Share

บทที่ 883

Auteur: หูเทียนเสี่ยว
เหล่าคนเถื่อนกลุ่มนี้ที่หน้าประตูค่ายคุ้มกัน ไม่ได้รู้สึกเลยแม้แต่น้อย ว่าในกลุ่มคนที่เข้ามาจากที่ไกลๆ เหล่านั้น...

หรือก็คือคนที่พวกเขาคิดว่ามาเป็นพวกองครักษ์ชินอ๋องอวี้ที่มาจากเมืองหลวง เหล่าองครักษ์ที่จัดการแก้ไขสถานการณ์ในเมืองหลวง และจัดการจั๋วซือหรานไปแล้วพวกนั้น

ด้านในมีร่างอรชนเพรียวบางหนึ่งซ่อนอยู่!

เข้าใกล้ประตูค่ายคุ้มกันเข้ามาแล้ว

รองแม่ทัพตึงเครียดขึ้นมา น้ำเสียงดูไม่ค่อยมั่นคงแล้ว เขาเอ่ยถามจั๋วซือหรานเสียงต่อว่า "แม่นางจิ่ว แบบนี้ไหวแน่หรือ?"

จั๋วซือหรานเอ่ยเสียงต่ำ "ปัญหาไม่ใหญ่ นี่ ข้าว่าเจ้าคนผิวดำไว้เปียนั่นน่ะ เหมือนจะไม่เลวนักในกลุ่มของพวกเขานะ ที่ยืนอยู่ข้างหน้านั่นน่ะ เอาเขานั่นล่ะ"

รองแม่ทัพกลืนน้ำลายเอื๊อก พยักหน้า เขากดเสียงต่ำสั่งออกไป "ทุกคนทั้งหมดเตรียมตัว พอแม่นางจิ่วโจมตี พวกเราทั้งหมดให้หยุดลง รักษาท่าทีระวังภัยไว้!"

ทุกคนไม่กล้าส่งเสียงรับคำสั่ง แต่กดเสียงต่ำขานรับทราบออกมา

ในมือจั๋วซือหรานถือสิ่งดำๆ เล่มหนึ่งไว้ในมือ ทาบลงไปบนบ่าของทหารคนหนึ่งใช้ แผ่นเกราะบ่าของทหารเกราะเบาคนนี้ ช่วยรับแรงกระทกจากเจ้าของสี่ดำนี้ให้จั๋วซือหรานได้พอดี

ในใจเขาตกต
Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application
Chapitre verrouillé

Related chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 884

    พวกเขาอยากจะตะโกนโห่ร้อง!อยากจะกู่ก้องความน่าเกรงขามของแม่นางจิ่วแต่ตอนนี้ ล้วนทำได้แค่กลั้นเอาไว้ก่อน มีบางคนกลั้นไว้จนหน้าแดงก่ำแล้วด้วย!ทหาที่แบกปืนให้จั๋วซือหรานก่อนหน้า ก็รู้สึกเจ็บเหมือนบ่าแทบฉีก!แต่เพราะก่อนหน้านี้เขาจ้องเขม็งไปทางฝั่งศัตรู แล้วยังต้องรักษาตัวไม่ให้ขยับ ดังนั้นเขาจึงทำให้ตนเองมีสมาธิอยู่ตลอดดังนั้นคนอื่นอาจจะไม่เห็นขั้นตอนทั้งหมดแต่ว่าเขาเห็นแล้ว ปากกระบอกปืนอยู่บนบ่าเขา หูของเขาได้ยินเสียงทึบเสียงนั้นดังกว่าที่คนอื่นได้ยินอยู่พอควร!จากนั้นเขาก็เห็นกับตา ว่าหัวของคนเภื่อนนั่นระเบิกออกมาราวกับลูกแตงโม!พริบตานั้น เขากระทั่งลืมความเจ็บปวดบนไหลตัวเองไป...เลือดทั้งตัวเหมือนถูกเผาไหม้จนเดือดพล่านขึ้นมาแล้ว!นี่มัน...นี่มันถึงใจสุดๆ!ที่พวกเขารู้สึกถึงใจ ก็ไม่ใช่ไม่มีเหตุผล เพราะพวกเขายิ่งเข้าใกล้ประตูค่ายคุ้มกัน ก็ยิ่งมองเห็นฉากคานประตูหัวมนุษย์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้นไม่มีใครที่เห็นฉากแบบนี้ แล้วใจจะยังสงบอยู่ได้ พวกเขาใช้พลังทั้งหมดอดกลั้นความโกรธและความชิงชังเอาไว้ดังนั้น ภายใต้อารมณ์เช่นนี้ พอเห็นแตงโตที่ระเบิดเละนั่น จะไม่รู้สึกสะใจได้อย่างไร!ถึ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 885

    รองแม่ทัพใจเย็นลงมาหน่อย เอ่ยขึ้นว่า "แต่ว่า...ถ้าหากห่างกันเกินไป ถ้าเราเล็งพลาดก็จะเสียของเปล่า"จั๋วซือหรานได้ยินคำนี้ ตาก็ยิ้มโค้งขึ้นมา "ไม่เป็นไร รอให้ข้าเริ่มโจมตีพวกเขาก่อน ดึงดูดความสนใจพวกเขาเข้ามา ให้พวกเขาอยู่ในขอบเขตการยิ่งของพวกเขา"รองแม่ทัพฟังน้ำเสียงของแม่นางจั๋วจิ่วแล้ว ก็รู้ว่าสิ่งเหล่านี้ที่ตนเองกังวล แม่นางจิ่วนั้นคิดรับมือเอาไว้เรียบร้อยแล้วร่วมมือกับคนเช่นนี้ หรือก็คือ ฟังคำสั่งของคนเช่นนี้ ถือเป็นเรื่องที่ทำให้ใจสงบได้มากจริงๆจั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นเสียงขรึม "อีกสักครู่ พวกเราก็ทำกันแบบนี้..."......เวลาลากมาถึงตอนนี้หัวของคนเถื่อนต่างแดนนั่น ระเบิดเละเป็นแตงโมเน่าภายใต้สายตาของทุกคนขาวๆ แดงๆ สาดกระเซ็นไปโดนตัวคนข้างๆคนเหล่านี้ไม่ใช่คนพวกที่ไม่เคยเห็นคนตาย จึงไม่ถึงกับตกใจอะไรนักแต่ความตายกะทันหันนี้ต่างหาก ที่ทำให้พวกเขาหวาดหวั่นยิ่งไปกว่านั้นในคนเถื่อนเหล่านี้ เห็นได้ชัดว่ามีคนที่มีความสามารถเป็นเอกลักษณ์อยู่ในนี้มีคนที่เบ้าตาลึกคนหนึ่ง ทำปางมือขึ้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็หลับตาลงข้างหนึ่ง แล้วเปิดตาขึ้นอีก!ดวงตาของเขา กลายเป็นตาเหลืองอำพันคมก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 886

    แต่พอพูดขึ้นมาจริงๆ นางเองก็เป็นพวกที่ชอบลองผิดลองถูกเหมือนกันสำหรับวิชาและความรู้บางส่วนที่อยู่เหนือระบบของวิชาควบคุมสัตว์ของโลกนี้ดังนั้นถึงได้ใช้เวลาช่วงที่ว่า พูดคุยกับซางถิงขึ้นมาจึงลองเอ่ยถามจากปากของซางถิงดู เกี่ยวกับความรู้ที่อยุ่เหนือวิชาควบคุมสัตว์ซางถิงบอกนางว่า ถ้าต้องพูดขึ้นมาจริงๆ อันที่จริงวิชาควบคุมสัตว์ของแดนใต้ ชนะต้าชางไปไกลเลยดังนั้นวิชาควบคุมสัตว์ของตระกูลซางในต้าชางนี้ยังพอถูไถ แต่ถ้าอยู่ที่แดนใต้ล่ะก็ ตระกูลซางของพวกเขาหากคิดจะใช้วิชาควบคุมสัตว์ขึ้นเป็นที่หนึ่งของเมือง เกรงว่าคงจะยากมากจั๋วซือหรานเองก็รู้ได้จากในคำพูดของซางถิง ว่าคนแดนใต้เหล่านั้นน่าจะเพราะพรสวรรค์แตกต่างกัน พรสวรรค์ในด้านควบคุมสัตว์ ดีกว่าคนของต้าชางหน่อยดังนั้นด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงเชี่ยวชาญกว่าในวิชากู่ด้วยเช่นกันเพราะแมลงกู่ถึงแม้จะแยกเฉพาะออกมา แต่ด้วยพื้นฐานดั้งเดิม ก็ยังเป็นพวกสัตว์ประหลาดอยู่จั๋วซือหรานรู้สึกว่า ที่ซางถิงพูดมาก็มีเหตุผลอยู่ซางถิงยังบอกว่า นักควบคุมสัตว์แดนใต้ มีทั้งพวกนักควบคุมสัตว์ มีทั้งพวกที่ค้นคว้าจนเป็นปรมาจารย์กู่ และยังมีพวกที่กลายเป็นนักใช้แมลงด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 887

    ซือคงเซี่ยนเพิ่งฟังออก ไม่ว่าจะตัวเลือกไหน นางก็ต้องเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในอันตรายอยู่ดี!ซือคงเซี่ยนสูดลมลึก กำลังคิดจะพูดอะไรแต่รองแม่ทัพกับทหารหัวกะทิ ต่างก็เชื่อมั่นในตัวจั๋วซือหรานโดยไม่สงสัย แม้จะฟังออกว่านางจะเอาตัวนางไปอยู่ในอันตรายก็ตามทีแต่พวกเขาไม่ใช่แค่เชื่อมั่นต่อตัวแม่นางจั๋วจิ่วธรรมดา จะบอกว่าหลับหูหลับตาศรัทธาก็ไม่เกินเลยพอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน พวกเขาก็ไม่เคยคิดว่าแม่นางจิ่วจะล้มเหลวแค่รู้สึกว่า ถ้าแค่นางพูดถูก ก็จะทำได้แน่นอนดังนั้นรองแม่ทัพจึงไม่ได้กังวลแบบอ๋องเซี่ยน สีหน้าเองก็ยังดูตื่นเต้น เลือดในตัวเดือดพล่านรองแม่ทัพถามขึ้นว่า "แต่ว่าแม่นางจิ่ว... ท่านจะดึงดูดความสนใจพวกคนเถื่อนนั่นอย่างไรล่ะ?"นางได้ยินคำนี้ก็เลิกคิ้ว ยิ้มอย่างสบายใจ "ทำตัวสวยๆ ก็พอแล้วนี่"ทุกคนตะลึงไปสายตาก็อดมองไปยังใบหน้าที่ผ่านการแปลงโฉมมาแล้วของจั๋วซือหรานตอนนี้ เป็นใบหน้าที่องอาจอย่างมากพอทยอยกันมีปฏิกิริยาขึ้นมา จริงสิ คนผู้นี้ไม่ได้มีหน้าตาแบบนี้เสียหน่อยด้วยใบหน้าเดิมของนาง จะบอกว่างามระดับล่มเมืองก็ไม่เกินเลยทำตัวสวยๆ ก็พอแล้วจริงๆมีนางตรงเข้าไปชนก่อน ด้วยใบห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 888

    "เจ้าบอกว่าจั๋วจิ่ว?! คือจั๋วจิ่วคนนั้นหรือ?!""คนที่ทำให้ทั้งเมืองหลวงวุ่นวานคนนั้นน่ะนะ? ที่ทำให้ชินอ๋องอวี้ต้องปวดหัว ทำแผนการใหญ่ของเขาไปคนนั้นน่ะนะ?!""ใช่แล้ว ข้าคิดว่า พวกท่านอย่างน้อยก็น่าจะรู้แล้วว่าคนร้ายที่ลงมือกับพวกพ้องของพวกท่านเป็นใคร" รอยยิ้มมุมปากของรองแม่ทัพยังไม่หายไปไหน "และคนร้ายคนนี้ ก็ถูกพวกเราคุมตัวอยู่"ความหมายที่ไม่พูดก็เข้าใจของรองแม่ทัพชัดเจนมาก:ดังนั้นพวกเจ้าก็คิดเอา ว่าเป็นแดนใต้ที่อ่อนแอ หรือว่าต้าชางที่อ่อนแอ?คนเถื่อนนี้แน่นอนว่าต้องฟังออกถึงความนัยในคำพูดนี้สีหน้าก็ปั้นยากกันขึ้นมา!มีคนยังตะโกนขึ้นมา ชักอาวุธออกมา "ให้ตายเถอะ! พวกฝูงสุนัขต้าชาง เจัาพูดอะไรน่ะ?!"รองแม่ทัพทำหน้าเย็นชาไม่พูดจาส่วนคนเถื่อนที่เป็นหัวหน้าคนนั้น ยกมือขึ้น ถือเป็นการห้ามไม่ให้คนอื่นตะโกนสีน้ำเงินบนหนังตาเขา ดูลึกลับประหลาด ยิ่งดูน่ากลัวลึกซึ้งขึ้นเขาไม่ได้แสดงอาการโกรธแค้นเสียอาการเหมือนคนเถื่อนคนอื่น ดูเหมือนในกลุ่มคนเถื่อนที่ยากจะควบคุมนี้ ค่อนข้างจะมีอิทธิพลพอควรถึงอย่างไรเขาพอเขายกมือขึ้น เพียไงม่นานพวกที่ยังตะโกนโห่ร้อง ก็สงบกันลงมาสายตาเขาเย็นชาลึกซึ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 889

    ตอนนี้ ไม่ใช่แค่คนเถื่อนคนนี้ที่สบตากับดวงตาพญาหงส์ กระทั่งคนที่ทาสีน้ำเงินกับคนอื่นคนอื่น ชั่วขณะหนึ่งก็นิ่งเงียบกันลงมาแล้วสายตาพวกเขาล้วนแสดงความตกตะลึงออกมา ชั่วขณะนั้นยังดูเข้มข้นกว่าสีหน้าโกรธแค้นก่อนหน้านี้เสียอีกในสายตาพวกเขาสะท้อนร่างสีแดงออกมาเบนสายตาออกไปไม่ได้เลยนี่...คือแม่นางจั๋วจิ่วที่เลื่องชื่อแห่งเมืองหลวงต้าชางนั่นหรือ?เดิมทีพวกเขายังคิดว่า ชื่อเสียงความงามอันดับหนึ่งในเมืองหลวงของนาง จะเป็นแค่คำเกินจริงหรือเปล่าแต่พอได้เห็นจึงได้รู้ ก็จริง คนอย่างนางในเมืองหลวงถือได้ว่าเป็นคนที่ชื่อเสียงเสียหายเลวร้ายแต่ชื่อเสียงที่ไปถึงระดับชั่วร้ายแล้ว ทุกคนก็ยังไม่ลืมที่จะพูดถึงความงามของนางเห็นได้ว่า ความงามของนางเป็นระดับที่ไม่อาจมองข้ามได้แน่นอน ต่อให้ในฐานะศัตรู อาจจะไม่ยอมรับกับพฤติกรรมของนาง แต่กลับไม่อาจปฏิเสธความงามของนางได้เลย!ชุดแดงที่ร้อนแรงกว่าเปลวเพลง ซ่อนอยู่ในผ้าคลุมสีดำ มิน่าก่อนหน้านี้พวกเขาถึงไม่ทันสังเกตเห็นนางผมดำขลับราวหมึก ดวงตาคู่สวยราวบ่อน้ำลึก และยังมีริมฝีปากแดงเหมือนท้อ จมูกเล็กโด่ง ใบหน้าเล็กเท่าฝ่ามือ ผิวขาวเนียนละเอียด สมกับคำว่าผิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 890

    และพวกเขาพอเห็น 'เหล่าองครักษ์ชินอ๋องอวี้' กลุ่มนี้ ก็เหมือนจะงงงันกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นฉับพลันนี้'เหล่าองครักษ์ชินอ๋องอวี้' พวกนี้ทยอยกันกระจายออก เหมือนคิดจะหาร่างเงา 'เชลย' คนสวยของพวกเขาในกลุ่มคนเหล่าคนเถื่อนเองก็อยากจะหาร่างนางเหมือนกันยิ่งไปกว่านั้นแม้พวกเขาจะพลังบำเพ็ญไม่พอ ในแดนใต้ล้วนเป็นคนของสำนักหรือพรรคต่างๆ แต่ว่าพวกเขาก็เป็นแค่คนของสำนักเท่านั้นแตกต่างกับทหารหัวกะทิของรองแม่ทัพเหล่านี้พูดอย่างนี้ดีกว่า ถ้าเทียบกันด้านทักษะต่อสู้ คนเถื่อนเหล่านี้เป็นแค่พวกที่ความรู้ไม่ได้มาตรฐานกลุ่มหนึ่งพวกของรองแม่ทัพต่างหากที่เป็นทหารจริงๆดังนั้นคนเถื่อนเหล่านี้จึงแทบไม่สังเกตเลย ในความวุ่นวายที่เกิดจากการที่จั๋วซือหรานหายตัวไป 'เหล่าองครักษ์ชินอ๋องอวี้' เหล่านี้ใช้การค้นห้านี้เพื่อกระจายตัวออกไป''อันที่จริง คือการเข้าใกล้แล้วโอบล้อมพวกเขาไว้!ขั้นตอนนี้ หน้าและหลังรวดเร็วมากและตอนนี้เอง คนทาสีฟ้าในที่สุดก็ได้ยินเสียงใสเย็นขึ้นมาใกล้มาก ใกล้จนแทบจะแนบใบหูเขาเสียงกระซิบใกล้หูแบบนี้ กลับไม่ได้ทำให้คนรู้สึกว่า...ใกล้ชิดสนิทสนมแต่กลับทำให้เขาสัมผัสได้ถึงความเย็นเ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 891

    "พวกเจ้า...""ให้ตายเถอะ..."เหล่าคนเถื่อนเห็นลูกหน้าไม้ทะลุร่างกาย ในดวงตามีความโกรธแค้นและความตกใจ และมีคนที่เข้าใจขึ้นมา"แค่ก..." คนเถื่อนคนหนึ่งถูกลูกหน้าไม้แทงทะลุปอด กระอักเลือดสดออกมาเต็มปากแต่ถึงจะเจ็บปวดแบบนี้ แต่สมองก็ยังกระจ่างชัดอยู่ไม่น้อย "...ที่แท้ ก็พวกเดียวกัน""พวกเขา...เป็นพวกเดียวกัน ดูท่าบนตัวพวกเขา ตราของจวนชินอ๋องอวี้...ก็คงจะปลอมด้วย...กระมัง..."รองแม่ทัพก้มลงมองตราชินอ๋องอวี้บนตัวอีกครั้ง รู้สึกเหมือนมองเห็นสิ่งสกปรกอะไรบางอย่างเจตนาร้ายในสายตาไม่มีปิดบัง เขายกมือขึ้นดึงตรานั่นแล้วโยนลงพื้นเอ่ยขึ้นเสียงเย็นชา "ตรานี่ไม่ใช่ของปลอม ตัวตนฐานะต่างหากที่ปลอม""ดูท่า..." มีคนเถื่อนฝืนทนความเจ็บปวดจากลูกหน้าไม้ เอ่ยต่อว่า "...คนของชินอ๋องอวี้ คงจะตายไปแล้ว""อ่อค...! อา...!" มีคนเถื่อนฝืนทนเจ็บแล้วคำรามออกมาด้วยความโกรธ รู้สึกโกรธแค้นกับการลอบโจมตีเช่นนี้มากต่อให้จะบาดเจ็บ ก็ยังคงคิดจะลากคนลงไปด้วยก่อนที่ตนเองจะตาย!"ถ้าข้าต้อง...ตาย! ก็จะไม่ยอมให้พวกเจ้า...ได้ดี!" คนเถื่อนคนนี้ทั้งตัวเริ่มแดงเริ่มพองขยาย ความรู้สึกนั้น...ราวกับในร่างกายมีอะไรจะระเบิ

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1273

    แม้จะบอกว่าเป็นความฝัน แต่อันที่จริงจั๋วซือหรานก็ค่อยๆ เข้าใจแล้ว ว่าเพราะอะไรหลังจากฝันถึงเขาครั้งที่แล้วจนมาถึงครั้งนี้ นานมากแล้วที่ไม่ได้ฝันถึงเขาอีกพอมาคิดอย่างละเอียด เหมือนว่าตอนฝันถึงเขาครั้งที่แล้ว จะเป็นหลังจากที่นางมีสัมพันธ์ทางกายกับเขาดังนั้นจั๋วซือหรานจึงค่อยๆ เข้าใจ บางทีน่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้การดูดหยางบำรุงหยินของนางก็ดูดซับมาจนพอเข้าใจแล้ว เหมือนว่าพอดูดซับมาถึงระดับหนึ่ง ก็จะเกิด...ถ้าจะพูดว่าเป็นความฝัน สู้บอกว่าเป็นการสื่อสารทางจิตใต้สำนึกกับความทรงจำของเฟิงเหยียนส่วนที่ถูกผนึกไปจะดีกว่า?และไม่ว่าจะ 'ความฝัน' ครั้งที่แล้ว หรือว่าครั้งนี้ก็มองออกได้ไม่ยากเฟิงเหยียนน่าจะเข้าใจต่อสถานการณ์อยู่ ดังนั้นบางทีจิตใต้สำนึกเขายังคงอยู่มาตลอด เพียงแต่ถูกสมองทื่อๆ นี่กดเอาไว้ หรือบางทีคงถูกสภาผู้อาวุโสลงมือสะกดเอาไว้ไม่แน่ว่า อาจจะต้องมีชนวนเหตุบางอย่าง ถึงจะสามารถปลุกขึ้นมาได้จั๋วซือหรานอยากจะรู้ชนวนเหตุนั้นว่าคืออะไรกันแน่"ต้องทำยังไงเจ้าถึงจะดีขึ้นมา?" จั๋วซือหรานถามแต่เฟิงเหยียนกลับเหมือนจะจำจุดสำคัญนั้นไม่ได้แล้ว ขมวดคิ้ว สีหน้าดูเหมือนขมขื่น เหมือนว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1272

    ในห้วงฝันนางมองมือตัวเอง สับสนไปหมดทั้งตัว เหมือนยังตั้งตัวกลับมาไม่ได้เพราะนางถ้าไม่หลับลึก ก็จะเอาจิตใต้สำนึกส่งเข้าไปในมิติ จึงฝันน้อยครั้งมากดังนั้นตอนที่ดำดิ่งสู่ห้วงฝัน นางยังรู้สึกไม่คุ้นอยู่หน่อยๆ มองมือตนเอง รู้สึกไม่คอ่ยเป็นจริงสักเท่าไรวินาทีต่อมา มือข้างหนึ่งก็ทาบมาบนมือของนางมือข้างนั้น ข้อต่อกระดูกชัดเจน นิ้วเรียวยาว เล็บตัดมาดูสะอาดสะอ้าน ผิวหนังขาวซีดเย็นเหมือนไม่โดนแดดมานานสายตาของจั๋วซือหรานจ้องนิ่งอยู่บนมือข้างนี้ จากนั้นจึงค่อยๆ ยกขึ้นมามองไปยังเจ้าของมือนี้ ใบหน้าหล่อเหลาไม่มีที่ตินั่นทั้งที่เป็นใบหน้าที่เพิ่งเห็นไปก่อนหลับตาลงเมื่อครู่แท้ๆ แต่ตอนนี้พอมอง กลับยังคงทำให้นางรู้สึกเหมือนไม่เจอกันเสียนานสายตาของชายหนุ่มอบอุ่น ด้านในมีความรู้สึกอารมณ์เหมือนความเจ็บปวดแฝงอยู่"จั๋วเสียวจิ่ว..." เขาก้มหน้าลงเรียกนางจั๋วซือหรานมองเขา จากนั้นจึงออกแรงบีบมือเขา และน่าจะเพราะออกแรงมากเกินไปปลายเล็บจึงเหมือนจิกลงไปในเนื้อเขาฝันถึงเขาอีกแล้วจั๋วซือหรานมีปฏิกิริยาขึ้นมา ครั้งนี้เหมือนกับครั้งนั้นเลย ฝันถึงเฟิงเหยียนยิ่งไปกว่านั้นยังดูเหมือนจริงเป็นพิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1271

    กลางดึก จั๋วซือหรานกัดริมฝีปาก กอดหมอน เดินเท้าเปล่าจากห้องด้านนอกเข้าไปยังห้องด้านใน!คิ้วงามของนางขมวดแน่น สีหน้าที่มีสีเลือดฟื้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้กลับขาวซีดขึ้นมาในใจนางเองก็พูดไม่ออก เดิมทีตอนที่หลับก็ยังดีอยู่ พอกลางดึกจู่ๆ ก็ไม่ไหวขึ้นมาเสียแล้วหน้าอกปั่นป่วนอย่างรุนแรง เป็นความรู้สึกทรมานแบบที่นางผ่านมาก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยนถ้าบอกว่าคนคนนี้ไม่เข้ามาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ก็เข้ามาแล้วว่ากันว่าพอเคยสบายแล้ว จะยากที่จะกลับไปลำบากตอนนี้จะให้นางปล่อยชายหนุ่มที่เหมือนกับ 'ยาบำรุงครรภ์' นี้ไว้ข้างในเฉยๆ โดยไม่ใช้ แล้วต้องมานั่งทนกระอักเลือดต่อล่ะก็...ขอโทษด้วย สกุลจั๋วอย่างนางไม่ใช่คนประเภทนั้นนางเข้าใจแล้ว ก่อนที่จะหลับไปเมื่อคืนนี้ ตอนที่เฟิงเหยียนบอกว่าจะนอนด้านนอก ริมฝีปากที่เม้มแน่นนั้นกำลังอดกลั้นเรื่องอะไรน่าจะคิดไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้สารเลว!จั๋วซือหรานครั่นเนื้อครั่นตัวตื่นมากลางดึก ต่อให้เป็นคนที่มีสติเยือกเย็นแค่ไหน ก็ยังมีอาการหงุดหงิดงัวเงียหลังตื่นนอนนางเดินเท้าเปล่าเข้าไปห้องด้านใน อากาศในหุบเขาตอนกลางคืนเย็นมากนางสวมแค่เสื้อบางๆ ชุดหนึ่ง ทั้งตัวเย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1270

    แต่กลับรู้ตัวตนฐานะผู้ชายทรยศของเฟิงเหยียนได้ ไม่ต้องคิดเลยว่าคงเป็นจั๋วหวายพล่ามออกมาแน่"จั๋วหวายมาบอกเจ้าหรือ?" ปันอวิ๋นถามขึ้นคำหนึ่งจวงอี๋ไห่ พยักหน้าอย่างระมัดระวัง "คุณชายเสี่ยวหวายไม่หลอกข้าหรอก คุณชายเสี่ยวหวายบอกว่าเป็นผู้ชายทรยศ เช่นนั้นกว่าครึ่งก็ต้องเป็นผู้ชายทรยศแล้ว"ปันอวิ๋นถอนหายใจแผ่วเบาในห้อง จั๋วซือหรานนั่งลงข้างโต๊ะเฟิงเหยียนไม่พูดอะไร รินน้ำชาให้นางถ้วยหนึ่งจั๋วซือหรานกำถ้วยไว้ ใช้นิ้วมือลูบไล้ขอบถ้วยเบาๆ"อีกเดี๋ยวพออาหารส่งเข้ามา ก็กินสักหน่อยแล้วค่อยนอนพัก" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นแต่ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความหนักแน่นที่ห้ามปฏิเสธจั๋วซือหรานแหงนตามองเขา กำลังจะบอกว่ายังไม่หิวก็เห็นริมฝีปากบางของชายคนนี้เม้มเบาๆ เอ่ยเสียงต่ำว่า "ข้าไม่มีสิทธิ์จะมาหารือกับเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ..." สายตาเขาทอดลงไปที่ท้องน้อยนาง แววตาลึกซึ้งจากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า "แต่การจะเตือนให้เจ้ากินอะไรดีดีก็ยังพอมีสิทธิ์อยู่" สายตาเขายกขึ้นมาจากท้องน้อยจั๋วซือหรานเลื่อนมาที่ดวงตานาง จ้องมองดวงตานาง เอ่ยต่อว่า "ถึงอย่างไรเมื่อครู่ก็เพิ่งช่วยเจ้ากลับมา ยิ่งไปกว่นั้นเรื่องถูกพลังศักดิ์สิท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1269

    เขาไม่เพียงแต่ไม่ใช่สามีของนาง เขายังเป็นคู่หมั้นในนามของหญิงสาวคนอื่นอีกด้วยสีหน้าของเฟิงเหยียนแข็งทื่อไปแล้ว แต่ท้ายสุดก็ยังพูดอะไรไม่ออกเพราะในคำพูดจั๋วซือหราน ไม่มีส่วนที่ผิดเลยแม้แต่น้อยแม้จะบอกว่าเด็กคนนี้ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาก็ตามแต่ครั้งก่อนหน้านั้น เป็นเพราะจั๋วซือหรานถูกวางแผนร้ายใส่ ถึงทำให้นางสับสนหลงใหลจนมีสัมพันธ์กับเขาถ้าจะบอกว่า เขาเอาเปรียบหญิงสาวไป ก็ไมไ่ด้พูดเกินเลยนักเอาเปรียบหญิงสาว จนทำนางตั้งท้อง ไม่เคยจะมารับผิดชอบอะไรตอนนี้กลับจะมาชี้มือชี้ไม้เรื่องของนางพอสรุปมาแบบนี้ มันก็ช่าง...แย่มากจริงๆเฟิงเหยียนเองก็รู้ว่าตนเองนั้นแย่มาก พูดอะไรออกมาไม่ได้ไปชั่วขณะปันอวิ๋นรู้สึกกระอักกระอ่วนแทนสหายเก่า เขากระแอมออกมาเบาๆ ทีหนึ่ง ไกล่เกลี่ยขึ้นว่า "เอาล่ะเอาล่ะ..."เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ถึงอย่างไร ทั้งสองคนตอนนี้จะไม่ได้เป็นคู่รัก แต่ความสัมพันธ์แบบนี้...มันก็ดูคลุมเครือ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ นี่มันช่าง...ดังนั้นปันอวิ๋นเลยเปิดประเด็นขึ้น อึกอักในปากอยู่พักหนึ่ง กว่าจะพูดออกมาได้ "...พวกเจ้าหิวหรือยัง? ให้เหล่าจวนทำอะไรให้กินหน่อยดีไหม?"

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1268

    นางยืนเงียบๆ อยู่ตรงนั้น แหงนตาขึ้นมองพวกเขาสายตาของเฟิงเหยียนอึ้งไปเล็กน้อย เห็นนางยืนอยู่ในประตูด้วยสีหน้านิ่งขรึมเขารู้สึกลำคอแห้งผากอย่างประหลาด ความรู้สึกนั้น บางทีควรจะเรียกว่า...ตึงเครียดไหม?"เจ้า...ตื่นขึ้นมาตอนไหนน่ะ?" เฟิงเหยียนถามจั๋วซือหรานมองเขา "ไม่นานเท่าไร"เหมือจะมองออกถึงความกระอักกระอ่วนของเขา หรืออาจจะไม่สรุปคือ มุมปากจั๋วซือหรานยกขึ้นบางๆ พูดมาคำหนึ่ง "ท่านอ๋องน้อย ไม่เจอกันเสียนาน"นางทำแบบนี้โดยไม่เอ่ยถึงคำพูดก่อนหน้านั้นแม้แต่น้อยเฟิงเหยียนอ้าปากพะงาบ ต่อให้คิดจะพูดอะไร แต่ชั่วขณะหนึ่งก็เหมือนจะพูดออกมาไม่ได้จึงแค่ถามขึ้นอย่างเป็นห่วง "ดีขึ้นบ้างหรือยัง?"จั๋วซือหรานพยักหน้า "ดีขึ้นมากแล้ว"กระทั่งปันอวิ๋นก็ยังมองออกถึงเรื่องระหว่างพวกเขา ไม่รู้เพราะเจ้าสมองกลับนี่ไปแตะเนื้อต้องตัวทำอะไรนาง หรือเป็นเพราะคำพูดเมื่อครู่นางได้ยินคำพูดของเฟิงเหยียน...สรุปคือ ปันอวิ๋นมองพวกเขาทั้งสองคน แล้วก็รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแทนพวกเขาทั้งสองคนปันอวิ๋นคิดๆ ดู ตอนที่ตนเองอยู่กับจั๋วซือหรานก็ยังไม่ได้กลืนไม่เข้าคายไม่ออกขนาดนี้รู้สึกร้อนใจแทนเจ้าบ้านี่จร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1267

    เพราะเป็นเพื่อนสนิท ปันอวิ๋นจึงเข้าใจความหมายที่เขาคิดจะแสดงออกมาหรือก็คือ ปันอวิ๋นเดาได้นานแล้วบางทีตอนนั้นเพื่อจะให้จั๋วซือหรานหลีกเลี่ยงโชคชะตาเช่นนี้ ตนเองจึงเลือกที่จะลืมเลือนแต่สุดท้ายพอวกไปวนมา ก็กลับมาเดินอยู่บนเส้นทางเดิมเจ้าสิ่งที่เรียกว่าโชคชะตานี่ ลึกลับเอามากๆบางครั้งเหมือนจะมีเมตตา แต่บางครั้งก็เหมือนไม่เคยปราณีใครผู้ใด"แล้วเจ้าตอนนี้...คิดจะทำอย่างไร?" ปันอวิ๋นถามเขาจ้องเฟิงเหยียนตาไม่กระพริบเอาจริงๆ ปันอวิ๋นใช้มองจากมุมมองคนนอกอย่างมีเหตุมีผล ยังหวังว่าจั๋วซือหรานจะสามารถปล่อยวางได้แต่พอคิดถึงว่าถ้าหากจั๋วซือหรานปล่อยวางแล้วล่ะก็ ด้วยโชคชะตาภาชนะพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงของเฟิงเหยียน ผลสรุปสุดท้าย ก็คือตายก่อนวัยอันควรอยู่ดีและเพราะรู้เรื่องนี้ ดังนั้นปันอวิ๋นจึงหยุดไปครู่หนึ่ง เอ่ยเสริมมาคำนึง "ถังฉือเคยบอกข้าไว้ ในโถงวิญญาณอสูร พวกสัตว์เทพที่ถูกเก็บกลับมาเหล่านั้น..."ปันอวิ๋นขมวดคิ้ว คิดถึงคำพูดของถังฉือถังฉือมีบาปหนาจากการฆ่าฟันคนมากมาย กลายเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจไปแล้ว ถ้าหากไม่เย็นชาไร้หัวใจ ป่านนี้คงเป็นบ้าไปแล้วดังนั้นตอนที่เขาพูดถึงเรื่องเห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1266

    ปันอวิ๋นส่งให้เขาชามหนึ่ง ตนเองก็ด้วยทั้งสองคนไม่พูดพล่ามทำเพลง กระดกรวดเดียวจนหมดราวกับว่า สุราที่มาช้าไปหลายปีนี้ ในที่สุดก็ได้ดื่มเสียทีราวกับว่าภาพเด็กน้อยที่แอบขโมยสุราพวกนั้นมาดื่ม ซ้อนทับเข้ามากับพวกเขาในเวลานี้"ช่วงนี้เจ้า ไม่ได้ติดต่อกับพวกเขาเลยหรือ?"หลังจากร่ำสุราลงท้องไปสองชาม จิตใจก็เหมือนจะผ่อนคลายลงมาไม่น้อย ปันอวิ๋นถามขึ้นอย่างสบายๆ เป็นกันเองเฟิงเหยียนฟังออก ว่าเขาถามถึงเหล่าพี่น้องพวกนั้นเขาตอบอืมไปคำหนึ่ง "ไม่ได้ติดต่อกันเลย""เช่นนั้นก็คงไม่รู้สถานการณ์ของพวกเขาเลยสินะ" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นเฟิงเหยียนไม่ยอมรับหรือปฏิเสธกับสิ่งนี้ ถือว่ายอมรับไปกลายๆปันอวิ๋นยิ้มๆ เหมือนจะเย้ยหยันตนเอง "แต่ก็ไม่โทษพวกเขาที่ไม่ติดต่อเจ้า ด้วยสถานการณ์ของพวกเขาตอนนี้ ก็ไม่มีหน้ามาติดต่อเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ"ได้ยินคำนี้ของปันอวิ๋น เฟิงเหยียนก็ไม่พูดอะไรอีกปันอวิ๋นเอ่ยต่อว่า "ซงซีตอนนี้ทุกวันเหมือนขลุกอยู่แต่ในห้องหลอมสกัด หลอมสกัดอยู่ทุกวันไม่ได้พักเลย"เฟิงเหยียนพอได้ยินคำนี้ คิ้วก็ขมวดขึ้นบางๆ"เยี่ยนเหวย...ก็สูบเลือดออกมาทุกวัน อยู่แบบไม่เหมือนผู้เหมือนคน ผู้อาวุโสหวงจ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1265

    บางทีคงเป็นเพราะการคุยแบบเปิดอกก่อนหน้านี้ ทำให้ระยะทางขอเพื่อนสนิทสองคนที่เคยห่างไปตามกาลเวลา ย่อหดลงไปไม่น้อยเลยกระมังดังนั้นพอได้ยินปันอวิ๋นบอกว่าไม่ต้องขอบคุณ เฟิงเหยียนจึงเหลือบมองเขา น้ำเสียงเปลี่ยนไป "ก็ได้ เช่นนั้นก็ไม่ขอบคุณแล้วกัน"เฟิงเหยียนสั่งขึ้นมา "ไป ไปเอาสุรามาให้ข้าหน่อย"แม้จะพูดเช่นนี้ แต่ในเสียงกลับไม่ได้ออกคำสั่งอะไร ฟังแล้วเหมือนการใช้งานระหว่างเพื่อนกันมากกว่าปันอวิ๋นชะงักไปเล้กน้อย เพราะตอนพวกเขายังเด็ก ก็เคยใช้งานกันและกันแบบนี้ไป ไปเอาสุรามาหน่อยได้ งั้นเจ้าก็เอาปลาไปย่างซะข้าเห็นว่าเจ้าหน้าตาเหมือนปลาถ้าเจ้ายังพูดอีกรอบ จะโดนข้ากดจนจมถังสุราตายไปเลยเพราะคำพูดนี้ของเฟิงเหยียน ทั้งสองคนก็เหมือนกลับไปสมัยยังเด็กในชั่วพริบตาปันอวิ๋นยกมุมปากขึ้นบางๆ ลุกขึ้นไปให้คนรับใช้ส่งสุราเข้ามาคือสุราห้าพิษที่เขาจะหมักอยู่ทุกปี และใช้แมลงพิษมาหลอมจริงๆ แต่ตัวสุรากลับไม่มีพิษใดๆ กระทั่งยังหอมอบอวลเข้มข้นเป็นพิเศษ เป็นสุราที่หาได้ยากยิ่งและเป็นความลับที่ไม่เผยแพร่สู่ภายนอกของหุบเขาหมื่นพิษ ปกติมีแค่เจ้าหุบเขาที่รู้แต่ปันอวิ๋น หลังจากออกสำนักมา ก็ไม่ได้ด

Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status