Share

บทที่ 358

Author: หูเทียนเสี่ยว
เมื่อพูดถึงจุดนี้ จั๋วซือหรานไม่ได้พูดต่อ

นางไม่ได้ขึ้นรถม้า แต่นำม้าออกมาโดยตรง นางขี่ม้าและมุ่งหน้าไปยังหอหลวง

หอหลวงเป็นตำหนักหลวงที่ตั้งอยู่ในชานเมืองทางตอนเหนือของเมืองหลวง หอหลวงมีพื้นค่อนข้างใหญ่

ในนี้มีศาลาต่าง ๆ และมีสวนทุกประเภท ไม่เพียงแต่มีครูที่คอยสอนนักเรียนเท่านั้น แต่ยังมีผู้เชี่ยวชาญในการสอนศิลปะการต่อสู้อีกด้วย

ผู้ที่สามารถเรียนที่นี่ได้อาจเป็นลูกหลานของสมาชิกราชวงศ์ คุณชายหรือคุณหนูแห่งตระกูลขุนนางต่าง ๆ

แต่จริง ๆ แล้วลูกหลานของตระกูลต่าง ๆ ไม่โอกาศน้อยมากที่สามารถเข้ามาเรียนที่นี่ได้ อาจพูดได้ว่า มีจำนวนน้อยมาก ด้วยเหตุนี้เมื่อ เมื่อจั๋วซือหรานได้สิทธิ์ที่เข้ามาเรียนในหอหลวงจากไทเฮา ผู้อาวุโสของตระกูลจั๋วจึงบังคับนางสละสิทธิ์

แม้ว่ามีลูกหลานไม่กี่คนของตระกูลต่าง ๆ มาเรียนที่นี่ แต่พวกเขาต่างมีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับลูกหลานของขุนนางและราชวงศ์

ดังนั้นคุณชายและคุณหนูเหล่านี้ที่กำลังศึกษาอยู่ในหอหลวงจึงทราบเหตุการณ์ล่าสุดของจั๋วซือหรานและตระกูลจั๋วเป็นอย่างดี

พวกเขารู้อยู่แล้วว่าจั๋วซือหรานได้สิทธิ์ที่เข้ามาศึกษาที่หอหลวง เดิมทีพวกเขากำลังรอผู้หญิงที่หยิ่งยโสและป
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 359

    เมื่อจั๋วซือหรานมาถึงหอหลวง จั๋วหวายกำลังยืนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่นอกห้องเรียน เขากำลังยกมือขึ้นสูงเพื่อไตร่ตรองใบหน้าของเขายังคงมีรอยฟกช้ำอยู่บ้าง แต่สีหน้าของเขาไม่มีความน้อใจใด ๆในทางกลับกัน ในห้องเรียนด้านข้าง ใบหน้าของลูกหลานของราชวงศ์และขุนนางหลายคนช้ำและบวม น่าสังเวชมากกว่าของจั๋วหวายหลายเท่าชิ่งหมิงยืนอยู่ข้าง ๆ จั๋วหวาย คิ้วอันบอบบางของเขาขมวดแน่น เขาถามด้วยเสียงต่ำ " เสี่ยวหวาย ทำไมเจ้าไม่ให้ข้า... ลงมือจัดการพวกเขา"จั๋วหวายยิ้มแม้จะมีรอยช้ำเล็กน้อยบนใบหน้าก็ตาม" ชิ่งหมิง เจ้าต่อสู้เก่ง หากเจ้าลงมือจัดการพวกเขา พวกเขาต้องรับบาดเจ็บสาหัส แล้วเราจะไม่เป็นฝ่ายที่ถูกต้อง นอกจากนี้ ตัวตนภายนอกของเจ้าในปัจจุบันยังเป็นเด็กรับใช้เมื่อคุณชายเรียนหนังสือ หากเด็กรับใช้อลงมือและทำร้ายพวกเขา จะถือเป็นล่วงเกินตัว สถานการณ์ของเราคงจะลำบากกว่าตอนนี้อีกขอรับ”“แต่ตข้าสู้กับพวกเขา จะเป็นคนละเรื่อง อย่างมากก็เป็นแค่ความขัดแย้งระหว่างเพื่อนร่วมชั้น ประการแรก คำพูดของพวกเขาไม่เป็นที่พอใจ อีกอย่าง พวดเราแค่ใช้หมัดกัน จะชนะหรือแพ้ มันไม่สำคัญ และข้ามองออก พวกเขาสู้ข้าไม่ได้หรอก”“เชอะ พวกเขา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 360

    ชิ่งหมิงรีบรับกล่องอาหารไว้จั๋วซือหรานพูดว่า "ข้าเอาอาหารกลางวันมาให้"ดวงตาของจั๋วหวายสว่างขึ้น“ข้าก็ไม่ได้หวังใเจ้าตั้งใจเรียนหรอก แต่เจ้าสร้างปัญหาในวันแรก…” จั๋วซือหรานมองไปที่จั๋วหวายด้วยรอยยิ้มจาง ๆจั๋วหวายทำหน้าบูดบึ้งและพูดอย่างเสียใจว่า "พวกเขาพูดจารุนแรงมาก และเอาแต่พูดเรื่องไม่ดีเกี่ยวกับท่านพี่ ข้าโกรธมาก เลยจัดการพวกเขา พวกเขาด่าข้า ข้าไม่เป็นไร แต่ทำไมพวกเขาต้องว่าท่านพี่ด้วยล่ะ ท่านพี่มีอะไรที่ด้อยกว่าพวกเขาหรือ ท่านพี่มีอะไรที่ด้อยกว่าทุกคนหรือ”เมื่อเห็นท่าจริงจังของน้องชาย จั๋วซือหรานก็โค้งริมฝีปากแล้วยิ้ม "แต่ในเมื่อเจ้าชนะแล้ว ข้าก็จะไม่ลงโทษเจ้า แต่ทำไมเจ้าถึงต้องยืนอยู่ที่นี่"จั๋วหวายกล่าวว่า "ครูสั่งลงโทษข้า ให้ข้ายืนอยู่ที่นี่"“เจ้าถูกลงโทษคนเดียวหรือ” จั๋วซือหรานเลิกคิ้ว “คนพวกนั้นไม่ได้ลงมือหรือ”“พวกเขาลงมือด้วยขอรับ แต่ข้ายอมรับการลงโทษของครู เพราะพวกเขาถูกข้าตีอย่างรุนแรง” จั๋วหวายกล่าวเมื่อได้ยินคำพูดของน้องชาย จั๋วซือหรานก็เดินไปที่ห้องเรียนใบหน้าของเหล่าลูกหลานของตระกูลขุนนางเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ เมื่อพวกเขาเห็นนางเดินเข้ามาอย่างอารมณ์ดี พ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 361

    จั๋วซือหรานกล่าว "เพราะน้องชายของข้าตีอพวกเจ้าย่างหนัก ข้าไม่อยากเห็นเขาถูกครูสั่งยืนอยู่ข้างนอกต่อ ข้าเลยมารักษาอาการบาดเจ็บของพวกเจ้า"ทุกคนได้ยินเพียงเสียงที่ชัดเจนของนาง ซึ่งไพเราะมาก จากนั้นพวกคนที่ถูกจั๋วหวายโจมตีอย่างหนักถูกจั๋วซือหรานจับข้อมือไว้ภายในไม่กี่ลมหายใจ รอยฟกช้ำบนใบหน้าของพวกเขาก็บรรเทาลงอย่างรวดเร็วทุกคนตกตะลึง พวกเขาจึงเชื่อข่าวลือนั้นเป็นเรื่องจริง และทักษะทางการแพทย์ของนางเยี่ยมมากจริง ๆ ทักษะทางการแพทย์ของนางเยี่ยมกว่าตระกูลเหยียน เสียอีกหลังจากจั๋วซือหรานรักษารอยฟกช้ำของพวกเขาแล้ว รอยยิ้มบนใบหน้าของนางยังคงลอยอยู่ที่มุมตาและคิ้วของนาง และนางพูดอย่างไม่จริงจัง "ข้ารักษาอาการบาดเจ็บของพวกเจ้าให้หายแล้ว นี่ถือว่าเป็นการสาธิตนะ"“สา สาธิตหรือ สาธิตอะไร” มีคนสับสน คนคนนั้นยกมือขึ้นและสัมผัสบริเวณที่เคยมีรอยช้ำบนใบหน้านั้น ตอนนี้รอยฟอกช้ำนั้นหายดีแล้วคนคนนั้นรู้สึกมหัศจรรย์มาก เขาเงยหน้าขึ้นและมองจั๋วซือหรานจากนั้นเขาเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของจั๋วซือหรานหายไปเหลือเพียงสีหน้าที่ไร้ความอบอุ่น "สาธิต...หากพวกเจ้ายังพูดจาไม่ดีอรก หากพวกเจ้าถูกโจมตีจนมือเท้าหัก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 362

    จั๋วหวายตอบว่า "ตอนที่ข้ามา ข้าเห็นแค่พวกนี้ น่าจะยังมีคนอื่น ก่อนหน้านี้ ข้าได้ยินพวกเขาพูดคุยกัน พวกเขาพูดว่าเมื่อก่อนองค์ชายและองค์หญิงมาเรียนด้วย แต่ วันนี้เป็นวันที่หนึ่งตามปฏิทินจันทร์รักคติ องค์ชายและองค์หญิงต้องไปขอพรที่ห้องโถงบรรพบุรุษ ท่านจึงไม่ได้มาเรียนขอรับ"จั๋วซือหรานพยักหน้าอย่างชัดเจนหลังจากได้ยินคำพูดของน้องชาย "เป็นอย่างนี้นี่เอง เอาล่ะ ข้าจะกลับแล้ว เจ้าอย่าตื้อละกัน ตั้งใจเรียน พี่ให้เจ้ามาเรียนที่นี่ หากเจ้ามีแต่ถูกสั่งยืนอยู่ข้างนอก ไม่ได้เรียนอะไรเลย เจ้ากลับไปปลูกมันที่บ้านละกัน "จั๋วหวายไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงถามอย่างฝืนใจ "ท่านพี่ขอรับ แต่... หากพวกเขายังรังแกข้าล่ะ"จั๋วหวายยอมฟังทุกคำพูดของท่านพี่ หากท่านพี่ให้เขาอดทน เขาก็จะอดทนให้ได้เขารอคำตอบของท่านพี่ แล้วเขาก็เห็นใบหน้าอันสวยงามของท่านพี่ขมวดคิ้วอย่างหนัก ท่านพี่พูดอย่างโกรธ ๆ "ต่อยกลับเลย หากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ไม่ต้องเรียนหนังสือที่นี่แล้ว เรียนทำไม สอนคนนินทาผู้อื่นเบื้องหลังอย่างเดียว แม้ว่าเจ้าอยากเรียนที่นี่ ข้ายังกลัวสอนเจ้าไม่ดีเลย"ทันทีที่จั๋วซือห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 363

    เมื่อสังเกตเฟิงเหยียนกำลังหลบสายตาของตัวเอง จั๋วซือหรานกระพริบตาและหัวเราะเฟิงเหยียนวางหมัดบนริมฝีปากและไอเบา ๆ “จวนของเจ้าไม่มียามเฝ้าประตูหน้าบ้านเลย ข้าแอบเข้าบ้านของเจ้าในยามมือที่ไหนล่ะ แม้ว่าข้าจะแอบเข้าบ้านของเจ้าในยามกลางคืน แต่ก็เป็นเพียงว่าเจ้าทำก่อน ข้าทำตามเจ้าแค่นั้นเอง”จั๋วซือหรานเลิกคิ้วเมื่อได้ยินคำพูดนี้ นางยิ้มและพูด "ใช่ ๆ เป็นเพราะข้าเริ่มทำไม่ดีก่อนเจ้าค่ะ"นางรู้สึกท่านอ๋องหนุ่มคนนี้ค่อนข้างสนุก ดังนั้นนางจึงปพูดตามคำพูดของเขา“เพียงท่านอ๋องบอกว่าจวนของข้าไม่มีคนเฝ้าประตู ข้าไม่เห็นด้วยนะ” จั๋วซือหรานพูดและตะโกนไปทางประตู "คนมานี่"ฉวนคูนรปากฏตัวอย่างรวดเร็ว "คุณหนูขอรับ" จากนั้นเขาก็มองชายหนุ่มรูปหล่อที่อยู่ข้าง ๆ "ท่านเขยขอรับ ท่าน... มีคำสั่งอะไรขอรับ"เฟิงเหยียนไม่มีคำสั่งใด ๆ และเดิมทีเขาไม่มีความรู้สึกอะไรเลย แต่เมื่อเขาได้ยินฉวนคูนเรียกเขาเช่นนั้น ม่านตาอันลึกของเขาก็สั่นไหวราวกับประกายไฟจั๋วซือหรานขี้เกียจแก้ไขคำเรียกของเขา นางแค่พูดว่า "ไม่มีอะไร ท่านอ๋องบอกว่าที่บ้านไม่มีคนเฝ้าประตู ข้าเลยให้เจ้ามาแสดงตัวหน่อย"จั๋วซือหรานชี้ฉวนคูน นางพูดกับเ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 364

    เมื่อก่อนพลังวิเศษของนางอบอุ่นและนุ่มนวลตามความรู้สึก แต่ความเป็นจริง ความอบอุ่นนั้นมีความรู้สึกเย็น ระบบเส้นลมปราณกล้ามเนื้อและแขนขาของเขาถูกพลังวิเศษของตัวเองเผา พลังวิเศษอันอบอุ่นและนุ่มนวลนั้นสามารถทำให้เขารู้สึกสบายตัวเหมือนหลังจากเขาถูกพลังวิเศษเผา มีคนทายาน้ำค้างหยกให้ ซึ่งทำให้เขารู้สึกเย็นและชื่นใจแต่ความรู้สึกที่เกิดจากพลังวิเศษของนางครอบคลุมมาก ราวกับว่า ระบบเส้นลมปราณ กล้ามเนื้อ แขนขา และกระดูกทั้งหมดของเขาถูกเคลือบด้วยยาน้ำค้างหยกเป็นเพราะความรู้สึกนี้เองที่ทำให้เฟิงเหยียนรู้สึกสบายใจ เหมือนตราบที่เขาอยู่กับนาง เขาก็รู้สึกสงบจิตอย่างมากแต่ตอนนี้ เฟิงเหยียนสามารถตรวจจับได้ชัดเจนว่าไม่เพียงแต่พลังวิเศษของนางไม่เพียงแต่มีความอบอุ่นและความนุ่มนวล แต่ยังรวมถึงความรู้สึกอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็น... พลังชีวิตอันทรงพลังเฟิงเหยียน ลดสายตาลงและมองนิ้วสีขาวและบาง ๆ ของนางที่อยู่บนข้อมือของเขาแล้วพูดว่า "ก่อนหน้านี้ข้ายังไม่แน่ใจ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเจ้าได้ปลุกพลังวิเศษ แห่งกำเนิดของตระกูลจั๋วแล้วจริง ๆ "“ใช่ วิญญาณไม้ ” จั๋วซือหรานหันมามองเขา “ข้าไม่เห็นมีอะไรพิเศษใด ๆ เลย ข

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 365

    จั๋วซือหรานไม่รู้ว่าเป็นภาพลวงตาหรือไม่ แต่นางมั่นใจว่านางไม่พบคำตำหนิหรืออารมณ์เชิงลบใด ๆ ในน้ำเสียงของเฟิงเหยียนน้ำเสียงของเขาสงบเช่นเคย แต่ดูเหมือนเขา...วางใจอย่างมากจั๋วซือหรานไม่แน่ใจ นางจึงถาม " ท่านอ๋อง... คงไม่ได้กำลังห่วงข้าถูกตระกูลเหยียนเอาเปรียบหรอกนะ"เรียกข้าว่า ท่านอ๋อง เฟิงเหยียนคิดในใจ แสดงว่านางอารมณ์ดีเฟิงเหยียนเหลือบมองนาง "ข้าห่วงเจ้าถูกเอาเปรียบ ไม่ปกติหรือ"นั่นเป็นเรื่องปกติหรือ จั๋วซือหรานคิดสองสามวินาที นางคิดในใจ หากพูดว่ามันปกติ มันก็เป็นเรื่องปกติ เพราะนางสามารถรักษาเขาได้เมื่อคิดถึงจุดนี้ จั๋วซือหรานก็จับข้อมือของเขาไว้และค่อย ๆ ส่งพลังวิเศษเข้าสู่ระบบเส้นลมปราณของเขาเพราะต้องทำท่านี้ตลอด ห้ามหยุดกลางทางดังนั้นกิริยาของคนสองคนนี้ดูเหมือนกำลังจูงมือและเดินเล่นหลังจากพวกเขาเดินมาได้ระยะหนึ่งเฟิงเหยียนกล่าวอย่างใจเย็น “ วิญญาณไม้แตกต่างจากวิญญาณไฟ วิญญาณไม้โจมตีไม่เก่ง แต่มีพลังชีวิตที่แข็งแกร่ง และเก่งในการรักษาและรักษาตัวเอง”จั๋วซือหรานคิด "ทำนาดีกว่า"อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการรักษาและความสามารถในการรักษาตนเองของนางไม่ได้แย่นัก นี่ไม

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 366

    เดิมทีจั๋วซือหรานยังคิดอยู่ว่านางพูดตรงเกินไปหรือเปล่า แม้ว่าคำพูดของนางยังไม่ทำให้ชายคนนั้นโกรธ แต่อย่างน้อยคำพูดของนางก็ส่งผลต่ออารมณ์ของเขาดังนั้นคนที่เงียบขรึมอยู่แล้วจึงเงียบมากขึ้นในขณะที่จั๋วซือหรานรู้สึกว่าท่านอ๋องอาจจะโกรธมาก และเขาจะไม่คุยกับนางอีกแล้ว นางก็คิดอยู่ว่านางควรจะพูดอะไรบางอย่างเพื่อเกลี้ยกล่อมเขาหรือไม่มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่จะให้นางเกลี้ยกล่อมศัตรู นางยอมตายมากกว่าแต่การเกลี้ยกล่อมเฟิงเหยียน...พูดตามตรง จั๋วซือหรานรู้สึกว่านางต้องไม่ใช่ข้อยกเว้น นางรู้สึกว่าตราบใดที่นางเห็นใบหน้าของเฟิงเหยียน และได้ยินเสียงของเขา ตราบใดที่เขาไม่ได้โกรธเกินไป นางก็จะทำตัวไม่สนใจได้ดังนั้นเมื่อมองใบหน้าของเขา จั๋วซือหรานสามารถเกลี้ยกล่อมเขาได้โดยไม่รู้สึกคับข้องใจใด ๆ เลยบางครั้งความหล่อเหลาของใบหน้าก็ไร้ยางอายมากเมื่อจั๋วซือหรานกำลังจะพูดอะไรเพื่อเกลี้ยกล่อมเขา"เจ้า..."ก่อนที่นางจะพูดได้ เฟิงเหยียนก็พูดด้วยว่า "เจ้าไม่เหมือนข้า คุณลักษณะของพลังวิเศษของตระกูลจั๋วแตกต่างจากพลังวิเศษของตระกูลเฟิง และคุณลักษณะของพลังวิเศษโดยกำเนิดของตระกูลนั้นก็แตกต่างจากพลังศักดิ์

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1273

    แม้จะบอกว่าเป็นความฝัน แต่อันที่จริงจั๋วซือหรานก็ค่อยๆ เข้าใจแล้ว ว่าเพราะอะไรหลังจากฝันถึงเขาครั้งที่แล้วจนมาถึงครั้งนี้ นานมากแล้วที่ไม่ได้ฝันถึงเขาอีกพอมาคิดอย่างละเอียด เหมือนว่าตอนฝันถึงเขาครั้งที่แล้ว จะเป็นหลังจากที่นางมีสัมพันธ์ทางกายกับเขาดังนั้นจั๋วซือหรานจึงค่อยๆ เข้าใจ บางทีน่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้การดูดหยางบำรุงหยินของนางก็ดูดซับมาจนพอเข้าใจแล้ว เหมือนว่าพอดูดซับมาถึงระดับหนึ่ง ก็จะเกิด...ถ้าจะพูดว่าเป็นความฝัน สู้บอกว่าเป็นการสื่อสารทางจิตใต้สำนึกกับความทรงจำของเฟิงเหยียนส่วนที่ถูกผนึกไปจะดีกว่า?และไม่ว่าจะ 'ความฝัน' ครั้งที่แล้ว หรือว่าครั้งนี้ก็มองออกได้ไม่ยากเฟิงเหยียนน่าจะเข้าใจต่อสถานการณ์อยู่ ดังนั้นบางทีจิตใต้สำนึกเขายังคงอยู่มาตลอด เพียงแต่ถูกสมองทื่อๆ นี่กดเอาไว้ หรือบางทีคงถูกสภาผู้อาวุโสลงมือสะกดเอาไว้ไม่แน่ว่า อาจจะต้องมีชนวนเหตุบางอย่าง ถึงจะสามารถปลุกขึ้นมาได้จั๋วซือหรานอยากจะรู้ชนวนเหตุนั้นว่าคืออะไรกันแน่"ต้องทำยังไงเจ้าถึงจะดีขึ้นมา?" จั๋วซือหรานถามแต่เฟิงเหยียนกลับเหมือนจะจำจุดสำคัญนั้นไม่ได้แล้ว ขมวดคิ้ว สีหน้าดูเหมือนขมขื่น เหมือนว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1272

    ในห้วงฝันนางมองมือตัวเอง สับสนไปหมดทั้งตัว เหมือนยังตั้งตัวกลับมาไม่ได้เพราะนางถ้าไม่หลับลึก ก็จะเอาจิตใต้สำนึกส่งเข้าไปในมิติ จึงฝันน้อยครั้งมากดังนั้นตอนที่ดำดิ่งสู่ห้วงฝัน นางยังรู้สึกไม่คุ้นอยู่หน่อยๆ มองมือตนเอง รู้สึกไม่คอ่ยเป็นจริงสักเท่าไรวินาทีต่อมา มือข้างหนึ่งก็ทาบมาบนมือของนางมือข้างนั้น ข้อต่อกระดูกชัดเจน นิ้วเรียวยาว เล็บตัดมาดูสะอาดสะอ้าน ผิวหนังขาวซีดเย็นเหมือนไม่โดนแดดมานานสายตาของจั๋วซือหรานจ้องนิ่งอยู่บนมือข้างนี้ จากนั้นจึงค่อยๆ ยกขึ้นมามองไปยังเจ้าของมือนี้ ใบหน้าหล่อเหลาไม่มีที่ตินั่นทั้งที่เป็นใบหน้าที่เพิ่งเห็นไปก่อนหลับตาลงเมื่อครู่แท้ๆ แต่ตอนนี้พอมอง กลับยังคงทำให้นางรู้สึกเหมือนไม่เจอกันเสียนานสายตาของชายหนุ่มอบอุ่น ด้านในมีความรู้สึกอารมณ์เหมือนความเจ็บปวดแฝงอยู่"จั๋วเสียวจิ่ว..." เขาก้มหน้าลงเรียกนางจั๋วซือหรานมองเขา จากนั้นจึงออกแรงบีบมือเขา และน่าจะเพราะออกแรงมากเกินไปปลายเล็บจึงเหมือนจิกลงไปในเนื้อเขาฝันถึงเขาอีกแล้วจั๋วซือหรานมีปฏิกิริยาขึ้นมา ครั้งนี้เหมือนกับครั้งนั้นเลย ฝันถึงเฟิงเหยียนยิ่งไปกว่านั้นยังดูเหมือนจริงเป็นพิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1271

    กลางดึก จั๋วซือหรานกัดริมฝีปาก กอดหมอน เดินเท้าเปล่าจากห้องด้านนอกเข้าไปยังห้องด้านใน!คิ้วงามของนางขมวดแน่น สีหน้าที่มีสีเลือดฟื้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้กลับขาวซีดขึ้นมาในใจนางเองก็พูดไม่ออก เดิมทีตอนที่หลับก็ยังดีอยู่ พอกลางดึกจู่ๆ ก็ไม่ไหวขึ้นมาเสียแล้วหน้าอกปั่นป่วนอย่างรุนแรง เป็นความรู้สึกทรมานแบบที่นางผ่านมาก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยนถ้าบอกว่าคนคนนี้ไม่เข้ามาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ก็เข้ามาแล้วว่ากันว่าพอเคยสบายแล้ว จะยากที่จะกลับไปลำบากตอนนี้จะให้นางปล่อยชายหนุ่มที่เหมือนกับ 'ยาบำรุงครรภ์' นี้ไว้ข้างในเฉยๆ โดยไม่ใช้ แล้วต้องมานั่งทนกระอักเลือดต่อล่ะก็...ขอโทษด้วย สกุลจั๋วอย่างนางไม่ใช่คนประเภทนั้นนางเข้าใจแล้ว ก่อนที่จะหลับไปเมื่อคืนนี้ ตอนที่เฟิงเหยียนบอกว่าจะนอนด้านนอก ริมฝีปากที่เม้มแน่นนั้นกำลังอดกลั้นเรื่องอะไรน่าจะคิดไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้สารเลว!จั๋วซือหรานครั่นเนื้อครั่นตัวตื่นมากลางดึก ต่อให้เป็นคนที่มีสติเยือกเย็นแค่ไหน ก็ยังมีอาการหงุดหงิดงัวเงียหลังตื่นนอนนางเดินเท้าเปล่าเข้าไปห้องด้านใน อากาศในหุบเขาตอนกลางคืนเย็นมากนางสวมแค่เสื้อบางๆ ชุดหนึ่ง ทั้งตัวเย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1270

    แต่กลับรู้ตัวตนฐานะผู้ชายทรยศของเฟิงเหยียนได้ ไม่ต้องคิดเลยว่าคงเป็นจั๋วหวายพล่ามออกมาแน่"จั๋วหวายมาบอกเจ้าหรือ?" ปันอวิ๋นถามขึ้นคำหนึ่งจวงอี๋ไห่ พยักหน้าอย่างระมัดระวัง "คุณชายเสี่ยวหวายไม่หลอกข้าหรอก คุณชายเสี่ยวหวายบอกว่าเป็นผู้ชายทรยศ เช่นนั้นกว่าครึ่งก็ต้องเป็นผู้ชายทรยศแล้ว"ปันอวิ๋นถอนหายใจแผ่วเบาในห้อง จั๋วซือหรานนั่งลงข้างโต๊ะเฟิงเหยียนไม่พูดอะไร รินน้ำชาให้นางถ้วยหนึ่งจั๋วซือหรานกำถ้วยไว้ ใช้นิ้วมือลูบไล้ขอบถ้วยเบาๆ"อีกเดี๋ยวพออาหารส่งเข้ามา ก็กินสักหน่อยแล้วค่อยนอนพัก" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นแต่ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความหนักแน่นที่ห้ามปฏิเสธจั๋วซือหรานแหงนตามองเขา กำลังจะบอกว่ายังไม่หิวก็เห็นริมฝีปากบางของชายคนนี้เม้มเบาๆ เอ่ยเสียงต่ำว่า "ข้าไม่มีสิทธิ์จะมาหารือกับเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ..." สายตาเขาทอดลงไปที่ท้องน้อยนาง แววตาลึกซึ้งจากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า "แต่การจะเตือนให้เจ้ากินอะไรดีดีก็ยังพอมีสิทธิ์อยู่" สายตาเขายกขึ้นมาจากท้องน้อยจั๋วซือหรานเลื่อนมาที่ดวงตานาง จ้องมองดวงตานาง เอ่ยต่อว่า "ถึงอย่างไรเมื่อครู่ก็เพิ่งช่วยเจ้ากลับมา ยิ่งไปกว่นั้นเรื่องถูกพลังศักดิ์สิท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1269

    เขาไม่เพียงแต่ไม่ใช่สามีของนาง เขายังเป็นคู่หมั้นในนามของหญิงสาวคนอื่นอีกด้วยสีหน้าของเฟิงเหยียนแข็งทื่อไปแล้ว แต่ท้ายสุดก็ยังพูดอะไรไม่ออกเพราะในคำพูดจั๋วซือหราน ไม่มีส่วนที่ผิดเลยแม้แต่น้อยแม้จะบอกว่าเด็กคนนี้ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาก็ตามแต่ครั้งก่อนหน้านั้น เป็นเพราะจั๋วซือหรานถูกวางแผนร้ายใส่ ถึงทำให้นางสับสนหลงใหลจนมีสัมพันธ์กับเขาถ้าจะบอกว่า เขาเอาเปรียบหญิงสาวไป ก็ไมไ่ด้พูดเกินเลยนักเอาเปรียบหญิงสาว จนทำนางตั้งท้อง ไม่เคยจะมารับผิดชอบอะไรตอนนี้กลับจะมาชี้มือชี้ไม้เรื่องของนางพอสรุปมาแบบนี้ มันก็ช่าง...แย่มากจริงๆเฟิงเหยียนเองก็รู้ว่าตนเองนั้นแย่มาก พูดอะไรออกมาไม่ได้ไปชั่วขณะปันอวิ๋นรู้สึกกระอักกระอ่วนแทนสหายเก่า เขากระแอมออกมาเบาๆ ทีหนึ่ง ไกล่เกลี่ยขึ้นว่า "เอาล่ะเอาล่ะ..."เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ถึงอย่างไร ทั้งสองคนตอนนี้จะไม่ได้เป็นคู่รัก แต่ความสัมพันธ์แบบนี้...มันก็ดูคลุมเครือ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ นี่มันช่าง...ดังนั้นปันอวิ๋นเลยเปิดประเด็นขึ้น อึกอักในปากอยู่พักหนึ่ง กว่าจะพูดออกมาได้ "...พวกเจ้าหิวหรือยัง? ให้เหล่าจวนทำอะไรให้กินหน่อยดีไหม?"

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1268

    นางยืนเงียบๆ อยู่ตรงนั้น แหงนตาขึ้นมองพวกเขาสายตาของเฟิงเหยียนอึ้งไปเล็กน้อย เห็นนางยืนอยู่ในประตูด้วยสีหน้านิ่งขรึมเขารู้สึกลำคอแห้งผากอย่างประหลาด ความรู้สึกนั้น บางทีควรจะเรียกว่า...ตึงเครียดไหม?"เจ้า...ตื่นขึ้นมาตอนไหนน่ะ?" เฟิงเหยียนถามจั๋วซือหรานมองเขา "ไม่นานเท่าไร"เหมือจะมองออกถึงความกระอักกระอ่วนของเขา หรืออาจจะไม่สรุปคือ มุมปากจั๋วซือหรานยกขึ้นบางๆ พูดมาคำหนึ่ง "ท่านอ๋องน้อย ไม่เจอกันเสียนาน"นางทำแบบนี้โดยไม่เอ่ยถึงคำพูดก่อนหน้านั้นแม้แต่น้อยเฟิงเหยียนอ้าปากพะงาบ ต่อให้คิดจะพูดอะไร แต่ชั่วขณะหนึ่งก็เหมือนจะพูดออกมาไม่ได้จึงแค่ถามขึ้นอย่างเป็นห่วง "ดีขึ้นบ้างหรือยัง?"จั๋วซือหรานพยักหน้า "ดีขึ้นมากแล้ว"กระทั่งปันอวิ๋นก็ยังมองออกถึงเรื่องระหว่างพวกเขา ไม่รู้เพราะเจ้าสมองกลับนี่ไปแตะเนื้อต้องตัวทำอะไรนาง หรือเป็นเพราะคำพูดเมื่อครู่นางได้ยินคำพูดของเฟิงเหยียน...สรุปคือ ปันอวิ๋นมองพวกเขาทั้งสองคน แล้วก็รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแทนพวกเขาทั้งสองคนปันอวิ๋นคิดๆ ดู ตอนที่ตนเองอยู่กับจั๋วซือหรานก็ยังไม่ได้กลืนไม่เข้าคายไม่ออกขนาดนี้รู้สึกร้อนใจแทนเจ้าบ้านี่จร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1267

    เพราะเป็นเพื่อนสนิท ปันอวิ๋นจึงเข้าใจความหมายที่เขาคิดจะแสดงออกมาหรือก็คือ ปันอวิ๋นเดาได้นานแล้วบางทีตอนนั้นเพื่อจะให้จั๋วซือหรานหลีกเลี่ยงโชคชะตาเช่นนี้ ตนเองจึงเลือกที่จะลืมเลือนแต่สุดท้ายพอวกไปวนมา ก็กลับมาเดินอยู่บนเส้นทางเดิมเจ้าสิ่งที่เรียกว่าโชคชะตานี่ ลึกลับเอามากๆบางครั้งเหมือนจะมีเมตตา แต่บางครั้งก็เหมือนไม่เคยปราณีใครผู้ใด"แล้วเจ้าตอนนี้...คิดจะทำอย่างไร?" ปันอวิ๋นถามเขาจ้องเฟิงเหยียนตาไม่กระพริบเอาจริงๆ ปันอวิ๋นใช้มองจากมุมมองคนนอกอย่างมีเหตุมีผล ยังหวังว่าจั๋วซือหรานจะสามารถปล่อยวางได้แต่พอคิดถึงว่าถ้าหากจั๋วซือหรานปล่อยวางแล้วล่ะก็ ด้วยโชคชะตาภาชนะพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงของเฟิงเหยียน ผลสรุปสุดท้าย ก็คือตายก่อนวัยอันควรอยู่ดีและเพราะรู้เรื่องนี้ ดังนั้นปันอวิ๋นจึงหยุดไปครู่หนึ่ง เอ่ยเสริมมาคำนึง "ถังฉือเคยบอกข้าไว้ ในโถงวิญญาณอสูร พวกสัตว์เทพที่ถูกเก็บกลับมาเหล่านั้น..."ปันอวิ๋นขมวดคิ้ว คิดถึงคำพูดของถังฉือถังฉือมีบาปหนาจากการฆ่าฟันคนมากมาย กลายเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจไปแล้ว ถ้าหากไม่เย็นชาไร้หัวใจ ป่านนี้คงเป็นบ้าไปแล้วดังนั้นตอนที่เขาพูดถึงเรื่องเห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1266

    ปันอวิ๋นส่งให้เขาชามหนึ่ง ตนเองก็ด้วยทั้งสองคนไม่พูดพล่ามทำเพลง กระดกรวดเดียวจนหมดราวกับว่า สุราที่มาช้าไปหลายปีนี้ ในที่สุดก็ได้ดื่มเสียทีราวกับว่าภาพเด็กน้อยที่แอบขโมยสุราพวกนั้นมาดื่ม ซ้อนทับเข้ามากับพวกเขาในเวลานี้"ช่วงนี้เจ้า ไม่ได้ติดต่อกับพวกเขาเลยหรือ?"หลังจากร่ำสุราลงท้องไปสองชาม จิตใจก็เหมือนจะผ่อนคลายลงมาไม่น้อย ปันอวิ๋นถามขึ้นอย่างสบายๆ เป็นกันเองเฟิงเหยียนฟังออก ว่าเขาถามถึงเหล่าพี่น้องพวกนั้นเขาตอบอืมไปคำหนึ่ง "ไม่ได้ติดต่อกันเลย""เช่นนั้นก็คงไม่รู้สถานการณ์ของพวกเขาเลยสินะ" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นเฟิงเหยียนไม่ยอมรับหรือปฏิเสธกับสิ่งนี้ ถือว่ายอมรับไปกลายๆปันอวิ๋นยิ้มๆ เหมือนจะเย้ยหยันตนเอง "แต่ก็ไม่โทษพวกเขาที่ไม่ติดต่อเจ้า ด้วยสถานการณ์ของพวกเขาตอนนี้ ก็ไม่มีหน้ามาติดต่อเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ"ได้ยินคำนี้ของปันอวิ๋น เฟิงเหยียนก็ไม่พูดอะไรอีกปันอวิ๋นเอ่ยต่อว่า "ซงซีตอนนี้ทุกวันเหมือนขลุกอยู่แต่ในห้องหลอมสกัด หลอมสกัดอยู่ทุกวันไม่ได้พักเลย"เฟิงเหยียนพอได้ยินคำนี้ คิ้วก็ขมวดขึ้นบางๆ"เยี่ยนเหวย...ก็สูบเลือดออกมาทุกวัน อยู่แบบไม่เหมือนผู้เหมือนคน ผู้อาวุโสหวงจ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1265

    บางทีคงเป็นเพราะการคุยแบบเปิดอกก่อนหน้านี้ ทำให้ระยะทางขอเพื่อนสนิทสองคนที่เคยห่างไปตามกาลเวลา ย่อหดลงไปไม่น้อยเลยกระมังดังนั้นพอได้ยินปันอวิ๋นบอกว่าไม่ต้องขอบคุณ เฟิงเหยียนจึงเหลือบมองเขา น้ำเสียงเปลี่ยนไป "ก็ได้ เช่นนั้นก็ไม่ขอบคุณแล้วกัน"เฟิงเหยียนสั่งขึ้นมา "ไป ไปเอาสุรามาให้ข้าหน่อย"แม้จะพูดเช่นนี้ แต่ในเสียงกลับไม่ได้ออกคำสั่งอะไร ฟังแล้วเหมือนการใช้งานระหว่างเพื่อนกันมากกว่าปันอวิ๋นชะงักไปเล้กน้อย เพราะตอนพวกเขายังเด็ก ก็เคยใช้งานกันและกันแบบนี้ไป ไปเอาสุรามาหน่อยได้ งั้นเจ้าก็เอาปลาไปย่างซะข้าเห็นว่าเจ้าหน้าตาเหมือนปลาถ้าเจ้ายังพูดอีกรอบ จะโดนข้ากดจนจมถังสุราตายไปเลยเพราะคำพูดนี้ของเฟิงเหยียน ทั้งสองคนก็เหมือนกลับไปสมัยยังเด็กในชั่วพริบตาปันอวิ๋นยกมุมปากขึ้นบางๆ ลุกขึ้นไปให้คนรับใช้ส่งสุราเข้ามาคือสุราห้าพิษที่เขาจะหมักอยู่ทุกปี และใช้แมลงพิษมาหลอมจริงๆ แต่ตัวสุรากลับไม่มีพิษใดๆ กระทั่งยังหอมอบอวลเข้มข้นเป็นพิเศษ เป็นสุราที่หาได้ยากยิ่งและเป็นความลับที่ไม่เผยแพร่สู่ภายนอกของหุบเขาหมื่นพิษ ปกติมีแค่เจ้าหุบเขาที่รู้แต่ปันอวิ๋น หลังจากออกสำนักมา ก็ไม่ได้ด

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status