แชร์

บทที่ 85

ผู้เขียน: หูเทียนเสี่ยว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-05-29 19:11:05
คนรับใช้ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แต่เขาก็ยังตอบว่า "สอง สองแส้ขอรับ"

จั๋วซือหรานเลิกคิ้ว “ข้าต้องรับตั้งเก้าเส้นโดยไม่มีข้อยกแว้น…” นางพูดเช่นนี้ ดูเหมือนนางไม่ได้ถามจงใจ จากนั้นยกรายการของขวัญในมือขึ้นและพูดต่อ “ข้าได้รับของขวัญแล้ว ฝากขอบคุณผู้อาวุโสทุกท่าน”

คนรับใช้ยังคงตกตะลึงอยู่ เขาถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า " คุณหนูจิ่ว ท่านไม่... กลับไปหรือ"

เดิมทีเขาได้ยินจากผู้อาวุโสว่า ส่งของขวัญเหล่านี้มาที่นี่ จั๋วซือหรานจะกลับไปที่จวนจั๋ว เพื่อขอบคุณสำหรับการส่งของขวัญแก่นาง ดังนั้นผู้อาวุโสให้พวกเขาเตรียมเกี้ยวนุ่ม ๆ มาที่นี่ เพื่อพา จั๋วซือหรานกลับไป

โดยไม่คาดคิด นางไม่มีความตั้งใจที่จะกลับไปเลยหรือ

จั๋วซือหรานมองคนรับใช้ นางยิ้มและพยักหน้า "ใช่สิ ข้าควรกลับไปที่ไหน ข้าถอนตัวออกจากสำนักงานใหญ่ของตระกูลแล้ว วันนี้คุณท่านลิ่วยังประกาศต่อสาธารณะว่า ข้า จั๋วซือหราน ไม่มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลจั๋วอีกต่อไปแล้ว ที่ที่ข้าอยู่ในตอนนี้คือบ้านของข้า ข้าควรไปที่ไหนอีก”

คนรับใช้ดูลำบากใจมาก แต่เขาไม่มีสิทธิ์พูดอะไรมากมาย

คนรับใช้รู้ด้วยว่า เขาพูดอะไรไม่ได้อีกแล้ว หากเขาทำให้นางขุ่นเคือง เขานี่แหล
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 86

    ซือคงเซี่ยนเลิกคิ้วแล้วพูดว่า "อ้าว อย่างนี้หรือ เช่นนั้น เราไปกันเถอะ"จั๋วซือหรานหัวเราะ จากนั้นนางมองไปที่คนรับใช้ของจวนจั๋วที่อยู่ข้าง ๆ ด้วยสายตาที่แผ่วเบานางสั่ง“ที่นี่ไม่มีอะไรแล้ว พวกเจ้ากลับไปก่อนได้”คนรับใช้ยังอยากพูดอะไรอีก แต่พวกเขาไม่กล้าพูดอะไรเนื่องจากท่านอ๋องเซี่ยนอยู่ที่นี่เขาเพียงพูดด้วยความกลัว“ขอรับ คุณหนูจิ่ว เราจะกลับไปรายงานขอรับ พวกเราจะไม่รบกวนคุณหนูจิ่วอีกแล้วขอรับ”หลังจากคนรับใช้ออกไป จั๋วซือหรานจึงเดินตามซือคงเซี่ยน และออกจากจัวนไปยังพระราชวังซือคงเซี่ยนอดไม่ได้ที่ต้องหัวเราะแล้วพูดว่า " คุณหนูจิ่ว สรุปเจ้าจะไปพบเสด็จย่าเสียจริง หรือเจ้าไปเยี่ยมเสด็จย่าเพื่อรับของขวัญที่ข้าเตรียมให้คุณ หรือว่าเจ้าแค่จะหลบพวกคนที่น่ารำคาญในเมื่อครู่”ดวงตาของจั๋วซือหรานเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวเหมือนพระจันทร์เสี้ยว นางถามว่า "ท่านอ๋องคิดอย่างไร"ซือคงเซี่ยนมองดูนางแล้วพูดว่า "ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การแสดงของคุณหนูจิ่วในวันนี้น่าทึ่งมาก เดิมทีข้าอยากไปที่ชมที่นั่นด้วยตัวเอง แต่ข้ากลัวว่า คนอื่นจะคิดว่าแม้แต่ราชวงศ์ก็ดูถูกเจ้า ข้าจึงต้องอดทน ไม่กล้าไปที่นั่น คุณหนูจิ่วอย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-29
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 87

    ไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากได้ยินคำนี้ แม้ว่านางจะได้รับคำชมในเรื่องความหน้าตาดี แต่คำว่า ความสวยงามเต็มไปด้วยการยั่วยุ ถึงแม้จะเป็นคำชม แต่มักไม่ได้ใช้กับผู้หญิงสูงศักดิ์ในเมืองหลวง แต่ใช้กับผู้หญิงที่ทำอาชีพที่ไม่ดีทันทีที่จั๋วซือหรานได้ยินเสียงนี้ นางก็เดาได้แล้วว่าใครคือเจ้าของเสียงนั้นนางหันกลับไปมองผู้ที่เดินมา ทำท่าเคารพเล็กน้อยและพูด "ขอ คารวะอ๋องชินเพคะ"ซือคงยวี่มองใบหน้าของนาง และดวงตาของเขาก็ค่อย ๆ ร้อนขึ้นว่ากันว่าลูกสาวคนที่เก้าของตระกูลจั๋วมีหน้าตาที่โดดเด่นและมีชื่อเสียงไปทั่วเมืองหลวงแต่ซือคงยวี่ไม่เคยมีโอกาสเจอนาง จนกระทั่งเขาเห็นด้วยตาของเขาในขณะนี้ เขาจึงจะรู้ว่า จั๋วซือหรานสวยขนาดไหนและสะเทือนใจขนาดไหนซือคงเซี่ยนยืนอยู่ข้าง ๆ เขารู้ดีว่าเสด็จพี่คนที่ห้าของเขาเป็นคนเช่นใดเขาขมวดคิ้วเบา ๆ อย่างไม่เหลือร่องรอย แต่ยังคงเรียกด้วยเสียงต่ำว่า "เสด็จพี่ห้า"ซือคงยวี่เหลือบมองเขา ดวงตาของเขาเย็นชาเล็กน้อย "ทำไมเจ้าถึงมาอยู่กับคุณหนูจั๋วจิ่ว "ซือคงเซี่ยนยังไม่ทันตอบ ซือคงยวี่หัวเราะเบา ๆ แล้วพูดว่า "โอ้ เพราะต้องไปรักษาอากรให้เสด็จย่าใช่ไหม"หลังจากจั๋วซือหรานได้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-29
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 88

    “เจ้าอย่ากังวล แม้ว่าตอนนี้เจ้าไม่สามารถรับทรัพยากรที่ดีของ ตระกูลจั๋วได้อีกต่อไป แต่เจ้าเป็นแพทย์กลั่นยา และเจ้าได้รักษาเสด็จย่า ซึ่งถือได้ว่าเป็นความกรุณาต่อราชวงศ์ ในอนาคต ข้าจะหนุนหลังให้เจ้าเอง"“หม่อมฉันขอบพระคุณท่านอ๋องชินเพคะ” จั๋วซือหรานกล่าวขอบคุณอย่างแผ่วเบา “เช่นนั้นหม่อมฉันขอตัวไปรักษาไทเฮากับท่านอ๋องก่อนเพคะ ดังนั้นหม่อมฉันขอไม่รบกวนท่านอ๋องชินอีกเพคะ”“เอาล่ะ เจ้ากับน้องเจ็ดรีบไปกันเถิด เดี๋ยวข้าจะให้คนเอาของขวัญเหล่านั้นไปที่จวนของเจ้าเอง”ซือคงยวี่พูดไป ดูเหมือนเขานึกถึงอะไรบางอย่าง เขาพูดเสริม"อ้าว ใช่แล้ว อีกไม่กี่วันจะมีงานเลี้ยงในสวนบ้านข้า เจ้ามาร่วมงานด้วยเลย"จั๋วซือหรานไม่รับปากทันที แต่นางพูดแบบขอไปที "หากหม่อมฉันไม่ติดธุระใด ๆ หม่อมฉันจะไปร่วมงานแน่ ๆ เพคะ"หลังจากบอกลาซือคงยวี่แล้ว นางและซือคงเซี่ยนก็เดินไปที่พระราชวังรอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าของจั๋วซือหรานในเมื่อก่อนจางหายไปทันที ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความเย็นชา และดูเหมือนนางอารมณ์ไม่ดีซือคงเซี่ยนสังเกตการเปลี่ยนแปลงในชั่วขณะของนาง เขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขาอดไม่ได้ที่ต้องถาม"เป็นอะไรหรือ แม่น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-29
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 89

    เป็นงานดอกไม้ที่จัดขึ้นเพื่อซือคงยวี่ ความหมายยังไม่ชัดเจนอีกหรือนั่นเป็นงานที่ถูกจัดขึ้นมาเพื่อให้เขาเลือกแม่นางที่สวยงามเขายังไม่ได้เป็นฮ่องเต้เลย แต่ตอนนี้ ลักษณะของงานดอกไม้ดูเหมือนฮ่องเต้คัดนางงามมันน่าหมั่นไส้จริง ๆจั๋วซือหรานขมวดคิ้วแน่น นางไม่ได้พูดอยู่พักหนึ่งซือคงเซี่ยนคิดว่านางโกรธ ดังนั้นเขาจึงแนะนำว่า "ไม่เป็นไร หากเจ้าไม่อยากร่วมงานเช่นนี้ เจ้าไม่ไปก็ได้ ข้าจะหนุนหลังนางเอง"เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง จั๋วซือหรานจึงกัดฟันและพูดด้วยความโการธ"ข้าต้องวิจัยสูตรยาเม็ดของซือหลี่ตันติ่งให้เร็วที่สุด"เมื่อซือคงเซี่ยนได้ยินคำพูดนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่ต้องตัวสั่น เขาถามอย่างระมัดระวัง “แล้วอย่างไรต่อล่ะ”จากนั้นเขาก็ได้ยินจั๋วซือหรานพูดอย่างโกรธ "อย่างไรต่อหรือ แน่นอนว่ามันจะใช้กับคนที่ควรใช้"จั๋วซือหรานอยากรู้ว่า ถึงเวลานั้น ซือคงยวี่จะยิ้มอย่างลามกเหมือนเมื่อครู่นี้ได้หรือไม่ใกล้จะถึงตำหนักหย่งโซ่วแล้ว จั๋วซือหรานรีบปรับสีหน้าของนางนางทราบดี ทั้งท่านอ๋องเซี่ยนและนางต่างไม่อยากไทเฮารู้เมื่อครู่นี้ ข้างนอกเกิดอะไรขึ้นพระวรกายของไทเฮายังไม่ฟื้น และพลังชีวิตของนางได้รับค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-29
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 90

    จั๋วซือหรานเหลือบมองซือคงเซี่ยน ซึ่งอยู่ไม่ไกล แล้วกระซิบกับ ไทเฮา ว่า "ไทเฮาอย่ากังวล หม่อมฉันจะช่วยท่านอ๋องเซี่ยนเพคะ"ไทเฮาหัวเราะและค่อย ๆ โบกมือเรียกจั๋วซือหรานจั๋วซือหรานสับสนเล็กน้อย แต่นางก็ยังเข้าไปข้างหน้าไทเฮาโน้มตัวเข้าหูนางแล้วกระซิบว่า " แม่นางจิ่ว เจ้าชอบทายาทของตระกูลเฟิงจริง ๆ ขนาดนั้นหรือ หากเพียงเพราะสัญญาการแต่งงานระหว่างตระกูลต่าง ข้าสามารถออกหน้าออกตาให้"จั๋วซือหรานได้ยินคำพูดนี้ นางรู้สึกสับสนเล็กน้อย ออกหน้าออกตาหรือ ออกหน้าออกตาอะไร นางคิดในเอง เป็นไปได้ไหมว่า ออดหน้าออกตาเพื่อให้นางหมั้นกับเฟิงเหยียนอีกครั้งจั๋วซือหรานไม่ทันพูดต่อ ไทเฮาพูดต่อ“ออกหน้าออกตาเพื่อยกเลิกการหมั้นระหว่างเจ้ากับเฟิงเหยียน จากนั้นเจ้าจะได้อยู่กับเซี่ยนเอ๋อร์ของเรา”จั๋วซือหรานตกตะลึง นางไม่เคยคิดว่า ไทเฮาจะมีความคิดเช่นนี้ แต่ก็ไม่น่าแปลกใจเลยโดยทั่วไป ราชสำนักจะไม่อยู่ร่วมกับตระกูลขุนนางประการแรก ราชวงศ์กลัวตระกูลขุนนางจะมีอำนาจมากเกินไป หากสายเลือดของตระกูลขุนนางแทรกซึมเข้าสู่สายเลือดราชวงศ์ นั่นจะทำให้ราชวงศ์ยิ่งหวาดกลัวมากขึ้นแต่จั๋วซือหรานไม่เหมือนคนอื่น มองจาก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-29
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 91

    ใบหน้าหล่อเหลาที่ปกคลุมไปด้วยหน้ากากรูปแบบเปลวไฟกำลังขมวดคิ้วอยู่ในขณะนี้ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงวุ่นวายราชวงศ์อยู่เสมอ ตระกูลชนชั้นสูงมีความห่างเหินโดยธรรมชาติและไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการแย่งชิงของราชวงศ์ เพื่ือจะไม่ทำให้ตัวเองเดือดร้อนโดยพื้นฐานแล้วทุกคนในตระกูลชนชั้นสูงต่างก็ตระหนักดีถึงเรื่องนี้ ดังนั้นแม้ว่าพวกเขาได้ติดต่อกับราชวงศ์อย่างลับ ๆ พวกเขาก็ต้องรักษาระยะห่างและความเหมาะสมภายนอกแต่นางกลับเปิดให้คนอื่นเห็นในเวลากลางวันแสกๆ เดินเข้าออกวังแทบจะพักในนั้นเลยในความเป็นจริง หากต้องหาเหตุผลที่ทำไมจั๋วซือหรานถึงเข้าไปเกี่ยวข้องกับราชวงศ์ตั้งแต่แรก นั่นจะเป็น'ผลงาน'ที่จั๋วหรูซินสร้างมาในงานดอกไม้ของพระราชวังเรื่องนี้ไม่ได้เป็นความลับดังนั้นเฟิงเหยียนอาจไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงรู้สึกหงุดหงิดอย่างอธิบายไม่ถูกเมื่อรู้ว่านางมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับราชวงศ์เจ้าหน้าที่ของหน่วยสืบสวนพิเศษมีหน้าที่รับผิดชอบในการติดตามจั๋วซือหรานเท่านั้นและรายงานที่อยู่และการเคลื่อนไหวของนาง พวกเขาไม่ทราบเรื่องต่าง ๆ ของจั๋วซือหรานเพียงแต่เขาสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงรัศมีของใต้เท้าได้อย่างชัดเจน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-29
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 92

    จ้านหลูคิดอยู่พักหนึ่ง เขาอดไม่ได้ที่ต้องถามอีกครั้งว่า "เช่นนั้น... มันเป็นในนามของใต้เท้าหรือในนามของซื่อจื่อขอรับ"หากส่งของขัวญไปในนามของหน่วยสืบสวนพิเศษ ก็ไม่ใช่เป็นไปไม่ได้ เพราะ จั๋วซือหรานสอบติดแพทย์กลั่นยาในหน่วยสืบสวนพิเศษแต่ชายบนเบาะนั่งคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึกว่า "ตัวเลือกอันหลัง"“รับทราบ“......จั๋วซือหรานออกมาวัง เมื่อนางกลับมาที่จวนของนางนางเห็นฝูซูกำลังทำหน้าเคร่งขรึมที่ห้องโถงด้านหน้า“เป็นอะไร” จั๋วซือหรานเดินเข้ามาเมื่อนางเดินเข้าไป นางจึงสั่งเกตนอกจากฝูซู ยังมีคนอีกสองคนยืนอยู่ที่ห้องโถงด้านหน้าจั๋วซือหรานเลิกคิ้ว นางทราบตัวตนของพวกเขาคนหนึ่งสวมเสื้อผ้าของคนรับใช้ของจวนอ๋องชินยวี่ และส่วนอีกคนสวมเสื้อผ้าของคนรับใช้ของจวนเฟิงฃคนรับใช้ของจวนอ๋องชินยวี่มาเยี่ยมบ้าน จั๋วซือหรานรู้สึกไม่แปลกใจแต่จวนเฟิงหรือสีหน้าของจั๋วซือหรานไม่มีการเปลี่ยนแปลง นางมองพวกเขาอย่างสงบคนรับใช้ขอจวนอ๋องชินยวี่ทำความเคารพแก่จั๋วซือหรานและกล่าวว่า " ขอแม่นางจิ่วมีสุขภาพที่ดี ข้าได้รับคำสั่งจากอ๋องชิน อ๋องชินให้ข้านำของขวัญมาส่งถึงจวนของแม่นางจิ่ว เพื่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-29
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 93

    อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคนรับใช้ของจวนเฟิงจะเป็นคนรับใช้ในบ้าน พวกเขายังคงมีความภาคภูมิใจในตัวเอง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่พูดอะไรสักคำ และเพียงกล่าวคำอำลาจั๋วซือหรานบังเอิญฝูซูเพิ่งส่งคนรับใช้ของจวนอ๋องชินเส็จและเดินกลับมา เมื่อเขาเห็นคนรับใช้ของตระกูลเฟิงเดินออกไป เขาก็แปลกใจเล็กน้อย "คุณหนูขอรับ ทำไมไม่ให้ข้าส่งแขกล่ะขอรับ เขาไปเองหรือขอรับ"จั๋วซือหรานะยิ้ม "คนของตระกูลเฟิง แม้แต่คนรับใช้ของตระกูลเฟิงก็มีความเย่อหยิ่งของตัวเอง พวกเขาอาจเห็นเมื่อครู่นี้ ข้าพูดอย่างไรกับคนรับใช้ของจวนอ๋องชิน พวกเขาจึงไม่ยอมทนคำพูดของข้า บางทีพวกเขาอาจจะกลับไปฟ้องข้าก็ได้นะ”ฝูซูตกตะลึง “ฟ้องหรือ นั่นจะไม่แย่หรือขอรับ” ฝูซูเกาหัว “เมื่อครู่นี้ข้าอ่านใบรายการของขวัญที่เฟิงซื่อจื่อส่งมา มีของดี ๆ มากมาย”ก่อนหน้านี้ คุณหนูยังไม่โวยวายต้องแต่งงานกับฉินตวนหยาง ตอนนั้นตระกูลยังเอ็นดูนางอย่างมากฝูซูรับใช้จั๋วซือหราน ดังนั้นเขามีโอกาสเห็นของดี ๆ มากมาย เขาไม่ใช่คนที่มีสายตาสั้น ดังนั้นหากฝูซูยอมรับว่ามีของดี ๆ มากมาย แสดงว่ามีของดีเยอะจริง ๆจั๋วซือหรานได้ยินคำพูดของฝูซู นางหัวเราะ “มันไม่ค่อยดีนัก ดังนั้นข้าต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-29

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 882

    แต่ว่า ฉีฮ่าวรู้สึกว่า คนอื่นอาจจะไม่ได้แต่คนของค่ายคุ้มกันอย่างพวกเขาทำได้และเป็นไปตามคาด ตอนที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ของฉีฮ่าวเหล่าขุนพลที่ในตายังลังเลก่อนหน้า ก็เหมือนจะวางใจลงมาได้แล้ว"แม่นางจิ่วจะต้องคิดวิธีการออกแน่นอน!""ใช่ แม่นางจิ่วทำได้แน่!"ถ้าหากขุนนางหรือแม่ทัพคนไหนมีชื่อเสียงบารมีขนาดนี้ องค์จักรพรรดิเฒ่าก็คงต้องครั่นคร้ามขึ้นบ้างแต่ว่านี่เป็นหญิงสาวคนหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้นยังช่วยชีวิตเขามาแล้วไม่ว่าอย่างไรเขาก็ครั่นคร้ามขึ้นมาไม่ได้เลยตอนนี้เอง ด้านนอกก็มีทหารเข้ามารายงาน"รายงานขอรับ!"ทหารส่งสารรีบวิงเข้ามาคุกเข่าลงข้างหนึ่ง สีหน้าดูเคร่งขรึม"ฝ่าบาท ท่านแม่ทัพ! ห่างออกไปด้านนอกมีกองทหารม้ามาอีกกองหนึ่ง กำลังตรงมาทางประตูค่ายคุ้มกัน..."เหล่าขุนพลพอได้ยิน สีหน้าก็ปั้นยากขึ้นมา "มาอีกแล้วหรือ? เป็นพวกคนเถื่อนหรือเปล่า?""ไม่ใช่คนเถื่อนขอรับ" ทหารส่งสารตอบมีขุนพลคนหนึ่งหัวเราะเย็นชาขึ้นมา "เช่นนั้นก็น่าจะเป็นกองหนุนของชินอ๋องอวี้นั่นล่ะ"เพราะข่าวนี้ที่ทหารส่งสารนำเข้ามา เหล่าขุนพลที่กว่าจะมีสีหน้าดีขึ้นมาได้ ก็กลับไปมีแรงกดดันอีกครั้งพอเทียบกับคว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 881

    เหมือนกับตอนในค่ายป้องกันลาดตระเวน ชื่อเสียงของจั๋วซือหราน ใช้การได้เช่นเดียวกับที่ค่ายคุ้มกันยิ่งไปกว่านั้น เทียบกับตอนที่อยู่ในค่ายป้องกันลาดตระเวน อิงเซ่าตอนนั้นที่ไปช่วยใต้เท้าต่งคัง เนื่องจากตั้งตัวได้เร็ว บวกกับอาณาเขตของค่ายป้องกันลาดตระเวณไม่ใหญ่นักดังนั้นสถานการณ์ตอนนั้น จึงควบคุมได้ค่อนข้างทันท่วงทีแต่ค่ายคุ้มกันตอนนั้น เละเทะไปหมดแล้วทว่าภายใต้สถานการณ์นั้น จั๋วซือหรานก็ยังมาได้ทันท่วงที จัดการควบคุมสถานการณ์เอาไว้จุดนี้ ไม่ว่าจะมองอย่างไร เหล่าขุนพาลค่ายคุ้มกัน ก็ล้วนได้รับบุญคุณของจั๋วซือหรานมามีความเชื่อใจและหวังดีกับนางมากขึ้นพอได้ยินชื่อแม่นางจั๋วจิ่วจากปากของแม่ทัพ เหล่าทหารทุกนายก็จ้องมองตาไม่กระพริบเพียงรอแม่ทัพพูดออกมา ว่าแม่นางจิ่วพูดอะไรกันแน่"แม่นางจิ่วเคยบอกกับข้าว่า ฝ่าบาทกับพระสนมเอกอยู่ในค่ายคุ้มกัน ในปัจจุบันนี้ เป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยที่สุดแล้ว!"ฉีฮ่าวกดเสียงต่ำ "แม่นางจิ่วนำความปลอดภัยของฝ่าบาทกับพระสนมเอกฝากไว้ที่ค่ายคุ้มกัน เชื่อมั่นในค่ายคุ้มกัน..."พอได้ยินคำนี้ สีหน้าและสายตาของเหล่าทหารก็ยิ่งหนักแน่นขึ้นมาฉีฮ่าวเอ่ยต่อว่า "แต่แ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 880

    "กองทหารที่อ่อนแอเช่นนี้ แคว้นแบบนี้ กลับทำให้ดินแดนทางใต้ของพวกเราสยบมาตั้งนานขนาดนี้""พอคิดถึงเรื่องที่แคว้นเราต้องส่งเครื่องบรรณณาการให้กับแคว้นที่อ่อนแอแบบนี้แล้ว มันน่าโมโหเสียจริง!""นี่! ไอ้พวกอ่อนแอแคว้นชาง! เลิกหดหัวอยู่ในกำแพงสูงแล้วออกมาได้แล้ว!""ให้ตายเถอะ! พวกเจ้าไม่ใช่เก่งนักหรือ! รีบออกมาเร็ว ให้พวกข้าได้สังหารทิ้งเสียหน่อย!""ฮ่าๆๆ! ข้าว่าพวกเขาคงจะกลัวกันแล้ว ตายไปตั้งมากขนาดนี้ กลัวตายกันสินะ คงจะกลัวว่าถ้าออกมาอีกคงถูกวพกเราเด็ดหัวไปแขวนคานประตูล่ะสิ!""ต้าชางอะไรกัน! ข้าเห็นแต่ไอ้พวกอ่อนแอกระจุกหนึ่ง เรียกว่าชางขี้ขลาดไปเลยดีกว่า!"คำวิจารณ์ถากถางเช่นนี้ของศัตรูดังขึ้นไม่ขาดหู ลือเข้าไปถึงในค่ายทหาร ลอดเขาไปในหูของทหารที่อยู่บนกำแพงแล้วจึงผ่านการรายงานของเหล่าทหาร ส่งเข้าไปในกระโจมแม่ทัพทุกถ้อยทุกคำหลังจากที่เหล่าแม่ทัพยุทธ์ไ้ดยินคำพูดเหล่านี้ ก็โมโหจนตาแดงก่ำแทบจะควบคุมเลือดที่เดือดพล่านและความโกรธแค้นในอกไม่อยู่ทันที!อาวุธที่ถืออยู่ก็อยากจะเอาออกไปสั่งสอนเจ้าพวกคนเถื่อนเหล่านี้!"ฝ่าบาท! ท่านแม่ทัพ! ข้าขอติดตามไปด้วย! ต่อให้ตายสักพันครั้งก็ไม่เสีย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 879

    ฟันของรองแม่ทัพกัดแน่นจนมีเสียง!มือข้างหนึ่งถือกล้องสองทางไกลไว้แน่น จนแทบจะบีบมันจนพัง"ไอ้พวก...เดรัจฉาน!"ต่อให้รู้ว่าชัยชนะและความพ่ายแพ้เป็นเรื่องปกติของสงคราม แต่พอได้เห็นฉากเช่นนี้ ก็ยังรู้สึกอึดอัดในใจ มันเดือดดาล!คนอื่นไม่เห็นภาพที่จั๋วซือหรานกับรองแม่ทัพเห็นแต่ก็ถูกอารมณ์ของรองแม่ทัพระบาดไปแล้วรีบร้อนถามขึ้นว่า "ท่านรองแม่ทัพ ทางนั้นเป็นอย่างไรบ้าง?"แม้จะได้ยินจั๋วซือหรานพูดว่าตั้งคานประตูขึ้นมาแล้ว จากสถานการณ์ที่ประตูค่ายป้องกันลาดตระเวนก่อนหน้านี้ ก็พอจะเดาได้ ว่าสถานการณ์ทางนั้นจะต้องไม่ได้ใช่ภาพที่น่าดูแน่นอน"พวกเขาตั้งคานประตูด้วยหรือ? ที่ค่ายคุ้มกันเนี่ยนะ? เจ้าพวกเดรัจฉาน..." มีทหารหัวกะทิคนอื่นๆ ก่นด่าตามขึ้นมาแล้วรองแม่ทัพกัดฟันเอ่ยว่า "น่าเวทนากว่าสถานการณ์ประตูค่ายของพวกเราเสียอีก พวกเขาทางนี้...แขวนหัวคนขึ้นไป!"ตอนที่รองแม่ทัพพูดออกมา น้ำเสียงขบเขี้ยวเคี้ยวฟันนั่น ก็ราวกับอยากจะดื่มเลือดของอีกฝ่าย กินเนื้อของอีกฝ่ายเสียให้ได้อย่างนั้น"คนที่ตายไปในค่ายคุ้มกัน...มากกว่าในค่ายพวกเรามาก" รองแม่ทัพกัดฟันพูดจั๋วซือหรานพูดขึ้นข้างๆ "แน่นอน พวกต่างแ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 878

    ถ้าจะเล่น ก็ต้องเล่นให้ใหญ่หน่อยรองแม่ทัพรู้สึกเหมือนจิตสังหารบนตัวแม่นางจิ่ว ราวกับเป็นของจริงขึ้นมา!ต่อให้อยู่ข้างๆ นาง ก็เหมือนถูกจิตสังหารอันคมกริบนี้ทิ่มแทงเข้ามาแล้ว!ไม่นานนัก ค่ายคุ้มกันก็มาอยู่ตรงหน้าแล้ว!ค่ายคุ้มกันที่แม่ทัพฮ่าวฉีบัญชาการ เป็นจุดเหมาะสมที่อยู่ห่างจากเมืองหลวงหลายสิบลี้ ด้านหน้าค่ายเป็นที่ราบกว้างใหญ่ ด้านหลังติดกับหน้าผาสูงชั้นที่ล้อมด้วยป่าหนาทึบยิ่งไปกว่านั้นในค่ายใหญ่ยังสร้างกำแพงสูง บนกำแพงสูงทุกระยะยี่สิบสามสิบเมตรก็จะมีหอธนูอยู่หอหนึ่งพูดได้ว่าป้องกันง่ายโจมตียากตอนนี้ ประตูค่ายมีคนจำนวนมากรวมตัวกันอยู่คนเหล่านี้ล้วนแขวนป้ายจวนชินอ๋องอวี้ไว้ แต่เสื้อผ้านั้นแตกต่างกัน ดูยุ่งเหยิงไปหมดยิ่งไปกว่นั้นยังมองออกไม่ยาก ว่าหน้าตากับบุคลิกคนเหล่านี้...ไม่ใช่คนแคว้นชางทั้งหมดมีคนที่ถักเปียเล็กบนหัว ผิวค่อนข้างคล้ำ ดวงตาลึกซึ้ง มีความเป็นคนต่างแดนมากมีคนที่ผิวขาว ดวงตาดูลึกลับ กระทั่งสีของตาดำยังหลากหลายสีสันอาวุธในมือเองก็มากมายหลายแบบ ดาบหอกกระบองขวานแส้ยาว...มีมันทุกอย่างสำเนียงการพูดก็มีความเป็นต่างแดน หางเสียงยกสูงกดต่ำแตกต่างกันยิ่ง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 877

    จั๋วซือหรานหลังจากได้ยิน ก็หัวเราะขึ้นมาทันทีพอเทียบกับตอนที่ไม่ได้แปลงโฉม สภาพที่เวลานางยิ้มแล้วงดงามล่มเมืองแบบนั้นตอนนี้พอนางยิ้มขึ้นมา มีความสดใสที่เข้มแข็ง เฉลียวฉลาดอย่างเปิดเผย"ถึงอย่างไร...ถ้าคิดจะแต่งให้สวยก็ยากมาก แต่ถ้าคิดจะแต่งให้น่าเกลียดหน่อยคือง่ายแสนง่าย" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นคำพูดนี้ ถ้าคนอื่นมาพูด เกรงว่าคงทำให้คนรู้สึกว่า...หน้าใหญ่เหลือเกินถึงกล้าพูดเช่นนี้แต่ก็มีแค่คุณหนูจั๋วจิ่วคนนี้เท่านั้น ที่พูดคำพูดนี้ออกมาแล้วไม่ทำให้คนรู้สึกแย่กระทั่งยังทำให้คนรู้สึกว่าคำพูดนี้เป็นเรื่องจริงด้วย"แม่นางจิ่วพูดมาถูกต้องอย่างที่สุด" รองแม่ทัพรีบประสานมือเอ่ยขึ้น "แม่นางจิ่ว ข้าเลือกคนเรียบร้อย อยู่ที่นี่กันหมดแล้ว"จั๋วซือหรานพยักหน้าส่งตราออกไป "ให้พวกเขาพกไว้คนละชิ้น""ขอรับ!" รองแม่ทัพขานรับคำหนึ่ง แต่พอคิดๆ ก็อดถามขึ้นมาไม่ได้ "แม่นางจิ่ว พวกเขาไม่ได้สวมชุดของจวนชินอ๋องอวี้ ไม่เป็นไรหรือ?"ก่อนหน้านี้รองแม่ทัพพิจารณาถึงปัญหานี้แล้ว แต่เขารู้สึกว่า แม่นางจิ่วคิดอะไรรอบคอบ ในเมื่อนางกล้าทำเช่นนี้ แน่นอนว่านางจะต้องมีเหตุผลที่มั่นใจจั๋วซือหรานพอได้ยินก็เลิกคิ้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 876

    สถานการณ์ที่ประตูค่ายเป็นอย่างไร จั๋วซือหรานก็ขี้เกียจจะไปยุ่งแล้วนางเข้าไปในค่ายทหารน่าจะเพราะอิงเซ่ากำชับเอาไว้แล้ว เหล่าหัวกะทิของค่ายป้องกันลาดตระเวนจึงมารอกันอยู่ที่ลานฝึกยุทธ์พอเห็นจั๋วซือหรานเข้ามา แต่ละคนก็สายตาเป็นประกายจั๋วซือหรานหัวเราะขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่ "พวกเรากระตือรือล้นขนาดนี้เชียว""ขออุทิศชีวิตแด่แม่นางจิ่ว"เหล่าหัวกะทิทยอยกันตะโกนออกมาซือคงเซี่ยนยืนอยู่ข้างๆ ตอนที่มองไปทางจั๋วซือหราน สายตาก็มีแววทอดถอนใจขึ้นมาเขารออยู่ที่ค่ายป้องกันลาดตระเวนพักหนึ่ง ดังนั้นสำหรับความศรัทธาต่อจั๋วซือหรานของเหล่าทหารนั้นจึงชัดเจนอย่างมากตอนนั้นถ้าหากนางไม่บุกเดี่ยวเข้ามา สถานการณ์พิษกู่เมื่อตอนนั้น ต่อให้อิงเซ่าจะรับมือกับควบคุมได้ทันท่วงทีแต่เรื่องที่ค่ายป้องกันลาดตระเวนจะกลายเป็นนรกบนดินก็อยู่ที่ช้าหรือเร็วเท่านั้นแล้วนางช่วยชีวิตพวกเขาไว้ ช่วยไว้ทั้งค่ายป้องกันลาดตระเวนทหารราบเหล่านี้ ความศรัทธานับถือต่อจั๋วซือหราน ไม่ได้น้อยไปกว่าอิงเซ่าเลยแม้แต่น้อยสามารถอุทิศชีวิตให้จั๋วซือหรานได้ สามารถติดตามนางไปแก้ไขสถานการณ์ลำบากของค่ายคุ้มกันนอกเมืองได้ พวกเขาต่อให้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 875

    หลังจากเห็นจั๋วซือหรานพูดคำนี้จบ ก็เดินมาข้างศพศัตรูที่ล้มอยู่บนพื้นร่างหนึ่ง ดาบยาวในมือก็ลากเฉียดไปบนร่างเขาทุกคนคิดว่า จั๋วซือหรานน่าจะรังเกียจที่ดาบของตนเองเปื้อนเลือด ดังนั้นจึงจึงใช้เสื้อผ้าศัตรูมาเช็ดคราบเลือดให้สะอาดแต่จั๋วซือหรานกลับใช้ปลายดาบเปิดเสื้อผ้าของเขาออกดาบยาวเล่มเรียวอยู่ในมือนาง คล่องแคล่วว่งไวราวกับเป็นมืออีกข้างของนางอย่างไรอย่างนั้นจั๋วซือหรานใช้ปลายดาบเปิดเสื้อผ้าคนผู้นี้ออก จากนั้นปลายดาบก็ยกตราหนึ่งขึ้นมาจากตัวเขา"นี่คือ...ตราขององครักษ์ชินอ๋องอวี้หรือ?" อิงเซ่าเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานพยักหน้า "ในมือข้ามีอยู่ส่วนหนึ่ง จากนั้นที่นี่ก็น่าจะหามาได้ไม่น้อยเลย"ซือคงเซี่ยนตาเป็นประกายอยู่ข้างๆ น่าจะเดาได้ถึงความคิดของจั๋วซือหราน เอ่ยขึ้นว่า "เจ้าคิดจะไปหลอกพวกเขาใช่ไหม?"จั๋วซือหรานยิ้มตาโค้ง ปลายดาบยกตรานี่ขึ้นมา ใช้นิ้วสองนิ้วบีบเอาไว้ ตอบว่า "ซือคงอวี้ยังหากองหนุนจากภายนอก แล้วจะไม่ให้ข้าไปตบตาเขาได้หรือ..."อิงเซ่าเข้าใจความหมายในคำพูดซือคงอวี้กับความคิดของจั๋วซือหรานแล้ว กวักมือเรียกทหารใต้บัญชามาแล้วกำชับออกไป"ไปหาตราจวนชินอ๋องอวี้จากบนตัวพวกเขาม

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 874

    "ไม่ต้องให้ท่านลำบากใจหรอก" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ "ข้าจัดการเอง"เสียงนางยังไม่ทันขาด กระบี่ยาวเล่มหนึ่งก็ปรากฏขึ้นบนมือนางที่นี่เงียบลงเป็นเป่าสากไม่ว่าจะคนจากค่ายป้องกันลาดตระเวน หรือว่าคนที่ชินอ๋องอวี้ส่งมา ชั่วขณะหนึ่ง ก็เงียบกันไปหมดสายตาคนทั้งหมดหยุดอยู่บนตัวนางทุกคนล้วนเห็นรอยยิ้มบนมุมปากนางรอยยิ้มที่สวยสด เข้ากับใบหน้างามงด สมบูรณ์แบบจริงๆ!แต่ว่ารอยยิ้มที่งดงามนี้ กลับเต็มไปด้วยความกระหายเลือดเจ้าพวกที่พูดปาวๆ ว่าตนเองเป็นคนของตระกูลใหญ่ก่อนหน้านี้ ไม่ยอมรับการตัดสินจากอำนาจของราชวงศ์ตอนนี้เองก็นิ่งเงียบไปหมดเช่นกัน เพราะพวกเขาสัมผัสได้ถึง...อันตรายที่น่ากลัวอย่างมากจั๋วซือหรานถือดาบยาวอยู่อย่างนั้น ค่อยๆ เดินตรงไปหาพวกเขาเขาเดินผ่านกลุ่มคน กลุ่มคนก็ทยอยกันเปิดทางให้นางหนังตาบางของจั๋วซือหรานเลิกขึ้น ในดวงตาไม่มีความอบอุ่นใดเหลืออยู่อีก ยิ้มขึ้นอย่างกระหายเลือดและทุกคนก็เห็นริมฝีปากแดงขยับเบาๆ ราวกับกำลังพึมพำอะไร แต่ก็ไม่มีใครได้ยิน บางทีอาจจะไม่มีใครฟังออกก็ได้นางบ่นขึ้นว่า "ข้าหลับไปสามวัน งานที่ต้องทำก็ไม่ได้ทำ เอาพวกเจ้ามาชดเชยหน่อยแล้วก

DMCA.com Protection Status