พอเสียงนี้ดังออกมาสำหรับฝ่ายต่างๆ ที่คุ้มกันอยู่หน้าประตูเรือนแล้ว เหมือนเป็นยาที่ทำให้ใจสงบเลยทีเดียวพริบตาที่พวกเขาได้ยินเสียงนี้ ก็รู้สึกประหลาดมากจริงๆ รู้สึกโล่งขึ้นมาน่าจะเพราะวีรกรรมของแม่นางจั๋วจิ่วนั้นมีมากเกินไป ใช้คนมากสู้คนน้อยใช้คนน้อยสู้คนมาก ต่อสู้กับตระกูลใหญ่ต่างๆ ด้วยตัวคนเดียวแต่ก็ไม่เสียเปรียบเลยอะไรพวกนั้นดังนั้นพอแค่นางปรากฏตัว...คนที่เป็นศัตรูใจก็สั่นกึกขึ้นมาจริงๆ แต่ในฐานะสหายร่วมรบแล้ว...ไม่แตกต่างอะไรกับการได้กินยาทำให้ใจสงบและจังหวะที่เสียงของนางปรากฏขึ้น เหล่าองครักษ์ของชินอ๋องอวี้พวกนั้น ก็หน้าเปลี่ยนสีไปทันที!พวกเขามองตามเสียงไปหญิงสาวร่างงามคนหนึ่ง นั่งอยู่บนยอดกำแพงประตูเรือนนางอยู่ในชุดสีแดง นั่งอยู่บนยอดกำแพง ขาไขว่ห้าง นางเอนตัวมาข้างหน้าเล็กน้อย ข้อศอกชันเข่ามือเท้าคาง จ้องมองพวกเขาด้วยความสนใจแต่บนหน้าไม่มีรอยยิ้ม ในดวงตามีเพียงความเย็นชาเท่านั้นก่อนหน้านี้ไม่มีใครสังเกตเห็นนาง ราวกับไม่มีตัวตนอย่างไรอย่างนั้นแต่ตอนนี้หลังจากที่สังเกตเห็นนาง ความมีตัวตนที่แข็งแกร่งนั่น ก็กางแผ่ออกมาราวกับจะปกคลุมท้องฟ้าอย่างไรอย่างนั้นสีหน
"ใช่เลย จำแล้วไปฟ้องกับยมบาลเลย"ตอนที่ทุกคนได้ยินคำพูดจั๋วซือหราน เสียงใสของนางยังดูเกียจคร้านหน่อยๆ ด้วยแต่ว่าพอนางลงมือกลับไม่มีลังเลเลยเห็นเพียงเงาตกค้างสีแดงพุ่งแฉลบไปจากด้านบนกำแพง หลังจากที่พุ่งไปยังองครักษ์ชินอ๋องอวี้คนหนึ่งแล้วกลับมาเหล่าองครักษ์ชินอ๋องอวี้ก็เงียบเสียงลง เงียบสนิท ยืนนิ่งอยู่กับที่ส่วนนางก็มายืนนิ่งอยู่ด้านหน้าคนของฝ่ายต่างๆ ที่มาคุ้มกันเรือนของนางนางหันหลังให้กับเหล่าองครักษ์ชินอ๋องอวี้ มองไปทางพวกเขา เผยรอยยิ้มออกมาพูดกับพวกเขาว่า "ทุกท่านเหนื่อยหน่อยนะ หลายวันนี้ต้องขอบคุณพวกเจ้ามาก พวกเจ้ากลับไปรายงานนายท่านของพวกเจ้าเถอะ น้ำใจนี้จั๋วจิ่วจดจำไว้แล้ว"พวกเขาตะลึงงันกันหมดเพราะเห็นแม่นางจั๋วจิ่วขณะที่พูดกับพวกเขา ก็พลางสะบัดดาบยาวในมือแสงเลือดเส้นบางบนปลายดาบถูกสะบัดจนกลายเป็นหยดเลือดร่วสงลงพื้นและพริบตาต่อมา เหล่าองครักษ์ชินอ๋องอวี้ที่ยืนนิ่งอยู่กับที่เหล่านั้น ร่างกายก็ล้มตึงลงไปเลือดสดทะลักออกมาจากปากแผลบนตัวพวกเขา เบ่งบานเป็นดอกไม้สดใสขนาดใหญ่บนพื้นคนคุ้มกันจากฝ่ายต่างๆ ที่เห็นฉากนี้ ก็ล้วนตกตะลึงกันไปหมดเอาจริงๆ ผู้เชี่ยวชาญยุท
จั๋วซือหรานตอบกลับด้วยรอยยิ้ม "พวกเจ้ากินลงไปก่อนเถอะ กลับไปจะได้ไม่ถูกยึด อ่า กลับไปก็บอกว่า จั๋วจิ่วให้ยาลูกกลอนกับพวกเจ้า แล้วบีบให้พวกเจ้ากินกันลงไป...เช่นนี้เจ้านายก็น่าจะไม่หาเรื่องพวกเจ้าแล้วกระมัง"ตอนที่จั๋วซือหรานพูดคำนี้ ก็ยิ้มตาโค้งพวกเขาแค่รู้สึกว่าในรอยยิ้มของนาง ดูมีความเจ้าเล่ห์ชอบกล แต่กลับไม่ทำให้คนรู้สึกรังเกียจเลยหลังจากได้ยินคำนี้ ทุกคนก็ทยอยกันยัดยาลูกกลอนใส่ปากเข้าไปจั๋วซือหรานจึงเอ่ยขึ้นว่า "เอาล่ะ ข้ายังมีเรื่องต้องทำอีก ขอตัวก่อนล่ะ พวกเจ้าก็กลับไปเถอะ""แม่ แม่นางจิ่ว..." ผู้เชี่ยวชาญยุทธ์คนหนึ่งของตระกูลจั๋วเอ่ยเรียกนาง "พวกเรายินดีจะไปกับท่าน อย่างน้อยก็ยังเป็นลูกมือให้ท่านได้""จริงด้วย อ๋องอวี้คนนั้น คนเยอะเลยทรงอำนาจ..."น่าจะเพราะยาลูกกลอนของจั๋วซือหราน ทำให้ทุกคนล้วนเลือดร้อนกันขึ้นมา หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรไม่ต้องสน แต่ตอนนี้พวกเขายินดีจะสละชีวิตให้กับนางจั๋วซือหรานพอได้ยินก็ยิ้มๆ เดิมทีนางไม่คิดจะพาใครไป นางเป็นเช่นนี้มาตลอด ลุยเดี่ยวเสมอ ถ้าตนเองจัดการได้ก็จะจัดการ ตนเองจัดการไม่ได้ ก็จะรอตอนที่ตนเองจัดการได้ค่อยมาจัดการพาคนมากขนาดนี้ไ
เขื่อนยาวพันลี้ ก็ยังพังทลายเพราะรังมดและด้วยหลักการนี้ ยังดีที่จั๋วซือหรานฟื้นขึ้นมาไวหน่อย ถ้านางยังสลบต่อไปอีกสองวันสถานการณ์น่าจะกู้กลับมาลำบากแล้ว"ตอนนี้ค่ายป้องกันลาดตระเวนน่าจะเริ่มมีเสียงที่จะส่งอ๋องเซี่ยนออกมาแล้ว""แต่แม่ทัพอิงเซ่าซื่อสัตย์ภักดี ตระกูลอิงเองก็เป็นทหารมาหลายรุ่น จงรักภักดีทั้งตระกูล..."แม้จะบอกว่าอิงเซ่าเป็นแม่ทัพสายบุ๋นที่มีชื่อ แต่แม่ทัพสายบุ๋นก็ยังถือเป็นแม่ทัพ มีเลือดร้อนอยู่ทั้งตัว ภักดีต่อจักรพรรดิประเทศชาติถ้าจะให้เขาต้องส่งตัวอ๋องเซี่ยนออกไปจริงๆ ก็คงต้องข้ามศพของอิงเซ่าไปก่อน"จุ๊" จั๋วซือหรานขมวดคิ้ว จุ๊เสียงขึ้นเบาๆคนรอบๆ พอได้ยินเสียงจั๋วซือหราน ก็ตึงเครียดขึ้นมา "แม่ แม่นางจิ่ว..พวกเราพูดมากเกินไปหรือ?"พวกเขาถึงแม้จะเคยได้ยินชื่อเสียงของคนผู้นี้มา แต่ถึงอย่างไรก็ไม่เคยอยู่ด้วยกันจริงๆ ยังไม่เข้าใจกับนิสัยของนางนัก และไม่รู้ว่านางชอบที่พวกเขาพูดมากไหมจั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น "ไม่มีอะไร รีบเข้าเถอะ สถานการณ์ของค่ายป้องกันลาดตระเวนถ้าไม่ดีจริงๆ ตอนนี้คงย่ำแย่มากทั้งภายในและนอก แม่ทัพอิงเซ่าถ้าดูแลเพียงลำพังคงลำบาก ยิ่งไปกว่านั้นก่อนหน้าน
"หัวหน้าตายแล้ว...ตอนนี้ศพยังอยู่ข้างนอก...ถูกพวกเขาแขวนเอาไว้…!"พอได้ยินเสียงตะโกนจากด้านนอก และยังมีการเคลื่อนไหวในค่ายทหารพวกนี้อีกในกระโจมค่าย ซือคงเซี่ยนสีหน้าจนใจ เขามองไปทางอิงเซ่าที่หน้าเขียวคล้ำ เอ่ยขึ้นว่า "แม่ทัพอิง เป็นข้าที่ทำให้ท่านลำบากใจ ถ้าไม่ไหวจริงๆ ท่านก็ไม่จำเป็นต้องลำบากใจหรอก ส่งตัวข้าออกไปก็พอ"อิงเซ่าพอได้ยิน สีหน้าก็ไม่เปลี่ยน ยังคงเขียวคล้ำ เขาเอ่ยขึ้นเสียงขรึมว่า "ตระกูลอิงของข้าเป็นทหารมาทุกรุ่น จงรักภักดีทั้งตระกูล ถ้าหากมาปอดแหกในรุ่นของข้า ถ้าข้าตายไป คงถูกเหล่าบรรพบุรุษติเตียนแน่"ซือคงเซี่ยนถอนใจเบาๆ หัวเราะเอ่ยขึ้นว่า "ไม่เป็นไร ชีวิตของข้าไม่มีอะไรสำคัญ ขอแค่เสด็จพ่อปลอดภัยอยู่ในค่ายคุ้มกันนอกเมือง ซือคงอวี้ก็ยังไม่ชนะ และท่านที่อยู่ในเมืองหลวงอย่างน้อยก็ยังพอตั้งหลักได้แล้ว ถึงตอนนั้นก็จะไปร่วมมือกันรับทั้งในและนอกกับเสด็จพ่อและแม่ทัพฉีฮ่าวได้... ""ข้ายังไม่เชื่อ" อิงเซ่าเอ่ยขึ้นมา "ข้าจะรอดู ว่าพวกเขาจะกล้าสังหารทหารในค่ายอีกไหม!"อิงเซ่าถึงแม้จะเป็นแม่ทัพสายบุ๋น แต่ก็ร่างกายแข็งแกร่งดั่งเหล็กกล้า ต่อให้ตายก็ยังคงยืนอยู่ได้อิงเซ่าจ้องเขม
ท่ามกลางความวุ่นวาย ในที่สุดก็มีคนได้ยินเสียงพรึบที่ผิดปกติดังขึ้นแล้วเดิมทียังไม่มีปฏิกิริยาว่านี่คือเสียงอะไร แต่หางตาก็มองเห็นร่างเงาหนึ่งแฉลบผ่านกลางอากาศท่ามกลางฝุ่นดินคลุ้งนี้ในที่สุดก็เข้าใจถึงที่มาการโจมตีแล้ว...มาจากบนฟ้า!เสียงพรึบๆ ที่ไม่เหมือนปกตินั่น เป็นเสียงของสัตว์ประหลาดบางอย่างกระพือปีก!ทุกคนในที่สุดก็ค่อยๆ ปรับสายตาในฝุ่นดินคลุ้งนี่ได้ จึงมองเห็นร่างเงาบนอากาศนั้นแล้วเป็นสัตว์อสูรปีกตัวหนึ่ง!สัตว์อสูรปีกสามารถบินได้ แต่ปกติจะรับน้ำหนักไม่ไหว แบกคนไม่ได้ ต่อให้แบกได้ ก็คงแค่เพียงชั่วคราวเท่านั้นแต่สัตว์อสูรปีกตรงหน้านี้ดูแล้วไม่ธรรมดา แค่รูปร่างกับการสยายปีกของมันก็ไม่ธรรมดาแล้วน่าจะเป็นระดับราชาสัตว์อสูรและตอนที่ทุกคนมองเห็นสัตว์อสูรปีกตัวนี้ได้ชัดเจน แน่นอนว่าต้องเห็นร่างสีแดงเพลิงบนหลังสัตว์อสูรปีกด้วยรู้สึกเหมือนกับมีเลือดสดวาดผ่านดวงตาไปอย่างไรอย่างนั้น พริบตาเดียวกระทั่งดวงตาก็ปวดขึ้นมา ฉับพลันจึงตระหนักได้ว่านั่นคือตัวตนอันตรายแบบไหนมีคนตะโกนแผดเสียงขึ้น "จั๋ว จั๋วจิ่ว! จั๋วจิ่วมาแล้ว!""อะไรนะ?! นางไม่ใช่ตายไปแล้วหรือ!""ขึ้นธนู! ขึ้นธน
ในค่ายป้องกันลาดตระเวนหลังจากที่อิงเซ่าแสดงความเด็ดขาดว่าไม่มีทางส่งซือคงเซี่ยนออกไป ไม่นานนัก ด้านนอกก็มีเสียงระเบิดดังสนั่นขึ้นเพียงครู่เดียว ยังไม่ทันมีคนเข้ามารายงานว่าเกิดอะไรขึ้นทุกคนตอนนี้ก็รู้สึกเพียงว่า จอต้องเป็นคนของซือคงอวี้แน่ เล่นลูกไม้อะไรใหม่มารับมือกับค่ายป้องกันลาดตระเวนของพวกเขาแน่นอนขวัญกำลังใจทหารที่แทบจะจมดิ่งอยู่แล้ว ตอนนี้เนื่องจากเสียงสั่นเขาสะเทือนฟ้า ก็ยิ่งไม่มั่นคงไปใหญ่"เสียง...อะไรน่ะ?" อิงเซ่ายังไม่ทันสังเกต และสิ่งที่คิดไม่ถึงเลยก็คือ...หนึ่งในคนสนิทของตนเอง กลับลงมือกับเขา!ความเจ็บปวดบนบ่าทำให้เขาโกรธจนตัวสั่น"หยวนอี้! เจ้า!" อิงเซ่ากุมหัวไหล่ตนเอง สายตามองไปยังหนึ่งในคนสนิทของตนเองอย่างตกตะลึง "เจ้าคิดจะทำอะไร!""ท่านแม่ทัพ ขอโทษด้วย ข้าน้อยยอมให้ท่านนำชีวิตคนมากมายขนาดนี้แลกกับความภักดีไม่ได้จริงๆ"สีหน้าของหยวนอี้เด็ดเดี่ยว และทั้งซับซ้อนขัดแย้งกัน แต่ก็ยังพูดมาว่า "คนตายไปมากขนาดนี้แล้ว...ท่านอ๋องเซี่ยนเองก็รู้สถานการณ์ตรงหน้า แต่ท่านก็ยังดื้อรั้นทำตามอำเภอใจ ข้าน้อยทนมองต่อไปไม่ได้แล้วจริงๆ""ท่านวางใจเถอะ ท่านไม่ได้บาดเจ็บหนักมา
ไม่รู้เพราะอะไร หญิงสาวคนนี้ รูปร่างไม่ได้สูงใหญ่มาก กระทั่งเรียกได้ว่าเล็กเลยด้วยซ้ำแต่ตอนที่เห็นนางปรากฏตัวอิงเซ่าจึงโล่งอกขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ ราวกับว่าทั้งตัวผ่อนคลายลงมาแล้วเบ้าตาซือคงเซี่ยนก็แดงรื้น พูดอะไรไม่ออก ทำได้แค่ใช้ดวงตาที่ลึกซึ้งจ้องเขม็งไปที่จั๋วซือหรานเท่านั้นจั๋วซือหรานเดินเข้าด้านใน ตอนที่เดินผ่านข้างตัวซือคงเซี่ยน ก็ถูกเขายื่นมือเข้ามาจับกะทันหัน"อื๋อ?" จั๋วซือหรานหรุบตามองมือที่ถูกซือคงเซี่ยนกุมไว้ สายตามองไปทางซือคงเซี่ยนด้วยความสงสัยซือคงเซี่ยนเบ้าตาแดงรื้น ริมฝีปากสั่นระริก หลังจากเขาสูดลมหายใจลึก ก็ค่อยๆ เอยขึ้นว่า "เจ้ามาช่วยข้าอีกแล้ว..."นี่เป็นครั้งที่สองแล้ว ครั้งที่แล้วตนเองถูกซือคงอวี้จับกุม ตอนที่ร่างกายบาดเจ็บหนัก ก็เป็นจั๋วซือหรานที่ช่วยชีวิตเขาออกมาพอได้ยินคำนี้ จั๋วซือหรานก็ยิ้มตาโค้ง "ใช่เลย ช่วยชีวิตเจ้าไว้สองครั้งแล้ว จำไว้ด้วยล่ะ""สลักไว้ในใจมาตลอด ไม่มีทางลืม" เสียงซือคงเซี่ยนเป็นเสียงในจมูกทุ้มต่ำ มีอาการสั่นระริกเล็กน้อยจั๋วซือหรานเหล่มองเขาผาดหนึ่ง "เช่นนั้นครั้งต่อไปก็อย่าถอดใจง่ายแบบนี้ ข้าช่วยชีวิตคนมันก็ไม่ใช่เรื่อ
บนหน้าที่เหมือนศพแห้ง เผยให้เห็นรอยยิ้มน่าขนลุก "ตายซะ ตาย!"จั๋วซือหรานมองท่าทางนี้ของเขา โดยเฉพาะระฆังที่ดังขึ้นอย่างบ้าคลั่งนั่นนางจุ๊ปากเบาๆ "ถ้าข้าไม่ใช้เครื่องมืออะไรบ้าง ก็คงจะผิดต่อเจ้าที่สั่นกระดิ่งดั่งลั่นขนาดนี้"หลังจากนั้น จั๋วซือหรานพลิกข้อมือ ในฝ่ามือขาวนวล ปรากฏขลุ่ยสั้นมาเลาหนึ่ง!ขลุ่ยสั้นเลานี้ดูเหมือนทั้งเลาจะเปล่งประกายหลากสีราวกับเคลือบน้ำมัน สวยงามอย่างน่าพิศวง!ยิ่งไปกว่านั้นแค่มองก็...หวงเจี้ยนถังถลึงตากลมโต "นี่คือ..."เขามองออกแล้ว "...อาวุธกู่?"ยิ่งไปกว่านั้นคุณภาพก็ดูไม่เลวเลย ถ้าหากเป็นอาวุธกู่จริง แล้วเป็นพวกที่ยอมรับเจ้านายล่ะก็ ก็ต้องทำการหลอมสกัดขึ้นมาเองอย่างน้อยนี่ก็อธิบายได้ ว่าหญิงสาวคนนี้ต่อให้ฝีมือในการหลอมวัตถุ ก็ยังยอดเยี่ยม!หวงเจี้ยนถังอดคิดขึ้นมาอีกไม่ได้ นี่เป็นแค่...หญิงสาวคนหนึ่งเท่านั้น!แล้วก็โมโหกว่าเดิมเดิมทียังคิดว่าตนเองจะแพ้แค่ด้านวิชาหุ่นเชิดเท่านั้น แค่ตนเองมีพรสวรรค์ไม่พอ หรืออาจจะเดินผิดเส้นทางเท่านั้นแต่อย่างน้อยฝีมือด้านการหลอมวัตถุก็ยังยอดเยี่ยมอยู่แต่ตอนนี้พอเห็น บางทีในด้านหลอมวัตถุ ตนเองก็ไม่แน่ว่าจะไ
หวงเจี้ยนถังรู้สึกว่า ที่พึ่งตอนนี้ของจั๋วซือหรานคือคนสำนักเมฆาวารีและคุณชายฉินที่ถูกนางควบคุมอยู่เหล่านี้คนเหล่านี้จะทำอะไรได้ อย่าว่าแต่เจ็ดคนนี้เลย ต่อให้มาอีกสักสิบคน ก็ไม่ใช่คู่มือหุ่นเชิดความมืดของเขาสำหรับเรื่องนี้ หวงเจี้ยนถังมีความมั่นใจอยู่แม้จะบอกว่าเขาถูกจั๋วซือหรานทำให้เสียความมั่นใจในด้านวิชาหุ่นเชิดแต่ในด้านการหลอมสกัดหุ่นเชิด ด้านคุณสมบัติหุ่นเชิด หวงเจี้ยนถังก็ไม่ประหม่าเท่าไรนักความหยิ่งผยองในตอนนี้ ถือว่ามีรากฐานที่แข็งแกร่งอยู่จั๋วซือหรานไม่ตอบสนองอะไรต่อสายตาและคำพูดยิ้มเยาะของหวงเจี้ยนถังเลยแค่มองดูสถานการณ์ตรงหน้าเงียบๆด้วยความโกรธแค้นและชิงชังต่อนางของหวงเจี้ยนถัง จึงไม่มีการถ่วงเวลาอะไรทั้งสิ้น การต่อสู้เริ่มขึ้นทันทีหุ่นเชิดความมืดพวกนั้นพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วและมิน่าที่หวงเจี้ยนถังมั่นใจขนาดนั้น หุ่นเชิดความมืดเหล่านี้ล้วนเป็นของดีทั้งสิ้น!จั๋วซือหรานจะมีแค่ตาเดียวก็ยังพิจารณาได้ ว่าหุ่นเชิดความมืดพวกนี้ไม่ใช่ของธรรมดาอย่างน้อยก็ดีกว่าหุ่นเชิดความมืดที่ได้มาจากผู้เฒ่าเหอ รวมถึงหุ่นเชิดความมืดที่ได้จากผู้ดูแลชุยต่อมาด้วยมองผาดเดียวก็ม
จ้องจั๋วซือหรานเขม็ง"มีสิทธิ์อะไร...มีสิทธิ์อะไร....หึ หึๆๆๆ...ฮ่าๆๆๆ!"เขาหัวเราะขึ้นอย่างบ้าคลั่ง สายตาจ้องมาทางจั๋วซือหรานเป็นระยะ "มีสิทธิ์อะไร...ข้าทุ่มเทมาหลายสิบปี! แต่หญิงสาวคนเดียวก็ยังสู้ไม่ได้เหรอ! มีสิทธิ์อะไร?! ข้าไม่เชื่อ! ข้าไม่เชื่อ! สวรรค์ทอดทิ้งข้า!"หลังจากนั้น ในมือเขาก็มีเสียงวูม! มีตลับหุ่นเชิดโผล่มาอีกหลายตลับ!ยิ่งไปกว่านั้นอักขระคำสาปประหลาดบนนั้น จั๋วซือหรานใช้ความเข้าใจต่อการคัดลอกอักขระคำสาปของตลับหุ่นเชิดในช่วงหลายวันนี้มาทำการประเมินตลับหุ่นเชิดเหล่านี้ล้วนเป็นหุ่นเชิดความมืดทั้งหมด!ดังนั้น ตอนที่หวงเจี้ยนถังเอาตลับหุ่นเชิดออกมามากมายนั้นคนสำนักเมฆาวารีที่เข้ามารายงานนั่น กับคนที่มาดูมหรสพอีกมากมาย เดิมทียังคิดว่า จั๋วซือหรานน่าจะมีความหวาดกลัว...หรือไม่ก็สายตาที่ระแวดระวังขึ้นมาบ้าง?แต่ว่าไม่มีเลยไม่มีเลยสักนิดถ้าแค่ไม่มีก็ว่าไปอย่าง ถึงอย่างไรพวกเขาก็แทบจะไม่เคยเห็นสีหน้าหวาดกลัวใดๆ บนหน้าหญิงสาวที่เผชิญหน้ากับอันตรายคนนี้เลยแต่ ไม่ใช่แค่ไม่มีความหวาดกลัวพวกเขายังเห็นว่า...ดวงตาของนางเป็นประกายขึ้นด้วยซ้ำ!ตาของนาง...เปล่งประกายขึ้น
แต่ตรงหน้าเหล่านี้ ล้วนยังมีชีวิตกันอยู่นางสามารถควบคุมพวกเขาได้อย่างสบาย ตอนที่พวกเขายังมีชีวิตอยู่!"นี่เป็นไปได้อย่างไรกัน...เป็นไปได้อย่างไร..." หวงเจี้ยนถังราวกับถูกกระตุ้นอย่างรุนแรง รู้สึกเริ่มสับสนหมดหวังขึ้นมาแล้วเขาพูดงึมงำซ้ำไปซ้ำมาไม่หยุด "นี่เป็นไปได้อย่างไรกัน เป็นไปได้อย่างไร...นี่มันเป็นไปไม่ได้...เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด...""ถ้าหากแบบนี้ เช่นนั้นข้า...มันคืออะไรล่ะ? แล้วข้า...จะเป็นอะไรไปได้?" หวงเจี้ยนถังพูด ในสีหน้าก็เหมือนจะเสียสติคุ้มคลั่งขึ้นมาแล้วรางๆแต่ก็ยังไม่ถือว่ารุนแรงนัก และตอนนี้เอง ด้านนอกประตูก็มีคนในชุดสำนักเมฆาวารีคนหนึ่ง เข้ามาพูดอะไรข้างหูหวงเจี้ยนถังสีหน้าหวงเจี้ยนถังยิ่งปั้นยากขึ้นไปอีก ราวกับไม่มีลมหายใจเหลืออยู่อีกแล้วจั๋วซือหรานมองคนสำนักเมฆาวารีที่รีบเข้ามาจากด้านนอก เห็นสีหน้าแปลกประหลาดของเขา ก็พอจะเดาได้ว่าเขาพูดอะไรเพราะจั๋วซือหรานจำคนสำนักเมฆาวารีคนนี้ได้ ถ้าหากจำไม่ผิด เหมือนจะเคยเห็นมาแล้วครั้งหนึ่งที่โรงเตี๊ยมดังนั้นที่เขารีบเข้ามาตอนนี้ สีหน้ายังดูเหมือนพูดไม่ออกบอกไม่ถูกแบบนี้จั๋วซือหรานก็นึกไปถึงหนึ่งความเป็นไปได้...บาง
ยังคงอยู่ในท่าทางป้องกันเช่นเดียว ขวางอยู่ตรงหน้าจั๋วซือหรานคอของพวกเขากระทั่งเลือดหยุดไหลไปแล้ว และถ้าหากมองอย่างละเอียดจะพบว่า แผลบนคอคุณชายฉินก่อนหน้านี้ ไม่ใช่แค่เลือดหยุดไหล กระทั่งว่า!กระทั่งมันเริ่มรักษาแล้ว!หวงเจี้ยนถังเองก็มองสิ่งเหล่านี้ออก ไม่ใช่สิ่งที่อยู่เหนือความเข้าใจเขาเลย ยิ่งไปกว่านั้นเขาใช้ชีวิตมาแล้วตั้งหลายปี จะมายอมรับและเผชิญหน้ากับความไม่รู้และความล้มเหลวของตนเองง่ายๆ ได้อย่างไร?หวงเจี้ยนถังยิ่งมั่นใจในความคิดของตนเองมากขึ้นไปอีก"นี่ถ้าไม่ใช่วิชาชั่วร้าย แล้วจะเป็นอะไรไปได้?! ศิษย์สำนักข้าล้วนถูกเจ้าควบคุมไปหมด!" หวงเจี้ยนถังเอ่ยขึ้นอย่างโกรธแค้น "เจ้ามัน...ปีศาจสาวชัดๆ! ได้ยินว่าเจ้าสร้างความวุ่นวายในเมืองหลวงน่าดู น่าจะใช้วิชาชั่วร้ายแบบนี้สินะ! วันนี้ข้าจะจัดการแทนสวรรค์..."เขายังพูดไม่ทันจบ ก็เห็นว่ามุมปากหญิงสาวคนนี้ยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม ไม่มีความอบอุ่น แต่แฝงไว้ด้วยอำนาจที่เหนือกว่าเสียงของนางเรียบใสเย็น "คิดให้ดีแล้วค่อยพูด แทนสวรรค์รึ? วิญญาณนับไม่ถ้วนที่มือเจ้า เต็มไปด้วยกรรมชั่ว แล้วยังคิดจะแทนสวรรค์? เจ้าทำได้หรือไงกัน?""อ๊ะ ใช่แล้ว" นางเห
"เจ้า...!" บนหน้าผอมแห้งของหวงเจี้ยนถัง ดวงตาเบิกโพลงฉับพลัน!ยิ่งไปกว่านั้นเนื่องจากผอมเกินไป เดิมทีดวงตาที่โตอยู่แล้ว ตอนนี้พอถลึงตา ก็ยิ่งโตขึ้นจนแทบจะร่วงลงมาอย่างไรอย่างนั้นในดวงตาเขาตกตะลึงจนยากจะปิดบัง เพราะเนื่องจากตกใจมากเกินไป กระทั่งปากก็ยังอ้าค้าง มุมปากสั่นเล็กน้อย ราวกับได้รับผลกระทบมหาศาล"นี่...นี่เป็นไปได้อย่างไรกัน..." เขางึมงำขึ้นคำหนึ่งในน้ำเสียงฟังแล้ว ก็เหมือนไม่มีความเย็นชาดุดันแบบก่อนหน้าแล้วหวงเจี้ยนถังเป็นปรมาจารย์วิชาเหยี่ยนมาแล้วหลายปี เข้าใจว่าวิชาหุ่นเชิดของตนเองไม่ธรรมดายิ่งไปกว่านั้นการค้นคว้าต่อวิชาเหยี่ยน ระดับการหลอมวัตถุของเขาเองก็ไม่ได้ต่ำเลยนี่เป็นพื้นฐานและความภาคภูมิใจของเขามาโดยตลอดโดยเฉพาะหุ่นเชิดความมืด กระทั่งในสำนักเมฆาวารี มีหุ่นเชิดความมืดไม่น้อยที่หลอมสกัดออกมาจากมือเขา อย่างหุ่นเชิดความมืดของผู้ดูแลชุยก่อนหน้านั้น อันที่จริงก็หลอมมาจากมือของหวงเจี้ยนถังกระทั่งเจ้าสำนักก็ยังมีหุ่นเชิดความมืดบางส่วน ที่หวงเจี้ยนถังหลอมสกัดออกมาให้อีกด้วย ถึงอย่างไรการหลอมสกัดหุ่นเชิดก็เป็นงานละเอียดอ่อน เปลืองทั้งเวลาเปลืองทั้งแรง ไม่ใช่อะไ
พอเข้าใจวิชาหุ่นเชิดบ้าง และล้วนรู้ว่า เพื่อหุ่นเชิดหนึ่งตัว ไม่ว่าจะเป็นหุ่นเชิดธรรมดาหรือหุ่นเชิดความมืด ปรมาจารย์วิชาเหยี่ยนต้องใช้เวลาสักพักหนึ่งในการหลอมสกัดจึงจะนำมาใช้งานได้เหมือนกับนางแบบนี้เสียที่ไหน?! คิดจะใช้ก็เอามาใช้เลย?ยิ่งไปกว่านั้น! คุณชายฉินก็ยังไม่ตายด้วย!พวกเขาเห็นว่าเขายังหายใจอยู่!คนสำนักเมฆาวารีพวกนั้น ก็รู้สึกตกตะลึงอย่างมากกับฉากที่เห็นตรงหน้า!ถ้าหากบอกว่าก่อนหน้านี้พวกเขารู้สึกตกตะลึงกับการแสดงออกของจั๋วซือหราน พวกเขาในตอนนี้คืองงเป็นไก่ตาแตกไปแล้วไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน ที่พวกเขารู้ กระทั่งเจ้าสำนักก็ยังไม่มีความสามารถแบบนี้!และตอนนีเ้อง คนสำนักเมฆาวารีก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้น เย็นๆ ใสๆ เส้นเสียงทั้งที่น่าฟัง แต่ตอนนี้ในหูพวกเขา กลับราวกับเป็นเสียงที่ลอดมาจากขุมนรก"พวกเจ้า ลองหลบดูอีกสักครั้งไหม?"คนเหล่านี้รู้สึกเหมือน หัวใจจะหยุดเต้นไปแล้วในพริบตาอวัยวะสัมผัสหลายจุดแจ่มชัดขึ้นเป็นพิเศษในพริบตานี้ อย่างเช่นว่า พวกเขาสามารถมองเห็นอย่างชัดเจน ว่านิ้วมือของนางขยับอย่างไรภาพการกระดิกนิ้วเบาๆ นั่น...กลับสร้างความตกตะลึงได้ยิ่งกว่าโบกแกว่
นางไม่กลัวเลยจริงๆ! ยิ่งไปกว่านั้น ประทัดที่ว่ามันคืออะไร!คนสำนักเมฆาวารีมีปฏิกิริยาขึ้นมา สิ่งที่นางพูดน่าจะหมายถึงกระบอกเสียงของพวกเขาเมื่อครู่นี้ประทัดอะไรกันเล่า? ฟังแล้วดูตลกเสียจริงสีหน้าพวกเขาปั้นยากขึ้นมาแต่ว่ากลับไม่มีปฏิกิริยาใดกับคำพูดยโสของนาง เพราะว่า...ผู้อาวุโสยังไม่มาหญิงสาวคนนี้ลึกล้ำเกินหยั่งจริงๆนิ่งกันแบบกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่พักหนึ่ง พวกเขาก็ได้ยินเสียงนางที่เหมือนจะหมดความอดทน "หรือว่า ข้าต้องปาดคอพวกเจ้าทิ้งด้วย ผู้อาวุโสของพวกเจ้าถึงจะรู้สึกว่าเรื่องนี้สำคัญแล้วยอมเข้ามา?"พวกเข้าหน้าเขียวปี๋ สายตาพรั่นพรึงขึ้นมา"เอาเถอะ" สองมือที่กอดอกอยู่ของจั๋วซือหราน ยื่นออกมาข้างหนึ่งเหมือนกับที่จัดการคุณชายฉินเมื่อครู่ ชูนิ้วหนึ่งขึ้นมาสายตาคนสำนักเมฆาวารีถลึงตาโต พวกเขารู้จักท่านี้ของนง ดังนั้น พอเห็นท่าทางนี้ ก็เลยตึงเครียดกันขึ้นมาพวกเขาจ้องไปที่นิ้วเรียวขาวของนางอย่างตึงเครียด และเห็นว่านิ้วของนางกระดิกเบาๆ ขึ้นมาทันที!ตอนนี้เอง พวกเขาในที่สุดก็ได้ยินเสียงจากไกลๆ พุ่งเข้ามาเป็นเสียงกระดิ่ง กริ๊งๆๆ...!พวกเขาแทบน้ำตาคลอเบ้า! เพราะพวกเขารู้จัก
รู้สึกเหมือนถูกสัตว์ร้ายจับจ้องอยู่อย่างไรอย่างนั้น พอบวกกับ ที่จมูกตอนนี้ยังได้กลิ่นเลือดสดที่ทะลักออกมาจากคอของคุณชายฉินจนมีกลิ่นคาวเลือดจางๆและยังได้ยินเสียงอ่อคๆ ในคอของคุณชายฉินอีก ขนาดที่ความน่าเกรงขามที่แข็งแกร่งขนาดนี้ แข็งแกร่งจนราวกับจะจับต้องมันได้ขึ้นมา!ดังนั้นพวกเขาที่เดิมทียังคิดจะบุกเข้าไป จึงยืนนิ่งตัวแข็งกันอยู่ที่เดิมพอเห็นท่าทางแข็งทื่อไปกะทันหันของพวกเขา จั๋วซือหรานก็เลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ยกมุมปากเอ่ยขึ้นว่า "เป็นตัวเลือกที่ฉลาด"รอบๆ ไม่รู้ว่าใครที่ตะโกนขึ้นมา "ให้ตายเถอะ! ใยหุ่นเชิด...มากมายเต็มไปหมด!""ให้ตาย! เยอะมากจริงๆ! นางเองก็เป็นปรมาจารย์วิชาเหยี่ยนหรือ?!"พอได้ยินเสียงแบบนี้ขึ้นมารอบๆ พวกสำนักเมฆาวารีก็สังเกตเห็นขึ้นมา ว่าระว่างนางกับพวกเขา มีใยละเอียดอยู่มากมายจริงๆ...เพียงแต่มันโปร่งใสอยู่ตลอด ดังนั้น ถ้าหากไม่สังเกตอย่างละเอียดก็จะมองไม่เห็นและมีใยหุ่นเชิดในนี้ ที่ย้อมเลือดอยู่ด้วยไม่รู้ว่านางปล่อยใยหุ่นเชิดมากมายขนาดนี้มาตั้งแต่เมื่อไรคิดดูแล้วเมื่อครู่นี้คุณชายฉินน่าจะถูกปาดคอไปตอนที่นางใช้นิ้วปาดวาด ก็คงพราะเจ้าใยหุ่นเชิดพวกนี้สินะพลัง