รองแม่ทัพใจเย็นลงมาหน่อย เอ่ยขึ้นว่า "แต่ว่า...ถ้าหากห่างกันเกินไป ถ้าเราเล็งพลาดก็จะเสียของเปล่า"จั๋วซือหรานได้ยินคำนี้ ตาก็ยิ้มโค้งขึ้นมา "ไม่เป็นไร รอให้ข้าเริ่มโจมตีพวกเขาก่อน ดึงดูดความสนใจพวกเขาเข้ามา ให้พวกเขาอยู่ในขอบเขตการยิ่งของพวกเขา"รองแม่ทัพฟังน้ำเสียงของแม่นางจั๋วจิ่วแล้ว ก็รู้ว่าสิ่งเหล่านี้ที่ตนเองกังวล แม่นางจิ่วนั้นคิดรับมือเอาไว้เรียบร้อยแล้วร่วมมือกับคนเช่นนี้ หรือก็คือ ฟังคำสั่งของคนเช่นนี้ ถือเป็นเรื่องที่ทำให้ใจสงบได้มากจริงๆจั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นเสียงขรึม "อีกสักครู่ พวกเราก็ทำกันแบบนี้..."......เวลาลากมาถึงตอนนี้หัวของคนเถื่อนต่างแดนนั่น ระเบิดเละเป็นแตงโมเน่าภายใต้สายตาของทุกคนขาวๆ แดงๆ สาดกระเซ็นไปโดนตัวคนข้างๆคนเหล่านี้ไม่ใช่คนพวกที่ไม่เคยเห็นคนตาย จึงไม่ถึงกับตกใจอะไรนักแต่ความตายกะทันหันนี้ต่างหาก ที่ทำให้พวกเขาหวาดหวั่นยิ่งไปกว่านั้นในคนเถื่อนเหล่านี้ เห็นได้ชัดว่ามีคนที่มีความสามารถเป็นเอกลักษณ์อยู่ในนี้มีคนที่เบ้าตาลึกคนหนึ่ง ทำปางมือขึ้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็หลับตาลงข้างหนึ่ง แล้วเปิดตาขึ้นอีก!ดวงตาของเขา กลายเป็นตาเหลืองอำพันคมก
แต่พอพูดขึ้นมาจริงๆ นางเองก็เป็นพวกที่ชอบลองผิดลองถูกเหมือนกันสำหรับวิชาและความรู้บางส่วนที่อยู่เหนือระบบของวิชาควบคุมสัตว์ของโลกนี้ดังนั้นถึงได้ใช้เวลาช่วงที่ว่า พูดคุยกับซางถิงขึ้นมาจึงลองเอ่ยถามจากปากของซางถิงดู เกี่ยวกับความรู้ที่อยุ่เหนือวิชาควบคุมสัตว์ซางถิงบอกนางว่า ถ้าต้องพูดขึ้นมาจริงๆ อันที่จริงวิชาควบคุมสัตว์ของแดนใต้ ชนะต้าชางไปไกลเลยดังนั้นวิชาควบคุมสัตว์ของตระกูลซางในต้าชางนี้ยังพอถูไถ แต่ถ้าอยู่ที่แดนใต้ล่ะก็ ตระกูลซางของพวกเขาหากคิดจะใช้วิชาควบคุมสัตว์ขึ้นเป็นที่หนึ่งของเมือง เกรงว่าคงจะยากมากจั๋วซือหรานเองก็รู้ได้จากในคำพูดของซางถิง ว่าคนแดนใต้เหล่านั้นน่าจะเพราะพรสวรรค์แตกต่างกัน พรสวรรค์ในด้านควบคุมสัตว์ ดีกว่าคนของต้าชางหน่อยดังนั้นด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงเชี่ยวชาญกว่าในวิชากู่ด้วยเช่นกันเพราะแมลงกู่ถึงแม้จะแยกเฉพาะออกมา แต่ด้วยพื้นฐานดั้งเดิม ก็ยังเป็นพวกสัตว์ประหลาดอยู่จั๋วซือหรานรู้สึกว่า ที่ซางถิงพูดมาก็มีเหตุผลอยู่ซางถิงยังบอกว่า นักควบคุมสัตว์แดนใต้ มีทั้งพวกนักควบคุมสัตว์ มีทั้งพวกที่ค้นคว้าจนเป็นปรมาจารย์กู่ และยังมีพวกที่กลายเป็นนักใช้แมลงด
ซือคงเซี่ยนเพิ่งฟังออก ไม่ว่าจะตัวเลือกไหน นางก็ต้องเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในอันตรายอยู่ดี!ซือคงเซี่ยนสูดลมลึก กำลังคิดจะพูดอะไรแต่รองแม่ทัพกับทหารหัวกะทิ ต่างก็เชื่อมั่นในตัวจั๋วซือหรานโดยไม่สงสัย แม้จะฟังออกว่านางจะเอาตัวนางไปอยู่ในอันตรายก็ตามทีแต่พวกเขาไม่ใช่แค่เชื่อมั่นต่อตัวแม่นางจั๋วจิ่วธรรมดา จะบอกว่าหลับหูหลับตาศรัทธาก็ไม่เกินเลยพอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน พวกเขาก็ไม่เคยคิดว่าแม่นางจิ่วจะล้มเหลวแค่รู้สึกว่า ถ้าแค่นางพูดถูก ก็จะทำได้แน่นอนดังนั้นรองแม่ทัพจึงไม่ได้กังวลแบบอ๋องเซี่ยน สีหน้าเองก็ยังดูตื่นเต้น เลือดในตัวเดือดพล่านรองแม่ทัพถามขึ้นว่า "แต่ว่าแม่นางจิ่ว... ท่านจะดึงดูดความสนใจพวกคนเถื่อนนั่นอย่างไรล่ะ?"นางได้ยินคำนี้ก็เลิกคิ้ว ยิ้มอย่างสบายใจ "ทำตัวสวยๆ ก็พอแล้วนี่"ทุกคนตะลึงไปสายตาก็อดมองไปยังใบหน้าที่ผ่านการแปลงโฉมมาแล้วของจั๋วซือหรานตอนนี้ เป็นใบหน้าที่องอาจอย่างมากพอทยอยกันมีปฏิกิริยาขึ้นมา จริงสิ คนผู้นี้ไม่ได้มีหน้าตาแบบนี้เสียหน่อยด้วยใบหน้าเดิมของนาง จะบอกว่างามระดับล่มเมืองก็ไม่เกินเลยทำตัวสวยๆ ก็พอแล้วจริงๆมีนางตรงเข้าไปชนก่อน ด้วยใบห
"เจ้าบอกว่าจั๋วจิ่ว?! คือจั๋วจิ่วคนนั้นหรือ?!""คนที่ทำให้ทั้งเมืองหลวงวุ่นวานคนนั้นน่ะนะ? ที่ทำให้ชินอ๋องอวี้ต้องปวดหัว ทำแผนการใหญ่ของเขาไปคนนั้นน่ะนะ?!""ใช่แล้ว ข้าคิดว่า พวกท่านอย่างน้อยก็น่าจะรู้แล้วว่าคนร้ายที่ลงมือกับพวกพ้องของพวกท่านเป็นใคร" รอยยิ้มมุมปากของรองแม่ทัพยังไม่หายไปไหน "และคนร้ายคนนี้ ก็ถูกพวกเราคุมตัวอยู่"ความหมายที่ไม่พูดก็เข้าใจของรองแม่ทัพชัดเจนมาก:ดังนั้นพวกเจ้าก็คิดเอา ว่าเป็นแดนใต้ที่อ่อนแอ หรือว่าต้าชางที่อ่อนแอ?คนเถื่อนนี้แน่นอนว่าต้องฟังออกถึงความนัยในคำพูดนี้สีหน้าก็ปั้นยากกันขึ้นมา!มีคนยังตะโกนขึ้นมา ชักอาวุธออกมา "ให้ตายเถอะ! พวกฝูงสุนัขต้าชาง เจัาพูดอะไรน่ะ?!"รองแม่ทัพทำหน้าเย็นชาไม่พูดจาส่วนคนเถื่อนที่เป็นหัวหน้าคนนั้น ยกมือขึ้น ถือเป็นการห้ามไม่ให้คนอื่นตะโกนสีน้ำเงินบนหนังตาเขา ดูลึกลับประหลาด ยิ่งดูน่ากลัวลึกซึ้งขึ้นเขาไม่ได้แสดงอาการโกรธแค้นเสียอาการเหมือนคนเถื่อนคนอื่น ดูเหมือนในกลุ่มคนเถื่อนที่ยากจะควบคุมนี้ ค่อนข้างจะมีอิทธิพลพอควรถึงอย่างไรเขาพอเขายกมือขึ้น เพียไงม่นานพวกที่ยังตะโกนโห่ร้อง ก็สงบกันลงมาสายตาเขาเย็นชาลึกซึ
ตอนนี้ ไม่ใช่แค่คนเถื่อนคนนี้ที่สบตากับดวงตาพญาหงส์ กระทั่งคนที่ทาสีน้ำเงินกับคนอื่นคนอื่น ชั่วขณะหนึ่งก็นิ่งเงียบกันลงมาแล้วสายตาพวกเขาล้วนแสดงความตกตะลึงออกมา ชั่วขณะนั้นยังดูเข้มข้นกว่าสีหน้าโกรธแค้นก่อนหน้านี้เสียอีกในสายตาพวกเขาสะท้อนร่างสีแดงออกมาเบนสายตาออกไปไม่ได้เลยนี่...คือแม่นางจั๋วจิ่วที่เลื่องชื่อแห่งเมืองหลวงต้าชางนั่นหรือ?เดิมทีพวกเขายังคิดว่า ชื่อเสียงความงามอันดับหนึ่งในเมืองหลวงของนาง จะเป็นแค่คำเกินจริงหรือเปล่าแต่พอได้เห็นจึงได้รู้ ก็จริง คนอย่างนางในเมืองหลวงถือได้ว่าเป็นคนที่ชื่อเสียงเสียหายเลวร้ายแต่ชื่อเสียงที่ไปถึงระดับชั่วร้ายแล้ว ทุกคนก็ยังไม่ลืมที่จะพูดถึงความงามของนางเห็นได้ว่า ความงามของนางเป็นระดับที่ไม่อาจมองข้ามได้แน่นอน ต่อให้ในฐานะศัตรู อาจจะไม่ยอมรับกับพฤติกรรมของนาง แต่กลับไม่อาจปฏิเสธความงามของนางได้เลย!ชุดแดงที่ร้อนแรงกว่าเปลวเพลง ซ่อนอยู่ในผ้าคลุมสีดำ มิน่าก่อนหน้านี้พวกเขาถึงไม่ทันสังเกตเห็นนางผมดำขลับราวหมึก ดวงตาคู่สวยราวบ่อน้ำลึก และยังมีริมฝีปากแดงเหมือนท้อ จมูกเล็กโด่ง ใบหน้าเล็กเท่าฝ่ามือ ผิวขาวเนียนละเอียด สมกับคำว่าผิ
และพวกเขาพอเห็น 'เหล่าองครักษ์ชินอ๋องอวี้' กลุ่มนี้ ก็เหมือนจะงงงันกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นฉับพลันนี้'เหล่าองครักษ์ชินอ๋องอวี้' พวกนี้ทยอยกันกระจายออก เหมือนคิดจะหาร่างเงา 'เชลย' คนสวยของพวกเขาในกลุ่มคนเหล่าคนเถื่อนเองก็อยากจะหาร่างนางเหมือนกันยิ่งไปกว่านั้นแม้พวกเขาจะพลังบำเพ็ญไม่พอ ในแดนใต้ล้วนเป็นคนของสำนักหรือพรรคต่างๆ แต่ว่าพวกเขาก็เป็นแค่คนของสำนักเท่านั้นแตกต่างกับทหารหัวกะทิของรองแม่ทัพเหล่านี้พูดอย่างนี้ดีกว่า ถ้าเทียบกันด้านทักษะต่อสู้ คนเถื่อนเหล่านี้เป็นแค่พวกที่ความรู้ไม่ได้มาตรฐานกลุ่มหนึ่งพวกของรองแม่ทัพต่างหากที่เป็นทหารจริงๆดังนั้นคนเถื่อนเหล่านี้จึงแทบไม่สังเกตเลย ในความวุ่นวายที่เกิดจากการที่จั๋วซือหรานหายตัวไป 'เหล่าองครักษ์ชินอ๋องอวี้' เหล่านี้ใช้การค้นห้านี้เพื่อกระจายตัวออกไป''อันที่จริง คือการเข้าใกล้แล้วโอบล้อมพวกเขาไว้!ขั้นตอนนี้ หน้าและหลังรวดเร็วมากและตอนนี้เอง คนทาสีฟ้าในที่สุดก็ได้ยินเสียงใสเย็นขึ้นมาใกล้มาก ใกล้จนแทบจะแนบใบหูเขาเสียงกระซิบใกล้หูแบบนี้ กลับไม่ได้ทำให้คนรู้สึกว่า...ใกล้ชิดสนิทสนมแต่กลับทำให้เขาสัมผัสได้ถึงความเย็นเ
"พวกเจ้า...""ให้ตายเถอะ..."เหล่าคนเถื่อนเห็นลูกหน้าไม้ทะลุร่างกาย ในดวงตามีความโกรธแค้นและความตกใจ และมีคนที่เข้าใจขึ้นมา"แค่ก..." คนเถื่อนคนหนึ่งถูกลูกหน้าไม้แทงทะลุปอด กระอักเลือดสดออกมาเต็มปากแต่ถึงจะเจ็บปวดแบบนี้ แต่สมองก็ยังกระจ่างชัดอยู่ไม่น้อย "...ที่แท้ ก็พวกเดียวกัน""พวกเขา...เป็นพวกเดียวกัน ดูท่าบนตัวพวกเขา ตราของจวนชินอ๋องอวี้...ก็คงจะปลอมด้วย...กระมัง..."รองแม่ทัพก้มลงมองตราชินอ๋องอวี้บนตัวอีกครั้ง รู้สึกเหมือนมองเห็นสิ่งสกปรกอะไรบางอย่างเจตนาร้ายในสายตาไม่มีปิดบัง เขายกมือขึ้นดึงตรานั่นแล้วโยนลงพื้นเอ่ยขึ้นเสียงเย็นชา "ตรานี่ไม่ใช่ของปลอม ตัวตนฐานะต่างหากที่ปลอม""ดูท่า..." มีคนเถื่อนฝืนทนความเจ็บปวดจากลูกหน้าไม้ เอ่ยต่อว่า "...คนของชินอ๋องอวี้ คงจะตายไปแล้ว""อ่อค...! อา...!" มีคนเถื่อนฝืนทนเจ็บแล้วคำรามออกมาด้วยความโกรธ รู้สึกโกรธแค้นกับการลอบโจมตีเช่นนี้มากต่อให้จะบาดเจ็บ ก็ยังคงคิดจะลากคนลงไปด้วยก่อนที่ตนเองจะตาย!"ถ้าข้าต้อง...ตาย! ก็จะไม่ยอมให้พวกเจ้า...ได้ดี!" คนเถื่อนคนนี้ทั้งตัวเริ่มแดงเริ่มพองขยาย ความรู้สึกนั้น...ราวกับในร่างกายมีอะไรจะระเบิ
"ฆ่าคนเดียวเสมอตัว! ฆ่าสองคนถือว่ากำไร!"เหล่าคนเถื่อนพวกนี้ก็ขยับตัวกันขึ้นมาและตอนนี้เอง พวกเขาก็เห็นหญิงสาวที่งดงามจนแทบจะเหมือนปีศาจคนนั้น กระโจนขึ้นกลางอากาศกะทันหันจากนัน นางก็นั่งลงบนสัตว์อสูรปีกตัวหนึ่ง พยุงนางขึ้นมา หยุดค้างอยู่กลางอากาศทุกคนเห็นนางกางสองมือออก แต่บนมือกลับไม่มีอะไร มองไม่เห็นอาวุธลับหรืออาวุธอะไรเลย ไม่มีอะไรทั้งนั้นเหล่าคนเถื่อนปล่อยวางจากตัวนางอย่างรวดเร็ว ความแค้นหันไปยังตัวทหารหัวกะทิเหล่านั้น"ฆ่า...!" เหล่าคนเถื่อนคำรามขึ้นชั่วขณะหนึ่ง เสียงตะโกนสังหารก็ดังลั่นฟ้า!ตามหลักการแล้ว พวกเขาอันที่จริงก็ไม่ได้เห็นพวกทหารหัวกะทิในสายตาสักเท่าไรถึงอย่างไร ในค่ายคุ้มกันก็มีทหารหัวกะทิอยู่ไม่น้อย แต่ตอนนี้ไปอยู่ไหนกันหมดล่ะ? ไม่ใช่ถูกแขวนหัวขึ้นไปหมดแล้วหรือ?แต่เจ้าขยะตรงหน้านี้? เฮอะ! พวกเขาถ้าไม่ได้เล่นแผนสกปรกลอบโจมตีล่ะก็ ไม่ใช่อะไรที่น่ากลัวเลย!ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้เห็นทหารพวกนี้ในสายตา ไม่เพียงแต่ไม่กลัวพวกเขา กระทั่งยังรู้สึกว่า เจ้าสุนัขต้าชางพวกนี้มากกว่าที่น่ากลัว!แต่ว่า...พวกเขามองออกว่าบนหน้าของทหารต้าชางที่พวกเขาดูถูก ไม่มีคามหว
บนหน้าที่เหมือนศพแห้ง เผยให้เห็นรอยยิ้มน่าขนลุก "ตายซะ ตาย!"จั๋วซือหรานมองท่าทางนี้ของเขา โดยเฉพาะระฆังที่ดังขึ้นอย่างบ้าคลั่งนั่นนางจุ๊ปากเบาๆ "ถ้าข้าไม่ใช้เครื่องมืออะไรบ้าง ก็คงจะผิดต่อเจ้าที่สั่นกระดิ่งดั่งลั่นขนาดนี้"หลังจากนั้น จั๋วซือหรานพลิกข้อมือ ในฝ่ามือขาวนวล ปรากฏขลุ่ยสั้นมาเลาหนึ่ง!ขลุ่ยสั้นเลานี้ดูเหมือนทั้งเลาจะเปล่งประกายหลากสีราวกับเคลือบน้ำมัน สวยงามอย่างน่าพิศวง!ยิ่งไปกว่านั้นแค่มองก็...หวงเจี้ยนถังถลึงตากลมโต "นี่คือ..."เขามองออกแล้ว "...อาวุธกู่?"ยิ่งไปกว่านั้นคุณภาพก็ดูไม่เลวเลย ถ้าหากเป็นอาวุธกู่จริง แล้วเป็นพวกที่ยอมรับเจ้านายล่ะก็ ก็ต้องทำการหลอมสกัดขึ้นมาเองอย่างน้อยนี่ก็อธิบายได้ ว่าหญิงสาวคนนี้ต่อให้ฝีมือในการหลอมวัตถุ ก็ยังยอดเยี่ยม!หวงเจี้ยนถังอดคิดขึ้นมาอีกไม่ได้ นี่เป็นแค่...หญิงสาวคนหนึ่งเท่านั้น!แล้วก็โมโหกว่าเดิมเดิมทียังคิดว่าตนเองจะแพ้แค่ด้านวิชาหุ่นเชิดเท่านั้น แค่ตนเองมีพรสวรรค์ไม่พอ หรืออาจจะเดินผิดเส้นทางเท่านั้นแต่อย่างน้อยฝีมือด้านการหลอมวัตถุก็ยังยอดเยี่ยมอยู่แต่ตอนนี้พอเห็น บางทีในด้านหลอมวัตถุ ตนเองก็ไม่แน่ว่าจะไ
หวงเจี้ยนถังรู้สึกว่า ที่พึ่งตอนนี้ของจั๋วซือหรานคือคนสำนักเมฆาวารีและคุณชายฉินที่ถูกนางควบคุมอยู่เหล่านี้คนเหล่านี้จะทำอะไรได้ อย่าว่าแต่เจ็ดคนนี้เลย ต่อให้มาอีกสักสิบคน ก็ไม่ใช่คู่มือหุ่นเชิดความมืดของเขาสำหรับเรื่องนี้ หวงเจี้ยนถังมีความมั่นใจอยู่แม้จะบอกว่าเขาถูกจั๋วซือหรานทำให้เสียความมั่นใจในด้านวิชาหุ่นเชิดแต่ในด้านการหลอมสกัดหุ่นเชิด ด้านคุณสมบัติหุ่นเชิด หวงเจี้ยนถังก็ไม่ประหม่าเท่าไรนักความหยิ่งผยองในตอนนี้ ถือว่ามีรากฐานที่แข็งแกร่งอยู่จั๋วซือหรานไม่ตอบสนองอะไรต่อสายตาและคำพูดยิ้มเยาะของหวงเจี้ยนถังเลยแค่มองดูสถานการณ์ตรงหน้าเงียบๆด้วยความโกรธแค้นและชิงชังต่อนางของหวงเจี้ยนถัง จึงไม่มีการถ่วงเวลาอะไรทั้งสิ้น การต่อสู้เริ่มขึ้นทันทีหุ่นเชิดความมืดพวกนั้นพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วและมิน่าที่หวงเจี้ยนถังมั่นใจขนาดนั้น หุ่นเชิดความมืดเหล่านี้ล้วนเป็นของดีทั้งสิ้น!จั๋วซือหรานจะมีแค่ตาเดียวก็ยังพิจารณาได้ ว่าหุ่นเชิดความมืดพวกนี้ไม่ใช่ของธรรมดาอย่างน้อยก็ดีกว่าหุ่นเชิดความมืดที่ได้มาจากผู้เฒ่าเหอ รวมถึงหุ่นเชิดความมืดที่ได้จากผู้ดูแลชุยต่อมาด้วยมองผาดเดียวก็ม
จ้องจั๋วซือหรานเขม็ง"มีสิทธิ์อะไร...มีสิทธิ์อะไร....หึ หึๆๆๆ...ฮ่าๆๆๆ!"เขาหัวเราะขึ้นอย่างบ้าคลั่ง สายตาจ้องมาทางจั๋วซือหรานเป็นระยะ "มีสิทธิ์อะไร...ข้าทุ่มเทมาหลายสิบปี! แต่หญิงสาวคนเดียวก็ยังสู้ไม่ได้เหรอ! มีสิทธิ์อะไร?! ข้าไม่เชื่อ! ข้าไม่เชื่อ! สวรรค์ทอดทิ้งข้า!"หลังจากนั้น ในมือเขาก็มีเสียงวูม! มีตลับหุ่นเชิดโผล่มาอีกหลายตลับ!ยิ่งไปกว่านั้นอักขระคำสาปประหลาดบนนั้น จั๋วซือหรานใช้ความเข้าใจต่อการคัดลอกอักขระคำสาปของตลับหุ่นเชิดในช่วงหลายวันนี้มาทำการประเมินตลับหุ่นเชิดเหล่านี้ล้วนเป็นหุ่นเชิดความมืดทั้งหมด!ดังนั้น ตอนที่หวงเจี้ยนถังเอาตลับหุ่นเชิดออกมามากมายนั้นคนสำนักเมฆาวารีที่เข้ามารายงานนั่น กับคนที่มาดูมหรสพอีกมากมาย เดิมทียังคิดว่า จั๋วซือหรานน่าจะมีความหวาดกลัว...หรือไม่ก็สายตาที่ระแวดระวังขึ้นมาบ้าง?แต่ว่าไม่มีเลยไม่มีเลยสักนิดถ้าแค่ไม่มีก็ว่าไปอย่าง ถึงอย่างไรพวกเขาก็แทบจะไม่เคยเห็นสีหน้าหวาดกลัวใดๆ บนหน้าหญิงสาวที่เผชิญหน้ากับอันตรายคนนี้เลยแต่ ไม่ใช่แค่ไม่มีความหวาดกลัวพวกเขายังเห็นว่า...ดวงตาของนางเป็นประกายขึ้นด้วยซ้ำ!ตาของนาง...เปล่งประกายขึ้น
แต่ตรงหน้าเหล่านี้ ล้วนยังมีชีวิตกันอยู่นางสามารถควบคุมพวกเขาได้อย่างสบาย ตอนที่พวกเขายังมีชีวิตอยู่!"นี่เป็นไปได้อย่างไรกัน...เป็นไปได้อย่างไร..." หวงเจี้ยนถังราวกับถูกกระตุ้นอย่างรุนแรง รู้สึกเริ่มสับสนหมดหวังขึ้นมาแล้วเขาพูดงึมงำซ้ำไปซ้ำมาไม่หยุด "นี่เป็นไปได้อย่างไรกัน เป็นไปได้อย่างไร...นี่มันเป็นไปไม่ได้...เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด...""ถ้าหากแบบนี้ เช่นนั้นข้า...มันคืออะไรล่ะ? แล้วข้า...จะเป็นอะไรไปได้?" หวงเจี้ยนถังพูด ในสีหน้าก็เหมือนจะเสียสติคุ้มคลั่งขึ้นมาแล้วรางๆแต่ก็ยังไม่ถือว่ารุนแรงนัก และตอนนี้เอง ด้านนอกประตูก็มีคนในชุดสำนักเมฆาวารีคนหนึ่ง เข้ามาพูดอะไรข้างหูหวงเจี้ยนถังสีหน้าหวงเจี้ยนถังยิ่งปั้นยากขึ้นไปอีก ราวกับไม่มีลมหายใจเหลืออยู่อีกแล้วจั๋วซือหรานมองคนสำนักเมฆาวารีที่รีบเข้ามาจากด้านนอก เห็นสีหน้าแปลกประหลาดของเขา ก็พอจะเดาได้ว่าเขาพูดอะไรเพราะจั๋วซือหรานจำคนสำนักเมฆาวารีคนนี้ได้ ถ้าหากจำไม่ผิด เหมือนจะเคยเห็นมาแล้วครั้งหนึ่งที่โรงเตี๊ยมดังนั้นที่เขารีบเข้ามาตอนนี้ สีหน้ายังดูเหมือนพูดไม่ออกบอกไม่ถูกแบบนี้จั๋วซือหรานก็นึกไปถึงหนึ่งความเป็นไปได้...บาง
ยังคงอยู่ในท่าทางป้องกันเช่นเดียว ขวางอยู่ตรงหน้าจั๋วซือหรานคอของพวกเขากระทั่งเลือดหยุดไหลไปแล้ว และถ้าหากมองอย่างละเอียดจะพบว่า แผลบนคอคุณชายฉินก่อนหน้านี้ ไม่ใช่แค่เลือดหยุดไหล กระทั่งว่า!กระทั่งมันเริ่มรักษาแล้ว!หวงเจี้ยนถังเองก็มองสิ่งเหล่านี้ออก ไม่ใช่สิ่งที่อยู่เหนือความเข้าใจเขาเลย ยิ่งไปกว่านั้นเขาใช้ชีวิตมาแล้วตั้งหลายปี จะมายอมรับและเผชิญหน้ากับความไม่รู้และความล้มเหลวของตนเองง่ายๆ ได้อย่างไร?หวงเจี้ยนถังยิ่งมั่นใจในความคิดของตนเองมากขึ้นไปอีก"นี่ถ้าไม่ใช่วิชาชั่วร้าย แล้วจะเป็นอะไรไปได้?! ศิษย์สำนักข้าล้วนถูกเจ้าควบคุมไปหมด!" หวงเจี้ยนถังเอ่ยขึ้นอย่างโกรธแค้น "เจ้ามัน...ปีศาจสาวชัดๆ! ได้ยินว่าเจ้าสร้างความวุ่นวายในเมืองหลวงน่าดู น่าจะใช้วิชาชั่วร้ายแบบนี้สินะ! วันนี้ข้าจะจัดการแทนสวรรค์..."เขายังพูดไม่ทันจบ ก็เห็นว่ามุมปากหญิงสาวคนนี้ยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม ไม่มีความอบอุ่น แต่แฝงไว้ด้วยอำนาจที่เหนือกว่าเสียงของนางเรียบใสเย็น "คิดให้ดีแล้วค่อยพูด แทนสวรรค์รึ? วิญญาณนับไม่ถ้วนที่มือเจ้า เต็มไปด้วยกรรมชั่ว แล้วยังคิดจะแทนสวรรค์? เจ้าทำได้หรือไงกัน?""อ๊ะ ใช่แล้ว" นางเห
"เจ้า...!" บนหน้าผอมแห้งของหวงเจี้ยนถัง ดวงตาเบิกโพลงฉับพลัน!ยิ่งไปกว่านั้นเนื่องจากผอมเกินไป เดิมทีดวงตาที่โตอยู่แล้ว ตอนนี้พอถลึงตา ก็ยิ่งโตขึ้นจนแทบจะร่วงลงมาอย่างไรอย่างนั้นในดวงตาเขาตกตะลึงจนยากจะปิดบัง เพราะเนื่องจากตกใจมากเกินไป กระทั่งปากก็ยังอ้าค้าง มุมปากสั่นเล็กน้อย ราวกับได้รับผลกระทบมหาศาล"นี่...นี่เป็นไปได้อย่างไรกัน..." เขางึมงำขึ้นคำหนึ่งในน้ำเสียงฟังแล้ว ก็เหมือนไม่มีความเย็นชาดุดันแบบก่อนหน้าแล้วหวงเจี้ยนถังเป็นปรมาจารย์วิชาเหยี่ยนมาแล้วหลายปี เข้าใจว่าวิชาหุ่นเชิดของตนเองไม่ธรรมดายิ่งไปกว่านั้นการค้นคว้าต่อวิชาเหยี่ยน ระดับการหลอมวัตถุของเขาเองก็ไม่ได้ต่ำเลยนี่เป็นพื้นฐานและความภาคภูมิใจของเขามาโดยตลอดโดยเฉพาะหุ่นเชิดความมืด กระทั่งในสำนักเมฆาวารี มีหุ่นเชิดความมืดไม่น้อยที่หลอมสกัดออกมาจากมือเขา อย่างหุ่นเชิดความมืดของผู้ดูแลชุยก่อนหน้านั้น อันที่จริงก็หลอมมาจากมือของหวงเจี้ยนถังกระทั่งเจ้าสำนักก็ยังมีหุ่นเชิดความมืดบางส่วน ที่หวงเจี้ยนถังหลอมสกัดออกมาให้อีกด้วย ถึงอย่างไรการหลอมสกัดหุ่นเชิดก็เป็นงานละเอียดอ่อน เปลืองทั้งเวลาเปลืองทั้งแรง ไม่ใช่อะไ
พอเข้าใจวิชาหุ่นเชิดบ้าง และล้วนรู้ว่า เพื่อหุ่นเชิดหนึ่งตัว ไม่ว่าจะเป็นหุ่นเชิดธรรมดาหรือหุ่นเชิดความมืด ปรมาจารย์วิชาเหยี่ยนต้องใช้เวลาสักพักหนึ่งในการหลอมสกัดจึงจะนำมาใช้งานได้เหมือนกับนางแบบนี้เสียที่ไหน?! คิดจะใช้ก็เอามาใช้เลย?ยิ่งไปกว่านั้น! คุณชายฉินก็ยังไม่ตายด้วย!พวกเขาเห็นว่าเขายังหายใจอยู่!คนสำนักเมฆาวารีพวกนั้น ก็รู้สึกตกตะลึงอย่างมากกับฉากที่เห็นตรงหน้า!ถ้าหากบอกว่าก่อนหน้านี้พวกเขารู้สึกตกตะลึงกับการแสดงออกของจั๋วซือหราน พวกเขาในตอนนี้คืองงเป็นไก่ตาแตกไปแล้วไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน ที่พวกเขารู้ กระทั่งเจ้าสำนักก็ยังไม่มีความสามารถแบบนี้!และตอนนีเ้อง คนสำนักเมฆาวารีก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้น เย็นๆ ใสๆ เส้นเสียงทั้งที่น่าฟัง แต่ตอนนี้ในหูพวกเขา กลับราวกับเป็นเสียงที่ลอดมาจากขุมนรก"พวกเจ้า ลองหลบดูอีกสักครั้งไหม?"คนเหล่านี้รู้สึกเหมือน หัวใจจะหยุดเต้นไปแล้วในพริบตาอวัยวะสัมผัสหลายจุดแจ่มชัดขึ้นเป็นพิเศษในพริบตานี้ อย่างเช่นว่า พวกเขาสามารถมองเห็นอย่างชัดเจน ว่านิ้วมือของนางขยับอย่างไรภาพการกระดิกนิ้วเบาๆ นั่น...กลับสร้างความตกตะลึงได้ยิ่งกว่าโบกแกว่
นางไม่กลัวเลยจริงๆ! ยิ่งไปกว่านั้น ประทัดที่ว่ามันคืออะไร!คนสำนักเมฆาวารีมีปฏิกิริยาขึ้นมา สิ่งที่นางพูดน่าจะหมายถึงกระบอกเสียงของพวกเขาเมื่อครู่นี้ประทัดอะไรกันเล่า? ฟังแล้วดูตลกเสียจริงสีหน้าพวกเขาปั้นยากขึ้นมาแต่ว่ากลับไม่มีปฏิกิริยาใดกับคำพูดยโสของนาง เพราะว่า...ผู้อาวุโสยังไม่มาหญิงสาวคนนี้ลึกล้ำเกินหยั่งจริงๆนิ่งกันแบบกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่พักหนึ่ง พวกเขาก็ได้ยินเสียงนางที่เหมือนจะหมดความอดทน "หรือว่า ข้าต้องปาดคอพวกเจ้าทิ้งด้วย ผู้อาวุโสของพวกเจ้าถึงจะรู้สึกว่าเรื่องนี้สำคัญแล้วยอมเข้ามา?"พวกเข้าหน้าเขียวปี๋ สายตาพรั่นพรึงขึ้นมา"เอาเถอะ" สองมือที่กอดอกอยู่ของจั๋วซือหราน ยื่นออกมาข้างหนึ่งเหมือนกับที่จัดการคุณชายฉินเมื่อครู่ ชูนิ้วหนึ่งขึ้นมาสายตาคนสำนักเมฆาวารีถลึงตาโต พวกเขารู้จักท่านี้ของนง ดังนั้น พอเห็นท่าทางนี้ ก็เลยตึงเครียดกันขึ้นมาพวกเขาจ้องไปที่นิ้วเรียวขาวของนางอย่างตึงเครียด และเห็นว่านิ้วของนางกระดิกเบาๆ ขึ้นมาทันที!ตอนนี้เอง พวกเขาในที่สุดก็ได้ยินเสียงจากไกลๆ พุ่งเข้ามาเป็นเสียงกระดิ่ง กริ๊งๆๆ...!พวกเขาแทบน้ำตาคลอเบ้า! เพราะพวกเขารู้จัก
รู้สึกเหมือนถูกสัตว์ร้ายจับจ้องอยู่อย่างไรอย่างนั้น พอบวกกับ ที่จมูกตอนนี้ยังได้กลิ่นเลือดสดที่ทะลักออกมาจากคอของคุณชายฉินจนมีกลิ่นคาวเลือดจางๆและยังได้ยินเสียงอ่อคๆ ในคอของคุณชายฉินอีก ขนาดที่ความน่าเกรงขามที่แข็งแกร่งขนาดนี้ แข็งแกร่งจนราวกับจะจับต้องมันได้ขึ้นมา!ดังนั้นพวกเขาที่เดิมทียังคิดจะบุกเข้าไป จึงยืนนิ่งตัวแข็งกันอยู่ที่เดิมพอเห็นท่าทางแข็งทื่อไปกะทันหันของพวกเขา จั๋วซือหรานก็เลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ยกมุมปากเอ่ยขึ้นว่า "เป็นตัวเลือกที่ฉลาด"รอบๆ ไม่รู้ว่าใครที่ตะโกนขึ้นมา "ให้ตายเถอะ! ใยหุ่นเชิด...มากมายเต็มไปหมด!""ให้ตาย! เยอะมากจริงๆ! นางเองก็เป็นปรมาจารย์วิชาเหยี่ยนหรือ?!"พอได้ยินเสียงแบบนี้ขึ้นมารอบๆ พวกสำนักเมฆาวารีก็สังเกตเห็นขึ้นมา ว่าระว่างนางกับพวกเขา มีใยละเอียดอยู่มากมายจริงๆ...เพียงแต่มันโปร่งใสอยู่ตลอด ดังนั้น ถ้าหากไม่สังเกตอย่างละเอียดก็จะมองไม่เห็นและมีใยหุ่นเชิดในนี้ ที่ย้อมเลือดอยู่ด้วยไม่รู้ว่านางปล่อยใยหุ่นเชิดมากมายขนาดนี้มาตั้งแต่เมื่อไรคิดดูแล้วเมื่อครู่นี้คุณชายฉินน่าจะถูกปาดคอไปตอนที่นางใช้นิ้วปาดวาด ก็คงพราะเจ้าใยหุ่นเชิดพวกนี้สินะพลัง