีโอกาสฆ่าเขาได้นับครั้งมิถ้วน”ฉีเสวี่ยเวยขมวดคิ้วแน่น ดวงตาแดงก่ำ “แท้จริงแล้วคนผู้นั้นระแวดระวังตัวมาก หากมิใช่เพราะต้องการลดความระแวดระวังของเขา ข้ากับชายมากหน้าหลายตาก็คงมิ...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉีเสวี่ยเวยก็เม้มริมฝีปากแน่นหลังจากกล้ำกลืนความรู้สึกแล้ว จึงกล่าวต่อ “ในป่าครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่เขาใกล้ชิดข้า เดิมทีตอนนั้นข้ามีโอกาสที่จะฆ่าเขาได้!”“แต่เจ้าปีศาจฝูเหมิ่งนั่นบังเอิญมาขวาง!”“หากมิใช่เพราะเขา ข้าคงทำสำเร็จไปแล้ว!”ฉีเสวี่ยเวยกัดฟันพูด เต็มไปด้วยความเคียดแค้นลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นสีหน้าของฉีเสวี่ยเวย ในดวงตาของนางเต็มไปด้วยความแค้น ดูมิเหมือนคนโกหกทำให้นางเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อฉีเสวี่ยเวยไปบ้างขณะที่ลั่วชิงยวนยังคงครุ่นคิด ฉีเสวี่ยเวยก็มองมาที่นาง “เจ้ายังมิเชื่อข้าหรือ?”“ขอเพียงเจ้าฆ่าถูหมิงได้ ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อเจ้า! ข้าจะบอกสิ่งที่เจ้าอยากรู้ทุกอย่าง!”ลั่วชิงยวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1410

    ลั่วชิงยวนนอนนิ่งอยู่บนเตียง มิกล้าขยับกายทว่างูตัวนั้นกลับกัดข้อเท้านางอย่างแรงหนึ่งครั้ง จากนั้นก็รีบเลื้อยหนีไปรออยู่ครู่หนึ่ง ฉีเสวี่ยเวยเห็นว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ จึงเปิดประตูเข้ามานางมิอาจมั่นใจได้ว่าพวกคนใบ้จะกลับมาเมื่อใด จึงมิกล้าเสียเวลานานหลังจากปิดประตูอย่างระแวดระวังแล้ว นางก็มายังปลายเตียง จ้องมองข้อเท้าของลั่วชิงยวนอย่างละเอียด ปรากฏว่าถูกงูกัดจริง ๆ นางต้องตายเพราะพิษนี้แน่นอน!ทันใดนั้นเอง ฉีเสวี่ยเวยก็ชักกริชออกมาแล้วเดินไปยังหัวเตียง ค่อย ๆ จรดใบมีดลงบนใบหน้าของลั่วชิงยวนแต่ในพริบตานั้นเอง ลั่วชิงยวนก็ลืมตาขึ้นมาจ้องมองนางด้วยสายตาอาฆาตแค้นฉีเสวี่ยเวยพลันตกใจ แต่ก็มิได้หนีในทันที เพราะนางคิดว่าลั่วชิงยวนโดนพิษงูเข้าไปแล้ว อย่างไรก็ต้องตายอยู่ดีลั่วชิงยวนรีบคว้าข้อมือของฉีเสวี่ยเวยไว้เพื่อแย่งชิงกริชมาจากนางฉีเสวี่ยเวยก็ลงมือโจมตีเช่นกัน เพียงแต่นางคาดมิถึงว่าสตรีผู้นี้ที่ถูกพิษแล้วจะยังมีพละกำลังมากมายถึงเพียงนี้หลังจากทั้งสองต่อสู้กันครู่หนึ่งในห้อง ฉีเสวี่ยเวยก็พ่ายแพ้ ถูกลั่วชิงยวนจับกดไว้บนโต๊ะฉีเสวี่ยเวยตกใจมาก “เจ้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1409

    “แน่นอน”“อีกอย่าง เมื่อหาของเหล่านี้ครบแล้วเมืองแห่งภูตผีทั้งเมืองก็จะเป็นของพวกเรา แล้วยังต้องขึ้นเขาไปเอาของเล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นหาปะไร”คำพูดนี้กระตุ้นความโลภในใจของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นอย่างมิต้องสงสัยพวกเขาจึงมิลังเลอีกต่อไป รีบติดตามลั่วชิงยวนไปยังเส้นทางเดิมตลอดทางยังมีงูมากมาย ลั่วชิงยวนก็หาสมุนไพรบางชนิดตลอดทางแล้วมอบให้ทุกคนผูกติดไว้บนตัวและทาตามเท้า เพื่อให้กลิ่นของสมุนไพรนั้นช่วยไล่งูดังนั้นการเดินทางของพวกเขาจึงราบรื่นดี เมื่อยามค่ำคืนมาเยือนพวกเขาก็ออกมาจากบ่อน้ำพุร้อนนั้นอีกครั้งพวกเขากลับมายังหมู่บ้านเดิมในช่วงกลางดึกสงัดในหมู่บ้านยังมีอาหารหลงเหลืออยู่ ดังนั้นทุกคนจึงหยุดพักกินอาหารกันก่อนเมื่อฟื้นฟูพละกำลังได้แล้วคนทั้งหมดก็ออกเดินทางต่อมาถึงสุสานเดิม ยามนี้วิญญาณอาฆาตเต็มไปทั่วทั้งภูเขา พลังหยินแผ่ซ่านไปทั่วเมื่อลั่วชิงยวนมาถึงที่แห่งนั้นก็พบว่าปากถ้ำเปิดออกแล้วมีคนกล่าวขึ้นว่า “วันนั้นฝูเหมิ่งก็มาที่นี่!”ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยเมื่อเข้าไปในถ้ำแล้ว ภาพที่ปรากฏด้านในนั้นมิเปลี่ยนแปลงมากนัก สิ่งที่เปลี่ยนไปเพียงอย่างเดียวคือโลงศพที่ถูกล่ามโซ่นั้นระเบ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1408

    เมื่อได้ยินดังนั้น ความโลภก็ปรากฏในดวงตาของถูหมิง ใครเล่าจะมิปรารถนาสมบัติของเมืองแห่งภูตผี เขาตอบตกลงในทันที “ได้”ลั่วชิงยวนกล่าวต่อว่า “แต่การนำของสิ่งนี้มาจะต้องเผชิญกับอันตรายบ้าง ดังนั้นอาจจะต้องมีคนของเจ้าสละชีวิต”“แต่คนมากก็แบ่งกันได้น้อย คนตายไปบ้างก็มิจำเป็นต้องสนใจความเป็นความตายของพวกเขา”“ความลับนี้ข้าบอกเพียงเจ้าเท่านั้น เจ้าอย่าได้แพร่งพรายให้ผู้ใดรู้เชียว”“โดยเฉพาะฉีเสวี่ยเวย”เมื่อได้ยินดังนั้นถูหมิงก็หันกลับไปมอง แต่ไหนแต่ไรมาเขาก็มิเคยสนใจความเป็นความตายของคนเหล่านั้นอยู่แล้ว“หาได้มีปัญหาไม่!”ถูหมิงรับปากอย่างง่ายดาย แต่ลั่วชิงยวนกลับยังคงระแวดระวัง “ยังมีเรื่องที่ต้องบอกเจ้าอีกอย่าง กองทัพของเมืองแห่งภูตผีถูกพวกข้าปลุกปั่นแล้ว คาดว่าอีกมินานคงไล่ตามมา”“ก่อนที่จะหาของทั้งหกชิ้นพบ อย่าได้คิดที่จะทำสิ่งใดนอกเหนือจากนี้ ท้ายที่สุดแล้ว พวกเราต้องร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรู หากถูกพวกมันจับได้คงไม่มีใครมีจุดจบที่ดี”สีหน้าของถูหมิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย มิคาดคิดว่าสตรีผู้นี้จะเก่งกาจมากถึงเพียงนี้ กระทั่งปลุกกองทัพของเมืองแห่งภูตผีขึ้นมาได้ดูเหมือนว่าสิ่งที่นางต้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1407

    ตามแผนที่นั้น ลั่วชิงยวนนำทางพวกเขาอ้อมไปอ้อมมา ในที่สุดก็มาถึงถ้ำที่โหยวเซียงผลักนางลงไปเนื่องจากก่อนหน้านี้โหยวเซียงนำคนมาไล่ตามพวกนางจากด้านล่าง ด้านบนจึงไม่มีสิ่งใดปิดบังแล้วและบนผนังหินก็มีเถาวัลย์ยาวห้อยลงมาด้วยเมื่อลองดึงเถาวัลย์นั้นก็พบว่าแข็งแรงมาก“ไปกันเถอะ”คนใบ้ยังคงเดินนำหน้า เขาจับเถาวัลย์ปีนขึ้นไปเมื่อขึ้นไปถึงด้านบนแล้วลั่วชิงยวนก็ปีนตามไปสุดท้ายก็ดึงโฉวสือชีขึ้นไปทัศนวิสัยเบื้องหน้าพลันสว่างและกว้างขึ้นลั่วชิงยวนมองไปที่คนใบ้ “ยามนั้นเจ้าถูกลากตัวมาที่นี่หรือ?”คนใบ้พยักหน้าโฉวสือชีกล่าวว่า “ข้าก็เหมือนจะเคยมาที่นี่เช่นกัน รู้สึกว่าที่นี่มีพลังหยินเข้มข้นนัก”ลั่วชิงยวนพยักหน้า “ถูกต้อง ก็ที่นี่แหละ”นี่คือจุดหมายที่สองของพวกเขาลั่วชิงยวนทำได้เพียงค้นหาไปทีละแห่ง ตามตำแหน่งที่อยู่ใกล้พวกนางมากที่สุดนางหยิบเข็มทิศอาณัติสวรรค์ออกมาเริ่มค้นหาตำแหน่งที่แน่นอนทั้งสามถือโอกาสพักผ่อนในป่าสักครู่และหาอะไรกินเพื่อเติมพลังยามนี้ก็บ่ายแล้ว เห็นได้ชัดว่าฟ้าใกล้จะมืดลง ทั้งสามจึงออกเดินทางต่ออีกครั้งจนได้พบถ้ำแห่งหนึ่งด้านนอกถูกปกคลุมไปด้วยพุ่มไม้หนา เ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1406

    ทั้งสามรีบวิ่งหนีไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วในมิช้า โหยวเซียงและต่งอวิ๋นซิ่วก็นำผู้คนจำนวนมากมาถึงที่นี่อย่างรีบร้อนแต่เมื่อทั้งคณะพุ่งเข้าไปในถ้ำ กลับพบว่าสิ่งนั้นหายไปแล้ว!สีหน้าของต่งอวิ๋นซิ่วเปลี่ยนไป นางตวาดเสียงดัง “ตามหาให้ทั่ว!”“ข้ามิเชื่อหรอกว่าจะยังมีใครที่เดินเหินไปมาอย่างอิสระในเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ได้!”ยามนี้ลั่วชิงยวนมีแผนที่อยู่ในมือ นางสามารถเดินไปไหนมาไหนในเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ได้อย่างอิสระจริง ๆนางถึงขนาดรู้ทุกซอกทุกมุมในเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ดีกว่าต่งอวิ๋นซิ่วและพรรคพวกด้วยซ้ำเพราะนั่นคือแผนที่ที่อวี๋ตันเฟิ่งวาดให้นาง ซึ่งละเอียดลออยิ่งส่วนพวกต่งอวิ๋นซิ่ว ท้ายที่สุดแล้วความทุ่มเทที่พวกนางมีต่อเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ย่อมมิอาจเทียบกับอวี๋ตันเฟิ่งได้ ความเข้าใจที่พวกนางมีจึงด้อยกว่าอวี๋ตันเฟิ่งลั่วชิงยวนเดินตามแผนที่ มิได้วิ่งหนีเข้าไปในหน้าผาหากไปในเส้นทางนั้นก็อาจถูกตามทันได้ขณะที่วิ่งหนี ลั่วชิงยวนก็แหงนหน้ามองตามผนังหินไปด้วยในที่สุดก็พบทางเข้าถ้ำแห่งหนึ่งแม้จะสูงไปสักหน่อยแต่ทางขึ้นไปก็มิได้ชันมาก ปีนป่ายขึ้นไปก็ได้แล้ว“ปีนขึ้นไปทางนั้น!”เมื่อ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status