Share

บทที่ 674

Author: หูเทียนเสี่ยว
ดึงลงมาไม่ได้

ป้ายวิญญาณนั้นมีกลไกบางอย่างอยู่ มันหมุนไปเล็กน้อยจากการดึงของไหมแมลงกู่

หลังจากมีเสียงฟันเฟืองดังขึ้นแกร๊กๆๆ อยู่ครู่หนึ่ง

แท่นบูชาด้านล่างที่วางป้ายวิญญาณทั้งหมดนี้ ก็มีประตูขนาดฝ่ามือบานหนึ่ง ค่อยๆ เปิดออก

จั๋วซือหรานหรี่ตา เดินเข้าไปใกล้ๆ เพื่อให้มองเห็นสถานการณ์ด้านในประตูได้ชัดขึ้นอีกหน่อย!

นางสัมผัสได้ว่าในประตูเล็กบานนี้ มีกลิ่นอายความร้อนแผ่ออกมา

สายตาของนาง ก็สัมผัสได้ถึงแสงจ้าแยงตาที่แผ่ออกมาจากในประตูเล็กบานนี้ แสงสีแดงทอง กระพริบๆ

กระพริบๆ...

เหมือนกำลังเต้นอยู่อย่างไรอย่างไรอย่างนั้น

เหมือนหัวใจกำลังเต้น

จั๋วซือหรานมองเห็นสิ่งที่อยู่ด้านในประตูนี้ชัดเจนแล้ว ไม่ใช่สิ่งที่มีเลือดท่วม กระทั่งยังมองไม่ออกถึงความเป็นรูปธรรม สิ่งที่เห็นเป็นแค่แสงสีแดงทองวูบหนึ่ง รูปร่างเหมือนหัวใจดวงหนึ่ง

ราวกับว่ายังมีชีวิตอยู่อย่างไรอย่างนั้น กำลังเต้นอยู่ แสงสีแดงทองนั่น ก็กระพริบขึ้นมาตามจังหวะการเต้นของมัน

และอุณหภูมิความร้อนที่จั๋วซือหรานสัมผัสได้ ก็แผ่ออกมาจากตัวมันเช่นกัน

“ดวงใจแห่งหงส์แดง” จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นงึมงำ

สายตาของนางจ้องมองสิ่งที่อยู่ในประตูเล็กนี้
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 675

    เฟิงอวี้พอได้ยินคำพูดจั๋วซือหราน ก็เหลือบมองนางเย็นชา เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม “จั๋วจิ่วอย่างเจ้า ตอนที่ฉลาดก็ฉลาดเหลือแสน แต่ตอนที่จะโง่ ทำไมจึงโง่ได้ขนาดนี้?”คำพูดของเฟิงอวี้ จั๋วซือหรานฟังแล้วก็ขมวดคิ้วนางยอมให้คนก่นด่าเช่นนี้หรือ?ไม่ใช่แน่นอนดังนั้นจั๋วซือหรานจึงคว้ามือของเฟิงอวี้ ใส่เข้าไปในประตูเล็กหัวใจสีทองนั้นอีกครั้ง “อ๊าก...!” เฟิงอวี้กรีดร้องขึ้นมาครู่ใหญ่ จั๋วซือหรานจึงดึงมือเขาออกนางเหมือนยิ้มเหมือนไม่ย้อมมองเฟิงอวี้ “ข้าขอแนะนำให้เจ้าพูดจาดีดีอย่าบ่นด่าคนอื่นเขา ถึงอย่างไรข้าก็ไม่ได้เป็นคนอารมณ์ดีขนาดนั้น”เฟิงอวี้ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน แต่ตอนนี้ก็ไม่กล้าด่านางส่งเดชแล้วจั๋วซือหรานเอ่ยต่อ “เจ้าพูดมาให้ละเอียด อะไรคือข้าจะทำร้ายเฟิงเหยียนจนตาย? ทำไม? ดวงใจหงส์แดงนี้แตะต้องไม่ได้เลยหรือ?”จั๋วซือหรานเดิมทียังคิดว่า ใครสนใจกับพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงกับสิ่งศักด์สิทธิ์หงส์แดงกันถ้าหากตระกูลเฟิงเก็บสิ่งศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงนี้ไว้เพื่อจะคอยควบคุมเฟิงเหยียนก็แค่ชิงเจ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงนี่ไปก็จบแล้วไม่ใช่หรือ?แต่ว่า พอฟังจากคำพูดของเฟิงอวี้ ก็เหมือนไม่ใช่เป็นเรื

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 676

    เฟิงอวี้พูดต่อ “แต่เจ้าทำเรื่องเหล่านี้มันไม่มีประโยชน์ ตระกูลเฟิง คือตระกูลที่ถูกสาปแช่ง...”จั๋วซือหรานพอได้ยินคำวิจารณ์ต่อตระกูลนี้ ในที่สุดจึงเลิกคิ้วขึ้น “ถูกสาปแช่ง?”“เฮอะ” เฟิงอวี้หัวเราะเย็นชา “พลังที่ยืมมา พลังที่ขโมยมา เจ้าเล่นกับพลัง ก็จะถูกพลังเล่นเข้าด้วยเช่นกัน พยายามสะกดควบคุมพลังที่ไม่ใช่ของตนเอง ก็จะถูกพลังสะกดและควบคุม จะเรื่องไหนก็ล้วนเป็นเช่นนี้”เหมือนเป็นวงกลมต่อเนื่องไปเรื่อยๆจั๋วซือหรานแน่นอนว่าเข้าใจหลักการในคำพูดของเฟิงอวี้เฟิงอวี้เอ่ยต่อ “และเพราะตระกูลเฟิงเป็นเช่นนี้ ดังนั้นเจ้าจะทำอะไรก็ไม่มีประโยชน์ เจ้าช่วยเฟิงเหยียนไม่ได้”พอฟังถึงตรงนี้ จั๋วซือหรานก็ขมวดคิ้วเฟิงอวี้เอ่ยต่อว่า “ถ้าแค่เจ้านำดวงใจหงส์แดงออกไป เฟิงเหยียนก็จะตาย นี่จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมดวงใจหงส์แดงจึงต้องอยู่ที่นี่ เฟิงเหยียนเองก็รู้ว่าดวงใจแห่งหงส์แดงอยู่ที่นี่มาตลอด แต่กลับไม่เคยพยายามนำมันออกมา เพื่อที่จะไม่ต้องถูกคนในตระกูลเฟิงกดขี่อีกต่อไป”เฟิงอวี้พูดพลางมองดวงตาของจั๋วซือหราน ถามขึ้นเหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้ม “เจ้าคงไม่คิดว่า เฟิงเหยียนไม่ได้คิดถึงจุดนี้หรอกกระมัง? หรือคิดว่าเ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 677

    จั๋วซือหรานยิ้มๆ “พวกเจ้าเป็นตระกูลที่ถูกสาป ยิ่งแข็งแกร่งก็ยิ่งทำร้ายตนเอง กระทั่งดวงวิญญาณก็ยังถูกใช้มาสะกดวิญญาณแห่งหงส์แดงเลย...”ถ้าหากข้าเดาไม่ผิดล่ะก็ น่าจะเป็นเช่นนี้” จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นเสียงเรียบเฟิงอวี้พอได้ยิน ในใจก็รู้สึกแค่ว่าความคิดหนึ่งกำลังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หญิงสาวคนนี้เป็นสัตว์ประหลาดอะไรกันแน่!“และดวงใจแห่งหงส์แดงนี้ ถ้าแค่ถูกนำออกไป เฟิงเหยียนก็จะตาย ดังนั้นจึงถูกวางไว้ที่นี่มาตลอด ไม่เช่นนั้นเฟิงเหยียนคงจะเอาออกไปนานแล้ว เพราะเฟิงเหยียนเองก็แข็งแกร่งพอแล้ว” จั๋วซือหรานเอ่ยต่อพอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน เฟิงอวี้ก็เอ่ยขึ้นว่า “แล้ว แล้วมันมีอะไรไม่ถูกต้องหรือไรกัน”“จุดที่ไม่ถูกต้องอยู่ที่ ตระกูลเฟิงของพวกเจ้า พวกเจ้ายิ่งแข็งแกร่งก็จะยิ่งทำร้ายตนเอง เฟิงเหยียนที่ไม่เอาดวงใจแห่งหงส์แดงนี้ไป เป็นไปได้ว่าเพราะ โถงศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ข้อกำหนดของเจ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์นี่ก็คือ...”จั๋วซือหรานพูดถึงจุดนี้ ดวงตาก็จับจ้องไปที่เฟิงอวี้ เอ่ยต่อว่า “...ก็คือมีกฏเกณฑ์คล้ายๆ กับโชคชะตาคนในตระกูลเฟิงของพวกเจ้า คนที่พลังแห่งหงส์แดงยิ่งแข็งแกร่ง ก็จะยิ่งเจอกับการทำร้ายข

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 678

    ดังนั้นจั๋วซือหรานที่เดิมทีไม่คิดจะฟังเขาพูดไร้สาระ ทว่าตอนนี้กลับไม่รังเกียจที่จะฟังดูเสียหน่อยเฟิงอวี้เอ่ยต่อ “แต่เรื่องที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์หากถูกนำออกไป เฟิงเหยียนก็จะตาย คำพูดนี้ข้าไม่ได้โกหกเจ้า”จั๋วซือหรานมองเขาสายตาเฉยเมย ไม่ได้เชื่อถือคำพูดของเขาเท่าไรนักสีหยกบนมือนางยิ่งเข้มขึ้นไปอีก ยื่นมือตรงไปยังหัวใจสีทองดวงนั้นฉับพลันเพียงชั่วพริบตา หัวใจสีทองนั่นก็เริ่มเผาไหม้มือนาง สีหยกของหัตถ์เสวียนอวี้ถูกเผาไหม้อย่างรวดเร็ว พลังวิญญาณของนางก็ก่อตัวสีหยกขึ้นใหม่อย่างรวดเร็ว ปกคลุมไปบนผิวหนังถึงแม้จะทันเวลาอยู่ แต่กลับบอกไม่ได้ว่าต่อเนื่องกันอย่างสมบูรณ์แบบดังนั้นตอนที่สีหยกนี้เผาไหม้ ในช่องรอยต่อที่สีหยกคลุมขึ้นมาใหม่ มือของจั๋วซือหราน ก็ยังถูกเผาจนยับเยินอยู่ความเจ็บปวดหลายระลอกราวกับระเบิดขึ้นตรงๆ ในสมองแต่สีหน้าจั๋วซือหรานยังคงไม่เปลี่ยนไป สายตาของนางจ้องมองหัวใจสีทองดวงนั้นเขม็งนิ้วมือที่ดำเกรียมจนแทบมองไม่เห็นสภาพขาวนวลก่อนหน้า บีบหัวใจดวงนั้นไว้แน่น จากนั้นจึงค่อยๆ หยิบมันออกมาจากในช่องประตูเล็กของแท่นบูชานั้นในขั้นตอนนี้ ความเจ็บปวดมหาศาลยังคงอยู่ จั๋วซือหราน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 679

    ฉุนจวินพอได้ยินคำนี้ของนายท่านก็นิ่งอึ้งไป “อะไรนะ?”เฟิงเหยียนสูดลมหายใจลึก “นางรู้ถึงการคงอยู่ของดวงใจแห่งหงส์แดงแล้ว แม้ผิวเผินจะไม่พูดอะไร แต่ในใจคงอยากแย่งเจ้าสิ่งนั้นมาแน่ หรืออาจจะทำลายทิ้ง เพื่อให้ข้าไม่ต้องมาทนการทรมานจากคนตระกูลเฟิงพวกนั้นอีก...”ฉุนจวินพอฟังถึงจุดนี้ ยังไม่เข้าใจอีกเสียที่ไหน จึงตกตะลึงขึ้นมาทันที “ดัง...ดังนั้น...ความหมายของนายท่านก็คือ...”ฉุนจวินรู้สึกว่า ถ้าตนเองเข้าใจไม่ผิดล่ะก็ เช่นนั้น...“แม่นางจิ่ว แฝงตัวเข้าไปในจวนตระกูลเฟิงแล้วหรือ?!” ฉุนจวินเอ่ยขึ้นอย่างตกตะลึงเฟิงเหยียนพยักหน้า “นางจะลอบเข้าไปในจวนตระกูลเฟิงก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่ถ้าครั้งนี้ที่นางไปคือโถงศักดิ์สิทธิ์บรรพบุรุษล่ะก็...”ฉุนจวินขมวดคิ้ว “นางเข้าไปได้อย่างไรกัน...?”ฉุนจวินไม่เข้าใจ เพราะโถงศักดิ์สิทธิ์บรรพบุรุษตระกูลเฟิงมีผนึกต้องห้ามพิเศษอยู่ มีเพียงคนที่มีสายเลือดตระกูลเฟิงเท่านั้น คนที่มีพลังวิญญาณตระกูลเฟิงจึงจะเข้าไปได้ เหมือนกับกุญแจอะไรแบบนั้นเฟิงเหยียนฟังคำนี้ก็เอียงตาเหลือบมองฉุนจวินฉุนจวินสังเกตได้ถึงสายตาของนายท่าน ไม่รู้เพราะอะไร ก็เหมือนเข้าใจขึ้นมาในพริ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 680

    ดวงตาของฉุนจวินเบิกกว้างขึ้นไปอีก ตอนนี้เหมือนจะตระหนักได้แล้วว่าวิกฤติที่นายท่านเชิญมาเมื่อครู่นี้ มันอันตรายมากขนาดไหนแต่เขาก็ยังเห็นว่านายท่านไม่ได้มีท่าทีกังวลหรือหวาดผวาเลยจึงอดถามขึ้นมาไม่ได้ “นายท่าน ท่านไม่กลัวหรือ? ถ้าแม่นางจิ๋วนำมันออกมา...นั่นมันอันตรายมากเลยนะ ยังดีที่แม่นางจิ๋วเอาออกมาไม่ได้”เฟิงเหยียนพอได้ยินคำพูดนี้ของฉุนจวิน จึงนิ่งงันไปครู่หนึ่งแล้วเอ่ยว่า “ข้ากลับรู้สึกว่าไม่ใช่ว่านางนำออกมาไม่ได้ แต่แค่ไม่เอาออกมาเท่านั้น”“อะไรนะ?” ฉุนจวินยังตั้งตัวกับความแตกต่างของคำว่า ‘ทำไม่ได้’ และ ‘ไม่เอาออกมา’ จากคำพูดของเฟิงเหยียนเมื่อครู่ไม่ทัน ผ่านไปครู่หนึ่งจึงมีปฏิกิริยากลับมา “ความหมายของนายท่านคือ แม่นางจิ่วอันที่จริงเอาออกมาได้ แต่นางไม่นำออกมาอย่างนั้นหรือ?”“อืม” มุมปากของเฟิงเหยียนยกขึ้นบางๆทั้งๆ ที่แขนขากระดูกทั้งตัวยังแผ่ซ่านไปด้วยความเจ็บปวด แต่เขาก็ยังยกมุมปากขึ้น“ถ้าหากเป็นคนอื่นล่ะก็ ข้าอาจจะไม่พูดเช่นนี้ แต่ถ้าหากเป็นนางล่ะก็ ข้ารู้สึกว่านางทำได้อยู่” เฟิงเหยียนพูดขึ้นมาและเชื่อมันว่านางมีความสามารถนี้แน่นอน เพราะนางจะไม่ทำเรื่องที่นางไม่มั่นใ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 681

    จั๋วซือหรานพูดจบ ก็หมุนตัวเตรียมเดินออกไปนอกโถงศักดิ์สิทธิ์เฟิงอวี้ถูกคำพูดของนางก่อนหน้านี้สะกดนิ่งไปแล้วจนตอนที่เห็นแผ่นหลังของนางเดินออกไปด้านนอกโถงศักดิ์สิทธิ์เวลานี้ จึงเพิ่งได้สติกลับมาเสียงของเฟิงอวี้ไล่ตามเข้ามา “จั๋วจิ่ว เจ้าจะทำให้เหยียนเอ๋อร์ตาย เจ้าไม่เข้าใจหรือ”เท้าของจั๋วซือหรานชะงักไป นางไม่หมุนตัวกลับ เพียงแค่หยุดลงมาเท่านั้น ครู่หนึ่ง นางจึงเอ่ยขึ้นเสียงแผ่วว่า “เรื่องนี้ไม่ต้องให้เจ้ามาลำบากเลย ข้าจะคิดหาวิธีเอง”นางครุ่นคิด จากนั้นจึงเอ่ยขึ้นอีกคำว่า “นี่น่าจะเป็นสิ่งที่ข้าไม่เหมือนกับเจ้า เฟิงเหยียนมีอันตราย ข้ายังคิดหาวิธีว่าจะช่วยชีวิตเขาอย่างไร แต่เจ้า...เหมือนจะคิดแต่ให้เขายอมรับแล้วก็ยอมรับมันไป”จั๋วซือหรานพูดถึงจุดนี้ รู้สึกเหมือนยังไม่พอ จึงเสริมเข้ามาอีกคำ “ข้าไม่เหมือนกับพวกเจ้า”การยอมรับเรื่องเหล่านี้ง่ายๆ ไม่ใช่นิสัยของนางจากนั้นจั๋วซือหรานจึงเดินไปด้านนอกโถงศักดิ์สิทธิ์การเคลื่อนไหวที่โถงศักดิ์สิทธิ์ก่อนหน้านี้ ก่อให้เกิดความยุ่งยากขึ้นไม่น้อย จั๋วซือหรานเดินออกมาจากโถงศักดิ์สิทธิ์ ยังไม่ทันเดินออกจากกำแพงเรือน ก็สัมผัสได้ว่าด้านนอกมีคนอ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 682

    แต่จั๋วซือหรานสัมผัสได้ ว่าสถานการณ์ภายในเหมือนจะดีขึ้นไม่น้อยแล้วนางออกจากเรือนนี้อย่างไร้ซุ่มเสียงวิชาอันคล่องแคล่วถูกใช้ถึงระดับสูงสุด แต่ขึ้นลงไม่กี่ครั้งก็ออกจากกำแพงเรือนบ้านตระกูลเฟิงแล้วพริบตาที่ร่อนลงพื้น จูมกของนางก็ทำท่าฟุดฟิด มีกลิ่นที่คุ้นเคย เหมือนจะอยู่ใกล้ๆ นี้เองต่อให้จั๋วซือหรานที่เป็นคนเดินหนึ่งก้าวคำนวณไปห้าก้าวก็ยังคิดไม่ถึง ว่าระหว่างคนด้วยกันจะมีบุพเพเช่นนี้อยู่ตนเองกระโจนลงมาจากกำแพงเรือน ก็ดันลงมาอยู่...ตรงหน้าเฟิงเหยียนพอดี“แม่...แม่นางจิ่ว?” ฉุนจวินเองก็ตกตะลึง คิดไม่ถึงว่าจะบังเอิญขนาดนี้จั๋วซือหรานพอได้ยินก็หันมองมา และเห็นเข้ากับร่างงดงามชวนมองนั่นเฟิงเหยียนยืนอยู่ตรงนั้น จ้องมองนางสายตาเคร่งขรึมสายตาของเขา จับจ้องบนใบหน้านาง เห็นถึงหน้าผากนางที่มีเหงื่อผุดซึม ใบหน้าซีดขาว และริมฝีปากที่ไม่มีสีเลือดได้อย่างชัดเจนและค่อยๆ เลื่อนลงมา ก็เห็นมือที่ห้อยอยู่ข้างตัวนางนางมีมือที่สวยงาม ขาวนวลอ่อนนุ่มทว่าตอนนี้มือที่สวยงามขาวนวลอ่อนนุ่มนั้น...ไม่เหลือเค้าโครงเดิมอยู่เลย เหลืออยู่แค่...ความดำเกรียมตอนที่สายตาไปเจอเข้ากับความดำเกรียมราวกิ

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1271

    กลางดึก จั๋วซือหรานกัดริมฝีปาก กอดหมอน เดินเท้าเปล่าจากห้องด้านนอกเข้าไปยังห้องด้านใน!คิ้วงามของนางขมวดแน่น สีหน้าที่มีสีเลือดฟื้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้กลับขาวซีดขึ้นมาในใจนางเองก็พูดไม่ออก เดิมทีตอนที่หลับก็ยังดีอยู่ พอกลางดึกจู่ๆ ก็ไม่ไหวขึ้นมาเสียแล้วหน้าอกปั่นป่วนอย่างรุนแรง เป็นความรู้สึกทรมานแบบที่นางผ่านมาก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยนถ้าบอกว่าคนคนนี้ไม่เข้ามาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ก็เข้ามาแล้วว่ากันว่าพอเคยสบายแล้ว จะยากที่จะกลับไปลำบากตอนนี้จะให้นางปล่อยชายหนุ่มที่เหมือนกับ 'ยาบำรุงครรภ์' นี้ไว้ข้างในเฉยๆ โดยไม่ใช้ แล้วต้องมานั่งทนกระอักเลือดต่อล่ะก็...ขอโทษด้วย สกุลจั๋วอย่างนางไม่ใช่คนประเภทนั้นนางเข้าใจแล้ว ก่อนที่จะหลับไปเมื่อคืนนี้ ตอนที่เฟิงเหยียนบอกว่าจะนอนด้านนอก ริมฝีปากที่เม้มแน่นนั้นกำลังอดกลั้นเรื่องอะไรน่าจะคิดไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้สารเลว!จั๋วซือหรานครั่นเนื้อครั่นตัวตื่นมากลางดึก ต่อให้เป็นคนที่มีสติเยือกเย็นแค่ไหน ก็ยังมีอาการหงุดหงิดงัวเงียหลังตื่นนอนนางเดินเท้าเปล่าเข้าไปห้องด้านใน อากาศในหุบเขาตอนกลางคืนเย็นมากนางสวมแค่เสื้อบางๆ ชุดหนึ่ง ทั้งตัวเย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1270

    แต่กลับรู้ตัวตนฐานะผู้ชายทรยศของเฟิงเหยียนได้ ไม่ต้องคิดเลยว่าคงเป็นจั๋วหวายพล่ามออกมาแน่"จั๋วหวายมาบอกเจ้าหรือ?" ปันอวิ๋นถามขึ้นคำหนึ่งจวงอี๋ไห่ พยักหน้าอย่างระมัดระวัง "คุณชายเสี่ยวหวายไม่หลอกข้าหรอก คุณชายเสี่ยวหวายบอกว่าเป็นผู้ชายทรยศ เช่นนั้นกว่าครึ่งก็ต้องเป็นผู้ชายทรยศแล้ว"ปันอวิ๋นถอนหายใจแผ่วเบาในห้อง จั๋วซือหรานนั่งลงข้างโต๊ะเฟิงเหยียนไม่พูดอะไร รินน้ำชาให้นางถ้วยหนึ่งจั๋วซือหรานกำถ้วยไว้ ใช้นิ้วมือลูบไล้ขอบถ้วยเบาๆ"อีกเดี๋ยวพออาหารส่งเข้ามา ก็กินสักหน่อยแล้วค่อยนอนพัก" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นแต่ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความหนักแน่นที่ห้ามปฏิเสธจั๋วซือหรานแหงนตามองเขา กำลังจะบอกว่ายังไม่หิวก็เห็นริมฝีปากบางของชายคนนี้เม้มเบาๆ เอ่ยเสียงต่ำว่า "ข้าไม่มีสิทธิ์จะมาหารือกับเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ..." สายตาเขาทอดลงไปที่ท้องน้อยนาง แววตาลึกซึ้งจากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า "แต่การจะเตือนให้เจ้ากินอะไรดีดีก็ยังพอมีสิทธิ์อยู่" สายตาเขายกขึ้นมาจากท้องน้อยจั๋วซือหรานเลื่อนมาที่ดวงตานาง จ้องมองดวงตานาง เอ่ยต่อว่า "ถึงอย่างไรเมื่อครู่ก็เพิ่งช่วยเจ้ากลับมา ยิ่งไปกว่นั้นเรื่องถูกพลังศักดิ์สิท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1269

    เขาไม่เพียงแต่ไม่ใช่สามีของนาง เขายังเป็นคู่หมั้นในนามของหญิงสาวคนอื่นอีกด้วยสีหน้าของเฟิงเหยียนแข็งทื่อไปแล้ว แต่ท้ายสุดก็ยังพูดอะไรไม่ออกเพราะในคำพูดจั๋วซือหราน ไม่มีส่วนที่ผิดเลยแม้แต่น้อยแม้จะบอกว่าเด็กคนนี้ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาก็ตามแต่ครั้งก่อนหน้านั้น เป็นเพราะจั๋วซือหรานถูกวางแผนร้ายใส่ ถึงทำให้นางสับสนหลงใหลจนมีสัมพันธ์กับเขาถ้าจะบอกว่า เขาเอาเปรียบหญิงสาวไป ก็ไมไ่ด้พูดเกินเลยนักเอาเปรียบหญิงสาว จนทำนางตั้งท้อง ไม่เคยจะมารับผิดชอบอะไรตอนนี้กลับจะมาชี้มือชี้ไม้เรื่องของนางพอสรุปมาแบบนี้ มันก็ช่าง...แย่มากจริงๆเฟิงเหยียนเองก็รู้ว่าตนเองนั้นแย่มาก พูดอะไรออกมาไม่ได้ไปชั่วขณะปันอวิ๋นรู้สึกกระอักกระอ่วนแทนสหายเก่า เขากระแอมออกมาเบาๆ ทีหนึ่ง ไกล่เกลี่ยขึ้นว่า "เอาล่ะเอาล่ะ..."เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ถึงอย่างไร ทั้งสองคนตอนนี้จะไม่ได้เป็นคู่รัก แต่ความสัมพันธ์แบบนี้...มันก็ดูคลุมเครือ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ นี่มันช่าง...ดังนั้นปันอวิ๋นเลยเปิดประเด็นขึ้น อึกอักในปากอยู่พักหนึ่ง กว่าจะพูดออกมาได้ "...พวกเจ้าหิวหรือยัง? ให้เหล่าจวนทำอะไรให้กินหน่อยดีไหม?"

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1268

    นางยืนเงียบๆ อยู่ตรงนั้น แหงนตาขึ้นมองพวกเขาสายตาของเฟิงเหยียนอึ้งไปเล็กน้อย เห็นนางยืนอยู่ในประตูด้วยสีหน้านิ่งขรึมเขารู้สึกลำคอแห้งผากอย่างประหลาด ความรู้สึกนั้น บางทีควรจะเรียกว่า...ตึงเครียดไหม?"เจ้า...ตื่นขึ้นมาตอนไหนน่ะ?" เฟิงเหยียนถามจั๋วซือหรานมองเขา "ไม่นานเท่าไร"เหมือจะมองออกถึงความกระอักกระอ่วนของเขา หรืออาจจะไม่สรุปคือ มุมปากจั๋วซือหรานยกขึ้นบางๆ พูดมาคำหนึ่ง "ท่านอ๋องน้อย ไม่เจอกันเสียนาน"นางทำแบบนี้โดยไม่เอ่ยถึงคำพูดก่อนหน้านั้นแม้แต่น้อยเฟิงเหยียนอ้าปากพะงาบ ต่อให้คิดจะพูดอะไร แต่ชั่วขณะหนึ่งก็เหมือนจะพูดออกมาไม่ได้จึงแค่ถามขึ้นอย่างเป็นห่วง "ดีขึ้นบ้างหรือยัง?"จั๋วซือหรานพยักหน้า "ดีขึ้นมากแล้ว"กระทั่งปันอวิ๋นก็ยังมองออกถึงเรื่องระหว่างพวกเขา ไม่รู้เพราะเจ้าสมองกลับนี่ไปแตะเนื้อต้องตัวทำอะไรนาง หรือเป็นเพราะคำพูดเมื่อครู่นางได้ยินคำพูดของเฟิงเหยียน...สรุปคือ ปันอวิ๋นมองพวกเขาทั้งสองคน แล้วก็รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแทนพวกเขาทั้งสองคนปันอวิ๋นคิดๆ ดู ตอนที่ตนเองอยู่กับจั๋วซือหรานก็ยังไม่ได้กลืนไม่เข้าคายไม่ออกขนาดนี้รู้สึกร้อนใจแทนเจ้าบ้านี่จร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1267

    เพราะเป็นเพื่อนสนิท ปันอวิ๋นจึงเข้าใจความหมายที่เขาคิดจะแสดงออกมาหรือก็คือ ปันอวิ๋นเดาได้นานแล้วบางทีตอนนั้นเพื่อจะให้จั๋วซือหรานหลีกเลี่ยงโชคชะตาเช่นนี้ ตนเองจึงเลือกที่จะลืมเลือนแต่สุดท้ายพอวกไปวนมา ก็กลับมาเดินอยู่บนเส้นทางเดิมเจ้าสิ่งที่เรียกว่าโชคชะตานี่ ลึกลับเอามากๆบางครั้งเหมือนจะมีเมตตา แต่บางครั้งก็เหมือนไม่เคยปราณีใครผู้ใด"แล้วเจ้าตอนนี้...คิดจะทำอย่างไร?" ปันอวิ๋นถามเขาจ้องเฟิงเหยียนตาไม่กระพริบเอาจริงๆ ปันอวิ๋นใช้มองจากมุมมองคนนอกอย่างมีเหตุมีผล ยังหวังว่าจั๋วซือหรานจะสามารถปล่อยวางได้แต่พอคิดถึงว่าถ้าหากจั๋วซือหรานปล่อยวางแล้วล่ะก็ ด้วยโชคชะตาภาชนะพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงของเฟิงเหยียน ผลสรุปสุดท้าย ก็คือตายก่อนวัยอันควรอยู่ดีและเพราะรู้เรื่องนี้ ดังนั้นปันอวิ๋นจึงหยุดไปครู่หนึ่ง เอ่ยเสริมมาคำนึง "ถังฉือเคยบอกข้าไว้ ในโถงวิญญาณอสูร พวกสัตว์เทพที่ถูกเก็บกลับมาเหล่านั้น..."ปันอวิ๋นขมวดคิ้ว คิดถึงคำพูดของถังฉือถังฉือมีบาปหนาจากการฆ่าฟันคนมากมาย กลายเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจไปแล้ว ถ้าหากไม่เย็นชาไร้หัวใจ ป่านนี้คงเป็นบ้าไปแล้วดังนั้นตอนที่เขาพูดถึงเรื่องเห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1266

    ปันอวิ๋นส่งให้เขาชามหนึ่ง ตนเองก็ด้วยทั้งสองคนไม่พูดพล่ามทำเพลง กระดกรวดเดียวจนหมดราวกับว่า สุราที่มาช้าไปหลายปีนี้ ในที่สุดก็ได้ดื่มเสียทีราวกับว่าภาพเด็กน้อยที่แอบขโมยสุราพวกนั้นมาดื่ม ซ้อนทับเข้ามากับพวกเขาในเวลานี้"ช่วงนี้เจ้า ไม่ได้ติดต่อกับพวกเขาเลยหรือ?"หลังจากร่ำสุราลงท้องไปสองชาม จิตใจก็เหมือนจะผ่อนคลายลงมาไม่น้อย ปันอวิ๋นถามขึ้นอย่างสบายๆ เป็นกันเองเฟิงเหยียนฟังออก ว่าเขาถามถึงเหล่าพี่น้องพวกนั้นเขาตอบอืมไปคำหนึ่ง "ไม่ได้ติดต่อกันเลย""เช่นนั้นก็คงไม่รู้สถานการณ์ของพวกเขาเลยสินะ" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นเฟิงเหยียนไม่ยอมรับหรือปฏิเสธกับสิ่งนี้ ถือว่ายอมรับไปกลายๆปันอวิ๋นยิ้มๆ เหมือนจะเย้ยหยันตนเอง "แต่ก็ไม่โทษพวกเขาที่ไม่ติดต่อเจ้า ด้วยสถานการณ์ของพวกเขาตอนนี้ ก็ไม่มีหน้ามาติดต่อเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ"ได้ยินคำนี้ของปันอวิ๋น เฟิงเหยียนก็ไม่พูดอะไรอีกปันอวิ๋นเอ่ยต่อว่า "ซงซีตอนนี้ทุกวันเหมือนขลุกอยู่แต่ในห้องหลอมสกัด หลอมสกัดอยู่ทุกวันไม่ได้พักเลย"เฟิงเหยียนพอได้ยินคำนี้ คิ้วก็ขมวดขึ้นบางๆ"เยี่ยนเหวย...ก็สูบเลือดออกมาทุกวัน อยู่แบบไม่เหมือนผู้เหมือนคน ผู้อาวุโสหวงจ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1265

    บางทีคงเป็นเพราะการคุยแบบเปิดอกก่อนหน้านี้ ทำให้ระยะทางขอเพื่อนสนิทสองคนที่เคยห่างไปตามกาลเวลา ย่อหดลงไปไม่น้อยเลยกระมังดังนั้นพอได้ยินปันอวิ๋นบอกว่าไม่ต้องขอบคุณ เฟิงเหยียนจึงเหลือบมองเขา น้ำเสียงเปลี่ยนไป "ก็ได้ เช่นนั้นก็ไม่ขอบคุณแล้วกัน"เฟิงเหยียนสั่งขึ้นมา "ไป ไปเอาสุรามาให้ข้าหน่อย"แม้จะพูดเช่นนี้ แต่ในเสียงกลับไม่ได้ออกคำสั่งอะไร ฟังแล้วเหมือนการใช้งานระหว่างเพื่อนกันมากกว่าปันอวิ๋นชะงักไปเล้กน้อย เพราะตอนพวกเขายังเด็ก ก็เคยใช้งานกันและกันแบบนี้ไป ไปเอาสุรามาหน่อยได้ งั้นเจ้าก็เอาปลาไปย่างซะข้าเห็นว่าเจ้าหน้าตาเหมือนปลาถ้าเจ้ายังพูดอีกรอบ จะโดนข้ากดจนจมถังสุราตายไปเลยเพราะคำพูดนี้ของเฟิงเหยียน ทั้งสองคนก็เหมือนกลับไปสมัยยังเด็กในชั่วพริบตาปันอวิ๋นยกมุมปากขึ้นบางๆ ลุกขึ้นไปให้คนรับใช้ส่งสุราเข้ามาคือสุราห้าพิษที่เขาจะหมักอยู่ทุกปี และใช้แมลงพิษมาหลอมจริงๆ แต่ตัวสุรากลับไม่มีพิษใดๆ กระทั่งยังหอมอบอวลเข้มข้นเป็นพิเศษ เป็นสุราที่หาได้ยากยิ่งและเป็นความลับที่ไม่เผยแพร่สู่ภายนอกของหุบเขาหมื่นพิษ ปกติมีแค่เจ้าหุบเขาที่รู้แต่ปันอวิ๋น หลังจากออกสำนักมา ก็ไม่ได้ด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1264

    จะเหมือนว่าตบหน้าใส่ตนเองอย่างแรง ทั้งที่เดิมทีก็อยู่บนโชคชะตาที่ขมขื่นอยู่แล้ว กระทั่งยังเป็นการตบหน้าตนเองในตอนนั้นอีกด้วยแบบนั้น...มันขมขื่นเกินไป พวกเขาเดิมทีก็ยากลำบากอยู่แล้วปันอวิ๋นนิ่งงันไปพักหนึ่ง อันที่จริงรู้สึกเหมือนไม่รู้จะเริ่มพูดจากตรงไหนดีอยู่หน่อยๆความเงียบงันดำเนินต่อไประยะหนึ่งยังคงเป็นเฟิงเหยียนที่เอ่ยเสียงต่ำขึ้นมาก่อน "ขอบคุณมาก"ปันอวิ๋นได้ยินคำนี้ ก็รู้สึกแปลกประหลาด อารมณ์เองก็ไม่ค่อยมั่นคงทั้งที่มั่นคงมาตลอดแท้ๆหลังผ่านไปพักหนึ่ง ปันอวิ๋นจึงเอ่ยตอบว่า "เรื่องเล็กน้อย"ตอนที่ได้ยินคำนี้ สายตาของเฟิงเหยียนก็เหมือนขยับนิดๆยังจำได้ว่า ตอนยังเด็กถ้าปันอวิ๋นช่วยเขาทำอะไร ขอแค่เขาขอบคุณ ปันอวิ๋นก็จะพูดคำว่า 'เรื่องเล็กน้อย' ออกมาเสมอต่อให้บางครั้ง จะไม่ใช่เรื่องเล็กเลยก็ตาม แต่ก็ยังทำให้เขารู้สึกว่า ไม่ต้องเกรงใจ ยังมีพี่น้องคนนี้ช่วยแบกอยู่เฟิงเหยียนหยุดไปครู่หนึ่ง เอ่ยเสียงเรียบขึ้นว่า "ก่อนหน้านี้ ข้าเจอกับหลงเฉินมา"พอได้ยินชื่อนี้ที่คุ้นเคย ม่านตาปันอวิ๋นก็หดลงเล็กน้อยเฟิงเหยียนเอ่ยต่อว่า "เขามีชีวิตไม่ค่อยดีนัก เหมือนตอนนั้นหลังจากที่เขาท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1263

    ท่าทีของเฟิงเหยียน ไม่ถือว่ากระตือรือร้นมากนัก กระทั่งค่อนข้างเย็นชาด้วยซ้ำแต่ก็เป็นเรื่องปกติ หลังจากที่เขาออกจากสำนักในตอนนั้น ก็ไม่ได้มีความฮึกเหิมเหมือนสมัยครั้งยังเด็กอีกมักจะเย็นชา และมักจะเฉยเมยปันอวิ๋นเม้มริมฝีปาก เข้าใจถึงสาเหตุนั้นสภาพการณ์ตอนที่เฟิงเหยียนออกจากสำนักครั้งนั้น เขาเองก็รู้เป็นอย่างดีต่อให้จนถึงตอนนี้ ก็ยังจดจำได้อย่างชัดเจนเพราะเฟิงเหยียนถูกทรยศเป็นคนแรก ดังนั้น ตอนนั้นพวกเขาก็อยู่ในฐานะคนที่ยังไม่ถูกทรยศอันที่จริง จะมากน้อยก็ยังมีความสงสัยว่าถ้าไม่อยู่ในสถานการณ์เดียวกันก็คงไม่เข้าใจอยู่พวกเขารู้สึกว่าเฟิงเหยียนทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเฟิงเหยียนที่ไม่รู้จักบุญคุณพวกเขารู้สึกว่า เป็นเฟิงเหยียนที่ทำไม่ถูกเฟิงเหยียนเป็นคนอกตัญญูจนต่อมา ต่อมาของต่อมา ทุกคนทยอยกันเดินบนเส้นทางของเฟิงเหยียน ใครก็หนีไม่พ้นการทรยศหรือใช้ประโยชน์ทั้งนั้นตามหลักแล้วควรจะยอมรับชะตากรรมอย่างที่เคยเตือนเฟิงเหยียนเอาไว้ในตอนนั้น และมองว่าสิ่งนั้นเป็นการบ่มเพาะและการให้ความสำคัญจากสำนักแต่เพระาอะไร...ถึงได้ดีใจกันขึ้นมาไม่ได้เลยและหลังจากนั้นอีก แต่ละคนก็ทร

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status