Share

บทที่ 573

Author: หูเทียนเสี่ยว
ความหยิ่งทะนงในใจซือคงเจาหมิ่น ทำให้นางไม่ยอมแพ้จั๋วซือหราน ตนเองแค่แพ้ไปครั้งเดียวเท่านั้น วันข้างหน้ายังอีกยาวไกล

เพียงแต่ นี่ถือเป็นการไม่ยอมแพ้ต่อจั๋วซือหรานของตัวนาง และไม่ใช่ว่าไม่ยอมรับ จั๋วซือหรานนั้นเป็นคนที่มีฝีมืออยู่

อย่างน้อยในกลุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันในเมืองหลวง ก็แทบจะหาหญิงสาวแบบนางไม่ได้เลย

แล้วซือคงอวี้ล่ะ?

ซือคงเจาหมิ่นมองคนโง่ที่คิดว่าตัวเองฉลาดตรงหน้านี้ ในใจก็หัวเราะเย็นชา รอยยิ้มบนหน้ากลับไม่เปลี่ยนแปลงใดเลย

ซือคงเจาหมิ่นรู้สึกแย่กับเจ้าโง่ตรงหน้านี้มานานแล้ว

เดิมทีนางได้รับคำสั่ง ว่าสามารถถอนตัวออกจากแคว้นชางได้

แต่นางเดิมทีคิดว่าก่อนจะออกไปจะเล่นงานจั๋วซือหรานอีกสักที หลายปีนี้ในเมืองหลวงแคว้นชาง กว่าจะได้มาเจอคู่มือ แต่ดันมาแพ้ไปเสียแล้ว

นางเองก็ไม่คิดที่จะให้จั๋วซือหรานต้องลำบาก ดังนั้นจึงเข้ามาหาซือคงอวี้โดยเฉพาะ

“เจาหมินความสามารถไม่เพียงพอเอง เสด็จพี่อย่าทรงกริ้วเลย” สีหน้าของซือคงเจาหมิ่นยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

ซือคงอวี้ร้องเชอะเย็นชาขึ้นมา แต่คำพูดเมื่อครู่ของเจาหมิ่น ก็พูดตรงใจเขาพอดี

คนแบบเขา อวดดีทะนงตน ยิ่งทำให้เชื่องได้ยาก ในสายตาเขาก็ยิ่งรู้
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 574

    ซือคงเจาหมิ่นเอ่ยขึ้นอย่างยอมรับและเต็มใจ “เพคะ เสด็จพี่วางใจเถอะ ก็แค่ของบางอย่างใช้หมดไปแล้ว จำเป็นต้องไปเอามาจากชายแดนใต้ อย่างพวกกู่พวกยาอะไรพวกนี้ ถ้าเอามาทำประโยชน์ให้เสด็จพี่ได้ เจาหมิ่นไปจัดการเองยังวางใจได้มากกว่า”ซือคงอวี้แม้จะไม่ค่อยรู้สึกดีนักกับน้องสาวต่างสายเลือดคนนี้ แต่ก็อดพูดไม่ได้ ว่าคำพูดของนางมันน่าฟังจริงๆซือคงเจาหมิ่นตอนนี้จึงออกจากเมืองหลวง......จั๋วซือหรานหลังออกจากค่ายป้องกันกลับมายังเมืองหลวง ก็ไม่ได้แวะไปที่หน่วยสืบสวนพิเศษทันทีสำหรับสถานการณ์เหล่านี้ในเมืองหลวงปัจจุบัน หน่วยสืบสวนพิเศษจึงเป็นเหมือนพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ ถ้าหากอยากจะได้ความเงียบสงบหน่อย ไม่ที่หน่วนสืบสวนพิเสษรับรองไม่มีปัญหาแต่จั๋วซือหรานก็ยังตรงไปที่ตลาดมืดเสียรอบหนึ่งตอนที่นางไปถึงตลาดมืด การเผชิญหน้ากับตระกูลเหยียนก็ถือว่าจบไปแล้วพอเห็นจั๋วซือหรานเข้ามา ในดวงตาเจ้าสำนักหอฟ้าดาวก็เหมือนมีความอบอุ่นและรอยยิ้มขึ้นมาอย่างหาได้ยาก“คุณหนูจิ่ว”“เจ้าสำนัก”“คุณหนูจิ่วเหนื่อยมาทั้งวัน ยังไม่กลับไปพักผ่อนอีกหรือ?” เจ้าสำนักหอฟ้าดาวถามขึ้นจั๋วซือหรานยิ้มตาโค้ง “ทำไมหรือ เจ้าสำนักม

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 575

    “เจ้าบอกว่าใครนะ?” จั๋วซือหรานมีสีหน้าประหลาดเผยออกมา นางเหลือบมองไปยังอิ๋นไห่ที่รายงานอยู่หน้าประตู ในดวงตาของเจี่ยงเทียนซิงเองก็ประหลาดใจหน่อยๆ เห็นได้ชัดว่ารู้สึกไม่อยากเชื่อเล็กๆ กับความยุ่งยากที่มาหาแบบกะทันหันนี้“เจ้าสำนักจันทร์เงิน” อิ๋นไห่เอ่ยตอบจั๋วซือหรานชี้ไปที่ตนเอง “มาหาข้าหรือ?”“ใช่แล้ว น่าจะเพราะรู้ว่าท่านมายังหอฟ้าดาว จึงเข้ามาขอพบ” อิ๋นไห่พยักหน้าจั๋วซือหรานขมวดคิ้วเจี่ยงเทียนซิงเองก็ขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าไม่เข้าใจเอาเสียเลย “เขามาทำอะไรกัน...”ส่วนจั๋วซือหรานก็เอ่ยขึ้นเสียงเรียบว่า “มาแก้แค้นกระมัง วันนั้นตอนอยู่ที่ลานทดสอบ ข้าก็ไม่เกรงใจเขาเลย”จั๋วซือหรานเอียงตามองเจี่ยงเทียนซิง “ต่อให้ไม่ได้มาล้างแค้น ก็น่าจะมาหาเรื่องข้านั่นล่ะ...”เจี่ยงเทียนซิงนิ่งงันครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง กลอกตามองไปทางจั๋วซือหราน “ถ้าเจ้าไม่อยากพบ ข้าให้อิ๋นไห่พาเจ้าออกไปทางประตูหลังได้นะ อินเจ๋ออันทางนี้ให้ข้ารับมือก็พอ”อันที่จริงจั๋วซือหรานก็กลัวความยุ่งยากหน่อยๆ หลักๆ คือ เรื่องยุ่งยากมากเกินไปแล้วแต่พอคิดๆ ชีวิตคนเราเดิมทีก็มีความยุ่งยากที่ต้องไล่แก้ไปทีละเรื่องๆ อยู่แล้ว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 576

    อินเจ๋ออันเอ่ยขึ้นว่า “สวัสดีคุณหนูจิ่ว ได้ยินชื่อเสียงมานานแล้ว”จั๋วซือหรานมองเขาผาดหนึ่ง ดวงตาก็โค้งเป็นเส้นขึ้นมานางเอ่ยเสียงเรียบ “เจ้าสำนักจันทร์เงินครั้งที่แล้วตอนที่ทำลายหน้ากากข้า ข้าไม่ได้ยินดีที่จะพบอะไรทั้งนั้น”สีหน้าอินเจ๋ออันชะงักไป จากนั้นจึงเอ่ยว่า “ตอนนั้นคิดไม่ถึงว่าจะเป็นคุณหนูจิ่ว”“ต่อมาพอรู้แล้ว ตอนนี้เจ้าสำนักคิดจะทำอย่างไรล่ะ?” จั๋วซือหรานถามขึ้น “ถึงอย่างไรเจ้าสำนักก็มาที่นี่เองแล้ว คงไม่ใช่แค่มาพบหน้าข้ากระมัง?”อินเจ๋ออันชะงักไปครู่หนึ่ง จึงทอดสายตามองไปทางเจี่ยงเทียนซิง “เรื่องประลองกับเฮยหลิงครั้งที่แล้ว มีคนยื่นขอให้ไกล่เกลี่ยการตัดสิน”จั๋วซือหรานเห็นเจี่ยงเทียนซิงหลังจากได้ยินคำพูดนี้ของอินเจ๋ออัน สีหน้าก็ขรึมลงไปทันทีดูท่าคำว่า ‘ไกล่เกลี่ยการตัดสิน’ ของอินเจ๋ออันน่าจะไม่ธรรมดาหลังจากเจี่ยงเทียนซิงเงียบไปครู่หนึ่ง ก็หัวเราะเย็นชาขึ้นมา “นานมาแล้ว สามหอไม่มีใครก้าวก่ายกันและกัน ใครก็ล้วนยื่นขอไกล่เกลี่ยการตัดสินกันทั้งนั้น แต่มีสักกี่ครั้งที่เป็นเรื่องจริง”พอเผชิญหน้ากับรอยยิ้มเย็นชาของเจี่ยงเทียนซิง สีหน้าอินเจ๋ออันไม่เปลี่ยนไป เอ่ยต่อมาว่า

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 577

    อินเจ๋ออันพูดถึงจุดนี้แล้วชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงมองนิ่งๆ ไปทางจั๋วซือหรานสายตาอินเจ๋ออันดูตั้งใจมาก ทำเอาเจี่ยงเทียนซิงอดขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้ พอเจี่ยงเทียนซิงกำลังจะอ้าปากพูดยังไม่ทันจะได้เอ่ยปาก ก็ได้ยินเสียงจั๋วซือหรานหัวเราะขึ้นมาเสียงหัวเราะของนางฟังออกถึงความผ่อนคลายผิดปกติ เหมือนกับได้ยินเรื่องน่าสนใจที่พิเศษอะไรแบบนั้นเจี่ยงเทียนซิงพอเข้าใจตัวจั๋วซือหรานอยู่บ้าง ดังนั้นจึงรู้นิสัยนางดี และตอนที่ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ของนางเจี่ยงเทียนซิงที่เดิมทีเตรียมจะพูด ก็ข่มเอาไว้แล้วจั๋วซือหรานแหงนตาเหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้มมองไปยังดวงตาของอินเจ๋ออัน ถามขึ้นว่า “โอ๋? ถ้าหากข้าแพ้ เจ้าสำนักอินจะทำอย่างไรล่ะ?”อินเจ๋ออันพอเห็นสายตาของนาง อันที่จริงก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจแล้วไม่ใช่เพราะเรื่องอื่น เพราะบนเวทีเมื่อครั้งที่แล้ว เขาเคยสัมผัสกับอารมณ์ของนางมาก่อนแต่อินเจ๋ออันก็คิดๆ ตนเองอันที่จริงก็ไม่ใช่ว่าเพ่งเล็งนางเสียหน่อย จึงพูดขึ้นมาว่า“หากเจ้าแพ้ ก็จะพิสูจน์ว่าครั้งนั้นเจ้าสู้กันหลอกๆ เช่นนั้นถ้าว่าตามการไกล่เกลี่ยนตัดสินใหม่ การประลองกับเฮยหลิงในครั้งนั้น ผลประโยชน์ที่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 578

    อินเจ๋ออัน: “...” หลักฐานหลักฐานหลักฐาน! หลักฐานอีกแล้ว! นางเป็นกรมสอบสวนคดีอาญาหรือไรกัน! ที่นี่ไม่ใช่โถงพิพากษาของกรมสอบสวนคดีอาญาเสียหน่อย! ยังจะมาเอาหลักฐานอะไรอีก!อินเจ๋ออันสูดลมหายใจลึก จึงพยายามข่มอารมณ์ในใจที่ถูกหญิงสาวคนนี้กระตุ้นขึ้นอย่างง่ายดายและรู้สึกได้เลยว่าทำไมสามตระกูลใหญ่นั้นถึงได้เกลียดนางจนเข็ดฟัน แต่กลับต้องมาปวดหัวอย่างมากเพราะนาง!เสียงของอินเจ๋ออันแทบจะลอดออกมาจากร่องฟันแล้ว “เช่นนั้นเจ้าต้องการอะไรล่ะ?”จั๋วซือหรานพอได้ยินคำพูดนี้ของอินเจ๋ออัน สองมือที่เดิมทีกอดอกตลอดในที่สุดก็ปล่อยลงมาแล้วในตานางเปล่งประกาย อินเจ๋อหรานตอนที่มองเห็นสายตานี้ ก็มีความรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาแบบไม่มีสาเหตุ แต่กลับไม่รู้ว่าตรงไหนที่ไม่สบายใจส่วนเจี่ยงเทียนซิง เขาจำสายตานี้ของจั๋วซือหรานได้ สายตานี้ของนางเป็นตัวแทนว่านางวางแผนทำร้ายผู้อื่นแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นยังมีแผนรับมือแล้วด้วยอดพูดไม่ได้จริงๆ จากมุมที่ถูกนางวางแผนใส่ก็คงรู้สึกแย่เอามากๆ แต่ตอนนี้พอมาเป็นสหายกับนาง แล้วเห็นสายตาของนางเช่นนี้อีกครั้ง ก็รู้สึกเหมือน...แอบคาดหวังอยู่หน่อยๆ เหมือนกันจั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นว่า “

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 579

    เจี่ยงเทียนซิงจึงไม่พูดเรื่องนี้อีก แต่หันไปพูดเรื่องอื่นแทน“ยังมีงานเลี้ยงชานั่นอีก” เจี่ยงเทียนซิงเอ่ยขึ้น “งานเลี้ยงชาของอ๋องอวี้ชิน ข้าเองก็ยังรู้สึกว่าไม่ค่อยสบายใจเลย”“อื๋อ? ” จั๋วซือหรานฟังถึงตรงนี้ แหงนตามองเขาเจี่ยงเทียนซิงเอ่ยขึ้น “ถ้าหากก่อนหน้านี้ที่เมืองหลวงถูกก่อกวนจนวุ่นวายไปหมด เป็นการเคลื่อนไหวที่อ๋องอวี้ชินทำขึ้นมาเพื่อแย่งชิงบัลลังก์ การเคลื่อนไหวเหล่านี้ในปัจจุบัน ก็คงจะถูกเขาข่มเอาไว้หมดแล้ว”“ถ้าอย่างนั้นเขาก็ไม่ควรรีบจัดงานเลี้ยงชาขึ้นต่ออีกจึงจะถูก พอหมดความสามารถไปก็ควรจะเก็บเนื้อเก็บตัวให้เรียบร้อยถึงจะถูก แต่ตอนนี้เขากลับไม่มีความคิดที่จะยกเลิกงานเลี้ยงชานั่นเลยแม้แต่น้อย ทำเอาคนรู้สึกไม่สบายใจขึ้นหน่อยๆ” เจี่ยงเทียนซิงขมวดคิ้วด้วยช่องทางข้อมูลของหอฟ้าดาวถือว่าใช้ได้อยู่ ดังนั้นจึงเข้าใจอย่างชัดเจน ว่างานเลี้ยงชานั้นของอ๋องอวี้ชิน ตอนนี้ยังไม่มีการยกเลิกแต่อย่างใดไม่ใช่แค่ไม่มี อุทยานหลิ่วพ่านทางนั้นยังเตรียมการสำหรับงานเลี้ยงชานี้อยู่ตลอดอีกด้วยหลังจากจั๋วซือหรานได้ยิน ดวงตาก็หรี่ลงเล็กน้อย เอ่ยขึ้นเสียงเรียบ “น่าจะเพราะท่านอ๋องคนนี้ยังมีแผนสำรอ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 580

    ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังกังวลกับเรื่องที่ทั้งสามตระกูลเริ่มหันมาเพ่งเล็งนางอยู่เลย ทั้งที่ก่อนหน้านี้กระแสภายนอกยังไม่เอื้อกับนางแท้ๆแต่เวลาแค่วันเดียวเท่านั้น กระแสภายนอกที่ทำให้คนกังวลก่อนหน้าก็พลิกกลับอย่างสิ้นเชิงแต่ก็เหมือนกับประโยคนั้นพูดเอาไว้ สิ่งที่คนอื่นเห็นล้วนเป็นว่านางบินได้สูงแค่ไหน แต่ว่าเซี่ยอวิ๋นเหนียงในฐานะที่เป็นแม่ สิ่งที่เห็นก็คือลูกสาวบินได้เหนื่อยหรือไม่เซี่ยอวิ๋นเหนียงถาม “หรานหราน เจ้าเหนื่อยมาทั้งวันแล้วกระมัง?”“ยังไหว ไมได้เหนื่อยมาก” จั๋วซือหรานยิ้มๆ รู้ว่าท่านแม่เป็นห่วง เพื่อให้แม่ของนางวางใจจึงเอ่ยต่อว่า “ตอนที่ตระกูลเหยียนชื่อเสียงสูงสุด ก็ยังดึงข้าลงมาไม่ได้ ตอนนี้แน่นอนว่าทำไม่ได้อยู่แล้ว”เซี่ยอวิ๋นเหนียงเอ่ยขึ้นอย่างตั้งใจ “หรานหราน แม่ตัดสินใจว่าพรุ่งนี้จะไปแล้ว เจ้าคิดว่าเป็นอย่างไร?”จั๋วซือหรานมองตาของเซี่ยอวิ๋นเหนียง ตามเหตุผลแล้วตนเองกับเซี่ยอวิ๋นเหนียงไม่ใช่แม่ลูกแท้ๆ ไม่ควรจะมีหลักการที่ว่าแม่รู้จักลูกสาวดีที่สุดแต่ก็อดพูดไม่ได้จริงๆ เซี่ยอวิ๋นเหนียงพอพูดคำพูดนี้ออกมา จั๋วซือหรานก็ยังรู้สึกขึ้นจริงๆ ว่าบางทีอาจจะมีอยู่นิดหน่อยเพราะ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 581

    จั๋วซือหรานในบ้างด้านก็เฉียบคมมาก แต่ในบางด้านกลับหัวช้าพอควรตอนนี้ความเศร้าสร้อยในเสียงของอ๋องเซี่ยน จั๋วซือหรานคิดว่าเขายังคงไม่สบายใจอยู่จนถึงตอนนี้ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตจึงเอ่ยขึ้นว่า “ท่านอ๋องถ้ารู้สึกค่ายป้องกันอยู่ไกลเกินไปล่ะก็ ค่ายลาดตระเวนก็ยังได้นะ สถานการณ์ของค่ายทหารล้วนมั่นคงอยู่ในการควบคุมแล้ว แม่ทัพทั้งสองคนก็เป็นคนที่มีคุณธรรม เชื่อว่าท่านอ๋องไม่ว่าจะไปทางไหน ก็ล้วนจะได้รับการปกป้องที่ดีแน่นอน”“ยิ่งไปกว่านั้นท่านอ๋องถ้าหากมีการเคลื่อนไหวอะไร ก็จะสะดวกขึ้นอีกหน่อย ถ้าอยู่แต่ในหน่วยสืบสวนพิเศษ มันก็ไม่ค่อยสะดวกเท่าไรนัก”ซือคงเซี่ยนมองดวงตาสุกใสของจั๋วซือหราน ฟังแล้วรู้สึกว่าเธอวางแผนเอาไว้ดีมากจึงตอบมาว่า “ขอบคุณมากแม่นางจิ่ว”“ท่านอ๋อง ไม่จำเป็นต้องเกรงใจ หากหลังจากนี้ร่างกายยังมีจุดที่ไม่สบาย ก็ให้คนเข้ามาบอกข้าได้” จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นซือคงเซี่ยนมองหญิงสาวตรงหน้าคนนี้ นางไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อย ถึงความรู้สึกที่ตนเองมีต่อนางหลังจากซือคงเซี่ยนกลับห้องไปชิ่งหมิงนั่งอยู่ตรงนั้น ดวงตาจ้องมาทางจั๋วซือหรานจั๋วซือหรานถูกสายตาบริสุทธิ์ของเขาจ้องจนรู้

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1265

    บางทีคงเป็นเพราะการคุยแบบเปิดอกก่อนหน้านี้ ทำให้ระยะทางขอเพื่อนสนิทสองคนที่เคยห่างไปตามกาลเวลา ย่อหดลงไปไม่น้อยเลยกระมังดังนั้นพอได้ยินปันอวิ๋นบอกว่าไม่ต้องขอบคุณ เฟิงเหยียนจึงเหลือบมองเขา น้ำเสียงเปลี่ยนไป "ก็ได้ เช่นนั้นก็ไม่ขอบคุณแล้วกัน"เฟิงเหยียนสั่งขึ้นมา "ไป ไปเอาสุรามาให้ข้าหน่อย"แม้จะพูดเช่นนี้ แต่ในเสียงกลับไม่ได้ออกคำสั่งอะไร ฟังแล้วเหมือนการใช้งานระหว่างเพื่อนกันมากกว่าปันอวิ๋นชะงักไปเล้กน้อย เพราะตอนพวกเขายังเด็ก ก็เคยใช้งานกันและกันแบบนี้ไป ไปเอาสุรามาหน่อยได้ งั้นเจ้าก็เอาปลาไปย่างซะข้าเห็นว่าเจ้าหน้าตาเหมือนปลาถ้าเจ้ายังพูดอีกรอบ จะโดนข้ากดจนจมถังสุราตายไปเลยเพราะคำพูดนี้ของเฟิงเหยียน ทั้งสองคนก็เหมือนกลับไปสมัยยังเด็กในชั่วพริบตาปันอวิ๋นยกมุมปากขึ้นบางๆ ลุกขึ้นไปให้คนรับใช้ส่งสุราเข้ามาคือสุราห้าพิษที่เขาจะหมักอยู่ทุกปี และใช้แมลงพิษมาหลอมจริงๆ แต่ตัวสุรากลับไม่มีพิษใดๆ กระทั่งยังหอมอบอวลเข้มข้นเป็นพิเศษ เป็นสุราที่หาได้ยากยิ่งและเป็นความลับที่ไม่เผยแพร่สู่ภายนอกของหุบเขาหมื่นพิษ ปกติมีแค่เจ้าหุบเขาที่รู้แต่ปันอวิ๋น หลังจากออกสำนักมา ก็ไม่ได้ด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1264

    จะเหมือนว่าตบหน้าใส่ตนเองอย่างแรง ทั้งที่เดิมทีก็อยู่บนโชคชะตาที่ขมขื่นอยู่แล้ว กระทั่งยังเป็นการตบหน้าตนเองในตอนนั้นอีกด้วยแบบนั้น...มันขมขื่นเกินไป พวกเขาเดิมทีก็ยากลำบากอยู่แล้วปันอวิ๋นนิ่งงันไปพักหนึ่ง อันที่จริงรู้สึกเหมือนไม่รู้จะเริ่มพูดจากตรงไหนดีอยู่หน่อยๆความเงียบงันดำเนินต่อไประยะหนึ่งยังคงเป็นเฟิงเหยียนที่เอ่ยเสียงต่ำขึ้นมาก่อน "ขอบคุณมาก"ปันอวิ๋นได้ยินคำนี้ ก็รู้สึกแปลกประหลาด อารมณ์เองก็ไม่ค่อยมั่นคงทั้งที่มั่นคงมาตลอดแท้ๆหลังผ่านไปพักหนึ่ง ปันอวิ๋นจึงเอ่ยตอบว่า "เรื่องเล็กน้อย"ตอนที่ได้ยินคำนี้ สายตาของเฟิงเหยียนก็เหมือนขยับนิดๆยังจำได้ว่า ตอนยังเด็กถ้าปันอวิ๋นช่วยเขาทำอะไร ขอแค่เขาขอบคุณ ปันอวิ๋นก็จะพูดคำว่า 'เรื่องเล็กน้อย' ออกมาเสมอต่อให้บางครั้ง จะไม่ใช่เรื่องเล็กเลยก็ตาม แต่ก็ยังทำให้เขารู้สึกว่า ไม่ต้องเกรงใจ ยังมีพี่น้องคนนี้ช่วยแบกอยู่เฟิงเหยียนหยุดไปครู่หนึ่ง เอ่ยเสียงเรียบขึ้นว่า "ก่อนหน้านี้ ข้าเจอกับหลงเฉินมา"พอได้ยินชื่อนี้ที่คุ้นเคย ม่านตาปันอวิ๋นก็หดลงเล็กน้อยเฟิงเหยียนเอ่ยต่อว่า "เขามีชีวิตไม่ค่อยดีนัก เหมือนตอนนั้นหลังจากที่เขาท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1263

    ท่าทีของเฟิงเหยียน ไม่ถือว่ากระตือรือร้นมากนัก กระทั่งค่อนข้างเย็นชาด้วยซ้ำแต่ก็เป็นเรื่องปกติ หลังจากที่เขาออกจากสำนักในตอนนั้น ก็ไม่ได้มีความฮึกเหิมเหมือนสมัยครั้งยังเด็กอีกมักจะเย็นชา และมักจะเฉยเมยปันอวิ๋นเม้มริมฝีปาก เข้าใจถึงสาเหตุนั้นสภาพการณ์ตอนที่เฟิงเหยียนออกจากสำนักครั้งนั้น เขาเองก็รู้เป็นอย่างดีต่อให้จนถึงตอนนี้ ก็ยังจดจำได้อย่างชัดเจนเพราะเฟิงเหยียนถูกทรยศเป็นคนแรก ดังนั้น ตอนนั้นพวกเขาก็อยู่ในฐานะคนที่ยังไม่ถูกทรยศอันที่จริง จะมากน้อยก็ยังมีความสงสัยว่าถ้าไม่อยู่ในสถานการณ์เดียวกันก็คงไม่เข้าใจอยู่พวกเขารู้สึกว่าเฟิงเหยียนทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเฟิงเหยียนที่ไม่รู้จักบุญคุณพวกเขารู้สึกว่า เป็นเฟิงเหยียนที่ทำไม่ถูกเฟิงเหยียนเป็นคนอกตัญญูจนต่อมา ต่อมาของต่อมา ทุกคนทยอยกันเดินบนเส้นทางของเฟิงเหยียน ใครก็หนีไม่พ้นการทรยศหรือใช้ประโยชน์ทั้งนั้นตามหลักแล้วควรจะยอมรับชะตากรรมอย่างที่เคยเตือนเฟิงเหยียนเอาไว้ในตอนนั้น และมองว่าสิ่งนั้นเป็นการบ่มเพาะและการให้ความสำคัญจากสำนักแต่เพระาอะไร...ถึงได้ดีใจกันขึ้นมาไม่ได้เลยและหลังจากนั้นอีก แต่ละคนก็ทร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1262

    ดังนั้นเขาจึงยังไม่กล้าไปกอดนางไว้แบบนี้ตลอด คอยอยู่ด้วยเงียบๆแต่เขากลับไม่ง่วงเลย ไม่ได้หลับ ไม่ได้ปิดตาด้วยแค่มองนางเงียบๆ สัมผัสถึงความร้อนในตัวนางกับชีพจรนางกระทั่งตัวเขาเองก็ยังบอกไม่ได้ว่าเพราะอะไร แต่ก็มีความรู้สึกอย่างหนึ่ง...รู้สึกสงบใจอย่างมากราวกับว่า ทั้งหมดเปลี่ยนเป็นสมบูรณ์แบบแล้วทั้งที่ความทรงจำในอดีตยังไม่กลับคืนเข้าที่ แต่ความรู้สึกนี้ เหมือนสลักประทับอยู่ในจิตวิญญาณอย่างไรอย่างนั้น ยากที่จะลบเลือนจนกระทั่งลมหายใจของจั๋วซือหรานมั่นคงแล้ว สีหน้ายิ่งมีประกายแดง สภาพดีขึ้นมากแล้วเขามองไปที่คราบเลือดแห้งกรังเหล่านั้นบนใบหน้าจั๋วซือหราน รู้สึกเสียดแทงตาเหลือเกินจึงได้เคลื่อนไหวเบาๆ เดินออกไปด้านนอก กำชับคนรับใช้ให้เตรียมน้ำร้อนมาไม่ให้คนรับใช้เข้ามาปรนนิบัติ แต่เขาหิ้วถังน้ำเข้ามาเองเขาอุ้มนางมาแช่ในถังน้ำ คอยสระชำระเส้นผมนางทีละเล็กทีละน้อย เช็ดคราบเลือดบนผิวนางออกอาบตัวนางจนสะอาดหมดจด อุ้มกลับไปบนเตียง ใช้ผ้าห่มห่อตัวนางจากนั้นจึงใช้พลังวิญญาณธาตุไฟบริสุทธิ์ เป่าผมนางจนแห้งและเพราะมีกลิ่นอายของเขาห่อหุ้มอยู่ จั๋วซือหรานจึงหลับลึกอย่างสบาย ไม่ตื

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1261

    พลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงที่บริสุทธิ์ที่สุด ถูกส่งผ่านเข้ามาอย่างนั้นจั๋วซือหรานมีความรู้สึกเหมือนตนเองถูกแช่ไว้ในน้ำอุ่น เป็นความรู้สึกที่สบายอย่างที่สุดในลำคอก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาด้วยความสบายยิ่งไปกว่านั้น คนเราก็เหมือนจะเป็นเช่นนี้เดิมทีก็ไม่ได้รู้สึกว่าตนเองลำบากยากเย็นอะไรนักแต่ตอนที่ร่างกายสามารถผ่อนคลายลงมาได้ ไม่รู้สึกเจ็บปวดทรมานอีกแล้วพอย้อนคิดไปถึงความยากลำบากเหล่านั้นก่อนหน้า กลับรู้สึกว่าตนเองน่าสงสารขึ้นมาจั๋วซือหรานตอนนี้ก็รู้สึก ว่าตนเอง...ไม่ค่อยได้รับความเป็นธรรมเท่าไรชายคนนี้ เจ้าคนสมควรตายนี่มีสิทธิ์อะไร?มีสิทธิ์อะไรกัน?"..." ชายหนุ่มรู้สึกเจ็บที่ปลายลิ้นเขาขมวดคิ้ว รสชาติคคาวหวานของเลือดแผ่ซ่านในร่องฟันของทั้งสองคนเขามองหญิงสาวตรงหน้า ก็เห็นแววตาของนางมีความหงุดหงิดอยู่หน่อยๆแล้วยังมีสีหน้าท้าทายอีกด้วยดูเหมือนจะจงใจกัดปลายลิ้นเขา น่าจะโมโหเอาการชายหนุ่มไม่ครางออกมาเลย ราวกับไม่รู้สึกเจ็บอย่างไรอย่างนั้นยิ่งไปกว่านั้นยังไม่ใส่ใจ ปลายลิ้นยังโถมใส่นางอย่างเร่าร้อนรุนแรงถ้านางอยากได้ ก็ต้องแล้วแต่นางจั๋วซือหรานดูจนใจหน่อยๆ แต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1260

    เหมือนว่าความทรมานทั้งหมดก่อนหน้านี้ ไม่ได้ทรมานอะไรขนาดนั้นและไม่รู้ว่าเจ้าโง่นี้ใช้แรงกระแทกนางมากแค่ไหน...มีหลายครั้ง ที่นางรู้สึกได้ว่า ในมิตินี้เหมือนสั่นไหวขึ้นมาราวกับวิญญาณของนางที่ถูกขังอยู่ในมิติ จะถูกดันกลับเข้าไปที่เดิมเลยจั๋วซือหรานถลึงตาโตขึ้นหน่อย จ้องมองมิติที่โยกไหวหน่อยๆรู้สึกหมดคำจะพูดแมงมุมน้อยงึมงำขึ้นมาข้างๆ "นายท่าน...ในนี้มัน...ร้อนจัง..."จั๋ซซือรหานมองไปทางเหล่าสัตว์อสูรของตนเอง มองออกไม่ยาก พวกมันเหมือนเริ่มมึนๆ จะหลับกันแล้ว พอเห็นแบบนี้ ก็เหมือนจะไม่ได้แตกต่างอะไรนักกับสถานการณ์ครั้งที่แล้วเพียงแต่ครั้งที่แล้ว ตนเองถูกทำจนเกือบจะสลบไปและตอนนี้ ตนเองถูกทำ...จนใกล้จะตื่นขึ้นมาแล้วผู้ชายคนนี้...ร้ายกาจจริงๆนี่มันช่าง....สัมผัสแนบเนื้อบนตัวนางมีเหงื่อบางๆ ชั้นหนึ่ง ผิวที่เคยขาวซีดไปทั้งตัว ตอนนี้พอมีเม็ดเหงื่อเกาะอยู่ จึงยิ่งดูเป็นประกายระยิบระยับขึ้นมาและไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน..."อือ..." หญิงสาวที่ไม่มีปฏิกิริยามาตลอด ริมฝีปากที่ยังมีรอยเลือดที่ยังเช็ดไม่สะอาด ส่งเสียงครางออกมาเหมือนลูกแมวตัวน้อยฟังดูแล้วเป็นเสียงอือๆ งึมงำๆน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1259

    ในใจจั๋วหวายเข้าใจอย่างหนักแน่นว่าเฟิงเหยียนคือผู้ชายทรยศแต่ว่านี่ไม่ได้เป็นอุปสรรคที่ทำให้เขาคิดว่าเฟิงเหยียนจะทำให้พี่สาวดีขึ้นได้คนเราก็มักมีสองมาตรฐานเช่นนี้ ไม่มีทางเลือกดังนั้นจั๋วหวายแม้จะไม่ได้เน้นหนักว่าผู้ชายทรยศคนนั้นคือผู้ชายทรยศ แต่ก็ยังถามขึ้นว่า "เขาจะพาพี่สาวข้าไปไหน?"ปันอวิ๋นได้ยินคำนี้ สายตาก็ลึกซึ้งขึ้นมา "นั่น...เป็นเรื่องของผู้ใหญ่เขา เด็กๆ ไม่ต้องถามเยอะ"จั๋วหวายเบ้ปาก ในใจก็บ่นว่าตนเองไม่ใช่เด็กแล้วเสียหน่อยแต่ปันอวิ๋นในที่สุดก็ไม่ได้บอกจั๋วหวาย ว่าเฟิงเหยียนจะพาจั๋วซือหรานไปที่ไหนในใจปันอวิ๋นชัดเจนดี สภาพของจั๋วซือหรานแย่หนักถึงระดับนี้แล้ว ขนาดยาก็ยังดื่มไม่ลงถ้าคิดจะใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ปลอบประโลมตัวนาง รวมถึงปลอบประโลมลูกในท้องนาง...วิธีการที่ดีที่สุด คือสิ่งนั้นอย่างไม่ต้องสงสัยสติสัมปชัญญะของจั๋วซือหรานไม่ได้หลับลึกอย่างสมบูรณ์ ในมิติยังสัมผัสรับรู้ได้ถึงสภาพแวดล้อมรอบๆความรู้สึกนั้น เหมือนกับสติสัมปชัญญะถูกขังอยู่ในมิติอย่างไรอย่างนั้นนางจึงเป็นได้เพียงแค่ผู้ชมเท่านั้น"เฮ้อ ดูท่าเขาจะใช้วิะีนั้นสินะ" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นขนมถั่วแดงกั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1258

    แต่ว่าชายหนุ่มยังคงไม่ตอบเขาเขาเพียงยกมือขึ้นมา สะบัดแขนเสื้อ เผยท่อนแขนออกมาจากในแขนเสื้อจั๋วหวายจึงเห็นว่าท่อนแขนของชายคนนี้ มีลายมัดกล้ามที่สวยงาม กระชับเรียวยาวผิวเองก็ขาวเย็น ไม่รู้ว่าเพราะปกติไม่ค่อยโดนแสงแดดหรือเปล่าและตอนนี้เอง ผิวหนังขาวเย็นที่โผล่ออกมานอกแขนเสื้อพอต้องกับแสงตะวัน จั๋วหวายก็รู้สึกเหมือนขาวจนสะท้อนแสงออกมาเลย!จากนั้น หลังจากสัมผัสกับแสง ก็ค่อยๆ รอยแผลเหมือนไฟลวกที่ค่อยๆ แดงขึ้น ก็ปรากฏมาบนท่อนแขนเขาไม่เพียงเท่านี้ หลังจากที่รอยไหม้เหล่านี้ปรากฏ ท่อนแขนเขาก็มีอักขระประหลาดบางส่วนปรากฏขึ้นมาอย่างรวดเร็วพออักขระคำสาปปรากฏ บาดแผลเผาไหม้พวกนั้นก็ถูกสะกดลงไป บาดแผลบนผิวหนังเริ่มสมานตัวกลับเหมือนเดิม หลังจากแผลสมานดี อักขระคำสาปเหล่านั้นก็ค่อยๆ สลายหายไปบนผิวหนังเขาแต่ไม่นานนัก ก็ปรากฏแผลไฟลวกอีกครั้ง อักขระเหล่านั้นก็ปรากฏขึ้นมาอีกซ้ำไปซ้ำมาแบบนี้ ดูแล้วทำให้คน...รู้สึกประหลาดมากจั๋วหวายมองจนบื้อไปเลยและชายหนุ่มก็ไม่ได้ใส่ใจกับแผลที่หายแล้วก็เกิด เกิดแล้วก็หายพวกนี้เลย ราวกับเหมือนมองไม่เห็นอย่างไรอย่างนั้นและก็เหมือนไม่ได้เจ็บได้ปวดเลย แม้ต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1257

    เหมือนว่าพอสายตามองเห็นหญิงสาวในอ้อมกอดปันปวิ๋นที่เหมือนลมพัดก็สลายหายไปได้ ตอนนั้นเอง สัมผัสทั้งหมดก็เหมือนหายวับไปในพริบตาดวงตามองไม่เห็นสิ่งใดอีกแล้ว หุเองก็ไม่ได้ยินเสียงอื่นใดอีกความรู้สึกเดียวที่เหลืออยู่คือความเจ็บปวดรุนแรงเหมือนมีดกรีดกลางใจ ไม่เพียงเท่านี้ สมองก็เหมือนถูกของมีคมกวนคนอย่างไรอย่างนั้น เจ็บขึ้นมาเป็นระยะๆยิ่งเจ็บ ก็ยิ่งอยากจะมองนางให้ชัดจเน ไม่อยากพลาดไปแม้แต่น้อยปันอวิ๋นพอเห็นร่างของเขา และกลิ่นอายนั่นบนตัวปันอวิ๋นในที่สุดก็ถอนใจโล่ง เขามาได้เสียที..."เจ้าหุบเขา?" ศิษย์สำนักข้างๆ ยังระแวดระวังอยู่ปันอวิ๋นบอกกับศิษย์สำนักเสียงเรียบว่า "เขาไม่ทำอะไรหรอก"ศิษย์สำนักพอได้ยินคำนี้ จึงถอนใจโล่งออกมา เพราะตอนที่พวกคนคุ้มกันขวางเขาเมื่อครู่มันเกินต้านแล้วจริงๆปรมาจารย์กู่อย่างพวกเขาเดิมทีก็แพ้ธาตุไฟอยู่แล้ว และชายคนนี้ก็เหมือนจะมีธาตุไฟระดับสูงด้วยพวกเขาไม่มีความสามารถจะไปทัดทานได้เลยปันอวิ๋นพอเห็นร่างสูงใหญ่ตรงหน้า ก็คิดในใจ ยังจะงงอะไรอยู่เล่า ถ้าเจ้ายังงงอยู่ หญิงสาวคนนี้จะไม่ไหวแล้วนะ!"โอ๊ค..." ในปากจั๋วซือหรานมีเลือดสดทะลักออกมาและมือข้างนั

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status