Share

บทที่ 672

Author: หูเทียนเสี่ยว
“ตูม...” เสียงดังสนั่น

กระทั่งสิ่งปลูกสร้างอย่างโถงศักดิ์สิทธิ์บรรพบุรุษที่แข็งแรง ก็ยังสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

และเพราะการโจมตีนี้ จึงทำให้ควันธูปควันเทียนในโถงศักดิ์สิทธิ์คลุ้งขึ้นมา!

จั๋วอวี้เอ่ยขึ้นเสียงต่ำ “อย่ามาโทษข้าที่ลงมือแบบไม่ปราณี เดิมทีก็คิดจะไว้ชีวิตเจ้าเหมือนกัน แต่เจ้ามันรนหาที่ตาย...ถ้าชาติหน้ามีจริง ก็อย่าทำตัวกำเริบเสิบสานแบบนี้อีก อายุจะไม่ยืนยาวเอา”

ควันธูปควันเทียนค่อยๆ สงบลง ดวงตาของเฟิงอวี้นิ่งแข็ง เพราะหางตาของเขา...จับได้ว่าด้านหลังควันธูปที่ค่อยๆ สงบลงนั้น

ยังคงมีร่างหญิงสาวชุดแดงยืนตระหง่านอยู่

นางยังคงยืนอยู่ตรงนั้น

เสียงของนางยังคงแจ่มชัด ในน้ำเสียงมีความขบขันอยู่ด้วย

เอ่ยขึ้นว่า “คำพูดนี้เดิมทีข้าขอคืนให้เจ้านะ คนที่กำเริบเสิบสาน อายุจะไม่ยืนยาวเอา”

จั๋วซือหรานหัวเราะเบาๆ “พวกเราสองคนใครกันแน่ที่ทำตัวกำเริบเสิบสาน? ยังไม่ทันเห็นหัวของข้าหลุดจากร่างเลย ก็กล้าบอกให้ข้ารีบไปเกิดใหม่เสียแล้ว?”

พอได้ยินเสียงของจั๋วซือหราน ร่างของเฟิงอวี้ก็แข็งทื่อไป

เสียงของเขาก็แข็งทื่อด้วยเช่นกัน ในน้ำเสียงเผยอารมณ์ไม่อยากเชื่อออกมา “เจ้า...ทำไม...เป็นไปได้อย่างไร
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Piyaradchanee
ลงหลายตอนหน่อยนะคะ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 673

    เฟิงอวี้มองหญิงสาวชุดแดงตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อในสายตาเขามีความตกตะลึงมหาศาล“เป็นไปไม่ได้...มันเป็นไปได้อย่างไร...” เฟิงอวี้งึมงำขึ้นมาหลังจากนั้นก็กระอักเลือดโฮกใหญ่ร่างของจั๋วซือหราน เปล่งแสงวาบ จากนั้นจึงเข้าคว้าคอเสื้อของเฟิงอวี้ กดเขาไว้บนกำแพงด้วยพลังมหาศาล จึงมีเสียงเปรี๊ยะดังขึ้นมา“อั่ก!” เฟิงอวี้กระอักเลือดสดออกมาอีกครั้งกำปั้นจั๋วซือหรานอัดเข้าไปบนหน้าเขาอีกครั้ง ใบหน้าครึ่งซีกของเฟิงอวี้บวมขึ้นมา กระทั่งสมองก็เหมือนจะดังวิ้งๆ ในหัวเขาถลึงตาอ้าปากค้างมองจั๋วซือหราน ราวกับว่าไม่อยากเชื่อถึงพลังที่จั๋วซือหรานสำแดงออกมาเช่นนี้“มีอะไรเป็นไปไม่ได้กัน หรือว่าใต้หล้านี้ มีแต่ตระกูลเฟิงของเจ้าที่ทะเลาะกับชาวบ้านเขาเป็น” จั๋วซือหรานเบ้ปากเย็นชา “ข้าว่า เจ้าคงจะคุกเข่านานไปจนลุกไม่ไหวแล้วสินะ”สายตาของเฟิงอวี้ดูเหม่อลอย และไม่รู้ว่าเป็นเพราะถูกจั๋วซือหรานจัดการจนส่งผลกระทบมากไปหรือเปล่าจั๋วซือหรานหิ้วคอเสื้อเขากดไว้บนกำแพงอดพูดไม่ได้เลย ว่าฉากนี้ดูแล้วแปลกประหลาดหน่อยๆ และยังดูมีแรงกระทบกับสายตาอีกด้วยหญิงสาวร่างบางคนหนึ่ง ยกชายร่างสูงเจ็ดฉื่อกดไว้บนกำแพง จนแท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 674

    ดึงลงมาไม่ได้ป้ายวิญญาณนั้นมีกลไกบางอย่างอยู่ มันหมุนไปเล็กน้อยจากการดึงของไหมแมลงกู่หลังจากมีเสียงฟันเฟืองดังขึ้นแกร๊กๆๆ อยู่ครู่หนึ่งแท่นบูชาด้านล่างที่วางป้ายวิญญาณทั้งหมดนี้ ก็มีประตูขนาดฝ่ามือบานหนึ่ง ค่อยๆ เปิดออกจั๋วซือหรานหรี่ตา เดินเข้าไปใกล้ๆ เพื่อให้มองเห็นสถานการณ์ด้านในประตูได้ชัดขึ้นอีกหน่อย!นางสัมผัสได้ว่าในประตูเล็กบานนี้ มีกลิ่นอายความร้อนแผ่ออกมาสายตาของนาง ก็สัมผัสได้ถึงแสงจ้าแยงตาที่แผ่ออกมาจากในประตูเล็กบานนี้ แสงสีแดงทอง กระพริบๆกระพริบๆ...เหมือนกำลังเต้นอยู่อย่างไรอย่างไรอย่างนั้นเหมือนหัวใจกำลังเต้นจั๋วซือหรานมองเห็นสิ่งที่อยู่ด้านในประตูนี้ชัดเจนแล้ว ไม่ใช่สิ่งที่มีเลือดท่วม กระทั่งยังมองไม่ออกถึงความเป็นรูปธรรม สิ่งที่เห็นเป็นแค่แสงสีแดงทองวูบหนึ่ง รูปร่างเหมือนหัวใจดวงหนึ่งราวกับว่ายังมีชีวิตอยู่อย่างไรอย่างนั้น กำลังเต้นอยู่ แสงสีแดงทองนั่น ก็กระพริบขึ้นมาตามจังหวะการเต้นของมัน และอุณหภูมิความร้อนที่จั๋วซือหรานสัมผัสได้ ก็แผ่ออกมาจากตัวมันเช่นกัน“ดวงใจแห่งหงส์แดง” จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นงึมงำสายตาของนางจ้องมองสิ่งที่อยู่ในประตูเล็กนี้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 675

    เฟิงอวี้พอได้ยินคำพูดจั๋วซือหราน ก็เหลือบมองนางเย็นชา เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม “จั๋วจิ่วอย่างเจ้า ตอนที่ฉลาดก็ฉลาดเหลือแสน แต่ตอนที่จะโง่ ทำไมจึงโง่ได้ขนาดนี้?”คำพูดของเฟิงอวี้ จั๋วซือหรานฟังแล้วก็ขมวดคิ้วนางยอมให้คนก่นด่าเช่นนี้หรือ?ไม่ใช่แน่นอนดังนั้นจั๋วซือหรานจึงคว้ามือของเฟิงอวี้ ใส่เข้าไปในประตูเล็กหัวใจสีทองนั้นอีกครั้ง “อ๊าก...!” เฟิงอวี้กรีดร้องขึ้นมาครู่ใหญ่ จั๋วซือหรานจึงดึงมือเขาออกนางเหมือนยิ้มเหมือนไม่ย้อมมองเฟิงอวี้ “ข้าขอแนะนำให้เจ้าพูดจาดีดีอย่าบ่นด่าคนอื่นเขา ถึงอย่างไรข้าก็ไม่ได้เป็นคนอารมณ์ดีขนาดนั้น”เฟิงอวี้ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน แต่ตอนนี้ก็ไม่กล้าด่านางส่งเดชแล้วจั๋วซือหรานเอ่ยต่อ “เจ้าพูดมาให้ละเอียด อะไรคือข้าจะทำร้ายเฟิงเหยียนจนตาย? ทำไม? ดวงใจหงส์แดงนี้แตะต้องไม่ได้เลยหรือ?”จั๋วซือหรานเดิมทียังคิดว่า ใครสนใจกับพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงกับสิ่งศักด์สิทธิ์หงส์แดงกันถ้าหากตระกูลเฟิงเก็บสิ่งศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงนี้ไว้เพื่อจะคอยควบคุมเฟิงเหยียนก็แค่ชิงเจ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงนี่ไปก็จบแล้วไม่ใช่หรือ?แต่ว่า พอฟังจากคำพูดของเฟิงอวี้ ก็เหมือนไม่ใช่เป็นเรื

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 676

    เฟิงอวี้พูดต่อ “แต่เจ้าทำเรื่องเหล่านี้มันไม่มีประโยชน์ ตระกูลเฟิง คือตระกูลที่ถูกสาปแช่ง...”จั๋วซือหรานพอได้ยินคำวิจารณ์ต่อตระกูลนี้ ในที่สุดจึงเลิกคิ้วขึ้น “ถูกสาปแช่ง?”“เฮอะ” เฟิงอวี้หัวเราะเย็นชา “พลังที่ยืมมา พลังที่ขโมยมา เจ้าเล่นกับพลัง ก็จะถูกพลังเล่นเข้าด้วยเช่นกัน พยายามสะกดควบคุมพลังที่ไม่ใช่ของตนเอง ก็จะถูกพลังสะกดและควบคุม จะเรื่องไหนก็ล้วนเป็นเช่นนี้”เหมือนเป็นวงกลมต่อเนื่องไปเรื่อยๆจั๋วซือหรานแน่นอนว่าเข้าใจหลักการในคำพูดของเฟิงอวี้เฟิงอวี้เอ่ยต่อ “และเพราะตระกูลเฟิงเป็นเช่นนี้ ดังนั้นเจ้าจะทำอะไรก็ไม่มีประโยชน์ เจ้าช่วยเฟิงเหยียนไม่ได้”พอฟังถึงตรงนี้ จั๋วซือหรานก็ขมวดคิ้วเฟิงอวี้เอ่ยต่อว่า “ถ้าแค่เจ้านำดวงใจหงส์แดงออกไป เฟิงเหยียนก็จะตาย นี่จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมดวงใจหงส์แดงจึงต้องอยู่ที่นี่ เฟิงเหยียนเองก็รู้ว่าดวงใจแห่งหงส์แดงอยู่ที่นี่มาตลอด แต่กลับไม่เคยพยายามนำมันออกมา เพื่อที่จะไม่ต้องถูกคนในตระกูลเฟิงกดขี่อีกต่อไป”เฟิงอวี้พูดพลางมองดวงตาของจั๋วซือหราน ถามขึ้นเหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้ม “เจ้าคงไม่คิดว่า เฟิงเหยียนไม่ได้คิดถึงจุดนี้หรอกกระมัง? หรือคิดว่าเ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 677

    จั๋วซือหรานยิ้มๆ “พวกเจ้าเป็นตระกูลที่ถูกสาป ยิ่งแข็งแกร่งก็ยิ่งทำร้ายตนเอง กระทั่งดวงวิญญาณก็ยังถูกใช้มาสะกดวิญญาณแห่งหงส์แดงเลย...”ถ้าหากข้าเดาไม่ผิดล่ะก็ น่าจะเป็นเช่นนี้” จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นเสียงเรียบเฟิงอวี้พอได้ยิน ในใจก็รู้สึกแค่ว่าความคิดหนึ่งกำลังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หญิงสาวคนนี้เป็นสัตว์ประหลาดอะไรกันแน่!“และดวงใจแห่งหงส์แดงนี้ ถ้าแค่ถูกนำออกไป เฟิงเหยียนก็จะตาย ดังนั้นจึงถูกวางไว้ที่นี่มาตลอด ไม่เช่นนั้นเฟิงเหยียนคงจะเอาออกไปนานแล้ว เพราะเฟิงเหยียนเองก็แข็งแกร่งพอแล้ว” จั๋วซือหรานเอ่ยต่อพอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน เฟิงอวี้ก็เอ่ยขึ้นว่า “แล้ว แล้วมันมีอะไรไม่ถูกต้องหรือไรกัน”“จุดที่ไม่ถูกต้องอยู่ที่ ตระกูลเฟิงของพวกเจ้า พวกเจ้ายิ่งแข็งแกร่งก็จะยิ่งทำร้ายตนเอง เฟิงเหยียนที่ไม่เอาดวงใจแห่งหงส์แดงนี้ไป เป็นไปได้ว่าเพราะ โถงศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ข้อกำหนดของเจ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์นี่ก็คือ...”จั๋วซือหรานพูดถึงจุดนี้ ดวงตาก็จับจ้องไปที่เฟิงอวี้ เอ่ยต่อว่า “...ก็คือมีกฏเกณฑ์คล้ายๆ กับโชคชะตาคนในตระกูลเฟิงของพวกเจ้า คนที่พลังแห่งหงส์แดงยิ่งแข็งแกร่ง ก็จะยิ่งเจอกับการทำร้ายข

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 678

    ดังนั้นจั๋วซือหรานที่เดิมทีไม่คิดจะฟังเขาพูดไร้สาระ ทว่าตอนนี้กลับไม่รังเกียจที่จะฟังดูเสียหน่อยเฟิงอวี้เอ่ยต่อ “แต่เรื่องที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์หากถูกนำออกไป เฟิงเหยียนก็จะตาย คำพูดนี้ข้าไม่ได้โกหกเจ้า”จั๋วซือหรานมองเขาสายตาเฉยเมย ไม่ได้เชื่อถือคำพูดของเขาเท่าไรนักสีหยกบนมือนางยิ่งเข้มขึ้นไปอีก ยื่นมือตรงไปยังหัวใจสีทองดวงนั้นฉับพลันเพียงชั่วพริบตา หัวใจสีทองนั่นก็เริ่มเผาไหม้มือนาง สีหยกของหัตถ์เสวียนอวี้ถูกเผาไหม้อย่างรวดเร็ว พลังวิญญาณของนางก็ก่อตัวสีหยกขึ้นใหม่อย่างรวดเร็ว ปกคลุมไปบนผิวหนังถึงแม้จะทันเวลาอยู่ แต่กลับบอกไม่ได้ว่าต่อเนื่องกันอย่างสมบูรณ์แบบดังนั้นตอนที่สีหยกนี้เผาไหม้ ในช่องรอยต่อที่สีหยกคลุมขึ้นมาใหม่ มือของจั๋วซือหราน ก็ยังถูกเผาจนยับเยินอยู่ความเจ็บปวดหลายระลอกราวกับระเบิดขึ้นตรงๆ ในสมองแต่สีหน้าจั๋วซือหรานยังคงไม่เปลี่ยนไป สายตาของนางจ้องมองหัวใจสีทองดวงนั้นเขม็งนิ้วมือที่ดำเกรียมจนแทบมองไม่เห็นสภาพขาวนวลก่อนหน้า บีบหัวใจดวงนั้นไว้แน่น จากนั้นจึงค่อยๆ หยิบมันออกมาจากในช่องประตูเล็กของแท่นบูชานั้นในขั้นตอนนี้ ความเจ็บปวดมหาศาลยังคงอยู่ จั๋วซือหราน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 679

    ฉุนจวินพอได้ยินคำนี้ของนายท่านก็นิ่งอึ้งไป “อะไรนะ?”เฟิงเหยียนสูดลมหายใจลึก “นางรู้ถึงการคงอยู่ของดวงใจแห่งหงส์แดงแล้ว แม้ผิวเผินจะไม่พูดอะไร แต่ในใจคงอยากแย่งเจ้าสิ่งนั้นมาแน่ หรืออาจจะทำลายทิ้ง เพื่อให้ข้าไม่ต้องมาทนการทรมานจากคนตระกูลเฟิงพวกนั้นอีก...”ฉุนจวินพอฟังถึงจุดนี้ ยังไม่เข้าใจอีกเสียที่ไหน จึงตกตะลึงขึ้นมาทันที “ดัง...ดังนั้น...ความหมายของนายท่านก็คือ...”ฉุนจวินรู้สึกว่า ถ้าตนเองเข้าใจไม่ผิดล่ะก็ เช่นนั้น...“แม่นางจิ่ว แฝงตัวเข้าไปในจวนตระกูลเฟิงแล้วหรือ?!” ฉุนจวินเอ่ยขึ้นอย่างตกตะลึงเฟิงเหยียนพยักหน้า “นางจะลอบเข้าไปในจวนตระกูลเฟิงก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่ถ้าครั้งนี้ที่นางไปคือโถงศักดิ์สิทธิ์บรรพบุรุษล่ะก็...”ฉุนจวินขมวดคิ้ว “นางเข้าไปได้อย่างไรกัน...?”ฉุนจวินไม่เข้าใจ เพราะโถงศักดิ์สิทธิ์บรรพบุรุษตระกูลเฟิงมีผนึกต้องห้ามพิเศษอยู่ มีเพียงคนที่มีสายเลือดตระกูลเฟิงเท่านั้น คนที่มีพลังวิญญาณตระกูลเฟิงจึงจะเข้าไปได้ เหมือนกับกุญแจอะไรแบบนั้นเฟิงเหยียนฟังคำนี้ก็เอียงตาเหลือบมองฉุนจวินฉุนจวินสังเกตได้ถึงสายตาของนายท่าน ไม่รู้เพราะอะไร ก็เหมือนเข้าใจขึ้นมาในพริ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 680

    ดวงตาของฉุนจวินเบิกกว้างขึ้นไปอีก ตอนนี้เหมือนจะตระหนักได้แล้วว่าวิกฤติที่นายท่านเชิญมาเมื่อครู่นี้ มันอันตรายมากขนาดไหนแต่เขาก็ยังเห็นว่านายท่านไม่ได้มีท่าทีกังวลหรือหวาดผวาเลยจึงอดถามขึ้นมาไม่ได้ “นายท่าน ท่านไม่กลัวหรือ? ถ้าแม่นางจิ๋วนำมันออกมา...นั่นมันอันตรายมากเลยนะ ยังดีที่แม่นางจิ๋วเอาออกมาไม่ได้”เฟิงเหยียนพอได้ยินคำพูดนี้ของฉุนจวิน จึงนิ่งงันไปครู่หนึ่งแล้วเอ่ยว่า “ข้ากลับรู้สึกว่าไม่ใช่ว่านางนำออกมาไม่ได้ แต่แค่ไม่เอาออกมาเท่านั้น”“อะไรนะ?” ฉุนจวินยังตั้งตัวกับความแตกต่างของคำว่า ‘ทำไม่ได้’ และ ‘ไม่เอาออกมา’ จากคำพูดของเฟิงเหยียนเมื่อครู่ไม่ทัน ผ่านไปครู่หนึ่งจึงมีปฏิกิริยากลับมา “ความหมายของนายท่านคือ แม่นางจิ่วอันที่จริงเอาออกมาได้ แต่นางไม่นำออกมาอย่างนั้นหรือ?”“อืม” มุมปากของเฟิงเหยียนยกขึ้นบางๆทั้งๆ ที่แขนขากระดูกทั้งตัวยังแผ่ซ่านไปด้วยความเจ็บปวด แต่เขาก็ยังยกมุมปากขึ้น“ถ้าหากเป็นคนอื่นล่ะก็ ข้าอาจจะไม่พูดเช่นนี้ แต่ถ้าหากเป็นนางล่ะก็ ข้ารู้สึกว่านางทำได้อยู่” เฟิงเหยียนพูดขึ้นมาและเชื่อมันว่านางมีความสามารถนี้แน่นอน เพราะนางจะไม่ทำเรื่องที่นางไม่มั่นใ

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 946

    และตอนที่ฮั่วจือโจวกำลังหารือเรื่องเปิดโรงเตี๊ยมอยู่กับเจี่ยงเทียนซิงและอินเจ๋ออัน ก็ได้รู้ข่าวการพระราชทานรางวัลนี้พวกเขาสามคนสบตากัน"จักรพรรดิเฒ่านี่ร้ายจริงๆ"จั๋วซือหรานไม่ได้ส่งเสียง หลังจากได้ยินคนวังประกาศราชโองการจบ นางก็ยืนนิ่งไม่ขยับคนวังเองก็ดูกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เรียกนางขึ้นคำหนึ่ง "แม่นางจิ่ว ขานรับราชโองการสิ"จั๋วซือหรานไม่ขยับ นางมองราชโองการฉบับนั้น อันที่จริงในใจกำลังพิจารณาจะรับดีไหมองค์จักรพรรดิเฒ่าดีดลูกคิดรอบนี้ ลูกคิดแทบจะกระเด็นมาโดนหน้านางอยู่แล้วพระราชทานเงิน พระราชทานจวน พระราชทานวังสวน สิทธิ์อำนาจพ่อค้าหลวง พวกนี้ไม่มีปัญหาอะไร ใกล้เคียงกับที่นางขอองค์จักรพรรดิเฒ่าไว้แต่การอวยยศ...แต่งตั้งขุนนางกับพื้นที่ศักดินา แบบนี้มันเกินไปจริงๆในสายตาคนนอก นางเป็นแค่หญิงสาวคนหนึ่ง ได้รับยศมา เรียกได้ว่าจะกลายเป็นโหวหญิงชั้นสูงเพียงคนเดียวของเมืองหลวงไปเลยยิ่งไปกว่านั้นยังมีพื้นที่ศักดินาให้ เรื่องดีจะตายนี่?แต่การแต่งตั้งเป็นหัวหน้าแพทย์หลวง แม้จะชั่วคราว แต่ใครจะรุ้ว่าต้องนานแค่ไหน?ต้องไปเข้ากะอะไรแบบนั้น น่ารำคาญจะตายยิ่งไปกว่านั้นตำแหน่งข้า

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 945

    จั๋วซือหรานพอได้ยินเสียงนี้ ก็ไม่เร่งไม่ร้อน ชนแก้วกับจั๋วอวิ๋นฉีก่อน จากนั้นจึงค่อยๆ ดื่มสุราในแก้วลงไปจนหมดตอนนี้ นางกับจั๋วอวิ๋นฉีก็กลายเป็นผู้อาวุโสสามและผู้อาวุโสห้าของตระกูลจั๋วแล้วพอวางแก้วลง จั๋วอวิ๋นฉีก็หน้าเย็นชาลงมา เขาหน้าตาหล่อเหล่า แต่ตอนที่สีหน้าเย็นชา ก็ให้ความรู้สึกบีบคั้นที่เย็นเยียบมากเขามองไปทางผู้อาวุโสที่พูดเมื่อครู่นี้คนคนนั้นหดคอลง ไม่กล้าส่งเสียงอีกจั๋วซือหรานไม่ได้ใส่ใจ งานเลี้ยงเริ่มขึ้นแล้วตอนที่อาหารกลางวันดำเนินไปครึ่งหนึ่ง ด้านนอกประตูจู่ๆ ก็มีรายงาน ว่าคนในวังมาแล้ว"คนในวัง?" ยังมีคนไม่เข้าใจ คนในวังมาบ้านตระกูลจั๋วทำไมเพียงไม่นานก็เห็นคนวังประกาศราชโองการในชุดเรียบร้อยเดินเข้ามา เพียงแต่ว่า ดูแล้วหายใจหอบอยู่ น่าจะรีบเข้ามาพอควรคนวังประกาศราชโองการพอเห็นจั๋วซือหราน ก็เผยรอยยิ้มออกมา "แม่นางจิ่วที่แท้ก็อยู่ที่นี่นี่เอง ข้าน้อยหาตัวมาพักหนึ่งแล้ว เกรงว่าจะพลาดฤกษ์ประกาศราชโองการ"สายตาของคนตระกูลจั๋ว ทยอยกันมองจั๋วซือหรานตอนนี้ คนวังประกาศราชโองการจึงลากเสียงขึ้นดังลั่น "จั๋วซือหราน...รับราชโองการ...!"จั๋วซือหรานลุกขึ้น เตรียมจะทำท่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 944

    ผู้อาวุโสสาม!?ครั้งที่แล้วที่นางกลับไปตระกูลจั๋ว คือเชิญนางไปเป็นผู้อาวุโสหรือ?!อย่าว่าแต่พวกที่มาดูมหรสพเลย กระทั่งเฉวียนคุนพอได้ยินคำเรียกนี้ก็ยังตะลึงไปและเพราะอารมณ์ในใจเขาตื่นเต้นเกินไป จึงสั่นไปทั้งตัว!เรียก เรียกว่าอะไรนะ?!นี่เรียกว่า! สะใจสินะ! เขาตอนนั้นยังจำได้ว่า คุณหนูจิ่วออกจากตระกูล ตอนนั้นคนมากมายล้วนรอดูนางเป็นตัวตลก หรือรู้สึกว่านางนี่ล่ะที่เป็นตัวตลกตอนนั้นส่งคนใช้มามากมายมาที่เรือนของนาง แต่ละคนล้วนรู้สึกเหมือนถูกเนรเทศอย่างไรอย่างนั้น รู้สึกว่าจะไม่มีวันได้กลับไปเชิดหน้าชูตาอีกแล้วมีแค่เขาที่อยู่รอด! นับจากตอนนั้นเขาก็เริ่มเชื่อมั่นว่านายท่านจะต้องก้าวหน้าแน่!จั๋วซือหรานได้ยินคำเรียกนี้ สีหน้าก็ดูสงบนิ่งมากทุกคนเห็นสีหน้านางก็รู้แล้ว นางคงรู้เรื่องนี้มานานแล้วพอคนใช้รายงานเสร็จ ก็มองจั๋วซือหรานอย่างตึงเครียดขึ้นมาราวกับ...กลัวว่านางจะปฏิเสธพวกเขาถูกส่งมาเชิญนาง ถ้าหากเชิญไม่ได้ กลับไปอาจจะถูกลงโทษก็ไม่แน่ดังนั้นพวกเขาจึงมองดูการเปลี่ยนแปลงสีหน้าของจั๋วซือหราน เตรียมว่าถ้าหากเห็นเค้าลางการปฏิเสธในสีหน้า พวกเขาก็จะอ้อนวอนนางทันทีแต่จั๋วซือห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 943

    ตอนที่เฉวียนคุณเคาะประตูจั๋วซือหรนา นางเพิ่งจะวุ่นกับการหลอมยา...งานช่วงเช้าเสร็จเฉวียนคุนรีบเข้ามารินชาให้นางจั๋วซือหรานรับไปดื่มสองอึก "ทำไมหรือ?"เฉวียนคุนเอ่ยขึ้นว่า "นายท่าน นี่มันเรื่องอะไรกัน"สีหน้าของเฉวียนคุณปั้นยาก "เดิมทีเรือนของพวกเราก็ไม่ได้เล็กอะไร ตามหลักการแล้วก็พออาศัยอยู่"เดิมทีก็มีแค่นายท่าน ข้า เด็กฉลาด เฮยหลิง นี่ก็ไม่ใช่ว่าพออยู่เหลือเฟือหรือ"แต่ก่อนหน้านั้นก็เพิ่งจะมีใต้เท้าพวกนั้นที่ท่านช่วยกลับมาจากตระกูลเฟิง" เฉวียนคุนเอ่ยขึ้นหมายถึงพวกเหล่าองครักษ์เงาของเฟิงเหยียนที่นางช่วยกลับมา"ตอนนี้ยังมีพ่อลูกสกุลเหยียนอีก" เฉวียนคุนเอ่ยต่อ "ดังนั้นห้องข้างจึงไม่ค่อยพอแล้วนะ"ห้องพักคนใช้นอกเรือนยังว่างอยู่ ปัญหาคือ เฉวียนคุนมองว่าคนเหล่านี้ นายท่านก็ไม่ได้มองพวกเขาเหมือนคนรับใช้ ดูคล้ายจะเป็นแขกมากกว่าจะให้แขกไปอยู่ในห้องพักคนใช้ก็ไม่ได้..."อา..." จั๋วซือหรานฟังถึงจุดนี้ ก็เข้าใจความหมายของเฉวียนคุนแล้ว "อย่างนี้นี่เอง รู้แล้ว"เฉวียนคุนพยักหน้า "นายท่านเข้าใจบ้างก็ดีแล้ว ตอนนี้ยังพอจัดให้ได้ถูไถ แต่หลังจากนี้ถ้าฮูหยินกับนายท่านกลับมา ก็น่าจะจัดไม่ลง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 942

    แต่หลังจากที่พวกเขาออกไป จั๋วซือหรานกลับไม่ได้ลงมาจากบนกำแพงล้อมแต่ยังคงนั่งอยู่ตรงนั้น ผ่านไปครู่หนึ่ง นางจึงเอ่ยขึ้นว่า "พวกเจ้ายังมีเรื่องอะไรอีก"นางปวดหัว เรื่องนึงสงบลงอีกเรื่องก็ผุดขึ้นมา นางสัมผัสได้นานแล้ว ต่อให้จะเป็นตอนที่คุมเชิงกับคนตระกูลเฟิงที่ไล่ตามเฟิงหร่านมา นางก็สัมผัสได้ถึงสายตาที่จับจ้องแอบมองอยู่จากมุมหนึ่งมาโดยตลอดแล้วพอคนจากไป นางก็รออยู่อีกพักหนึ่ง สายตาที่แอบมองอยู่นั่นก็ยังอยู่นางเองก็ขี้เกียจมาเสียเวลาอยู่ตรงนี้แล้ว จึงส่งเสียงขึ้นมาตรงๆตอนนี้เอง ในมุมลับตา ก็มีเงาสองร่างเดินออกมาจั๋วซือหรานรู้จักหนึ่งในนี้ นางเลิกคิ้ว "วันนี้คึกคักเสียจริง"พอได้ยินคำนี้ เหยียนฉีก็รู้สึกเขินหน่อยๆ เขาประสานมือให้ "แม่นางจิ่ว ไม่เจอกันเสียนาน"จั๋วซือหรานพยักหน้า มองไปยังคนข้างๆ ผาดหนึ่งเหยียนฉีเอ่ยแนะนำว่า "นี่ นี่คือพ่อของข้าเหยียนเจิน"จั๋วซือหรานคิดอยู่ครู่หนึ่ง "เข้ามาสิ"นางไม่ได้กระโจนกลับจากกำแพงล้อมหรือกระโจนออกไป แต่ยืนขึ้นย้ำไปตามสันกำแพง เดินตรงไปยังประตูหน้าพร้อมพวกเขาตอนที่พวกเขาเดินมาถึงประตูเรือนหลัก จึงมีเงาแดงร่างหนึ่งร่อนลงมาตรงหน้าพวกเขา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 941

    พอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน หานกวงก็พยักหน้า "ใช่แล้ว"จั๋วซือหรานมุมปากกระตุก "ไม่จบไม่สิ้นเสียที"หานกวงฟังออก ถึงความเย็นชาและขุ่นเคืองในน้ำเสียงของแม่นางจิ่วจั๋วซือหรานผลักประตูออก เดินไปที่ห้องตะวันออกเฟิงหร่านพยุงร่างขึ้นมานั่งบนเตียง นางอยู่ในชุดดำ มีบาดแผลอยู่ไม่น้อย มีเลือดซึมออกมาข้างนอกด้วยจั๋วซือหรานแค่เหลือบมอง ก็รู้ว่าปัญหาไม่ใหญ่นักนางเดินเข้าไป ใช้มือหนึ่งจับชีพจรของเฟิงหร่าน อีกมือหนึ่งโยนขวดใบหนึ่งให้นางเฟิงหร่านก็รับไปแบบมือไม้พัลวัน "พี่จั๋ว นี่คือ...""เจ็บไม่หนักมาก กินยาเอาเองเลย" จั๋วซือหรานตอบมาเฟิงหร่านเดาว่าด้านในน่าจะเป็ยารักษาอะไรบางอย่าง นางพยักหน้า "ได้เลย ขอบคุณพี่จั๋วมาก"นางเดิมทียังคิดจะเอ่ยปาก บอกเรื่องในตระกูลเฟิงกับจั๋วซือหรานแต่ก็เห็นว่าว่าหลังที่จั๋วซือหรานส่งยาให้นางแล้ว ก็หมุนตัวเดินไปนอกประตูทันทีเฟิงหร่านรีบถามขึ้น "พี่จั๋ว ท่านจะไปไหน?"จั๋วซือหรานมุถมปากกระตุก "คนตระกูลเฟิงที่ไล่สังหารเจ้ามาพวกนั้น มาล้อมอยู่นอกบ้านข้าแล้ว พอดีเลย คืนนี้ข้าจะได้ไม่ต้องไปหาพวกเขา"พูดจบ นางก็เดินออกจาห้องไปเฟิงหร่านนั่งลงบนเตียงงงๆ แล

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 940

    แพงไม่ว่า แต่บางทีมีเงินก็หาซื้อไม่ได้พวกเขาตอนนี้เพิ่งจะรู้สึกขึ้นได้ว่าตัวตนนักกลั่นยาของจั๋วซือหรานนั้นมีประโยชน์มากจริงๆถ้าหากเดิมทียังรู้สึกไม่พอใจอยู่บ้าง ตอนนี้ก็แทบจะไม่เหลืออยู่แล้วสายตาของพวกเขาเปล่งประกายจับจ้องจั๋วซือหรานจั๋วซือหรานพอได้ยินก็ยิ้มๆ นางมองสายตาเปล่งประกายรอบๆ จากนั้นจึงมองไปทางผู้อาวุโสใหญ่"ถ้าหากให้ข้าตัดสินใจได้ล่ะก็ เงื่อนไขนี้ไม่มีปัญหาแน่นอน"เสียงของจั๋วซือหรานสงบนิ่งมาก "จะทำเช่นที่มอบให้กับตระกูลฮั่ว มอบยาลูกกลอนให้ตระกูลจั๋ว กระทั่งถ้าอารมณ์ดี จะมอบที่ขั้นสูงกว่าให้ด้วย แต่เงื่อนไขก็คือ ตระกูลจั๋วข้าต้องมีอำนาจตัดสินใจ แล้วก็ไม่ใช่ว่ามีพวกกลุ่มที่กระโจนตัวลากใบหน้าแก่ๆ ออกมาสั่งโน่นสั่งนี่กับข้า"จั๋วหลานฟังถึงคำนี้ ในใจก็อดสั่นกึกขึ้นไม่ได้เขาฟังออกถึงความหมายเชิงลึกในคำพูดนาง...ถ้าหากวันไหนที่นางไม่มีอำนาจตัดสินใจในตระกูลจั๋ว นางก็จะตัดการส่งมอบให้ได้ตลอดเวลา พวกเขาไม่มีทางเลือกเลยแม้แต่น้อยดังนั้น ไม่ว่าในใจเหล่าผู้อาวุโสที่นี่จะมีความคิด 'ฟังนางไปก่อนชั่วคราว หลังจากนี้ค่อยว่ากัน' แค่ไหน ตอนนี้ก็ต้องดับมอดลงไปทันทีจั๋วซือหรานพ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 939

    ทุกคนเห็นว่าบนหน้าจั๋วซือหรานมีรอยยิ้มจางๆ อยู่ตลอดแม้จะไม่มีความหมายอะไร ลอยอยู่ผิวเผิน แต่ก็มีอยู่มาตลอดจนตอนที่คำพูดนี้ออกมา รอยยิ้มผิวเผินบนหน้านางเหล่านั้นก็หายวับไปทันทีเหลือเพียงความเย็นชาไร้ความรู้สึกนางบอกกับคนวังจดบันทึกที่อยู่ข้างๆ "รบกวนเจ้าด้วย"คนวังจดบันทึกรู้ว่าคนผู้นี้เป็นตัวตนที่สำคัญแค่ไหนสำหรับฝ่าบาทดังนั้นท่าทีจึงนอบน้อมมาก หยิบม้วนผ้าไหมเลืองทองออกมาคลี่ออกใครก็เห็นลายมังกรที่อยู่บนนั้น...นี่มันคือราชโองการ!คนวังจดบันทึกหยิบพู่กันออกมา เริ่มตวัดเขียนขึ้นบัญชาสวรรค์ จักรพรรดิรับสั่ง ตระกูลจั๋วมีบุตรสาว ชื่อนามหรูซิน จึงขอพระราชทานงานอภิเษกให้กับฉินตวนหยางปราชญ์แห่งกรมดาราศาสตร์...หลังจากได้ยินคนวังจดบันทึกอ่านประกาศร่างราชโองการจั๋วหรูซินยังคงเป็นลมไม่ได้ เพราะยาเม็ดนั้นที่จั๋วซือหรานให้มาอหังการเหลือเกิน บอกว่าจะทำให้นางสติตื่นตัว ก็ทำให้ตื่นตัวได้จริงๆดังนั้นนางจึงโกรธแค้นจนเกินทน กระอักเลือดสดออกมาจั๋วซือหรานลุกขึ้นยืน ในดวงตาไม่มีคนผู้นี้อยู่อีก ราวกับว่า ล้างแค้นสิ่งที่ควรทำเรียบร้อยคนอย่างจั๋วหรูซิน ไม่จำเป็นต้องมาอยู่ในสายตานางอี

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 938

    ถังหยวนมองสภาพจั๋วหรูซินตอนนี้ เขาอดมีสายตาสับสนขึ้นมาไม่ได้ตรงหน้าเขามีภาพตอนที่จั๋วซือหรานถูกลงโทษแวบผ่านขึ้นมา กระดูกสันหลังที่ไม่ยอมคดงอนั่นเก้าแส้ฟาดลงไป หน้าขาวซีด เหมือนจะร่วงพับสิ้นสติ สภาพซมซานน่าเวทนาแต่ในสีหน้าท่าทาง ไม่มีท่าทีเจ็บปวดร้องไห้ชักกระตุกให้เห็นกระทั่งว่า ถังหยวนเกิดความรู้สึกลวงขึ้นมา ว่ามันควรจะเป็นเช่นนี้หรือเปล่า?แต่ตอนนี้พอเห็นท่าทางของจั๋วหรูซิน จึงมีปฏิกิริยาเข้าใจขึ้นทันที จั๋วหรูซินแบบนี้ต่างหากที่เป็นสภาพปกติแต่แบบจั๋วซือหรานนั่น เป็นตัวตนที่แตกต่างจากคนอื่นจั๋วหลานมองจั๋วซือหราน "เสียวจิ่ว พอสบายใจขึ้นบ้างหรือยัง?"จั๋วซือหรานเดินขึ้นไปทีละก้าวทุกคนล้วนคิดว่า หญิงสาวคนนี้ยังไม่สะใจพอ ต้องเข้าไปมองความเจ็บปวดทรมานของจั๋วหรูซินใกล้ๆ จึงจะพอใจจั๋วอวิ๋นชินอดทนอยู่ข้างๆ แม้เขาจะไม่พอใจน้องสาวคนนี้นัก แต่ถึงอย่างไรก็เป็นน้องสาวจะอย่างไรก็ยังมีความรู้สึกทนไม่ไหวอยู่ เขาเตรียมจะยัดยาลูกกลอนให้กับจั๋วหรูซินแล้วแต่ตอนนี้พอเห็นจั๋วซือหรานเดินขึ้นมา แม้เขาจะหยุดเท้าลง แต่ในที่สุดก็ทนไม่ไหวจั๋วอวิ๋นชินเอ่ยขึ้นเสียงขรึม "จั๋วซือหราน หรูชินได้ร

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status