แชร์

บทที่ 680

ผู้เขียน: หูเทียนเสี่ยว
ดวงตาของฉุนจวินเบิกกว้างขึ้นไปอีก ตอนนี้เหมือนจะตระหนักได้แล้วว่าวิกฤติที่นายท่านเชิญมาเมื่อครู่นี้ มันอันตรายมากขนาดไหน

แต่เขาก็ยังเห็นว่านายท่านไม่ได้มีท่าทีกังวลหรือหวาดผวาเลย

จึงอดถามขึ้นมาไม่ได้ “นายท่าน ท่านไม่กลัวหรือ? ถ้าแม่นางจิ๋วนำมันออกมา...นั่นมันอันตรายมากเลยนะ ยังดีที่แม่นางจิ๋วเอาออกมาไม่ได้”

เฟิงเหยียนพอได้ยินคำพูดนี้ของฉุนจวิน จึงนิ่งงันไปครู่หนึ่งแล้วเอ่ยว่า “ข้ากลับรู้สึกว่าไม่ใช่ว่านางนำออกมาไม่ได้ แต่แค่ไม่เอาออกมาเท่านั้น”

“อะไรนะ?” ฉุนจวินยังตั้งตัวกับความแตกต่างของคำว่า ‘ทำไม่ได้’ และ ‘ไม่เอาออกมา’ จากคำพูดของเฟิงเหยียนเมื่อครู่ไม่ทัน

ผ่านไปครู่หนึ่งจึงมีปฏิกิริยากลับมา “ความหมายของนายท่านคือ แม่นางจิ่วอันที่จริงเอาออกมาได้ แต่นางไม่นำออกมาอย่างนั้นหรือ?”

“อืม” มุมปากของเฟิงเหยียนยกขึ้นบางๆ

ทั้งๆ ที่แขนขากระดูกทั้งตัวยังแผ่ซ่านไปด้วยความเจ็บปวด แต่เขาก็ยังยกมุมปากขึ้น

“ถ้าหากเป็นคนอื่นล่ะก็ ข้าอาจจะไม่พูดเช่นนี้ แต่ถ้าหากเป็นนางล่ะก็ ข้ารู้สึกว่านางทำได้อยู่” เฟิงเหยียนพูดขึ้นมา

และเชื่อมันว่านางมีความสามารถนี้แน่นอน เพราะนางจะไม่ทำเรื่องที่นางไม่มั่นใ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 681

    จั๋วซือหรานพูดจบ ก็หมุนตัวเตรียมเดินออกไปนอกโถงศักดิ์สิทธิ์เฟิงอวี้ถูกคำพูดของนางก่อนหน้านี้สะกดนิ่งไปแล้วจนตอนที่เห็นแผ่นหลังของนางเดินออกไปด้านนอกโถงศักดิ์สิทธิ์เวลานี้ จึงเพิ่งได้สติกลับมาเสียงของเฟิงอวี้ไล่ตามเข้ามา “จั๋วจิ่ว เจ้าจะทำให้เหยียนเอ๋อร์ตาย เจ้าไม่เข้าใจหรือ”เท้าของจั๋วซือหรานชะงักไป นางไม่หมุนตัวกลับ เพียงแค่หยุดลงมาเท่านั้น ครู่หนึ่ง นางจึงเอ่ยขึ้นเสียงแผ่วว่า “เรื่องนี้ไม่ต้องให้เจ้ามาลำบากเลย ข้าจะคิดหาวิธีเอง”นางครุ่นคิด จากนั้นจึงเอ่ยขึ้นอีกคำว่า “นี่น่าจะเป็นสิ่งที่ข้าไม่เหมือนกับเจ้า เฟิงเหยียนมีอันตราย ข้ายังคิดหาวิธีว่าจะช่วยชีวิตเขาอย่างไร แต่เจ้า...เหมือนจะคิดแต่ให้เขายอมรับแล้วก็ยอมรับมันไป”จั๋วซือหรานพูดถึงจุดนี้ รู้สึกเหมือนยังไม่พอ จึงเสริมเข้ามาอีกคำ “ข้าไม่เหมือนกับพวกเจ้า”การยอมรับเรื่องเหล่านี้ง่ายๆ ไม่ใช่นิสัยของนางจากนั้นจั๋วซือหรานจึงเดินไปด้านนอกโถงศักดิ์สิทธิ์การเคลื่อนไหวที่โถงศักดิ์สิทธิ์ก่อนหน้านี้ ก่อให้เกิดความยุ่งยากขึ้นไม่น้อย จั๋วซือหรานเดินออกมาจากโถงศักดิ์สิทธิ์ ยังไม่ทันเดินออกจากกำแพงเรือน ก็สัมผัสได้ว่าด้านนอกมีคนอ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 682

    แต่จั๋วซือหรานสัมผัสได้ ว่าสถานการณ์ภายในเหมือนจะดีขึ้นไม่น้อยแล้วนางออกจากเรือนนี้อย่างไร้ซุ่มเสียงวิชาอันคล่องแคล่วถูกใช้ถึงระดับสูงสุด แต่ขึ้นลงไม่กี่ครั้งก็ออกจากกำแพงเรือนบ้านตระกูลเฟิงแล้วพริบตาที่ร่อนลงพื้น จูมกของนางก็ทำท่าฟุดฟิด มีกลิ่นที่คุ้นเคย เหมือนจะอยู่ใกล้ๆ นี้เองต่อให้จั๋วซือหรานที่เป็นคนเดินหนึ่งก้าวคำนวณไปห้าก้าวก็ยังคิดไม่ถึง ว่าระหว่างคนด้วยกันจะมีบุพเพเช่นนี้อยู่ตนเองกระโจนลงมาจากกำแพงเรือน ก็ดันลงมาอยู่...ตรงหน้าเฟิงเหยียนพอดี“แม่...แม่นางจิ่ว?” ฉุนจวินเองก็ตกตะลึง คิดไม่ถึงว่าจะบังเอิญขนาดนี้จั๋วซือหรานพอได้ยินก็หันมองมา และเห็นเข้ากับร่างงดงามชวนมองนั่นเฟิงเหยียนยืนอยู่ตรงนั้น จ้องมองนางสายตาเคร่งขรึมสายตาของเขา จับจ้องบนใบหน้านาง เห็นถึงหน้าผากนางที่มีเหงื่อผุดซึม ใบหน้าซีดขาว และริมฝีปากที่ไม่มีสีเลือดได้อย่างชัดเจนและค่อยๆ เลื่อนลงมา ก็เห็นมือที่ห้อยอยู่ข้างตัวนางนางมีมือที่สวยงาม ขาวนวลอ่อนนุ่มทว่าตอนนี้มือที่สวยงามขาวนวลอ่อนนุ่มนั้น...ไม่เหลือเค้าโครงเดิมอยู่เลย เหลืออยู่แค่...ความดำเกรียมตอนที่สายตาไปเจอเข้ากับความดำเกรียมราวกิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 683

    เฟิงเหยียนอุ้มนางเข้าไปในตำหนักสืบสวนพิเศษที่นี่เป็นสถานที่ที่กว้างกว่าตำหนักเฝินเทียนของชิ่งหมิง แต่ก็ยังเย็นกว่าตำหนักเฝินเทียนของชิ่งหมิงจั๋วซือหรานเวลานี้ กลับไม่มีความคิดจะชื่นชมสถานที่ของหน่วยสืบสวนพิเศษแห่งนี้เลยว่ามีหน้าตาเป็นอย่างไรนางมองใบหน้าด้านข้างของหน้ากากที่เฟิงเหยียนใส่อยู่รู้สึกเพียงว่า...มหัศจรรย์อยู่หน่อยๆอารมณ์ร้อนรนของเขา เหมือนว่าต่อให้สวมหน้ากากอยู่ก็ยังปิดไม่มิดนางถูกวางลงบนเตียงหินในตำหนักนอนของตำหนักสืบสวนพิเศษอย่างระมัดระวังหลังจากนอนลงไป จั๋วซือหรานก็ตัวสั่น นางเพิ่งรู้สึกว่า “นี่มันหินอะไรน่ะ...”“หินหยกเย็น” เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นเสียงทุ้มต่ำ “ทำให้เจ้ารู้สึกดีขึ้นหน่อย”“เย็นจัง” จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น“มือยังเจ็บไหม?” เฟิงเหยียนถาม“ดีขึ้นแล้ว” จั๋วซือหรานตอบมา ยกมือของตนเองขึ้นมามองดูจากนั้นจึงพบว่าสายตาของท่านอ๋องไม่กล้ามองมาที่มือของนางยิ่งไปกว่านั้น จั๋วซือหรานยังสังเกตได้ว่าท่านอ๋องเหมือนจะมีอารมณ์ขุ่นมัวกำลังกลั่นตัวอยู่ในดวงตา คล้ายกับว่า...โกรธหรือ?จั๋วซือหรานเรียกหา “ท่านอ๋อง...”ยังไม่ทันพูดจบก็ถูกเฟิงเหยียนตัดบทแล้ว “เจ้าบ้า

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 684

    เฟิงเหยียนนิ่งไปครู่หนึ่ง เหมือนไม่อยากจะตอบ คล้ายกับกำลังคิดคำพูดที่เหมาะสม จัดเรียงคำพูดอยู่พักหนึ่ง จึงตอบกลับมาเสียงต่ำว่า “ถึงอย่างไร ในอดีตเขาก็เป็นภาชนะของพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงรุ่นก่อน ต่อให้ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว พลังที่ได้รับมาเมื่อตอนนั้นก็เพียงพอจะทำให้เขาเปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งขึ้นได้”จั๋วซือหรานยิ้มๆ นิ้วมือยังคงบีบอยู่ที่คางของเฟิงเหยียน เอ่ยต่อว่า “เขาเป็นผู้แข็งแกร่งหรือไม่ จะแข็งแกร่งแค่ไหนข้าไม่สนใจ ข้ารู้แค่ว่า ข้าบอกกับเขาแล้ว ว่าท่านเป็นของข้า ถึงอย่างไรดวงใจหงส์แดงข้าจะเอามาไม่ได้ แต่ใจของเฟิงเหยียนเป็นของข้าแล้ว ท่านอ๋องอย่าให้ข้าต้องเสียหน้าต่อหน้าพ่อของท่านเชียวล่ะ...”เฟิงเหยียนก้มหน้ามองนางครู่หนึ่ง สายตาเปลี่ยนเป็นจำใจขึ้นมา “ได้”เขาเอ่ยขึ้นเสียงต่ำ “ฟังเจ้าแล้วกัน ข้าเป็นของเจ้าแล้วนี่”มือของจั๋วซือหราน ลูบไล้ลงมาจากคาง นิ้วไล่เบาๆ ผ่านคอหอยของเขาไล่ลงมาอีก คิ้วของเฟิงเหยียนขมวดแน่นขึ้น เพราะจั๋วซือหรานใช้มือข้างที่บาดเจ็บข้างนั้นดังนั้นนิ้วของนางจึงค่อยๆ ลูบไล้ไปตามร่างกายของเขาตั้งแต่คางลงมาทีละนิดทีละน้อย ในทุกวินาที ทุกมิลลิเมตรจนเขากังวล ว่านาง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 685

    เฟิงเหยียนมองรอยยิ้มบนหน้านางครู่หนึ่ง จึงถามขึ้นเสียงต่ำว่า “เจ้าควรจะรู้ ว่าถ้าข้ากลับไป สัญญาหมั้นหมายของพวกเราก็จะถูกยกเลิกอย่างรวดเร็ว พวกเขาจะรีบจัดหาคนที่เชื่อฟังที่ควบคุมได้ง่ายกว่ามาแต่งกับข้า เจ้ากับตระกูลเฟิงจะไม่เกี่ยวข้องกันอีกต่อไป พวกเขากระทั่งจะเป็นศัตรูกับเจ้าด้วยซ้ำ”“ท่านจะเป็นศัตรูกับข้าไหม?” จั๋วซือหรานถามถามคำนี้ออกมา พลางยื่นมือไปปลดหน้ากากเขาออกจากนั้นจึงเห็นสภาพขมวดคิ้วของเฟิงเหยียน เขาจ้องมองนาง “ข้าไม่มีทางทำ”จั๋วซือหรานหัวเราะเสียงทุ้ม “เช่นนั้น ท่านจะแต่งงานกับคนที่เชื่อฟังควบคุมได้ง่ายกว่าที่พวกเขาหามาไหม?”เฟิงเหยียนมองนาง พอกำลังจะอ้าปากพูดแต่จั๋วซือหรานกลับไม่รอให้เขาตอบ เอ่ยขึ้นมาว่า “ช่างเถอะ นั่นมันไม่สำคัญ ต่อให้คนที่พวกเขาหามมาจะแต่งงานกับท่านก็ไม่เกี่ยวอะไรกัน วางใจเถอะ”จั๋วซือหรานพูดพลางลูบใบหน้าเขาเบาๆ “ข้าจะปล้นงานแต่งงานเสีย น่าสนุกจะตาย ชีวิตคนเราก็ต้องลองอะไรหลายๆ อย่าง แย่งเจ้าบ่าวหรือ...อืม ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ไม่เลว”เฟิงเหยียนพอได้ยินคำของนาง ก็ทั้งโมโหทั้งขบขันเขากระทั่งไม่เข้าใจ ว่าทำไมคนที่ไม่น่าสนใจและในตระกูลก็มีเร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 686

    “แต่ข้าก็จะรับปาก” เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานพอได้ยินคำนี้ก็ตกตะลึงไป ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกมา“ข้าจะให้หานกวงไปอยู่ข้างกายเจ้า นางทำงานได้ไม่เลว เจ้าแค่คอยใช้งานนางก็พอ” เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานพยักหน้า นางยกมุมปากเป็นรอยยิ้ม “ไม่ต้องกังวล ท่านอ๋อง ไม่นานนักหรอก...”จั๋วซือหรานยื่นมือไปกดหน้าอกเขาเบาๆ “ข้าจะคิดหาวิธี หลังกจากนั้นก็จะย่ำเมฆเจ็ดสีบินไปรับท่านเลย ดีไหม?””ไร้สาระ” เฟิงเหยียนขมวดคิ้วพ่นออกมาสองคำ แต่ในตาเขากลับมีรอยยิ้มที่ปิดบังไว้ไม่มิดอยู่จั๋วซือหรานเหนื่อยแล้ว ฝืนไว้ได้ไม่นานนัก ไม่นานก็หลับตาเข้าสู่ภวังค์ไปเฟิงเหยียนนั่งอยู่ข้างเตียงฉุนจวินกดเสียงต่ำจนแทบจะเหลือแค่เสียงลมถามขึ้นว่า “นายท่าน แล้วพวกเรา...ตอนนี้กลับไปเลยไหม?”เฟิงเหยียนถลึงตามองฉุนจวิน ไม่พูดอะไรสายตาของเขาแสดงออกถึงการปฏิเสธอย่างชัดเจนแล้วฉุนจวินรู้สึกจนใจ เอ่ยขึ้นเสียงแผ่วว่า “เดี๋ยวพอแม่นางจิ่วตื่นขึ้นมา นายท่านจะยิ่งอาลัยอาวรณ์ขึ้นหรือเปล่า? สู้ไปตอนนี้ไม่ดีกว่าหรือ...”เฟิงเหยียนไม่พูดอะไร แต่ก็รู้ว่าฉุนจวินพูดมีเหตุผลเขาก้มลงมองใบหน้าจั๋วซือหราน ที่ต่อให้หลับไปแล้วก็

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 687

    “นายท่าน ท่านมาแล้ว”พริบตาที่จั๋วซือหรานได้ยินคำนี้ ก็ยกระดับความระแวดระวังขึ้นมาทันทีแต่เพียงไม่นานความระแวดระวังนี้ก็ผ่อนคลายลง นี่มันในมิติของตนเอง เป็นอาณาเขตของตนเอง ไม่มีอะไรต้องตึงเครียดนี่นาที่สำคัญที่สุดก็คือ นางตั้งตัวได้แล้ว เสียงคำพูดนี้เหมือนจะเป็นเสียงของราชาแมงมุมหน้าผีเพียงแต่ฟังแล้ว เสียงของราชาแมงมุมหน้าผี ดูจะแตกต่างกับตอนที่นางเจอมันในป่าลึกลับก่อนหน้านี้ ดูมีความเป็นผู้ใหญ่ขึ้น และในคำพูดก็เหมือนจะต่อเนื่องกันมากขึ้นแล้วด้วยจั๋วซือหรานเดินมาตรงหน้าราชาแมงมุมหน้าผี พิจารณาดูตัวมันเจ้าตัวใหญ่นี่ พอมาอยู่ในมิติ ร่างกายกลับดุเล็กมาก ขนาดประมาณอ่างล้างหน้าเท่านั้นแม้พอเทียบกับพวกเจ้าก้อนเนื้อแมลงกู่ร้อยไหมที่ขนาดประมาณกำปั้นแล้วจะยังดูตัวเขื่องอยู่ก็ตามที แต่ถ้าเทียบกับตอนที่มันอยู่ข้างนอกตัวขนาดเท่าช้างแล้ว นี่ก็ดูเล็กจ้อยไปเลยทีเดียวนี่ถือว่าเล็กจิ๋วแล้วจริงๆ“บาดเจ็บหรือ?” จั๋วซือหรานถาม ยื่นมือไปกดบนหลังของราชาแมงมุมหน้าผีมันเหมือนดูจะสบายขึ้นหน่ยอ ขาขนปุกปุยทั้งแปดก็ทยอยกันกางออก“ก่อนหน้านี้ มีพลังที่น่ากลัวมากโจมตีเข้ามา...” ราชาแมงมุมหน้าผีเอ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 688

    ยิ่งไปกว่านั้น บนมือนางยังมีสิ่งที่มันชอบเอามากๆ อยู่ด้วย พลังวิญญาณที่สบายสุดๆสบายจนหนวนทั้งหมดลองมันยังห้อยลงมา กระทั่งเสียงก็ไม่ได้รุนแรงเหมือนก่อนหน้านี้แล้วเอ่ยขึ้นเสียงอ่อนว่า “พวกมันมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ดังนั้นพอโดนพลังเมื่อครู่ไปผลกระทบเลยมากขึ้นตามไปด้วย ผลกระทบที่ข้าได้รับน้อยลงมาหน่อย”จั๋วซือหรานมองขนมถั่วแดง “เจ้ารู้ด้วยหรือว่าตัวเองเป็นคุณสมบัติอะไร?”ขนมถั่วแดงรู้สึกเหมือนถูกดูถูก เสียงที่อ่อนยวบแต่เดิมก็เหมือนจะแข็งขึ้นมา ขนาดหนวดก็ยังชี้ขึ้นด้วยเขียนไว้ทั้งตัว...ว่าข้าเก่งมากนะ!ขนมถั่วแดงพูดมาว่า “แน่นอนสิ! พวกเราไวต่อพลังมากกว่ามนุษย์อีกนะ แน่นอนว่าต้องรู้อยู่แล้วว่าตัวเองเป็นคุณสมบัติอะไร!”ราชาแมงมุมหน้าผีที่อยู่ข้างๆ เอ่ยขึ้นมาบ้าง “เดิมทีก็ไม่ได้ไวขนาดนี้หรอก แต่พอผ่านการหล่อหลอมจากพลังนั่นวันนี้ไปไวขึ้นมาแล้ว”ราชาแมงมุมหน้าผีไม่รู้ว่าสำหรับขนมถั่วแดงที่มีนิสัยหยิ่งทะนงหน่อยๆ คำพูดนี้กระชากมันลงมาจากเวทีอย่างไม่ปราณีเลยทีเดียวหนวดของขนมถั่วแดงก็ห่อเหี่ยวลงมาเหมือนกันจั๋วซือหรานหัวเราะขึ้นมา เล่นกับหนวดของมัน “เจ้าถั่วแดงไหนบอกมาหน่อย ว่าเจ้าม

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 946

    และตอนที่ฮั่วจือโจวกำลังหารือเรื่องเปิดโรงเตี๊ยมอยู่กับเจี่ยงเทียนซิงและอินเจ๋ออัน ก็ได้รู้ข่าวการพระราชทานรางวัลนี้พวกเขาสามคนสบตากัน"จักรพรรดิเฒ่านี่ร้ายจริงๆ"จั๋วซือหรานไม่ได้ส่งเสียง หลังจากได้ยินคนวังประกาศราชโองการจบ นางก็ยืนนิ่งไม่ขยับคนวังเองก็ดูกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เรียกนางขึ้นคำหนึ่ง "แม่นางจิ่ว ขานรับราชโองการสิ"จั๋วซือหรานไม่ขยับ นางมองราชโองการฉบับนั้น อันที่จริงในใจกำลังพิจารณาจะรับดีไหมองค์จักรพรรดิเฒ่าดีดลูกคิดรอบนี้ ลูกคิดแทบจะกระเด็นมาโดนหน้านางอยู่แล้วพระราชทานเงิน พระราชทานจวน พระราชทานวังสวน สิทธิ์อำนาจพ่อค้าหลวง พวกนี้ไม่มีปัญหาอะไร ใกล้เคียงกับที่นางขอองค์จักรพรรดิเฒ่าไว้แต่การอวยยศ...แต่งตั้งขุนนางกับพื้นที่ศักดินา แบบนี้มันเกินไปจริงๆในสายตาคนนอก นางเป็นแค่หญิงสาวคนหนึ่ง ได้รับยศมา เรียกได้ว่าจะกลายเป็นโหวหญิงชั้นสูงเพียงคนเดียวของเมืองหลวงไปเลยยิ่งไปกว่านั้นยังมีพื้นที่ศักดินาให้ เรื่องดีจะตายนี่?แต่การแต่งตั้งเป็นหัวหน้าแพทย์หลวง แม้จะชั่วคราว แต่ใครจะรุ้ว่าต้องนานแค่ไหน?ต้องไปเข้ากะอะไรแบบนั้น น่ารำคาญจะตายยิ่งไปกว่านั้นตำแหน่งข้า

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 945

    จั๋วซือหรานพอได้ยินเสียงนี้ ก็ไม่เร่งไม่ร้อน ชนแก้วกับจั๋วอวิ๋นฉีก่อน จากนั้นจึงค่อยๆ ดื่มสุราในแก้วลงไปจนหมดตอนนี้ นางกับจั๋วอวิ๋นฉีก็กลายเป็นผู้อาวุโสสามและผู้อาวุโสห้าของตระกูลจั๋วแล้วพอวางแก้วลง จั๋วอวิ๋นฉีก็หน้าเย็นชาลงมา เขาหน้าตาหล่อเหล่า แต่ตอนที่สีหน้าเย็นชา ก็ให้ความรู้สึกบีบคั้นที่เย็นเยียบมากเขามองไปทางผู้อาวุโสที่พูดเมื่อครู่นี้คนคนนั้นหดคอลง ไม่กล้าส่งเสียงอีกจั๋วซือหรานไม่ได้ใส่ใจ งานเลี้ยงเริ่มขึ้นแล้วตอนที่อาหารกลางวันดำเนินไปครึ่งหนึ่ง ด้านนอกประตูจู่ๆ ก็มีรายงาน ว่าคนในวังมาแล้ว"คนในวัง?" ยังมีคนไม่เข้าใจ คนในวังมาบ้านตระกูลจั๋วทำไมเพียงไม่นานก็เห็นคนวังประกาศราชโองการในชุดเรียบร้อยเดินเข้ามา เพียงแต่ว่า ดูแล้วหายใจหอบอยู่ น่าจะรีบเข้ามาพอควรคนวังประกาศราชโองการพอเห็นจั๋วซือหราน ก็เผยรอยยิ้มออกมา "แม่นางจิ่วที่แท้ก็อยู่ที่นี่นี่เอง ข้าน้อยหาตัวมาพักหนึ่งแล้ว เกรงว่าจะพลาดฤกษ์ประกาศราชโองการ"สายตาของคนตระกูลจั๋ว ทยอยกันมองจั๋วซือหรานตอนนี้ คนวังประกาศราชโองการจึงลากเสียงขึ้นดังลั่น "จั๋วซือหราน...รับราชโองการ...!"จั๋วซือหรานลุกขึ้น เตรียมจะทำท่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 944

    ผู้อาวุโสสาม!?ครั้งที่แล้วที่นางกลับไปตระกูลจั๋ว คือเชิญนางไปเป็นผู้อาวุโสหรือ?!อย่าว่าแต่พวกที่มาดูมหรสพเลย กระทั่งเฉวียนคุนพอได้ยินคำเรียกนี้ก็ยังตะลึงไปและเพราะอารมณ์ในใจเขาตื่นเต้นเกินไป จึงสั่นไปทั้งตัว!เรียก เรียกว่าอะไรนะ?!นี่เรียกว่า! สะใจสินะ! เขาตอนนั้นยังจำได้ว่า คุณหนูจิ่วออกจากตระกูล ตอนนั้นคนมากมายล้วนรอดูนางเป็นตัวตลก หรือรู้สึกว่านางนี่ล่ะที่เป็นตัวตลกตอนนั้นส่งคนใช้มามากมายมาที่เรือนของนาง แต่ละคนล้วนรู้สึกเหมือนถูกเนรเทศอย่างไรอย่างนั้น รู้สึกว่าจะไม่มีวันได้กลับไปเชิดหน้าชูตาอีกแล้วมีแค่เขาที่อยู่รอด! นับจากตอนนั้นเขาก็เริ่มเชื่อมั่นว่านายท่านจะต้องก้าวหน้าแน่!จั๋วซือหรานได้ยินคำเรียกนี้ สีหน้าก็ดูสงบนิ่งมากทุกคนเห็นสีหน้านางก็รู้แล้ว นางคงรู้เรื่องนี้มานานแล้วพอคนใช้รายงานเสร็จ ก็มองจั๋วซือหรานอย่างตึงเครียดขึ้นมาราวกับ...กลัวว่านางจะปฏิเสธพวกเขาถูกส่งมาเชิญนาง ถ้าหากเชิญไม่ได้ กลับไปอาจจะถูกลงโทษก็ไม่แน่ดังนั้นพวกเขาจึงมองดูการเปลี่ยนแปลงสีหน้าของจั๋วซือหราน เตรียมว่าถ้าหากเห็นเค้าลางการปฏิเสธในสีหน้า พวกเขาก็จะอ้อนวอนนางทันทีแต่จั๋วซือห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 943

    ตอนที่เฉวียนคุณเคาะประตูจั๋วซือหรนา นางเพิ่งจะวุ่นกับการหลอมยา...งานช่วงเช้าเสร็จเฉวียนคุนรีบเข้ามารินชาให้นางจั๋วซือหรานรับไปดื่มสองอึก "ทำไมหรือ?"เฉวียนคุนเอ่ยขึ้นว่า "นายท่าน นี่มันเรื่องอะไรกัน"สีหน้าของเฉวียนคุณปั้นยาก "เดิมทีเรือนของพวกเราก็ไม่ได้เล็กอะไร ตามหลักการแล้วก็พออาศัยอยู่"เดิมทีก็มีแค่นายท่าน ข้า เด็กฉลาด เฮยหลิง นี่ก็ไม่ใช่ว่าพออยู่เหลือเฟือหรือ"แต่ก่อนหน้านั้นก็เพิ่งจะมีใต้เท้าพวกนั้นที่ท่านช่วยกลับมาจากตระกูลเฟิง" เฉวียนคุนเอ่ยขึ้นหมายถึงพวกเหล่าองครักษ์เงาของเฟิงเหยียนที่นางช่วยกลับมา"ตอนนี้ยังมีพ่อลูกสกุลเหยียนอีก" เฉวียนคุนเอ่ยต่อ "ดังนั้นห้องข้างจึงไม่ค่อยพอแล้วนะ"ห้องพักคนใช้นอกเรือนยังว่างอยู่ ปัญหาคือ เฉวียนคุนมองว่าคนเหล่านี้ นายท่านก็ไม่ได้มองพวกเขาเหมือนคนรับใช้ ดูคล้ายจะเป็นแขกมากกว่าจะให้แขกไปอยู่ในห้องพักคนใช้ก็ไม่ได้..."อา..." จั๋วซือหรานฟังถึงจุดนี้ ก็เข้าใจความหมายของเฉวียนคุนแล้ว "อย่างนี้นี่เอง รู้แล้ว"เฉวียนคุนพยักหน้า "นายท่านเข้าใจบ้างก็ดีแล้ว ตอนนี้ยังพอจัดให้ได้ถูไถ แต่หลังจากนี้ถ้าฮูหยินกับนายท่านกลับมา ก็น่าจะจัดไม่ลง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 942

    แต่หลังจากที่พวกเขาออกไป จั๋วซือหรานกลับไม่ได้ลงมาจากบนกำแพงล้อมแต่ยังคงนั่งอยู่ตรงนั้น ผ่านไปครู่หนึ่ง นางจึงเอ่ยขึ้นว่า "พวกเจ้ายังมีเรื่องอะไรอีก"นางปวดหัว เรื่องนึงสงบลงอีกเรื่องก็ผุดขึ้นมา นางสัมผัสได้นานแล้ว ต่อให้จะเป็นตอนที่คุมเชิงกับคนตระกูลเฟิงที่ไล่ตามเฟิงหร่านมา นางก็สัมผัสได้ถึงสายตาที่จับจ้องแอบมองอยู่จากมุมหนึ่งมาโดยตลอดแล้วพอคนจากไป นางก็รออยู่อีกพักหนึ่ง สายตาที่แอบมองอยู่นั่นก็ยังอยู่นางเองก็ขี้เกียจมาเสียเวลาอยู่ตรงนี้แล้ว จึงส่งเสียงขึ้นมาตรงๆตอนนี้เอง ในมุมลับตา ก็มีเงาสองร่างเดินออกมาจั๋วซือหรานรู้จักหนึ่งในนี้ นางเลิกคิ้ว "วันนี้คึกคักเสียจริง"พอได้ยินคำนี้ เหยียนฉีก็รู้สึกเขินหน่อยๆ เขาประสานมือให้ "แม่นางจิ่ว ไม่เจอกันเสียนาน"จั๋วซือหรานพยักหน้า มองไปยังคนข้างๆ ผาดหนึ่งเหยียนฉีเอ่ยแนะนำว่า "นี่ นี่คือพ่อของข้าเหยียนเจิน"จั๋วซือหรานคิดอยู่ครู่หนึ่ง "เข้ามาสิ"นางไม่ได้กระโจนกลับจากกำแพงล้อมหรือกระโจนออกไป แต่ยืนขึ้นย้ำไปตามสันกำแพง เดินตรงไปยังประตูหน้าพร้อมพวกเขาตอนที่พวกเขาเดินมาถึงประตูเรือนหลัก จึงมีเงาแดงร่างหนึ่งร่อนลงมาตรงหน้าพวกเขา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 941

    พอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน หานกวงก็พยักหน้า "ใช่แล้ว"จั๋วซือหรานมุมปากกระตุก "ไม่จบไม่สิ้นเสียที"หานกวงฟังออก ถึงความเย็นชาและขุ่นเคืองในน้ำเสียงของแม่นางจิ่วจั๋วซือหรานผลักประตูออก เดินไปที่ห้องตะวันออกเฟิงหร่านพยุงร่างขึ้นมานั่งบนเตียง นางอยู่ในชุดดำ มีบาดแผลอยู่ไม่น้อย มีเลือดซึมออกมาข้างนอกด้วยจั๋วซือหรานแค่เหลือบมอง ก็รู้ว่าปัญหาไม่ใหญ่นักนางเดินเข้าไป ใช้มือหนึ่งจับชีพจรของเฟิงหร่าน อีกมือหนึ่งโยนขวดใบหนึ่งให้นางเฟิงหร่านก็รับไปแบบมือไม้พัลวัน "พี่จั๋ว นี่คือ...""เจ็บไม่หนักมาก กินยาเอาเองเลย" จั๋วซือหรานตอบมาเฟิงหร่านเดาว่าด้านในน่าจะเป็ยารักษาอะไรบางอย่าง นางพยักหน้า "ได้เลย ขอบคุณพี่จั๋วมาก"นางเดิมทียังคิดจะเอ่ยปาก บอกเรื่องในตระกูลเฟิงกับจั๋วซือหรานแต่ก็เห็นว่าว่าหลังที่จั๋วซือหรานส่งยาให้นางแล้ว ก็หมุนตัวเดินไปนอกประตูทันทีเฟิงหร่านรีบถามขึ้น "พี่จั๋ว ท่านจะไปไหน?"จั๋วซือหรานมุถมปากกระตุก "คนตระกูลเฟิงที่ไล่สังหารเจ้ามาพวกนั้น มาล้อมอยู่นอกบ้านข้าแล้ว พอดีเลย คืนนี้ข้าจะได้ไม่ต้องไปหาพวกเขา"พูดจบ นางก็เดินออกจาห้องไปเฟิงหร่านนั่งลงบนเตียงงงๆ แล

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 940

    แพงไม่ว่า แต่บางทีมีเงินก็หาซื้อไม่ได้พวกเขาตอนนี้เพิ่งจะรู้สึกขึ้นได้ว่าตัวตนนักกลั่นยาของจั๋วซือหรานนั้นมีประโยชน์มากจริงๆถ้าหากเดิมทียังรู้สึกไม่พอใจอยู่บ้าง ตอนนี้ก็แทบจะไม่เหลืออยู่แล้วสายตาของพวกเขาเปล่งประกายจับจ้องจั๋วซือหรานจั๋วซือหรานพอได้ยินก็ยิ้มๆ นางมองสายตาเปล่งประกายรอบๆ จากนั้นจึงมองไปทางผู้อาวุโสใหญ่"ถ้าหากให้ข้าตัดสินใจได้ล่ะก็ เงื่อนไขนี้ไม่มีปัญหาแน่นอน"เสียงของจั๋วซือหรานสงบนิ่งมาก "จะทำเช่นที่มอบให้กับตระกูลฮั่ว มอบยาลูกกลอนให้ตระกูลจั๋ว กระทั่งถ้าอารมณ์ดี จะมอบที่ขั้นสูงกว่าให้ด้วย แต่เงื่อนไขก็คือ ตระกูลจั๋วข้าต้องมีอำนาจตัดสินใจ แล้วก็ไม่ใช่ว่ามีพวกกลุ่มที่กระโจนตัวลากใบหน้าแก่ๆ ออกมาสั่งโน่นสั่งนี่กับข้า"จั๋วหลานฟังถึงคำนี้ ในใจก็อดสั่นกึกขึ้นไม่ได้เขาฟังออกถึงความหมายเชิงลึกในคำพูดนาง...ถ้าหากวันไหนที่นางไม่มีอำนาจตัดสินใจในตระกูลจั๋ว นางก็จะตัดการส่งมอบให้ได้ตลอดเวลา พวกเขาไม่มีทางเลือกเลยแม้แต่น้อยดังนั้น ไม่ว่าในใจเหล่าผู้อาวุโสที่นี่จะมีความคิด 'ฟังนางไปก่อนชั่วคราว หลังจากนี้ค่อยว่ากัน' แค่ไหน ตอนนี้ก็ต้องดับมอดลงไปทันทีจั๋วซือหรานพ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 939

    ทุกคนเห็นว่าบนหน้าจั๋วซือหรานมีรอยยิ้มจางๆ อยู่ตลอดแม้จะไม่มีความหมายอะไร ลอยอยู่ผิวเผิน แต่ก็มีอยู่มาตลอดจนตอนที่คำพูดนี้ออกมา รอยยิ้มผิวเผินบนหน้านางเหล่านั้นก็หายวับไปทันทีเหลือเพียงความเย็นชาไร้ความรู้สึกนางบอกกับคนวังจดบันทึกที่อยู่ข้างๆ "รบกวนเจ้าด้วย"คนวังจดบันทึกรู้ว่าคนผู้นี้เป็นตัวตนที่สำคัญแค่ไหนสำหรับฝ่าบาทดังนั้นท่าทีจึงนอบน้อมมาก หยิบม้วนผ้าไหมเลืองทองออกมาคลี่ออกใครก็เห็นลายมังกรที่อยู่บนนั้น...นี่มันคือราชโองการ!คนวังจดบันทึกหยิบพู่กันออกมา เริ่มตวัดเขียนขึ้นบัญชาสวรรค์ จักรพรรดิรับสั่ง ตระกูลจั๋วมีบุตรสาว ชื่อนามหรูซิน จึงขอพระราชทานงานอภิเษกให้กับฉินตวนหยางปราชญ์แห่งกรมดาราศาสตร์...หลังจากได้ยินคนวังจดบันทึกอ่านประกาศร่างราชโองการจั๋วหรูซินยังคงเป็นลมไม่ได้ เพราะยาเม็ดนั้นที่จั๋วซือหรานให้มาอหังการเหลือเกิน บอกว่าจะทำให้นางสติตื่นตัว ก็ทำให้ตื่นตัวได้จริงๆดังนั้นนางจึงโกรธแค้นจนเกินทน กระอักเลือดสดออกมาจั๋วซือหรานลุกขึ้นยืน ในดวงตาไม่มีคนผู้นี้อยู่อีก ราวกับว่า ล้างแค้นสิ่งที่ควรทำเรียบร้อยคนอย่างจั๋วหรูซิน ไม่จำเป็นต้องมาอยู่ในสายตานางอี

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 938

    ถังหยวนมองสภาพจั๋วหรูซินตอนนี้ เขาอดมีสายตาสับสนขึ้นมาไม่ได้ตรงหน้าเขามีภาพตอนที่จั๋วซือหรานถูกลงโทษแวบผ่านขึ้นมา กระดูกสันหลังที่ไม่ยอมคดงอนั่นเก้าแส้ฟาดลงไป หน้าขาวซีด เหมือนจะร่วงพับสิ้นสติ สภาพซมซานน่าเวทนาแต่ในสีหน้าท่าทาง ไม่มีท่าทีเจ็บปวดร้องไห้ชักกระตุกให้เห็นกระทั่งว่า ถังหยวนเกิดความรู้สึกลวงขึ้นมา ว่ามันควรจะเป็นเช่นนี้หรือเปล่า?แต่ตอนนี้พอเห็นท่าทางของจั๋วหรูซิน จึงมีปฏิกิริยาเข้าใจขึ้นทันที จั๋วหรูซินแบบนี้ต่างหากที่เป็นสภาพปกติแต่แบบจั๋วซือหรานนั่น เป็นตัวตนที่แตกต่างจากคนอื่นจั๋วหลานมองจั๋วซือหราน "เสียวจิ่ว พอสบายใจขึ้นบ้างหรือยัง?"จั๋วซือหรานเดินขึ้นไปทีละก้าวทุกคนล้วนคิดว่า หญิงสาวคนนี้ยังไม่สะใจพอ ต้องเข้าไปมองความเจ็บปวดทรมานของจั๋วหรูซินใกล้ๆ จึงจะพอใจจั๋วอวิ๋นชินอดทนอยู่ข้างๆ แม้เขาจะไม่พอใจน้องสาวคนนี้นัก แต่ถึงอย่างไรก็เป็นน้องสาวจะอย่างไรก็ยังมีความรู้สึกทนไม่ไหวอยู่ เขาเตรียมจะยัดยาลูกกลอนให้กับจั๋วหรูซินแล้วแต่ตอนนี้พอเห็นจั๋วซือหรานเดินขึ้นมา แม้เขาจะหยุดเท้าลง แต่ในที่สุดก็ทนไม่ไหวจั๋วอวิ๋นชินเอ่ยขึ้นเสียงขรึม "จั๋วซือหราน หรูชินได้ร

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status