Share

บทที่ 1048

Author: หว่านชิงอิ๋น
ลั่วชิงยวนตัวสั่นสะท้าน รีบขึ้นจากอ่างแล้วคว้าผ้ามาคลุมกาย

ทันใดนั้นร่างของฟู่เฉินหวนก็ปรากฏในสายตานาง

“ท่าน!” ลั่วชิงยวนเอ่ยปาก

ฟู่เฉินหวนคว้าข้อมือของนาง แล้วจ้องมองนางอย่างดุร้าย “ลั่วชิงยวน ข้ามิอยากเสียเวลาพูดมาก! เจ้ารีบออกไปจากตำหนักอ๋องบัดเดี๋ยวนี้!”

ใบหน้าที่โกรธจัดทำให้รู้สึกหนาวสันหลัง

ลั่วชิงยวนสะบัดมือเขาออก “นี่คือเหตุผลที่ท่านบุกเข้ามาในห้องหม่อมฉันหรือ?”

“หม่อมฉันบอกแล้วว่าหม่อมฉันจะมิไปไหนทั้งสิ้น”

ฟู่เฉินหวนโกรธมาก เชยคางของนางขึ้นดึงเข้ามาใกล้

“อย่าคิดว่าข้ามิรู้ว่าเจ้าอยู่ที่ตำหนักเพื่ออะไร เพื่อฟู่อวิ๋นโจวใช่หรือไม่”

“หากเจ้ามิไปก็อย่าได้ตำหนิข้าที่ประกาศเรื่องงามหน้าของเจ้ากับฟู่อวิ๋นโจวให้รู้กันทั่วแผ่นดิน!”

ใบหน้าของฟู่เฉินหวนเต็มไปด้วยความโกรธ น้ำเสียงก็บ่งบอกว่าข่มขู่อย่างรุนแรง

ลั่วชิงยวนตกตะลึง “ท่านใช้เรื่องนี้มาข่มขู่หม่อมฉัน เพื่อไล่หม่อมฉันไปงั้นหรือ?”

“ดี ท่านก็ประกาศให้ทั่วแผ่นดินรู้ไปเลย หม่อมฉันกับองค์ชายห้าบริสุทธิ์เปิดเผย มีอะไรต้องกลัว!”

นางจะมิไปเพราะเรื่องนี้แน่นอน

ความเจ็บปวดในอกทำให้ฟู่เฉินหวนร้อนใจ

ดวงตาของเขาฉายแววเย็
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Joann Stn
ชอบนิยายเรื่องนี่มากอยากอ่านจนจบเรื่องช่วยแปให้จบด่วยนะคะ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1049

    ดูเหมือนว่าเรื่องการสืบหาหลักฐานนั้นต้องให้ฟู่เฉินหวนช่วยเมื่อถึงยามค่ำคืนฟู่เฉินหวนยังมิกลับมา ลั่วชิงยวนจึงเข้านอนเร็ว นางหยิบเข็มทิศขึ้นมา บัดนี้ได้คันฉ่องสุริยันจันทรามาแล้ว เข็มทิศอาณัติสวรรค์ก็สมบูรณ์แล้ว นางอยากจะดูว่าคันฉ่องสุริยันจันทราจะมีพลังมากเพียงใด คำนวณดูว่าตระกูลเหยียนจะลงเอยอย่างไรแต่ผลลัพธ์ที่คำนวณได้กลับทำให้นางต้องตกใจ ตระกูลเหยียนยังคงมีชีวิตอยู่ สามารถรอดพ้นจากวิบากกรรมครั้งนี้ได้!ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว รู้สึกคับข้องใจ หลังจากคิดทบทวนดูแล้ว นางก็นึกถึงป้ายของมหาราชาจารย์เหยียน หากใช้สิ่งนี้เป็นหลักฐาน มิรู้ว่าจะโค่นล้มตระกูลเหยียนได้หรือไม่ นางจึงรีบออกไปทันทีเมื่อมาถึงลานหน้าตำหนักของฟู่เฉินหวน บังเอิญซูโหยวออกมาจากห้องตำราพอดี “ท่านอ๋องยังมิกลับมาขอรับ”ลั่วชิงยวนถอนหายใจ “มิเป็นอะไร ข้าจะรอท่านอยู่ที่นี่” เมื่อซูโหยวจากไป ลั่วชิงยวนก็นั่งลงบนบันไดหินหน้าประตู เท้าคางมองดูประตู รอแล้วรอเล่า จนความง่วงเข้ามาครอบงำจึงเผลอหลับไป ฟู่เฉินหวนกลับมาเห็นลั่วชิงยวนนั่งหลับอยู่บนบันไดหิน ตัวสั่นสะท้านเพราะสายลมเย็นยามค่ำคืน ฟู่เฉินหวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1050

    เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้ทั้งสองตกใจ ประตูห้องถูกเปิดออกอย่างรุนแรงแต่เมื่อมองไปยังนอกประตูกลับมิพบสิ่งใด เหมือนว่าถูกกระแสลมแรงพัดให้เปิดออกสีหน้าของทั้งสองเปลี่ยนไปทันใดเฉินเซี่ยวหานลูบไหล่ซ่งเชียนฉู่ปลอบโยน “มิเป็นอะไร เพียงแค่ลมแรงเท่านั้น” กล่าวจบเขาก็เดินไปปิดประตู “ยังเหลือยาต้องปรุงอีกมากหรือไม่? ข้าจะช่วยเจ้า”เฉินเซี่ยวหานดึงซ่งเชียนฉู่ให้นั่งลง แต่ใบหน้าของซ่งเชียนฉู่ซีดเผือด รู้สึกกลัวโดยมิรู้ตัว แม้จะทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นและยังคงปรุงยาต่อไป แต่มือก็ยังคงสั่นเทามิหยุด เฉินเซี่ยวหานจึงอยู่เป็นเพื่อนนางตลอดคืนรุ่งเช้าซ่งเชียนฉู่ก็หยิบยาแล้วเตรียมออกเดินทาง “ข้าไปตำหนักท่านอ๋อง ท่านมิต้องตามมาก็ได้” เฉินเซี่ยวหานพยักหน้า “เช่นนั้นเจ้าก็ระวังตัวด้วย” จากนั้นซ่งเชียนฉู่ก็ออกไป นางก้าวเดินอย่างรวดเร็วมากตลอดทาง หลังจากเดินผ่านถนนสายก็มาถึงที่เงียบสงบ เมื่อเลี้ยวโค้งตรงหัวมุม ซ่งเชียนฉู่ก็หยุดเดินและเอนตัวพิงกำแพงมินานเงาร่างหนึ่งก็ปรากฏในสายตา ร่างนั้นสวมชุดคลุมสีขาว ท่าทางสง่างาม อีกฝ่ายก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่งเช่นกัน ซ่งเชียนฉู่กล่าวเ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1051

    หลังจากสอบถามแล้วก็พบว่าที่นี่คือจวนของจูหงที่เป็นเจ้ากรมพระคลังบันทึกที่หล่างมู่บันทึกไว้ได้กล่าวถึงเส้นทางการส่งเบี้ยหวัดทหารจากกรมพระคลัง ดูเหมือนว่าการสืบสวนครั้งนี้จะนำไปสู่การเปิดโปงจูหงแล้ว แต่มิรู้ว่าเหตุใดจึงรีบเร่งให้นางมาที่แห่งนี้ทหารเดินนำนางไปสู่ห้องลับในจวน ปรากฏว่าฟู่เฉินหวนและแม่ทัพใหญ่ฉินอยู่ภายในห้องนั้นเสียงสตรีร้องไห้คร่ำครวญแผ่วเบาแว่วมาจากเบื้องหลังฉากกั้นห้อง“เกิดเรื่องอันใดขึ้นเพคะ?” ลั่วชิงยวนเอ่ยถามฟู่เฉินหวนอธิบายว่า “จูหง เจ้ากรมพระคลังได้อ้างว่าตนล้มป่วยมาสิบวันแล้ว เขามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องการสมคบคิดกับพวกเผ่านอกด่าน ซึ่งเจ้าเองก็คงรู้ดีอยู่แล้ว”ลั่วชิงยวนพยักหน้ารับฟู่เฉินหวนกล่าวต่อ “แม่ทัพใหญ่ฉินได้สืบสวนมาถึงจวนตระกูลจู จึงทราบว่าจูหงหายตัวไปสิบวันแล้ว”“เป็นคำบอกเล่าจากภรรยาของเขาเอง”ลั่วชิงยวนพยักหน้าพลางครุ่นคิด “ดังนั้นนับแต่ที่เขาอ้างว่าล้มป่วย เขาก็หายตัวไปแล้ว”“คนในจวนมิได้รายงานกับทางการเลยหรือเพคะ? มิได้ส่งคนออกไปตามหาเลยหรือ?”จากนั้นฟู่เฉินหวนก็หันไปมองคนที่อยู่เบื้องหลังฉากกั้นห้อง “เรื่องนั้นต้องถามฮูหยินจูดู”

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1052

    เรื่องนี้มิธรรมดาเลยลั่วชิงยวนถามอีกว่า “ฮูหยินจู ช่วงนี้ท่านได้ติดต่อกับคนแปลกหน้าหรือไม่? หรือเกิดเหตุการณ์แปลก ๆ ขึ้นบ้างหรือไม่?”ฮูหยินจูตกใจเล็กน้อยเมื่อได้ฟังดังนั้น จากนั้นก็หลบสายตากล่าวว่า “ไม่มีเจ้าค่ะ”ดูเหมือนว่าฮูหยินจูจะปกปิดบางอย่างลั่วชิงยวนมิได้ถามประเด็นนี้มากเกินไป ต้องสอบถามรายละเอียดก่อนสอบถามหลายอย่างจึงทราบว่าจูหงรักภรรยามาก ถึงแม้ว่าฮูหยินจูจะไม่มีบุตรธิดา แต่จูหงก็ไม่มีอนุเลยดังนั้นหากเขารู้ว่าตระกูลเหยียนจะฆ่าปิดปากเขา การหลบหนีก็ต้องพาภรรยาไปด้วยแน่นอนแต่สถานการณ์ปัจจุบันคือ ทรัพย์สินในจวนลดลง แต่ฮูหยินจูยังอยู่ที่นี่ลั่วชิงยวนคิดว่า อาจจะเป็นเพราะตระกูลเหยียนใช้สิ่งลึกลับมาฆ่าปิดปากเขา และขโมยทรัพย์สินไปเพื่อปลอมแปลงว่าจูหงหลบหนีไปเองหลังจากพูดคุยกับฮูหยินจูเสร็จแล้ว ลั่วชิงยวนก็ออกจากห้อง“เป็นอย่างไรบ้าง?” ฟู่เฉินหวนถามด้วยความกังวลแม่ทัพใหญ่ฉินก็มองนางด้วยความคาดหวังแต่ลั่วชิงยวนมิได้เล่าเรื่องนี้“เปลี่ยนที่พูดคุยกันเถิดเพคะ”เมื่อนั่งลงในสวนที่ไม่มีใครอยู่ ทหารก็วิ่งมา “ท่านแม่ทัพใหญ่ คุณชายรองมาแล้ว กล่าวว่าพบเบาะแสของวังชิงแล

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1053

    “เช่นนั้นก็ดี จะได้มิต้องรบกวนท่านเซียนฉู่อีกต่อไปแล้ว”ลั่วชิงยวนคิดว่าจะส่งฟู่เฉินหวนออกไปได้แล้วแต่ปรากฏว่าฟู่เฉินหวนกลับพูดว่า “นานแล้วที่เรามิได้นั่งดื่มสุราด้วยกัน คืนนี้แสงจันทร์งดงามนัก มาดื่มกันสักสองสามจอกดีหรือไม่?”ซ่งเชียนฉู่รีบลุกไปยังห้องครัวหลังบ้านเพื่อนำถ้วยสุรามา“เช่นนั้นหม่อมฉันขอตัวไปพักผ่อนก่อน ท่านทั้งสองโปรดสนทนากันตามอัธยาศัยเถิดเพคะ”ซ่งเชียนฉู่กลับไปยังห้องของตนฟู่เฉินหวนและลั่วชิงยวนจึงดื่มสุราด้วยกันฟู่เฉินหวนถามซ้ำอีกครั้งว่า “ท่านเซียนฉู่ ช่วยตรวจดูให้ข้าอีกครั้งเถิด ว่าข้าถูกวางยาพิษหรือถูกควบคุมด้วยยาชนิดใดหรือไม่?”ลั่วชิงยวนถึงกับตะลึงไปเล็กน้อย“ท่านอ๋อง คือว่า... กระหม่อมได้ตรวจดูให้ท่านอ๋องแล้วหลายครั้ง แต่กระหม่อมก็ยังดูมิออกจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ”ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว สีหน้าดูเคร่งเครียดขึ้นมาก“หากท่านยังดูมิออก เช่นนั้นใต้หล้านี้คงไม่มีผู้ใดจะรักษาได้แล้วกระมัง?”น้ำเสียงที่หนักอึ้งและเศร้าโศกนั้น ทำให้ใจของลั่วชิงยวนเจ็บปวดราวกับถูกของหนักทับจึงรีบกล่าวว่า “ท่านอ๋องมิควรสิ้นหวังเช่นนั้น กระหม่อมดูมิออกก็มิได้หมายความว่าจะไม่มีวิธีรัก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1054

    ฟู่เฉินหวนก็ประหลาดใจเช่นกันเขาสั่งให้ซูโหยวส่งคนไปสืบประวัติของผู้ที่แจ้งความเหล่านั้นทันทีโดยให้ไปเยี่ยมเยียนและสอบถามข้อมูลและเบาะแสเพิ่มเติมทีละคนลั่วชิงยวนก็ตั้งใจจะไปเยี่ยมเยียนด้วยตนเองเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมแต่ขณะที่กำลังจะออกจากประตู เด็กขอทานตัวน้อยก็วิ่งตรงมาหานางแล้วยื่นสิ่งของบางอย่างให้นาง ก่อนจะวิ่งหนีไปทันที“ช้าก่อน!” ลั่วชิงยวนแทบจะเรียกเขามิทันด้วยซ้ำนางรีบคลี่กระดาษแผ่นนั้นออกดูปรากฏว่าเขียนไว้ว่า ตระกูลเหยียนจะฆ่าปิดปากกระหม่อม หากท่านสามารถช่วยชีวิตกระหม่อมได้ กระหม่อมจะมอบหลักฐานทั้งหมดให้ท่าน! คืนนี้เที่ยงคืนโปรดเสด็จไปรอกระหม่อมที่ใต้ต้นไทรเมืองหลิวหยางตะวันตก เสด็จมาคนเดียว!” “เกิดอะไรขึ้น?” ฟู่เฉินหวนก้าวเข้ามาลั่วชิงยวนรีบส่งกระดาษแผ่นนั้นให้เขาฟู่เฉินหวนอ่านแล้วก็ตกตะลึง นัยน์ตาเคร่งขรึมขึ้นจากนั้นเดินเข้าประตูไป“เป็นลายมือของวังชิง”“เขาเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของจูหงและยังมีข้อมูลลับมากมาย หลังจากจูหงหายตัวไป แม่ทัพใหญ่ฉินก็ให้ความสำคัญกับวังชิง”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ลั่วชิงยวนจึงถามว่า “เช่นนั้นคืนนี้ท่านอ๋องจะไปคนเดียวหรือเพคะ? หม่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1055

    “นี่... คงมิใช่วังชิงหรอกกระมัง?” ซ่งเชียนฉู่เอ่ยถามขณะคิ้วขมวดมุ่นฟู่เฉินหวนย่อกายลงตรวจดูรอบ ๆ พลันสัมผัสเข้ากับป้ายหยกแผ่นหนึ่งบนพื้นดินมันคือป้ายหยกของกรมคลัง“คงเป็นวังชิงมิผิดแน่”ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว นางรีบชักเอาคันฉ่องสุริยันจันทราออกมา ปลายนิ้วเรืองรองด้วยอักขระเวทเมื่อแสงจากอักขระเวทมอดดับลง ภาพบุรุษชุดขาวก็ปรากฏขึ้นในกระจกสุริยันจันทราขณะเดียวกันก็สัมผัสได้ถึงรัศมีอันแข็งแกร่งหัวใจของลั่วชิงยวนกระตุกวูบ อยู่ใกล้ ๆ นี่เอง!นางรีบเหาะทะยานตามไปทางทิศใต้โดยพลันด้วยวิชาตัวเบาดุจขนนก มินานนางก็หายลับไปในความมืดฟู่เฉินหวนตกใจ รีบติดตามไปทันที......ยามราตรีอันมืดมิด ลั่วชิงยวนไล่ตามออกไปนอกเมือง ร่างกายลอยละลิ่วอยู่เหนือยอดไม้ราวกับควบคุมสายลมได้ในมือนางปรากฏเชือกอักขระเวท นางมองไปยังบุรุษชุดขาวแล้วเหวี่ยงเชือกออกไปอีกฝ่ายไหวตัวทัน กระโดดหลบไปได้แต่ก็ถูกลั่วชิงยวนสกัดกั้นเอาไว้นางพุ่งเข้าหา ดาบวงพระจันทร์ฟาดฟันไปที่ลำคอของอีกฝ่ายท่ามกลางแสงจันทร์ ดวงตาของบุรุษผุดความประหลาดใจ หางงูปรากฏขึ้นด้านหลังพยุงร่างของเขาให้ลอยขึ้น หลบการโจมตีได้อย่างหวุดหวิดใน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1056

    ทันใดนั้นก็มีเสียงฝีเท้าหนัก ๆ ดังมาจากในป่าฉู่จิ้งตกใจ เขาสะบัดแขนเสื้อแล้วหันหลังวิ่งหนีไปจากนั้นก็คืนร่างกลับเป็นงูเลื้อยหายเข้าไปในพงหญ้ามินานฟู่เฉินหวนก็ตามมาถึงลั่วชิงยวนยังมิทันได้เอ่ยปากฟู่เฉินหวนก็พูดด้วยความร้อนใจ “คราวหน้าอย่าวิ่งนำหน้าไปคนเดียวเช่นนี้อีก มันอันตรายรู้หรือไม่!”ลั่วชิงยวนนิ่งอึ้งไป“มิกลัวว่าข้าจะตามมิทันรึ”ฟู่เฉินหวนมองไปรอบๆ “แล้วเจ้าตามคนผู้นั้นทันหรือไม่?”“เขาหนีไปแล้วเพคะ” ลั่วชิงยวนพูดด้วยน้ำเสียงผิดหวัง“หนีไปแล้วก็ช่างเถิด เจ้าปลอดภัยก็ดีแล้ว”ฟู่เฉินหวนยังคงขมวดคิ้ว แต่ลั่วชิงยวนกลับแอบยิ้มจางทั้งสามคนกลับไปที่ลานบ้านหลังนั้นแล้วค้นหาอย่างละเอียดแต่ก็มิพบหลักฐานใด ๆ ที่วังชิงทิ้งไว้เหลือเพียงโครงกระดูกเท่านั้น“มีเบาะแสอื่นอีกหรือไม่? หรือว่าจะหมดหวังแล้วเพคะ?” ลั่วชิงยวนถามฟู่เฉินหวนมีสีหน้าเคร่งขรึม แต่ก็ยังปลอบโยน “น่าจะมี”“กลับไปก่อนเถิด ข้าจะให้คนมาจัดการเอง”......เมื่อกลับถึงตำหนักอ๋อง ฟู่เฉินหวนก็กลับไปทำงานอย่างหนักเพราะวังชิงตายแล้ว เขาจึงต้องรีบสืบหาเบาะแสอื่นโดยเร็วดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีหลักฐานที่แน่ช

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1284

    ลั่วชิงยวนตกตะลึง อารมณ์ความรู้สึกของนางดำดิ่งเป็นไปตามที่นางคาดเดาเอาไว้ว่ามิเหลือแม้แต่ศพอย่างนั้นหรือ?“มิพบศพด้วยซ้ำ” อวี๋โหรวกล่าวเสียงขรึมดวงตาของลั่วชิงยวนหม่นลง ดูเหมือนว่าร่างนั้นจะถูกกำจัดไปแล้วจริง ๆ ส่วนจะกำจัดอย่างไรและทิ้งไว้ที่ไหน บางทีอาจมีเพียงฆาตกรเท่านั้นที่รู้“น่าเสียดายจริง ๆ” ลั่วชิงยวนทอดถอนใจด้วยความเสียดายอวี๋โหรวจ้องนางด้วยสายตาจริงจังและพูดอย่างหนักแน่น “มิน่าเสียดายหรอก ข้าเชื่อว่าเจ้าจะกลายเป็นนางคนต่อไป!”ทันใดนั้น สายตาที่จริงจังของอวี๋โหรวก็ทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกเย็นวาบไปถึงสันหลังและยังสงสัยด้วยว่าอวี๋โหรวจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่างหรือไม่ทว่าแม้แต่ศิษย์น้องหญิงก็จำนางมิได้ อีกทั้งอวี๋โหรวก็มิได้สนิทสนมกับนาง แล้วจะจำนางได้อย่างไรลั่วชิงยวนยิ้มและกล่าวว่า “ข้าจะถือว่านั่นคือคำปลอบใจก็แล้วกัน”อวี๋โหรวพูดอย่างจริงจัง “ข้ามิได้ปลอบใจเจ้า ข้าพูดจริง”หลังจากนั้น อวี๋โหรวก็ยิ้มอีกครั้งและพูดว่า “ทางข้ายังพอมียาอยู่บ้าง หากเจ้าต้องการอะไรก็บอกข้าได้เลย”ลั่วชิงยวนมิค่อยเข้าใจว่า เหตุใดอวี๋โหรวถึงทำดีกับนางนางมิค่อยรู้จักอวี๋โหรวมากนัก ในภาพจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1283

    หรือเป็นเพราะเขาเชื่อมั่นในพลังความแข็งแกร่งของลั่วชิงยวน?แต่เมื่อมาครุ่นคิดดูตอนนี้ สตรีที่สามารถทำให้เซินฉีหลงใหลได้ถึงเพียงนี้คงไม่มีทางที่จะเป็นขยะไร้ค่าแม้จะมิได้แข็งแกร่งกว่าเฉินชี แต่ก็เป็นคนที่สามารถต่อกรกับเขาได้อย่างสูสีเพราะเช่นนี้เขาจึงมิแลเกาเหมียวเหมี่ยวเลยด้วยซ้ำ……เมื่อกลับมาถึงห้องลั่วชิงยวนก็นั่งลงพักผ่อนเฉินชีเดินตามเข้ามาและนั่งลงข้าง ๆ นาง พร้อมกับรินชาสองจอก“สมแล้วที่เป็นอาเหลา มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่กล้าทำให้เกาเหมียวเหมี่ยวตกอยู่ในสภาพเช่นนั้น! ข้าชอบ!” มีแสงประกายเจิดจ้าส่องสว่างในดวงตาของเฉินชีสายตาของเขาดูเหมือนอยากจะกลืนกินลั่วชิงยวนเข้าไปทั้งตัวลั่วชิงยวนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เกาเหมียวเหมี่ยวได้รับบาดเจ็บสาหัส ฝ่าบาทกับฮองเฮาคงมิยอมปล่อยข้าไปแน่ คงต้องให้เจ้าช่วยออกหน้าให้แล้ว”เฉินชียิ้มมุมปาก “วางใจได้ มีข้าอยู่ทั้งคน”ลั่วชิงยวนที่ยังกังวลอยู่เล็กน้อยกำชับด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เฉินชี ครั้งนี้เจ้าจะยืนนิ่งดูดายอีกมิได้แล้ว เพราะหากข้าตาย แผนทั้งหมดของเจ้าก็จะสูญเปล่า”“ใต้หล้านี้ไม่มีลั่วเหลาคนที่สองหรอกนะ”เฉินชีพยักหน้าอย่างจริงจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1282

    เลือดสด ๆ ยังคงไหลมิหยุด ไหลนองไปตามร่องลึกของลวดลายวงเวทบนพื้นดินคาดมิถึงว่ามันจะค่อย ๆ ทำให้อักษรเวทของวงเวทส่องแสงขึ้นจากนั้นหมอกสีเขียวจาง ๆ ก็กระจายฟุ้งอยู่รอบตัวลั่วชิงยวนสิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นไอโอสถทั้งสิ้นหอรักษ์ดาราแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่สามารถกลั่นไอโอสถจากเลือดได้ และไอโอสถเหล่านี้ก็สามารถรักษาร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสได้ลั่วชิงยวนหลับตาและสูดลมหายใจด้วยความเพลิดเพลิน ทำให้ร่างกายที่ปวดร้าวของนางดูเหมือนจะผ่อนคลายลงนี่อาจจะเป็นความหมายของการมีอยู่ของแท่นประลองหอรักษ์ดาราแต่ไอโอสถนี้ก็จางลงอย่างรวดเร็วลั่วชิงยวนปล่อยเกาเหมียวเหมี่ยว นางยืนขึ้นพร้อมกับยืดเส้นยืดสาย และเดินลงจากแท่นประลองคนอื่นที่อยู่รอบ ๆ ต่างมองมาที่นางด้วยสายตาที่หวาดกลัวมากขึ้น และพวกเขาก็มิกล้าพูดจาดูถูกเหยียดหยามนางเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไปแล้วลั่วชิงยวนกวาดตามองอย่างเรียบเฉย จากนั้นก็มองไปที่เฉินชีด้วยสายตาลึกซึ้งแล้วเดินจากไปเกาเหมียวเหมี่ยวที่ได้รับบาดเจ็บถูกปลดแส้ออกอย่างรวดเร็วและถูกช่วยลงจากแท่นประลอง นางกัดฟันแน่นพลางจ้องตามหลังลั่วชิงยวนที่กำลังเดินออกไปครู่ต่อมา นางก็เห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1281

    “โอ้สวรรค์ ข้าคงมิได้ตาลายใช่หรือไม่?”“นางไปเอาความกล้ามาจากที่ใดกัน!”ทุกคนในเมืองหลวงต่างรู้ดีว่าเกาเหมียวเหมี่ยวคือใครนางมิเพียงมีสถานะองค์หญิงที่สูงส่งเท่านั้น แต่ยังมีโอกาสที่จะได้สืบราชบัลลังก์ในภายภาคหน้าอีกด้วยเนื่องจากองค์ชายใหญ่มีความสามารถปานกลาง จึงมิเป็นที่โปรดปรานขององค์จักรพรรดิและฮองเฮา ทว่าองค์หญิงผู้นี้กลับแข็งแกร่งและไร้ความปรานี จึงได้รับความโปรดปรานจากพวกเขาไม่มีใครในเมืองหลวงกล้าขัดใจนางเว้นเสียแต่ เฉินชีเพราะนางชอบเขาทว่าแม้จะเป็นเฉินชี แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่นเขาก็ให้เกียรตินางมากลั่วชิงยวนผู้นี้กล้ามากถึงขั้นเหยียบย่ำองค์หญิงต่อหน้าธารกำนัลมากมายเช่นนี้!เกาเหมียวเหมี่ยวพยายามดิ้นพร้อมกับก่นด่าไปด้วย “ลั่วชิงยวน ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้! หากเจ้ามิปล่อยข้า ข้าจะทำให้เจ้าตายจนหาที่ฝังมิได้เลยคอยดู!”“ท่านนี่พูดมากนัก เงียบเสีย!”ลั่วชิงยวนมองนางด้วยสายตาเย็นชา พลางคว้าแส้แล้วดึงมันอย่างแรงทันใดนั้นแส้ที่คอของเกาเหมียวเหมี่ยวก็รัดแน่นขึ้นบังคับให้เกาเหมียวเหมี่ยวต้องเชิดหน้าขึ้นสูงแต่ยังคงถูกแส้รั้งไว้จนหน้าแดงนางหายใจมิออกจนเส้นเลือดแตกและตา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1280

    ลั่วชิงยวนถูกแส้ฟาดจนกระอักเลือด ทำให้อาภรณ์ชุดขาวของนางมีรอยเปื้อนสีแดงมีรอยแส้ที่น่าสะเทือนใจพาดอยู่บนหลังของนางเป็นเส้น ๆทุกคนที่อยู่รอบนอกต่างรู้สึกหวาดกลัวมีคนที่อดมิได้ที่จะกระซิบขึ้นว่า “มิยุติธรรมเลย คนหนึ่งมีอาวุธ แต่อีกคนไม่มี นี่มันจงใจแกล้งกันชัด ๆ มิใช่หรือ”“ชู่! พระนางเป็นองค์หญิง ถึงพระนางจะจงใจฆ่าลั่วชิงยวน แล้วใครจะพูดอะไรได้ ระวังไว้เถิด หากนางจับได้ เจ้าได้เดือดร้อนแน่”ทุกทิศมีแต่ความเงียบงันไม่มีใครกล้าพูดอะไรใครใช้ให้เกาเหมียวเหมี่ยวเป็นองค์หญิงเล่า?นางคือองค์หญิงที่ได้รับความโปรดปรานมาตั้งแต่ยังเล็กนางกลายเป็นคนเย่อหยิ่งบ้าอำนาจ และวิธีการของนางเลวทรามมิน้อยไปกว่าเฉินชีเลยทุกคนในที่นี้ล้วนไม่มีใครกล้าขัดทว่ามีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถช่วยลั่วชิงยวนได้ แต่คนผู้นั้นกลับนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ พลางมองลั่วชิงยวนที่ถูกฟาดบนพื้นจนร่างกายเต็มไปด้วยเลือดมีแสงประกายเจิดจ้าอยู่ในดวงตาของเขาและเจือไปด้วยความยินดีปรีดาลั่วชิงยวนกลิ้งไปบนพื้นและทันใดนั้นก็กระอักเลือดออกมาเต็มปากนางเงยหน้าขึ้นมาและเห็นสายตาที่แสดงถึงความตื่นเต้นดีใจของเฉินชี เขาม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1279

    “สตรีนางนี้ตอบสนองได้รวดเร็วยิ่งนัก”“การตอบสนองเร็วเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การเอาชนะคู่ต่อสู้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง”“พลังความสามารถของจั๋วฉ่างตงนั้นสูงมาก แม้แต่บรรดาคนที่อยู่ที่นี่ก็ยังมีเพียงมิกี่คนเท่านั้นที่สามารถเอาชนะนางได้”ผลลัพธ์ของการประลองครั้งนี้ ไม่มีอะไรให้ต้องลุ้นแล้วทว่าขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกัน ทันใดนั้นจั๋วฉ่างตงก็ล้มลงอย่างแรงเมื่อทุกคนจ้องมองไปและแน่ใจว่าคนที่ลอยตกลงมาคือจั๋วฉ่างตง พวกเขาก็พากันตกตะลึงงัน“ข้าเห็นมิชัดเลย จั๋วฉ่างตงกระเด็นออกไปได้อย่างไรกัน?”ทุกคนต่างสงสัยจั๋วฉ่างตงกระอักเลือดและเงยหน้ามองคนผู้นั้นด้วยความตกตะลึง ดวงตาของนางเยือกเย็นจนน่าหวาดกลัวเป็นไปได้อย่างไรกันนางเป็นขยะไร้ค่ามิใช่รึคราวก่อนที่ส่งคนไปทดสอบ ก็เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าไม่มีพลังที่จะรับมือได้เลย เป็นไปมิได้ที่จู่ ๆ นางจะเปลี่ยนมาร้ายกาจถึงเพียงนี้!จั๋วฉ่างตงมิยอมรับ นางดีดตัวขึ้นและพุ่งไปหาลั่วชิงยวนอีกครั้งดวงตาของลั่วชิงยวนเปลี่ยนเป็นเย็นชา ร่างกายของนางเคลื่อนไหวรวดเร็วจนกลายเป็นภาพลวงตา พลางปล่อยหมัดออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าลั่วชิงยวนต่อยจั๋วฉ่างตงอย่างรุนแรงจนกระเด็น จากน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1278

    “ได้ยินมาว่านางจะประลองกับจั๋วฉ่างตงที่หอรักษ์ดาราในวันพรุ่ง”แม้หลายปีมานี้จั๋วฉ่างตงจะมิได้ดำรงตำแหน่งขุนนางใด ๆ แต่กำลังความสามารถของนางก็ถือว่าโดดเด่นที่สุดในบรรดาคนรุ่นเดียวกันอย่างแน่นอน“แล้วเจ้ามิช่วยนางเล่า? เหตุใดจึงปล่อยให้นางขโมยโอสถทะลวงปราณไป?”ขณะนี้ เฉินชีที่อยู่ในห้องเดินออกมาอย่างช้า ๆ พร้อมมองไปยังทิศทางที่ลั่วชิงยวนหนีไปด้วยดวงตาที่เป็นประกายริมฝีปากของเขาเผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา“ข้าชอบที่เห็นนางอยู่ในสภาพบาดเจ็บเลือดตกยางออก”“ยิ่งนางจนมุมข้าก็ยิ่งปรีดา”เฒ่าโอสถขมวดคิ้วและส่ายหัวด้วยอารมณ์ซับซ้อน “สตรีบ้านไหนได้เจอเจ้า ถือว่าโชคร้ายที่สุดจริง ๆ”……หลังจากกลับมาถึงห้องอย่างปลอดภัยแล้ว ลั่วชิงยวนก็รีบเปลี่ยนอาภรณ์และนั่งขัดสมาธิบนตั่งนุ่มข้างหน้าต่างนางหยิบโอสถทะลวงปราณ และนำเข็มทิศอาณัติแห่งสวรรค์ออกมาทำการบำเพ็ญตนแค่คืนเดียวก็เพียงพอที่จะนำเอาประสิทธิภาพสูงสุดของโอสถทะลวงปราณออกมาได้แม้จะมิสามารถฟื้นฟูพลังยุทธได้อย่างสมบูรณ์ แต่ก็สามารถฟื้นคืนมาได้อย่างน้อยเจ็ดถึงแปดในสิบส่วนเพียงแค่จัดการกับจั๋วฉ่างตงได้ก็พอแล้ว……วันต่อมาเวลารุ่งสางบริเวณร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1277

    เกาเหมียวเหมี่ยวกำหมัดแน่น รู้สึกโมโหมากจนแทบจะปรี๊ดแตกออกมาความรู้สึกอับอายถาโถมเข้ามาหานางเหมือนกับคลื่นยักษ์“เฉินชี คอยดูเถอะ!” เกาเหมียวเหมี่ยวจ้องมองเขาด้วยความโกรธเกรี้ยวนางสวมอาภรณ์แล้วหนีไปทันที……คืนก่อนวันประลองที่หอรักษ์ดาราทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในความเงียบสงบหลังจากลั่วชิงยวนพักผ่อนได้หนึ่งวัน นางก็เปลี่ยนอาภรณ์เป็นชุดท่องราตรีนางแอบเปิดประตูห้องแล้วอาศัยจังหวะที่บริเวณรอบ ๆ ไม่มีคน มุ่งหน้าไปยังหอปรุงโอสถทั้งยังปล่อยเตี่ยฉุยออกมาเพื่อช่วยนางดูคนที่ผ่านไปมาให้อีกแรงหอปรุงโอสถเป็นสถานที่สำคัญของสำนักนักบวช บุคคลทั่วไปมิได้รับอนุญาตให้เข้าไปตามใจชอบ หากนางถูกจับได้ จะต้องตายสถานเดียวทว่าหากมิขโมยโอสถ วันพรุ่งก็ต้องตายในการประลองที่หอรักษ์ดาราอยู่ดีดังนั้นนางจึงทำได้เพียงยอมเสี่ยงดูสักครั้งลั่วชิงยวนอาศัยความที่คุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้ได้อย่างรวดเร็ว ทำการหลบเลี่ยงจุดที่อาจจะมีคนและมาถึงด้านนอกของหอปรุงโอสถขณะนี้ หอปรุงโอสถเงียบสงบและไม่มีใครเฝ้ายามลั่วชิงยวนเดินเข้ามาในลานจนถึงประตูที่ลงกลอนเอาไว้นางดึงปิ่นปักผมออกมาปลดกลอนประตูอย่างชำนาญจากนั้นก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1276

    “ใครให้เจ้าใช้กลิ่นกล้วยไม้? คิดว่าตัวเองคู่ควรกับมันรึ?”แววตาอันชั่วร้ายและกลิ่นอายสังหารทั่วร่างที่แผ่ออกมาทำให้หลานจีหวาดกลัวจนต้องดิ้นรนอย่างสุดชีวิต“ท่าน… ท่านแม่ทัพ ท่านเป็นให้ข้าใช้มันเองนะเจ้าคะ”ดวงตาของเฉินชีเปลี่ยนเป็นเยือกเย็น เขาโยนหลานจีออกจากห้องอย่างโหดร้าย“นับตั้งแต่วันนี้ห้ามใช้น้ำหอมกลิ่นกล้วยไม้อีก ไสหัวไป!”หลานจีล้มออกมานอกห้องอย่างแรงจนกลิ้งตกขั้นบันไดและกระอักเลือดออกมา ทำให้ตกอยู่ในสภาพที่ดูมิได้อย่างยิ่งนางเงยหน้าขึ้นด้วยความมิอยากเชื่อ มิเข้าใจว่าเหตุใดอารมณ์ของท่านแม่ทัพถึงเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันเมื่อก่อนเขาชอบดูนางร่ายรำเป็นที่สุด และชอบกลิ่นหอมของกล้วยไม้บนตัวของนางด้วยเช่นกันเหตุใดจู่ ๆ ถึง…หลานจีพยายามลุกขึ้นจากพื้นพลางมองไปที่เฉินชีที่ยังคงดื่มอยู่ในห้อง “ท่านแม่ทัพมีเรื่องอันใดมิสบายใจใช่หรือไม่เจ้าคะ หลานจียินดีช่วยแบ่งเบาความกังวลให้ท่านแม่ทัพเจ้าค่ะ!”ทันใดนั้นก็มีบุคคลหนึ่งก้าวออกมาจากด้านหลัง ร่างนั้นเดินผ่านหน้านาง และได้ตบนางอย่างแรงทำให้หลานจีล้มลงกับพื้นอีกครั้ง“ไล่ให้เจ้าไสหัวไปแต่กลับมิทำ จะรอข้ามาถลกหนังรึไร?” ดวงตาของเก

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status