แชร์

บทที่ 572

ผู้เขียน: หูเทียนเสี่ยว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
แต่เพราะสถานการณ์ของสองวันนี้ก็ยังต้องกระโจนออกมาเหมือนสุ...บางทีอาจไม่ควรจะเรียกว่ากระโจนออกมาเหมือนสุนัขจนตรอก

แต่เป็นโมโหจากความล้มเหลว

อดพูดไม่ได้เลย ว่าจั๋วซือหรานคาดเดาไว้แม่นยำมาก

ไม่นานก่อนหน้านี้ ตอนที่นางยังวุ่นอยู่ในค่ายป้องกัน

ในอุทยานหลิ่วพ่านที่ห่างออกไป

อ๋องอวี้ชินผู้สูงส่งโกรธเดือดดาล จนคนรับใช้ถูกไล่ออกไปแล้วสองคน

ถ้วยถาดกระจัดกระจายระเนระนาดเต็มพื้น

ชายหนุ่มในชุดหรูหรานั่งบนที่นั่งหลัก ใบหน้าเองก็หล่อเหลาอยู่ แต่ดวงตาทั้งสองกลับแดงก่ำ เหมือนดวงตาถูกแผดเผาด้วยความโกรธอย่างไรอย่างนั้น

“ไม่ได้เรื่อง! ไม่ได้เรื่อง! ไม่ได้เรื่อง!”

เพล้ง! เสียงแตกสะท้านดังขึ้นอีกครั้ง กาน้ำชาชั้นดีใบหนึ่ง ถูกขว้างจนแตกกระจายบนพื้น

“มีแต่พวกไม่ได้เรื่อง! เจาหมิ่นอยู่ไหน! ? นางไม่ใช่บอกแล้วหรือ ว่านี่เป็นแผนที่สมบูรณ์แบบ?! แล้วนี่คือแผนสมบูรณ์แบบที่นางว่าหรือ?”

ซือคงอวี้โมโหเดือดดาล เขาหัวเราะเย็นชาขึ้นมาทีหนึ่ง “ข้าได้ยินว่านางออกจากวังหลวงไปแล้วใช่ไหม? พอเห็นว่าล้มเหลวก็เลยหนีหางจุกตูดหรือ? แผนการยอดเยี่ยมเสียเหลือเกิน...”

ตอนนี้เอง เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นที่ปากประตู “องค์ชายห้าอย่า
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 573

    ความหยิ่งทะนงในใจซือคงเจาหมิ่น ทำให้นางไม่ยอมแพ้จั๋วซือหราน ตนเองแค่แพ้ไปครั้งเดียวเท่านั้น วันข้างหน้ายังอีกยาวไกลเพียงแต่ นี่ถือเป็นการไม่ยอมแพ้ต่อจั๋วซือหรานของตัวนาง และไม่ใช่ว่าไม่ยอมรับ จั๋วซือหรานนั้นเป็นคนที่มีฝีมืออยู่อย่างน้อยในกลุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันในเมืองหลวง ก็แทบจะหาหญิงสาวแบบนางไม่ได้เลยแล้วซือคงอวี้ล่ะ?ซือคงเจาหมิ่นมองคนโง่ที่คิดว่าตัวเองฉลาดตรงหน้านี้ ในใจก็หัวเราะเย็นชา รอยยิ้มบนหน้ากลับไม่เปลี่ยนแปลงใดเลยซือคงเจาหมิ่นรู้สึกแย่กับเจ้าโง่ตรงหน้านี้มานานแล้วเดิมทีนางได้รับคำสั่ง ว่าสามารถถอนตัวออกจากแคว้นชางได้ แต่นางเดิมทีคิดว่าก่อนจะออกไปจะเล่นงานจั๋วซือหรานอีกสักที หลายปีนี้ในเมืองหลวงแคว้นชาง กว่าจะได้มาเจอคู่มือ แต่ดันมาแพ้ไปเสียแล้วนางเองก็ไม่คิดที่จะให้จั๋วซือหรานต้องลำบาก ดังนั้นจึงเข้ามาหาซือคงอวี้โดยเฉพาะ“เจาหมินความสามารถไม่เพียงพอเอง เสด็จพี่อย่าทรงกริ้วเลย” สีหน้าของซือคงเจาหมิ่นยังคงไม่เปลี่ยนแปลงซือคงอวี้ร้องเชอะเย็นชาขึ้นมา แต่คำพูดเมื่อครู่ของเจาหมิ่น ก็พูดตรงใจเขาพอดีคนแบบเขา อวดดีทะนงตน ยิ่งทำให้เชื่องได้ยาก ในสายตาเขาก็ยิ่งรู้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 574

    ซือคงเจาหมิ่นเอ่ยขึ้นอย่างยอมรับและเต็มใจ “เพคะ เสด็จพี่วางใจเถอะ ก็แค่ของบางอย่างใช้หมดไปแล้ว จำเป็นต้องไปเอามาจากชายแดนใต้ อย่างพวกกู่พวกยาอะไรพวกนี้ ถ้าเอามาทำประโยชน์ให้เสด็จพี่ได้ เจาหมิ่นไปจัดการเองยังวางใจได้มากกว่า”ซือคงอวี้แม้จะไม่ค่อยรู้สึกดีนักกับน้องสาวต่างสายเลือดคนนี้ แต่ก็อดพูดไม่ได้ ว่าคำพูดของนางมันน่าฟังจริงๆซือคงเจาหมิ่นตอนนี้จึงออกจากเมืองหลวง......จั๋วซือหรานหลังออกจากค่ายป้องกันกลับมายังเมืองหลวง ก็ไม่ได้แวะไปที่หน่วยสืบสวนพิเศษทันทีสำหรับสถานการณ์เหล่านี้ในเมืองหลวงปัจจุบัน หน่วยสืบสวนพิเศษจึงเป็นเหมือนพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ ถ้าหากอยากจะได้ความเงียบสงบหน่อย ไม่ที่หน่วนสืบสวนพิเสษรับรองไม่มีปัญหาแต่จั๋วซือหรานก็ยังตรงไปที่ตลาดมืดเสียรอบหนึ่งตอนที่นางไปถึงตลาดมืด การเผชิญหน้ากับตระกูลเหยียนก็ถือว่าจบไปแล้วพอเห็นจั๋วซือหรานเข้ามา ในดวงตาเจ้าสำนักหอฟ้าดาวก็เหมือนมีความอบอุ่นและรอยยิ้มขึ้นมาอย่างหาได้ยาก“คุณหนูจิ่ว”“เจ้าสำนัก”“คุณหนูจิ่วเหนื่อยมาทั้งวัน ยังไม่กลับไปพักผ่อนอีกหรือ?” เจ้าสำนักหอฟ้าดาวถามขึ้นจั๋วซือหรานยิ้มตาโค้ง “ทำไมหรือ เจ้าสำนักม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 575

    “เจ้าบอกว่าใครนะ?” จั๋วซือหรานมีสีหน้าประหลาดเผยออกมา นางเหลือบมองไปยังอิ๋นไห่ที่รายงานอยู่หน้าประตู ในดวงตาของเจี่ยงเทียนซิงเองก็ประหลาดใจหน่อยๆ เห็นได้ชัดว่ารู้สึกไม่อยากเชื่อเล็กๆ กับความยุ่งยากที่มาหาแบบกะทันหันนี้“เจ้าสำนักจันทร์เงิน” อิ๋นไห่เอ่ยตอบจั๋วซือหรานชี้ไปที่ตนเอง “มาหาข้าหรือ?”“ใช่แล้ว น่าจะเพราะรู้ว่าท่านมายังหอฟ้าดาว จึงเข้ามาขอพบ” อิ๋นไห่พยักหน้าจั๋วซือหรานขมวดคิ้วเจี่ยงเทียนซิงเองก็ขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าไม่เข้าใจเอาเสียเลย “เขามาทำอะไรกัน...”ส่วนจั๋วซือหรานก็เอ่ยขึ้นเสียงเรียบว่า “มาแก้แค้นกระมัง วันนั้นตอนอยู่ที่ลานทดสอบ ข้าก็ไม่เกรงใจเขาเลย”จั๋วซือหรานเอียงตามองเจี่ยงเทียนซิง “ต่อให้ไม่ได้มาล้างแค้น ก็น่าจะมาหาเรื่องข้านั่นล่ะ...”เจี่ยงเทียนซิงนิ่งงันครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง กลอกตามองไปทางจั๋วซือหราน “ถ้าเจ้าไม่อยากพบ ข้าให้อิ๋นไห่พาเจ้าออกไปทางประตูหลังได้นะ อินเจ๋ออันทางนี้ให้ข้ารับมือก็พอ”อันที่จริงจั๋วซือหรานก็กลัวความยุ่งยากหน่อยๆ หลักๆ คือ เรื่องยุ่งยากมากเกินไปแล้วแต่พอคิดๆ ชีวิตคนเราเดิมทีก็มีความยุ่งยากที่ต้องไล่แก้ไปทีละเรื่องๆ อยู่แล้ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 576

    อินเจ๋ออันเอ่ยขึ้นว่า “สวัสดีคุณหนูจิ่ว ได้ยินชื่อเสียงมานานแล้ว”จั๋วซือหรานมองเขาผาดหนึ่ง ดวงตาก็โค้งเป็นเส้นขึ้นมานางเอ่ยเสียงเรียบ “เจ้าสำนักจันทร์เงินครั้งที่แล้วตอนที่ทำลายหน้ากากข้า ข้าไม่ได้ยินดีที่จะพบอะไรทั้งนั้น”สีหน้าอินเจ๋ออันชะงักไป จากนั้นจึงเอ่ยว่า “ตอนนั้นคิดไม่ถึงว่าจะเป็นคุณหนูจิ่ว”“ต่อมาพอรู้แล้ว ตอนนี้เจ้าสำนักคิดจะทำอย่างไรล่ะ?” จั๋วซือหรานถามขึ้น “ถึงอย่างไรเจ้าสำนักก็มาที่นี่เองแล้ว คงไม่ใช่แค่มาพบหน้าข้ากระมัง?”อินเจ๋ออันชะงักไปครู่หนึ่ง จึงทอดสายตามองไปทางเจี่ยงเทียนซิง “เรื่องประลองกับเฮยหลิงครั้งที่แล้ว มีคนยื่นขอให้ไกล่เกลี่ยการตัดสิน”จั๋วซือหรานเห็นเจี่ยงเทียนซิงหลังจากได้ยินคำพูดนี้ของอินเจ๋ออัน สีหน้าก็ขรึมลงไปทันทีดูท่าคำว่า ‘ไกล่เกลี่ยการตัดสิน’ ของอินเจ๋ออันน่าจะไม่ธรรมดาหลังจากเจี่ยงเทียนซิงเงียบไปครู่หนึ่ง ก็หัวเราะเย็นชาขึ้นมา “นานมาแล้ว สามหอไม่มีใครก้าวก่ายกันและกัน ใครก็ล้วนยื่นขอไกล่เกลี่ยการตัดสินกันทั้งนั้น แต่มีสักกี่ครั้งที่เป็นเรื่องจริง”พอเผชิญหน้ากับรอยยิ้มเย็นชาของเจี่ยงเทียนซิง สีหน้าอินเจ๋ออันไม่เปลี่ยนไป เอ่ยต่อมาว่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 577

    อินเจ๋ออันพูดถึงจุดนี้แล้วชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงมองนิ่งๆ ไปทางจั๋วซือหรานสายตาอินเจ๋ออันดูตั้งใจมาก ทำเอาเจี่ยงเทียนซิงอดขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้ พอเจี่ยงเทียนซิงกำลังจะอ้าปากพูดยังไม่ทันจะได้เอ่ยปาก ก็ได้ยินเสียงจั๋วซือหรานหัวเราะขึ้นมาเสียงหัวเราะของนางฟังออกถึงความผ่อนคลายผิดปกติ เหมือนกับได้ยินเรื่องน่าสนใจที่พิเศษอะไรแบบนั้นเจี่ยงเทียนซิงพอเข้าใจตัวจั๋วซือหรานอยู่บ้าง ดังนั้นจึงรู้นิสัยนางดี และตอนที่ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ของนางเจี่ยงเทียนซิงที่เดิมทีเตรียมจะพูด ก็ข่มเอาไว้แล้วจั๋วซือหรานแหงนตาเหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้มมองไปยังดวงตาของอินเจ๋ออัน ถามขึ้นว่า “โอ๋? ถ้าหากข้าแพ้ เจ้าสำนักอินจะทำอย่างไรล่ะ?”อินเจ๋ออันพอเห็นสายตาของนาง อันที่จริงก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจแล้วไม่ใช่เพราะเรื่องอื่น เพราะบนเวทีเมื่อครั้งที่แล้ว เขาเคยสัมผัสกับอารมณ์ของนางมาก่อนแต่อินเจ๋ออันก็คิดๆ ตนเองอันที่จริงก็ไม่ใช่ว่าเพ่งเล็งนางเสียหน่อย จึงพูดขึ้นมาว่า“หากเจ้าแพ้ ก็จะพิสูจน์ว่าครั้งนั้นเจ้าสู้กันหลอกๆ เช่นนั้นถ้าว่าตามการไกล่เกลี่ยนตัดสินใหม่ การประลองกับเฮยหลิงในครั้งนั้น ผลประโยชน์ที่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 578

    อินเจ๋ออัน: “...” หลักฐานหลักฐานหลักฐาน! หลักฐานอีกแล้ว! นางเป็นกรมสอบสวนคดีอาญาหรือไรกัน! ที่นี่ไม่ใช่โถงพิพากษาของกรมสอบสวนคดีอาญาเสียหน่อย! ยังจะมาเอาหลักฐานอะไรอีก!อินเจ๋ออันสูดลมหายใจลึก จึงพยายามข่มอารมณ์ในใจที่ถูกหญิงสาวคนนี้กระตุ้นขึ้นอย่างง่ายดายและรู้สึกได้เลยว่าทำไมสามตระกูลใหญ่นั้นถึงได้เกลียดนางจนเข็ดฟัน แต่กลับต้องมาปวดหัวอย่างมากเพราะนาง!เสียงของอินเจ๋ออันแทบจะลอดออกมาจากร่องฟันแล้ว “เช่นนั้นเจ้าต้องการอะไรล่ะ?”จั๋วซือหรานพอได้ยินคำพูดนี้ของอินเจ๋ออัน สองมือที่เดิมทีกอดอกตลอดในที่สุดก็ปล่อยลงมาแล้วในตานางเปล่งประกาย อินเจ๋อหรานตอนที่มองเห็นสายตานี้ ก็มีความรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาแบบไม่มีสาเหตุ แต่กลับไม่รู้ว่าตรงไหนที่ไม่สบายใจส่วนเจี่ยงเทียนซิง เขาจำสายตานี้ของจั๋วซือหรานได้ สายตานี้ของนางเป็นตัวแทนว่านางวางแผนทำร้ายผู้อื่นแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นยังมีแผนรับมือแล้วด้วยอดพูดไม่ได้จริงๆ จากมุมที่ถูกนางวางแผนใส่ก็คงรู้สึกแย่เอามากๆ แต่ตอนนี้พอมาเป็นสหายกับนาง แล้วเห็นสายตาของนางเช่นนี้อีกครั้ง ก็รู้สึกเหมือน...แอบคาดหวังอยู่หน่อยๆ เหมือนกันจั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นว่า “

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 579

    เจี่ยงเทียนซิงจึงไม่พูดเรื่องนี้อีก แต่หันไปพูดเรื่องอื่นแทน“ยังมีงานเลี้ยงชานั่นอีก” เจี่ยงเทียนซิงเอ่ยขึ้น “งานเลี้ยงชาของอ๋องอวี้ชิน ข้าเองก็ยังรู้สึกว่าไม่ค่อยสบายใจเลย”“อื๋อ? ” จั๋วซือหรานฟังถึงตรงนี้ แหงนตามองเขาเจี่ยงเทียนซิงเอ่ยขึ้น “ถ้าหากก่อนหน้านี้ที่เมืองหลวงถูกก่อกวนจนวุ่นวายไปหมด เป็นการเคลื่อนไหวที่อ๋องอวี้ชินทำขึ้นมาเพื่อแย่งชิงบัลลังก์ การเคลื่อนไหวเหล่านี้ในปัจจุบัน ก็คงจะถูกเขาข่มเอาไว้หมดแล้ว”“ถ้าอย่างนั้นเขาก็ไม่ควรรีบจัดงานเลี้ยงชาขึ้นต่ออีกจึงจะถูก พอหมดความสามารถไปก็ควรจะเก็บเนื้อเก็บตัวให้เรียบร้อยถึงจะถูก แต่ตอนนี้เขากลับไม่มีความคิดที่จะยกเลิกงานเลี้ยงชานั่นเลยแม้แต่น้อย ทำเอาคนรู้สึกไม่สบายใจขึ้นหน่อยๆ” เจี่ยงเทียนซิงขมวดคิ้วด้วยช่องทางข้อมูลของหอฟ้าดาวถือว่าใช้ได้อยู่ ดังนั้นจึงเข้าใจอย่างชัดเจน ว่างานเลี้ยงชานั้นของอ๋องอวี้ชิน ตอนนี้ยังไม่มีการยกเลิกแต่อย่างใดไม่ใช่แค่ไม่มี อุทยานหลิ่วพ่านทางนั้นยังเตรียมการสำหรับงานเลี้ยงชานี้อยู่ตลอดอีกด้วยหลังจากจั๋วซือหรานได้ยิน ดวงตาก็หรี่ลงเล็กน้อย เอ่ยขึ้นเสียงเรียบ “น่าจะเพราะท่านอ๋องคนนี้ยังมีแผนสำรอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 580

    ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังกังวลกับเรื่องที่ทั้งสามตระกูลเริ่มหันมาเพ่งเล็งนางอยู่เลย ทั้งที่ก่อนหน้านี้กระแสภายนอกยังไม่เอื้อกับนางแท้ๆแต่เวลาแค่วันเดียวเท่านั้น กระแสภายนอกที่ทำให้คนกังวลก่อนหน้าก็พลิกกลับอย่างสิ้นเชิงแต่ก็เหมือนกับประโยคนั้นพูดเอาไว้ สิ่งที่คนอื่นเห็นล้วนเป็นว่านางบินได้สูงแค่ไหน แต่ว่าเซี่ยอวิ๋นเหนียงในฐานะที่เป็นแม่ สิ่งที่เห็นก็คือลูกสาวบินได้เหนื่อยหรือไม่เซี่ยอวิ๋นเหนียงถาม “หรานหราน เจ้าเหนื่อยมาทั้งวันแล้วกระมัง?”“ยังไหว ไมได้เหนื่อยมาก” จั๋วซือหรานยิ้มๆ รู้ว่าท่านแม่เป็นห่วง เพื่อให้แม่ของนางวางใจจึงเอ่ยต่อว่า “ตอนที่ตระกูลเหยียนชื่อเสียงสูงสุด ก็ยังดึงข้าลงมาไม่ได้ ตอนนี้แน่นอนว่าทำไม่ได้อยู่แล้ว”เซี่ยอวิ๋นเหนียงเอ่ยขึ้นอย่างตั้งใจ “หรานหราน แม่ตัดสินใจว่าพรุ่งนี้จะไปแล้ว เจ้าคิดว่าเป็นอย่างไร?”จั๋วซือหรานมองตาของเซี่ยอวิ๋นเหนียง ตามเหตุผลแล้วตนเองกับเซี่ยอวิ๋นเหนียงไม่ใช่แม่ลูกแท้ๆ ไม่ควรจะมีหลักการที่ว่าแม่รู้จักลูกสาวดีที่สุดแต่ก็อดพูดไม่ได้จริงๆ เซี่ยอวิ๋นเหนียงพอพูดคำพูดนี้ออกมา จั๋วซือหรานก็ยังรู้สึกขึ้นจริงๆ ว่าบางทีอาจจะมีอยู่นิดหน่อยเพราะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 736

    "เดิมทีข้าแค่คิดจะจับเจ้าเป็นๆ พากลับไปสอบสวนเสียหน่อย ว่าเจ้าไปรเียนรู้ทักษะภาษาสัตว์ที่แทบจะสาปสูญไปแล้วของตระกูลซางมาได้อย่างไร" ซางเชวี่ยน้ำเสียงเย็นชาลงไปอีกจั๋วซือหรานมองนาง มุมปากยกขึ้นจนเป็นร้อยยิ้มจางๆ ไม่มีความอบอุ่นใดๆ กระทั่งไม่มีอารมณ์ใดอีกด้วยราวกับไม่ว่าซางเชวี่ยกับคนตระกูลซางพวกนี้จะพูดอะไรหรือทำอะไร ก็ไม่อาจส่งผลอะไรกับใจนางได้เลยจั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น "คนที่บีบเค้นถามข้า บอกว่าข้าแอบเรียนวิชาแพทย์ของตระกูลพวกเขา ตอนนี้ยังนอนอยู่ในบ้าน บางครั้งก็อั้นฉี่ไม่ไหวอยู่เลย "จั๋วซือหรานมองดวงตาซางเชวี่ย "เจ้าอยากจะลองไหม?"ซางเชวี่ยหัวเราะเย็นชา "ข้ายังพูดไม่จบเลยนะ ข้าเดิมทีคิดจะจับเจ้าเป็นๆ แต่ตอนนี้ ข้าเปลี่ยนความคิดแล้ว คนอย่างเจ้า เป็นตัวแปรที่ไม่สามารถควบคุมได้ ไม่รู้ว่าจะเอาความยุ่งยากหรือการเปลี่ยนแปลงมามากแค่ไหน ตายๆ ไปเสียดีกว่า คนตายไปคือปลอดภัยที่สุด ไม่ว่าสำหรับใครก็เป็นเช่นนี้"เสียงเพิ่งหยุดลง ข้อมือของซางเชวี่ยก็สั่นไหวอย่างรุนแรงแสงเงินสายหนึ่ง รวดเร็วมาก! แล่นตรงเข้ามาทางจั๋วซือหรานจั๋วซือหรานหรี่ตาลงเล็กน้อย ยื่นมือออกทันทีแต่นางยังไม่ทันยื่นมือ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 735

    "นี่มัน...ไหมกู่?" ซางถิงอยู่ใกล้ๆ จั๋วซือหราน ดังนั้นจึงเห็นเส้นใยเหล่านี้ยิงออกมาจากมือนางและเพราะสามารถมองเห็นได้ชัด ดังนั้นซางถิงจึงมองออกรางๆ ว่าเส้นใยแต่ละเส้นเหล่านี้ กลับไม่เหมือนตาข่ายใยแมงมุมอะไรแต่คล้ายกับ...ไหมกู่ไหมกู่ที่แมลงกู่พ่นออกมาหญิงสาวคนนี้...ใช้วิชากู่ได้ด้วย!ซางถิงก่อนหน้านี้รู้สึกแค่ว่า จั๋วซือหรานถึงแม้จะเก่งกาจ แต่ว่าตนเองก็ออมมือไปบนเวทีด้วยไม่ได้ใช้วิญญาณเลือดอสูรออกมาด้วยซ้ำแต่ตอนนี้ดูแล้ว จั๋วซือหรานที่อยู่บนเวทีเองก็เหมือนจะออมมืออยู่ไม่น้อยเลย ทั้งสองฝ่ายต่างออมมือจนสู้ออกมาเป็นแบบนั้นคนของโถงตัดหัวตระกูลซาง เห็นได้ชัดว่าคิดไม่ถึงเหมือนกัน ว่าจั๋วซือหรานจะใช้วิชากู่ได้ด้วย!หญิงสาวคนนี้! คิด! จะทำอะไรกันแน่!วิชาแพทย์ วิชาสกัดยา วิชายุทธ์ ตอนนี้วิชาควบคุมสัตว์กับวิชากู่ก็ยัง...!คนของโถงตัดหัวล้วนมองนางอย่างระแวดระวัง หลังจากกันไหมกู่ของนางออกไปแล้ว ก็ยังไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามแต่ก็มีอยู่สองสามคนที่ไม่ระวังถูกไหมกู่ของนางเปื้อนเข้าไป ล้วนล้มลงพื้นครวญครางเจ็บปวดขึ้นมาสายตาซางเชวี่ยก็จับจ้องที่จั๋วซือหรานเช่นกัน "วิชากู่เจ้าก็เป็นด้วย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 734

    "แต่จากที่ข้ารู้ แมลงพิษที่ใช้เป็นกู่มาหลอมได้...แมงมุมเองก็ถือเป็นหนึ่งในนั้น" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นพอจั๋วซือหรานพูดคำนี้ คนของโถงตัดหัว สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันทีจั๋วซือหรานยิ้มๆ "เล่นกู่หรือ? ช่วงนี้ข้าก็สนใจกับการเล่นกู่เหมือนกัน ดังนั้น ตาข่ายของพวกเจ้า ฉันเลยทดสอบไปแล้ว ตอนนี้ตาข้าแล้วกระมัง?"ตอนที่จั๋วซือหรานพูดคำนี้ ซางถิงก็ตกตะลึงไปเขารู้สึกว่าคำพูดนี้ดูคุ้นหู ตอนอยู่บนเวที จั๋วซือหรานก็พูดแบบนี้กับเขาเหมือนกันและหลังจากที่นางพูดคำนี้ ก็โต้กลับอย่างรุนแรงใส่เขาทันทีตอนนี้ นางพูดแบบนี้ออกมาอีกครั้งไม่รู้เพราะอะไร ซางถิงรู้สึกว่า น่าจะเป็นความรู้สึกคล้ายๆ กับก่อนหน้านี้กระมังคนอย่างจั๋วซือหราน ตอนที่เป็นคู่ต่อสู้ของนาง คงรู้สึกตำมือเป็นอย่างมาก มาเจอคนแบบนี้ เหมือนเจอกับเข็มแหลมรอบด้านจริงๆไม่ว่าจะสัมผัสจากมุมไหน ก็ล้วนทิ่มแทงมือทั้งสิ้น!แต่ตอนที่ไม่ได้เป็นคู่ต่อสู้กับนาง แล้วมาเป็นสหายร่วมรบที่มีเป้าหมายเดียวกันก็เหมือนจะรู้สึกว่าวางใจได้อย่างประหลาดเลยทีเดียวตอนที่ได้ยินนางพูดเช่นนี้ ก็เหมือนจะไม่มีอะไรให้สับสนแล้วซางเชวี่ยหัวเราะเย็นชาขึ้นมาในกลุ่มโถงตัดหั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 733

    "มันต้องไม่ปกติอยู่แล้ว! นั่นมันวิชาลับสืบทอดของโถงตัดหัว" ซางถิงเอ่ยขึ้น "ตาข่ายแมงมุมของพวกเขาล้วนหลอมขึ้นมา ก็เพราะเอาไว้ควบคุมฝ่ายตรงข้าม""ในเมื่อควบคุมจั๋วซือหรานได้แล้ว" ผู้หญิงเสียงเย็นชานั่นเอ่ยขึ้นมา "ก็เก็บซางถิงเสีย ข้าเห็นตอนที่เขาสู้กับจั๋วซือหรานบนเวที สู้จนหมดเรี่ยวหมดแรงแล้ว ยังไม่รู้ว่าจับแอบเก็บไพ่ตายอะไรที่ไม่อยากให้ใครเห็นไว้หรือเปล่า? ดูแล้วประหลาดๆ"ซางถิงพอได้ยินเนื้อหาคำพูดของซางเชวี่ย สีตาก็เปลี่ยนไปเขากำกำปั้นแน่น เขาซ่อนไพ่ตายความสามารถที่ไม่อยากให้คนอื่นรู้ไว้จริง เขาสามารถเปิดช่องพลังได้แต่ไม่เหมือนกับเปิดช่องพลังทั่วไป เขาไม่เพียงแต่สามารถเปิดช่องพลัง ยกระดับความสามารถตนเองขึ้นชั่วคราว ยิ่งไปกว่านั้น ยังไม่รู้สึกอ่อนล้าหลังจากที่ใช้พลังเกินตัวอีกด้วยเพราะการเปิดช่องพลังของเขา ไม่ได้เกิดจากใช้พลังงานของตนเองจนหมดแล้วดูดซับพลังวิญญาณฟ้าดินการเปิดช่องพลังของเขา คือใช้พละกำลังของสัตว์ที่ควบคุม ไม้ตายนี้เรียกว่า...วิญญาณเลือดอสูรไขาไม่เพียงแต่สามารถใช้พลังของสัตว์ที่ควบคุมได้ แต่ยังใช้พลังวิญญาณของสัตว์ควบคุมได้ในบางระดับด้วย กระทั่ง ยังสามารถทำให้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 732

    เขาสัมผัสได้ว่าบนบาดแผลทั้งสองที่ถูกดาบของนางแทงไว้ จนทำให้หินต้องห้ามยังแตกก่อนหน้านี้เวลานี้มันคันยุบยิบ ราวกัยว่า...กำลังผสานอย่างรวดเร็วจั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นเสียงต่ำ "รักษาให้เจ้าก่อน อีกเดี๋ยวถ้าสู้ขึ้นมา จะได้ไม่ขี้เกียจ"ซางถิงเกือบจะโมโหจนหัวเราะขึ้นมายังไม่ทันที่เขาจะได้พูด ในกลุ่มคนเหล่านั้นที่ล้อมเข้ามา ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น"จั๋วซือหราน เจ้าสังหารลูกหลานตระกูลข้าไป แอบเรียนวิชาลับตระกูลข้า โทษนี้สมควรตาย แต่เห็นแก่ว่าเจ้าไม่ใช่คนในตระกูลเรา ไม่เข้าใจกฏเกณฑ์ของตระกูล จะไว้ชีวิตเจ้า แล้วจะพาเจ้ากลับไปช่วยอธิบายให้หน่อย ว่าไปร่ำเรียนวิชาลับตระกูลเรามาจากที่ไหน"จั๋วซือหรานพอได้ยินเนื้อหานี้ "เข้ามาเพราะความสามารถข้าจริงๆ ด้วย"ซางถิงหัวเราะเฮอะขึ้นมา เอ่ยเสียงต่ำกับจั๋วซือหรานว่า " ข้าก็บอกว่าแล้วไม่ได้มาหาข้า ในเมื่อมันไม่เกี่ยวกับข้า ข้าไปได้แล้วใช่ไหม?"จั๋วซือหรานหัวเราะเหอะๆ " อย่าสิ ข้ารักษาให้เจ้าแล้วนะ รับแล้วก็ตอบแทนกันหน่อยมันเป็นมารยาท"ซางถิงกัดฟัน "แล้วทำไมเจ้าไม่พูดเสียหน่อยว่าบาดแผลพวกนั้นมันมายังไง..."ตอนนี้เอง เสียง 'คาดโทษ' จั๋วซือหรานก่อนหน้านี้ก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 731

    เพราะเวลาค่อนข้างดึกแล้ว กระทั่งสนามประลองทางนี้ก็ยังเงียบสงบ ดังนั้นที่นี่ต่อให้สู้กันขึ้นมาตอนนี้ ก็ไม่ได้ดึงดูดสายตาใครยิ่งไปกว่านั้น ตลาดมืดก็มีกฏของตลาดมืด คนของตลาดมืดก็มีวิถีการดำรงชีวิตของตนเองเช่นกันในนี้กฏที่ใช้ได้ทั่วไปข้อหนึ่งคือ...อย่ายุ่งเรื่องชาวบ้านดังนั้นพวกเขาต่อให้ตายกันที่นี่ ก็น่าจะไม่ส่งผลกระทบอะไรมากนักตลาดมืดฝังศพเอาไว้แทบทุกที่ นี่คือที่มาของคำพูดนี้ดังนั้นในกลุ่มคนเหล่านี้ หลังจากเข้ามาล้อมซางถิงกับจั๋วซือหรานแล้ว เดิมทีรอบๆ ก็ยังมีคนอยู่อีกส่วนหนึ่งดูจากท่าทางแล้วไม่ธรรมดาเลย ทยอยกันกระจายตัวออกเหมือนสัตว์ ตอนนี้ที่นี่จึงสงบมาก...แทบไม่มีคนเลยคืนเดือนมืดลมพัดแรง ค่ำคืนแห่งการสังหารดูจากเสื้อผ้าคนเหล่านี้ อันที่จริงยังมองไม่ออกถึงตัวตนฐานะแท้จริงของพวกเขาแตว่า ขอแค่คนรู้จริงเรื่องกลุ่มอย่างซางถิง ก็จะมองออกถึงกลุ่มได้อย่างรวดเร็วซางถิงมองกลุ่มออกจากเครื่องมือควบคุมสัตว์ของพวกเขาอย่างรวดเร็วซางถิงเอียงหน้าเล็กน้อย บอกกับจั๋วซือหรานด้านหลังว่า "ระวังด้วย คนพวกนี้ ทั้งหมดเป็นคนของโถงตัดหัวตระกูลซาง"โถงตัดหัว?" จั๋วซือรหานฟังคำนี้แล้วก็เอ่ย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 730

    แต่ยังไม่ทันได้แตะไหล่ของจั๋วซือหราน นางก็มีปฏิกิริยากลับมาอย่างรวดเร็ว“เจ้า” จั๋วซือหรานเห็นหน้าคนด้านหลังอย่างชัดเจนผมสีขาวรุงรังกับดวงตาสีฟ้าทึมที่เป็นเอกลักษณ์ แสดงชัดถึงตัวตนฐานะของเขา นี่คือคู่มือที่ประลองกับนางบนเวทีเมื่อครู่นี้นั่นเองดวงตาสีฟ้าทึมของเขาจ้องมองจั๋วซือหราน “ข้ายังคิดว่าเจ้าไปแล้วเสียอีก ทำไม? กำลังรอข้าหรือ?”จั๋วซือหรานมองเขา “เจ้านี่...มั่นใจในตัวเองเสียจริงนะ”“ใช่สิ” รอยยิ้มในดวงตาสีฟ้าทึมของเขายิ่งเพิ่มมากขึ้น “ข้ากับเจ้ามันคนประเภทเดียวกัน เป็นพวกที่มั่นใจในตนเองแบบนั้น”จั๋วซือหรานหัวเราะ จากนั้นจึงเห็นแขนที่ห้อยอยู่ข้างตัวเขา ยังมีเลือดสดไหลอาบลงมา กลิ่นคาวเลือดบนตัวเขายังไม่หายไป“เจ้าน่าจะรักษาแผลก่อนแล้วค่อยมาพูดจาคุยโตนะ” จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น“เรื่องเล็กน่า” ซางถิงเอ่ยตอบจั๋วซือหรานคิดๆ เอ่ยขึ้นว่า “เมื่อครู่เจ้าออมมือไว้ ไม่งั้นคงไม่เจ็บขนาดนี้”“ใช่เลย ข้าออมมือไว้ ก็เลยลดความยุ่งยากลงไปได้พอควร” ซางถิงตอบจั๋วซือหรานยิ้ม “อินเจ๋ออันไม่ใช่ความยุ่งยากหรือ?”“เขา? เขาจะไปยุ่งยากอะไร...” ซางถิงดูไม่ใส่ใจกับเรื่องนี้ เอ่ยต่อว่า “ข้าออมมือ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 729

    ได้ยินคำนี้ ฮั่วจือโจวยกมุมปากขึ้น “คุณหนูเฟิงสือ เจ้าคิดมากเกินไปแล้ว ข้าก็แค่อยากร่วมมือกับแม่นางจิ่วเท่านั้น”เฟิงหร่านมองเขา แม้บนปากจะไม่คัดค้าน แต่ในใจก็แอบคิด นั่นก็เพราะเจ้ายังสัมผัสไม่ได้ถึงเสน่ห์ของพี่หญิงจั๋วเท่านั้นส่วนเจี่ยงเทียนซิงที่อยู่ข้างๆ พอได้ยินคำพูดของเฟิงหร่าน ก็ไม่ได้ส่งเสียงอะไร เพียงแต่รอยยิ้มในดวงตาค่อยลดลงมาเท่านั้นครู่ต่อมา จึงเอ่ยเสียงต่ำขึ้นว่า “แต่ว่าตระกูลเฟิงของพวกเจ้า ไม่ใช่ว่าดูถูกซือหรานหรอกหรือ เพราะอะไรกัน? พวกเจ้าเห็นสิ่งนี้เป็นของไร้ค่า แต่ก็ไม่ยอมให้คนอื่นได้ครอบครองหรือ? ใหญ่โตเสียจริง”สำหรับคำพูดของเจี่ยงเทียนซิง เฟิงหรานกระทั่งโต้แย้งก็ยังแย้งออกมาไม่ได้นางริมฝีปากสั่นระริก ครึ่งมาจึงบอกว่า “สรุปคือ หลังจากนี้จะมีวิธีเอง”ฝูซูมองจากข้างๆ เขารู้แน่นอนว่าคุณหนูของตนเองยอดเยี่ยมแค่ไหนทำให้คนหลงใหลได้แค่ไหนและก็รู้ว่าคุณหนูเฟิงสือถูกคุณหนูทำให้หลงไปแล้ว การที่พูดแบบนี้ออกมาก็ไม่ได้ผิดอะไรแต่ปฏิกิริยาของเจี่ยงเทียนซิงนี่ กลับทำให้ฝูซูอดเหลือบมองเขาขึ้นมากหน่อยไม่ได้ในใจฝูซูก่อนหน้านี้ก็รู้สึกว่าเจี่ยงเทียนซิงคนนี้เหมือนจะ...รู้สึก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 728

    “นี่ฝูซูกับเฮยหลิงยังไว้หน้าพวกเจ้าอยู่นะ ถึงยังไม่จับตะเกียบ ไม่อย่างนั้นพวกเจ้าแค่น้ำแกงก็ไม่ได้ชิมด้วยซ้ำ” เจี่ยงเทียนซิงวางตะเกียบลงหัวเราะฮั่วจือโจวไม่อยากเชื่อ ถามขึ้นว่า “นี่คือของที่แม่นางจั๋วจิ่วทำหรือ? จริงหรือเปล่า?”“เป็นของที่คุณหนูข้าทำเอง” ฝูซูพยักหน้าอินเจ๋ออันมองเขา ถามขึ้นว่า “คุณชายฮั่ว ยอมรับแล้วหรือยัง?”ฮั่วจือโจวถอนหายใจเบาๆ พยักหน้าเจี่ยงเทียนซิงเห็นท่าทางแขกยึดครองตำแหน่งเจ้าภาพของอินเจ๋ออันแล้วก็หัวเราะพรวดขึ้นมา “เปาน้อย เจ้าเองก็ไว้หน้าตัวเองหน่อยดีไหม คำพูดนี้ข้าต่างหากที่ควรถาม? เจ้าน่ะยอมรับแล้วหรือยัง?”“ถ้าข้าไม่ยอมรับ แล้วข้าจะเอาเงินมาให้พวกเจ้าด้วยตัวเองทำไมกัน?!” อินเจ๋ออันจ้องอย่างมาดร้ายไปทางเจี่ยงเทียนซิงตัวเขาเองอาจจะไม่ทันสังเกต ว่าตนเองกระทั่งลืมไปแล้วว่าต่อต้านชื่อเรีย ‘เปาน้อย’ อยู่เฟิงหร่านนั่งอยู่ข้างๆ ไม่พูดอะไรมาตลอด สนใจแค่การกินอาหารบนโต๊ะอย่างรวดเร็วราวพายุดูดเท่านั้นนางกินไปด้วย พิจารณาชายหนุ่มสามคนนี้ไปด้วยในใจจู่ๆ ก็เกิดความรู้สึกวิตกกังวลขึ้นมาเฟิงหร่านเกิดวิตกกังวลขึ้นมาแทนพี่ชายตนเอง นางชื่นชมในใจ พี่หญิงจั๋วน

DMCA.com Protection Status