Share

บทที่ 363

Author: หูเทียนเสี่ยว
เมื่อสังเกตเฟิงเหยียนกำลังหลบสายตาของตัวเอง จั๋วซือหรานกระพริบตาและหัวเราะ

เฟิงเหยียนวางหมัดบนริมฝีปากและไอเบา ๆ “จวนของเจ้าไม่มียามเฝ้าประตูหน้าบ้านเลย ข้าแอบเข้าบ้านของเจ้าในยามมือที่ไหนล่ะ แม้ว่าข้าจะแอบเข้าบ้านของเจ้าในยามกลางคืน แต่ก็เป็นเพียงว่าเจ้าทำก่อน ข้าทำตามเจ้าแค่นั้นเอง”

จั๋วซือหรานเลิกคิ้วเมื่อได้ยินคำพูดนี้ นางยิ้มและพูด "ใช่ ๆ เป็นเพราะข้าเริ่มทำไม่ดีก่อนเจ้าค่ะ"

นางรู้สึกท่านอ๋องหนุ่มคนนี้ค่อนข้างสนุก ดังนั้นนางจึงปพูดตามคำพูดของเขา

“เพียงท่านอ๋องบอกว่าจวนของข้าไม่มีคนเฝ้าประตู ข้าไม่เห็นด้วยนะ” จั๋วซือหรานพูดและตะโกนไปทางประตู "คนมานี่"

ฉวนคูนรปากฏตัวอย่างรวดเร็ว "คุณหนูขอรับ" จากนั้นเขาก็มองชายหนุ่มรูปหล่อที่อยู่ข้าง ๆ "ท่านเขยขอรับ ท่าน... มีคำสั่งอะไรขอรับ"

เฟิงเหยียนไม่มีคำสั่งใด ๆ และเดิมทีเขาไม่มีความรู้สึกอะไรเลย แต่เมื่อเขาได้ยินฉวนคูนเรียกเขาเช่นนั้น ม่านตาอันลึกของเขาก็สั่นไหวราวกับประกายไฟ

จั๋วซือหรานขี้เกียจแก้ไขคำเรียกของเขา นางแค่พูดว่า "ไม่มีอะไร ท่านอ๋องบอกว่าที่บ้านไม่มีคนเฝ้าประตู ข้าเลยให้เจ้ามาแสดงตัวหน่อย"

จั๋วซือหรานชี้ฉวนคูน นางพูดกับเ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 364

    เมื่อก่อนพลังวิเศษของนางอบอุ่นและนุ่มนวลตามความรู้สึก แต่ความเป็นจริง ความอบอุ่นนั้นมีความรู้สึกเย็น ระบบเส้นลมปราณกล้ามเนื้อและแขนขาของเขาถูกพลังวิเศษของตัวเองเผา พลังวิเศษอันอบอุ่นและนุ่มนวลนั้นสามารถทำให้เขารู้สึกสบายตัวเหมือนหลังจากเขาถูกพลังวิเศษเผา มีคนทายาน้ำค้างหยกให้ ซึ่งทำให้เขารู้สึกเย็นและชื่นใจแต่ความรู้สึกที่เกิดจากพลังวิเศษของนางครอบคลุมมาก ราวกับว่า ระบบเส้นลมปราณ กล้ามเนื้อ แขนขา และกระดูกทั้งหมดของเขาถูกเคลือบด้วยยาน้ำค้างหยกเป็นเพราะความรู้สึกนี้เองที่ทำให้เฟิงเหยียนรู้สึกสบายใจ เหมือนตราบที่เขาอยู่กับนาง เขาก็รู้สึกสงบจิตอย่างมากแต่ตอนนี้ เฟิงเหยียนสามารถตรวจจับได้ชัดเจนว่าไม่เพียงแต่พลังวิเศษของนางไม่เพียงแต่มีความอบอุ่นและความนุ่มนวล แต่ยังรวมถึงความรู้สึกอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็น... พลังชีวิตอันทรงพลังเฟิงเหยียน ลดสายตาลงและมองนิ้วสีขาวและบาง ๆ ของนางที่อยู่บนข้อมือของเขาแล้วพูดว่า "ก่อนหน้านี้ข้ายังไม่แน่ใจ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเจ้าได้ปลุกพลังวิเศษ แห่งกำเนิดของตระกูลจั๋วแล้วจริง ๆ "“ใช่ วิญญาณไม้ ” จั๋วซือหรานหันมามองเขา “ข้าไม่เห็นมีอะไรพิเศษใด ๆ เลย ข

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 365

    จั๋วซือหรานไม่รู้ว่าเป็นภาพลวงตาหรือไม่ แต่นางมั่นใจว่านางไม่พบคำตำหนิหรืออารมณ์เชิงลบใด ๆ ในน้ำเสียงของเฟิงเหยียนน้ำเสียงของเขาสงบเช่นเคย แต่ดูเหมือนเขา...วางใจอย่างมากจั๋วซือหรานไม่แน่ใจ นางจึงถาม " ท่านอ๋อง... คงไม่ได้กำลังห่วงข้าถูกตระกูลเหยียนเอาเปรียบหรอกนะ"เรียกข้าว่า ท่านอ๋อง เฟิงเหยียนคิดในใจ แสดงว่านางอารมณ์ดีเฟิงเหยียนเหลือบมองนาง "ข้าห่วงเจ้าถูกเอาเปรียบ ไม่ปกติหรือ"นั่นเป็นเรื่องปกติหรือ จั๋วซือหรานคิดสองสามวินาที นางคิดในใจ หากพูดว่ามันปกติ มันก็เป็นเรื่องปกติ เพราะนางสามารถรักษาเขาได้เมื่อคิดถึงจุดนี้ จั๋วซือหรานก็จับข้อมือของเขาไว้และค่อย ๆ ส่งพลังวิเศษเข้าสู่ระบบเส้นลมปราณของเขาเพราะต้องทำท่านี้ตลอด ห้ามหยุดกลางทางดังนั้นกิริยาของคนสองคนนี้ดูเหมือนกำลังจูงมือและเดินเล่นหลังจากพวกเขาเดินมาได้ระยะหนึ่งเฟิงเหยียนกล่าวอย่างใจเย็น “ วิญญาณไม้แตกต่างจากวิญญาณไฟ วิญญาณไม้โจมตีไม่เก่ง แต่มีพลังชีวิตที่แข็งแกร่ง และเก่งในการรักษาและรักษาตัวเอง”จั๋วซือหรานคิด "ทำนาดีกว่า"อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการรักษาและความสามารถในการรักษาตนเองของนางไม่ได้แย่นัก นี่ไม

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 366

    เดิมทีจั๋วซือหรานยังคิดอยู่ว่านางพูดตรงเกินไปหรือเปล่า แม้ว่าคำพูดของนางยังไม่ทำให้ชายคนนั้นโกรธ แต่อย่างน้อยคำพูดของนางก็ส่งผลต่ออารมณ์ของเขาดังนั้นคนที่เงียบขรึมอยู่แล้วจึงเงียบมากขึ้นในขณะที่จั๋วซือหรานรู้สึกว่าท่านอ๋องอาจจะโกรธมาก และเขาจะไม่คุยกับนางอีกแล้ว นางก็คิดอยู่ว่านางควรจะพูดอะไรบางอย่างเพื่อเกลี้ยกล่อมเขาหรือไม่มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่จะให้นางเกลี้ยกล่อมศัตรู นางยอมตายมากกว่าแต่การเกลี้ยกล่อมเฟิงเหยียน...พูดตามตรง จั๋วซือหรานรู้สึกว่านางต้องไม่ใช่ข้อยกเว้น นางรู้สึกว่าตราบใดที่นางเห็นใบหน้าของเฟิงเหยียน และได้ยินเสียงของเขา ตราบใดที่เขาไม่ได้โกรธเกินไป นางก็จะทำตัวไม่สนใจได้ดังนั้นเมื่อมองใบหน้าของเขา จั๋วซือหรานสามารถเกลี้ยกล่อมเขาได้โดยไม่รู้สึกคับข้องใจใด ๆ เลยบางครั้งความหล่อเหลาของใบหน้าก็ไร้ยางอายมากเมื่อจั๋วซือหรานกำลังจะพูดอะไรเพื่อเกลี้ยกล่อมเขา"เจ้า..."ก่อนที่นางจะพูดได้ เฟิงเหยียนก็พูดด้วยว่า "เจ้าไม่เหมือนข้า คุณลักษณะของพลังวิเศษของตระกูลจั๋วแตกต่างจากพลังวิเศษของตระกูลเฟิง และคุณลักษณะของพลังวิเศษโดยกำเนิดของตระกูลนั้นก็แตกต่างจากพลังศักดิ์

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 367

    ปกติเฟิงเหยียนมักจะเป็นคนเงียบขรึม ดังนั้นเมื่อบุคคลเช่นนี้เริ่มพูดอย่างจริงจังซึ่งจะทำให้ผู้อื่นตั้งใจรับฟังเพราะหาได้ยากจริง ๆ ที่เขาพูดด้วยความจริงจังจั๋วซือหรานเริ่มจริงจังโดยไม่รู้ตัวนางฟังเสียงที่น่าดึงดูดใจของชายผู้นี้ เสียงนี้ช่างหอมหวนและมีเสน่ห์ ราวกับสุหร่าชั้นเลิศ เมื่อจับคู่กับดวงตาของเขาที่ลึกซึ้งและน่าดึงดูดยิ่งขึ้นในตอนกลางคืน“...จริง ๆ แล้วสิ่งที่เจ้าพูดในก่อนหน้านี้ว่า ปลูกพืช พืชเติบโตได้เร็วขึ้นนั้นจริง ๆ ความจริงนี่ขึ้นอยู่กับพลังชีวิตอันแข็งแกร่งของวิญญาณไม้เช่นกัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นในพืช แต่เนื่องจากความใกล้ชิดของสิ่งมีชีวิตนั้นได้สะท้อนให้เห็นในสัตว์จริง ๆ เช่นกัน”หลังจากได้ยินคำพูดนี้ จั๋วซือหรานเริ่มเกิดความสนใจ นางถาม " ท่านอ๋องหมายถึง การควบคุมสัตว์ประหลาดเช่นนั้นหรือ แต่นั่นเป็นความสามารถพิเศษเฉพาะตัวของตระกูลซางไม่ใช่หรือ""ใครกำหนดว่ามีเพียงตระกูลซางเท่านั้นที่สามารถควบคุมสัตว์ประหลาดได้... " หลังจากเฟิงเหยียนพูดจบ เขาก็ผิวปากเบา ๆ ซึ่งได้ยินอย่างชัดเจนในคืนที่เงียบสงบเดิมทีจั๋วซือหรานไม่ได้สังเกตถึงอะไรเลย แต่นางทราบดี เฟิงเหยียนจะไม่ทำอะไรที

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 368

    “ความผูกพันกับสิ่งมีชีวิต ความผูกพันนี้ไม่เหมือนทักษะภาษาสัตว์ของตระกูลซาง ตระกูลซางสามารถควบคุมสัตว์ประหลาดได้เพราะเขาสามารถสื่อสารกับพวกมันได้…”เฟิงเหยียนคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดต่อ "ความผูกพันโดยกำเนิดของวิญญาณไม้ของตระกูลจั๋วมีความสามารถที่จะทำให้... สัตว์ประหลาดคลายความป้องกันเฉพาะตัวโดยธรรมชาติ"เมื่อพูดเป็นเช่นนี้แล้ว จั๋วซือหรานจะไม่เข้าใจได้อย่างไรพูดง่าย ๆ ก็คือ ตระกูลซางอยู่กับสัตว์ประหลาดได้ เพราะการสื่อสาร ส่วนนางกับสัตว์ประหลาด... อาจจะนางสามารถทำให้สัตว์ประหลาดตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น นางไม่จำเป็นต้องสื่อสารกับสัตว์ประหลาดมากเกินไป ก็สามารถทำให้สัตว์เหล่านั้นใกล้ชิดนางแล้วนี่ก็เหมือนกับบางคนของชาติก่อน ๆ หากอยากเล่นกับแมวหรือสุนัข คนเหล่านี้แค่ผิวปาก และแมวและสุนัขก็จะเข้ามาหาเองแต่มีบางคนถึงแม้จะเตรียมอาหารให้ แมวและสุนัขก็ยังคงอยู่ห่าง ๆ เมื่อเห็นหน้าจั๋วซือหรานคิดอยู่สองสามวินาที นางยื่นมือออกไปหาม้าไฟสัตว์ประหลาดสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของนางอย่างเฉียบแหลม จากนั้นมันมองนางอย่างระมัดระวังสัตว์ประหลาดทางไฟทุกตัวมีอารมณ์ปานกลาง และบางตัวถึงกับหงุดหงิดมาก ดัง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 369

    เฟิงเหยียนเม้มริมฝีปากเล็กน้อย ดวงตาของเขายังคงลึกล้ำเช่นเคย แต่มองไม่ออกความเกลียดชังใด ๆ ในดวงตาคู่นั้นจั๋วซือหรานจะไม่เข้าใจความหมายของคำพูดของเฟิงเหยียนได้อย่างไรนางจงใจพูดอย่างนั้นซื่อจื่อคนนี้ไม่ใช่คนโง่เสียหน่อย แม้ว่าคนอื่นจะมองความผิดปกติของนางไม่ออก แต่เฟิงเหยียนเคยเห็นความสามารถหลากหลายของนางแล้ว เขาจะไมองไม่ออกได้อย่างไรสำหรับคนนอก ปืนและอาวุธเหล่านั้นเป็นเพียงของที่น่าทึ่งและแปลกประหลาด จะมองอย่างไร พวกมันก็ดูไม่เหมือนผลิตภัณฑ์ที่ทำจากเทคโนโลยีที่มีอยู่ในโลกนี้และพลังเหล่านั้นที่เห็นได้ชัดว่าพลังนั้นไม่ใช่พลังวิเศษใด ๆ ในใบโลกนี้ และพลังนั้นสามารถรักษาบาดแผลบนร่างกายของเขาที่ได้มากจากการทำร้ายตัวเองด้วย พลังวิเศษอันรุนแรงนั่นคือการรักษา ไม่ใช่การปราบปราม เขาใช้สิ่งต่าง ๆ ที่มีพลังเย็นมาโดยตลอด เขาดูดซับพลังเย็น เพื่อปกป้องร่างกายของเขาและทำให้อาการบาดเจ็บของเขาหายไปจริง ๆ นี่เป็นการปราบปรามมากกว่าการรักษาแต่จั๋วซือหรานนำมาให้เขาคือการเยียวยาที่แท้จริงนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาจึงมีโอกาศมองเห็นดวงอาทิตย์ได้แม้เป็นระยะเวลาหนึ่งนี่คือสิ่งที่เฟิงเหยียนเพิ่งตระห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 370

    คนหนึ่งยืนอยู่บนพื้น เงยหน้าขึ้นเล็กน้อยและฟังมีเพียงแสงสลัว ๆ จากผนังของสวนรอบข้างและโคมไฟที่แขวนอยู่ริมถนนเท่านั้นที่สะท้อนออกมา เช่นเดียวกับแสงจันทร์ที่ส่องสว่างชัดเจนแต่ภาพของทั้งสองคนในเวลานี้สวยงามมากจนไม่มีความงดงามชนิดใดเทียบภานี้ได้เฟิงเหยียนได้ยินเสียงอันไพเราะของเด็กหญิงคนนี้ เสียงที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มเล็กน้อยนั้นกระทบหูของเขา ทำให้เขาเกิดอาการคันอย่างไม่สามารถละเลยได้นางพูดว่า " ท่านอ๋อง ปกติแล้วข้าจะไม่ค่อยระวังกับคนหน้าตาดีเท่าไร ข้าชอบใบหน้าอันหล่อเหลาของท่านอ๋อง หากเราจะสู้กันจริง ๆ ข้าคงอ่อนให้เจ้าสามกระบวนท่าได้"หลังจากเฟิงเหยียนได้ยินสิ่งที่นางพูด เขาก็เห็นนางกระพริบตามาที่เขาเล็กน้อย หน้าตาของนางน่าเอ็นดูเหลือเกินเฟิงเหยียนมองนาง “เจ้ากล้าพูดเชียว ขอ่อนให้ข้าสามกระบวนท่า เจ้าต้องตายแน่ ๆ ”จั๋วซือหรานหัวเราะเสียงดังและพูดว่า "นี่คือเรื่องที่สองที่ข้าอยากจะพูดนะท่านอ๋อง"วินาทีต่อมา ร่างกายของเฟิงเหยียนก็เกร็งตึงเพราะหลังจากนางหัวเราะเสร็จ เฟิงเหยียนสังเกตเห็นว่าหูของเขาถูกบีบด้วยปลายนิ้วที่เย็นและนุ่มนวล และเขาก็ถูหูด้วยม่านตาของเฟิงเหยียนกระชับขึ้น

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 371

    สมองของจั๋วซือหรานว่างเปล่าในขณะนี้ดูเหมือนนางไม่ได้ยินอะไรอีกแล้ว นางได้ยินเพียงเสียงหัวใจเต้นดัง ๆ ของตัวเอง ราวกับว่ามันเต้นอยู่ข้างหูบูม! บูม! บูม!ดูเหมือนว่าทั้งหมดที่นางมองเห็นได้คือรูม่านตาที่ลึกและมืดมนของชายคนนั้น ซึ่งอยู่อย่างใกล้ชิดนางมาก แววตาของชายผู้นั้นเหมือนหลุมดำที่พยายามจะดูดนางเข้าไปนางเหมือนตัวเองสัมผัสได้เพียงอุณหภูมิที่ร้อนจัดของริมฝีปากและลิ้นของเขา เหมือนเขากำลังพยายามจุดไฟให้นางจั๋วซือหรานไม่รู้ด้วยซ้ำว่านางต้องมีการเคลื่อนไหวอย่างไรในชั่วขณะหนึ่ง ราวกับว่าร่างกายของนางถูกสั่งหยุดการเคลื่อนไหวส่วนเฟิงเหยียนเดิมทีเขาวางแผนที่จะลงโทษนางเล็กน้อย เพื่อตักเตือนนาง นางจะได้ทราบเขาเก่งเพียงใดใครจะรู้ว่าเมื่อเขาจูบริมฝีปากนั้น เขามีความรู้สึกเหมือนเขากำลังเสพยาเสพติดชนิดหนึ่งซึ่งทำให้เขารู้สึกว่าเขาไม่อยากปล่อยนางไปจริง ๆเดิมทีเขาวางแผนว่า เขาแค่จูบแล้วปล่อยนางไปทันที แต่สุดท้าย...เฟิงเหยียนยกมือขึ้นและเอามือดันด้านหลังศีรษะของนาง และจูบนางแรง ๆพูดได้เลยว่า เขาจูบนางอย่างรีบร้อนและควบคุมตัวเองไม่ได้จนกระทั่งจั๋วซือหรานต้องยกมือเล็ก ๆ อันไร้เรี

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1273

    แม้จะบอกว่าเป็นความฝัน แต่อันที่จริงจั๋วซือหรานก็ค่อยๆ เข้าใจแล้ว ว่าเพราะอะไรหลังจากฝันถึงเขาครั้งที่แล้วจนมาถึงครั้งนี้ นานมากแล้วที่ไม่ได้ฝันถึงเขาอีกพอมาคิดอย่างละเอียด เหมือนว่าตอนฝันถึงเขาครั้งที่แล้ว จะเป็นหลังจากที่นางมีสัมพันธ์ทางกายกับเขาดังนั้นจั๋วซือหรานจึงค่อยๆ เข้าใจ บางทีน่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้การดูดหยางบำรุงหยินของนางก็ดูดซับมาจนพอเข้าใจแล้ว เหมือนว่าพอดูดซับมาถึงระดับหนึ่ง ก็จะเกิด...ถ้าจะพูดว่าเป็นความฝัน สู้บอกว่าเป็นการสื่อสารทางจิตใต้สำนึกกับความทรงจำของเฟิงเหยียนส่วนที่ถูกผนึกไปจะดีกว่า?และไม่ว่าจะ 'ความฝัน' ครั้งที่แล้ว หรือว่าครั้งนี้ก็มองออกได้ไม่ยากเฟิงเหยียนน่าจะเข้าใจต่อสถานการณ์อยู่ ดังนั้นบางทีจิตใต้สำนึกเขายังคงอยู่มาตลอด เพียงแต่ถูกสมองทื่อๆ นี่กดเอาไว้ หรือบางทีคงถูกสภาผู้อาวุโสลงมือสะกดเอาไว้ไม่แน่ว่า อาจจะต้องมีชนวนเหตุบางอย่าง ถึงจะสามารถปลุกขึ้นมาได้จั๋วซือหรานอยากจะรู้ชนวนเหตุนั้นว่าคืออะไรกันแน่"ต้องทำยังไงเจ้าถึงจะดีขึ้นมา?" จั๋วซือหรานถามแต่เฟิงเหยียนกลับเหมือนจะจำจุดสำคัญนั้นไม่ได้แล้ว ขมวดคิ้ว สีหน้าดูเหมือนขมขื่น เหมือนว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1272

    ในห้วงฝันนางมองมือตัวเอง สับสนไปหมดทั้งตัว เหมือนยังตั้งตัวกลับมาไม่ได้เพราะนางถ้าไม่หลับลึก ก็จะเอาจิตใต้สำนึกส่งเข้าไปในมิติ จึงฝันน้อยครั้งมากดังนั้นตอนที่ดำดิ่งสู่ห้วงฝัน นางยังรู้สึกไม่คุ้นอยู่หน่อยๆ มองมือตนเอง รู้สึกไม่คอ่ยเป็นจริงสักเท่าไรวินาทีต่อมา มือข้างหนึ่งก็ทาบมาบนมือของนางมือข้างนั้น ข้อต่อกระดูกชัดเจน นิ้วเรียวยาว เล็บตัดมาดูสะอาดสะอ้าน ผิวหนังขาวซีดเย็นเหมือนไม่โดนแดดมานานสายตาของจั๋วซือหรานจ้องนิ่งอยู่บนมือข้างนี้ จากนั้นจึงค่อยๆ ยกขึ้นมามองไปยังเจ้าของมือนี้ ใบหน้าหล่อเหลาไม่มีที่ตินั่นทั้งที่เป็นใบหน้าที่เพิ่งเห็นไปก่อนหลับตาลงเมื่อครู่แท้ๆ แต่ตอนนี้พอมอง กลับยังคงทำให้นางรู้สึกเหมือนไม่เจอกันเสียนานสายตาของชายหนุ่มอบอุ่น ด้านในมีความรู้สึกอารมณ์เหมือนความเจ็บปวดแฝงอยู่"จั๋วเสียวจิ่ว..." เขาก้มหน้าลงเรียกนางจั๋วซือหรานมองเขา จากนั้นจึงออกแรงบีบมือเขา และน่าจะเพราะออกแรงมากเกินไปปลายเล็บจึงเหมือนจิกลงไปในเนื้อเขาฝันถึงเขาอีกแล้วจั๋วซือหรานมีปฏิกิริยาขึ้นมา ครั้งนี้เหมือนกับครั้งนั้นเลย ฝันถึงเฟิงเหยียนยิ่งไปกว่านั้นยังดูเหมือนจริงเป็นพิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1271

    กลางดึก จั๋วซือหรานกัดริมฝีปาก กอดหมอน เดินเท้าเปล่าจากห้องด้านนอกเข้าไปยังห้องด้านใน!คิ้วงามของนางขมวดแน่น สีหน้าที่มีสีเลือดฟื้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้กลับขาวซีดขึ้นมาในใจนางเองก็พูดไม่ออก เดิมทีตอนที่หลับก็ยังดีอยู่ พอกลางดึกจู่ๆ ก็ไม่ไหวขึ้นมาเสียแล้วหน้าอกปั่นป่วนอย่างรุนแรง เป็นความรู้สึกทรมานแบบที่นางผ่านมาก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยนถ้าบอกว่าคนคนนี้ไม่เข้ามาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ก็เข้ามาแล้วว่ากันว่าพอเคยสบายแล้ว จะยากที่จะกลับไปลำบากตอนนี้จะให้นางปล่อยชายหนุ่มที่เหมือนกับ 'ยาบำรุงครรภ์' นี้ไว้ข้างในเฉยๆ โดยไม่ใช้ แล้วต้องมานั่งทนกระอักเลือดต่อล่ะก็...ขอโทษด้วย สกุลจั๋วอย่างนางไม่ใช่คนประเภทนั้นนางเข้าใจแล้ว ก่อนที่จะหลับไปเมื่อคืนนี้ ตอนที่เฟิงเหยียนบอกว่าจะนอนด้านนอก ริมฝีปากที่เม้มแน่นนั้นกำลังอดกลั้นเรื่องอะไรน่าจะคิดไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้สารเลว!จั๋วซือหรานครั่นเนื้อครั่นตัวตื่นมากลางดึก ต่อให้เป็นคนที่มีสติเยือกเย็นแค่ไหน ก็ยังมีอาการหงุดหงิดงัวเงียหลังตื่นนอนนางเดินเท้าเปล่าเข้าไปห้องด้านใน อากาศในหุบเขาตอนกลางคืนเย็นมากนางสวมแค่เสื้อบางๆ ชุดหนึ่ง ทั้งตัวเย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1270

    แต่กลับรู้ตัวตนฐานะผู้ชายทรยศของเฟิงเหยียนได้ ไม่ต้องคิดเลยว่าคงเป็นจั๋วหวายพล่ามออกมาแน่"จั๋วหวายมาบอกเจ้าหรือ?" ปันอวิ๋นถามขึ้นคำหนึ่งจวงอี๋ไห่ พยักหน้าอย่างระมัดระวัง "คุณชายเสี่ยวหวายไม่หลอกข้าหรอก คุณชายเสี่ยวหวายบอกว่าเป็นผู้ชายทรยศ เช่นนั้นกว่าครึ่งก็ต้องเป็นผู้ชายทรยศแล้ว"ปันอวิ๋นถอนหายใจแผ่วเบาในห้อง จั๋วซือหรานนั่งลงข้างโต๊ะเฟิงเหยียนไม่พูดอะไร รินน้ำชาให้นางถ้วยหนึ่งจั๋วซือหรานกำถ้วยไว้ ใช้นิ้วมือลูบไล้ขอบถ้วยเบาๆ"อีกเดี๋ยวพออาหารส่งเข้ามา ก็กินสักหน่อยแล้วค่อยนอนพัก" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นแต่ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความหนักแน่นที่ห้ามปฏิเสธจั๋วซือหรานแหงนตามองเขา กำลังจะบอกว่ายังไม่หิวก็เห็นริมฝีปากบางของชายคนนี้เม้มเบาๆ เอ่ยเสียงต่ำว่า "ข้าไม่มีสิทธิ์จะมาหารือกับเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ..." สายตาเขาทอดลงไปที่ท้องน้อยนาง แววตาลึกซึ้งจากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า "แต่การจะเตือนให้เจ้ากินอะไรดีดีก็ยังพอมีสิทธิ์อยู่" สายตาเขายกขึ้นมาจากท้องน้อยจั๋วซือหรานเลื่อนมาที่ดวงตานาง จ้องมองดวงตานาง เอ่ยต่อว่า "ถึงอย่างไรเมื่อครู่ก็เพิ่งช่วยเจ้ากลับมา ยิ่งไปกว่นั้นเรื่องถูกพลังศักดิ์สิท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1269

    เขาไม่เพียงแต่ไม่ใช่สามีของนาง เขายังเป็นคู่หมั้นในนามของหญิงสาวคนอื่นอีกด้วยสีหน้าของเฟิงเหยียนแข็งทื่อไปแล้ว แต่ท้ายสุดก็ยังพูดอะไรไม่ออกเพราะในคำพูดจั๋วซือหราน ไม่มีส่วนที่ผิดเลยแม้แต่น้อยแม้จะบอกว่าเด็กคนนี้ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาก็ตามแต่ครั้งก่อนหน้านั้น เป็นเพราะจั๋วซือหรานถูกวางแผนร้ายใส่ ถึงทำให้นางสับสนหลงใหลจนมีสัมพันธ์กับเขาถ้าจะบอกว่า เขาเอาเปรียบหญิงสาวไป ก็ไมไ่ด้พูดเกินเลยนักเอาเปรียบหญิงสาว จนทำนางตั้งท้อง ไม่เคยจะมารับผิดชอบอะไรตอนนี้กลับจะมาชี้มือชี้ไม้เรื่องของนางพอสรุปมาแบบนี้ มันก็ช่าง...แย่มากจริงๆเฟิงเหยียนเองก็รู้ว่าตนเองนั้นแย่มาก พูดอะไรออกมาไม่ได้ไปชั่วขณะปันอวิ๋นรู้สึกกระอักกระอ่วนแทนสหายเก่า เขากระแอมออกมาเบาๆ ทีหนึ่ง ไกล่เกลี่ยขึ้นว่า "เอาล่ะเอาล่ะ..."เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ถึงอย่างไร ทั้งสองคนตอนนี้จะไม่ได้เป็นคู่รัก แต่ความสัมพันธ์แบบนี้...มันก็ดูคลุมเครือ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ นี่มันช่าง...ดังนั้นปันอวิ๋นเลยเปิดประเด็นขึ้น อึกอักในปากอยู่พักหนึ่ง กว่าจะพูดออกมาได้ "...พวกเจ้าหิวหรือยัง? ให้เหล่าจวนทำอะไรให้กินหน่อยดีไหม?"

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1268

    นางยืนเงียบๆ อยู่ตรงนั้น แหงนตาขึ้นมองพวกเขาสายตาของเฟิงเหยียนอึ้งไปเล็กน้อย เห็นนางยืนอยู่ในประตูด้วยสีหน้านิ่งขรึมเขารู้สึกลำคอแห้งผากอย่างประหลาด ความรู้สึกนั้น บางทีควรจะเรียกว่า...ตึงเครียดไหม?"เจ้า...ตื่นขึ้นมาตอนไหนน่ะ?" เฟิงเหยียนถามจั๋วซือหรานมองเขา "ไม่นานเท่าไร"เหมือจะมองออกถึงความกระอักกระอ่วนของเขา หรืออาจจะไม่สรุปคือ มุมปากจั๋วซือหรานยกขึ้นบางๆ พูดมาคำหนึ่ง "ท่านอ๋องน้อย ไม่เจอกันเสียนาน"นางทำแบบนี้โดยไม่เอ่ยถึงคำพูดก่อนหน้านั้นแม้แต่น้อยเฟิงเหยียนอ้าปากพะงาบ ต่อให้คิดจะพูดอะไร แต่ชั่วขณะหนึ่งก็เหมือนจะพูดออกมาไม่ได้จึงแค่ถามขึ้นอย่างเป็นห่วง "ดีขึ้นบ้างหรือยัง?"จั๋วซือหรานพยักหน้า "ดีขึ้นมากแล้ว"กระทั่งปันอวิ๋นก็ยังมองออกถึงเรื่องระหว่างพวกเขา ไม่รู้เพราะเจ้าสมองกลับนี่ไปแตะเนื้อต้องตัวทำอะไรนาง หรือเป็นเพราะคำพูดเมื่อครู่นางได้ยินคำพูดของเฟิงเหยียน...สรุปคือ ปันอวิ๋นมองพวกเขาทั้งสองคน แล้วก็รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแทนพวกเขาทั้งสองคนปันอวิ๋นคิดๆ ดู ตอนที่ตนเองอยู่กับจั๋วซือหรานก็ยังไม่ได้กลืนไม่เข้าคายไม่ออกขนาดนี้รู้สึกร้อนใจแทนเจ้าบ้านี่จร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1267

    เพราะเป็นเพื่อนสนิท ปันอวิ๋นจึงเข้าใจความหมายที่เขาคิดจะแสดงออกมาหรือก็คือ ปันอวิ๋นเดาได้นานแล้วบางทีตอนนั้นเพื่อจะให้จั๋วซือหรานหลีกเลี่ยงโชคชะตาเช่นนี้ ตนเองจึงเลือกที่จะลืมเลือนแต่สุดท้ายพอวกไปวนมา ก็กลับมาเดินอยู่บนเส้นทางเดิมเจ้าสิ่งที่เรียกว่าโชคชะตานี่ ลึกลับเอามากๆบางครั้งเหมือนจะมีเมตตา แต่บางครั้งก็เหมือนไม่เคยปราณีใครผู้ใด"แล้วเจ้าตอนนี้...คิดจะทำอย่างไร?" ปันอวิ๋นถามเขาจ้องเฟิงเหยียนตาไม่กระพริบเอาจริงๆ ปันอวิ๋นใช้มองจากมุมมองคนนอกอย่างมีเหตุมีผล ยังหวังว่าจั๋วซือหรานจะสามารถปล่อยวางได้แต่พอคิดถึงว่าถ้าหากจั๋วซือหรานปล่อยวางแล้วล่ะก็ ด้วยโชคชะตาภาชนะพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงของเฟิงเหยียน ผลสรุปสุดท้าย ก็คือตายก่อนวัยอันควรอยู่ดีและเพราะรู้เรื่องนี้ ดังนั้นปันอวิ๋นจึงหยุดไปครู่หนึ่ง เอ่ยเสริมมาคำนึง "ถังฉือเคยบอกข้าไว้ ในโถงวิญญาณอสูร พวกสัตว์เทพที่ถูกเก็บกลับมาเหล่านั้น..."ปันอวิ๋นขมวดคิ้ว คิดถึงคำพูดของถังฉือถังฉือมีบาปหนาจากการฆ่าฟันคนมากมาย กลายเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจไปแล้ว ถ้าหากไม่เย็นชาไร้หัวใจ ป่านนี้คงเป็นบ้าไปแล้วดังนั้นตอนที่เขาพูดถึงเรื่องเห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1266

    ปันอวิ๋นส่งให้เขาชามหนึ่ง ตนเองก็ด้วยทั้งสองคนไม่พูดพล่ามทำเพลง กระดกรวดเดียวจนหมดราวกับว่า สุราที่มาช้าไปหลายปีนี้ ในที่สุดก็ได้ดื่มเสียทีราวกับว่าภาพเด็กน้อยที่แอบขโมยสุราพวกนั้นมาดื่ม ซ้อนทับเข้ามากับพวกเขาในเวลานี้"ช่วงนี้เจ้า ไม่ได้ติดต่อกับพวกเขาเลยหรือ?"หลังจากร่ำสุราลงท้องไปสองชาม จิตใจก็เหมือนจะผ่อนคลายลงมาไม่น้อย ปันอวิ๋นถามขึ้นอย่างสบายๆ เป็นกันเองเฟิงเหยียนฟังออก ว่าเขาถามถึงเหล่าพี่น้องพวกนั้นเขาตอบอืมไปคำหนึ่ง "ไม่ได้ติดต่อกันเลย""เช่นนั้นก็คงไม่รู้สถานการณ์ของพวกเขาเลยสินะ" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นเฟิงเหยียนไม่ยอมรับหรือปฏิเสธกับสิ่งนี้ ถือว่ายอมรับไปกลายๆปันอวิ๋นยิ้มๆ เหมือนจะเย้ยหยันตนเอง "แต่ก็ไม่โทษพวกเขาที่ไม่ติดต่อเจ้า ด้วยสถานการณ์ของพวกเขาตอนนี้ ก็ไม่มีหน้ามาติดต่อเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ"ได้ยินคำนี้ของปันอวิ๋น เฟิงเหยียนก็ไม่พูดอะไรอีกปันอวิ๋นเอ่ยต่อว่า "ซงซีตอนนี้ทุกวันเหมือนขลุกอยู่แต่ในห้องหลอมสกัด หลอมสกัดอยู่ทุกวันไม่ได้พักเลย"เฟิงเหยียนพอได้ยินคำนี้ คิ้วก็ขมวดขึ้นบางๆ"เยี่ยนเหวย...ก็สูบเลือดออกมาทุกวัน อยู่แบบไม่เหมือนผู้เหมือนคน ผู้อาวุโสหวงจ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1265

    บางทีคงเป็นเพราะการคุยแบบเปิดอกก่อนหน้านี้ ทำให้ระยะทางขอเพื่อนสนิทสองคนที่เคยห่างไปตามกาลเวลา ย่อหดลงไปไม่น้อยเลยกระมังดังนั้นพอได้ยินปันอวิ๋นบอกว่าไม่ต้องขอบคุณ เฟิงเหยียนจึงเหลือบมองเขา น้ำเสียงเปลี่ยนไป "ก็ได้ เช่นนั้นก็ไม่ขอบคุณแล้วกัน"เฟิงเหยียนสั่งขึ้นมา "ไป ไปเอาสุรามาให้ข้าหน่อย"แม้จะพูดเช่นนี้ แต่ในเสียงกลับไม่ได้ออกคำสั่งอะไร ฟังแล้วเหมือนการใช้งานระหว่างเพื่อนกันมากกว่าปันอวิ๋นชะงักไปเล้กน้อย เพราะตอนพวกเขายังเด็ก ก็เคยใช้งานกันและกันแบบนี้ไป ไปเอาสุรามาหน่อยได้ งั้นเจ้าก็เอาปลาไปย่างซะข้าเห็นว่าเจ้าหน้าตาเหมือนปลาถ้าเจ้ายังพูดอีกรอบ จะโดนข้ากดจนจมถังสุราตายไปเลยเพราะคำพูดนี้ของเฟิงเหยียน ทั้งสองคนก็เหมือนกลับไปสมัยยังเด็กในชั่วพริบตาปันอวิ๋นยกมุมปากขึ้นบางๆ ลุกขึ้นไปให้คนรับใช้ส่งสุราเข้ามาคือสุราห้าพิษที่เขาจะหมักอยู่ทุกปี และใช้แมลงพิษมาหลอมจริงๆ แต่ตัวสุรากลับไม่มีพิษใดๆ กระทั่งยังหอมอบอวลเข้มข้นเป็นพิเศษ เป็นสุราที่หาได้ยากยิ่งและเป็นความลับที่ไม่เผยแพร่สู่ภายนอกของหุบเขาหมื่นพิษ ปกติมีแค่เจ้าหุบเขาที่รู้แต่ปันอวิ๋น หลังจากออกสำนักมา ก็ไม่ได้ด

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status