แชร์

บทที่ 682

ผู้แต่ง: หูเทียนเสี่ยว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-17 18:00:18
แต่จั๋วซือหรานสัมผัสได้ ว่าสถานการณ์ภายในเหมือนจะดีขึ้นไม่น้อยแล้ว

นางออกจากเรือนนี้อย่างไร้ซุ่มเสียง

วิชาอันคล่องแคล่วถูกใช้ถึงระดับสูงสุด แต่ขึ้นลงไม่กี่ครั้งก็ออกจากกำแพงเรือนบ้านตระกูลเฟิงแล้ว

พริบตาที่ร่อนลงพื้น จูมกของนางก็ทำท่าฟุดฟิด มีกลิ่นที่คุ้นเคย เหมือนจะอยู่ใกล้ๆ นี้เอง

ต่อให้จั๋วซือหรานที่เป็นคนเดินหนึ่งก้าวคำนวณไปห้าก้าวก็ยังคิดไม่ถึง ว่าระหว่างคนด้วยกันจะมีบุพเพเช่นนี้อยู่

ตนเองกระโจนลงมาจากกำแพงเรือน ก็ดันลงมาอยู่...ตรงหน้าเฟิงเหยียนพอดี

“แม่...แม่นางจิ่ว?” ฉุนจวินเองก็ตกตะลึง คิดไม่ถึงว่าจะบังเอิญขนาดนี้

จั๋วซือหรานพอได้ยินก็หันมองมา และเห็นเข้ากับร่างงดงามชวนมองนั่น

เฟิงเหยียนยืนอยู่ตรงนั้น จ้องมองนางสายตาเคร่งขรึม

สายตาของเขา จับจ้องบนใบหน้านาง เห็นถึงหน้าผากนางที่มีเหงื่อผุดซึม ใบหน้าซีดขาว และริมฝีปากที่ไม่มีสีเลือดได้อย่างชัดเจน

และค่อยๆ เลื่อนลงมา ก็เห็นมือที่ห้อยอยู่ข้างตัวนาง

นางมีมือที่สวยงาม ขาวนวลอ่อนนุ่ม

ทว่าตอนนี้มือที่สวยงามขาวนวลอ่อนนุ่มนั้น...

ไม่เหลือเค้าโครงเดิมอยู่เลย เหลืออยู่แค่...ความดำเกรียม

ตอนที่สายตาไปเจอเข้ากับความดำเกรียมราวกิ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 683

    เฟิงเหยียนอุ้มนางเข้าไปในตำหนักสืบสวนพิเศษที่นี่เป็นสถานที่ที่กว้างกว่าตำหนักเฝินเทียนของชิ่งหมิง แต่ก็ยังเย็นกว่าตำหนักเฝินเทียนของชิ่งหมิงจั๋วซือหรานเวลานี้ กลับไม่มีความคิดจะชื่นชมสถานที่ของหน่วยสืบสวนพิเศษแห่งนี้เลยว่ามีหน้าตาเป็นอย่างไรนางมองใบหน้าด้านข้างของหน้ากากที่เฟิงเหยียนใส่อยู่รู้สึกเพียงว่า...มหัศจรรย์อยู่หน่อยๆอารมณ์ร้อนรนของเขา เหมือนว่าต่อให้สวมหน้ากากอยู่ก็ยังปิดไม่มิดนางถูกวางลงบนเตียงหินในตำหนักนอนของตำหนักสืบสวนพิเศษอย่างระมัดระวังหลังจากนอนลงไป จั๋วซือหรานก็ตัวสั่น นางเพิ่งรู้สึกว่า “นี่มันหินอะไรน่ะ...”“หินหยกเย็น” เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นเสียงทุ้มต่ำ “ทำให้เจ้ารู้สึกดีขึ้นหน่อย”“เย็นจัง” จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น“มือยังเจ็บไหม?” เฟิงเหยียนถาม“ดีขึ้นแล้ว” จั๋วซือหรานตอบมา ยกมือของตนเองขึ้นมามองดูจากนั้นจึงพบว่าสายตาของท่านอ๋องไม่กล้ามองมาที่มือของนางยิ่งไปกว่านั้น จั๋วซือหรานยังสังเกตได้ว่าท่านอ๋องเหมือนจะมีอารมณ์ขุ่นมัวกำลังกลั่นตัวอยู่ในดวงตา คล้ายกับว่า...โกรธหรือ?จั๋วซือหรานเรียกหา “ท่านอ๋อง...”ยังไม่ทันพูดจบก็ถูกเฟิงเหยียนตัดบทแล้ว “เจ้าบ้า

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 684

    เฟิงเหยียนนิ่งไปครู่หนึ่ง เหมือนไม่อยากจะตอบ คล้ายกับกำลังคิดคำพูดที่เหมาะสม จัดเรียงคำพูดอยู่พักหนึ่ง จึงตอบกลับมาเสียงต่ำว่า “ถึงอย่างไร ในอดีตเขาก็เป็นภาชนะของพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงรุ่นก่อน ต่อให้ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว พลังที่ได้รับมาเมื่อตอนนั้นก็เพียงพอจะทำให้เขาเปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งขึ้นได้”จั๋วซือหรานยิ้มๆ นิ้วมือยังคงบีบอยู่ที่คางของเฟิงเหยียน เอ่ยต่อว่า “เขาเป็นผู้แข็งแกร่งหรือไม่ จะแข็งแกร่งแค่ไหนข้าไม่สนใจ ข้ารู้แค่ว่า ข้าบอกกับเขาแล้ว ว่าท่านเป็นของข้า ถึงอย่างไรดวงใจหงส์แดงข้าจะเอามาไม่ได้ แต่ใจของเฟิงเหยียนเป็นของข้าแล้ว ท่านอ๋องอย่าให้ข้าต้องเสียหน้าต่อหน้าพ่อของท่านเชียวล่ะ...”เฟิงเหยียนก้มหน้ามองนางครู่หนึ่ง สายตาเปลี่ยนเป็นจำใจขึ้นมา “ได้”เขาเอ่ยขึ้นเสียงต่ำ “ฟังเจ้าแล้วกัน ข้าเป็นของเจ้าแล้วนี่”มือของจั๋วซือหราน ลูบไล้ลงมาจากคาง นิ้วไล่เบาๆ ผ่านคอหอยของเขาไล่ลงมาอีก คิ้วของเฟิงเหยียนขมวดแน่นขึ้น เพราะจั๋วซือหรานใช้มือข้างที่บาดเจ็บข้างนั้นดังนั้นนิ้วของนางจึงค่อยๆ ลูบไล้ไปตามร่างกายของเขาตั้งแต่คางลงมาทีละนิดทีละน้อย ในทุกวินาที ทุกมิลลิเมตรจนเขากังวล ว่านาง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 685

    เฟิงเหยียนมองรอยยิ้มบนหน้านางครู่หนึ่ง จึงถามขึ้นเสียงต่ำว่า “เจ้าควรจะรู้ ว่าถ้าข้ากลับไป สัญญาหมั้นหมายของพวกเราก็จะถูกยกเลิกอย่างรวดเร็ว พวกเขาจะรีบจัดหาคนที่เชื่อฟังที่ควบคุมได้ง่ายกว่ามาแต่งกับข้า เจ้ากับตระกูลเฟิงจะไม่เกี่ยวข้องกันอีกต่อไป พวกเขากระทั่งจะเป็นศัตรูกับเจ้าด้วยซ้ำ”“ท่านจะเป็นศัตรูกับข้าไหม?” จั๋วซือหรานถามถามคำนี้ออกมา พลางยื่นมือไปปลดหน้ากากเขาออกจากนั้นจึงเห็นสภาพขมวดคิ้วของเฟิงเหยียน เขาจ้องมองนาง “ข้าไม่มีทางทำ”จั๋วซือหรานหัวเราะเสียงทุ้ม “เช่นนั้น ท่านจะแต่งงานกับคนที่เชื่อฟังควบคุมได้ง่ายกว่าที่พวกเขาหามาไหม?”เฟิงเหยียนมองนาง พอกำลังจะอ้าปากพูดแต่จั๋วซือหรานกลับไม่รอให้เขาตอบ เอ่ยขึ้นมาว่า “ช่างเถอะ นั่นมันไม่สำคัญ ต่อให้คนที่พวกเขาหามมาจะแต่งงานกับท่านก็ไม่เกี่ยวอะไรกัน วางใจเถอะ”จั๋วซือหรานพูดพลางลูบใบหน้าเขาเบาๆ “ข้าจะปล้นงานแต่งงานเสีย น่าสนุกจะตาย ชีวิตคนเราก็ต้องลองอะไรหลายๆ อย่าง แย่งเจ้าบ่าวหรือ...อืม ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ไม่เลว”เฟิงเหยียนพอได้ยินคำของนาง ก็ทั้งโมโหทั้งขบขันเขากระทั่งไม่เข้าใจ ว่าทำไมคนที่ไม่น่าสนใจและในตระกูลก็มีเร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 686

    “แต่ข้าก็จะรับปาก” เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานพอได้ยินคำนี้ก็ตกตะลึงไป ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกมา“ข้าจะให้หานกวงไปอยู่ข้างกายเจ้า นางทำงานได้ไม่เลว เจ้าแค่คอยใช้งานนางก็พอ” เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานพยักหน้า นางยกมุมปากเป็นรอยยิ้ม “ไม่ต้องกังวล ท่านอ๋อง ไม่นานนักหรอก...”จั๋วซือหรานยื่นมือไปกดหน้าอกเขาเบาๆ “ข้าจะคิดหาวิธี หลังกจากนั้นก็จะย่ำเมฆเจ็ดสีบินไปรับท่านเลย ดีไหม?””ไร้สาระ” เฟิงเหยียนขมวดคิ้วพ่นออกมาสองคำ แต่ในตาเขากลับมีรอยยิ้มที่ปิดบังไว้ไม่มิดอยู่จั๋วซือหรานเหนื่อยแล้ว ฝืนไว้ได้ไม่นานนัก ไม่นานก็หลับตาเข้าสู่ภวังค์ไปเฟิงเหยียนนั่งอยู่ข้างเตียงฉุนจวินกดเสียงต่ำจนแทบจะเหลือแค่เสียงลมถามขึ้นว่า “นายท่าน แล้วพวกเรา...ตอนนี้กลับไปเลยไหม?”เฟิงเหยียนถลึงตามองฉุนจวิน ไม่พูดอะไรสายตาของเขาแสดงออกถึงการปฏิเสธอย่างชัดเจนแล้วฉุนจวินรู้สึกจนใจ เอ่ยขึ้นเสียงแผ่วว่า “เดี๋ยวพอแม่นางจิ่วตื่นขึ้นมา นายท่านจะยิ่งอาลัยอาวรณ์ขึ้นหรือเปล่า? สู้ไปตอนนี้ไม่ดีกว่าหรือ...”เฟิงเหยียนไม่พูดอะไร แต่ก็รู้ว่าฉุนจวินพูดมีเหตุผลเขาก้มลงมองใบหน้าจั๋วซือหราน ที่ต่อให้หลับไปแล้วก็

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 687

    “นายท่าน ท่านมาแล้ว”พริบตาที่จั๋วซือหรานได้ยินคำนี้ ก็ยกระดับความระแวดระวังขึ้นมาทันทีแต่เพียงไม่นานความระแวดระวังนี้ก็ผ่อนคลายลง นี่มันในมิติของตนเอง เป็นอาณาเขตของตนเอง ไม่มีอะไรต้องตึงเครียดนี่นาที่สำคัญที่สุดก็คือ นางตั้งตัวได้แล้ว เสียงคำพูดนี้เหมือนจะเป็นเสียงของราชาแมงมุมหน้าผีเพียงแต่ฟังแล้ว เสียงของราชาแมงมุมหน้าผี ดูจะแตกต่างกับตอนที่นางเจอมันในป่าลึกลับก่อนหน้านี้ ดูมีความเป็นผู้ใหญ่ขึ้น และในคำพูดก็เหมือนจะต่อเนื่องกันมากขึ้นแล้วด้วยจั๋วซือหรานเดินมาตรงหน้าราชาแมงมุมหน้าผี พิจารณาดูตัวมันเจ้าตัวใหญ่นี่ พอมาอยู่ในมิติ ร่างกายกลับดุเล็กมาก ขนาดประมาณอ่างล้างหน้าเท่านั้นแม้พอเทียบกับพวกเจ้าก้อนเนื้อแมลงกู่ร้อยไหมที่ขนาดประมาณกำปั้นแล้วจะยังดูตัวเขื่องอยู่ก็ตามที แต่ถ้าเทียบกับตอนที่มันอยู่ข้างนอกตัวขนาดเท่าช้างแล้ว นี่ก็ดูเล็กจ้อยไปเลยทีเดียวนี่ถือว่าเล็กจิ๋วแล้วจริงๆ“บาดเจ็บหรือ?” จั๋วซือหรานถาม ยื่นมือไปกดบนหลังของราชาแมงมุมหน้าผีมันเหมือนดูจะสบายขึ้นหน่ยอ ขาขนปุกปุยทั้งแปดก็ทยอยกันกางออก“ก่อนหน้านี้ มีพลังที่น่ากลัวมากโจมตีเข้ามา...” ราชาแมงมุมหน้าผีเอ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 688

    ยิ่งไปกว่านั้น บนมือนางยังมีสิ่งที่มันชอบเอามากๆ อยู่ด้วย พลังวิญญาณที่สบายสุดๆสบายจนหนวนทั้งหมดลองมันยังห้อยลงมา กระทั่งเสียงก็ไม่ได้รุนแรงเหมือนก่อนหน้านี้แล้วเอ่ยขึ้นเสียงอ่อนว่า “พวกมันมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ดังนั้นพอโดนพลังเมื่อครู่ไปผลกระทบเลยมากขึ้นตามไปด้วย ผลกระทบที่ข้าได้รับน้อยลงมาหน่อย”จั๋วซือหรานมองขนมถั่วแดง “เจ้ารู้ด้วยหรือว่าตัวเองเป็นคุณสมบัติอะไร?”ขนมถั่วแดงรู้สึกเหมือนถูกดูถูก เสียงที่อ่อนยวบแต่เดิมก็เหมือนจะแข็งขึ้นมา ขนาดหนวดก็ยังชี้ขึ้นด้วยเขียนไว้ทั้งตัว...ว่าข้าเก่งมากนะ!ขนมถั่วแดงพูดมาว่า “แน่นอนสิ! พวกเราไวต่อพลังมากกว่ามนุษย์อีกนะ แน่นอนว่าต้องรู้อยู่แล้วว่าตัวเองเป็นคุณสมบัติอะไร!”ราชาแมงมุมหน้าผีที่อยู่ข้างๆ เอ่ยขึ้นมาบ้าง “เดิมทีก็ไม่ได้ไวขนาดนี้หรอก แต่พอผ่านการหล่อหลอมจากพลังนั่นวันนี้ไปไวขึ้นมาแล้ว”ราชาแมงมุมหน้าผีไม่รู้ว่าสำหรับขนมถั่วแดงที่มีนิสัยหยิ่งทะนงหน่อยๆ คำพูดนี้กระชากมันลงมาจากเวทีอย่างไม่ปราณีเลยทีเดียวหนวดของขนมถั่วแดงก็ห่อเหี่ยวลงมาเหมือนกันจั๋วซือหรานหัวเราะขึ้นมา เล่นกับหนวดของมัน “เจ้าถั่วแดงไหนบอกมาหน่อย ว่าเจ้าม

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 689

    ก็ไม่ใช่จะไม่มีข้อยกเว้น สองตัวที่เหลืออย่างขนมหยกขาวกับขนมปุยเมฆที่จับออกมาจากแม่ทัพอิงเซ่าและแม่ทัพฉีฮ่าว ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสูดรับไฟวิเศษมาหรือเปล่าพอรับการหล่อหลอมที่น้อยหน่อย ดังนั้นการตื่นของพวกมันจึงช้าไปบ้าง การพูดจาก็ยังดูเชื่องช้าแต่พอเทียบกับก่อนหน้านี้ที่รู้จักแต่งอตัวไปมาบนมือจั๋วซือหราน ก็ยังดูสนุกสนานขึ้นมากเลยสัตว์เลี้ยงในบ้านพัฒนากันหมดแล้วจั๋วซือหรานตอนนี้สิ่งเดียวที่ยังรู้สึกเสียดายก็คือ แมลงกู่ร้อยไหมตัวนั้นที่จับกลับมาจากตัวเฮยหลิง เพรานางวางเอาไว้บนตัวชิ่งหมิงเพื่อรักษาโรคเรื้อรังที่เกิดขึ้นจากการติดพิษและยังมีแมลงกู่ร้อยไหมอีกตัวที่เด็ดออกมาจากในชีพจรหัวใจเฟิงช่านอีกตัว เจ้าขนมชามก่อนหน้านี้ตอนที่นางอยู่ที่บ้านตระกูลเฟิง ขณะที่ปะทะกับเฟิงจื๋อ จับยัดเข้าไปในปากของเฟิงจื๋อแล้วดังนั้น สองตัวนี้เนื่องจากไม่ได้อยู่ในมิติน้ำพุวิเศษ จึงไม่ได้มาเจอกับคลื่นหล่อหลอมนี้ขาดทุนไปเสียแล้วจั๋วซือหรานเดินมาที่ริมน้ำพุวิเศษ ล้างมือของตนเองด้วยน้ำพุวิเศษ น้ำพุวิเศษนี้แม้จะยังไม่สามารถรักษาอาการเจ็บป่วยได้โดยตรงอย่างเช่นถ้าหากใครได้รับอาการบาดเจ็บแบบถึงชีวิต น้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 690

    เพิ่งกลับมาถึงจวนของตนเอง อิ๋นไห่ก็ตรงเข้ามาหานาง“แม่นางจิ่ว!” อิ๋นไห่คารวะอย่างนอบน้อม“อื๋อ? มีอะไรหรือ?” จั๋วซือหรานมองเขา “เรื่องการทดสอบไกล่เกลี่ยตัดสินใหม่หรือ?”อิ๋นไห่พยักหน้า “ใช่แล้ว แม่นางจิ๋ว เวลาของการทดสอลไกล่เกลี่ยตัดสินใหม่ เจ้าสำนักจันทร์เงินมาแจ้งกับเจ้านักแล้ว กดหนดให้เป็นคืนนี้ตอนค่ำ”จั๋วซือหรานเลิกคิ้ว “คืนนี้? ได้ กลับไปบอกเจี่ยงเทียนซิงด้วย ว่าข้ารู้แล้ว”“เจ้าสำนักให้ข้าน้อยมาบอกต่อแม่นางจิ่ว ว่าเจ้าสำนักเฟิ่งเสวี่ยทั้งสองคนจะมาชมการประลองด้วย”จั๋วซือหรานคิดถึงพี่น้องหอเฟิ่งเสวี่ยสองคนนั้น จึงพยักหน้า “เข้าใจแล้ว”อิ๋นไห่พอนำคำพูดมาบอกต่อเสร็จ ก็เตรียมจะออกไปแต่จั๋วซือหรานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ร้องเรียกเขาไว้ “ช้าก่อน”“แม่นางจิ่วมีอะไรจะกำชับหรือ?” อิ๋นไห่ถือว่าศิโรราบทั้งกายใจต่อจั๋วซือหรานแล้ว ดังนั้นท่าทีจึงนอบน้อมอย่างมากจั๋วซือหรานคิดๆ เอ่ยขึ้นว่า “ให้คนคอยจับตาดูสถานการณ์ของบ้านตระกูลเฟิงไว้ด้วย”“บ้านตระกูลเฟิง?” อิ๋นไห่ประหลาดใจหน่อยๆ แต่ก็พยักหน้ากลับอย่างรวดเร็ว “ขอรับ แม่นางจิ่วโปรดวางใจ”เฮยหลิงทำตามที่จั๋วซือหรานกำชับไว้ ‘ชี้แนะ’ ใ

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 728

    “นี่ฝูซูกับเฮยหลิงยังไว้หน้าพวกเจ้าอยู่นะ ถึงยังไม่จับตะเกียบ ไม่อย่างนั้นพวกเจ้าแค่น้ำแกงก็ไม่ได้ชิมด้วยซ้ำ” เจี่ยงเทียนซิงวางตะเกียบลงหัวเราะฮั่วจือโจวไม่อยากเชื่อ ถามขึ้นว่า “นี่คือของที่แม่นางจั๋วจิ่วทำหรือ? จริงหรือเปล่า?”“เป็นของที่คุณหนูข้าทำเอง” ฝูซูพยักหน้าอินเจ๋ออันมองเขา ถามขึ้นว่า “คุณชายฮั่ว ยอมรับแล้วหรือยัง?”ฮั่วจือโจวถอนหายใจเบาๆ พยักหน้าเจี่ยงเทียนซิงเห็นท่าทางแขกยึดครองตำแหน่งเจ้าภาพของอินเจ๋ออันแล้วก็หัวเราะพรวดขึ้นมา “เปาน้อย เจ้าเองก็ไว้หน้าตัวเองหน่อยดีไหม คำพูดนี้ข้าต่างหากที่ควรถาม? เจ้าน่ะยอมรับแล้วหรือยัง?”“ถ้าข้าไม่ยอมรับ แล้วข้าจะเอาเงินมาให้พวกเจ้าด้วยตัวเองทำไมกัน?!” อินเจ๋ออันจ้องอย่างมาดร้ายไปทางเจี่ยงเทียนซิงตัวเขาเองอาจจะไม่ทันสังเกต ว่าตนเองกระทั่งลืมไปแล้วว่าต่อต้านชื่อเรีย ‘เปาน้อย’ อยู่เฟิงหร่านนั่งอยู่ข้างๆ ไม่พูดอะไรมาตลอด สนใจแค่การกินอาหารบนโต๊ะอย่างรวดเร็วราวพายุดูดเท่านั้นนางกินไปด้วย พิจารณาชายหนุ่มสามคนนี้ไปด้วยในใจจู่ๆ ก็เกิดความรู้สึกวิตกกังวลขึ้นมาเฟิงหร่านเกิดวิตกกังวลขึ้นมาแทนพี่ชายตนเอง นางชื่นชมในใจ พี่หญิงจั๋วน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 727

    สายตาฮั่วจือโจวมองจั๋วซือหรานอย่างลึกซึ้งตระกูลขุนนางเหล่านี้ล้วนเป็นแบบเดียวกัน จั๋วซือหรานเองก็เดินออกมาจากตระกูลขุนนาง ดังนั้นจึงเข้าใจเป็นอย่างดีต่อให้ทุกคนจะเป็นลูกหลานในตระกูลเหมือนกัน และก็จะมีพวกลูกหลานที่ได้รับการปฏิบัติกับให้ความสำคัญมากกว่า และก็จะมีลูกหลานที่ถูกมองข้ามหรือเมินเฉยแต่นี่ก็จะขึ้นอยู่กับฝีมือของรุ่นพ่อและฝีมือของตนเองดูจากจั๋วซือหรานแล้วมองออกไม่ยาก กระทั่งฝีมือของรุ่นพ่อก็ยังไม่แน่ว่าจะสำคัญ เพราะพ่อของนางนั้นไม่อยู่มานานแล้วมีเพียงฝีมือของตนเองที่ถูกให้ความสำคัญมากที่สุดดังนั้นในฐานะที่เป็นลูกหลานในตระกูล หากคิดจะได้รับการให้ความสำคัญของตระกูล อย่างน้อยก็ต้องทำผลงานออกมาให้ได้สถานการณ์ของฮั่วจือโจวตอนนี้ก็น่าจะเป็นเช่นนี้เขามีฝีมืออยู่บ้าง และมีอุดมการณ์ของตนเองด้วยเช่นกัน แต่ก็จำเป็นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ จะตัดสินใจอย่างบุ่มบ่ามไม่ได้เพราะในตระกูลเช่นนี้ คนมากมายล้วนเป็นแบบเดียวกัน โอกาสอาจจะมีแค่ครั้งเดียว ถ้าทำผลงานไม่ได้ หลังจากนี้ทรัพยายากรก็อาจจะไม่เอนมาทางเขาอีกแล้วจุดนี้ จั๋วซือหรานไม่ลังเลที่จะพูดออกมาสายตาฮั่วจือโจวหยุดอยู่ที่แ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 726

    จั๋วซือหรานยิ้มๆ “ก็ต้องตั้งแต่ตอนที่เจ้าตามพวกเราเข้ามาแล้วน่ะสิ”ฮั่วจือโจวลุกขึ้นยืน เดินตรงเข้ามาทางนี้ นั่งลงข้างโต๊ะพวกเขา“เมื่อครู่แผนของแม่นางจิ่ว ข้าได้ยินแล้ว” ฮั่วจือโจวเองก็ไม่ปิดบัง พูดออกมาตรงๆเขาพูดประโยคนี้ออกมา ก็หวังว่าจั๋วซือหรานจะไม่ต้องมาเสียเวลาคิดมากในเรื่องนี้แล้วแต่ฮั่วจือโจวคิดไม่ถึงว่าจั๋วซือหรานจะพูดว่า “ข้าจงใจพูดออกมาให้เจ้าได้ยิน”สีหน้าฮั่วจือโจวตกตะลึงไปทันที “อะไรนะ?”จั๋วซือหรานยิ้มตาโค้งเอ่ยขึ้นว่า “คุณชายสามฮั่วฟังแผนการของข้าแล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง?”“ไม่เลว” ฮั่วจือโจวตอบ “มิน่าสี่ตระกูลที่เหลือจึงมองเจ้าเป็นหนามยอกอก”รอยยิ้มบนหน้าจั๋วยังไม่จางหาย “ถ้าข้าไม่จงใจพูดให้เจ้าได้ยิน แล้วจะกล่อมให้เจ้ามาร่วมมือได้อย่างไรกัน?”“ร่วมมือ?” ฮั่วจือโจวตกตะลึงจั๋วซือหรานตอบ “อืม ข้าไม่มีเจตนาจะทำให้ตระกูลฮั่วต้องลำบากใจ ถ้าแค่ตระกูลฮั่วไม่ทำให้ข้าลำบากใจน่ะนะ แต่ข้าเองก็เข้าใจ บุ่มบ่ามไปแย่งธุรกิจของคนอื่น ดูแล้วยังไงก็ไม่เหมาะสม และยังเป็นในสถานการณ์ที่ข้ามั่นใจว่าข้าคว้ามันมาได้ด้วย”ฟังคำพูดนี้ของจั๋วซือหรานแล้ว ฮั่วจือโจวก็หัวเราะขึ้นมา เขาก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 725

    “ทำให้มันคึกคักขึ้น?” เฟิงหร่านตาเป็นประกาย ความชื่นชมต่อตัวจั๋วซือหรานของนางไม่ได้แค่นิดหน่อยแล้วตอนนี้มองจั๋วซือหรานด้วยตาเป็นประกาย “พี่หญิงจั๋ว จะทำให้มันคึกคักขึ้นได้อย่างไรหรือ?”จั๋วซือหรานคิดๆ เอ่ยขึ้นว่า “วิธีการมีอยู่เยอะเลยทีเดียว ก็ให้เจ้าไปแสดงพ่นไฟ เฮยหลิงไปแสดงหน้าอกทลายหินอะไรแบบนั้น หรือไม่ข้าก็ให้พวกแมลงไปแสดงละครหุ่นกระบอก? ต้องสนุกคึกคักแน่ๆ...”“พ่น พ่น...พ่นไฟ??” ในสายตาเฟิงหร่านเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อก็จริง สำหรับนางที่เป็นคุณหนูลูกขุนนางเช่นนี้ทุกการกระทำทั้งหมดของจั๋วซือหราน กระทั่งแค่ลมหายใจของนาง ก็ดูจะผิดแปลกไปจากคนอื่นๆ ในตระกูลขุนนางเหล่านั้น “พ่นไฟเป็นไหม? ถ้าไม่เป็นเดี๋ยวไว้ข้าหาเวลาสอนเจ้า” จั๋วซือหรานวางตะเกียบลง “สรุปคือ ถ้าถึงเวลาต้องเปิดกิจการ ก็หาการแสดงอะไรมา จากนั้นพอเปิดร้านก็เตรียมการให้ลูกค้าแต่ละโต๊ะหลังจากที่กินอาหารเสร็จ ก็มอบอาหารเพิ่มให้อีกหนึ่งจานแบบไม่ต้องจ่ายเงินอะไรแบบนี้”“ประชาชนกินเพื่ออยู่ ขอแค่ของอร่อย ยังต้องกลัวว่าจะไม่มีใครมาอีกหรือ” จั๋วซือหรานคิดคิด เอ่ยต่อว่า “ไหนจะเรื่องที่อาหารของที่นี่รสชาติแย่แค่ไหน น่าจะไ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 724

    จั๋วซือหรานตอบ “เดี๋ยวเจ้าลองชิมก็รู้แล้ว...”ผ่านไปครู่หนึ่ง อาหารก็ส่งขึ้นมา หน้าตาแย่เอามากๆเจี่ยงเทียนซิงจึงเพิ่งได้ยินประโยคหลังของจั๋วซือหราน “...ไม่ใช่ห่วยแตกแบบธรรมดาด้วย”เจี่ยงเทียนซิง “...”เฟิงหร่าน “...”ฝูซู “...”เฮยหลิง “...”ทุกคนทยอยกันพูดไม่ออกจั๋วซือหรานหยิบตะเกียบขึ้นมา คีบคำหนึ่งส่งเข้าปาก หลังจากเคี้ยวไปสองคำ ก็ขมวดคิ้วขึ้นมา “พวกเจ้าลองชิมสิ ห่วยแตกแบบไม่ธรรมดาจริงๆ”เฮยหลิงยังพอไหว ถึงอย่างไรก่อนหน้านี้ก็ใช้ชีวิตยากลำบากมาแล้ว ขยับตะเกียบ หลังจากกินคำแรกไปเห็นได้อย่างชัดเจน ว่าเขาเหมือนจะโกรธขึ้นแล้วเฟิงหร่านเองพอเห็นสถานการณ์ จึงวางตะเกียบลงเงียบๆเจี่ยงเทียนซิงถาม “เจ้าหิวแล้ว แต่จงใจมายังร้านอาหารที่รสชาติแย่หรือ?”จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น “ลองชิมดูก่อน แบบนี้ภายหลังจะได้มีความแตกต่าง”เจี่ยงเทียนซิงก็เชื่อฟังคำพูดของนาง คีบขึ้นมาพอส่งเข้าปาก จึงเพิ่งมีปฏิกิริยากับคำพูดของจั๋วซือหราน “...ภายหลัง?”ตอนนี้เอง อะไรบางอย่างที่อยู่ในปาก ในที่สุดก็ทำเอาประสามรับรสของเขาถูกปะทะอย่างรุนแรง“ถุด” เจี่ยงเทียนซิงพ่นอาหารในปากออกมา รู้สึกว่าคำวิจารณ์ก่อน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 723

    พอได้ยินคำพูดของเจี่ยงเทียนซิง จั๋วซือหรานก็เลิกคิ้ว “นั่นก็จริงอยู่”เจี่ยงเทียนซิงถามขึ้น “บาดแผลของเจ้าไม่เป็นไรหรือ?”“ถ้าเจ้าถามช้าอีกหน่อย มันก็หายสนิทแล้ว” จั๋วซือหรานมองตำแหน่งบาดแผลเหล่านั้นบนร่างกายตนเองผาดหนึ่ง“ที่ข้าพูดไม่ได้หมายถึงบาดแผลในการประลองเมื่อครู่ แต่เป็นของเมื่อคืนนี้” เจี่ยงเทียนซิงบอกมาเฟิงหร่านอยู่ข้างๆ ได้ยินคำพูดของเจี่ยงเทียนซิง จึงรีบกำชับขึ้นมาว่า “จริงด้วย พี่หญิงจั๋ว ท่านไม่เป็นอะไรแล้วหรือ? ข้าได้ยินเรื่องที่ท่านเข้าไปในศาลบรรพบุรุษเมื่อคืนนี้แล้ว นั่นมันอันตรายมากเลย! ท่านไม่ได้บาดเจ็บใช่ไหม?”จั๋วซือหรานเหลือบมองแม่นางคนนี้ “พี่ชายของเจ้า กลับบ้านไปแล้วหรือยัง?”เฟิงหร่านตกตะลึง จากนั้นจึงพยักหน้า “กลับมาแล้ว”“เช่นนั้นเขาไม่ได้บอกเจ้าหรือ?” จั๋วซือหรานถามขึ้นมาอีกเฟิงหร่านถอนหายใจอีกครั้ง “อารมณ์ของพี่ชายเหมือนไม่ค่อยดีนัก หลังจากกลับมา ผู้อาวุโสหลายคนที่อยากไปคุยกับเขา ก็ล้วนถูกไล่ออกมาหมด ข้าเองก็ไม่กล้าเข้าไปวุ่นวาย”นางมองจั๋วซือหรานตาแป๋ว “พี่หญิงจั๋ว เป็นเพราะท่านหรือเปล่า?”“หือ?” จั๋วซือหรานส่งเสียงสงสัยขึ้นมาเฟิงหร่านถามขึ้น

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 722

    “ไม่มีเคล็ดวิชาอะไร กระทั่งไม่มีถุงเก็บสัตว์ด้วยซ้ำ แต่กลับเก็บแมงมุมหน้าผีระดับราชาลงไปได้ในชั่วพริบตา” ซางเชวี่ยเอ่ยขึ้นเสียงต่ำ “ก่อนหน้านี้ตอนที่นางอัญเชิญราชาแมงมุมหน้าผีออกมา พวกเราถูกทำให้เข้าใจผิดจนคิดว่าอีกฝ่ายอัญเชิญออกมา คู่มือของนางคนนั้น แม้ความเร็วในการอัญเชิญจะเร็ว แต่ก็ยังต้องมีเคล็ดวิชาอะไรอยู่”“ตอนนั้นถูกเบนความสนใจจนไม่ทันสังเกต ตอนนี้กลับมองเห็นชัดเจนแล้ว ไม่แน่ว่าตอนที่นางอัญเชิญมาก็เป็นเช่นนี้ ไม่มีเคล็ดวิชาอะไรในการเก็บหรือเรียก” คนตระกูลซางที่ถูกจั๋วซือหรานแย่งราชาแมงมุมหน้าผีไปคนนั้นเอ่ยขึ้นเสียงขรึมเขาจู่ๆ ก็รู้สึกโชค ที่ตอนไปจัดการราชาแมงมุมหน้าผีในป่าลึกลับตอนนั้น ตนเองไม่ได้เผชิญหน้ากับจั๋วซือหรานเหมือนคนพวกนั้นตอนนั้นเขายังรู้สึกว่า ราชาแมงมุมหน้าผีถูกแย่งไปเพราะโชคดีที่ไม่ได้มาเจอกับเขา ดังนั้นจึงแย่งไปได้อย่างราบรื่นแต่พอเห็นตรงนี้ ในใจเขาก็แอบรู้สึกโชคดี ยังดีที่ตนเองโชคดี! ไม่ได้ไปเจอเข้ากับจั๋วซือหรานในตอนนั้น! ไม่เช่นนั้น เขาคงได้กลายเป็นวิญญาณเร่ร่อนอยู่ในป่าลึกลับเหมือนคนอื่นๆ พวกนั้นแน่!และบนเวทีประลองตอนนี้ หลังจากจั๋วซือหรานเก็บราชาหน้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 721

    เปรี๊ยะ...! ตอนที่เสียงนี้ดังขึ้น แจ่มชัดอย่างมากต่อให้ในสถานที่ที่สับสนวุ่นวายอย่างในลานประลอง ก็ยังแจ่มชัดอย่างมาก!ทุกคนล้วนมีปฏิกิริยากันขึ้นว่ามาต้นเสียงมาจากไหนแต่เพียงไม่นาน ก็มีคนพบขึ้นแล้ว“ดู...ดูสิ! ให้ตายเถอะ...เว เวที แตก...แตกออกแล้ว!”ภายใต้การจับตามองของทุกคน ด้านใต้ร่างกายของซางถิง แตกออกมาเป็นรอยแยกรอยหนึ่ง!“นั่น...นั่นไม่ใช่เวทีที่ทำจากหินต้องห้ามหรือ? ทำ ทำไมถึง...แตกล่ะ?”ระดับความแข็งของหินต้องห้ามแค่จินตนาการก็รู้แล้ว ไหนจะคุณสมบัติพิเศษของหินต้องห้ามที่สามารถสะกดพลังวิญญาณของมนุษย์ได้ถ้าหากไม่สามารถใช้พลังวิญญาณ แล้วคิดจะสร้างรอยแตกแก่หินต้องห้าม นั่นมันฝันกลางวันชัดๆทว่าตอนนี้ กลับมีคนทำได้แล้วก็คือคนที่เดิมทีถูกทุกคนดูถูกบนเวทีประลอง ถูกทุกคนเข้าใจว่าสู้หลอกๆ เข้าใจว่านางไม่มีฝีมือการต่อสู้...คนที่เป็นแค่หญิงสาวในสายตาของทุกคนคนนั้นจัดการหั่น...เวทีประลองที่ทำจากหินต้องห้ามนี้จนแตกหลังจากที่ทุกคนตระหนักขึ้นได้ ทั่วทั้งลานก็เงียบลงมาทันทีจั๋วซือหรานมองไปทางอินเจ๋ออัน อินเจ๋ออันก็สีหน้าปั้นยากขึ้นมา กระทั่งประกาศแพ้ชนะก็ยังลืมทำ ยืนแข็งทื

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 720

    เพราะบนเวทีประลอง ไม่ค่อยจะมีความยอดเยี่ยมที่พิเศษนัก หรือก็คือ การต่อสู้ที่งดงามยอดเยี่ยม คนที่เก่งกาจจริงๆ ใครก็ไม่อยากจะมาเสียเวลาบนเวทีประลองระดับต่ำๆ เช่นนี้ปกติจึงมีแต่การต่อสู้ที่ไม่ได้ยอดเยี่ยมอะไรนัก และเพราะเหตุนี้ ทุกคนจึงอยากจะลองเดิมพันกัน อยากจะเห็นการต่อสู้ที่เลือดสาดยิ่งขึ้น เพราะมันต้องมีอะไรสักอย่างที่ดึงดูดสายตาแต่ตอนนี้ การต่อสู้บนเวที ไม่จำเป็นต้องเลือดสาด แค่นี้ก็ยอดเยี่ยมเพียงพอแล้วยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาก็มองออก!สถานการณ์ตอนนี้เหมือนเคยเจอมาก่อนเพียงไม่นาน ก็มีคนมีปฏิกิริยาขึ้นมา“ไม่ใช่เหมือนกับตอนยกแรกหรือ? แค่พลิกกลับมาเท่านั้น”“จริงด้วย! ตอนยกแรก เป็นหญิงสาวถูกอีกฝ่ายใช้แส้ไล่ฟาดบีบจนเข้าไปในระยะโจมตีของสัตว์ประหลาด!”“แต่ว่าตอนนี้เหมือนนางมาไล่บี้ชายคนนี้ไปในระยะของสัตว์ประหลาด...?”“ไม่ ไม่ใช่ นางบีบชายคนนี้ ตรงไปยังจุดโจมตีถัดไปของนาง!”“พอพูดเช่นนี้ ตอนยกแรกคงไม่ใช่ว่านางยอมให้คนอื่นชนะหรอกใช่ไหม...?”จั๋วซือหรานได้ยินเสียงเหล่านี้ หางตายกโค้งนางคิดจะให้ทุกคนรู้สึกเช่นนี้ พอเป็นแบบนี้ก็คงไม่มีใครรู้สึกว่านางไม่มีฝีมือ เอาชนะมาได้เพราะอีกฝ

DMCA.com Protection Status