Share

บทที่ 87

Auteur: หูเทียนเสี่ยว
ไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากได้ยินคำนี้ แม้ว่านางจะได้รับคำชมในเรื่องความหน้าตาดี แต่คำว่า ความสวยงามเต็มไปด้วยการยั่วยุ ถึงแม้จะเป็นคำชม แต่มักไม่ได้ใช้กับผู้หญิงสูงศักดิ์ในเมืองหลวง แต่ใช้กับผู้หญิงที่ทำอาชีพที่ไม่ดี

ทันทีที่จั๋วซือหรานได้ยินเสียงนี้ นางก็เดาได้แล้วว่าใครคือเจ้าของเสียงนั้น

นางหันกลับไปมองผู้ที่เดินมา ทำท่าเคารพเล็กน้อยและพูด "ขอ คารวะอ๋องชินเพคะ"

ซือคงยวี่มองใบหน้าของนาง และดวงตาของเขาก็ค่อย ๆ ร้อนขึ้น

ว่ากันว่าลูกสาวคนที่เก้าของตระกูลจั๋วมีหน้าตาที่โดดเด่นและมีชื่อเสียงไปทั่วเมืองหลวง

แต่ซือคงยวี่ไม่เคยมีโอกาสเจอนาง จนกระทั่งเขาเห็นด้วยตาของเขาในขณะนี้ เขาจึงจะรู้ว่า จั๋วซือหรานสวยขนาดไหนและสะเทือนใจขนาดไหน

ซือคงเซี่ยนยืนอยู่ข้าง ๆ เขารู้ดีว่าเสด็จพี่คนที่ห้าของเขาเป็นคนเช่นใด

เขาขมวดคิ้วเบา ๆ อย่างไม่เหลือร่องรอย แต่ยังคงเรียกด้วยเสียงต่ำว่า "เสด็จพี่ห้า"

ซือคงยวี่เหลือบมองเขา ดวงตาของเขาเย็นชาเล็กน้อย "ทำไมเจ้าถึงมาอยู่กับคุณหนูจั๋วจิ่ว "

ซือคงเซี่ยนยังไม่ทันตอบ ซือคงยวี่หัวเราะเบา ๆ แล้วพูดว่า "โอ้ เพราะต้องไปรักษาอากรให้เสด็จย่าใช่ไหม"

หลังจากจั๋วซือหรานได้
Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application
Chapitre verrouillé

Related chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 88

    “เจ้าอย่ากังวล แม้ว่าตอนนี้เจ้าไม่สามารถรับทรัพยากรที่ดีของ ตระกูลจั๋วได้อีกต่อไป แต่เจ้าเป็นแพทย์กลั่นยา และเจ้าได้รักษาเสด็จย่า ซึ่งถือได้ว่าเป็นความกรุณาต่อราชวงศ์ ในอนาคต ข้าจะหนุนหลังให้เจ้าเอง"“หม่อมฉันขอบพระคุณท่านอ๋องชินเพคะ” จั๋วซือหรานกล่าวขอบคุณอย่างแผ่วเบา “เช่นนั้นหม่อมฉันขอตัวไปรักษาไทเฮากับท่านอ๋องก่อนเพคะ ดังนั้นหม่อมฉันขอไม่รบกวนท่านอ๋องชินอีกเพคะ”“เอาล่ะ เจ้ากับน้องเจ็ดรีบไปกันเถิด เดี๋ยวข้าจะให้คนเอาของขวัญเหล่านั้นไปที่จวนของเจ้าเอง”ซือคงยวี่พูดไป ดูเหมือนเขานึกถึงอะไรบางอย่าง เขาพูดเสริม"อ้าว ใช่แล้ว อีกไม่กี่วันจะมีงานเลี้ยงในสวนบ้านข้า เจ้ามาร่วมงานด้วยเลย"จั๋วซือหรานไม่รับปากทันที แต่นางพูดแบบขอไปที "หากหม่อมฉันไม่ติดธุระใด ๆ หม่อมฉันจะไปร่วมงานแน่ ๆ เพคะ"หลังจากบอกลาซือคงยวี่แล้ว นางและซือคงเซี่ยนก็เดินไปที่พระราชวังรอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าของจั๋วซือหรานในเมื่อก่อนจางหายไปทันที ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความเย็นชา และดูเหมือนนางอารมณ์ไม่ดีซือคงเซี่ยนสังเกตการเปลี่ยนแปลงในชั่วขณะของนาง เขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขาอดไม่ได้ที่ต้องถาม"เป็นอะไรหรือ แม่น

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 89

    เป็นงานดอกไม้ที่จัดขึ้นเพื่อซือคงยวี่ ความหมายยังไม่ชัดเจนอีกหรือนั่นเป็นงานที่ถูกจัดขึ้นมาเพื่อให้เขาเลือกแม่นางที่สวยงามเขายังไม่ได้เป็นฮ่องเต้เลย แต่ตอนนี้ ลักษณะของงานดอกไม้ดูเหมือนฮ่องเต้คัดนางงามมันน่าหมั่นไส้จริง ๆจั๋วซือหรานขมวดคิ้วแน่น นางไม่ได้พูดอยู่พักหนึ่งซือคงเซี่ยนคิดว่านางโกรธ ดังนั้นเขาจึงแนะนำว่า "ไม่เป็นไร หากเจ้าไม่อยากร่วมงานเช่นนี้ เจ้าไม่ไปก็ได้ ข้าจะหนุนหลังนางเอง"เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง จั๋วซือหรานจึงกัดฟันและพูดด้วยความโการธ"ข้าต้องวิจัยสูตรยาเม็ดของซือหลี่ตันติ่งให้เร็วที่สุด"เมื่อซือคงเซี่ยนได้ยินคำพูดนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่ต้องตัวสั่น เขาถามอย่างระมัดระวัง “แล้วอย่างไรต่อล่ะ”จากนั้นเขาก็ได้ยินจั๋วซือหรานพูดอย่างโกรธ "อย่างไรต่อหรือ แน่นอนว่ามันจะใช้กับคนที่ควรใช้"จั๋วซือหรานอยากรู้ว่า ถึงเวลานั้น ซือคงยวี่จะยิ้มอย่างลามกเหมือนเมื่อครู่นี้ได้หรือไม่ใกล้จะถึงตำหนักหย่งโซ่วแล้ว จั๋วซือหรานรีบปรับสีหน้าของนางนางทราบดี ทั้งท่านอ๋องเซี่ยนและนางต่างไม่อยากไทเฮารู้เมื่อครู่นี้ ข้างนอกเกิดอะไรขึ้นพระวรกายของไทเฮายังไม่ฟื้น และพลังชีวิตของนางได้รับค

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 90

    จั๋วซือหรานเหลือบมองซือคงเซี่ยน ซึ่งอยู่ไม่ไกล แล้วกระซิบกับ ไทเฮา ว่า "ไทเฮาอย่ากังวล หม่อมฉันจะช่วยท่านอ๋องเซี่ยนเพคะ"ไทเฮาหัวเราะและค่อย ๆ โบกมือเรียกจั๋วซือหรานจั๋วซือหรานสับสนเล็กน้อย แต่นางก็ยังเข้าไปข้างหน้าไทเฮาโน้มตัวเข้าหูนางแล้วกระซิบว่า " แม่นางจิ่ว เจ้าชอบทายาทของตระกูลเฟิงจริง ๆ ขนาดนั้นหรือ หากเพียงเพราะสัญญาการแต่งงานระหว่างตระกูลต่าง ข้าสามารถออกหน้าออกตาให้"จั๋วซือหรานได้ยินคำพูดนี้ นางรู้สึกสับสนเล็กน้อย ออกหน้าออกตาหรือ ออกหน้าออกตาอะไร นางคิดในเอง เป็นไปได้ไหมว่า ออดหน้าออกตาเพื่อให้นางหมั้นกับเฟิงเหยียนอีกครั้งจั๋วซือหรานไม่ทันพูดต่อ ไทเฮาพูดต่อ“ออกหน้าออกตาเพื่อยกเลิกการหมั้นระหว่างเจ้ากับเฟิงเหยียน จากนั้นเจ้าจะได้อยู่กับเซี่ยนเอ๋อร์ของเรา”จั๋วซือหรานตกตะลึง นางไม่เคยคิดว่า ไทเฮาจะมีความคิดเช่นนี้ แต่ก็ไม่น่าแปลกใจเลยโดยทั่วไป ราชสำนักจะไม่อยู่ร่วมกับตระกูลขุนนางประการแรก ราชวงศ์กลัวตระกูลขุนนางจะมีอำนาจมากเกินไป หากสายเลือดของตระกูลขุนนางแทรกซึมเข้าสู่สายเลือดราชวงศ์ นั่นจะทำให้ราชวงศ์ยิ่งหวาดกลัวมากขึ้นแต่จั๋วซือหรานไม่เหมือนคนอื่น มองจาก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 91

    ใบหน้าหล่อเหลาที่ปกคลุมไปด้วยหน้ากากรูปแบบเปลวไฟกำลังขมวดคิ้วอยู่ในขณะนี้ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงวุ่นวายราชวงศ์อยู่เสมอ ตระกูลชนชั้นสูงมีความห่างเหินโดยธรรมชาติและไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการแย่งชิงของราชวงศ์ เพื่ือจะไม่ทำให้ตัวเองเดือดร้อนโดยพื้นฐานแล้วทุกคนในตระกูลชนชั้นสูงต่างก็ตระหนักดีถึงเรื่องนี้ ดังนั้นแม้ว่าพวกเขาได้ติดต่อกับราชวงศ์อย่างลับ ๆ พวกเขาก็ต้องรักษาระยะห่างและความเหมาะสมภายนอกแต่นางกลับเปิดให้คนอื่นเห็นในเวลากลางวันแสกๆ เดินเข้าออกวังแทบจะพักในนั้นเลยในความเป็นจริง หากต้องหาเหตุผลที่ทำไมจั๋วซือหรานถึงเข้าไปเกี่ยวข้องกับราชวงศ์ตั้งแต่แรก นั่นจะเป็น'ผลงาน'ที่จั๋วหรูซินสร้างมาในงานดอกไม้ของพระราชวังเรื่องนี้ไม่ได้เป็นความลับดังนั้นเฟิงเหยียนอาจไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงรู้สึกหงุดหงิดอย่างอธิบายไม่ถูกเมื่อรู้ว่านางมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับราชวงศ์เจ้าหน้าที่ของหน่วยสืบสวนพิเศษมีหน้าที่รับผิดชอบในการติดตามจั๋วซือหรานเท่านั้นและรายงานที่อยู่และการเคลื่อนไหวของนาง พวกเขาไม่ทราบเรื่องต่าง ๆ ของจั๋วซือหรานเพียงแต่เขาสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงรัศมีของใต้เท้าได้อย่างชัดเจน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 92

    จ้านหลูคิดอยู่พักหนึ่ง เขาอดไม่ได้ที่ต้องถามอีกครั้งว่า "เช่นนั้น... มันเป็นในนามของใต้เท้าหรือในนามของซื่อจื่อขอรับ"หากส่งของขัวญไปในนามของหน่วยสืบสวนพิเศษ ก็ไม่ใช่เป็นไปไม่ได้ เพราะ จั๋วซือหรานสอบติดแพทย์กลั่นยาในหน่วยสืบสวนพิเศษแต่ชายบนเบาะนั่งคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึกว่า "ตัวเลือกอันหลัง"“รับทราบ“......จั๋วซือหรานออกมาวัง เมื่อนางกลับมาที่จวนของนางนางเห็นฝูซูกำลังทำหน้าเคร่งขรึมที่ห้องโถงด้านหน้า“เป็นอะไร” จั๋วซือหรานเดินเข้ามาเมื่อนางเดินเข้าไป นางจึงสั่งเกตนอกจากฝูซู ยังมีคนอีกสองคนยืนอยู่ที่ห้องโถงด้านหน้าจั๋วซือหรานเลิกคิ้ว นางทราบตัวตนของพวกเขาคนหนึ่งสวมเสื้อผ้าของคนรับใช้ของจวนอ๋องชินยวี่ และส่วนอีกคนสวมเสื้อผ้าของคนรับใช้ของจวนเฟิงฃคนรับใช้ของจวนอ๋องชินยวี่มาเยี่ยมบ้าน จั๋วซือหรานรู้สึกไม่แปลกใจแต่จวนเฟิงหรือสีหน้าของจั๋วซือหรานไม่มีการเปลี่ยนแปลง นางมองพวกเขาอย่างสงบคนรับใช้ขอจวนอ๋องชินยวี่ทำความเคารพแก่จั๋วซือหรานและกล่าวว่า " ขอแม่นางจิ่วมีสุขภาพที่ดี ข้าได้รับคำสั่งจากอ๋องชิน อ๋องชินให้ข้านำของขวัญมาส่งถึงจวนของแม่นางจิ่ว เพื่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 93

    อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคนรับใช้ของจวนเฟิงจะเป็นคนรับใช้ในบ้าน พวกเขายังคงมีความภาคภูมิใจในตัวเอง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่พูดอะไรสักคำ และเพียงกล่าวคำอำลาจั๋วซือหรานบังเอิญฝูซูเพิ่งส่งคนรับใช้ของจวนอ๋องชินเส็จและเดินกลับมา เมื่อเขาเห็นคนรับใช้ของตระกูลเฟิงเดินออกไป เขาก็แปลกใจเล็กน้อย "คุณหนูขอรับ ทำไมไม่ให้ข้าส่งแขกล่ะขอรับ เขาไปเองหรือขอรับ"จั๋วซือหรานะยิ้ม "คนของตระกูลเฟิง แม้แต่คนรับใช้ของตระกูลเฟิงก็มีความเย่อหยิ่งของตัวเอง พวกเขาอาจเห็นเมื่อครู่นี้ ข้าพูดอย่างไรกับคนรับใช้ของจวนอ๋องชิน พวกเขาจึงไม่ยอมทนคำพูดของข้า บางทีพวกเขาอาจจะกลับไปฟ้องข้าก็ได้นะ”ฝูซูตกตะลึง “ฟ้องหรือ นั่นจะไม่แย่หรือขอรับ” ฝูซูเกาหัว “เมื่อครู่นี้ข้าอ่านใบรายการของขวัญที่เฟิงซื่อจื่อส่งมา มีของดี ๆ มากมาย”ก่อนหน้านี้ คุณหนูยังไม่โวยวายต้องแต่งงานกับฉินตวนหยาง ตอนนั้นตระกูลยังเอ็นดูนางอย่างมากฝูซูรับใช้จั๋วซือหราน ดังนั้นเขามีโอกาสเห็นของดี ๆ มากมาย เขาไม่ใช่คนที่มีสายตาสั้น ดังนั้นหากฝูซูยอมรับว่ามีของดี ๆ มากมาย แสดงว่ามีของดีเยอะจริง ๆจั๋วซือหรานได้ยินคำพูดของฝูซู นางหัวเราะ “มันไม่ค่อยดีนัก ดังนั้นข้าต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 94

    เฟิงเหยียนมองจ้านหลูอย่างสงบและไม่พูดอะไรจ้านหลูเห็นนายท่านมองเขาเช่นนั้น เขารู้สึกผิดปกติ เขาเลยถามด้วยความสงสัย "ท่านขอรับ ข้าพูดผิดเรื่องอันใดหรือขอรับ"เสียงของอีกคนหนึ่งดังขึ้นจากฉากด้านหลัง เสียงนั้นเต็มไปด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจกับคำพูดของจ้านหลู“เจ้าโง่เหลือเกิน หากคุณหนูจั๋วจิ่วฝากคนมาขอบคุณนายท่าน นั่นหมายความว่าอย่างไร มันไม่ได้หมายความว่า ในใจของคุณหนูจั๋วจิ่ว นายท่านของเรามีน้ำหนักเท่ากับซือคงยวี่หรือ ไอ้ซือคงยวี่เป็นคนอะไร เที่ยบกับนายท่านของพวกเราได้หรือ"เขากล่าวต่อ " คุณหนูจั๋วจิ่ว ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นเลย นางมีจิตใจที่ละเอียดอ่อนและฉลาด ต่อให้มีคนโง่ ๆ อย่างเจ้าสักร้อยคน ยังสู้ความฉลาดของนางนิดเดียวไม่ได้เลย "จ้านหลูถูกเยาะเย้ยมากจนเขาทนไม่ไหวอีกต่อไป "ฉูนจวีน ข้าขอเตือนเจ้าแล้ว พูดดี ๆ และอย่าใส่ฉันบ่อยสิ"“เอาล่ะ” เฟิงเหยียนพูดอย่างสงบ “หากพวกเจ้าจะทะเลาะ ไปต่อยกันที่ข้างนอกเลย”ผู้พิทักษ์เงาที่อยู่รอบ ๆ ของท่านอ๋องไม่ใช่ขุนนางพลเรือนเสียหน่อย พวกเขาล้วนเป็นผู้ที่ทรงพลังและสามารถรับมือต่าง ๆ ได้เพียงลำพัง โต้แย้งที่นี่ มันไม่มีประโยชน์หรอกก่อนที่จ้านหลูกั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 95

    เฟิงเหยียนยังคงนั่งอยู่บนกระเบื้องเคลือบ เขามองนางจากที่สูง ๆ เขาไม่คิดจะลงมาด้วย เขามองจากที่สูง ๆ เช่นนี้ ซึ่งทำให้คนมักรู้สึกเข้าใกล้ชิดเขายากจั๋วซือหรานก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าวอย่างรวดเร็ว และเพียงไม่กี่ก้าว นางก็อยู่บนหลังคาแล้ว และนั่งลงข้างเฟิงเหยียน อย่างง่ายดายเฟิงเหยียนเหลือบมองนางจากด้านข้าง การเคลื่อนไหวของนางในเมื่อสักครู่นี้ดูน่าสนใจเล็กน้อย ดูเหมือนว่าจะไมใช่วิชาใด ๆ และยากที่จะบอกได้ว่าท่านี้เป็นวิชาตัวเบาประเภทใด เห็นได้ชัดว่า ตระกูลจั๋วไม่มีทักษะประเภทนี้กล่าวโดยสรุป เฟิงเหยียนดูเหมือนเห็นมือและเท้าของนางสัมผัสกำแพงกับชายคาอยู่สองสามที จากนั้นก็ขึ้นไปบนหลังคาการเคลื่อนไหวเช่นนี้ทำให้ผู้คนมักนึกถึงคำคำหนึ่ง - ขึ้นหลังคาและรื้อหลังคาเฟิงเหยียนยกมือขึ้น เปิดฝาน้ำเต้าออกแล้วจ่อไปที่ริมฝีปากของเขา และจิบสุราหนึ่งคำ แม้ว่าเขาเพียงจิบก็ตามจั๋วซือหรานได้กลิ่นสุราที่เข้มข้น จมูกของนางก็ปิดลงเบา ๆ และนางก็อดไม่ได้ที่ต้องเข้าหาเขาเพื่อดมกลิ่นสุราเฟิงเหยียนเหลือบมองนาง “ครั้งสุดท้ายที่นางมาเยี่ยมจวนเฟิงตอนกลางคืน เจ้ามาเพื่อกล่าวขอบคุณ วันนี้เจ้ามาเยี่ยมจวนเฟิงตอนก

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1263

    ท่าทีของเฟิงเหยียน ไม่ถือว่ากระตือรือร้นมากนัก กระทั่งค่อนข้างเย็นชาด้วยซ้ำแต่ก็เป็นเรื่องปกติ หลังจากที่เขาออกจากสำนักในตอนนั้น ก็ไม่ได้มีความฮึกเหิมเหมือนสมัยครั้งยังเด็กอีกมักจะเย็นชา และมักจะเฉยเมยปันอวิ๋นเม้มริมฝีปาก เข้าใจถึงสาเหตุนั้นสภาพการณ์ตอนที่เฟิงเหยียนออกจากสำนักครั้งนั้น เขาเองก็รู้เป็นอย่างดีต่อให้จนถึงตอนนี้ ก็ยังจดจำได้อย่างชัดเจนเพราะเฟิงเหยียนถูกทรยศเป็นคนแรก ดังนั้น ตอนนั้นพวกเขาก็อยู่ในฐานะคนที่ยังไม่ถูกทรยศอันที่จริง จะมากน้อยก็ยังมีความสงสัยว่าถ้าไม่อยู่ในสถานการณ์เดียวกันก็คงไม่เข้าใจอยู่พวกเขารู้สึกว่าเฟิงเหยียนทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเฟิงเหยียนที่ไม่รู้จักบุญคุณพวกเขารู้สึกว่า เป็นเฟิงเหยียนที่ทำไม่ถูกเฟิงเหยียนเป็นคนอกตัญญูจนต่อมา ต่อมาของต่อมา ทุกคนทยอยกันเดินบนเส้นทางของเฟิงเหยียน ใครก็หนีไม่พ้นการทรยศหรือใช้ประโยชน์ทั้งนั้นตามหลักแล้วควรจะยอมรับชะตากรรมอย่างที่เคยเตือนเฟิงเหยียนเอาไว้ในตอนนั้น และมองว่าสิ่งนั้นเป็นการบ่มเพาะและการให้ความสำคัญจากสำนักแต่เพระาอะไร...ถึงได้ดีใจกันขึ้นมาไม่ได้เลยและหลังจากนั้นอีก แต่ละคนก็ทร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1262

    ดังนั้นเขาจึงยังไม่กล้าไปกอดนางไว้แบบนี้ตลอด คอยอยู่ด้วยเงียบๆแต่เขากลับไม่ง่วงเลย ไม่ได้หลับ ไม่ได้ปิดตาด้วยแค่มองนางเงียบๆ สัมผัสถึงความร้อนในตัวนางกับชีพจรนางกระทั่งตัวเขาเองก็ยังบอกไม่ได้ว่าเพราะอะไร แต่ก็มีความรู้สึกอย่างหนึ่ง...รู้สึกสงบใจอย่างมากราวกับว่า ทั้งหมดเปลี่ยนเป็นสมบูรณ์แบบแล้วทั้งที่ความทรงจำในอดีตยังไม่กลับคืนเข้าที่ แต่ความรู้สึกนี้ เหมือนสลักประทับอยู่ในจิตวิญญาณอย่างไรอย่างนั้น ยากที่จะลบเลือนจนกระทั่งลมหายใจของจั๋วซือหรานมั่นคงแล้ว สีหน้ายิ่งมีประกายแดง สภาพดีขึ้นมากแล้วเขามองไปที่คราบเลือดแห้งกรังเหล่านั้นบนใบหน้าจั๋วซือหราน รู้สึกเสียดแทงตาเหลือเกินจึงได้เคลื่อนไหวเบาๆ เดินออกไปด้านนอก กำชับคนรับใช้ให้เตรียมน้ำร้อนมาไม่ให้คนรับใช้เข้ามาปรนนิบัติ แต่เขาหิ้วถังน้ำเข้ามาเองเขาอุ้มนางมาแช่ในถังน้ำ คอยสระชำระเส้นผมนางทีละเล็กทีละน้อย เช็ดคราบเลือดบนผิวนางออกอาบตัวนางจนสะอาดหมดจด อุ้มกลับไปบนเตียง ใช้ผ้าห่มห่อตัวนางจากนั้นจึงใช้พลังวิญญาณธาตุไฟบริสุทธิ์ เป่าผมนางจนแห้งและเพราะมีกลิ่นอายของเขาห่อหุ้มอยู่ จั๋วซือหรานจึงหลับลึกอย่างสบาย ไม่ตื

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1261

    พลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงที่บริสุทธิ์ที่สุด ถูกส่งผ่านเข้ามาอย่างนั้นจั๋วซือหรานมีความรู้สึกเหมือนตนเองถูกแช่ไว้ในน้ำอุ่น เป็นความรู้สึกที่สบายอย่างที่สุดในลำคอก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาด้วยความสบายยิ่งไปกว่านั้น คนเราก็เหมือนจะเป็นเช่นนี้เดิมทีก็ไม่ได้รู้สึกว่าตนเองลำบากยากเย็นอะไรนักแต่ตอนที่ร่างกายสามารถผ่อนคลายลงมาได้ ไม่รู้สึกเจ็บปวดทรมานอีกแล้วพอย้อนคิดไปถึงความยากลำบากเหล่านั้นก่อนหน้า กลับรู้สึกว่าตนเองน่าสงสารขึ้นมาจั๋วซือหรานตอนนี้ก็รู้สึก ว่าตนเอง...ไม่ค่อยได้รับความเป็นธรรมเท่าไรชายคนนี้ เจ้าคนสมควรตายนี่มีสิทธิ์อะไร?มีสิทธิ์อะไรกัน?"..." ชายหนุ่มรู้สึกเจ็บที่ปลายลิ้นเขาขมวดคิ้ว รสชาติคคาวหวานของเลือดแผ่ซ่านในร่องฟันของทั้งสองคนเขามองหญิงสาวตรงหน้า ก็เห็นแววตาของนางมีความหงุดหงิดอยู่หน่อยๆแล้วยังมีสีหน้าท้าทายอีกด้วยดูเหมือนจะจงใจกัดปลายลิ้นเขา น่าจะโมโหเอาการชายหนุ่มไม่ครางออกมาเลย ราวกับไม่รู้สึกเจ็บอย่างไรอย่างนั้นยิ่งไปกว่านั้นยังไม่ใส่ใจ ปลายลิ้นยังโถมใส่นางอย่างเร่าร้อนรุนแรงถ้านางอยากได้ ก็ต้องแล้วแต่นางจั๋วซือหรานดูจนใจหน่อยๆ แต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1260

    เหมือนว่าความทรมานทั้งหมดก่อนหน้านี้ ไม่ได้ทรมานอะไรขนาดนั้นและไม่รู้ว่าเจ้าโง่นี้ใช้แรงกระแทกนางมากแค่ไหน...มีหลายครั้ง ที่นางรู้สึกได้ว่า ในมิตินี้เหมือนสั่นไหวขึ้นมาราวกับวิญญาณของนางที่ถูกขังอยู่ในมิติ จะถูกดันกลับเข้าไปที่เดิมเลยจั๋วซือหรานถลึงตาโตขึ้นหน่อย จ้องมองมิติที่โยกไหวหน่อยๆรู้สึกหมดคำจะพูดแมงมุมน้อยงึมงำขึ้นมาข้างๆ "นายท่าน...ในนี้มัน...ร้อนจัง..."จั๋ซซือรหานมองไปทางเหล่าสัตว์อสูรของตนเอง มองออกไม่ยาก พวกมันเหมือนเริ่มมึนๆ จะหลับกันแล้ว พอเห็นแบบนี้ ก็เหมือนจะไม่ได้แตกต่างอะไรนักกับสถานการณ์ครั้งที่แล้วเพียงแต่ครั้งที่แล้ว ตนเองถูกทำจนเกือบจะสลบไปและตอนนี้ ตนเองถูกทำ...จนใกล้จะตื่นขึ้นมาแล้วผู้ชายคนนี้...ร้ายกาจจริงๆนี่มันช่าง....สัมผัสแนบเนื้อบนตัวนางมีเหงื่อบางๆ ชั้นหนึ่ง ผิวที่เคยขาวซีดไปทั้งตัว ตอนนี้พอมีเม็ดเหงื่อเกาะอยู่ จึงยิ่งดูเป็นประกายระยิบระยับขึ้นมาและไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน..."อือ..." หญิงสาวที่ไม่มีปฏิกิริยามาตลอด ริมฝีปากที่ยังมีรอยเลือดที่ยังเช็ดไม่สะอาด ส่งเสียงครางออกมาเหมือนลูกแมวตัวน้อยฟังดูแล้วเป็นเสียงอือๆ งึมงำๆน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1259

    ในใจจั๋วหวายเข้าใจอย่างหนักแน่นว่าเฟิงเหยียนคือผู้ชายทรยศแต่ว่านี่ไม่ได้เป็นอุปสรรคที่ทำให้เขาคิดว่าเฟิงเหยียนจะทำให้พี่สาวดีขึ้นได้คนเราก็มักมีสองมาตรฐานเช่นนี้ ไม่มีทางเลือกดังนั้นจั๋วหวายแม้จะไม่ได้เน้นหนักว่าผู้ชายทรยศคนนั้นคือผู้ชายทรยศ แต่ก็ยังถามขึ้นว่า "เขาจะพาพี่สาวข้าไปไหน?"ปันอวิ๋นได้ยินคำนี้ สายตาก็ลึกซึ้งขึ้นมา "นั่น...เป็นเรื่องของผู้ใหญ่เขา เด็กๆ ไม่ต้องถามเยอะ"จั๋วหวายเบ้ปาก ในใจก็บ่นว่าตนเองไม่ใช่เด็กแล้วเสียหน่อยแต่ปันอวิ๋นในที่สุดก็ไม่ได้บอกจั๋วหวาย ว่าเฟิงเหยียนจะพาจั๋วซือหรานไปที่ไหนในใจปันอวิ๋นชัดเจนดี สภาพของจั๋วซือหรานแย่หนักถึงระดับนี้แล้ว ขนาดยาก็ยังดื่มไม่ลงถ้าคิดจะใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ปลอบประโลมตัวนาง รวมถึงปลอบประโลมลูกในท้องนาง...วิธีการที่ดีที่สุด คือสิ่งนั้นอย่างไม่ต้องสงสัยสติสัมปชัญญะของจั๋วซือหรานไม่ได้หลับลึกอย่างสมบูรณ์ ในมิติยังสัมผัสรับรู้ได้ถึงสภาพแวดล้อมรอบๆความรู้สึกนั้น เหมือนกับสติสัมปชัญญะถูกขังอยู่ในมิติอย่างไรอย่างนั้นนางจึงเป็นได้เพียงแค่ผู้ชมเท่านั้น"เฮ้อ ดูท่าเขาจะใช้วิะีนั้นสินะ" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นขนมถั่วแดงกั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1258

    แต่ว่าชายหนุ่มยังคงไม่ตอบเขาเขาเพียงยกมือขึ้นมา สะบัดแขนเสื้อ เผยท่อนแขนออกมาจากในแขนเสื้อจั๋วหวายจึงเห็นว่าท่อนแขนของชายคนนี้ มีลายมัดกล้ามที่สวยงาม กระชับเรียวยาวผิวเองก็ขาวเย็น ไม่รู้ว่าเพราะปกติไม่ค่อยโดนแสงแดดหรือเปล่าและตอนนี้เอง ผิวหนังขาวเย็นที่โผล่ออกมานอกแขนเสื้อพอต้องกับแสงตะวัน จั๋วหวายก็รู้สึกเหมือนขาวจนสะท้อนแสงออกมาเลย!จากนั้น หลังจากสัมผัสกับแสง ก็ค่อยๆ รอยแผลเหมือนไฟลวกที่ค่อยๆ แดงขึ้น ก็ปรากฏมาบนท่อนแขนเขาไม่เพียงเท่านี้ หลังจากที่รอยไหม้เหล่านี้ปรากฏ ท่อนแขนเขาก็มีอักขระประหลาดบางส่วนปรากฏขึ้นมาอย่างรวดเร็วพออักขระคำสาปปรากฏ บาดแผลเผาไหม้พวกนั้นก็ถูกสะกดลงไป บาดแผลบนผิวหนังเริ่มสมานตัวกลับเหมือนเดิม หลังจากแผลสมานดี อักขระคำสาปเหล่านั้นก็ค่อยๆ สลายหายไปบนผิวหนังเขาแต่ไม่นานนัก ก็ปรากฏแผลไฟลวกอีกครั้ง อักขระเหล่านั้นก็ปรากฏขึ้นมาอีกซ้ำไปซ้ำมาแบบนี้ ดูแล้วทำให้คน...รู้สึกประหลาดมากจั๋วหวายมองจนบื้อไปเลยและชายหนุ่มก็ไม่ได้ใส่ใจกับแผลที่หายแล้วก็เกิด เกิดแล้วก็หายพวกนี้เลย ราวกับเหมือนมองไม่เห็นอย่างไรอย่างนั้นและก็เหมือนไม่ได้เจ็บได้ปวดเลย แม้ต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1257

    เหมือนว่าพอสายตามองเห็นหญิงสาวในอ้อมกอดปันปวิ๋นที่เหมือนลมพัดก็สลายหายไปได้ ตอนนั้นเอง สัมผัสทั้งหมดก็เหมือนหายวับไปในพริบตาดวงตามองไม่เห็นสิ่งใดอีกแล้ว หุเองก็ไม่ได้ยินเสียงอื่นใดอีกความรู้สึกเดียวที่เหลืออยู่คือความเจ็บปวดรุนแรงเหมือนมีดกรีดกลางใจ ไม่เพียงเท่านี้ สมองก็เหมือนถูกของมีคมกวนคนอย่างไรอย่างนั้น เจ็บขึ้นมาเป็นระยะๆยิ่งเจ็บ ก็ยิ่งอยากจะมองนางให้ชัดจเน ไม่อยากพลาดไปแม้แต่น้อยปันอวิ๋นพอเห็นร่างของเขา และกลิ่นอายนั่นบนตัวปันอวิ๋นในที่สุดก็ถอนใจโล่ง เขามาได้เสียที..."เจ้าหุบเขา?" ศิษย์สำนักข้างๆ ยังระแวดระวังอยู่ปันอวิ๋นบอกกับศิษย์สำนักเสียงเรียบว่า "เขาไม่ทำอะไรหรอก"ศิษย์สำนักพอได้ยินคำนี้ จึงถอนใจโล่งออกมา เพราะตอนที่พวกคนคุ้มกันขวางเขาเมื่อครู่มันเกินต้านแล้วจริงๆปรมาจารย์กู่อย่างพวกเขาเดิมทีก็แพ้ธาตุไฟอยู่แล้ว และชายคนนี้ก็เหมือนจะมีธาตุไฟระดับสูงด้วยพวกเขาไม่มีความสามารถจะไปทัดทานได้เลยปันอวิ๋นพอเห็นร่างสูงใหญ่ตรงหน้า ก็คิดในใจ ยังจะงงอะไรอยู่เล่า ถ้าเจ้ายังงงอยู่ หญิงสาวคนนี้จะไม่ไหวแล้วนะ!"โอ๊ค..." ในปากจั๋วซือหรานมีเลือดสดทะลักออกมาและมือข้างนั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1256

    ราวกับว่า...ต่อให้นางจะดูอ่อนแอเหมือนกดให้ตายได้ด้วยนิ้วเดียวแต่ยังคงไม่ยอมให้คนรู้สึกว่าอ่อนแอ ยังคงทำให้คนรู้สึกว่า ถ้าหากอยากจะเป็นศัตรูกับนาง ก่อนนางตายก็จะลากเจ้าลงนรกไปด้วยกันตอนนี้รอยยิ้มที่ดูเกียจคร้านไม่ใส่ใจ กลับยิ่งดูสงบนิ่งมั่นคงราวกับยกของหนักได้อย่างสบายนางเอ่ยขึ้นอย่างเกียจคร้าน "ใครจะรู้ล่ะ? อาจจะขาดหนูไม้ไผ่อยู่กระมัง"ปันอวิ๋นกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่พอได้ยินหนูไม้ไผ่สองคำนี้ เขาก็รู้แล้ว ว่าตอนที่เขาไปทิ้งจดหมายที่บ้านไม้ไผ่ นางก็เดาได้แล้วว่าเขาทำอะไรเพียงแต่ไม่ได้พูดออกมาเท่านั้นเป็นหญิงสาวที่เจ้าเล่ห์กว่าจิ้งจอกเสียอีกปันอวิ๋นจุ๊ปาก "เจ้านี่ถึงตายไป สมองก็คงจะแล่นอยู่อย่างนี้สินะ?"จั๋วซือหรานแค่เหลือบมองเขา ไม่ได้พูดอะไร มุมปากกลับยกโค้งขึ้นบางๆหลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง คิ้วนางก็ขมวดขึ้นบางๆ"ทำไมหรือ?" ปันอวิ๋นเห็นการเปลี่ยนแปลงของสีหน้านาง จึงขมวดคิ้วเดินเข้ามา สองมือประคองบ่านางไว้อันที่จริงเป็นเพราะเขาไม่ค่อยได้เห็นสีหน้าทรมานจากหน้านางนัก นางมักจะทำเป็นเหมือนไม่เป็นไรเสมอแต่ตอนนี้ บนสีหน้า กลับดูทรมานขึ้นอย่างชัดเจนจากนั้น นางก็เหมือนจะยืน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1255

    จั๋วหวายเกือบจะสำรอกออกมาแล้ว!"ถ้าจะอาเจียนก็ออกไปอาเจียนซะ ถ้าทำกู่กล่องนี้ของข้าพัง ข้าจะจับเจ้าแขวนห้อยหัวซะเลย" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นเสียงเรียบจั๋วหวายหมุนตัวพุ่งออกไป สูดลมหายใจลึกหลายครั้งกว่าจะสงบลงมาได้ จากนั้นจึงเตรียมตัวเตรียมใจ ตอนที่เข้าไปอีกครั้งก็ไม่มีกระทบกระเทือนอย่างแรงแบบก่อนหน้าแล้วแต่สายตากลับไม่ได้มองไปยังแผ่นกระดานที่มีของดิ้นกระแด่วๆ นั่นมองแล้วขนลุกสุดๆ"มีเรื่องอะไร?" ปันอวิ๋นถามขึ้นเสียงเรียบจั๋วหวายเอ่ยเสียงต่ำ "ท่านรู้..." เขาสูดจมูก ถามออกไปว่า "ท่านรู้จักเฟิงเหยียนใช่ไหม?"ปันอวิ๋นเดิมทีกำลังป้อนอาหารเจ้าพวกดุ๊กดิ๊กพวกนั้นพอได้ยินคำนี้ การเคลื่อนไหวก็หยุดลงมา ไม่หันไปมองเขา ผ่านไปครู่หนึ่งจึงถามขึ้นเรียบๆ ว่า "ทำไมล่ะ?""ข้าอยากเจอเขา ข้าอยากจะถามเขา ว่าทำไมทำแบบนี้กับพี่ของข้า" จั๋วหวายขอบตาแดงรื้นเขาสูดหายใจลึกแล้วพ่นออกมา "ข้าเองก็อยากจะถามเขา ว่าช่วยพี่ข้าได้ไหม ถ้าหากไม่ได้ หรือก็คือเขาเป็นผู้ชายทรยศ ไม่ยินยอม เช่นนั้นเขามาบอกกับท่านพี่ได้ไหม ว่าให้เลิกแล้วต่อกันจบๆ ไป"ปันอวิ๋นพอได้ยินคำนี้ จะฟังความเสียใจในใจจั๋วหวายไม่ออกได้อย่างไรกั

Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status