แชร์

บทที่ 862

ผู้เขียน: หูเทียนเสี่ยว
จากคำพูดของหานกวงกับฉุนจวิน อันที่จริงก็ไม่ใช่แค่ตระกูลฮั่วกับตระกูลจั๋ว เจี่ยงเทียนซิงกับอินเจ๋ออันอันเองมีปฏิกิริยารวดเร็ว ส่งคนเข้ามาเร็วมาก

แต่เจี่ยงเทียนซิงกับอินเจ๋ออันลงเรือลำเดียวกับนางแล้ว นางก็ไม่รู้สึกแปลกอะไร

เพียงแต่ว่าตระกูลฮั่วกับตระกูลจั๋วมีการเคลื่อนไหว ก็ทำให้นางรู้สึกคิดไม่ถึงเช่นกัน

"ใช่แล้ว คุณชายสามฮั่วหลังจากรู้เรื่อง ก็รีบส่งคนเข้ามาแล้ว ตระกูลจั๋วเองก็ส่งคนเข้ามาอย่างรวดเร็วเช่นกัน ตอนนี้จึงคุ้มกันอยู่ที่ด้านนอกเรือน บวกกับยังมีอาวุธที่ใต้เท้ากรมสืบสวนพิเศษส่งเข้ามา ตอนนี้เรือนของพวกเราจึงถือว่าสงบอยู่" หานกวงเอ่ยขึ้น

ฉุนจวินบอก "แต่ว่า เพราะเงื่อนไขการร่วมมือนี้ของแม่นางกับตระกูลฮั่ว พวกเขาจะส่งคนมาก็ดูปกติดี แล้วยังมีตระกูลจั๋วอีก ก่อนหน้านี้ก็แสดงท่าทีขอสงบศึกออกมาแล้ว..."

"เจ้าพูดมาถูกต้อง" จั๋วซือหรานยิ้มๆ "น่าจะเพราะข้าไม่เชื่อใจตระกูลเหล่านี้จริงๆ กระมัง"

ขณะที่คุยกันก็มาถึงห้องของฉางเฟิง

เดิมทีคิดว่าจะเจ็บไม่หนัก แต่พอดูแล้วจึงพบว่า อาการบาดเจ็บไม่ใช่เบาเลย

จั๋วซือหรานรู้สึกประหลาดใจหน่อยๆ หันไปมองหานกวงกับฉุนจวิน "บาดเจ็บเสียขนาดนี้ทำไมพวกเจ้าไ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 863

    ถึงแม้องครักษ์เหล่านี้ที่ซือคงอวี้ส่งมา ไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามหน้าประตูเรือนของจั๋วซือหราน แต่พอพูดคำเหล่านี้ ก็ทำให้คนหงุดหงิดขึ้นมาจริงๆ!โดยเฉพาะเรื่องที่คนคุ้มกันหน้าประตูเรือนจั๋วซือหรานเหล่านี้ ล้วนเป็นคนจากจากหลายฝักฝ่ายทางซ็ายคือองครักษ์ในตระกูลฮั่ว ส่วนทางขวาเป็นผู้เชี่ยวชาญยุทธ์ของตระกูลจั๋ว แล้วยังมีอีกกลุ่มที่ยังมองไม่ออกว่าเป็นใคร แต่ท่าทางที่ไม่น่าเข้าไปยุ่ง แค่มองก็รู้ว่าน่าจะเป็นพวกที่มาจากตลาดมืด...คนเหล่านี้ไม่ควรเข้าไปแหยมด้วยทั้งหมดล้วนตรงมาเพราะได้รับคำสั่ง ให้คุ้มกันเรือนของแม่นางจั๋วจิ่ว ตามหลักการแล้วนี่ทำเพื่อคุ้มครองแม่นางจั๋วจิ่วแต่ว่าในใจพวกเขาเองก็ไม่สงบด้วย ถึงอย่างไร แม่นางจั๋วจิ่วต้องการให้พวกเขามาคุ้มกันเสียที่ไหน?!แต่ตอนนี้แม่นางจั๋วจิ่วไม่โผล่หน้ามาสามวันแล้วพวกเขาเองก็ไม่คิดจะเข้าไปหาข่าวด้วย แต่ว่าองครักษ์เงาพวกนั้นในเรือนทั้งหมดเป็นคนที่แม่นางจั๋วจิ่วบุกเดี่ยวเข้าไปในตระกูลเฟิงแล้วช่วยออกมาพูดแบบนี้ดีกว่า แต่ละคนล้วนเป็นนักรบเดนตายของแม่นางจั๋วจิ่วทั้งนั้นไม่ต้องสนว่าพวกเขาเป็นใคร ไม่ว่าจะอยู่ฝั่งแม่นางจิ่ว หรือว่าอยู่ฝั่งใครก็ตาม

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 864

    พอเสียงนี้ดังออกมาสำหรับฝ่ายต่างๆ ที่คุ้มกันอยู่หน้าประตูเรือนแล้ว เหมือนเป็นยาที่ทำให้ใจสงบเลยทีเดียวพริบตาที่พวกเขาได้ยินเสียงนี้ ก็รู้สึกประหลาดมากจริงๆ รู้สึกโล่งขึ้นมาน่าจะเพราะวีรกรรมของแม่นางจั๋วจิ่วนั้นมีมากเกินไป ใช้คนมากสู้คนน้อยใช้คนน้อยสู้คนมาก ต่อสู้กับตระกูลใหญ่ต่างๆ ด้วยตัวคนเดียวแต่ก็ไม่เสียเปรียบเลยอะไรพวกนั้นดังนั้นพอแค่นางปรากฏตัว...คนที่เป็นศัตรูใจก็สั่นกึกขึ้นมาจริงๆ แต่ในฐานะสหายร่วมรบแล้ว...ไม่แตกต่างอะไรกับการได้กินยาทำให้ใจสงบและจังหวะที่เสียงของนางปรากฏขึ้น เหล่าองครักษ์ของชินอ๋องอวี้พวกนั้น ก็หน้าเปลี่ยนสีไปทันที!พวกเขามองตามเสียงไปหญิงสาวร่างงามคนหนึ่ง นั่งอยู่บนยอดกำแพงประตูเรือนนางอยู่ในชุดสีแดง นั่งอยู่บนยอดกำแพง ขาไขว่ห้าง นางเอนตัวมาข้างหน้าเล็กน้อย ข้อศอกชันเข่ามือเท้าคาง จ้องมองพวกเขาด้วยความสนใจแต่บนหน้าไม่มีรอยยิ้ม ในดวงตามีเพียงความเย็นชาเท่านั้นก่อนหน้านี้ไม่มีใครสังเกตเห็นนาง ราวกับไม่มีตัวตนอย่างไรอย่างนั้นแต่ตอนนี้หลังจากที่สังเกตเห็นนาง ความมีตัวตนที่แข็งแกร่งนั่น ก็กางแผ่ออกมาราวกับจะปกคลุมท้องฟ้าอย่างไรอย่างนั้นสีหน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 865

    "ใช่เลย จำแล้วไปฟ้องกับยมบาลเลย"ตอนที่ทุกคนได้ยินคำพูดจั๋วซือหราน เสียงใสของนางยังดูเกียจคร้านหน่อยๆ ด้วยแต่ว่าพอนางลงมือกลับไม่มีลังเลเลยเห็นเพียงเงาตกค้างสีแดงพุ่งแฉลบไปจากด้านบนกำแพง หลังจากที่พุ่งไปยังองครักษ์ชินอ๋องอวี้คนหนึ่งแล้วกลับมาเหล่าองครักษ์ชินอ๋องอวี้ก็เงียบเสียงลง เงียบสนิท ยืนนิ่งอยู่กับที่ส่วนนางก็มายืนนิ่งอยู่ด้านหน้าคนของฝ่ายต่างๆ ที่มาคุ้มกันเรือนของนางนางหันหลังให้กับเหล่าองครักษ์ชินอ๋องอวี้ มองไปทางพวกเขา เผยรอยยิ้มออกมาพูดกับพวกเขาว่า "ทุกท่านเหนื่อยหน่อยนะ หลายวันนี้ต้องขอบคุณพวกเจ้ามาก พวกเจ้ากลับไปรายงานนายท่านของพวกเจ้าเถอะ น้ำใจนี้จั๋วจิ่วจดจำไว้แล้ว"พวกเขาตะลึงงันกันหมดเพราะเห็นแม่นางจั๋วจิ่วขณะที่พูดกับพวกเขา ก็พลางสะบัดดาบยาวในมือแสงเลือดเส้นบางบนปลายดาบถูกสะบัดจนกลายเป็นหยดเลือดร่วสงลงพื้นและพริบตาต่อมา เหล่าองครักษ์ชินอ๋องอวี้ที่ยืนนิ่งอยู่กับที่เหล่านั้น ร่างกายก็ล้มตึงลงไปเลือดสดทะลักออกมาจากปากแผลบนตัวพวกเขา เบ่งบานเป็นดอกไม้สดใสขนาดใหญ่บนพื้นคนคุ้มกันจากฝ่ายต่างๆ ที่เห็นฉากนี้ ก็ล้วนตกตะลึงกันไปหมดเอาจริงๆ ผู้เชี่ยวชาญยุท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 866

    จั๋วซือหรานตอบกลับด้วยรอยยิ้ม "พวกเจ้ากินลงไปก่อนเถอะ กลับไปจะได้ไม่ถูกยึด อ่า กลับไปก็บอกว่า จั๋วจิ่วให้ยาลูกกลอนกับพวกเจ้า แล้วบีบให้พวกเจ้ากินกันลงไป...เช่นนี้เจ้านายก็น่าจะไม่หาเรื่องพวกเจ้าแล้วกระมัง"ตอนที่จั๋วซือหรานพูดคำนี้ ก็ยิ้มตาโค้งพวกเขาแค่รู้สึกว่าในรอยยิ้มของนาง ดูมีความเจ้าเล่ห์ชอบกล แต่กลับไม่ทำให้คนรู้สึกรังเกียจเลยหลังจากได้ยินคำนี้ ทุกคนก็ทยอยกันยัดยาลูกกลอนใส่ปากเข้าไปจั๋วซือหรานจึงเอ่ยขึ้นว่า "เอาล่ะ ข้ายังมีเรื่องต้องทำอีก ขอตัวก่อนล่ะ พวกเจ้าก็กลับไปเถอะ""แม่ แม่นางจิ่ว..." ผู้เชี่ยวชาญยุทธ์คนหนึ่งของตระกูลจั๋วเอ่ยเรียกนาง "พวกเรายินดีจะไปกับท่าน อย่างน้อยก็ยังเป็นลูกมือให้ท่านได้""จริงด้วย อ๋องอวี้คนนั้น คนเยอะเลยทรงอำนาจ..."น่าจะเพราะยาลูกกลอนของจั๋วซือหราน ทำให้ทุกคนล้วนเลือดร้อนกันขึ้นมา หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรไม่ต้องสน แต่ตอนนี้พวกเขายินดีจะสละชีวิตให้กับนางจั๋วซือหรานพอได้ยินก็ยิ้มๆ เดิมทีนางไม่คิดจะพาใครไป นางเป็นเช่นนี้มาตลอด ลุยเดี่ยวเสมอ ถ้าตนเองจัดการได้ก็จะจัดการ ตนเองจัดการไม่ได้ ก็จะรอตอนที่ตนเองจัดการได้ค่อยมาจัดการพาคนมากขนาดนี้ไ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 867

    เขื่อนยาวพันลี้ ก็ยังพังทลายเพราะรังมดและด้วยหลักการนี้ ยังดีที่จั๋วซือหรานฟื้นขึ้นมาไวหน่อย ถ้านางยังสลบต่อไปอีกสองวันสถานการณ์น่าจะกู้กลับมาลำบากแล้ว"ตอนนี้ค่ายป้องกันลาดตระเวนน่าจะเริ่มมีเสียงที่จะส่งอ๋องเซี่ยนออกมาแล้ว""แต่แม่ทัพอิงเซ่าซื่อสัตย์ภักดี ตระกูลอิงเองก็เป็นทหารมาหลายรุ่น จงรักภักดีทั้งตระกูล..."แม้จะบอกว่าอิงเซ่าเป็นแม่ทัพสายบุ๋นที่มีชื่อ แต่แม่ทัพสายบุ๋นก็ยังถือเป็นแม่ทัพ มีเลือดร้อนอยู่ทั้งตัว ภักดีต่อจักรพรรดิประเทศชาติถ้าจะให้เขาต้องส่งตัวอ๋องเซี่ยนออกไปจริงๆ ก็คงต้องข้ามศพของอิงเซ่าไปก่อน"จุ๊" จั๋วซือหรานขมวดคิ้ว จุ๊เสียงขึ้นเบาๆคนรอบๆ พอได้ยินเสียงจั๋วซือหราน ก็ตึงเครียดขึ้นมา "แม่ แม่นางจิ่ว..พวกเราพูดมากเกินไปหรือ?"พวกเขาถึงแม้จะเคยได้ยินชื่อเสียงของคนผู้นี้มา แต่ถึงอย่างไรก็ไม่เคยอยู่ด้วยกันจริงๆ ยังไม่เข้าใจกับนิสัยของนางนัก และไม่รู้ว่านางชอบที่พวกเขาพูดมากไหมจั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น "ไม่มีอะไร รีบเข้าเถอะ สถานการณ์ของค่ายป้องกันลาดตระเวนถ้าไม่ดีจริงๆ ตอนนี้คงย่ำแย่มากทั้งภายในและนอก แม่ทัพอิงเซ่าถ้าดูแลเพียงลำพังคงลำบาก ยิ่งไปกว่านั้นก่อนหน้าน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 868

    "หัวหน้าตายแล้ว...ตอนนี้ศพยังอยู่ข้างนอก...ถูกพวกเขาแขวนเอาไว้…!"พอได้ยินเสียงตะโกนจากด้านนอก และยังมีการเคลื่อนไหวในค่ายทหารพวกนี้อีกในกระโจมค่าย ซือคงเซี่ยนสีหน้าจนใจ เขามองไปทางอิงเซ่าที่หน้าเขียวคล้ำ เอ่ยขึ้นว่า "แม่ทัพอิง เป็นข้าที่ทำให้ท่านลำบากใจ ถ้าไม่ไหวจริงๆ ท่านก็ไม่จำเป็นต้องลำบากใจหรอก ส่งตัวข้าออกไปก็พอ"อิงเซ่าพอได้ยิน สีหน้าก็ไม่เปลี่ยน ยังคงเขียวคล้ำ เขาเอ่ยขึ้นเสียงขรึมว่า "ตระกูลอิงของข้าเป็นทหารมาทุกรุ่น จงรักภักดีทั้งตระกูล ถ้าหากมาปอดแหกในรุ่นของข้า ถ้าข้าตายไป คงถูกเหล่าบรรพบุรุษติเตียนแน่"ซือคงเซี่ยนถอนใจเบาๆ หัวเราะเอ่ยขึ้นว่า "ไม่เป็นไร ชีวิตของข้าไม่มีอะไรสำคัญ ขอแค่เสด็จพ่อปลอดภัยอยู่ในค่ายคุ้มกันนอกเมือง ซือคงอวี้ก็ยังไม่ชนะ และท่านที่อยู่ในเมืองหลวงอย่างน้อยก็ยังพอตั้งหลักได้แล้ว ถึงตอนนั้นก็จะไปร่วมมือกันรับทั้งในและนอกกับเสด็จพ่อและแม่ทัพฉีฮ่าวได้... ""ข้ายังไม่เชื่อ" อิงเซ่าเอ่ยขึ้นมา "ข้าจะรอดู ว่าพวกเขาจะกล้าสังหารทหารในค่ายอีกไหม!"อิงเซ่าถึงแม้จะเป็นแม่ทัพสายบุ๋น แต่ก็ร่างกายแข็งแกร่งดั่งเหล็กกล้า ต่อให้ตายก็ยังคงยืนอยู่ได้อิงเซ่าจ้องเขม

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 869

    ท่ามกลางความวุ่นวาย ในที่สุดก็มีคนได้ยินเสียงพรึบที่ผิดปกติดังขึ้นแล้วเดิมทียังไม่มีปฏิกิริยาว่านี่คือเสียงอะไร แต่หางตาก็มองเห็นร่างเงาหนึ่งแฉลบผ่านกลางอากาศท่ามกลางฝุ่นดินคลุ้งนี้ในที่สุดก็เข้าใจถึงที่มาการโจมตีแล้ว...มาจากบนฟ้า!เสียงพรึบๆ ที่ไม่เหมือนปกตินั่น เป็นเสียงของสัตว์ประหลาดบางอย่างกระพือปีก!ทุกคนในที่สุดก็ค่อยๆ ปรับสายตาในฝุ่นดินคลุ้งนี่ได้ จึงมองเห็นร่างเงาบนอากาศนั้นแล้วเป็นสัตว์อสูรปีกตัวหนึ่ง!สัตว์อสูรปีกสามารถบินได้ แต่ปกติจะรับน้ำหนักไม่ไหว แบกคนไม่ได้ ต่อให้แบกได้ ก็คงแค่เพียงชั่วคราวเท่านั้นแต่สัตว์อสูรปีกตรงหน้านี้ดูแล้วไม่ธรรมดา แค่รูปร่างกับการสยายปีกของมันก็ไม่ธรรมดาแล้วน่าจะเป็นระดับราชาสัตว์อสูรและตอนที่ทุกคนมองเห็นสัตว์อสูรปีกตัวนี้ได้ชัดเจน แน่นอนว่าต้องเห็นร่างสีแดงเพลิงบนหลังสัตว์อสูรปีกด้วยรู้สึกเหมือนกับมีเลือดสดวาดผ่านดวงตาไปอย่างไรอย่างนั้น พริบตาเดียวกระทั่งดวงตาก็ปวดขึ้นมา ฉับพลันจึงตระหนักได้ว่านั่นคือตัวตนอันตรายแบบไหนมีคนตะโกนแผดเสียงขึ้น "จั๋ว จั๋วจิ่ว! จั๋วจิ่วมาแล้ว!""อะไรนะ?! นางไม่ใช่ตายไปแล้วหรือ!""ขึ้นธนู! ขึ้นธน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 870

    ในค่ายป้องกันลาดตระเวนหลังจากที่อิงเซ่าแสดงความเด็ดขาดว่าไม่มีทางส่งซือคงเซี่ยนออกไป ไม่นานนัก ด้านนอกก็มีเสียงระเบิดดังสนั่นขึ้นเพียงครู่เดียว ยังไม่ทันมีคนเข้ามารายงานว่าเกิดอะไรขึ้นทุกคนตอนนี้ก็รู้สึกเพียงว่า จอต้องเป็นคนของซือคงอวี้แน่ เล่นลูกไม้อะไรใหม่มารับมือกับค่ายป้องกันลาดตระเวนของพวกเขาแน่นอนขวัญกำลังใจทหารที่แทบจะจมดิ่งอยู่แล้ว ตอนนี้เนื่องจากเสียงสั่นเขาสะเทือนฟ้า ก็ยิ่งไม่มั่นคงไปใหญ่"เสียง...อะไรน่ะ?" อิงเซ่ายังไม่ทันสังเกต และสิ่งที่คิดไม่ถึงเลยก็คือ...หนึ่งในคนสนิทของตนเอง กลับลงมือกับเขา!ความเจ็บปวดบนบ่าทำให้เขาโกรธจนตัวสั่น"หยวนอี้! เจ้า!" อิงเซ่ากุมหัวไหล่ตนเอง สายตามองไปยังหนึ่งในคนสนิทของตนเองอย่างตกตะลึง "เจ้าคิดจะทำอะไร!""ท่านแม่ทัพ ขอโทษด้วย ข้าน้อยยอมให้ท่านนำชีวิตคนมากมายขนาดนี้แลกกับความภักดีไม่ได้จริงๆ"สีหน้าของหยวนอี้เด็ดเดี่ยว และทั้งซับซ้อนขัดแย้งกัน แต่ก็ยังพูดมาว่า "คนตายไปมากขนาดนี้แล้ว...ท่านอ๋องเซี่ยนเองก็รู้สถานการณ์ตรงหน้า แต่ท่านก็ยังดื้อรั้นทำตามอำเภอใจ ข้าน้อยทนมองต่อไปไม่ได้แล้วจริงๆ""ท่านวางใจเถอะ ท่านไม่ได้บาดเจ็บหนักมา

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1273

    แม้จะบอกว่าเป็นความฝัน แต่อันที่จริงจั๋วซือหรานก็ค่อยๆ เข้าใจแล้ว ว่าเพราะอะไรหลังจากฝันถึงเขาครั้งที่แล้วจนมาถึงครั้งนี้ นานมากแล้วที่ไม่ได้ฝันถึงเขาอีกพอมาคิดอย่างละเอียด เหมือนว่าตอนฝันถึงเขาครั้งที่แล้ว จะเป็นหลังจากที่นางมีสัมพันธ์ทางกายกับเขาดังนั้นจั๋วซือหรานจึงค่อยๆ เข้าใจ บางทีน่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้การดูดหยางบำรุงหยินของนางก็ดูดซับมาจนพอเข้าใจแล้ว เหมือนว่าพอดูดซับมาถึงระดับหนึ่ง ก็จะเกิด...ถ้าจะพูดว่าเป็นความฝัน สู้บอกว่าเป็นการสื่อสารทางจิตใต้สำนึกกับความทรงจำของเฟิงเหยียนส่วนที่ถูกผนึกไปจะดีกว่า?และไม่ว่าจะ 'ความฝัน' ครั้งที่แล้ว หรือว่าครั้งนี้ก็มองออกได้ไม่ยากเฟิงเหยียนน่าจะเข้าใจต่อสถานการณ์อยู่ ดังนั้นบางทีจิตใต้สำนึกเขายังคงอยู่มาตลอด เพียงแต่ถูกสมองทื่อๆ นี่กดเอาไว้ หรือบางทีคงถูกสภาผู้อาวุโสลงมือสะกดเอาไว้ไม่แน่ว่า อาจจะต้องมีชนวนเหตุบางอย่าง ถึงจะสามารถปลุกขึ้นมาได้จั๋วซือหรานอยากจะรู้ชนวนเหตุนั้นว่าคืออะไรกันแน่"ต้องทำยังไงเจ้าถึงจะดีขึ้นมา?" จั๋วซือหรานถามแต่เฟิงเหยียนกลับเหมือนจะจำจุดสำคัญนั้นไม่ได้แล้ว ขมวดคิ้ว สีหน้าดูเหมือนขมขื่น เหมือนว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1272

    ในห้วงฝันนางมองมือตัวเอง สับสนไปหมดทั้งตัว เหมือนยังตั้งตัวกลับมาไม่ได้เพราะนางถ้าไม่หลับลึก ก็จะเอาจิตใต้สำนึกส่งเข้าไปในมิติ จึงฝันน้อยครั้งมากดังนั้นตอนที่ดำดิ่งสู่ห้วงฝัน นางยังรู้สึกไม่คุ้นอยู่หน่อยๆ มองมือตนเอง รู้สึกไม่คอ่ยเป็นจริงสักเท่าไรวินาทีต่อมา มือข้างหนึ่งก็ทาบมาบนมือของนางมือข้างนั้น ข้อต่อกระดูกชัดเจน นิ้วเรียวยาว เล็บตัดมาดูสะอาดสะอ้าน ผิวหนังขาวซีดเย็นเหมือนไม่โดนแดดมานานสายตาของจั๋วซือหรานจ้องนิ่งอยู่บนมือข้างนี้ จากนั้นจึงค่อยๆ ยกขึ้นมามองไปยังเจ้าของมือนี้ ใบหน้าหล่อเหลาไม่มีที่ตินั่นทั้งที่เป็นใบหน้าที่เพิ่งเห็นไปก่อนหลับตาลงเมื่อครู่แท้ๆ แต่ตอนนี้พอมอง กลับยังคงทำให้นางรู้สึกเหมือนไม่เจอกันเสียนานสายตาของชายหนุ่มอบอุ่น ด้านในมีความรู้สึกอารมณ์เหมือนความเจ็บปวดแฝงอยู่"จั๋วเสียวจิ่ว..." เขาก้มหน้าลงเรียกนางจั๋วซือหรานมองเขา จากนั้นจึงออกแรงบีบมือเขา และน่าจะเพราะออกแรงมากเกินไปปลายเล็บจึงเหมือนจิกลงไปในเนื้อเขาฝันถึงเขาอีกแล้วจั๋วซือหรานมีปฏิกิริยาขึ้นมา ครั้งนี้เหมือนกับครั้งนั้นเลย ฝันถึงเฟิงเหยียนยิ่งไปกว่านั้นยังดูเหมือนจริงเป็นพิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1271

    กลางดึก จั๋วซือหรานกัดริมฝีปาก กอดหมอน เดินเท้าเปล่าจากห้องด้านนอกเข้าไปยังห้องด้านใน!คิ้วงามของนางขมวดแน่น สีหน้าที่มีสีเลือดฟื้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้กลับขาวซีดขึ้นมาในใจนางเองก็พูดไม่ออก เดิมทีตอนที่หลับก็ยังดีอยู่ พอกลางดึกจู่ๆ ก็ไม่ไหวขึ้นมาเสียแล้วหน้าอกปั่นป่วนอย่างรุนแรง เป็นความรู้สึกทรมานแบบที่นางผ่านมาก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยนถ้าบอกว่าคนคนนี้ไม่เข้ามาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ก็เข้ามาแล้วว่ากันว่าพอเคยสบายแล้ว จะยากที่จะกลับไปลำบากตอนนี้จะให้นางปล่อยชายหนุ่มที่เหมือนกับ 'ยาบำรุงครรภ์' นี้ไว้ข้างในเฉยๆ โดยไม่ใช้ แล้วต้องมานั่งทนกระอักเลือดต่อล่ะก็...ขอโทษด้วย สกุลจั๋วอย่างนางไม่ใช่คนประเภทนั้นนางเข้าใจแล้ว ก่อนที่จะหลับไปเมื่อคืนนี้ ตอนที่เฟิงเหยียนบอกว่าจะนอนด้านนอก ริมฝีปากที่เม้มแน่นนั้นกำลังอดกลั้นเรื่องอะไรน่าจะคิดไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้สารเลว!จั๋วซือหรานครั่นเนื้อครั่นตัวตื่นมากลางดึก ต่อให้เป็นคนที่มีสติเยือกเย็นแค่ไหน ก็ยังมีอาการหงุดหงิดงัวเงียหลังตื่นนอนนางเดินเท้าเปล่าเข้าไปห้องด้านใน อากาศในหุบเขาตอนกลางคืนเย็นมากนางสวมแค่เสื้อบางๆ ชุดหนึ่ง ทั้งตัวเย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1270

    แต่กลับรู้ตัวตนฐานะผู้ชายทรยศของเฟิงเหยียนได้ ไม่ต้องคิดเลยว่าคงเป็นจั๋วหวายพล่ามออกมาแน่"จั๋วหวายมาบอกเจ้าหรือ?" ปันอวิ๋นถามขึ้นคำหนึ่งจวงอี๋ไห่ พยักหน้าอย่างระมัดระวัง "คุณชายเสี่ยวหวายไม่หลอกข้าหรอก คุณชายเสี่ยวหวายบอกว่าเป็นผู้ชายทรยศ เช่นนั้นกว่าครึ่งก็ต้องเป็นผู้ชายทรยศแล้ว"ปันอวิ๋นถอนหายใจแผ่วเบาในห้อง จั๋วซือหรานนั่งลงข้างโต๊ะเฟิงเหยียนไม่พูดอะไร รินน้ำชาให้นางถ้วยหนึ่งจั๋วซือหรานกำถ้วยไว้ ใช้นิ้วมือลูบไล้ขอบถ้วยเบาๆ"อีกเดี๋ยวพออาหารส่งเข้ามา ก็กินสักหน่อยแล้วค่อยนอนพัก" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นแต่ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความหนักแน่นที่ห้ามปฏิเสธจั๋วซือหรานแหงนตามองเขา กำลังจะบอกว่ายังไม่หิวก็เห็นริมฝีปากบางของชายคนนี้เม้มเบาๆ เอ่ยเสียงต่ำว่า "ข้าไม่มีสิทธิ์จะมาหารือกับเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ..." สายตาเขาทอดลงไปที่ท้องน้อยนาง แววตาลึกซึ้งจากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า "แต่การจะเตือนให้เจ้ากินอะไรดีดีก็ยังพอมีสิทธิ์อยู่" สายตาเขายกขึ้นมาจากท้องน้อยจั๋วซือหรานเลื่อนมาที่ดวงตานาง จ้องมองดวงตานาง เอ่ยต่อว่า "ถึงอย่างไรเมื่อครู่ก็เพิ่งช่วยเจ้ากลับมา ยิ่งไปกว่นั้นเรื่องถูกพลังศักดิ์สิท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1269

    เขาไม่เพียงแต่ไม่ใช่สามีของนาง เขายังเป็นคู่หมั้นในนามของหญิงสาวคนอื่นอีกด้วยสีหน้าของเฟิงเหยียนแข็งทื่อไปแล้ว แต่ท้ายสุดก็ยังพูดอะไรไม่ออกเพราะในคำพูดจั๋วซือหราน ไม่มีส่วนที่ผิดเลยแม้แต่น้อยแม้จะบอกว่าเด็กคนนี้ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาก็ตามแต่ครั้งก่อนหน้านั้น เป็นเพราะจั๋วซือหรานถูกวางแผนร้ายใส่ ถึงทำให้นางสับสนหลงใหลจนมีสัมพันธ์กับเขาถ้าจะบอกว่า เขาเอาเปรียบหญิงสาวไป ก็ไมไ่ด้พูดเกินเลยนักเอาเปรียบหญิงสาว จนทำนางตั้งท้อง ไม่เคยจะมารับผิดชอบอะไรตอนนี้กลับจะมาชี้มือชี้ไม้เรื่องของนางพอสรุปมาแบบนี้ มันก็ช่าง...แย่มากจริงๆเฟิงเหยียนเองก็รู้ว่าตนเองนั้นแย่มาก พูดอะไรออกมาไม่ได้ไปชั่วขณะปันอวิ๋นรู้สึกกระอักกระอ่วนแทนสหายเก่า เขากระแอมออกมาเบาๆ ทีหนึ่ง ไกล่เกลี่ยขึ้นว่า "เอาล่ะเอาล่ะ..."เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ถึงอย่างไร ทั้งสองคนตอนนี้จะไม่ได้เป็นคู่รัก แต่ความสัมพันธ์แบบนี้...มันก็ดูคลุมเครือ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ นี่มันช่าง...ดังนั้นปันอวิ๋นเลยเปิดประเด็นขึ้น อึกอักในปากอยู่พักหนึ่ง กว่าจะพูดออกมาได้ "...พวกเจ้าหิวหรือยัง? ให้เหล่าจวนทำอะไรให้กินหน่อยดีไหม?"

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1268

    นางยืนเงียบๆ อยู่ตรงนั้น แหงนตาขึ้นมองพวกเขาสายตาของเฟิงเหยียนอึ้งไปเล็กน้อย เห็นนางยืนอยู่ในประตูด้วยสีหน้านิ่งขรึมเขารู้สึกลำคอแห้งผากอย่างประหลาด ความรู้สึกนั้น บางทีควรจะเรียกว่า...ตึงเครียดไหม?"เจ้า...ตื่นขึ้นมาตอนไหนน่ะ?" เฟิงเหยียนถามจั๋วซือหรานมองเขา "ไม่นานเท่าไร"เหมือจะมองออกถึงความกระอักกระอ่วนของเขา หรืออาจจะไม่สรุปคือ มุมปากจั๋วซือหรานยกขึ้นบางๆ พูดมาคำหนึ่ง "ท่านอ๋องน้อย ไม่เจอกันเสียนาน"นางทำแบบนี้โดยไม่เอ่ยถึงคำพูดก่อนหน้านั้นแม้แต่น้อยเฟิงเหยียนอ้าปากพะงาบ ต่อให้คิดจะพูดอะไร แต่ชั่วขณะหนึ่งก็เหมือนจะพูดออกมาไม่ได้จึงแค่ถามขึ้นอย่างเป็นห่วง "ดีขึ้นบ้างหรือยัง?"จั๋วซือหรานพยักหน้า "ดีขึ้นมากแล้ว"กระทั่งปันอวิ๋นก็ยังมองออกถึงเรื่องระหว่างพวกเขา ไม่รู้เพราะเจ้าสมองกลับนี่ไปแตะเนื้อต้องตัวทำอะไรนาง หรือเป็นเพราะคำพูดเมื่อครู่นางได้ยินคำพูดของเฟิงเหยียน...สรุปคือ ปันอวิ๋นมองพวกเขาทั้งสองคน แล้วก็รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแทนพวกเขาทั้งสองคนปันอวิ๋นคิดๆ ดู ตอนที่ตนเองอยู่กับจั๋วซือหรานก็ยังไม่ได้กลืนไม่เข้าคายไม่ออกขนาดนี้รู้สึกร้อนใจแทนเจ้าบ้านี่จร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1267

    เพราะเป็นเพื่อนสนิท ปันอวิ๋นจึงเข้าใจความหมายที่เขาคิดจะแสดงออกมาหรือก็คือ ปันอวิ๋นเดาได้นานแล้วบางทีตอนนั้นเพื่อจะให้จั๋วซือหรานหลีกเลี่ยงโชคชะตาเช่นนี้ ตนเองจึงเลือกที่จะลืมเลือนแต่สุดท้ายพอวกไปวนมา ก็กลับมาเดินอยู่บนเส้นทางเดิมเจ้าสิ่งที่เรียกว่าโชคชะตานี่ ลึกลับเอามากๆบางครั้งเหมือนจะมีเมตตา แต่บางครั้งก็เหมือนไม่เคยปราณีใครผู้ใด"แล้วเจ้าตอนนี้...คิดจะทำอย่างไร?" ปันอวิ๋นถามเขาจ้องเฟิงเหยียนตาไม่กระพริบเอาจริงๆ ปันอวิ๋นใช้มองจากมุมมองคนนอกอย่างมีเหตุมีผล ยังหวังว่าจั๋วซือหรานจะสามารถปล่อยวางได้แต่พอคิดถึงว่าถ้าหากจั๋วซือหรานปล่อยวางแล้วล่ะก็ ด้วยโชคชะตาภาชนะพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงของเฟิงเหยียน ผลสรุปสุดท้าย ก็คือตายก่อนวัยอันควรอยู่ดีและเพราะรู้เรื่องนี้ ดังนั้นปันอวิ๋นจึงหยุดไปครู่หนึ่ง เอ่ยเสริมมาคำนึง "ถังฉือเคยบอกข้าไว้ ในโถงวิญญาณอสูร พวกสัตว์เทพที่ถูกเก็บกลับมาเหล่านั้น..."ปันอวิ๋นขมวดคิ้ว คิดถึงคำพูดของถังฉือถังฉือมีบาปหนาจากการฆ่าฟันคนมากมาย กลายเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจไปแล้ว ถ้าหากไม่เย็นชาไร้หัวใจ ป่านนี้คงเป็นบ้าไปแล้วดังนั้นตอนที่เขาพูดถึงเรื่องเห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1266

    ปันอวิ๋นส่งให้เขาชามหนึ่ง ตนเองก็ด้วยทั้งสองคนไม่พูดพล่ามทำเพลง กระดกรวดเดียวจนหมดราวกับว่า สุราที่มาช้าไปหลายปีนี้ ในที่สุดก็ได้ดื่มเสียทีราวกับว่าภาพเด็กน้อยที่แอบขโมยสุราพวกนั้นมาดื่ม ซ้อนทับเข้ามากับพวกเขาในเวลานี้"ช่วงนี้เจ้า ไม่ได้ติดต่อกับพวกเขาเลยหรือ?"หลังจากร่ำสุราลงท้องไปสองชาม จิตใจก็เหมือนจะผ่อนคลายลงมาไม่น้อย ปันอวิ๋นถามขึ้นอย่างสบายๆ เป็นกันเองเฟิงเหยียนฟังออก ว่าเขาถามถึงเหล่าพี่น้องพวกนั้นเขาตอบอืมไปคำหนึ่ง "ไม่ได้ติดต่อกันเลย""เช่นนั้นก็คงไม่รู้สถานการณ์ของพวกเขาเลยสินะ" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นเฟิงเหยียนไม่ยอมรับหรือปฏิเสธกับสิ่งนี้ ถือว่ายอมรับไปกลายๆปันอวิ๋นยิ้มๆ เหมือนจะเย้ยหยันตนเอง "แต่ก็ไม่โทษพวกเขาที่ไม่ติดต่อเจ้า ด้วยสถานการณ์ของพวกเขาตอนนี้ ก็ไม่มีหน้ามาติดต่อเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ"ได้ยินคำนี้ของปันอวิ๋น เฟิงเหยียนก็ไม่พูดอะไรอีกปันอวิ๋นเอ่ยต่อว่า "ซงซีตอนนี้ทุกวันเหมือนขลุกอยู่แต่ในห้องหลอมสกัด หลอมสกัดอยู่ทุกวันไม่ได้พักเลย"เฟิงเหยียนพอได้ยินคำนี้ คิ้วก็ขมวดขึ้นบางๆ"เยี่ยนเหวย...ก็สูบเลือดออกมาทุกวัน อยู่แบบไม่เหมือนผู้เหมือนคน ผู้อาวุโสหวงจ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1265

    บางทีคงเป็นเพราะการคุยแบบเปิดอกก่อนหน้านี้ ทำให้ระยะทางขอเพื่อนสนิทสองคนที่เคยห่างไปตามกาลเวลา ย่อหดลงไปไม่น้อยเลยกระมังดังนั้นพอได้ยินปันอวิ๋นบอกว่าไม่ต้องขอบคุณ เฟิงเหยียนจึงเหลือบมองเขา น้ำเสียงเปลี่ยนไป "ก็ได้ เช่นนั้นก็ไม่ขอบคุณแล้วกัน"เฟิงเหยียนสั่งขึ้นมา "ไป ไปเอาสุรามาให้ข้าหน่อย"แม้จะพูดเช่นนี้ แต่ในเสียงกลับไม่ได้ออกคำสั่งอะไร ฟังแล้วเหมือนการใช้งานระหว่างเพื่อนกันมากกว่าปันอวิ๋นชะงักไปเล้กน้อย เพราะตอนพวกเขายังเด็ก ก็เคยใช้งานกันและกันแบบนี้ไป ไปเอาสุรามาหน่อยได้ งั้นเจ้าก็เอาปลาไปย่างซะข้าเห็นว่าเจ้าหน้าตาเหมือนปลาถ้าเจ้ายังพูดอีกรอบ จะโดนข้ากดจนจมถังสุราตายไปเลยเพราะคำพูดนี้ของเฟิงเหยียน ทั้งสองคนก็เหมือนกลับไปสมัยยังเด็กในชั่วพริบตาปันอวิ๋นยกมุมปากขึ้นบางๆ ลุกขึ้นไปให้คนรับใช้ส่งสุราเข้ามาคือสุราห้าพิษที่เขาจะหมักอยู่ทุกปี และใช้แมลงพิษมาหลอมจริงๆ แต่ตัวสุรากลับไม่มีพิษใดๆ กระทั่งยังหอมอบอวลเข้มข้นเป็นพิเศษ เป็นสุราที่หาได้ยากยิ่งและเป็นความลับที่ไม่เผยแพร่สู่ภายนอกของหุบเขาหมื่นพิษ ปกติมีแค่เจ้าหุบเขาที่รู้แต่ปันอวิ๋น หลังจากออกสำนักมา ก็ไม่ได้ด

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status