แชร์

บทที่ 84

ผู้เขียน: หูเทียนเสี่ยว
ผู้อาวุโสใหญ่ พูดอย่างใจเย็น "ยังมีทาสอยู่ในคุก เดิมทีนางเป็นทาสของเสียวจิ่ว แต่นางเป็นคนโง่ที่ทรยศ ซึ่งติดสินบนได้ง่าย นางคงเป็นคนที่มีจิตใจที่ไม่เข้มแข็ง ไม่สามารถทนการลงโทษใด ๆ ได้"

เมื่อคุณท่านจั๋วลิ่วได้ยินคำพูดของผู้อาวุโสใหญ่ สีหน้าของเขาแข็งทื่อและทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าพฤติกรรมก่อนหน้านี้ของเขาแสดงว่าเขากำลังกินปู้ร้อนท้อง

เขายิ้มแห้ง ๆ และอธิบาย "ข้าใจร้อน เป็นเพราะข้าเป็นห่วงลูกของข้าเอง หวังว่าเหล่าท่านผู้ใหญ่จะเข้าใจคนที่เป็นพ่อ..."

เหล่าผู้อาวุโสเข้าใจชัดเจนมาก แต่พวกเขาไม่มีเวลาพูดเรื่องไร้สาระกับเขาในขณะนี้

พวกเขาตัดสินใจสอบสวนเรื่องที่จั๋วซือหรานถูกวางยาพิษกู่ อย่างละเอียด และเริ่มสอบสวนจากหลิ่วเย่ ซึ่งผู้ทรยศเจ้านาย

ส่วนทางจั๋วซือหราน เหล่าผู้อาวุโสตัดสินใจจะเตรียมของขวัญที่ล้ำค่าและให้คนส่งไปที่จวนของจั๋วซือหราน เพื่อแสดงความยินดีกับนางที่สอบติดแพทย์กลั่นยา

หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสใหญ่มองคุณท่านจั๋วลิ่ว

ดวงตาของเขาเคร่งขรึมอยู่เสมอ แต่ในขณะนี้ ดวงตาของเขาแหลมคมมาก ซึ่งทำให้คุณท่านจั๋วลิ่วรู้สึกหนังศีรษะตึงเครียด

“จั๋วเห้อหรง” ผู้อาวุโส
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 85

    คนรับใช้ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แต่เขาก็ยังตอบว่า "สอง สองแส้ขอรับ"จั๋วซือหรานเลิกคิ้ว “ข้าต้องรับตั้งเก้าเส้นโดยไม่มีข้อยกแว้น…” นางพูดเช่นนี้ ดูเหมือนนางไม่ได้ถามจงใจ จากนั้นยกรายการของขวัญในมือขึ้นและพูดต่อ “ข้าได้รับของขวัญแล้ว ฝากขอบคุณผู้อาวุโสทุกท่าน”คนรับใช้ยังคงตกตะลึงอยู่ เขาถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า " คุณหนูจิ่ว ท่านไม่... กลับไปหรือ"เดิมทีเขาได้ยินจากผู้อาวุโสว่า ส่งของขวัญเหล่านี้มาที่นี่ จั๋วซือหรานจะกลับไปที่จวนจั๋ว เพื่อขอบคุณสำหรับการส่งของขวัญแก่นาง ดังนั้นผู้อาวุโสให้พวกเขาเตรียมเกี้ยวนุ่ม ๆ มาที่นี่ เพื่อพา จั๋วซือหรานกลับไปโดยไม่คาดคิด นางไม่มีความตั้งใจที่จะกลับไปเลยหรือจั๋วซือหรานมองคนรับใช้ นางยิ้มและพยักหน้า "ใช่สิ ข้าควรกลับไปที่ไหน ข้าถอนตัวออกจากสำนักงานใหญ่ของตระกูลแล้ว วันนี้คุณท่านลิ่วยังประกาศต่อสาธารณะว่า ข้า จั๋วซือหราน ไม่มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลจั๋วอีกต่อไปแล้ว ที่ที่ข้าอยู่ในตอนนี้คือบ้านของข้า ข้าควรไปที่ไหนอีก”คนรับใช้ดูลำบากใจมาก แต่เขาไม่มีสิทธิ์พูดอะไรมากมายคนรับใช้รู้ด้วยว่า เขาพูดอะไรไม่ได้อีกแล้ว หากเขาทำให้นางขุ่นเคือง เขานี่แหล

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 86

    ซือคงเซี่ยนเลิกคิ้วแล้วพูดว่า "อ้าว อย่างนี้หรือ เช่นนั้น เราไปกันเถอะ"จั๋วซือหรานหัวเราะ จากนั้นนางมองไปที่คนรับใช้ของจวนจั๋วที่อยู่ข้าง ๆ ด้วยสายตาที่แผ่วเบานางสั่ง“ที่นี่ไม่มีอะไรแล้ว พวกเจ้ากลับไปก่อนได้”คนรับใช้ยังอยากพูดอะไรอีก แต่พวกเขาไม่กล้าพูดอะไรเนื่องจากท่านอ๋องเซี่ยนอยู่ที่นี่เขาเพียงพูดด้วยความกลัว“ขอรับ คุณหนูจิ่ว เราจะกลับไปรายงานขอรับ พวกเราจะไม่รบกวนคุณหนูจิ่วอีกแล้วขอรับ”หลังจากคนรับใช้ออกไป จั๋วซือหรานจึงเดินตามซือคงเซี่ยน และออกจากจัวนไปยังพระราชวังซือคงเซี่ยนอดไม่ได้ที่ต้องหัวเราะแล้วพูดว่า " คุณหนูจิ่ว สรุปเจ้าจะไปพบเสด็จย่าเสียจริง หรือเจ้าไปเยี่ยมเสด็จย่าเพื่อรับของขวัญที่ข้าเตรียมให้คุณ หรือว่าเจ้าแค่จะหลบพวกคนที่น่ารำคาญในเมื่อครู่”ดวงตาของจั๋วซือหรานเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวเหมือนพระจันทร์เสี้ยว นางถามว่า "ท่านอ๋องคิดอย่างไร"ซือคงเซี่ยนมองดูนางแล้วพูดว่า "ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การแสดงของคุณหนูจิ่วในวันนี้น่าทึ่งมาก เดิมทีข้าอยากไปที่ชมที่นั่นด้วยตัวเอง แต่ข้ากลัวว่า คนอื่นจะคิดว่าแม้แต่ราชวงศ์ก็ดูถูกเจ้า ข้าจึงต้องอดทน ไม่กล้าไปที่นั่น คุณหนูจิ่วอย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 87

    ไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากได้ยินคำนี้ แม้ว่านางจะได้รับคำชมในเรื่องความหน้าตาดี แต่คำว่า ความสวยงามเต็มไปด้วยการยั่วยุ ถึงแม้จะเป็นคำชม แต่มักไม่ได้ใช้กับผู้หญิงสูงศักดิ์ในเมืองหลวง แต่ใช้กับผู้หญิงที่ทำอาชีพที่ไม่ดีทันทีที่จั๋วซือหรานได้ยินเสียงนี้ นางก็เดาได้แล้วว่าใครคือเจ้าของเสียงนั้นนางหันกลับไปมองผู้ที่เดินมา ทำท่าเคารพเล็กน้อยและพูด "ขอ คารวะอ๋องชินเพคะ"ซือคงยวี่มองใบหน้าของนาง และดวงตาของเขาก็ค่อย ๆ ร้อนขึ้นว่ากันว่าลูกสาวคนที่เก้าของตระกูลจั๋วมีหน้าตาที่โดดเด่นและมีชื่อเสียงไปทั่วเมืองหลวงแต่ซือคงยวี่ไม่เคยมีโอกาสเจอนาง จนกระทั่งเขาเห็นด้วยตาของเขาในขณะนี้ เขาจึงจะรู้ว่า จั๋วซือหรานสวยขนาดไหนและสะเทือนใจขนาดไหนซือคงเซี่ยนยืนอยู่ข้าง ๆ เขารู้ดีว่าเสด็จพี่คนที่ห้าของเขาเป็นคนเช่นใดเขาขมวดคิ้วเบา ๆ อย่างไม่เหลือร่องรอย แต่ยังคงเรียกด้วยเสียงต่ำว่า "เสด็จพี่ห้า"ซือคงยวี่เหลือบมองเขา ดวงตาของเขาเย็นชาเล็กน้อย "ทำไมเจ้าถึงมาอยู่กับคุณหนูจั๋วจิ่ว "ซือคงเซี่ยนยังไม่ทันตอบ ซือคงยวี่หัวเราะเบา ๆ แล้วพูดว่า "โอ้ เพราะต้องไปรักษาอากรให้เสด็จย่าใช่ไหม"หลังจากจั๋วซือหรานได้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 88

    “เจ้าอย่ากังวล แม้ว่าตอนนี้เจ้าไม่สามารถรับทรัพยากรที่ดีของ ตระกูลจั๋วได้อีกต่อไป แต่เจ้าเป็นแพทย์กลั่นยา และเจ้าได้รักษาเสด็จย่า ซึ่งถือได้ว่าเป็นความกรุณาต่อราชวงศ์ ในอนาคต ข้าจะหนุนหลังให้เจ้าเอง"“หม่อมฉันขอบพระคุณท่านอ๋องชินเพคะ” จั๋วซือหรานกล่าวขอบคุณอย่างแผ่วเบา “เช่นนั้นหม่อมฉันขอตัวไปรักษาไทเฮากับท่านอ๋องก่อนเพคะ ดังนั้นหม่อมฉันขอไม่รบกวนท่านอ๋องชินอีกเพคะ”“เอาล่ะ เจ้ากับน้องเจ็ดรีบไปกันเถิด เดี๋ยวข้าจะให้คนเอาของขวัญเหล่านั้นไปที่จวนของเจ้าเอง”ซือคงยวี่พูดไป ดูเหมือนเขานึกถึงอะไรบางอย่าง เขาพูดเสริม"อ้าว ใช่แล้ว อีกไม่กี่วันจะมีงานเลี้ยงในสวนบ้านข้า เจ้ามาร่วมงานด้วยเลย"จั๋วซือหรานไม่รับปากทันที แต่นางพูดแบบขอไปที "หากหม่อมฉันไม่ติดธุระใด ๆ หม่อมฉันจะไปร่วมงานแน่ ๆ เพคะ"หลังจากบอกลาซือคงยวี่แล้ว นางและซือคงเซี่ยนก็เดินไปที่พระราชวังรอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าของจั๋วซือหรานในเมื่อก่อนจางหายไปทันที ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความเย็นชา และดูเหมือนนางอารมณ์ไม่ดีซือคงเซี่ยนสังเกตการเปลี่ยนแปลงในชั่วขณะของนาง เขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขาอดไม่ได้ที่ต้องถาม"เป็นอะไรหรือ แม่น

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 89

    เป็นงานดอกไม้ที่จัดขึ้นเพื่อซือคงยวี่ ความหมายยังไม่ชัดเจนอีกหรือนั่นเป็นงานที่ถูกจัดขึ้นมาเพื่อให้เขาเลือกแม่นางที่สวยงามเขายังไม่ได้เป็นฮ่องเต้เลย แต่ตอนนี้ ลักษณะของงานดอกไม้ดูเหมือนฮ่องเต้คัดนางงามมันน่าหมั่นไส้จริง ๆจั๋วซือหรานขมวดคิ้วแน่น นางไม่ได้พูดอยู่พักหนึ่งซือคงเซี่ยนคิดว่านางโกรธ ดังนั้นเขาจึงแนะนำว่า "ไม่เป็นไร หากเจ้าไม่อยากร่วมงานเช่นนี้ เจ้าไม่ไปก็ได้ ข้าจะหนุนหลังนางเอง"เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง จั๋วซือหรานจึงกัดฟันและพูดด้วยความโการธ"ข้าต้องวิจัยสูตรยาเม็ดของซือหลี่ตันติ่งให้เร็วที่สุด"เมื่อซือคงเซี่ยนได้ยินคำพูดนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่ต้องตัวสั่น เขาถามอย่างระมัดระวัง “แล้วอย่างไรต่อล่ะ”จากนั้นเขาก็ได้ยินจั๋วซือหรานพูดอย่างโกรธ "อย่างไรต่อหรือ แน่นอนว่ามันจะใช้กับคนที่ควรใช้"จั๋วซือหรานอยากรู้ว่า ถึงเวลานั้น ซือคงยวี่จะยิ้มอย่างลามกเหมือนเมื่อครู่นี้ได้หรือไม่ใกล้จะถึงตำหนักหย่งโซ่วแล้ว จั๋วซือหรานรีบปรับสีหน้าของนางนางทราบดี ทั้งท่านอ๋องเซี่ยนและนางต่างไม่อยากไทเฮารู้เมื่อครู่นี้ ข้างนอกเกิดอะไรขึ้นพระวรกายของไทเฮายังไม่ฟื้น และพลังชีวิตของนางได้รับค

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 90

    จั๋วซือหรานเหลือบมองซือคงเซี่ยน ซึ่งอยู่ไม่ไกล แล้วกระซิบกับ ไทเฮา ว่า "ไทเฮาอย่ากังวล หม่อมฉันจะช่วยท่านอ๋องเซี่ยนเพคะ"ไทเฮาหัวเราะและค่อย ๆ โบกมือเรียกจั๋วซือหรานจั๋วซือหรานสับสนเล็กน้อย แต่นางก็ยังเข้าไปข้างหน้าไทเฮาโน้มตัวเข้าหูนางแล้วกระซิบว่า " แม่นางจิ่ว เจ้าชอบทายาทของตระกูลเฟิงจริง ๆ ขนาดนั้นหรือ หากเพียงเพราะสัญญาการแต่งงานระหว่างตระกูลต่าง ข้าสามารถออกหน้าออกตาให้"จั๋วซือหรานได้ยินคำพูดนี้ นางรู้สึกสับสนเล็กน้อย ออกหน้าออกตาหรือ ออกหน้าออกตาอะไร นางคิดในเอง เป็นไปได้ไหมว่า ออดหน้าออกตาเพื่อให้นางหมั้นกับเฟิงเหยียนอีกครั้งจั๋วซือหรานไม่ทันพูดต่อ ไทเฮาพูดต่อ“ออกหน้าออกตาเพื่อยกเลิกการหมั้นระหว่างเจ้ากับเฟิงเหยียน จากนั้นเจ้าจะได้อยู่กับเซี่ยนเอ๋อร์ของเรา”จั๋วซือหรานตกตะลึง นางไม่เคยคิดว่า ไทเฮาจะมีความคิดเช่นนี้ แต่ก็ไม่น่าแปลกใจเลยโดยทั่วไป ราชสำนักจะไม่อยู่ร่วมกับตระกูลขุนนางประการแรก ราชวงศ์กลัวตระกูลขุนนางจะมีอำนาจมากเกินไป หากสายเลือดของตระกูลขุนนางแทรกซึมเข้าสู่สายเลือดราชวงศ์ นั่นจะทำให้ราชวงศ์ยิ่งหวาดกลัวมากขึ้นแต่จั๋วซือหรานไม่เหมือนคนอื่น มองจาก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 91

    ใบหน้าหล่อเหลาที่ปกคลุมไปด้วยหน้ากากรูปแบบเปลวไฟกำลังขมวดคิ้วอยู่ในขณะนี้ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงวุ่นวายราชวงศ์อยู่เสมอ ตระกูลชนชั้นสูงมีความห่างเหินโดยธรรมชาติและไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการแย่งชิงของราชวงศ์ เพื่ือจะไม่ทำให้ตัวเองเดือดร้อนโดยพื้นฐานแล้วทุกคนในตระกูลชนชั้นสูงต่างก็ตระหนักดีถึงเรื่องนี้ ดังนั้นแม้ว่าพวกเขาได้ติดต่อกับราชวงศ์อย่างลับ ๆ พวกเขาก็ต้องรักษาระยะห่างและความเหมาะสมภายนอกแต่นางกลับเปิดให้คนอื่นเห็นในเวลากลางวันแสกๆ เดินเข้าออกวังแทบจะพักในนั้นเลยในความเป็นจริง หากต้องหาเหตุผลที่ทำไมจั๋วซือหรานถึงเข้าไปเกี่ยวข้องกับราชวงศ์ตั้งแต่แรก นั่นจะเป็น'ผลงาน'ที่จั๋วหรูซินสร้างมาในงานดอกไม้ของพระราชวังเรื่องนี้ไม่ได้เป็นความลับดังนั้นเฟิงเหยียนอาจไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงรู้สึกหงุดหงิดอย่างอธิบายไม่ถูกเมื่อรู้ว่านางมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับราชวงศ์เจ้าหน้าที่ของหน่วยสืบสวนพิเศษมีหน้าที่รับผิดชอบในการติดตามจั๋วซือหรานเท่านั้นและรายงานที่อยู่และการเคลื่อนไหวของนาง พวกเขาไม่ทราบเรื่องต่าง ๆ ของจั๋วซือหรานเพียงแต่เขาสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงรัศมีของใต้เท้าได้อย่างชัดเจน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 92

    จ้านหลูคิดอยู่พักหนึ่ง เขาอดไม่ได้ที่ต้องถามอีกครั้งว่า "เช่นนั้น... มันเป็นในนามของใต้เท้าหรือในนามของซื่อจื่อขอรับ"หากส่งของขัวญไปในนามของหน่วยสืบสวนพิเศษ ก็ไม่ใช่เป็นไปไม่ได้ เพราะ จั๋วซือหรานสอบติดแพทย์กลั่นยาในหน่วยสืบสวนพิเศษแต่ชายบนเบาะนั่งคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึกว่า "ตัวเลือกอันหลัง"“รับทราบ“......จั๋วซือหรานออกมาวัง เมื่อนางกลับมาที่จวนของนางนางเห็นฝูซูกำลังทำหน้าเคร่งขรึมที่ห้องโถงด้านหน้า“เป็นอะไร” จั๋วซือหรานเดินเข้ามาเมื่อนางเดินเข้าไป นางจึงสั่งเกตนอกจากฝูซู ยังมีคนอีกสองคนยืนอยู่ที่ห้องโถงด้านหน้าจั๋วซือหรานเลิกคิ้ว นางทราบตัวตนของพวกเขาคนหนึ่งสวมเสื้อผ้าของคนรับใช้ของจวนอ๋องชินยวี่ และส่วนอีกคนสวมเสื้อผ้าของคนรับใช้ของจวนเฟิงฃคนรับใช้ของจวนอ๋องชินยวี่มาเยี่ยมบ้าน จั๋วซือหรานรู้สึกไม่แปลกใจแต่จวนเฟิงหรือสีหน้าของจั๋วซือหรานไม่มีการเปลี่ยนแปลง นางมองพวกเขาอย่างสงบคนรับใช้ขอจวนอ๋องชินยวี่ทำความเคารพแก่จั๋วซือหรานและกล่าวว่า " ขอแม่นางจิ่วมีสุขภาพที่ดี ข้าได้รับคำสั่งจากอ๋องชิน อ๋องชินให้ข้านำของขวัญมาส่งถึงจวนของแม่นางจิ่ว เพื่

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1078

    หลงเฉินเนื่องจากร่างกายแบกพลังมังกรหนามม่วงไว้ แต่สิ่งที่ต้องนำมาสะกดนั้นตรงข้ามกับเฟิงเหยียนหลงเฉินเป็นประเภทที่ต้องพึ่งพาคุณสมบัติต่อพิษ ถ้าหากไม่มีการหาสิ่งที่พิษ พิษของมังกรหนามม่วงในร่างกายก็จะเริ่มทำร้ายตนเองอันที่จริงถ้าหากจั๋วซือหรานอยู่ที่นี่แล้วมีปฏิกิริยากับเนื้อหาที่เฟิงเหยียนพูดมาล่ะก็ คงจะมีคำจำกัดความให้อย่างรวดเร็วว่า:นี่มันก็เหมือนกับติดยาเสพติดนี่นาสถานการณ์ของหลงเฉินตอนนี้เป็นเช่นนี้จริงๆ"เพราะที่พรมแดนใต้มีสิ่งมีพิษอยู่มากกว่า" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้น "แต่ก่อน บางทีท่านก็หายไประยะหนึ่ง บอกว่าตนเองปิดด่าน หลังจากกลับมาสีหน้ากับสภาพก็ไม่ค่อยสู้ดีนักตอนนี้พอคิดๆ ดู ท่านก็น่าจะไปเอาสิ่งมีพิษมาใช้ประโยชน์กับตัวเองสินะ...ท่านอยู่แค่ในป่านี้ ก็เพราะที่นี่มีหมอกพิษข้าเดาว่าท่านคิดจะสูดรับหมอกพิษเหล่านี้แล้ว ค่อยไปยังใจกลางหมอกพิษเอาสมบัติที่ก่อหมอกพิษหนาแน่นนี้มาใช้ประโยชน์กับตนเองและสาเหตุที่ก่อนหน้านี้ท่านลงมือกับสัตว์อสูรของจั๋วเสียวจิ่ว ก็น่าจะเพราะแมงมุมตัวนั้นไปพบกับสมบัติที่ใจกลางหมอกพิษ แล้วกำลังจะเก็บมันมาสินะยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นเพราะ แมงมุมตัวนั้นก็เ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1077

    เฟิงเหยียนหลังจากพูดคำนี้ ก็ได้เห็นสีหน้าหลงเฉินเปลี่ยนเป็นเย็นชากับปั้นยากอย่างที่หวังเอาไว้ชั่วพริบตา เฟิงเหยียนก็รู้สึกสุขล้นขึ้นมาก่อนหน้านี้อันที่จริงเขาไม่ใช่คนนิสัยแบบนี้ หลายครั้ง ที่เขาขี้เกียจจะไปคิดเล็กคิดน้อยกับคนอื่นการพูดจาแทงใจดำคนอื่นเช่นนี้ เป็นความสามารถของจั๋วซือหรานนางเหมือนจะมีความสามารถที่พูดแค่ไม่กี่คำ ก็ทำให้คนอื่นโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงได้และเฟิงเหยียนในตอนนี้ ก็เหมือนจู่ๆ เข้าใจถึงความสุขนั้นขึ้นมาแล้ว?ถึงอย่างไร พอเห็นคนที่ไม่ชอบหน้า เห็นสีหน้ากับหน้าตาที่ปั้นยากนั่นในใจก็รู้สึกเป็นสุขมากกว่าธรรมดา"หญิงสาวคนนั้นบ้าบิ่นหยิ่งยโสนัก" เสียงของหลงเฉินเอ่ยขึ้นมาโดยไม่เหลือความอบอุ่น "ดูท่าก่อนหน้านี้ข้าจะใจดีไป ถึงได้ปล่อยนางหนีไปกับเจ้า""องค์กรเดิมทีก็คิดจะกำจัดนางอยู่แล้ว ข้าเห็นแก่หน้าเจ้าหรอกนะ ถึงไม่ได้ทำอะไรนาง" หลงเฉินยิ้มเย็นชา "แต่นี่ก็ไม่รู้ผิดชอบชั่วดีจริงๆ จัดการนางทิ้งน่าจะดีกว่า"เฟิงเหยียนเหลือบมองเขาผาดหนึ่ง "ท่านอย่ามาทำเป็นแข็งกร้าวนักเลย""โอ๋?" หลงเฉินมองเขา "ข้าแข็งกร้าวเรอะ?"เฟิงเหยียนเอ่ยเสียงเรียบ "ถ้าท่านรีบออกจากป่านี้ เ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1076

    ท้ายสุดก็ยังไม่สามารถให้อภัยได้ สักนิดก็ไม่ได้ ดังนั้นจึงตัดความสัมพันธ์กับอาจารย์ แยกทางกับพี่น้องไปเขาสูงทะเลกว้าง ราวกับไม่มีวันได้พบกันอีกชั่วระยะเวลาหนึ่ง เหล่าพี่น้องล้วนรู้สึกว่าเขาทำผิดไปแต่เฟิงเหยียน ทุกคนล้วนยอมรับว่าเขาเป็นคนที่ดื้อรั้น แม้ว่าจะผิด แต่เขาก็ยืนยันที่จะเดินไปจนถึงที่สุดแต่ว่า...หลังจากนั้นล่ะแล้ว...ตอนนี้ล่ะ?เฟิงเหยียนมองเรียบๆ ไปเบื้องหน้า...มองไปยังอดีตอาจารย์ที่เคยเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ๋ในสายตาเขาเสียงของเฟิงเหยียนไม่ได้เย็นชาอะไร หรือห่างเหินโกรธแค้นอย่างไรมีแต่ความสงบความสงบที่ไม่มีอาการขึ้นลงของอารมณ์ดวงตาที่เฟิงเหยียนมองหลงเฉิน ถามขึ้นเสียงเรียบว่า "พวกเขาเคยบอกว่าข้าทำผิด พวกเขาล้วนคิดว่า ท่านแค่ทำเพื่อข้า เป็นข้าที่ไม่รู้ผิดชอบชั่วดี เป็นข้าที่ทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่""แต่พวกเขาตอนนี้ ไปอยู่ที่ไหนกันแล้ว?" เฟิงเหยียนถามขึ้นหลังจากนั้น ความสงบที่อบอุ่นบนหน้าหลงเฉิน ก็เหมือนพังทลายลงในพริบตา เผยให้เห็นความมืดมนราวกับถูกย่ำลงไปบนจุดเจ็บอย่างไรอย่างนั้นศิษย์เหล่านั้นที่เคยรายล้อมอยู่รอบตัวเขา ทุกวันเหมือนเต็มไปด้วยความสดใสมีชีวิตชีวา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1075

    จะเรียกว่าเยี่ยนหรานหรือว่าเฟิงเหยียนก็ได้ทั้งนั้น แต่คำว่าศิษย์นั้นไม่ได้เขาตัดขาดความสัมพันธ์กับหลงเฉินไปแล้ว และไม่ใช่ศิษย์ของเขานานแล้วหลงเฉินได้ยินเขาพูดเช่นนี้ ก็ฟังออกถึงความหมายของเขาจึงหัวเราะเสียงต่ำขึ้นมา "เป็นเด็กดื้อจริงๆ มิน่าตอนนั้นอวิ๋นเอ๋อร์กับเซิ่นเอ๋อร์ถึงได้ทะเลาะกับเจ้า"พอได้ยินสองชื่อนี้ มุมปากเฟิงเหยียนก็เม้มแน่นขึ้นมาตอนนั้นศิษย์ที่อยู่ใต้สังกัดของหลงเฉินไม่ใช่มีแค่เขา แต่ยังมีศิษย์คนอื่นอยู่ด้วยแม้เขาจะนิสัยค่อนข้างเย็นชา แต่เพราะพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยม จึงได้รับความโปรดปรานจากหลงเฉินมากศิษย์คนอื่น แม้อันที่จริงตอนนั้นจะมีความผูกพันธ์ฉันท์พี่น้องลึกซึ้ง แต่ในกลุ่มเด็กหนุ่มที่ชอบแข่งขัน ก็ย่อมมีคนอิจฉาที่เขาได้ความรักจากอาจารย์มากที่สุดในกลุ่มเด็กหนุ่ม ไม่มีความแค้นฝังลึกอะไรแบบนั้น ก็แค่อิจฉาริษยาเท่านั้น ทะเลาะกันสักยกก็จบเรื่องแต่เฟืงเหยียนไม่ว่าจะสู้กับคนอื่นอย่างไร ก็ไม่เคยก้มหน้าให้ดื้อแพ่งสุดๆและต่อมา ในที่สุดเขาก็ตระหนักได้ ว่าตนเองถูกอาจารย์รังแก ถูกทรยศมาตลอดเหตุผลตั้งแต่ต้นจนจบ ก็แค่เพราะเข้าเหมาะที่จะเป็นภาชนะหงส์แดงมากที่สุดเท่า

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1074

    เพียงแต่ว่า ถ้าจะให้พูดจริงๆ เฟิงเหยียนเองก็อาจจะไม่รู้ว่าเพราะอะไร หลังจากออกเมืองหลวงมาก็อยากจะติดตามหญิงสาวคนนั้นทั้งที่จำไม่ได้แล้วแท้ๆ ทั้งที่ตัดสินใจจะขีดเส้นคั่นแล้วแท้ๆแต่ก็ยังตามนางมาเพราะรู้ว่านางระแวดระวังแค่ไหน ก็เลยใช้วิะีการแปลงโฉมที่เป็นเอกลักษณ์ และไม่เข้าใกล้นางอยู่ตลอด จนกระทั่งนางเข้ามาในป่าทวนแสงนี้พอมาถึงพื้นที่ป่าที่หมอกพิษหนาทึบ สัมผัสของคนเราก็จะอ่อนแอลง ตอนนี้จึงร่นระยะเข้าใกล้ขึ้นมาและเพราะเหตุนี้ จึงได้มองออกถึงหลงเฉิน...ภาชนะมังกรหนามม่วงตั้งแต่แรกเห็นหลงเฉินเป็นอาจารย์ของเขา หนึ่งในภาชนะสัตว์เทพที่สภาผู้อาวุโสรวบรวมเข้ามาตอนนั้นที่สภาผู้อาวุโสให้หลงเฉินได้เจอกับเขา สั่งสอนเขา ให้เขาพึ่งพาศรัทธาเป็นอาจารย์ เป้าหมายหลักๆ แล้ว อันที่จริงก็คือแบบนั้นสภาผู้อาวุโสหวังจะรวบรวมภาชนะหงส์แดงเข้ามา เพียงแต่เนื่องจากตระกูลเฟิงเจ้าเล่ห์เกินไป เพื่อรับประกันว่าตระกูลตนเองยังสามารถใช้ประโยชน์พลังของสัตว์เทพได้ จึงใช้มันออกมาแทบทุกวิถีทางไม่ว่าจะพันธนาการดวงวิญญาณของสัตว์เทพ หรือลงมือกับภาชนะสัตว์เทพอย่างเขาดังนั้นสภาผู้อาวุโสจึงทำไม่สำเร็จ ดังนั้นจึงทำ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1073

    เหล่าสัตว์ประหลาดในใจก็บริสุทธิ์มากๆ ความเชื่อมั่นและการพึ่งพาต่อจั๋วซือหรานของพวกมันดังนั้นพอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน จึงรู้สึกว่าจั๋วซือหรานเหมือนน้อยเนื้อต่ำใจอย่างไรอย่างนั้นขนมถั่วแดงเอ่ยขึ้นฮึดฮัด "ใครกล้ามารังแกนายท่านของข้า? ข้าจะไปจัดการเขาคนแรกเลย!""ข้าคนที่สอง..." ขนมมะม่วงเอ่ยขึ้นเสียงอ่อย"ข้าคนที่สาม...""ข้าคนที่สี่...""..."อารมณ์จั๋วซือหราน เหมือนถูกเจ้าก้อนเนื้อพวกนี้แหย่ให้ดีขึ้นมาพอควรนางยื่นมือไปจับสองตัวเข้ามา นวดคลึงไว้ในมือเหมือนกับคนแก่คลึงบอลเพื่อสุขภาพนวดไปด้วยก็เอ่ยขึ้นด้วยเสียงหัวเราะ "มีพวกเจ้าอยู่ข้าก็อารมณ์ดีแล้ว ถ้าอารมณ์ไม่ดี พวกเราก็ไปหาคนกับหาเรื่องระบายให้ดีก็พอแล้ว"ราชาแมงมุมหน้าผีได้ยินน้ำเสียงของจั๋วซือหรานเหมือนดีขึ้นมาไม่น้อย จึงผ่อนลมลงมา "ได้ ข้าจะไปสั่งสอนเจ้าพวกตระกูลเหอนั่นพร้อมนายท่านเลย""ใช่เลย" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น "พูดถึงตระกูลเหอ...ไอ้ของที่ข้าโยนเข้ามาในมิติเมื่อครู่ล่ะ?"เดิมทีน่าจะเป็นของที่น่าสนใจอยู่ แต่ดันถูกเจ้ามนุษย์กิ้งก่านั่นมาขัด นางจึงลืมไปเลย ตอนนี้เพิ่งจะนึกออกหุ่นเชิดตัวนั้นล่ะ?ราชาแมงมุมหน้าผียื

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1072

    จั๋วซือหรานคิดๆ "ไม่รู้ว่าจะเรียกอย่างไรดี?" นางยิ้มตาโค้ง "ในอนาคตข้าจะหาวิธีตอบแทนเจ้าแน่"ชายหนุ่มนิ่งงันไปครู่หนึ่ง เอ่ยเสียงต่ำออกมาคำหนึ่ง "เยี่ยนหราน""เยี่ยนหราน?" จั๋วซือหรานรู้สึกไม่ค่อยเหมาะสม ตนเองทำแบบนี้ก็ไม่ค่อยมีมารยาท จึงยื่นมือไปตรงหน้าเขา "สองตัวอักษรไหนหรือ?"ชายหนุ่มเห็นนางยื่นฝ่ามือขาวนวลมาตรงหน้า สายตานิ่งงันไปครู่หนึ่งมุมปากยกขึ้น ค่อยๆ ยกมือขึ้นมา มือข้างหนึ่งประคองหลังมือนาง นิ้วของมืออีกข้างก็วาดลงไปเบาๆ บนฝ่ามือนาง"คำว่าเยี่ยนที่แปลว่าสงบ หรานที่แปลว่าเผาไหม้" ชายหนุ่มเอ่ยตอบเขาชะงักไป เหมือนนึกอะไรออกขึ้นมา ถามว่า "แม่นางชื่อว่าอะไรหรือ?"จั๋วซือหรานมองเขาอย่างครุนคิด ดวงตาลึกซึ้งขึ้นมาแต่ว่าสีหน้าของชายคนนี้ ก็ไม่ได้เปลี่ยนไปมากนักจั๋วซือหรานจึงตอบว่า "สกุลจั๋ว จั๋วซือหราน ยินดีที่ได้รู้จัก" ในดวงตาของนางมีรอยยิ้มที่ดูลึกลับ "เช่นนั้นพวกเราก็มีวาสนากันสินะ มีชื่อหรานด้วยกันทั้งคู่"ชายหนุ่มไม่พูดอะไรมาก เพียงเอ่ยขึ้นว่า "ในป่านี้อันตราย เจ้ารีบออกจากที่นี่จะดีที่สุด ไม่รู้ว่าเจ้านั้นถ้าตั้งตัวแล้วหาที่นี่เจอ คงได้วุ่นวายกันพอดี"จั๋วซือหราน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1071

    "ความหมายของเจ้าคือ มนุษย์กิ้งก่าเมื่อครู่นี้..." จั๋วซือหรานเรียกว่าคำว่า 'มนุษย์มังกร' ออกมาไม่ได้จริงๆ นางเอ่ยต่อว่า "บนตัวถูกปิดผนึกพลังของมังกรหนามม่วงไว้หรือ?"และเหมือนเพราะนางตอบสนองได้รวดเร็ซ สายตาของชายหนุ่มที่มองไปทางนาง ก็พยักหน้าให้อย่างชื่นชม"พวกองค์กร...ที่มีพลังค่อนข้างลึกล้ำบางส่วน จะรวบรวมพลังพวกนี้ไว้" ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น "เลี้ยงคนแบบนี้เอาไว้ในองค์กร เหมือนกับชุบเลี้ยงอาวุธไว้นั่นล่ะ เป็นดาบที่ใช้การได้ดีเลยทีเดียว"พริบตาที่ได้ยินคำนี้ จั๋วซือหรานก็อดคิดไปถึงสภาผู้อาวุโสนั่นไม่ได้นางขมวดคิ้ว ครุ่นคิด แล้วก็ยังถามขึ้นว่า "ถ้าพลังแข็งแกร่งพอล่ะก็ ยังถูกพวกองค์กรพวกนี้ควบคุมได้อีกหรือ?"ชายหนุ่มไม่ได้พยักหน้าและส่ายหัวให้กับคำพูดนี้ของจั๋วซือหราน หลังจากที่ชะงักไปเล็กน้อย จึงเอ่ยขึ้นว่า "องค์กรที่พลังลึกล้ำเช่นนี้ ก่อนที่จะทำให้คนเหล่านี้เปลี่ยนเป็นเช่นนี้ ก็น่าจะเตรียมตัวเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว ไม่มีทางที่จะให้ดาบที่ตนเองตีไว้ ต้องหันมาเฉือนมือตนเองแน่นอน..."ในน้ำเสียงเขามีอาการทอดถอนใจอยู่ "และหนทางเดียวของคนเหล่านี้ ก็คือการตื่นขึ้น แต่การตื่นนั้นก็ยังยากยิ่งกว่าข

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1070

    จากนั้นจึงได้ยินเขาเสริมมาให้คำหนึ่ง "ยิ่งไปกว่านั้น เขาเองก็ไม่ใช่กิ้งก่าด้วย"จั๋วซือหรานมองเขา "ไม่ใช่กิ้งก่า? แต่เกล็ดหนังทั้งตัวนั่น...แล้วนิสัยเป็นศัตรูกับพวกแมลง ก็ไม่น่าจะเป็นของพวกจระเข้หรือเปล่า..."จั๋วซือหรานพูด น่าจะเพราะรู้สึกว่าคำพูดต่อจากนี้มันน่าขำ ดังนั้นจึงหัวเราะขึ้นมา เอ่ยต่อว่า "คงไม่ได้เป็นมังกรหรอกนะ..."จากนั้น นางจึงเห็นว่า...ชายหนุ่มคนนี้ หลังจากได้ยินนางพูดเช่นนี้ ก็จ้องมาที่นาง ไม่พูดอะไรจั๋วซือหรานตกตะลึงไป นางกัดริมฝีปาก "หรือว่าเป็นจริงๆ...?"แม้จะยอมรับโลกแฟนตาซีนี้ได้นานแล้ว กระทั่งหงส์แดงก็ยังมีเลย นางเองก็ยังยอมรับได้ แต่ว่า...มังกรหรือ?แม้จะบอกว่าพลังของคนเมื่อครู่ทำให้นางเกิดความรู้สึกอันตรายขึ้นา แต่...มังกรเนี่ยนะ?!ชาติที่แล้วนางมาจากแผ่นดินใหญ่ แนวคิดเรื่องมังกร มันไม่ใช่แค่รูปลักษณ์เท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ที่ฝังรากลึกใจเชิงวัฒนธรรม เป็นคำที่สื่อถึงความหมายดีดีมีศิริมงคลแต่เมื่อกี้นี้มัน...จั๋วซือหรานขมวดคิ้ว "มังกรดีดีที่ไหนที่หน้าตาเป็นแบบนั้นกัน...ดูแล้วอย่างกับถูกดองเอาไว้อย่างไรอย่างนั้น"ชายหนุ่มเดิมทีที่มีสีหน้าเคร่งขรึ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status