Share

บทที่ 672

Author: หูเทียนเสี่ยว
last update Last Updated: 2024-11-14 18:00:15
“ตูม...” เสียงดังสนั่น

กระทั่งสิ่งปลูกสร้างอย่างโถงศักดิ์สิทธิ์บรรพบุรุษที่แข็งแรง ก็ยังสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

และเพราะการโจมตีนี้ จึงทำให้ควันธูปควันเทียนในโถงศักดิ์สิทธิ์คลุ้งขึ้นมา!

จั๋วอวี้เอ่ยขึ้นเสียงต่ำ “อย่ามาโทษข้าที่ลงมือแบบไม่ปราณี เดิมทีก็คิดจะไว้ชีวิตเจ้าเหมือนกัน แต่เจ้ามันรนหาที่ตาย...ถ้าชาติหน้ามีจริง ก็อย่าทำตัวกำเริบเสิบสานแบบนี้อีก อายุจะไม่ยืนยาวเอา”

ควันธูปควันเทียนค่อยๆ สงบลง ดวงตาของเฟิงอวี้นิ่งแข็ง เพราะหางตาของเขา...จับได้ว่าด้านหลังควันธูปที่ค่อยๆ สงบลงนั้น

ยังคงมีร่างหญิงสาวชุดแดงยืนตระหง่านอยู่

นางยังคงยืนอยู่ตรงนั้น

เสียงของนางยังคงแจ่มชัด ในน้ำเสียงมีความขบขันอยู่ด้วย

เอ่ยขึ้นว่า “คำพูดนี้เดิมทีข้าขอคืนให้เจ้านะ คนที่กำเริบเสิบสาน อายุจะไม่ยืนยาวเอา”

จั๋วซือหรานหัวเราะเบาๆ “พวกเราสองคนใครกันแน่ที่ทำตัวกำเริบเสิบสาน? ยังไม่ทันเห็นหัวของข้าหลุดจากร่างเลย ก็กล้าบอกให้ข้ารีบไปเกิดใหม่เสียแล้ว?”

พอได้ยินเสียงของจั๋วซือหราน ร่างของเฟิงอวี้ก็แข็งทื่อไป

เสียงของเขาก็แข็งทื่อด้วยเช่นกัน ในน้ำเสียงเผยอารมณ์ไม่อยากเชื่อออกมา “เจ้า...ทำไม...เป็นไปได้อย่างไร
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Piyaradchanee
ลงหลายตอนหน่อยนะคะ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 673

    เฟิงอวี้มองหญิงสาวชุดแดงตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อในสายตาเขามีความตกตะลึงมหาศาล“เป็นไปไม่ได้...มันเป็นไปได้อย่างไร...” เฟิงอวี้งึมงำขึ้นมาหลังจากนั้นก็กระอักเลือดโฮกใหญ่ร่างของจั๋วซือหราน เปล่งแสงวาบ จากนั้นจึงเข้าคว้าคอเสื้อของเฟิงอวี้ กดเขาไว้บนกำแพงด้วยพลังมหาศาล จึงมีเสียงเปรี๊ยะดังขึ้นมา“อั่ก!” เฟิงอวี้กระอักเลือดสดออกมาอีกครั้งกำปั้นจั๋วซือหรานอัดเข้าไปบนหน้าเขาอีกครั้ง ใบหน้าครึ่งซีกของเฟิงอวี้บวมขึ้นมา กระทั่งสมองก็เหมือนจะดังวิ้งๆ ในหัวเขาถลึงตาอ้าปากค้างมองจั๋วซือหราน ราวกับว่าไม่อยากเชื่อถึงพลังที่จั๋วซือหรานสำแดงออกมาเช่นนี้“มีอะไรเป็นไปไม่ได้กัน หรือว่าใต้หล้านี้ มีแต่ตระกูลเฟิงของเจ้าที่ทะเลาะกับชาวบ้านเขาเป็น” จั๋วซือหรานเบ้ปากเย็นชา “ข้าว่า เจ้าคงจะคุกเข่านานไปจนลุกไม่ไหวแล้วสินะ”สายตาของเฟิงอวี้ดูเหม่อลอย และไม่รู้ว่าเป็นเพราะถูกจั๋วซือหรานจัดการจนส่งผลกระทบมากไปหรือเปล่าจั๋วซือหรานหิ้วคอเสื้อเขากดไว้บนกำแพงอดพูดไม่ได้เลย ว่าฉากนี้ดูแล้วแปลกประหลาดหน่อยๆ และยังดูมีแรงกระทบกับสายตาอีกด้วยหญิงสาวร่างบางคนหนึ่ง ยกชายร่างสูงเจ็ดฉื่อกดไว้บนกำแพง จนแท

    Last Updated : 2024-11-15
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 674

    ดึงลงมาไม่ได้ป้ายวิญญาณนั้นมีกลไกบางอย่างอยู่ มันหมุนไปเล็กน้อยจากการดึงของไหมแมลงกู่หลังจากมีเสียงฟันเฟืองดังขึ้นแกร๊กๆๆ อยู่ครู่หนึ่งแท่นบูชาด้านล่างที่วางป้ายวิญญาณทั้งหมดนี้ ก็มีประตูขนาดฝ่ามือบานหนึ่ง ค่อยๆ เปิดออกจั๋วซือหรานหรี่ตา เดินเข้าไปใกล้ๆ เพื่อให้มองเห็นสถานการณ์ด้านในประตูได้ชัดขึ้นอีกหน่อย!นางสัมผัสได้ว่าในประตูเล็กบานนี้ มีกลิ่นอายความร้อนแผ่ออกมาสายตาของนาง ก็สัมผัสได้ถึงแสงจ้าแยงตาที่แผ่ออกมาจากในประตูเล็กบานนี้ แสงสีแดงทอง กระพริบๆกระพริบๆ...เหมือนกำลังเต้นอยู่อย่างไรอย่างไรอย่างนั้นเหมือนหัวใจกำลังเต้นจั๋วซือหรานมองเห็นสิ่งที่อยู่ด้านในประตูนี้ชัดเจนแล้ว ไม่ใช่สิ่งที่มีเลือดท่วม กระทั่งยังมองไม่ออกถึงความเป็นรูปธรรม สิ่งที่เห็นเป็นแค่แสงสีแดงทองวูบหนึ่ง รูปร่างเหมือนหัวใจดวงหนึ่งราวกับว่ายังมีชีวิตอยู่อย่างไรอย่างนั้น กำลังเต้นอยู่ แสงสีแดงทองนั่น ก็กระพริบขึ้นมาตามจังหวะการเต้นของมัน และอุณหภูมิความร้อนที่จั๋วซือหรานสัมผัสได้ ก็แผ่ออกมาจากตัวมันเช่นกัน“ดวงใจแห่งหงส์แดง” จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นงึมงำสายตาของนางจ้องมองสิ่งที่อยู่ในประตูเล็กนี้

    Last Updated : 2024-11-15
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 675

    เฟิงอวี้พอได้ยินคำพูดจั๋วซือหราน ก็เหลือบมองนางเย็นชา เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม “จั๋วจิ่วอย่างเจ้า ตอนที่ฉลาดก็ฉลาดเหลือแสน แต่ตอนที่จะโง่ ทำไมจึงโง่ได้ขนาดนี้?”คำพูดของเฟิงอวี้ จั๋วซือหรานฟังแล้วก็ขมวดคิ้วนางยอมให้คนก่นด่าเช่นนี้หรือ?ไม่ใช่แน่นอนดังนั้นจั๋วซือหรานจึงคว้ามือของเฟิงอวี้ ใส่เข้าไปในประตูเล็กหัวใจสีทองนั้นอีกครั้ง “อ๊าก...!” เฟิงอวี้กรีดร้องขึ้นมาครู่ใหญ่ จั๋วซือหรานจึงดึงมือเขาออกนางเหมือนยิ้มเหมือนไม่ย้อมมองเฟิงอวี้ “ข้าขอแนะนำให้เจ้าพูดจาดีดีอย่าบ่นด่าคนอื่นเขา ถึงอย่างไรข้าก็ไม่ได้เป็นคนอารมณ์ดีขนาดนั้น”เฟิงอวี้ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน แต่ตอนนี้ก็ไม่กล้าด่านางส่งเดชแล้วจั๋วซือหรานเอ่ยต่อ “เจ้าพูดมาให้ละเอียด อะไรคือข้าจะทำร้ายเฟิงเหยียนจนตาย? ทำไม? ดวงใจหงส์แดงนี้แตะต้องไม่ได้เลยหรือ?”จั๋วซือหรานเดิมทียังคิดว่า ใครสนใจกับพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงกับสิ่งศักด์สิทธิ์หงส์แดงกันถ้าหากตระกูลเฟิงเก็บสิ่งศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงนี้ไว้เพื่อจะคอยควบคุมเฟิงเหยียนก็แค่ชิงเจ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงนี่ไปก็จบแล้วไม่ใช่หรือ?แต่ว่า พอฟังจากคำพูดของเฟิงอวี้ ก็เหมือนไม่ใช่เป็นเรื

    Last Updated : 2024-11-15
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 676

    เฟิงอวี้พูดต่อ “แต่เจ้าทำเรื่องเหล่านี้มันไม่มีประโยชน์ ตระกูลเฟิง คือตระกูลที่ถูกสาปแช่ง...”จั๋วซือหรานพอได้ยินคำวิจารณ์ต่อตระกูลนี้ ในที่สุดจึงเลิกคิ้วขึ้น “ถูกสาปแช่ง?”“เฮอะ” เฟิงอวี้หัวเราะเย็นชา “พลังที่ยืมมา พลังที่ขโมยมา เจ้าเล่นกับพลัง ก็จะถูกพลังเล่นเข้าด้วยเช่นกัน พยายามสะกดควบคุมพลังที่ไม่ใช่ของตนเอง ก็จะถูกพลังสะกดและควบคุม จะเรื่องไหนก็ล้วนเป็นเช่นนี้”เหมือนเป็นวงกลมต่อเนื่องไปเรื่อยๆจั๋วซือหรานแน่นอนว่าเข้าใจหลักการในคำพูดของเฟิงอวี้เฟิงอวี้เอ่ยต่อ “และเพราะตระกูลเฟิงเป็นเช่นนี้ ดังนั้นเจ้าจะทำอะไรก็ไม่มีประโยชน์ เจ้าช่วยเฟิงเหยียนไม่ได้”พอฟังถึงตรงนี้ จั๋วซือหรานก็ขมวดคิ้วเฟิงอวี้เอ่ยต่อว่า “ถ้าแค่เจ้านำดวงใจหงส์แดงออกไป เฟิงเหยียนก็จะตาย นี่จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมดวงใจหงส์แดงจึงต้องอยู่ที่นี่ เฟิงเหยียนเองก็รู้ว่าดวงใจแห่งหงส์แดงอยู่ที่นี่มาตลอด แต่กลับไม่เคยพยายามนำมันออกมา เพื่อที่จะไม่ต้องถูกคนในตระกูลเฟิงกดขี่อีกต่อไป”เฟิงอวี้พูดพลางมองดวงตาของจั๋วซือหราน ถามขึ้นเหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้ม “เจ้าคงไม่คิดว่า เฟิงเหยียนไม่ได้คิดถึงจุดนี้หรอกกระมัง? หรือคิดว่าเ

    Last Updated : 2024-11-15
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 677

    จั๋วซือหรานยิ้มๆ “พวกเจ้าเป็นตระกูลที่ถูกสาป ยิ่งแข็งแกร่งก็ยิ่งทำร้ายตนเอง กระทั่งดวงวิญญาณก็ยังถูกใช้มาสะกดวิญญาณแห่งหงส์แดงเลย...”ถ้าหากข้าเดาไม่ผิดล่ะก็ น่าจะเป็นเช่นนี้” จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นเสียงเรียบเฟิงอวี้พอได้ยิน ในใจก็รู้สึกแค่ว่าความคิดหนึ่งกำลังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หญิงสาวคนนี้เป็นสัตว์ประหลาดอะไรกันแน่!“และดวงใจแห่งหงส์แดงนี้ ถ้าแค่ถูกนำออกไป เฟิงเหยียนก็จะตาย ดังนั้นจึงถูกวางไว้ที่นี่มาตลอด ไม่เช่นนั้นเฟิงเหยียนคงจะเอาออกไปนานแล้ว เพราะเฟิงเหยียนเองก็แข็งแกร่งพอแล้ว” จั๋วซือหรานเอ่ยต่อพอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน เฟิงอวี้ก็เอ่ยขึ้นว่า “แล้ว แล้วมันมีอะไรไม่ถูกต้องหรือไรกัน”“จุดที่ไม่ถูกต้องอยู่ที่ ตระกูลเฟิงของพวกเจ้า พวกเจ้ายิ่งแข็งแกร่งก็จะยิ่งทำร้ายตนเอง เฟิงเหยียนที่ไม่เอาดวงใจแห่งหงส์แดงนี้ไป เป็นไปได้ว่าเพราะ โถงศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ข้อกำหนดของเจ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์นี่ก็คือ...”จั๋วซือหรานพูดถึงจุดนี้ ดวงตาก็จับจ้องไปที่เฟิงอวี้ เอ่ยต่อว่า “...ก็คือมีกฏเกณฑ์คล้ายๆ กับโชคชะตาคนในตระกูลเฟิงของพวกเจ้า คนที่พลังแห่งหงส์แดงยิ่งแข็งแกร่ง ก็จะยิ่งเจอกับการทำร้ายข

    Last Updated : 2024-11-16
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 678

    ดังนั้นจั๋วซือหรานที่เดิมทีไม่คิดจะฟังเขาพูดไร้สาระ ทว่าตอนนี้กลับไม่รังเกียจที่จะฟังดูเสียหน่อยเฟิงอวี้เอ่ยต่อ “แต่เรื่องที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์หากถูกนำออกไป เฟิงเหยียนก็จะตาย คำพูดนี้ข้าไม่ได้โกหกเจ้า”จั๋วซือหรานมองเขาสายตาเฉยเมย ไม่ได้เชื่อถือคำพูดของเขาเท่าไรนักสีหยกบนมือนางยิ่งเข้มขึ้นไปอีก ยื่นมือตรงไปยังหัวใจสีทองดวงนั้นฉับพลันเพียงชั่วพริบตา หัวใจสีทองนั่นก็เริ่มเผาไหม้มือนาง สีหยกของหัตถ์เสวียนอวี้ถูกเผาไหม้อย่างรวดเร็ว พลังวิญญาณของนางก็ก่อตัวสีหยกขึ้นใหม่อย่างรวดเร็ว ปกคลุมไปบนผิวหนังถึงแม้จะทันเวลาอยู่ แต่กลับบอกไม่ได้ว่าต่อเนื่องกันอย่างสมบูรณ์แบบดังนั้นตอนที่สีหยกนี้เผาไหม้ ในช่องรอยต่อที่สีหยกคลุมขึ้นมาใหม่ มือของจั๋วซือหราน ก็ยังถูกเผาจนยับเยินอยู่ความเจ็บปวดหลายระลอกราวกับระเบิดขึ้นตรงๆ ในสมองแต่สีหน้าจั๋วซือหรานยังคงไม่เปลี่ยนไป สายตาของนางจ้องมองหัวใจสีทองดวงนั้นเขม็งนิ้วมือที่ดำเกรียมจนแทบมองไม่เห็นสภาพขาวนวลก่อนหน้า บีบหัวใจดวงนั้นไว้แน่น จากนั้นจึงค่อยๆ หยิบมันออกมาจากในช่องประตูเล็กของแท่นบูชานั้นในขั้นตอนนี้ ความเจ็บปวดมหาศาลยังคงอยู่ จั๋วซือหราน

    Last Updated : 2024-11-16
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 679

    ฉุนจวินพอได้ยินคำนี้ของนายท่านก็นิ่งอึ้งไป “อะไรนะ?”เฟิงเหยียนสูดลมหายใจลึก “นางรู้ถึงการคงอยู่ของดวงใจแห่งหงส์แดงแล้ว แม้ผิวเผินจะไม่พูดอะไร แต่ในใจคงอยากแย่งเจ้าสิ่งนั้นมาแน่ หรืออาจจะทำลายทิ้ง เพื่อให้ข้าไม่ต้องมาทนการทรมานจากคนตระกูลเฟิงพวกนั้นอีก...”ฉุนจวินพอฟังถึงจุดนี้ ยังไม่เข้าใจอีกเสียที่ไหน จึงตกตะลึงขึ้นมาทันที “ดัง...ดังนั้น...ความหมายของนายท่านก็คือ...”ฉุนจวินรู้สึกว่า ถ้าตนเองเข้าใจไม่ผิดล่ะก็ เช่นนั้น...“แม่นางจิ่ว แฝงตัวเข้าไปในจวนตระกูลเฟิงแล้วหรือ?!” ฉุนจวินเอ่ยขึ้นอย่างตกตะลึงเฟิงเหยียนพยักหน้า “นางจะลอบเข้าไปในจวนตระกูลเฟิงก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่ถ้าครั้งนี้ที่นางไปคือโถงศักดิ์สิทธิ์บรรพบุรุษล่ะก็...”ฉุนจวินขมวดคิ้ว “นางเข้าไปได้อย่างไรกัน...?”ฉุนจวินไม่เข้าใจ เพราะโถงศักดิ์สิทธิ์บรรพบุรุษตระกูลเฟิงมีผนึกต้องห้ามพิเศษอยู่ มีเพียงคนที่มีสายเลือดตระกูลเฟิงเท่านั้น คนที่มีพลังวิญญาณตระกูลเฟิงจึงจะเข้าไปได้ เหมือนกับกุญแจอะไรแบบนั้นเฟิงเหยียนฟังคำนี้ก็เอียงตาเหลือบมองฉุนจวินฉุนจวินสังเกตได้ถึงสายตาของนายท่าน ไม่รู้เพราะอะไร ก็เหมือนเข้าใจขึ้นมาในพริ

    Last Updated : 2024-11-16
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 680

    ดวงตาของฉุนจวินเบิกกว้างขึ้นไปอีก ตอนนี้เหมือนจะตระหนักได้แล้วว่าวิกฤติที่นายท่านเชิญมาเมื่อครู่นี้ มันอันตรายมากขนาดไหนแต่เขาก็ยังเห็นว่านายท่านไม่ได้มีท่าทีกังวลหรือหวาดผวาเลยจึงอดถามขึ้นมาไม่ได้ “นายท่าน ท่านไม่กลัวหรือ? ถ้าแม่นางจิ๋วนำมันออกมา...นั่นมันอันตรายมากเลยนะ ยังดีที่แม่นางจิ๋วเอาออกมาไม่ได้”เฟิงเหยียนพอได้ยินคำพูดนี้ของฉุนจวิน จึงนิ่งงันไปครู่หนึ่งแล้วเอ่ยว่า “ข้ากลับรู้สึกว่าไม่ใช่ว่านางนำออกมาไม่ได้ แต่แค่ไม่เอาออกมาเท่านั้น”“อะไรนะ?” ฉุนจวินยังตั้งตัวกับความแตกต่างของคำว่า ‘ทำไม่ได้’ และ ‘ไม่เอาออกมา’ จากคำพูดของเฟิงเหยียนเมื่อครู่ไม่ทัน ผ่านไปครู่หนึ่งจึงมีปฏิกิริยากลับมา “ความหมายของนายท่านคือ แม่นางจิ่วอันที่จริงเอาออกมาได้ แต่นางไม่นำออกมาอย่างนั้นหรือ?”“อืม” มุมปากของเฟิงเหยียนยกขึ้นบางๆทั้งๆ ที่แขนขากระดูกทั้งตัวยังแผ่ซ่านไปด้วยความเจ็บปวด แต่เขาก็ยังยกมุมปากขึ้น“ถ้าหากเป็นคนอื่นล่ะก็ ข้าอาจจะไม่พูดเช่นนี้ แต่ถ้าหากเป็นนางล่ะก็ ข้ารู้สึกว่านางทำได้อยู่” เฟิงเหยียนพูดขึ้นมาและเชื่อมันว่านางมีความสามารถนี้แน่นอน เพราะนางจะไม่ทำเรื่องที่นางไม่มั่นใ

    Last Updated : 2024-11-16

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 732

    เขาสัมผัสได้ว่าบนบาดแผลทั้งสองที่ถูกดาบของนางแทงไว้ จนทำให้หินต้องห้ามยังแตกก่อนหน้านี้เวลานี้มันคันยุบยิบ ราวกัยว่า...กำลังผสานอย่างรวดเร็วจั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นเสียงต่ำ "รักษาให้เจ้าก่อน อีกเดี๋ยวถ้าสู้ขึ้นมา จะได้ไม่ขี้เกียจ"ซางถิงเกือบจะโมโหจนหัวเราะขึ้นมายังไม่ทันที่เขาจะได้พูด ในกลุ่มคนเหล่านั้นที่ล้อมเข้ามา ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น"จั๋วซือหราน เจ้าสังหารลูกหลานตระกูลข้าไป แอบเรียนวิชาลับตระกูลข้า โทษนี้สมควรตาย แต่เห็นแก่ว่าเจ้าไม่ใช่คนในตระกูลเรา ไม่เข้าใจกฏเกณฑ์ของตระกูล จะไว้ชีวิตเจ้า แล้วจะพาเจ้ากลับไปช่วยอธิบายให้หน่อย ว่าไปร่ำเรียนวิชาลับตระกูลเรามาจากที่ไหน"จั๋วซือหรานพอได้ยินเนื้อหานี้ "เข้ามาเพราะความสามารถข้าจริงๆ ด้วย"ซางถิงหัวเราะเฮอะขึ้นมา เอ่ยเสียงต่ำกับจั๋วซือหรานว่า " ข้าก็บอกว่าแล้วไม่ได้มาหาข้า ในเมื่อมันไม่เกี่ยวกับข้า ข้าไปได้แล้วใช่ไหม?"จั๋วซือหรานหัวเราะเหอะๆ " อย่าสิ ข้ารักษาให้เจ้าแล้วนะ รับแล้วก็ตอบแทนกันหน่อยมันเป็นมารยาท"ซางถิงกัดฟัน "แล้วทำไมเจ้าไม่พูดเสียหน่อยว่าบาดแผลพวกนั้นมันมายังไง..."ตอนนี้เอง เสียง 'คาดโทษ' จั๋วซือหรานก่อนหน้านี้ก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 731

    เพราะเวลาค่อนข้างดึกแล้ว กระทั่งสนามประลองทางนี้ก็ยังเงียบสงบ ดังนั้นที่นี่ต่อให้สู้กันขึ้นมาตอนนี้ ก็ไม่ได้ดึงดูดสายตาใครยิ่งไปกว่านั้น ตลาดมืดก็มีกฏของตลาดมืด คนของตลาดมืดก็มีวิถีการดำรงชีวิตของตนเองเช่นกันในนี้กฏที่ใช้ได้ทั่วไปข้อหนึ่งคือ...อย่ายุ่งเรื่องชาวบ้านดังนั้นพวกเขาต่อให้ตายกันที่นี่ ก็น่าจะไม่ส่งผลกระทบอะไรมากนักตลาดมืดฝังศพเอาไว้แทบทุกที่ นี่คือที่มาของคำพูดนี้ดังนั้นในกลุ่มคนเหล่านี้ หลังจากเข้ามาล้อมซางถิงกับจั๋วซือหรานแล้ว เดิมทีรอบๆ ก็ยังมีคนอยู่อีกส่วนหนึ่งดูจากท่าทางแล้วไม่ธรรมดาเลย ทยอยกันกระจายตัวออกเหมือนสัตว์ ตอนนี้ที่นี่จึงสงบมาก...แทบไม่มีคนเลยคืนเดือนมืดลมพัดแรง ค่ำคืนแห่งการสังหารดูจากเสื้อผ้าคนเหล่านี้ อันที่จริงยังมองไม่ออกถึงตัวตนฐานะแท้จริงของพวกเขาแตว่า ขอแค่คนรู้จริงเรื่องกลุ่มอย่างซางถิง ก็จะมองออกถึงกลุ่มได้อย่างรวดเร็วซางถิงมองกลุ่มออกจากเครื่องมือควบคุมสัตว์ของพวกเขาอย่างรวดเร็วซางถิงเอียงหน้าเล็กน้อย บอกกับจั๋วซือหรานด้านหลังว่า "ระวังด้วย คนพวกนี้ ทั้งหมดเป็นคนของโถงตัดหัวตระกูลซาง"โถงตัดหัว?" จั๋วซือรหานฟังคำนี้แล้วก็เอ่ย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 730

    แต่ยังไม่ทันได้แตะไหล่ของจั๋วซือหราน นางก็มีปฏิกิริยากลับมาอย่างรวดเร็ว“เจ้า” จั๋วซือหรานเห็นหน้าคนด้านหลังอย่างชัดเจนผมสีขาวรุงรังกับดวงตาสีฟ้าทึมที่เป็นเอกลักษณ์ แสดงชัดถึงตัวตนฐานะของเขา นี่คือคู่มือที่ประลองกับนางบนเวทีเมื่อครู่นี้นั่นเองดวงตาสีฟ้าทึมของเขาจ้องมองจั๋วซือหราน “ข้ายังคิดว่าเจ้าไปแล้วเสียอีก ทำไม? กำลังรอข้าหรือ?”จั๋วซือหรานมองเขา “เจ้านี่...มั่นใจในตัวเองเสียจริงนะ”“ใช่สิ” รอยยิ้มในดวงตาสีฟ้าทึมของเขายิ่งเพิ่มมากขึ้น “ข้ากับเจ้ามันคนประเภทเดียวกัน เป็นพวกที่มั่นใจในตนเองแบบนั้น”จั๋วซือหรานหัวเราะ จากนั้นจึงเห็นแขนที่ห้อยอยู่ข้างตัวเขา ยังมีเลือดสดไหลอาบลงมา กลิ่นคาวเลือดบนตัวเขายังไม่หายไป“เจ้าน่าจะรักษาแผลก่อนแล้วค่อยมาพูดจาคุยโตนะ” จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น“เรื่องเล็กน่า” ซางถิงเอ่ยตอบจั๋วซือหรานคิดๆ เอ่ยขึ้นว่า “เมื่อครู่เจ้าออมมือไว้ ไม่งั้นคงไม่เจ็บขนาดนี้”“ใช่เลย ข้าออมมือไว้ ก็เลยลดความยุ่งยากลงไปได้พอควร” ซางถิงตอบจั๋วซือหรานยิ้ม “อินเจ๋ออันไม่ใช่ความยุ่งยากหรือ?”“เขา? เขาจะไปยุ่งยากอะไร...” ซางถิงดูไม่ใส่ใจกับเรื่องนี้ เอ่ยต่อว่า “ข้าออมมือ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 729

    ได้ยินคำนี้ ฮั่วจือโจวยกมุมปากขึ้น “คุณหนูเฟิงสือ เจ้าคิดมากเกินไปแล้ว ข้าก็แค่อยากร่วมมือกับแม่นางจิ่วเท่านั้น”เฟิงหร่านมองเขา แม้บนปากจะไม่คัดค้าน แต่ในใจก็แอบคิด นั่นก็เพราะเจ้ายังสัมผัสไม่ได้ถึงเสน่ห์ของพี่หญิงจั๋วเท่านั้นส่วนเจี่ยงเทียนซิงที่อยู่ข้างๆ พอได้ยินคำพูดของเฟิงหร่าน ก็ไม่ได้ส่งเสียงอะไร เพียงแต่รอยยิ้มในดวงตาค่อยลดลงมาเท่านั้นครู่ต่อมา จึงเอ่ยเสียงต่ำขึ้นว่า “แต่ว่าตระกูลเฟิงของพวกเจ้า ไม่ใช่ว่าดูถูกซือหรานหรอกหรือ เพราะอะไรกัน? พวกเจ้าเห็นสิ่งนี้เป็นของไร้ค่า แต่ก็ไม่ยอมให้คนอื่นได้ครอบครองหรือ? ใหญ่โตเสียจริง”สำหรับคำพูดของเจี่ยงเทียนซิง เฟิงหรานกระทั่งโต้แย้งก็ยังแย้งออกมาไม่ได้นางริมฝีปากสั่นระริก ครึ่งมาจึงบอกว่า “สรุปคือ หลังจากนี้จะมีวิธีเอง”ฝูซูมองจากข้างๆ เขารู้แน่นอนว่าคุณหนูของตนเองยอดเยี่ยมแค่ไหนทำให้คนหลงใหลได้แค่ไหนและก็รู้ว่าคุณหนูเฟิงสือถูกคุณหนูทำให้หลงไปแล้ว การที่พูดแบบนี้ออกมาก็ไม่ได้ผิดอะไรแต่ปฏิกิริยาของเจี่ยงเทียนซิงนี่ กลับทำให้ฝูซูอดเหลือบมองเขาขึ้นมากหน่อยไม่ได้ในใจฝูซูก่อนหน้านี้ก็รู้สึกว่าเจี่ยงเทียนซิงคนนี้เหมือนจะ...รู้สึก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 728

    “นี่ฝูซูกับเฮยหลิงยังไว้หน้าพวกเจ้าอยู่นะ ถึงยังไม่จับตะเกียบ ไม่อย่างนั้นพวกเจ้าแค่น้ำแกงก็ไม่ได้ชิมด้วยซ้ำ” เจี่ยงเทียนซิงวางตะเกียบลงหัวเราะฮั่วจือโจวไม่อยากเชื่อ ถามขึ้นว่า “นี่คือของที่แม่นางจั๋วจิ่วทำหรือ? จริงหรือเปล่า?”“เป็นของที่คุณหนูข้าทำเอง” ฝูซูพยักหน้าอินเจ๋ออันมองเขา ถามขึ้นว่า “คุณชายฮั่ว ยอมรับแล้วหรือยัง?”ฮั่วจือโจวถอนหายใจเบาๆ พยักหน้าเจี่ยงเทียนซิงเห็นท่าทางแขกยึดครองตำแหน่งเจ้าภาพของอินเจ๋ออันแล้วก็หัวเราะพรวดขึ้นมา “เปาน้อย เจ้าเองก็ไว้หน้าตัวเองหน่อยดีไหม คำพูดนี้ข้าต่างหากที่ควรถาม? เจ้าน่ะยอมรับแล้วหรือยัง?”“ถ้าข้าไม่ยอมรับ แล้วข้าจะเอาเงินมาให้พวกเจ้าด้วยตัวเองทำไมกัน?!” อินเจ๋ออันจ้องอย่างมาดร้ายไปทางเจี่ยงเทียนซิงตัวเขาเองอาจจะไม่ทันสังเกต ว่าตนเองกระทั่งลืมไปแล้วว่าต่อต้านชื่อเรีย ‘เปาน้อย’ อยู่เฟิงหร่านนั่งอยู่ข้างๆ ไม่พูดอะไรมาตลอด สนใจแค่การกินอาหารบนโต๊ะอย่างรวดเร็วราวพายุดูดเท่านั้นนางกินไปด้วย พิจารณาชายหนุ่มสามคนนี้ไปด้วยในใจจู่ๆ ก็เกิดความรู้สึกวิตกกังวลขึ้นมาเฟิงหร่านเกิดวิตกกังวลขึ้นมาแทนพี่ชายตนเอง นางชื่นชมในใจ พี่หญิงจั๋วน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 727

    สายตาฮั่วจือโจวมองจั๋วซือหรานอย่างลึกซึ้งตระกูลขุนนางเหล่านี้ล้วนเป็นแบบเดียวกัน จั๋วซือหรานเองก็เดินออกมาจากตระกูลขุนนาง ดังนั้นจึงเข้าใจเป็นอย่างดีต่อให้ทุกคนจะเป็นลูกหลานในตระกูลเหมือนกัน และก็จะมีพวกลูกหลานที่ได้รับการปฏิบัติกับให้ความสำคัญมากกว่า และก็จะมีลูกหลานที่ถูกมองข้ามหรือเมินเฉยแต่นี่ก็จะขึ้นอยู่กับฝีมือของรุ่นพ่อและฝีมือของตนเองดูจากจั๋วซือหรานแล้วมองออกไม่ยาก กระทั่งฝีมือของรุ่นพ่อก็ยังไม่แน่ว่าจะสำคัญ เพราะพ่อของนางนั้นไม่อยู่มานานแล้วมีเพียงฝีมือของตนเองที่ถูกให้ความสำคัญมากที่สุดดังนั้นในฐานะที่เป็นลูกหลานในตระกูล หากคิดจะได้รับการให้ความสำคัญของตระกูล อย่างน้อยก็ต้องทำผลงานออกมาให้ได้สถานการณ์ของฮั่วจือโจวตอนนี้ก็น่าจะเป็นเช่นนี้เขามีฝีมืออยู่บ้าง และมีอุดมการณ์ของตนเองด้วยเช่นกัน แต่ก็จำเป็นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ จะตัดสินใจอย่างบุ่มบ่ามไม่ได้เพราะในตระกูลเช่นนี้ คนมากมายล้วนเป็นแบบเดียวกัน โอกาสอาจจะมีแค่ครั้งเดียว ถ้าทำผลงานไม่ได้ หลังจากนี้ทรัพยายากรก็อาจจะไม่เอนมาทางเขาอีกแล้วจุดนี้ จั๋วซือหรานไม่ลังเลที่จะพูดออกมาสายตาฮั่วจือโจวหยุดอยู่ที่แ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 726

    จั๋วซือหรานยิ้มๆ “ก็ต้องตั้งแต่ตอนที่เจ้าตามพวกเราเข้ามาแล้วน่ะสิ”ฮั่วจือโจวลุกขึ้นยืน เดินตรงเข้ามาทางนี้ นั่งลงข้างโต๊ะพวกเขา“เมื่อครู่แผนของแม่นางจิ่ว ข้าได้ยินแล้ว” ฮั่วจือโจวเองก็ไม่ปิดบัง พูดออกมาตรงๆเขาพูดประโยคนี้ออกมา ก็หวังว่าจั๋วซือหรานจะไม่ต้องมาเสียเวลาคิดมากในเรื่องนี้แล้วแต่ฮั่วจือโจวคิดไม่ถึงว่าจั๋วซือหรานจะพูดว่า “ข้าจงใจพูดออกมาให้เจ้าได้ยิน”สีหน้าฮั่วจือโจวตกตะลึงไปทันที “อะไรนะ?”จั๋วซือหรานยิ้มตาโค้งเอ่ยขึ้นว่า “คุณชายสามฮั่วฟังแผนการของข้าแล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง?”“ไม่เลว” ฮั่วจือโจวตอบ “มิน่าสี่ตระกูลที่เหลือจึงมองเจ้าเป็นหนามยอกอก”รอยยิ้มบนหน้าจั๋วยังไม่จางหาย “ถ้าข้าไม่จงใจพูดให้เจ้าได้ยิน แล้วจะกล่อมให้เจ้ามาร่วมมือได้อย่างไรกัน?”“ร่วมมือ?” ฮั่วจือโจวตกตะลึงจั๋วซือหรานตอบ “อืม ข้าไม่มีเจตนาจะทำให้ตระกูลฮั่วต้องลำบากใจ ถ้าแค่ตระกูลฮั่วไม่ทำให้ข้าลำบากใจน่ะนะ แต่ข้าเองก็เข้าใจ บุ่มบ่ามไปแย่งธุรกิจของคนอื่น ดูแล้วยังไงก็ไม่เหมาะสม และยังเป็นในสถานการณ์ที่ข้ามั่นใจว่าข้าคว้ามันมาได้ด้วย”ฟังคำพูดนี้ของจั๋วซือหรานแล้ว ฮั่วจือโจวก็หัวเราะขึ้นมา เขาก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 725

    “ทำให้มันคึกคักขึ้น?” เฟิงหร่านตาเป็นประกาย ความชื่นชมต่อตัวจั๋วซือหรานของนางไม่ได้แค่นิดหน่อยแล้วตอนนี้มองจั๋วซือหรานด้วยตาเป็นประกาย “พี่หญิงจั๋ว จะทำให้มันคึกคักขึ้นได้อย่างไรหรือ?”จั๋วซือหรานคิดๆ เอ่ยขึ้นว่า “วิธีการมีอยู่เยอะเลยทีเดียว ก็ให้เจ้าไปแสดงพ่นไฟ เฮยหลิงไปแสดงหน้าอกทลายหินอะไรแบบนั้น หรือไม่ข้าก็ให้พวกแมลงไปแสดงละครหุ่นกระบอก? ต้องสนุกคึกคักแน่ๆ...”“พ่น พ่น...พ่นไฟ??” ในสายตาเฟิงหร่านเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อก็จริง สำหรับนางที่เป็นคุณหนูลูกขุนนางเช่นนี้ทุกการกระทำทั้งหมดของจั๋วซือหราน กระทั่งแค่ลมหายใจของนาง ก็ดูจะผิดแปลกไปจากคนอื่นๆ ในตระกูลขุนนางเหล่านั้น “พ่นไฟเป็นไหม? ถ้าไม่เป็นเดี๋ยวไว้ข้าหาเวลาสอนเจ้า” จั๋วซือหรานวางตะเกียบลง “สรุปคือ ถ้าถึงเวลาต้องเปิดกิจการ ก็หาการแสดงอะไรมา จากนั้นพอเปิดร้านก็เตรียมการให้ลูกค้าแต่ละโต๊ะหลังจากที่กินอาหารเสร็จ ก็มอบอาหารเพิ่มให้อีกหนึ่งจานแบบไม่ต้องจ่ายเงินอะไรแบบนี้”“ประชาชนกินเพื่ออยู่ ขอแค่ของอร่อย ยังต้องกลัวว่าจะไม่มีใครมาอีกหรือ” จั๋วซือหรานคิดคิด เอ่ยต่อว่า “ไหนจะเรื่องที่อาหารของที่นี่รสชาติแย่แค่ไหน น่าจะไ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 724

    จั๋วซือหรานตอบ “เดี๋ยวเจ้าลองชิมก็รู้แล้ว...”ผ่านไปครู่หนึ่ง อาหารก็ส่งขึ้นมา หน้าตาแย่เอามากๆเจี่ยงเทียนซิงจึงเพิ่งได้ยินประโยคหลังของจั๋วซือหราน “...ไม่ใช่ห่วยแตกแบบธรรมดาด้วย”เจี่ยงเทียนซิง “...”เฟิงหร่าน “...”ฝูซู “...”เฮยหลิง “...”ทุกคนทยอยกันพูดไม่ออกจั๋วซือหรานหยิบตะเกียบขึ้นมา คีบคำหนึ่งส่งเข้าปาก หลังจากเคี้ยวไปสองคำ ก็ขมวดคิ้วขึ้นมา “พวกเจ้าลองชิมสิ ห่วยแตกแบบไม่ธรรมดาจริงๆ”เฮยหลิงยังพอไหว ถึงอย่างไรก่อนหน้านี้ก็ใช้ชีวิตยากลำบากมาแล้ว ขยับตะเกียบ หลังจากกินคำแรกไปเห็นได้อย่างชัดเจน ว่าเขาเหมือนจะโกรธขึ้นแล้วเฟิงหร่านเองพอเห็นสถานการณ์ จึงวางตะเกียบลงเงียบๆเจี่ยงเทียนซิงถาม “เจ้าหิวแล้ว แต่จงใจมายังร้านอาหารที่รสชาติแย่หรือ?”จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น “ลองชิมดูก่อน แบบนี้ภายหลังจะได้มีความแตกต่าง”เจี่ยงเทียนซิงก็เชื่อฟังคำพูดของนาง คีบขึ้นมาพอส่งเข้าปาก จึงเพิ่งมีปฏิกิริยากับคำพูดของจั๋วซือหราน “...ภายหลัง?”ตอนนี้เอง อะไรบางอย่างที่อยู่ในปาก ในที่สุดก็ทำเอาประสามรับรสของเขาถูกปะทะอย่างรุนแรง“ถุด” เจี่ยงเทียนซิงพ่นอาหารในปากออกมา รู้สึกว่าคำวิจารณ์ก่อน

DMCA.com Protection Status