แชร์

บทที่ 672

ผู้เขียน: หูเทียนเสี่ยว
“ตูม...” เสียงดังสนั่น

กระทั่งสิ่งปลูกสร้างอย่างโถงศักดิ์สิทธิ์บรรพบุรุษที่แข็งแรง ก็ยังสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

และเพราะการโจมตีนี้ จึงทำให้ควันธูปควันเทียนในโถงศักดิ์สิทธิ์คลุ้งขึ้นมา!

จั๋วอวี้เอ่ยขึ้นเสียงต่ำ “อย่ามาโทษข้าที่ลงมือแบบไม่ปราณี เดิมทีก็คิดจะไว้ชีวิตเจ้าเหมือนกัน แต่เจ้ามันรนหาที่ตาย...ถ้าชาติหน้ามีจริง ก็อย่าทำตัวกำเริบเสิบสานแบบนี้อีก อายุจะไม่ยืนยาวเอา”

ควันธูปควันเทียนค่อยๆ สงบลง ดวงตาของเฟิงอวี้นิ่งแข็ง เพราะหางตาของเขา...จับได้ว่าด้านหลังควันธูปที่ค่อยๆ สงบลงนั้น

ยังคงมีร่างหญิงสาวชุดแดงยืนตระหง่านอยู่

นางยังคงยืนอยู่ตรงนั้น

เสียงของนางยังคงแจ่มชัด ในน้ำเสียงมีความขบขันอยู่ด้วย

เอ่ยขึ้นว่า “คำพูดนี้เดิมทีข้าขอคืนให้เจ้านะ คนที่กำเริบเสิบสาน อายุจะไม่ยืนยาวเอา”

จั๋วซือหรานหัวเราะเบาๆ “พวกเราสองคนใครกันแน่ที่ทำตัวกำเริบเสิบสาน? ยังไม่ทันเห็นหัวของข้าหลุดจากร่างเลย ก็กล้าบอกให้ข้ารีบไปเกิดใหม่เสียแล้ว?”

พอได้ยินเสียงของจั๋วซือหราน ร่างของเฟิงอวี้ก็แข็งทื่อไป

เสียงของเขาก็แข็งทื่อด้วยเช่นกัน ในน้ำเสียงเผยอารมณ์ไม่อยากเชื่อออกมา “เจ้า...ทำไม...เป็นไปได้อย่างไร
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Piyaradchanee
ลงหลายตอนหน่อยนะคะ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 673

    เฟิงอวี้มองหญิงสาวชุดแดงตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อในสายตาเขามีความตกตะลึงมหาศาล“เป็นไปไม่ได้...มันเป็นไปได้อย่างไร...” เฟิงอวี้งึมงำขึ้นมาหลังจากนั้นก็กระอักเลือดโฮกใหญ่ร่างของจั๋วซือหราน เปล่งแสงวาบ จากนั้นจึงเข้าคว้าคอเสื้อของเฟิงอวี้ กดเขาไว้บนกำแพงด้วยพลังมหาศาล จึงมีเสียงเปรี๊ยะดังขึ้นมา“อั่ก!” เฟิงอวี้กระอักเลือดสดออกมาอีกครั้งกำปั้นจั๋วซือหรานอัดเข้าไปบนหน้าเขาอีกครั้ง ใบหน้าครึ่งซีกของเฟิงอวี้บวมขึ้นมา กระทั่งสมองก็เหมือนจะดังวิ้งๆ ในหัวเขาถลึงตาอ้าปากค้างมองจั๋วซือหราน ราวกับว่าไม่อยากเชื่อถึงพลังที่จั๋วซือหรานสำแดงออกมาเช่นนี้“มีอะไรเป็นไปไม่ได้กัน หรือว่าใต้หล้านี้ มีแต่ตระกูลเฟิงของเจ้าที่ทะเลาะกับชาวบ้านเขาเป็น” จั๋วซือหรานเบ้ปากเย็นชา “ข้าว่า เจ้าคงจะคุกเข่านานไปจนลุกไม่ไหวแล้วสินะ”สายตาของเฟิงอวี้ดูเหม่อลอย และไม่รู้ว่าเป็นเพราะถูกจั๋วซือหรานจัดการจนส่งผลกระทบมากไปหรือเปล่าจั๋วซือหรานหิ้วคอเสื้อเขากดไว้บนกำแพงอดพูดไม่ได้เลย ว่าฉากนี้ดูแล้วแปลกประหลาดหน่อยๆ และยังดูมีแรงกระทบกับสายตาอีกด้วยหญิงสาวร่างบางคนหนึ่ง ยกชายร่างสูงเจ็ดฉื่อกดไว้บนกำแพง จนแท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 674

    ดึงลงมาไม่ได้ป้ายวิญญาณนั้นมีกลไกบางอย่างอยู่ มันหมุนไปเล็กน้อยจากการดึงของไหมแมลงกู่หลังจากมีเสียงฟันเฟืองดังขึ้นแกร๊กๆๆ อยู่ครู่หนึ่งแท่นบูชาด้านล่างที่วางป้ายวิญญาณทั้งหมดนี้ ก็มีประตูขนาดฝ่ามือบานหนึ่ง ค่อยๆ เปิดออกจั๋วซือหรานหรี่ตา เดินเข้าไปใกล้ๆ เพื่อให้มองเห็นสถานการณ์ด้านในประตูได้ชัดขึ้นอีกหน่อย!นางสัมผัสได้ว่าในประตูเล็กบานนี้ มีกลิ่นอายความร้อนแผ่ออกมาสายตาของนาง ก็สัมผัสได้ถึงแสงจ้าแยงตาที่แผ่ออกมาจากในประตูเล็กบานนี้ แสงสีแดงทอง กระพริบๆกระพริบๆ...เหมือนกำลังเต้นอยู่อย่างไรอย่างไรอย่างนั้นเหมือนหัวใจกำลังเต้นจั๋วซือหรานมองเห็นสิ่งที่อยู่ด้านในประตูนี้ชัดเจนแล้ว ไม่ใช่สิ่งที่มีเลือดท่วม กระทั่งยังมองไม่ออกถึงความเป็นรูปธรรม สิ่งที่เห็นเป็นแค่แสงสีแดงทองวูบหนึ่ง รูปร่างเหมือนหัวใจดวงหนึ่งราวกับว่ายังมีชีวิตอยู่อย่างไรอย่างนั้น กำลังเต้นอยู่ แสงสีแดงทองนั่น ก็กระพริบขึ้นมาตามจังหวะการเต้นของมัน และอุณหภูมิความร้อนที่จั๋วซือหรานสัมผัสได้ ก็แผ่ออกมาจากตัวมันเช่นกัน“ดวงใจแห่งหงส์แดง” จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นงึมงำสายตาของนางจ้องมองสิ่งที่อยู่ในประตูเล็กนี้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 675

    เฟิงอวี้พอได้ยินคำพูดจั๋วซือหราน ก็เหลือบมองนางเย็นชา เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม “จั๋วจิ่วอย่างเจ้า ตอนที่ฉลาดก็ฉลาดเหลือแสน แต่ตอนที่จะโง่ ทำไมจึงโง่ได้ขนาดนี้?”คำพูดของเฟิงอวี้ จั๋วซือหรานฟังแล้วก็ขมวดคิ้วนางยอมให้คนก่นด่าเช่นนี้หรือ?ไม่ใช่แน่นอนดังนั้นจั๋วซือหรานจึงคว้ามือของเฟิงอวี้ ใส่เข้าไปในประตูเล็กหัวใจสีทองนั้นอีกครั้ง “อ๊าก...!” เฟิงอวี้กรีดร้องขึ้นมาครู่ใหญ่ จั๋วซือหรานจึงดึงมือเขาออกนางเหมือนยิ้มเหมือนไม่ย้อมมองเฟิงอวี้ “ข้าขอแนะนำให้เจ้าพูดจาดีดีอย่าบ่นด่าคนอื่นเขา ถึงอย่างไรข้าก็ไม่ได้เป็นคนอารมณ์ดีขนาดนั้น”เฟิงอวี้ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน แต่ตอนนี้ก็ไม่กล้าด่านางส่งเดชแล้วจั๋วซือหรานเอ่ยต่อ “เจ้าพูดมาให้ละเอียด อะไรคือข้าจะทำร้ายเฟิงเหยียนจนตาย? ทำไม? ดวงใจหงส์แดงนี้แตะต้องไม่ได้เลยหรือ?”จั๋วซือหรานเดิมทียังคิดว่า ใครสนใจกับพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงกับสิ่งศักด์สิทธิ์หงส์แดงกันถ้าหากตระกูลเฟิงเก็บสิ่งศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงนี้ไว้เพื่อจะคอยควบคุมเฟิงเหยียนก็แค่ชิงเจ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงนี่ไปก็จบแล้วไม่ใช่หรือ?แต่ว่า พอฟังจากคำพูดของเฟิงอวี้ ก็เหมือนไม่ใช่เป็นเรื

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 676

    เฟิงอวี้พูดต่อ “แต่เจ้าทำเรื่องเหล่านี้มันไม่มีประโยชน์ ตระกูลเฟิง คือตระกูลที่ถูกสาปแช่ง...”จั๋วซือหรานพอได้ยินคำวิจารณ์ต่อตระกูลนี้ ในที่สุดจึงเลิกคิ้วขึ้น “ถูกสาปแช่ง?”“เฮอะ” เฟิงอวี้หัวเราะเย็นชา “พลังที่ยืมมา พลังที่ขโมยมา เจ้าเล่นกับพลัง ก็จะถูกพลังเล่นเข้าด้วยเช่นกัน พยายามสะกดควบคุมพลังที่ไม่ใช่ของตนเอง ก็จะถูกพลังสะกดและควบคุม จะเรื่องไหนก็ล้วนเป็นเช่นนี้”เหมือนเป็นวงกลมต่อเนื่องไปเรื่อยๆจั๋วซือหรานแน่นอนว่าเข้าใจหลักการในคำพูดของเฟิงอวี้เฟิงอวี้เอ่ยต่อ “และเพราะตระกูลเฟิงเป็นเช่นนี้ ดังนั้นเจ้าจะทำอะไรก็ไม่มีประโยชน์ เจ้าช่วยเฟิงเหยียนไม่ได้”พอฟังถึงตรงนี้ จั๋วซือหรานก็ขมวดคิ้วเฟิงอวี้เอ่ยต่อว่า “ถ้าแค่เจ้านำดวงใจหงส์แดงออกไป เฟิงเหยียนก็จะตาย นี่จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมดวงใจหงส์แดงจึงต้องอยู่ที่นี่ เฟิงเหยียนเองก็รู้ว่าดวงใจแห่งหงส์แดงอยู่ที่นี่มาตลอด แต่กลับไม่เคยพยายามนำมันออกมา เพื่อที่จะไม่ต้องถูกคนในตระกูลเฟิงกดขี่อีกต่อไป”เฟิงอวี้พูดพลางมองดวงตาของจั๋วซือหราน ถามขึ้นเหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้ม “เจ้าคงไม่คิดว่า เฟิงเหยียนไม่ได้คิดถึงจุดนี้หรอกกระมัง? หรือคิดว่าเ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 677

    จั๋วซือหรานยิ้มๆ “พวกเจ้าเป็นตระกูลที่ถูกสาป ยิ่งแข็งแกร่งก็ยิ่งทำร้ายตนเอง กระทั่งดวงวิญญาณก็ยังถูกใช้มาสะกดวิญญาณแห่งหงส์แดงเลย...”ถ้าหากข้าเดาไม่ผิดล่ะก็ น่าจะเป็นเช่นนี้” จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นเสียงเรียบเฟิงอวี้พอได้ยิน ในใจก็รู้สึกแค่ว่าความคิดหนึ่งกำลังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หญิงสาวคนนี้เป็นสัตว์ประหลาดอะไรกันแน่!“และดวงใจแห่งหงส์แดงนี้ ถ้าแค่ถูกนำออกไป เฟิงเหยียนก็จะตาย ดังนั้นจึงถูกวางไว้ที่นี่มาตลอด ไม่เช่นนั้นเฟิงเหยียนคงจะเอาออกไปนานแล้ว เพราะเฟิงเหยียนเองก็แข็งแกร่งพอแล้ว” จั๋วซือหรานเอ่ยต่อพอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน เฟิงอวี้ก็เอ่ยขึ้นว่า “แล้ว แล้วมันมีอะไรไม่ถูกต้องหรือไรกัน”“จุดที่ไม่ถูกต้องอยู่ที่ ตระกูลเฟิงของพวกเจ้า พวกเจ้ายิ่งแข็งแกร่งก็จะยิ่งทำร้ายตนเอง เฟิงเหยียนที่ไม่เอาดวงใจแห่งหงส์แดงนี้ไป เป็นไปได้ว่าเพราะ โถงศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ข้อกำหนดของเจ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์นี่ก็คือ...”จั๋วซือหรานพูดถึงจุดนี้ ดวงตาก็จับจ้องไปที่เฟิงอวี้ เอ่ยต่อว่า “...ก็คือมีกฏเกณฑ์คล้ายๆ กับโชคชะตาคนในตระกูลเฟิงของพวกเจ้า คนที่พลังแห่งหงส์แดงยิ่งแข็งแกร่ง ก็จะยิ่งเจอกับการทำร้ายข

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 678

    ดังนั้นจั๋วซือหรานที่เดิมทีไม่คิดจะฟังเขาพูดไร้สาระ ทว่าตอนนี้กลับไม่รังเกียจที่จะฟังดูเสียหน่อยเฟิงอวี้เอ่ยต่อ “แต่เรื่องที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์หากถูกนำออกไป เฟิงเหยียนก็จะตาย คำพูดนี้ข้าไม่ได้โกหกเจ้า”จั๋วซือหรานมองเขาสายตาเฉยเมย ไม่ได้เชื่อถือคำพูดของเขาเท่าไรนักสีหยกบนมือนางยิ่งเข้มขึ้นไปอีก ยื่นมือตรงไปยังหัวใจสีทองดวงนั้นฉับพลันเพียงชั่วพริบตา หัวใจสีทองนั่นก็เริ่มเผาไหม้มือนาง สีหยกของหัตถ์เสวียนอวี้ถูกเผาไหม้อย่างรวดเร็ว พลังวิญญาณของนางก็ก่อตัวสีหยกขึ้นใหม่อย่างรวดเร็ว ปกคลุมไปบนผิวหนังถึงแม้จะทันเวลาอยู่ แต่กลับบอกไม่ได้ว่าต่อเนื่องกันอย่างสมบูรณ์แบบดังนั้นตอนที่สีหยกนี้เผาไหม้ ในช่องรอยต่อที่สีหยกคลุมขึ้นมาใหม่ มือของจั๋วซือหราน ก็ยังถูกเผาจนยับเยินอยู่ความเจ็บปวดหลายระลอกราวกับระเบิดขึ้นตรงๆ ในสมองแต่สีหน้าจั๋วซือหรานยังคงไม่เปลี่ยนไป สายตาของนางจ้องมองหัวใจสีทองดวงนั้นเขม็งนิ้วมือที่ดำเกรียมจนแทบมองไม่เห็นสภาพขาวนวลก่อนหน้า บีบหัวใจดวงนั้นไว้แน่น จากนั้นจึงค่อยๆ หยิบมันออกมาจากในช่องประตูเล็กของแท่นบูชานั้นในขั้นตอนนี้ ความเจ็บปวดมหาศาลยังคงอยู่ จั๋วซือหราน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 679

    ฉุนจวินพอได้ยินคำนี้ของนายท่านก็นิ่งอึ้งไป “อะไรนะ?”เฟิงเหยียนสูดลมหายใจลึก “นางรู้ถึงการคงอยู่ของดวงใจแห่งหงส์แดงแล้ว แม้ผิวเผินจะไม่พูดอะไร แต่ในใจคงอยากแย่งเจ้าสิ่งนั้นมาแน่ หรืออาจจะทำลายทิ้ง เพื่อให้ข้าไม่ต้องมาทนการทรมานจากคนตระกูลเฟิงพวกนั้นอีก...”ฉุนจวินพอฟังถึงจุดนี้ ยังไม่เข้าใจอีกเสียที่ไหน จึงตกตะลึงขึ้นมาทันที “ดัง...ดังนั้น...ความหมายของนายท่านก็คือ...”ฉุนจวินรู้สึกว่า ถ้าตนเองเข้าใจไม่ผิดล่ะก็ เช่นนั้น...“แม่นางจิ่ว แฝงตัวเข้าไปในจวนตระกูลเฟิงแล้วหรือ?!” ฉุนจวินเอ่ยขึ้นอย่างตกตะลึงเฟิงเหยียนพยักหน้า “นางจะลอบเข้าไปในจวนตระกูลเฟิงก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่ถ้าครั้งนี้ที่นางไปคือโถงศักดิ์สิทธิ์บรรพบุรุษล่ะก็...”ฉุนจวินขมวดคิ้ว “นางเข้าไปได้อย่างไรกัน...?”ฉุนจวินไม่เข้าใจ เพราะโถงศักดิ์สิทธิ์บรรพบุรุษตระกูลเฟิงมีผนึกต้องห้ามพิเศษอยู่ มีเพียงคนที่มีสายเลือดตระกูลเฟิงเท่านั้น คนที่มีพลังวิญญาณตระกูลเฟิงจึงจะเข้าไปได้ เหมือนกับกุญแจอะไรแบบนั้นเฟิงเหยียนฟังคำนี้ก็เอียงตาเหลือบมองฉุนจวินฉุนจวินสังเกตได้ถึงสายตาของนายท่าน ไม่รู้เพราะอะไร ก็เหมือนเข้าใจขึ้นมาในพริ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 680

    ดวงตาของฉุนจวินเบิกกว้างขึ้นไปอีก ตอนนี้เหมือนจะตระหนักได้แล้วว่าวิกฤติที่นายท่านเชิญมาเมื่อครู่นี้ มันอันตรายมากขนาดไหนแต่เขาก็ยังเห็นว่านายท่านไม่ได้มีท่าทีกังวลหรือหวาดผวาเลยจึงอดถามขึ้นมาไม่ได้ “นายท่าน ท่านไม่กลัวหรือ? ถ้าแม่นางจิ๋วนำมันออกมา...นั่นมันอันตรายมากเลยนะ ยังดีที่แม่นางจิ๋วเอาออกมาไม่ได้”เฟิงเหยียนพอได้ยินคำพูดนี้ของฉุนจวิน จึงนิ่งงันไปครู่หนึ่งแล้วเอ่ยว่า “ข้ากลับรู้สึกว่าไม่ใช่ว่านางนำออกมาไม่ได้ แต่แค่ไม่เอาออกมาเท่านั้น”“อะไรนะ?” ฉุนจวินยังตั้งตัวกับความแตกต่างของคำว่า ‘ทำไม่ได้’ และ ‘ไม่เอาออกมา’ จากคำพูดของเฟิงเหยียนเมื่อครู่ไม่ทัน ผ่านไปครู่หนึ่งจึงมีปฏิกิริยากลับมา “ความหมายของนายท่านคือ แม่นางจิ่วอันที่จริงเอาออกมาได้ แต่นางไม่นำออกมาอย่างนั้นหรือ?”“อืม” มุมปากของเฟิงเหยียนยกขึ้นบางๆทั้งๆ ที่แขนขากระดูกทั้งตัวยังแผ่ซ่านไปด้วยความเจ็บปวด แต่เขาก็ยังยกมุมปากขึ้น“ถ้าหากเป็นคนอื่นล่ะก็ ข้าอาจจะไม่พูดเช่นนี้ แต่ถ้าหากเป็นนางล่ะก็ ข้ารู้สึกว่านางทำได้อยู่” เฟิงเหยียนพูดขึ้นมาและเชื่อมันว่านางมีความสามารถนี้แน่นอน เพราะนางจะไม่ทำเรื่องที่นางไม่มั่นใ

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1090

    จั๋วซือหรานไม่ตอบ แค่เลิกคิ้วขึ้นอย่างไม่ยอมรับหรือปฏิเสธหัวหน้าคนคุ้มกันออกแรงเม้มปาก ในดวงตาแดงก่ำขึ้นจั๋วซือหรานเอ่ยเสียงเรียบ "เดิมทีข้าคิดว่าเจ้าน่าจะเห็นแล้วว่าเจ้านายเจ้าเป็นพวกที่ไม่เห็นความสำคัญของชีวิตคน จะมองออกถึงดวงชะตาแล้ว ทั้งที่ผ่านความเป็นความตายมาแล้วก็น่าจะหวงแหนชีวิตขึ้นมาบ้างจึงจะถูก นี่เจ้ากลับเข้ามารนหาที่ตาย"หัวหน้าคนคุ้มกันริมฝีปากสั่นระริก "แม่นาง..."จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ "เอาล่ะ เลือกมา"พอได้ยินคำพูดของจั๋วซือหราน หัวหน้าคนคุ้มกันก็ตกตะลึง "อะ อะไรหรือ?""อยากจะรอดหรืออยากจะตาย" จั๋วซือหรานพลิกข้อมือ อาวุธเล่มหนึ่งปรากฏขึ้นกลางฝ่ามือ "ถ้าจะส่งเจ้าไปสบายมันง่ายดายมาก ไม่ใช่เรื่องลำบากเลย อย่าว่าแต่เจ้า พวกลูกน้องเหล่านี้ของเจ้า ข้าสังหารทั้งหมดได้แค่ในไม่กี่อึดใจ"พอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน หัวหน้าคนคุ้มกันที่ในดวงตาสงบนิ่งไปแล้วแท้ๆ แต่กลับเหมือนมีประกายของดวงดาวเปล่งปลั่งขึ้นมา"ยังมี...ชีวิตต่อได้หรือ?" ในน้ำเสียงของหัวหน้าคนคุ้มกันมีความหวังขึ้นมาแล้วจั๋วซือหรานเหลือบมองเขาผาดหนึ่ง "ได้ แต่มีสิ่งที่ต้องจ่าย""จ่ายด้วย...อะไรหรือ?"

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1089

    เพราะขนมชามมีไฟวิเศษเปลวเพลิงอู๋ซื่ออยู่ในตัว รูปร่างเดิมจึงกึ่งโปร่งใสถนัดการพรางตัวมากที่สุดและสภาพก่อนหน้านี้ การปรากฏตัวกะทันหันของจั๋วซือหราน ตอนที่ผู้เฒ่าเหอมีอาการสั่นไปทั้งตัวจากความผวาต่อตัวนาง แน่นอนว่าความสนใจทั้งหมดจึงพุ่งไปบนตัวนางจนไม่ทันได้สังเกตถึงการเคลื่อนไหวผิดปกติอื่น ดังนั้นจึงไม่รู้สึกตัวเลย ว่าแมลงกู่ที่ร่างกายกึ่งโปรงใสในปกติ และในตอนที่จำเป็นก็เพิ่มระดับความโปร่งใสได้อีก ตัวนี้ ไปเกาะอยู่บนไหล่เขาตั้งแต่เมื่อไรตอนนีเ้อง พอเห็นว่าร่างของผู้เฒ่าเหอล้มลงกะทันหันขนมชามก็รีบกระพือปีกน้อยทั้งสองนั่นขึ้นมา แม้จะบินไม่ได้เร็วหรือสูงนัก แต่การจะบินขึ้นมาจากจุดเดิมไม่ใช่ปัญหาใหญ่ตุบตุบ...ตุบตุบ...มาอยู่เบื้องหน้าจั๋วซือหราน หยุดลงข้างๆ หูแล้วจึงส่งเสียงจี๊ดๆ ขึ้นมาแต่ที่ได้ยินในหูจั๋วซือหราน ขนมชามกำลังบอกว่า "นายท่าน เขาสลบไปแล้ว"จั๋วซือหรานจุ๊ปากขึ้นมา "ชิ อ่อนแอเสียจริง""ใช่เลย" ขนมชามเห็นด้วยกับคำพูดของนายท่าน หลังจากนั้นก็ร่อนลงมาบนไหล่จั๋วซือหราน เอ่ยว่า "ทั้งที่ข้าเป็นคนที่ทนรับได้ง่ายที่สุดในกลุ่มพวกเราแล้วด้วยซ้ำ"จั๋วซือหรานคิดแล้วก็ขำ พูดอ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1088

    สีหน้าผู้เฒ่าเหอแข็งทื่อไป หลังจากตั้งสติกลับมาได้ สีหน้าก็เขียวจนซีดไป นี่นางกำลังตอบโต้เขาว่าก่อนหน้านี้ผายลมออกมาไม่ดังพอสินะ!ผู้เฒ่าเหอโมโหไม่พอใจ สูดลมหายใจลึก แล้วจึงสงบลงมาได้เขาจ้องจั๋วซือหราน "ใต้เท้าจั๋ว ท่านมาโดยไม่ได้รับเชิญถึงสองรอบ วางยาพิษลูกชายข้า ทำร้ายผู้ใต้บัญชาข้า นี่รังแกกันมากเกินไปแล้ว ทำไมหรือ? ขุนนางราชสำนักสามารถรังแกคนได้แบบนี้หรือไรกัน? คิดว่าต้าชางไม่มีกฏหมายหรือไร?"จั๋วซือหรานหลังจากได้ยินคำนี้ พูดออกมาแค่ว่า "เจ้าพูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไร?""ความหมายของข้าก็คือ..." ผู้เฒ่าเหอกำลังคิดจะพูดแต่เขายังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกจั๋วซือหรานตัดบทไปแล้ว "เจ้าคิดว่ายกเอากฏหมายออกมาแล้วจะช่วยชีวิตเจ้าได้เรอะ?""นี่เจ้า...!" ผู้เฒ่าเหอถลึงตาโตในดวงตาถลึงโตของเขา สะท้อนใบหน้ารอยยิ้มชั่วร้ายของจั๋วซือหราน "ในเมื่อเจ้ากล้าคิดวิธีมาทำร้ายข้า ก็คงจะเคยหาข่าวเรื่องข้ามาแล้ว คงเข้าใจในตัวข้าอยู่บ้างสินะ""ในเมื่อเจ้าเข้าใจตัวข้า ก็น่าจะชัดเจนว่า จั๋วจิ่วอย่างข้าไม่มีนิสัยที่ทำตามกฏระเบียบมาแต่ไหนแต่ไร" จั๋วซือหรานเหลือบตามองเขา"เจ้ายกกฏหมายขึ้นมามีประโยชน์อะไร? ต่อ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1087

    พอได้ยินเสียงนี้ที่ดังขึ้นกะทันหัน แล้วยังคุ้นหูขนาดนี้คุ้นหูจนทำให้ผู้เฒ่าเหอยังหลังเย็นวาบ จนถึงตอนนี้ ข้างหูเขาก็เหมือนยังได้ยินเสียงกรีดร้องของลูกชายอยู่เลย...ดังนั้น พริบตาที่ได้ยินเสียงนี้ เสียงของผู้เฒ่าเหอที่เดิมทียังกระฟัดกระเฟียด ก็หยุดลงไปทันทีทั่วทั้งลานเปลี่ยนเป็นเงียบสงัด!และเสียงใสเย็นของหญิงสาวคนนั้น ก็ดังลอดเข้ามาอีกครั้ง "เจ้าเองก็ลองผายลมเสียงดังๆ ให้ฟังหน่อยสิ"ผู้เฒ่าเหอก็เหมือนจะเพิ่งยืนยันได้ว่านี่ไม่ได้หูฝาด แต่เป็นเสียงของหญิงสาวคนนั้นจริงๆสีหน้าเปลี่ยนเป็นปั้นยากขึ้นมาทันทีและตอนนี้เองหัวหน้าคนคุ้มกันตระกูลเหอที่นอนหายใจรวยรินกันบนพื้น แม้แต่จะเหลือบตามองก็ยังสุดกำลัง ก็เลิกหนังตาขึ้น แล้วมองไปทางเสียงที่ดังลอดเข้ามาเหลือบมองออกไปอย่างสุดกำลังที่มีในสายตา เงาสีแดงร่างหนึ่ง ก็รวกับเป็นเปลวไฟกลุ่มหนึ่ง เผาไหม้เข้ามาจั๋วซือหรานยืนอยู่ตรงนั้น จากนั้น จึงก้มลงมองเขาผาดหนึ่งและสบตาเข้ากับเขาที่เงยขึ้นมาพอดีจั๋วซือหรานเลิกคิ้ว จุ๊ปากขึ้นมาทีหนึ่ง "ข้าเตือนพวกเจ้าแล้ว"หัวหน้าคนนี้เข้าใจความหมายในคำพูดของจั๋วซือหรานซึ่งก็จริง ก่อนหน้านี้นาง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1086

    "เจ้า...เจ้าเจ้า..." เสียงของคนคุ้มกันประตูตะกุกตะกักขึ้นมาเขาเห็นหญิงสาวตรงหน้าหรี่ตายิ้ม แต่กลับไม่รู้สึกว่าอบอุ่นเลย ซ้ำยังสัมผัสได้ถึงอาการเย็นวาบที่แผ่นหลังอีกด้วยก่อนหน้าที่จั๋วซือหรานจะมาถึงเมืองหยางหน่วยคนคุ้มกันที่ผู้เฒ่าเหอส่งออกมารับมือจั๋วซือหราน แต่กลับล้มเหลวแถมยังบาดเจ็บ ก็กลับมาถึงจวนตระกูลเหอแล้วพอรู้ว่าพวกเขากลับมาอย่างล้มเหลว แล้วตลับหุ่นเชิดยังถูกแย่งไปอีกด้วย ผู้เฒ่าเหอก็โมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงไม่ได้สนใจพวกคนคุ้มกันที่บาดเจ็บกลับมาเหล่านั้นเลย กระทั่งพวกเขาอันที่จิรงมีคนหนึ่งไม่ได้กลับมาด้วย ไม่รู้ว่าตายไปแล้วหรือยังแต่ภายใต้สถานการณืเช่นนี้ ผู้เฒ่าเหอเองก็ยังจะลงโทษพวกเขาก่อนหน้าที่จั๋วซือหรานจะมาถึงเมืองหยาง พวกเขาก็ถูกผู้เฒ่าเหอลงโทษด้วยแส้มาตลอดแรกสุดที่บาดเจ็บจากหมอกพิษที่ป่าทวนแสง แล้วยังรีบกลับมาอย่างสุดกำลัง บวกกับการลงแส้ของผู้นำตระกูลนี่อีกพวกเขาล้วนกลายเป็นธนูแผ่วปลายกันหมดแล้ว หายใจรวยรินและตอนนี้เอง ผู้เฒ่าเหอหยุดฟาดแส้ ไม่ใช่เพราะเห็นบาดแผลพวกเขาแล้วใจอ่อนลงมา แต่เป็นเพราะเอาแต่หวดแส้แบบนี้ ผู้เฒ่าเหอเองก็เหนื่อยขึ้นมาแล้วเท่านั้น

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1085

    หัวหน้าคนคุ้มกันถอนหายใจออกมาเบาๆ "เป็นข้าที่เลินเล่อเอง ตอนที่แม่นางเข้าเมืองข้าลืมเตือนแม่นาง ว่าในเมืองหยางนี้มีเจ้าถิ่นอยู่""ถ้าหากไปเจอเข้า เลี่ยงไว้หน่อยก็จะดี ถึงอย่างไรแม่นางก็ไม่ได้คิดจะอยู่นานอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องไปเจอกับเรื่องยุ่งยากโดยไม่จำเป็น แม่นางมาจากเมืองหลวง คิดว่าก็น่าจะเข้าใจ ว่ามันจะมีพวกคน...ที่เหมือนกับพวกคางคงอะไรแบบนั้น" หัวหน้าคนคุ้มกันเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานเข้าใจความหมายของเขา ก็ใช่ คางคกเวลาปีนขึ้นมาหลังเท้า ต่อให้ไม่กัดคน ก็ยังน่าขยะแขยงจั๋วซือหรานเลิกคิ้วขึ้น "ตระกูลเหอหรือ?"หัวหน้าคนคุ้มกันพยักหน้า "ตระกูลเหอขอรับ"เขาควรจะคิดถึงตั้งนานแล้ว ว่าคนตรงหน้าคนนี้ ตอนอยู่ที่เมืองหลวง ก็ไม่ได้เป็นคนที่ยอมให้ใครมาข่มเหงง่ายๆ ไม่ต้องพูดถึงเมืองหยางเลยคิดๆ แล้วก็ใช่ คนตรงหน้าคนนี้คือคนที่ไม่เห็นห้าตระกูลใหญ่ของเมืองหลวงในสายตา เป็นหญิงสาวที่ถูกตระกูลขับไล่ แต่กลับถูกผู้อาวุโสมาเชิญให้กลับตระกูล...คนเช่นนี้ จะมาหวาดกลัวตระกูลเหอในเมืองหยางได้อย่างไรกันแต่หัวหน้าคนคุ้มกันยังคงจดจำบุญคุณที่จั๋วซือหรานมีต่อค่ายคุ้มกันและท่านแม่ทัพ ดังนั้น ไม่ว่าจั๋วซือหรา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1084

    จั๋วซือหรานชูเข็มในมือขึ้น เอ่ยว่า "สมอง"จากนั้นก็ใช้เข็มชี้ไปที่ห่วงแขนขาทั้งสี่ "ระบบประสาท"ดีมาก ตอนนี้ก็เข้าใจได้แล้วจั๋วซือหรานตาเป็นประกาย!ไม่ว่าจะแมงมุมน้อยหรือพวกก้อนเนื้อ ตอนนี้ก็น่าจะสัมผัสได้ถึงอารมณ์ลิงโลดของจั๋วซือหรานแล้วเพราะตาของนางเปล่งประกายมาก!จากนั้นนางจึงชูเข็มในมือขึ้นอีกครั้ง "สมอง"ชี้ไปที่ห่วงแขนขาทั้งสี่ "ระบบประสาท"หลังจากพูดซ้ำเช่นนี้ไปหลายรอบ ตอนที่แมงมุมน้อยกับพวกก้อนเนื้อทวนซ้ำคำพูดกับท่าทางของนางได้การเคลื่อนไหวของนางในที่สุดก็มีการเปลี่ยนแปลง!นางบีบขนมถั่วแดงไว้ในมือ เอ่ยขึ้นว่า "สมอง""เอ๋?" ในดวงตาเล็กๆ ของขนมถั่วแดงเบิกกว้างสงสัย ไม่ใช่เข็มนั่นที่เป็นสมองหรือ?จากนั้นนายท่านก้ดึงไหมกู่ของมันออกมาหลายเส้น เอ่ยขึ้นว่า "ระบบประสาท"จั๋วซือหรานตาเป็นประกายจนเหมือนดวงดาว "ไม่ต้องอธิบายแล้ว" นางหัวเราะขึ้นมา "ข้านี่มันอัจฉริยะจริงๆ อัจฉริยะ"เหล่าก้อนเนื้อันที่จริงก็ยังไม่ค่อยเข้าใจความหมายของนายท่นา แต่สัมผัสได้ถึงอารมณ์เบิกบานของนายท่าน พวกมันก็รู้สึกดีใจตามขึ้นมาแมงมุมน้อยเหมือนจะเข้าใจบ้าง แต่ก็ไม่แน่ใจนัก ดังนั้นจึงไม่ได้พูดแท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1083

    นิ้วของจั๋วซือหรานมีแสงหยกครบอยู่ชั้นหนึ่ง ยื่นตรงไปยังเข็มยาวสีดำที่ปักอยู่ตรงท้ายทอยของหุ่นเชิดความมืดเล่มนั้นขนมชาเขียวอยู่ข้างหูนาง เอ่ยขึ้นอย่างกังวล "นายท่าน ข้ารู้สึกว่าเจ้าสิ่งนี้อันตรายมากเลย...ท่านต้องระวังหน่อยนะ"ขนมชาเขียวไม่ได้ร่าเริงเหมือนขนมถั่วแดง น่าจะเพราะมันมีพลังของไฟเย็นข่งเชวี่ยอยู่กับตัวดังนั้นการที่มันพูดเช่นนี้ จึงทำให้จั๋วซือหรานรู้สึกแปลกใจมาก"อื๋อ? ทำไมพูดแบบนั้นล่ะ?" จั๋วซือหรานมองไปทางมันขนมชาเขียวส่ายหัว เพราพวกมันล้วนเป็นก้อนเนื้อ พูดว่าส่ายหัว อันที่จริงก็คือก็โยกไปมาของครึ่งท่อนบนขนมชาเขียวบอกว่า "ข้าเองก็บอกไม่ถูก แค่รู้สึก ว่ามันเย็นเยือกมาก""เย็นเยือก..." จั๋วซือหรานทวนซ้ำคำพูดนี้ของขนมชาเขียวจั๋วซือหรานรู้ เพราะขนมชาเขียวมีพลังของไฟเย็นข่งเชวี่ยอยู่กับตัว ดังนั้นมันจึงค่อนข้างฉับไวกับสิ่งที่เย็นเยียบยิ่งไปกว่านั้นหุ่นเชิดความมืดคนนี้กับอักขระคำสาปบนตัวเหล่านั้น จะมองอย่างไรก็ไม่เหมือนสิ่งที่มีพลังหยางเลยในใจจั๋วซือหรานคิดอะไรไว้บ้างแล้ว แสงหยกบนมือนางค่อยๆ สลายไป ค่อยๆ เปล่งแสงสีสันสวยงาม และมีความร้อนเหมือนเปลวไฟขึ้นมานางควบร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1082

    แต่อันที่จริงด้านในมีโพรงสวรรค์อยู่สมบัติที่นางสะสมมาจากชาติที่แล้วและชาตินี้ ห้องคลังก็ล้วนอยู่ในบ้านหลังนี้ทั้งสิ้นคลังของนางพูดได้ว่าใหญ่โตเอามากๆ กระทั่งคลังยังถูกแบ่งออกเป็นหลายประเภทด้วย คลังยา คลังอาวุธ คลังเสบียงอาหารประจำวัน คลังของจิปาถะเป็นต้นนอกจากนี้ ยังมีห้องหลอมสกัดยาของนางด้วย...อันที่จริงในชาติที่แล้ว มิติห้องหลอมสกัดยานี้ไม่ได้เอามาใช้หลอมยา แต่บางครั้งนางนำมาใช้เป็นการทดลองยาอะไรพวกนี้พอมาชาตินี้ ก็นำมาใช้หลอมยาสกัดยา ก็ยังถือว่าตรงสายงานเฉพาะทางอยู่ ไม่เสียเปล่าแล้วยังมีห้องเพาะเลี้ยงของตนเองด้วย ตอนนั้นตั้งใจจะมาเพาะเลี้ยงพวกของที่ไม่ค่อยอยากให้ใครรู้ พวกเห็ดอะไรทำนองนี้ในมิติของนาง ด้านนอกเป็นพื้นที่โล่ง พวกพืชเองก็ปลูกแบบสะเปะสะปะแต่ว่าพวกเห็ดมันคือเชื้อราจริงๆ อยู่ด้านนอกก็ปลูกไม่ค่อยโต ดังนั้นจั๋วซือหรานจึงจงใจสร้างห้องเพาะขึ้นมาโดยเฉพาะเพียงแต่ตอนนี้ยังว่างอยู่จั๋วซือหรานก่อนหน้านี้โยนหุ่นเชิดความมืดเข้ามาในห้องเพาะปลูกนี้ชั่วคราวแต่ตอนนี้ มันไม่อยู่ด้านในแล้วถ้าตามที่แมงมุมน้อยว่า มันหลบอยู่ที่ด้านหลังของบ้านจั๋วซือหรานเดินเข้าไป ยื่นหน้

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status