Share

บทที่ 678

Author: หูเทียนเสี่ยว
ดังนั้นจั๋วซือหรานที่เดิมทีไม่คิดจะฟังเขาพูดไร้สาระ ทว่าตอนนี้กลับไม่รังเกียจที่จะฟังดูเสียหน่อย

เฟิงอวี้เอ่ยต่อ “แต่เรื่องที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์หากถูกนำออกไป เฟิงเหยียนก็จะตาย คำพูดนี้ข้าไม่ได้โกหกเจ้า”

จั๋วซือหรานมองเขาสายตาเฉยเมย ไม่ได้เชื่อถือคำพูดของเขาเท่าไรนัก

สีหยกบนมือนางยิ่งเข้มขึ้นไปอีก ยื่นมือตรงไปยังหัวใจสีทองดวงนั้นฉับพลัน

เพียงชั่วพริบตา หัวใจสีทองนั่นก็เริ่มเผาไหม้มือนาง สีหยกของหัตถ์เสวียนอวี้ถูกเผาไหม้อย่างรวดเร็ว พลังวิญญาณของนางก็ก่อตัวสีหยกขึ้นใหม่อย่างรวดเร็ว ปกคลุมไปบนผิวหนัง

ถึงแม้จะทันเวลาอยู่ แต่กลับบอกไม่ได้ว่าต่อเนื่องกันอย่างสมบูรณ์แบบ

ดังนั้นตอนที่สีหยกนี้เผาไหม้ ในช่องรอยต่อที่สีหยกคลุมขึ้นมาใหม่ มือของจั๋วซือหราน ก็ยังถูกเผาจนยับเยินอยู่

ความเจ็บปวดหลายระลอกราวกับระเบิดขึ้นตรงๆ ในสมอง

แต่สีหน้าจั๋วซือหรานยังคงไม่เปลี่ยนไป สายตาของนางจ้องมองหัวใจสีทองดวงนั้นเขม็ง

นิ้วมือที่ดำเกรียมจนแทบมองไม่เห็นสภาพขาวนวลก่อนหน้า บีบหัวใจดวงนั้นไว้แน่น จากนั้นจึงค่อยๆ หยิบมันออกมาจากในช่องประตูเล็กของแท่นบูชานั้น

ในขั้นตอนนี้ ความเจ็บปวดมหาศาลยังคงอยู่ จั๋วซือหราน
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 679

    ฉุนจวินพอได้ยินคำนี้ของนายท่านก็นิ่งอึ้งไป “อะไรนะ?”เฟิงเหยียนสูดลมหายใจลึก “นางรู้ถึงการคงอยู่ของดวงใจแห่งหงส์แดงแล้ว แม้ผิวเผินจะไม่พูดอะไร แต่ในใจคงอยากแย่งเจ้าสิ่งนั้นมาแน่ หรืออาจจะทำลายทิ้ง เพื่อให้ข้าไม่ต้องมาทนการทรมานจากคนตระกูลเฟิงพวกนั้นอีก...”ฉุนจวินพอฟังถึงจุดนี้ ยังไม่เข้าใจอีกเสียที่ไหน จึงตกตะลึงขึ้นมาทันที “ดัง...ดังนั้น...ความหมายของนายท่านก็คือ...”ฉุนจวินรู้สึกว่า ถ้าตนเองเข้าใจไม่ผิดล่ะก็ เช่นนั้น...“แม่นางจิ่ว แฝงตัวเข้าไปในจวนตระกูลเฟิงแล้วหรือ?!” ฉุนจวินเอ่ยขึ้นอย่างตกตะลึงเฟิงเหยียนพยักหน้า “นางจะลอบเข้าไปในจวนตระกูลเฟิงก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่ถ้าครั้งนี้ที่นางไปคือโถงศักดิ์สิทธิ์บรรพบุรุษล่ะก็...”ฉุนจวินขมวดคิ้ว “นางเข้าไปได้อย่างไรกัน...?”ฉุนจวินไม่เข้าใจ เพราะโถงศักดิ์สิทธิ์บรรพบุรุษตระกูลเฟิงมีผนึกต้องห้ามพิเศษอยู่ มีเพียงคนที่มีสายเลือดตระกูลเฟิงเท่านั้น คนที่มีพลังวิญญาณตระกูลเฟิงจึงจะเข้าไปได้ เหมือนกับกุญแจอะไรแบบนั้นเฟิงเหยียนฟังคำนี้ก็เอียงตาเหลือบมองฉุนจวินฉุนจวินสังเกตได้ถึงสายตาของนายท่าน ไม่รู้เพราะอะไร ก็เหมือนเข้าใจขึ้นมาในพริ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 680

    ดวงตาของฉุนจวินเบิกกว้างขึ้นไปอีก ตอนนี้เหมือนจะตระหนักได้แล้วว่าวิกฤติที่นายท่านเชิญมาเมื่อครู่นี้ มันอันตรายมากขนาดไหนแต่เขาก็ยังเห็นว่านายท่านไม่ได้มีท่าทีกังวลหรือหวาดผวาเลยจึงอดถามขึ้นมาไม่ได้ “นายท่าน ท่านไม่กลัวหรือ? ถ้าแม่นางจิ๋วนำมันออกมา...นั่นมันอันตรายมากเลยนะ ยังดีที่แม่นางจิ๋วเอาออกมาไม่ได้”เฟิงเหยียนพอได้ยินคำพูดนี้ของฉุนจวิน จึงนิ่งงันไปครู่หนึ่งแล้วเอ่ยว่า “ข้ากลับรู้สึกว่าไม่ใช่ว่านางนำออกมาไม่ได้ แต่แค่ไม่เอาออกมาเท่านั้น”“อะไรนะ?” ฉุนจวินยังตั้งตัวกับความแตกต่างของคำว่า ‘ทำไม่ได้’ และ ‘ไม่เอาออกมา’ จากคำพูดของเฟิงเหยียนเมื่อครู่ไม่ทัน ผ่านไปครู่หนึ่งจึงมีปฏิกิริยากลับมา “ความหมายของนายท่านคือ แม่นางจิ่วอันที่จริงเอาออกมาได้ แต่นางไม่นำออกมาอย่างนั้นหรือ?”“อืม” มุมปากของเฟิงเหยียนยกขึ้นบางๆทั้งๆ ที่แขนขากระดูกทั้งตัวยังแผ่ซ่านไปด้วยความเจ็บปวด แต่เขาก็ยังยกมุมปากขึ้น“ถ้าหากเป็นคนอื่นล่ะก็ ข้าอาจจะไม่พูดเช่นนี้ แต่ถ้าหากเป็นนางล่ะก็ ข้ารู้สึกว่านางทำได้อยู่” เฟิงเหยียนพูดขึ้นมาและเชื่อมันว่านางมีความสามารถนี้แน่นอน เพราะนางจะไม่ทำเรื่องที่นางไม่มั่นใ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 681

    จั๋วซือหรานพูดจบ ก็หมุนตัวเตรียมเดินออกไปนอกโถงศักดิ์สิทธิ์เฟิงอวี้ถูกคำพูดของนางก่อนหน้านี้สะกดนิ่งไปแล้วจนตอนที่เห็นแผ่นหลังของนางเดินออกไปด้านนอกโถงศักดิ์สิทธิ์เวลานี้ จึงเพิ่งได้สติกลับมาเสียงของเฟิงอวี้ไล่ตามเข้ามา “จั๋วจิ่ว เจ้าจะทำให้เหยียนเอ๋อร์ตาย เจ้าไม่เข้าใจหรือ”เท้าของจั๋วซือหรานชะงักไป นางไม่หมุนตัวกลับ เพียงแค่หยุดลงมาเท่านั้น ครู่หนึ่ง นางจึงเอ่ยขึ้นเสียงแผ่วว่า “เรื่องนี้ไม่ต้องให้เจ้ามาลำบากเลย ข้าจะคิดหาวิธีเอง”นางครุ่นคิด จากนั้นจึงเอ่ยขึ้นอีกคำว่า “นี่น่าจะเป็นสิ่งที่ข้าไม่เหมือนกับเจ้า เฟิงเหยียนมีอันตราย ข้ายังคิดหาวิธีว่าจะช่วยชีวิตเขาอย่างไร แต่เจ้า...เหมือนจะคิดแต่ให้เขายอมรับแล้วก็ยอมรับมันไป”จั๋วซือหรานพูดถึงจุดนี้ รู้สึกเหมือนยังไม่พอ จึงเสริมเข้ามาอีกคำ “ข้าไม่เหมือนกับพวกเจ้า”การยอมรับเรื่องเหล่านี้ง่ายๆ ไม่ใช่นิสัยของนางจากนั้นจั๋วซือหรานจึงเดินไปด้านนอกโถงศักดิ์สิทธิ์การเคลื่อนไหวที่โถงศักดิ์สิทธิ์ก่อนหน้านี้ ก่อให้เกิดความยุ่งยากขึ้นไม่น้อย จั๋วซือหรานเดินออกมาจากโถงศักดิ์สิทธิ์ ยังไม่ทันเดินออกจากกำแพงเรือน ก็สัมผัสได้ว่าด้านนอกมีคนอ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 682

    แต่จั๋วซือหรานสัมผัสได้ ว่าสถานการณ์ภายในเหมือนจะดีขึ้นไม่น้อยแล้วนางออกจากเรือนนี้อย่างไร้ซุ่มเสียงวิชาอันคล่องแคล่วถูกใช้ถึงระดับสูงสุด แต่ขึ้นลงไม่กี่ครั้งก็ออกจากกำแพงเรือนบ้านตระกูลเฟิงแล้วพริบตาที่ร่อนลงพื้น จูมกของนางก็ทำท่าฟุดฟิด มีกลิ่นที่คุ้นเคย เหมือนจะอยู่ใกล้ๆ นี้เองต่อให้จั๋วซือหรานที่เป็นคนเดินหนึ่งก้าวคำนวณไปห้าก้าวก็ยังคิดไม่ถึง ว่าระหว่างคนด้วยกันจะมีบุพเพเช่นนี้อยู่ตนเองกระโจนลงมาจากกำแพงเรือน ก็ดันลงมาอยู่...ตรงหน้าเฟิงเหยียนพอดี“แม่...แม่นางจิ่ว?” ฉุนจวินเองก็ตกตะลึง คิดไม่ถึงว่าจะบังเอิญขนาดนี้จั๋วซือหรานพอได้ยินก็หันมองมา และเห็นเข้ากับร่างงดงามชวนมองนั่นเฟิงเหยียนยืนอยู่ตรงนั้น จ้องมองนางสายตาเคร่งขรึมสายตาของเขา จับจ้องบนใบหน้านาง เห็นถึงหน้าผากนางที่มีเหงื่อผุดซึม ใบหน้าซีดขาว และริมฝีปากที่ไม่มีสีเลือดได้อย่างชัดเจนและค่อยๆ เลื่อนลงมา ก็เห็นมือที่ห้อยอยู่ข้างตัวนางนางมีมือที่สวยงาม ขาวนวลอ่อนนุ่มทว่าตอนนี้มือที่สวยงามขาวนวลอ่อนนุ่มนั้น...ไม่เหลือเค้าโครงเดิมอยู่เลย เหลืออยู่แค่...ความดำเกรียมตอนที่สายตาไปเจอเข้ากับความดำเกรียมราวกิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 683

    เฟิงเหยียนอุ้มนางเข้าไปในตำหนักสืบสวนพิเศษที่นี่เป็นสถานที่ที่กว้างกว่าตำหนักเฝินเทียนของชิ่งหมิง แต่ก็ยังเย็นกว่าตำหนักเฝินเทียนของชิ่งหมิงจั๋วซือหรานเวลานี้ กลับไม่มีความคิดจะชื่นชมสถานที่ของหน่วยสืบสวนพิเศษแห่งนี้เลยว่ามีหน้าตาเป็นอย่างไรนางมองใบหน้าด้านข้างของหน้ากากที่เฟิงเหยียนใส่อยู่รู้สึกเพียงว่า...มหัศจรรย์อยู่หน่อยๆอารมณ์ร้อนรนของเขา เหมือนว่าต่อให้สวมหน้ากากอยู่ก็ยังปิดไม่มิดนางถูกวางลงบนเตียงหินในตำหนักนอนของตำหนักสืบสวนพิเศษอย่างระมัดระวังหลังจากนอนลงไป จั๋วซือหรานก็ตัวสั่น นางเพิ่งรู้สึกว่า “นี่มันหินอะไรน่ะ...”“หินหยกเย็น” เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นเสียงทุ้มต่ำ “ทำให้เจ้ารู้สึกดีขึ้นหน่อย”“เย็นจัง” จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น“มือยังเจ็บไหม?” เฟิงเหยียนถาม“ดีขึ้นแล้ว” จั๋วซือหรานตอบมา ยกมือของตนเองขึ้นมามองดูจากนั้นจึงพบว่าสายตาของท่านอ๋องไม่กล้ามองมาที่มือของนางยิ่งไปกว่านั้น จั๋วซือหรานยังสังเกตได้ว่าท่านอ๋องเหมือนจะมีอารมณ์ขุ่นมัวกำลังกลั่นตัวอยู่ในดวงตา คล้ายกับว่า...โกรธหรือ?จั๋วซือหรานเรียกหา “ท่านอ๋อง...”ยังไม่ทันพูดจบก็ถูกเฟิงเหยียนตัดบทแล้ว “เจ้าบ้า

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 684

    เฟิงเหยียนนิ่งไปครู่หนึ่ง เหมือนไม่อยากจะตอบ คล้ายกับกำลังคิดคำพูดที่เหมาะสม จัดเรียงคำพูดอยู่พักหนึ่ง จึงตอบกลับมาเสียงต่ำว่า “ถึงอย่างไร ในอดีตเขาก็เป็นภาชนะของพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงรุ่นก่อน ต่อให้ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว พลังที่ได้รับมาเมื่อตอนนั้นก็เพียงพอจะทำให้เขาเปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งขึ้นได้”จั๋วซือหรานยิ้มๆ นิ้วมือยังคงบีบอยู่ที่คางของเฟิงเหยียน เอ่ยต่อว่า “เขาเป็นผู้แข็งแกร่งหรือไม่ จะแข็งแกร่งแค่ไหนข้าไม่สนใจ ข้ารู้แค่ว่า ข้าบอกกับเขาแล้ว ว่าท่านเป็นของข้า ถึงอย่างไรดวงใจหงส์แดงข้าจะเอามาไม่ได้ แต่ใจของเฟิงเหยียนเป็นของข้าแล้ว ท่านอ๋องอย่าให้ข้าต้องเสียหน้าต่อหน้าพ่อของท่านเชียวล่ะ...”เฟิงเหยียนก้มหน้ามองนางครู่หนึ่ง สายตาเปลี่ยนเป็นจำใจขึ้นมา “ได้”เขาเอ่ยขึ้นเสียงต่ำ “ฟังเจ้าแล้วกัน ข้าเป็นของเจ้าแล้วนี่”มือของจั๋วซือหราน ลูบไล้ลงมาจากคาง นิ้วไล่เบาๆ ผ่านคอหอยของเขาไล่ลงมาอีก คิ้วของเฟิงเหยียนขมวดแน่นขึ้น เพราะจั๋วซือหรานใช้มือข้างที่บาดเจ็บข้างนั้นดังนั้นนิ้วของนางจึงค่อยๆ ลูบไล้ไปตามร่างกายของเขาตั้งแต่คางลงมาทีละนิดทีละน้อย ในทุกวินาที ทุกมิลลิเมตรจนเขากังวล ว่านาง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 685

    เฟิงเหยียนมองรอยยิ้มบนหน้านางครู่หนึ่ง จึงถามขึ้นเสียงต่ำว่า “เจ้าควรจะรู้ ว่าถ้าข้ากลับไป สัญญาหมั้นหมายของพวกเราก็จะถูกยกเลิกอย่างรวดเร็ว พวกเขาจะรีบจัดหาคนที่เชื่อฟังที่ควบคุมได้ง่ายกว่ามาแต่งกับข้า เจ้ากับตระกูลเฟิงจะไม่เกี่ยวข้องกันอีกต่อไป พวกเขากระทั่งจะเป็นศัตรูกับเจ้าด้วยซ้ำ”“ท่านจะเป็นศัตรูกับข้าไหม?” จั๋วซือหรานถามถามคำนี้ออกมา พลางยื่นมือไปปลดหน้ากากเขาออกจากนั้นจึงเห็นสภาพขมวดคิ้วของเฟิงเหยียน เขาจ้องมองนาง “ข้าไม่มีทางทำ”จั๋วซือหรานหัวเราะเสียงทุ้ม “เช่นนั้น ท่านจะแต่งงานกับคนที่เชื่อฟังควบคุมได้ง่ายกว่าที่พวกเขาหามาไหม?”เฟิงเหยียนมองนาง พอกำลังจะอ้าปากพูดแต่จั๋วซือหรานกลับไม่รอให้เขาตอบ เอ่ยขึ้นมาว่า “ช่างเถอะ นั่นมันไม่สำคัญ ต่อให้คนที่พวกเขาหามมาจะแต่งงานกับท่านก็ไม่เกี่ยวอะไรกัน วางใจเถอะ”จั๋วซือหรานพูดพลางลูบใบหน้าเขาเบาๆ “ข้าจะปล้นงานแต่งงานเสีย น่าสนุกจะตาย ชีวิตคนเราก็ต้องลองอะไรหลายๆ อย่าง แย่งเจ้าบ่าวหรือ...อืม ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ไม่เลว”เฟิงเหยียนพอได้ยินคำของนาง ก็ทั้งโมโหทั้งขบขันเขากระทั่งไม่เข้าใจ ว่าทำไมคนที่ไม่น่าสนใจและในตระกูลก็มีเร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 686

    “แต่ข้าก็จะรับปาก” เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานพอได้ยินคำนี้ก็ตกตะลึงไป ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกมา“ข้าจะให้หานกวงไปอยู่ข้างกายเจ้า นางทำงานได้ไม่เลว เจ้าแค่คอยใช้งานนางก็พอ” เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานพยักหน้า นางยกมุมปากเป็นรอยยิ้ม “ไม่ต้องกังวล ท่านอ๋อง ไม่นานนักหรอก...”จั๋วซือหรานยื่นมือไปกดหน้าอกเขาเบาๆ “ข้าจะคิดหาวิธี หลังกจากนั้นก็จะย่ำเมฆเจ็ดสีบินไปรับท่านเลย ดีไหม?””ไร้สาระ” เฟิงเหยียนขมวดคิ้วพ่นออกมาสองคำ แต่ในตาเขากลับมีรอยยิ้มที่ปิดบังไว้ไม่มิดอยู่จั๋วซือหรานเหนื่อยแล้ว ฝืนไว้ได้ไม่นานนัก ไม่นานก็หลับตาเข้าสู่ภวังค์ไปเฟิงเหยียนนั่งอยู่ข้างเตียงฉุนจวินกดเสียงต่ำจนแทบจะเหลือแค่เสียงลมถามขึ้นว่า “นายท่าน แล้วพวกเรา...ตอนนี้กลับไปเลยไหม?”เฟิงเหยียนถลึงตามองฉุนจวิน ไม่พูดอะไรสายตาของเขาแสดงออกถึงการปฏิเสธอย่างชัดเจนแล้วฉุนจวินรู้สึกจนใจ เอ่ยขึ้นเสียงแผ่วว่า “เดี๋ยวพอแม่นางจิ่วตื่นขึ้นมา นายท่านจะยิ่งอาลัยอาวรณ์ขึ้นหรือเปล่า? สู้ไปตอนนี้ไม่ดีกว่าหรือ...”เฟิงเหยียนไม่พูดอะไร แต่ก็รู้ว่าฉุนจวินพูดมีเหตุผลเขาก้มลงมองใบหน้าจั๋วซือหราน ที่ต่อให้หลับไปแล้วก็

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1271

    กลางดึก จั๋วซือหรานกัดริมฝีปาก กอดหมอน เดินเท้าเปล่าจากห้องด้านนอกเข้าไปยังห้องด้านใน!คิ้วงามของนางขมวดแน่น สีหน้าที่มีสีเลือดฟื้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้กลับขาวซีดขึ้นมาในใจนางเองก็พูดไม่ออก เดิมทีตอนที่หลับก็ยังดีอยู่ พอกลางดึกจู่ๆ ก็ไม่ไหวขึ้นมาเสียแล้วหน้าอกปั่นป่วนอย่างรุนแรง เป็นความรู้สึกทรมานแบบที่นางผ่านมาก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยนถ้าบอกว่าคนคนนี้ไม่เข้ามาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ก็เข้ามาแล้วว่ากันว่าพอเคยสบายแล้ว จะยากที่จะกลับไปลำบากตอนนี้จะให้นางปล่อยชายหนุ่มที่เหมือนกับ 'ยาบำรุงครรภ์' นี้ไว้ข้างในเฉยๆ โดยไม่ใช้ แล้วต้องมานั่งทนกระอักเลือดต่อล่ะก็...ขอโทษด้วย สกุลจั๋วอย่างนางไม่ใช่คนประเภทนั้นนางเข้าใจแล้ว ก่อนที่จะหลับไปเมื่อคืนนี้ ตอนที่เฟิงเหยียนบอกว่าจะนอนด้านนอก ริมฝีปากที่เม้มแน่นนั้นกำลังอดกลั้นเรื่องอะไรน่าจะคิดไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้สารเลว!จั๋วซือหรานครั่นเนื้อครั่นตัวตื่นมากลางดึก ต่อให้เป็นคนที่มีสติเยือกเย็นแค่ไหน ก็ยังมีอาการหงุดหงิดงัวเงียหลังตื่นนอนนางเดินเท้าเปล่าเข้าไปห้องด้านใน อากาศในหุบเขาตอนกลางคืนเย็นมากนางสวมแค่เสื้อบางๆ ชุดหนึ่ง ทั้งตัวเย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1270

    แต่กลับรู้ตัวตนฐานะผู้ชายทรยศของเฟิงเหยียนได้ ไม่ต้องคิดเลยว่าคงเป็นจั๋วหวายพล่ามออกมาแน่"จั๋วหวายมาบอกเจ้าหรือ?" ปันอวิ๋นถามขึ้นคำหนึ่งจวงอี๋ไห่ พยักหน้าอย่างระมัดระวัง "คุณชายเสี่ยวหวายไม่หลอกข้าหรอก คุณชายเสี่ยวหวายบอกว่าเป็นผู้ชายทรยศ เช่นนั้นกว่าครึ่งก็ต้องเป็นผู้ชายทรยศแล้ว"ปันอวิ๋นถอนหายใจแผ่วเบาในห้อง จั๋วซือหรานนั่งลงข้างโต๊ะเฟิงเหยียนไม่พูดอะไร รินน้ำชาให้นางถ้วยหนึ่งจั๋วซือหรานกำถ้วยไว้ ใช้นิ้วมือลูบไล้ขอบถ้วยเบาๆ"อีกเดี๋ยวพออาหารส่งเข้ามา ก็กินสักหน่อยแล้วค่อยนอนพัก" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นแต่ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความหนักแน่นที่ห้ามปฏิเสธจั๋วซือหรานแหงนตามองเขา กำลังจะบอกว่ายังไม่หิวก็เห็นริมฝีปากบางของชายคนนี้เม้มเบาๆ เอ่ยเสียงต่ำว่า "ข้าไม่มีสิทธิ์จะมาหารือกับเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ..." สายตาเขาทอดลงไปที่ท้องน้อยนาง แววตาลึกซึ้งจากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า "แต่การจะเตือนให้เจ้ากินอะไรดีดีก็ยังพอมีสิทธิ์อยู่" สายตาเขายกขึ้นมาจากท้องน้อยจั๋วซือหรานเลื่อนมาที่ดวงตานาง จ้องมองดวงตานาง เอ่ยต่อว่า "ถึงอย่างไรเมื่อครู่ก็เพิ่งช่วยเจ้ากลับมา ยิ่งไปกว่นั้นเรื่องถูกพลังศักดิ์สิท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1269

    เขาไม่เพียงแต่ไม่ใช่สามีของนาง เขายังเป็นคู่หมั้นในนามของหญิงสาวคนอื่นอีกด้วยสีหน้าของเฟิงเหยียนแข็งทื่อไปแล้ว แต่ท้ายสุดก็ยังพูดอะไรไม่ออกเพราะในคำพูดจั๋วซือหราน ไม่มีส่วนที่ผิดเลยแม้แต่น้อยแม้จะบอกว่าเด็กคนนี้ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาก็ตามแต่ครั้งก่อนหน้านั้น เป็นเพราะจั๋วซือหรานถูกวางแผนร้ายใส่ ถึงทำให้นางสับสนหลงใหลจนมีสัมพันธ์กับเขาถ้าจะบอกว่า เขาเอาเปรียบหญิงสาวไป ก็ไมไ่ด้พูดเกินเลยนักเอาเปรียบหญิงสาว จนทำนางตั้งท้อง ไม่เคยจะมารับผิดชอบอะไรตอนนี้กลับจะมาชี้มือชี้ไม้เรื่องของนางพอสรุปมาแบบนี้ มันก็ช่าง...แย่มากจริงๆเฟิงเหยียนเองก็รู้ว่าตนเองนั้นแย่มาก พูดอะไรออกมาไม่ได้ไปชั่วขณะปันอวิ๋นรู้สึกกระอักกระอ่วนแทนสหายเก่า เขากระแอมออกมาเบาๆ ทีหนึ่ง ไกล่เกลี่ยขึ้นว่า "เอาล่ะเอาล่ะ..."เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ถึงอย่างไร ทั้งสองคนตอนนี้จะไม่ได้เป็นคู่รัก แต่ความสัมพันธ์แบบนี้...มันก็ดูคลุมเครือ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ นี่มันช่าง...ดังนั้นปันอวิ๋นเลยเปิดประเด็นขึ้น อึกอักในปากอยู่พักหนึ่ง กว่าจะพูดออกมาได้ "...พวกเจ้าหิวหรือยัง? ให้เหล่าจวนทำอะไรให้กินหน่อยดีไหม?"

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1268

    นางยืนเงียบๆ อยู่ตรงนั้น แหงนตาขึ้นมองพวกเขาสายตาของเฟิงเหยียนอึ้งไปเล็กน้อย เห็นนางยืนอยู่ในประตูด้วยสีหน้านิ่งขรึมเขารู้สึกลำคอแห้งผากอย่างประหลาด ความรู้สึกนั้น บางทีควรจะเรียกว่า...ตึงเครียดไหม?"เจ้า...ตื่นขึ้นมาตอนไหนน่ะ?" เฟิงเหยียนถามจั๋วซือหรานมองเขา "ไม่นานเท่าไร"เหมือจะมองออกถึงความกระอักกระอ่วนของเขา หรืออาจจะไม่สรุปคือ มุมปากจั๋วซือหรานยกขึ้นบางๆ พูดมาคำหนึ่ง "ท่านอ๋องน้อย ไม่เจอกันเสียนาน"นางทำแบบนี้โดยไม่เอ่ยถึงคำพูดก่อนหน้านั้นแม้แต่น้อยเฟิงเหยียนอ้าปากพะงาบ ต่อให้คิดจะพูดอะไร แต่ชั่วขณะหนึ่งก็เหมือนจะพูดออกมาไม่ได้จึงแค่ถามขึ้นอย่างเป็นห่วง "ดีขึ้นบ้างหรือยัง?"จั๋วซือหรานพยักหน้า "ดีขึ้นมากแล้ว"กระทั่งปันอวิ๋นก็ยังมองออกถึงเรื่องระหว่างพวกเขา ไม่รู้เพราะเจ้าสมองกลับนี่ไปแตะเนื้อต้องตัวทำอะไรนาง หรือเป็นเพราะคำพูดเมื่อครู่นางได้ยินคำพูดของเฟิงเหยียน...สรุปคือ ปันอวิ๋นมองพวกเขาทั้งสองคน แล้วก็รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแทนพวกเขาทั้งสองคนปันอวิ๋นคิดๆ ดู ตอนที่ตนเองอยู่กับจั๋วซือหรานก็ยังไม่ได้กลืนไม่เข้าคายไม่ออกขนาดนี้รู้สึกร้อนใจแทนเจ้าบ้านี่จร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1267

    เพราะเป็นเพื่อนสนิท ปันอวิ๋นจึงเข้าใจความหมายที่เขาคิดจะแสดงออกมาหรือก็คือ ปันอวิ๋นเดาได้นานแล้วบางทีตอนนั้นเพื่อจะให้จั๋วซือหรานหลีกเลี่ยงโชคชะตาเช่นนี้ ตนเองจึงเลือกที่จะลืมเลือนแต่สุดท้ายพอวกไปวนมา ก็กลับมาเดินอยู่บนเส้นทางเดิมเจ้าสิ่งที่เรียกว่าโชคชะตานี่ ลึกลับเอามากๆบางครั้งเหมือนจะมีเมตตา แต่บางครั้งก็เหมือนไม่เคยปราณีใครผู้ใด"แล้วเจ้าตอนนี้...คิดจะทำอย่างไร?" ปันอวิ๋นถามเขาจ้องเฟิงเหยียนตาไม่กระพริบเอาจริงๆ ปันอวิ๋นใช้มองจากมุมมองคนนอกอย่างมีเหตุมีผล ยังหวังว่าจั๋วซือหรานจะสามารถปล่อยวางได้แต่พอคิดถึงว่าถ้าหากจั๋วซือหรานปล่อยวางแล้วล่ะก็ ด้วยโชคชะตาภาชนะพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงของเฟิงเหยียน ผลสรุปสุดท้าย ก็คือตายก่อนวัยอันควรอยู่ดีและเพราะรู้เรื่องนี้ ดังนั้นปันอวิ๋นจึงหยุดไปครู่หนึ่ง เอ่ยเสริมมาคำนึง "ถังฉือเคยบอกข้าไว้ ในโถงวิญญาณอสูร พวกสัตว์เทพที่ถูกเก็บกลับมาเหล่านั้น..."ปันอวิ๋นขมวดคิ้ว คิดถึงคำพูดของถังฉือถังฉือมีบาปหนาจากการฆ่าฟันคนมากมาย กลายเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจไปแล้ว ถ้าหากไม่เย็นชาไร้หัวใจ ป่านนี้คงเป็นบ้าไปแล้วดังนั้นตอนที่เขาพูดถึงเรื่องเห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1266

    ปันอวิ๋นส่งให้เขาชามหนึ่ง ตนเองก็ด้วยทั้งสองคนไม่พูดพล่ามทำเพลง กระดกรวดเดียวจนหมดราวกับว่า สุราที่มาช้าไปหลายปีนี้ ในที่สุดก็ได้ดื่มเสียทีราวกับว่าภาพเด็กน้อยที่แอบขโมยสุราพวกนั้นมาดื่ม ซ้อนทับเข้ามากับพวกเขาในเวลานี้"ช่วงนี้เจ้า ไม่ได้ติดต่อกับพวกเขาเลยหรือ?"หลังจากร่ำสุราลงท้องไปสองชาม จิตใจก็เหมือนจะผ่อนคลายลงมาไม่น้อย ปันอวิ๋นถามขึ้นอย่างสบายๆ เป็นกันเองเฟิงเหยียนฟังออก ว่าเขาถามถึงเหล่าพี่น้องพวกนั้นเขาตอบอืมไปคำหนึ่ง "ไม่ได้ติดต่อกันเลย""เช่นนั้นก็คงไม่รู้สถานการณ์ของพวกเขาเลยสินะ" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นเฟิงเหยียนไม่ยอมรับหรือปฏิเสธกับสิ่งนี้ ถือว่ายอมรับไปกลายๆปันอวิ๋นยิ้มๆ เหมือนจะเย้ยหยันตนเอง "แต่ก็ไม่โทษพวกเขาที่ไม่ติดต่อเจ้า ด้วยสถานการณ์ของพวกเขาตอนนี้ ก็ไม่มีหน้ามาติดต่อเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ"ได้ยินคำนี้ของปันอวิ๋น เฟิงเหยียนก็ไม่พูดอะไรอีกปันอวิ๋นเอ่ยต่อว่า "ซงซีตอนนี้ทุกวันเหมือนขลุกอยู่แต่ในห้องหลอมสกัด หลอมสกัดอยู่ทุกวันไม่ได้พักเลย"เฟิงเหยียนพอได้ยินคำนี้ คิ้วก็ขมวดขึ้นบางๆ"เยี่ยนเหวย...ก็สูบเลือดออกมาทุกวัน อยู่แบบไม่เหมือนผู้เหมือนคน ผู้อาวุโสหวงจ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1265

    บางทีคงเป็นเพราะการคุยแบบเปิดอกก่อนหน้านี้ ทำให้ระยะทางขอเพื่อนสนิทสองคนที่เคยห่างไปตามกาลเวลา ย่อหดลงไปไม่น้อยเลยกระมังดังนั้นพอได้ยินปันอวิ๋นบอกว่าไม่ต้องขอบคุณ เฟิงเหยียนจึงเหลือบมองเขา น้ำเสียงเปลี่ยนไป "ก็ได้ เช่นนั้นก็ไม่ขอบคุณแล้วกัน"เฟิงเหยียนสั่งขึ้นมา "ไป ไปเอาสุรามาให้ข้าหน่อย"แม้จะพูดเช่นนี้ แต่ในเสียงกลับไม่ได้ออกคำสั่งอะไร ฟังแล้วเหมือนการใช้งานระหว่างเพื่อนกันมากกว่าปันอวิ๋นชะงักไปเล้กน้อย เพราะตอนพวกเขายังเด็ก ก็เคยใช้งานกันและกันแบบนี้ไป ไปเอาสุรามาหน่อยได้ งั้นเจ้าก็เอาปลาไปย่างซะข้าเห็นว่าเจ้าหน้าตาเหมือนปลาถ้าเจ้ายังพูดอีกรอบ จะโดนข้ากดจนจมถังสุราตายไปเลยเพราะคำพูดนี้ของเฟิงเหยียน ทั้งสองคนก็เหมือนกลับไปสมัยยังเด็กในชั่วพริบตาปันอวิ๋นยกมุมปากขึ้นบางๆ ลุกขึ้นไปให้คนรับใช้ส่งสุราเข้ามาคือสุราห้าพิษที่เขาจะหมักอยู่ทุกปี และใช้แมลงพิษมาหลอมจริงๆ แต่ตัวสุรากลับไม่มีพิษใดๆ กระทั่งยังหอมอบอวลเข้มข้นเป็นพิเศษ เป็นสุราที่หาได้ยากยิ่งและเป็นความลับที่ไม่เผยแพร่สู่ภายนอกของหุบเขาหมื่นพิษ ปกติมีแค่เจ้าหุบเขาที่รู้แต่ปันอวิ๋น หลังจากออกสำนักมา ก็ไม่ได้ด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1264

    จะเหมือนว่าตบหน้าใส่ตนเองอย่างแรง ทั้งที่เดิมทีก็อยู่บนโชคชะตาที่ขมขื่นอยู่แล้ว กระทั่งยังเป็นการตบหน้าตนเองในตอนนั้นอีกด้วยแบบนั้น...มันขมขื่นเกินไป พวกเขาเดิมทีก็ยากลำบากอยู่แล้วปันอวิ๋นนิ่งงันไปพักหนึ่ง อันที่จริงรู้สึกเหมือนไม่รู้จะเริ่มพูดจากตรงไหนดีอยู่หน่อยๆความเงียบงันดำเนินต่อไประยะหนึ่งยังคงเป็นเฟิงเหยียนที่เอ่ยเสียงต่ำขึ้นมาก่อน "ขอบคุณมาก"ปันอวิ๋นได้ยินคำนี้ ก็รู้สึกแปลกประหลาด อารมณ์เองก็ไม่ค่อยมั่นคงทั้งที่มั่นคงมาตลอดแท้ๆหลังผ่านไปพักหนึ่ง ปันอวิ๋นจึงเอ่ยตอบว่า "เรื่องเล็กน้อย"ตอนที่ได้ยินคำนี้ สายตาของเฟิงเหยียนก็เหมือนขยับนิดๆยังจำได้ว่า ตอนยังเด็กถ้าปันอวิ๋นช่วยเขาทำอะไร ขอแค่เขาขอบคุณ ปันอวิ๋นก็จะพูดคำว่า 'เรื่องเล็กน้อย' ออกมาเสมอต่อให้บางครั้ง จะไม่ใช่เรื่องเล็กเลยก็ตาม แต่ก็ยังทำให้เขารู้สึกว่า ไม่ต้องเกรงใจ ยังมีพี่น้องคนนี้ช่วยแบกอยู่เฟิงเหยียนหยุดไปครู่หนึ่ง เอ่ยเสียงเรียบขึ้นว่า "ก่อนหน้านี้ ข้าเจอกับหลงเฉินมา"พอได้ยินชื่อนี้ที่คุ้นเคย ม่านตาปันอวิ๋นก็หดลงเล็กน้อยเฟิงเหยียนเอ่ยต่อว่า "เขามีชีวิตไม่ค่อยดีนัก เหมือนตอนนั้นหลังจากที่เขาท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1263

    ท่าทีของเฟิงเหยียน ไม่ถือว่ากระตือรือร้นมากนัก กระทั่งค่อนข้างเย็นชาด้วยซ้ำแต่ก็เป็นเรื่องปกติ หลังจากที่เขาออกจากสำนักในตอนนั้น ก็ไม่ได้มีความฮึกเหิมเหมือนสมัยครั้งยังเด็กอีกมักจะเย็นชา และมักจะเฉยเมยปันอวิ๋นเม้มริมฝีปาก เข้าใจถึงสาเหตุนั้นสภาพการณ์ตอนที่เฟิงเหยียนออกจากสำนักครั้งนั้น เขาเองก็รู้เป็นอย่างดีต่อให้จนถึงตอนนี้ ก็ยังจดจำได้อย่างชัดเจนเพราะเฟิงเหยียนถูกทรยศเป็นคนแรก ดังนั้น ตอนนั้นพวกเขาก็อยู่ในฐานะคนที่ยังไม่ถูกทรยศอันที่จริง จะมากน้อยก็ยังมีความสงสัยว่าถ้าไม่อยู่ในสถานการณ์เดียวกันก็คงไม่เข้าใจอยู่พวกเขารู้สึกว่าเฟิงเหยียนทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเฟิงเหยียนที่ไม่รู้จักบุญคุณพวกเขารู้สึกว่า เป็นเฟิงเหยียนที่ทำไม่ถูกเฟิงเหยียนเป็นคนอกตัญญูจนต่อมา ต่อมาของต่อมา ทุกคนทยอยกันเดินบนเส้นทางของเฟิงเหยียน ใครก็หนีไม่พ้นการทรยศหรือใช้ประโยชน์ทั้งนั้นตามหลักแล้วควรจะยอมรับชะตากรรมอย่างที่เคยเตือนเฟิงเหยียนเอาไว้ในตอนนั้น และมองว่าสิ่งนั้นเป็นการบ่มเพาะและการให้ความสำคัญจากสำนักแต่เพระาอะไร...ถึงได้ดีใจกันขึ้นมาไม่ได้เลยและหลังจากนั้นอีก แต่ละคนก็ทร

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status