공유

บทที่ 809

작가: หูเทียนเสี่ยว
จั๋วซือหรานพูดมาก็ไม่ผิด ตอนนี้คนที่น่าจะร้อนรนคือซือคงอวี้ ไม่ใช่นาง

สวนชิวอี

ซือคงอวี้ได้รับข่าวจากคนคุ้มกันของวังสวนราชวงศ์แล้ว

ซือคงอวี้เนื่องจากโมโหเกินไป อย่าว่าแต่กาน้ำชากับถ้วยชาเลย กระทั่งของเล่นมือทำจากหยกอุ่นที่ชอบที่สุด ก็ยังขว้างมันลงพื้นจนแตกเป็นชิ้นๆ

"ขยะเอ๊ย! ขยะทั้งนั้น!"

"ใต้ฝ่าพระบาทโปรดระงับความโกรธด้วย"

ผู้ใต้บัญชาคุกเข่าเป็นแถวอยู่ตรงหน้าซือคงอวี้ ถูกชิ้นส่วนบาดหน้าก็ยังไม่กล้าขยับตัว

"ทิ้งพวกเจ้าเอาไว้ตั้งมากมายที่วังสวน! แต่นี่แค่ผู้หญิงคนเดียวก็เอาไม่อยู่! ขยะทั้งนั้น! ไอ้พวกขยะ! ถึงกับทำให้นางพาตาแก่พวกนั้นออกจากเรือนออกไปอย่างผ่าเผยได้ขนาดนี้"

"ใต้ฝ่าพระบาทโปรดระงับความโกรธด้วย อันที่จริงจั๋วจิ่วคนนั้นปลิ้นปล้อนมาก ใครก็คิดไม่ถึงว่านางจะลอบเข้าไปในวังสวนคนเดียว" เหล่าลูกน้องอธิบายเสียงแผ่ว

แล้วก็ถูกซือคงอวี้ตบฉาดลงไปกองกับพื้น

"ยังมีหน้ามาอธิบายอีกเรอะ !? ถ้าอย่างนั้นยังไม่พูดเรื่องที่จั๋วซือหรานลอบเข้าไปในวังสวนคนเดียว ตั้งนานขนาดนี้แล้ว ทีให้พวกเจ้ารีบไปจัดการตาแก่พวกนั้น พวกเจ้าจัดการแล้วหรือยัง?"

เหล่าลูกน้องไม่กล้าขยับตัว และไม่กล้าอธิบายแล้ว
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터

관련 챕터

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 810

    ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชานั่น พริบตาที่สบสายตากับนาง ก็ยิ้มกว้างออกมาทันที "ซือหราน! เจ้ากลับมาแล้ว!"เขาเดินก้าวใหญ่ออกมาจากสวนสมุนไพร เท้าเปื้อนโคลนไปหมดแต่ก็ไม่สนใจ บนใบหน้าหล่อเหลา ทั้งที่ดูเฉียบคมและเย็นชา แต่ตอนที่เห็นรอยยิ้มนาง กลับเผยดวงตาโค้งและฟันขาวสะอาดออกมาราวกับหิมะละลายหายไปชั่วพริบตาน่าจะเพราะโคลนที่เท้าเป็นเหตุ มีดินเหลืองก้อนใหญ่ติดอยู่ใต้เท้าเขา ทำให้เขายืนไม่มั่นคงจั๋วซือหรานเหมือนจะเห็นหน้าตาชายหนุ่มคนนี้จนชินแล้ว ในจิตใต้สำนึกยังรู้สึกว่ายังต้องดูแลอีกสักหน่อย พอเห็นเขายืนไม่มั่นคง นางก็ยื่นมือเข้าไปประคองด้วยสัญชาตญาณแต่ชิ่งหมิงก็ประคองร่างให้มั่นคงได้อย่างรวดเร็ว แล้วยังยื่นมือไปกุมไหล่ของนางไว้"ซือหราน" เขาเรียกชื่อนางเสียงต่ำ "ข้าโตแล้วนะ"จั๋วซือหรานพอได้ยินก็หัวเราะขึ้นมา "โตแล้วแต่ยังยืนไม่มั่นคงเนี่ยนะ ข้าก็ยังเห็นเป็นเด็กน้อยอยู่ดี แล้วอยู่ดีดีทำไมถึงมาจัดการสวนสมุนไพรของข้ากันล่ะ?"จั๋วซือหรานเลิกคิ้ว "ซางถิงแอบขี้เกียจหรือ?"ซางถิงเพิ่งจะหิ้วตะกร้าสมุนไพรเข้าไปในห้องตาก พอถือตะกร้าเปล่าเดินออกมาก็ได้ยินคำพูดของจั๋วซือหรานซางถิงเอ่ยขึ้นอย่างจน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 811

    จั๋วซือหรานเพิ่งยื่นนิ้วออกไป เจ้าก้อนเนื้อสีม่วงจางตัวนี้ก็ดูร่าเริงขึ้นมาจากความห่อเหี่ยวก่อนหน้าทันทียิ่งไปกว่านั้นยังคิดจะปีนตามนิ้วจั๋วซือหรานไปที่ฝ่ามือนางด้วยแล้วก็ถูกจั๋วซือหรานจับคว้าเอาไว้ บีบมันอย่างไม่เกรงใจ บีบจนมันร้องกี๊ซกี๊ซ แต่ฟังแล้วไม่เหมือนกำลังลำบากใจ แต่เหมือนจะดีใจเสียมากกว่าชิ่งหมิงมองอยู่ข้างๆ อิจฉาหน่อยๆแต่อันที่จริงในหูของจั๋วซือหราน ความหมายของเสียงกี๊ซกี๊ซของเจ้าก้อนเนื้อตัวนี้ที่ส่งมา เหมือนจะกำลัง "ฮือๆๆ..."คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเจ้าขี้แย จั๋วซือหรานคิดในใจจากนั้นจึงตั้งชื่อให้กับเจ้าขี้แยตัวนี้ เรียกว่าขนมเผือกกวนแล้วกันจั๋วซือหรานมองสีม่วงอ่อนสวยงามบนตัวขนมเผือกกวน แหงนตาขึ้นมองชิ่งหมิง"ไฟวิเศษของเจ้าสีม่วงหรือ?" จั๋วซือหรานถามชิ่งหมิงตกตะลึง จากนั้นจึงพยักหน้า "ใช่ เพลิงม่วงบัวคราม ที่แท้ก็เกี่ยวข้องกับสิ่งนี้สินะ ข้าก็ว่าทำไมสีมันถึงเปลี่ยนไป...""อืม" จั๋วซือหรานเอาพวกมันออกมา "พวกนี้ที่เปลี่ยนสีไปก็เพราะสูดรับเอาไฟวิเศษเข้ามา"ตอนนี้ในมือนางมีเปลวเพลิงหรงเยี่ยนของขนมถั่วแดง เปลวเพลิงรุ่ยซินของขนมมะม่วง ไฟเย็นข่งเชวี่ยของขนมชาเขียว เป

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 812

    ชิ่งหมิงเอ่ยขึ้นข้างๆ "ท่านลุงก็แค่มาอยู่กับข้าน่ะ ลองดูสิว่ามีอะไรช่วยได้ไหม"ชิ่งหมิงชี้นิ้ว "ท่านลุงช่วยตากยามาตลอดเลย""อย่างนี้นี่เอง เช่นนั้นก็ขอบคุณใต้เท้ามาก" จั๋วซือหรานยิ้มเวินป๋อยวนมองเขา "วิชาหลอมยาของเจ้าก็พัฒนาขึ้นอีกแล้ว อีกไม่นาน สำนักใหญ่ต่างๆจะร่วมกันจัดงานหลอมสกัดยา เจ้าไม่ไปลองดูหน่อยหรือ?"จั๋วซือหรานยิ้ม "เดิมทีก็อยากจะไปลองเหมือนกัน รอให้ข้าจัดการงานที่ยุ่งเหยิงในเมืองหลวงเสร็จก่อน ก็น่าจะไปทันอยู่"เวินป๋อยวนมองนางครู่หนึ่ง พยักหน้าเอ่ยขึ้นว่า "ถึงตอนนั้นข้าไปกับเจ้าด้วยแล้วกัน"จั๋วซือหรานงงงัน "ได้สิทธิประโยชน์แบบนี้ด้วยหรือ""ถือเป็นการขอบคุณที่เจ้ารักษาชิ่งหมิงจนหายดี" เวินป๋อยวนตอบเสียงต่ำจั๋วซือหรานแน่นอนว่าไม่ได้ปฏิเสธเรื่องนี้เพียงแต่ ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาจะไปยิ่งกับงานหลอมสกัดยา ธุระในเมืองหลวงยังมีออีกมากจั๋วซือหรานกลอกตาไปพูดกับซางถิงว่า "ไม่ต้องกังวล อย่างมากก็คือนนี้ พวกเขาจะส่งแมงมุมมาให้เจ้าอย่างว่าง่ายเอง พวกเขาคิดว่าข้าล้อเล่นกับพวกเขาสินะ มาถึงจวนของข้า แล้วคิดว่าข้าจะปล่อยให้พวกเขาออกไปโดยไม่เจ็บไม่คันแบบนั้นหรือ...?"ซางถิงพอได้ย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 813

    หลังจากนั้นเหล่าผู้อาวุโสตระกูลซางก็เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งกระโดดลงจากรถม้า"เหมือนจะเป็นคุณชายสามตระกูลฮั่ว ฮั่วจือโจว""รถม้าตระกูลฮั่วหรือ? เฮอะ...จั๋วซือหรานนี่ไม่มีความสามารถอื่นเลยหรือไร อาศัยหน้าตาดีหน่อย ไอ้เรื่องหลอกผู้ชายนี่เป็นที่หนึ่งเลย"คำพูดนี้พูดออกมาอันที่จริงก็ดูจะเป็นอารมณ์ส่วนตัวหน่อยๆตอนนี้ในเมืองหลวงไม่ว่าใครก็พูดไม่ได้แล้วว่าจั๋วซือหรานไม่มีความสามารถ ดูเป็นเรื่องโกหกเกินไป"คุณชายสามฮั่วคนนั้นก็ทำอะไรรอบคอบมาตลอด เขาตรงมานี่ เกรงว่าน่าจะไม่ใช่เรื่องธรรมดาแล้ว พวกเราจะ...ลองไปหาข่าวดุหน่อยไหม?"และก็มีคนรู้สึกว่า จั๋วซือหรานไม่ใช่ตัวละครธรรมดา คุณชายสามฮั่วเองก็ทั้งรอบคอบ ไม่ใช่คนที่จะหวั่นไหวเพราะความสวยความงามยิ่งไปกว่านั้น ตระกูลฮั่วเป็นตระกูลเดียวในตอนนี้ที่จั๋วซือหรานยังไม่ได้ไปบาดหมางด้วย ถ้าตรงมาที่นี่ ไม่แน่ว่าอาจจะมาเจรจาอะไรกับจั๋วซือหรานก็ได้ไปหาข่าวเสียหน่อยจะได้สบายใจแต่ว่าคนอื่นกลับไม่เห็นด้วย "มีอะไรน่าจะไปหาข่าวกัน พวกเขาสองคนถ้าจะแอบมีความสัมพันธ์กัน แล้วเราต้องไปแอบฟังที่ขาเตียงหรือไร ไปเถอะ!"เหล่าผู้อาวุโสตระกูลซางต่างมีความรู้สึกส่ว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 814

    พอผู้อาวุโสใหญ่เงยหน้า ก็เห็นเงาร่างหนึ่งเดินเข้ามาจากข้างๆ ดูผ่อนคลายสบายๆ มาก บนตัวยังสวมผ้ากันเปื้อนด้วย เหมือนเพิ่งเดินออกมาจาก...ห้องครัวหรือ?หน้าตาก็สะสวยจริงๆ มิน่า ไม่แปลกเลยที่คนข้างนอกลือตัวเธอเสียๆ หายๆ แต่ก็ไม่มีใครบอกเลยว่าเธอหน้าตาไม่ดีกระทั่งเวลาที่ด่านาง ก็ยังต้องพูดมาว่านางหน้าตาดีเพราะหน้าตาดีจริงฮั่วจือโจวมองไปทางจั๋วซือหราน เอ่ยขึ้นว่า "เจ้าดูสบายใจจังนะ"จั๋วซือหรานหัวเราะตอบกลับ "ข้าอยู่ที่บ้าน มีอะไรให้ไม่สบายใจล่ะ?""ตระกูลเฟิงจะมาหาเรื่องเจ้าอยู่ เรื่องที่คิดจะร่วมมือกับราชวงศ์นั่น เจ้าหาวิธีแก้ได้แล้วหรือยัง?" ฮั่วจือโจวถามขึ้นจั๋วซือหรานหัวเราะตอบ "คุณชายสามฮั่วอย่ามาเสแสร้งสิ ข้ามีวิธีหรือเปล่า เจ้าไม่ใช่รู้อยู่แล้วหรือ"ถ้าหากบอกว่าตระกูลฮั่วที่ขายข่าวสารยังไม่รู้เรื่อง ก็ไม่ต้องทำมันแล้วอาชีพนี้ผู้อาวุโสใหญ่จ้องมองนางอย่างสนใจ "เจ้าคืคนที่บุกสังหารเข้าไปในวังสวนราชวงศ์คนเดียวนั่นจริงหรือ? เจ้ากล้าได้อย่างไรกัน ความกล้าบ้าบิ่นเหลือเฟือจริงๆ..."จั๋วซือหรานหัวเราะหึหึ "ขอแค่ผลประโยชน์มากพอ จะมีอะไรที่ไม่กล้ากันล่ะ?"นางมองผู้อาวุโส เอ่ยขึ้นว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 815

    สวนชิวอีในห้องนอน บรรยากาศหนักอึ้ง"แค่เด็กสาวที่ถูกตระกุลทอดทิ้งคนหนึ่ง กลับสร้างสถานการณ์ขึ้นมาได้ขนาดนี้ ทำเอาคนคาดไม่ถึงเลยทีเดียว""อดยอมรับไม่ได้ พวกเราดูถูกนางเกินไป"ผู้อาวุโสตระกูลเฟิงสองคนนั่งอยู่บนเก้าอี้ เอ่ยขึ้นเสียงขรึมพอได้ยินคำพูดของพวกเขา ซือคงอวี้ก็ยกมุมปากเหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้ม "ข้าเองก็คิดถึงจุดนี้แล้ว ดังนั้นจึงคิดจะร่วมมือกับทุกท่านขึ้นมา"ซือคงอวี้มองพวกเขาสายตาขรึม "ดูท่าทุกท่านน่าจะได้ข่าวแล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่มาหาข้าเพื่อหารือเรื่องร่วมมือไวขนาดนี้"หลังจากเหล่าผู้อาวุโสตระกูลเฟิงได้ยิน สีหน้าก็ดูแย่ขึ้นมาพวกเขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าจั๋วซือหรานจะมีปฏิกิริยาไวขนาดนี้!พวกเขาเพิ่งตัดสินใจจะร่วมมือกับราชวงศ์ นางก็บุกเดี่ยวเข้าไปในวังสวนราชวงศ์ ช่วยจักรพรรดิออกมาเสียแล้ว! แทบจะอุดเส้นทางของพวกเขาทิ้งไปเลยทันที!อันที่จริง เหล่าผู้อาวุโสของตระกูลเฟิงก็วางแผนจะเข้าไปวังสวนราชวงศ์เพื่อช่วยเหลือองค์จักรพรรดิออกมาแต่เพราะตระกูลก็มีความหยิ่งทระนงในศักดิศรีของตระกูลอยู่ ไม่ชอบยุ่งเกี่ยวกับราชวงศ์หรือชนชั้นสูงอื่นๆ อยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่มีความตั้งใจจะเข้าไปยุ่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 816

    พอได้ยินคำพูดของซือคงอวี้ สีหน้าผู้อาวุโสตระกูลเฟิงครุ่นคิดเคร่งขรึมอยู่ครู่หนึ่ง จึงถามกลับเสียงต่ำ "ท่านอ๋องพูดจริงหรือ?""จริงแท้แน่นอน ไม่มีเกินจริง" ซือคงอวี้มองเหล่าผู้อาวุโสตระกูลเฟิงและผู้อาวุโสตระกูลเฟิงก็สบตากันผาดหนึ่ง เหมือนทำการตัดสินใจบางอย่างแล้ว พวกเขาจึงหมุนตาไปมองซือคงอวี้ เอ่ยขึ้นเสียงต่ำว่า "พวกเรามีวิธีหลอกหญิงสาวคนนี้ออกมาได้"ซือคงอวี้เลิกคิ้ว "โอ๋? พูดจริงหรือ? จากที่ข้ารู้ หญิงสาวคนนี้ฉลาดแกมโกงมาก ไม่ยอมเสียเปรียบเลย ยังไม่มีใครเคยเอาเปรียบนางได้ คนที่เป็นศัตรูกับนาง ล้วนพ่ายแพ้ล้มเหลวกันหมด"ผู้อาวุโสตระกูลเฟิงเอ่ยขึ้น "ก็เป็นเช่นนั้นจริง แต่ว่าจั๋วจิ่วลับไม่ใช่ว่าจะไม่มีจุดอ่อนเลย ตั้งแต่แรก นางเอาจุดอ่อนของตนเองวางออกมาต่อนห้าคนทั้งหมดแล้ว"ซือคงอวี้ได้ยินคำนี้ ก็มีปฏิกิริยาขึ้นมา "พวกท่านหมายถึง..."เหล่าผู้อาวุโสตระกูลเฟิงจ้องมองซือคงอวี้ "สรุปคือ ขอแค่ท่านอ๋องมีวิะีการ เช่นนั้นก็ทำตามที่พวกเราบอก ก็จะล่อนางออกมาได้แน่นอน"......จั๋วซือหรานแน่นอนว่าไม่รู้พวกเขากำลังคิดอะไร และก็ไม่คิดจะไปหาข่าวด้วยนางยังคง ไปสังหารคนตระกูลเฟิงยิ่งไปกว่านั้นต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 817

    "ตระกูลเฟิงร่วมมือกับอ๋องอวี้ชินหรือ?" ฮั่วจือโจวเลิกคิ้ว "ตอนนี้ยังไม่ได้ยินข่าวนี้เลย""น่าจะใกล้แล้ว คอยดูว่าพวกเขาหารือกลยุทธ์อะไรออกมา" จั๋วซือหรานเหมือนจะคาดการณ์กับเรื่องนี้เอาไว้แล้ว"เจ้าแน่ใจว่าพวกเขาจะร่วมมือกันหรือ?"ฮั่วจือโจวถาม "ตระกูลเฟิงตามหลักการแล้ว ไม่น่าจะมีความสัมพันธ์ที่ดีเท่าไรกับอ๋องอวี้ชินกระมัง?"ก่อนหน้านี้โรคระบาดกู่ก็เป็นฝีมือของอ๋องอวี้ชิน ตระกูลเฟิงยังเสียลูกหลานฝีมือดีไปตั้งหลายคนจากเรื่องนี้ตามหลักการแล้วน่าจะเป็นคู่แค้นกันสิฮั่วจือโจวจะสงสัยมันก็เรื่องปกติจั๋วซือหรานหัวเราะเอ่ยขึ้นว่า "ถ้าไม่มีเรื่องอะไรก็จะร่วมมือกันแน่ๆ ถึงอย่างไร ข้าก็เดินบนเส้นทางตระกูลเฟิงแล้ว ต่อให้พวกเขาไม่ร่วมมือกับซือคงอวี้ แต่จากการกระทำเหล่านี้ของข้า พวกเขาก็น่าจะร่วมมือกันแล้วล่ะ"ฮั่วจือโจวมองนาง ไม่พูดอะไร ไม่ว่าจะตอนไหน ก็ยังรู้สึกว่าน่าชื่นชมมาก นางมีสายตาที่กว้างไกลจริงๆไม่แปลกเลยที่ผู้อาวุโสใหญ่จะพูดว่า ถ้าไม่กังวลว่าจะไม่มีใครควบคุมนางอยู่ ก็อยากให้เขาไปขอนางแต่งงานเสียเลย มีหญิงสาวแบบนี้เข้ามาในตระกูล ก็ไม่ต้องกลัวเรื่องตระกูลจะไม่รุ่งโรจน์อีกแล้วตระกู

최신 챕터

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1273

    แม้จะบอกว่าเป็นความฝัน แต่อันที่จริงจั๋วซือหรานก็ค่อยๆ เข้าใจแล้ว ว่าเพราะอะไรหลังจากฝันถึงเขาครั้งที่แล้วจนมาถึงครั้งนี้ นานมากแล้วที่ไม่ได้ฝันถึงเขาอีกพอมาคิดอย่างละเอียด เหมือนว่าตอนฝันถึงเขาครั้งที่แล้ว จะเป็นหลังจากที่นางมีสัมพันธ์ทางกายกับเขาดังนั้นจั๋วซือหรานจึงค่อยๆ เข้าใจ บางทีน่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้การดูดหยางบำรุงหยินของนางก็ดูดซับมาจนพอเข้าใจแล้ว เหมือนว่าพอดูดซับมาถึงระดับหนึ่ง ก็จะเกิด...ถ้าจะพูดว่าเป็นความฝัน สู้บอกว่าเป็นการสื่อสารทางจิตใต้สำนึกกับความทรงจำของเฟิงเหยียนส่วนที่ถูกผนึกไปจะดีกว่า?และไม่ว่าจะ 'ความฝัน' ครั้งที่แล้ว หรือว่าครั้งนี้ก็มองออกได้ไม่ยากเฟิงเหยียนน่าจะเข้าใจต่อสถานการณ์อยู่ ดังนั้นบางทีจิตใต้สำนึกเขายังคงอยู่มาตลอด เพียงแต่ถูกสมองทื่อๆ นี่กดเอาไว้ หรือบางทีคงถูกสภาผู้อาวุโสลงมือสะกดเอาไว้ไม่แน่ว่า อาจจะต้องมีชนวนเหตุบางอย่าง ถึงจะสามารถปลุกขึ้นมาได้จั๋วซือหรานอยากจะรู้ชนวนเหตุนั้นว่าคืออะไรกันแน่"ต้องทำยังไงเจ้าถึงจะดีขึ้นมา?" จั๋วซือหรานถามแต่เฟิงเหยียนกลับเหมือนจะจำจุดสำคัญนั้นไม่ได้แล้ว ขมวดคิ้ว สีหน้าดูเหมือนขมขื่น เหมือนว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1272

    ในห้วงฝันนางมองมือตัวเอง สับสนไปหมดทั้งตัว เหมือนยังตั้งตัวกลับมาไม่ได้เพราะนางถ้าไม่หลับลึก ก็จะเอาจิตใต้สำนึกส่งเข้าไปในมิติ จึงฝันน้อยครั้งมากดังนั้นตอนที่ดำดิ่งสู่ห้วงฝัน นางยังรู้สึกไม่คุ้นอยู่หน่อยๆ มองมือตนเอง รู้สึกไม่คอ่ยเป็นจริงสักเท่าไรวินาทีต่อมา มือข้างหนึ่งก็ทาบมาบนมือของนางมือข้างนั้น ข้อต่อกระดูกชัดเจน นิ้วเรียวยาว เล็บตัดมาดูสะอาดสะอ้าน ผิวหนังขาวซีดเย็นเหมือนไม่โดนแดดมานานสายตาของจั๋วซือหรานจ้องนิ่งอยู่บนมือข้างนี้ จากนั้นจึงค่อยๆ ยกขึ้นมามองไปยังเจ้าของมือนี้ ใบหน้าหล่อเหลาไม่มีที่ตินั่นทั้งที่เป็นใบหน้าที่เพิ่งเห็นไปก่อนหลับตาลงเมื่อครู่แท้ๆ แต่ตอนนี้พอมอง กลับยังคงทำให้นางรู้สึกเหมือนไม่เจอกันเสียนานสายตาของชายหนุ่มอบอุ่น ด้านในมีความรู้สึกอารมณ์เหมือนความเจ็บปวดแฝงอยู่"จั๋วเสียวจิ่ว..." เขาก้มหน้าลงเรียกนางจั๋วซือหรานมองเขา จากนั้นจึงออกแรงบีบมือเขา และน่าจะเพราะออกแรงมากเกินไปปลายเล็บจึงเหมือนจิกลงไปในเนื้อเขาฝันถึงเขาอีกแล้วจั๋วซือหรานมีปฏิกิริยาขึ้นมา ครั้งนี้เหมือนกับครั้งนั้นเลย ฝันถึงเฟิงเหยียนยิ่งไปกว่านั้นยังดูเหมือนจริงเป็นพิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1271

    กลางดึก จั๋วซือหรานกัดริมฝีปาก กอดหมอน เดินเท้าเปล่าจากห้องด้านนอกเข้าไปยังห้องด้านใน!คิ้วงามของนางขมวดแน่น สีหน้าที่มีสีเลือดฟื้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้กลับขาวซีดขึ้นมาในใจนางเองก็พูดไม่ออก เดิมทีตอนที่หลับก็ยังดีอยู่ พอกลางดึกจู่ๆ ก็ไม่ไหวขึ้นมาเสียแล้วหน้าอกปั่นป่วนอย่างรุนแรง เป็นความรู้สึกทรมานแบบที่นางผ่านมาก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยนถ้าบอกว่าคนคนนี้ไม่เข้ามาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ก็เข้ามาแล้วว่ากันว่าพอเคยสบายแล้ว จะยากที่จะกลับไปลำบากตอนนี้จะให้นางปล่อยชายหนุ่มที่เหมือนกับ 'ยาบำรุงครรภ์' นี้ไว้ข้างในเฉยๆ โดยไม่ใช้ แล้วต้องมานั่งทนกระอักเลือดต่อล่ะก็...ขอโทษด้วย สกุลจั๋วอย่างนางไม่ใช่คนประเภทนั้นนางเข้าใจแล้ว ก่อนที่จะหลับไปเมื่อคืนนี้ ตอนที่เฟิงเหยียนบอกว่าจะนอนด้านนอก ริมฝีปากที่เม้มแน่นนั้นกำลังอดกลั้นเรื่องอะไรน่าจะคิดไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้สารเลว!จั๋วซือหรานครั่นเนื้อครั่นตัวตื่นมากลางดึก ต่อให้เป็นคนที่มีสติเยือกเย็นแค่ไหน ก็ยังมีอาการหงุดหงิดงัวเงียหลังตื่นนอนนางเดินเท้าเปล่าเข้าไปห้องด้านใน อากาศในหุบเขาตอนกลางคืนเย็นมากนางสวมแค่เสื้อบางๆ ชุดหนึ่ง ทั้งตัวเย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1270

    แต่กลับรู้ตัวตนฐานะผู้ชายทรยศของเฟิงเหยียนได้ ไม่ต้องคิดเลยว่าคงเป็นจั๋วหวายพล่ามออกมาแน่"จั๋วหวายมาบอกเจ้าหรือ?" ปันอวิ๋นถามขึ้นคำหนึ่งจวงอี๋ไห่ พยักหน้าอย่างระมัดระวัง "คุณชายเสี่ยวหวายไม่หลอกข้าหรอก คุณชายเสี่ยวหวายบอกว่าเป็นผู้ชายทรยศ เช่นนั้นกว่าครึ่งก็ต้องเป็นผู้ชายทรยศแล้ว"ปันอวิ๋นถอนหายใจแผ่วเบาในห้อง จั๋วซือหรานนั่งลงข้างโต๊ะเฟิงเหยียนไม่พูดอะไร รินน้ำชาให้นางถ้วยหนึ่งจั๋วซือหรานกำถ้วยไว้ ใช้นิ้วมือลูบไล้ขอบถ้วยเบาๆ"อีกเดี๋ยวพออาหารส่งเข้ามา ก็กินสักหน่อยแล้วค่อยนอนพัก" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นแต่ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความหนักแน่นที่ห้ามปฏิเสธจั๋วซือหรานแหงนตามองเขา กำลังจะบอกว่ายังไม่หิวก็เห็นริมฝีปากบางของชายคนนี้เม้มเบาๆ เอ่ยเสียงต่ำว่า "ข้าไม่มีสิทธิ์จะมาหารือกับเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ..." สายตาเขาทอดลงไปที่ท้องน้อยนาง แววตาลึกซึ้งจากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า "แต่การจะเตือนให้เจ้ากินอะไรดีดีก็ยังพอมีสิทธิ์อยู่" สายตาเขายกขึ้นมาจากท้องน้อยจั๋วซือหรานเลื่อนมาที่ดวงตานาง จ้องมองดวงตานาง เอ่ยต่อว่า "ถึงอย่างไรเมื่อครู่ก็เพิ่งช่วยเจ้ากลับมา ยิ่งไปกว่นั้นเรื่องถูกพลังศักดิ์สิท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1269

    เขาไม่เพียงแต่ไม่ใช่สามีของนาง เขายังเป็นคู่หมั้นในนามของหญิงสาวคนอื่นอีกด้วยสีหน้าของเฟิงเหยียนแข็งทื่อไปแล้ว แต่ท้ายสุดก็ยังพูดอะไรไม่ออกเพราะในคำพูดจั๋วซือหราน ไม่มีส่วนที่ผิดเลยแม้แต่น้อยแม้จะบอกว่าเด็กคนนี้ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาก็ตามแต่ครั้งก่อนหน้านั้น เป็นเพราะจั๋วซือหรานถูกวางแผนร้ายใส่ ถึงทำให้นางสับสนหลงใหลจนมีสัมพันธ์กับเขาถ้าจะบอกว่า เขาเอาเปรียบหญิงสาวไป ก็ไมไ่ด้พูดเกินเลยนักเอาเปรียบหญิงสาว จนทำนางตั้งท้อง ไม่เคยจะมารับผิดชอบอะไรตอนนี้กลับจะมาชี้มือชี้ไม้เรื่องของนางพอสรุปมาแบบนี้ มันก็ช่าง...แย่มากจริงๆเฟิงเหยียนเองก็รู้ว่าตนเองนั้นแย่มาก พูดอะไรออกมาไม่ได้ไปชั่วขณะปันอวิ๋นรู้สึกกระอักกระอ่วนแทนสหายเก่า เขากระแอมออกมาเบาๆ ทีหนึ่ง ไกล่เกลี่ยขึ้นว่า "เอาล่ะเอาล่ะ..."เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ถึงอย่างไร ทั้งสองคนตอนนี้จะไม่ได้เป็นคู่รัก แต่ความสัมพันธ์แบบนี้...มันก็ดูคลุมเครือ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ นี่มันช่าง...ดังนั้นปันอวิ๋นเลยเปิดประเด็นขึ้น อึกอักในปากอยู่พักหนึ่ง กว่าจะพูดออกมาได้ "...พวกเจ้าหิวหรือยัง? ให้เหล่าจวนทำอะไรให้กินหน่อยดีไหม?"

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1268

    นางยืนเงียบๆ อยู่ตรงนั้น แหงนตาขึ้นมองพวกเขาสายตาของเฟิงเหยียนอึ้งไปเล็กน้อย เห็นนางยืนอยู่ในประตูด้วยสีหน้านิ่งขรึมเขารู้สึกลำคอแห้งผากอย่างประหลาด ความรู้สึกนั้น บางทีควรจะเรียกว่า...ตึงเครียดไหม?"เจ้า...ตื่นขึ้นมาตอนไหนน่ะ?" เฟิงเหยียนถามจั๋วซือหรานมองเขา "ไม่นานเท่าไร"เหมือจะมองออกถึงความกระอักกระอ่วนของเขา หรืออาจจะไม่สรุปคือ มุมปากจั๋วซือหรานยกขึ้นบางๆ พูดมาคำหนึ่ง "ท่านอ๋องน้อย ไม่เจอกันเสียนาน"นางทำแบบนี้โดยไม่เอ่ยถึงคำพูดก่อนหน้านั้นแม้แต่น้อยเฟิงเหยียนอ้าปากพะงาบ ต่อให้คิดจะพูดอะไร แต่ชั่วขณะหนึ่งก็เหมือนจะพูดออกมาไม่ได้จึงแค่ถามขึ้นอย่างเป็นห่วง "ดีขึ้นบ้างหรือยัง?"จั๋วซือหรานพยักหน้า "ดีขึ้นมากแล้ว"กระทั่งปันอวิ๋นก็ยังมองออกถึงเรื่องระหว่างพวกเขา ไม่รู้เพราะเจ้าสมองกลับนี่ไปแตะเนื้อต้องตัวทำอะไรนาง หรือเป็นเพราะคำพูดเมื่อครู่นางได้ยินคำพูดของเฟิงเหยียน...สรุปคือ ปันอวิ๋นมองพวกเขาทั้งสองคน แล้วก็รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแทนพวกเขาทั้งสองคนปันอวิ๋นคิดๆ ดู ตอนที่ตนเองอยู่กับจั๋วซือหรานก็ยังไม่ได้กลืนไม่เข้าคายไม่ออกขนาดนี้รู้สึกร้อนใจแทนเจ้าบ้านี่จร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1267

    เพราะเป็นเพื่อนสนิท ปันอวิ๋นจึงเข้าใจความหมายที่เขาคิดจะแสดงออกมาหรือก็คือ ปันอวิ๋นเดาได้นานแล้วบางทีตอนนั้นเพื่อจะให้จั๋วซือหรานหลีกเลี่ยงโชคชะตาเช่นนี้ ตนเองจึงเลือกที่จะลืมเลือนแต่สุดท้ายพอวกไปวนมา ก็กลับมาเดินอยู่บนเส้นทางเดิมเจ้าสิ่งที่เรียกว่าโชคชะตานี่ ลึกลับเอามากๆบางครั้งเหมือนจะมีเมตตา แต่บางครั้งก็เหมือนไม่เคยปราณีใครผู้ใด"แล้วเจ้าตอนนี้...คิดจะทำอย่างไร?" ปันอวิ๋นถามเขาจ้องเฟิงเหยียนตาไม่กระพริบเอาจริงๆ ปันอวิ๋นใช้มองจากมุมมองคนนอกอย่างมีเหตุมีผล ยังหวังว่าจั๋วซือหรานจะสามารถปล่อยวางได้แต่พอคิดถึงว่าถ้าหากจั๋วซือหรานปล่อยวางแล้วล่ะก็ ด้วยโชคชะตาภาชนะพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงของเฟิงเหยียน ผลสรุปสุดท้าย ก็คือตายก่อนวัยอันควรอยู่ดีและเพราะรู้เรื่องนี้ ดังนั้นปันอวิ๋นจึงหยุดไปครู่หนึ่ง เอ่ยเสริมมาคำนึง "ถังฉือเคยบอกข้าไว้ ในโถงวิญญาณอสูร พวกสัตว์เทพที่ถูกเก็บกลับมาเหล่านั้น..."ปันอวิ๋นขมวดคิ้ว คิดถึงคำพูดของถังฉือถังฉือมีบาปหนาจากการฆ่าฟันคนมากมาย กลายเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจไปแล้ว ถ้าหากไม่เย็นชาไร้หัวใจ ป่านนี้คงเป็นบ้าไปแล้วดังนั้นตอนที่เขาพูดถึงเรื่องเห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1266

    ปันอวิ๋นส่งให้เขาชามหนึ่ง ตนเองก็ด้วยทั้งสองคนไม่พูดพล่ามทำเพลง กระดกรวดเดียวจนหมดราวกับว่า สุราที่มาช้าไปหลายปีนี้ ในที่สุดก็ได้ดื่มเสียทีราวกับว่าภาพเด็กน้อยที่แอบขโมยสุราพวกนั้นมาดื่ม ซ้อนทับเข้ามากับพวกเขาในเวลานี้"ช่วงนี้เจ้า ไม่ได้ติดต่อกับพวกเขาเลยหรือ?"หลังจากร่ำสุราลงท้องไปสองชาม จิตใจก็เหมือนจะผ่อนคลายลงมาไม่น้อย ปันอวิ๋นถามขึ้นอย่างสบายๆ เป็นกันเองเฟิงเหยียนฟังออก ว่าเขาถามถึงเหล่าพี่น้องพวกนั้นเขาตอบอืมไปคำหนึ่ง "ไม่ได้ติดต่อกันเลย""เช่นนั้นก็คงไม่รู้สถานการณ์ของพวกเขาเลยสินะ" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นเฟิงเหยียนไม่ยอมรับหรือปฏิเสธกับสิ่งนี้ ถือว่ายอมรับไปกลายๆปันอวิ๋นยิ้มๆ เหมือนจะเย้ยหยันตนเอง "แต่ก็ไม่โทษพวกเขาที่ไม่ติดต่อเจ้า ด้วยสถานการณ์ของพวกเขาตอนนี้ ก็ไม่มีหน้ามาติดต่อเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ"ได้ยินคำนี้ของปันอวิ๋น เฟิงเหยียนก็ไม่พูดอะไรอีกปันอวิ๋นเอ่ยต่อว่า "ซงซีตอนนี้ทุกวันเหมือนขลุกอยู่แต่ในห้องหลอมสกัด หลอมสกัดอยู่ทุกวันไม่ได้พักเลย"เฟิงเหยียนพอได้ยินคำนี้ คิ้วก็ขมวดขึ้นบางๆ"เยี่ยนเหวย...ก็สูบเลือดออกมาทุกวัน อยู่แบบไม่เหมือนผู้เหมือนคน ผู้อาวุโสหวงจ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1265

    บางทีคงเป็นเพราะการคุยแบบเปิดอกก่อนหน้านี้ ทำให้ระยะทางขอเพื่อนสนิทสองคนที่เคยห่างไปตามกาลเวลา ย่อหดลงไปไม่น้อยเลยกระมังดังนั้นพอได้ยินปันอวิ๋นบอกว่าไม่ต้องขอบคุณ เฟิงเหยียนจึงเหลือบมองเขา น้ำเสียงเปลี่ยนไป "ก็ได้ เช่นนั้นก็ไม่ขอบคุณแล้วกัน"เฟิงเหยียนสั่งขึ้นมา "ไป ไปเอาสุรามาให้ข้าหน่อย"แม้จะพูดเช่นนี้ แต่ในเสียงกลับไม่ได้ออกคำสั่งอะไร ฟังแล้วเหมือนการใช้งานระหว่างเพื่อนกันมากกว่าปันอวิ๋นชะงักไปเล้กน้อย เพราะตอนพวกเขายังเด็ก ก็เคยใช้งานกันและกันแบบนี้ไป ไปเอาสุรามาหน่อยได้ งั้นเจ้าก็เอาปลาไปย่างซะข้าเห็นว่าเจ้าหน้าตาเหมือนปลาถ้าเจ้ายังพูดอีกรอบ จะโดนข้ากดจนจมถังสุราตายไปเลยเพราะคำพูดนี้ของเฟิงเหยียน ทั้งสองคนก็เหมือนกลับไปสมัยยังเด็กในชั่วพริบตาปันอวิ๋นยกมุมปากขึ้นบางๆ ลุกขึ้นไปให้คนรับใช้ส่งสุราเข้ามาคือสุราห้าพิษที่เขาจะหมักอยู่ทุกปี และใช้แมลงพิษมาหลอมจริงๆ แต่ตัวสุรากลับไม่มีพิษใดๆ กระทั่งยังหอมอบอวลเข้มข้นเป็นพิเศษ เป็นสุราที่หาได้ยากยิ่งและเป็นความลับที่ไม่เผยแพร่สู่ภายนอกของหุบเขาหมื่นพิษ ปกติมีแค่เจ้าหุบเขาที่รู้แต่ปันอวิ๋น หลังจากออกสำนักมา ก็ไม่ได้ด

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status