แชร์

บทที่ 234

ผู้เขียน: หูเทียนเสี่ยว
อาจเป็นเพราะบรรยากาศดีหรืออาจเป็นเพราะอาหารอร่อย สรุปก็คือชิ่งหมิงรู้สึกผ่อนคลายมาก

จั๋วซือหรานรินชาให้เขาแล้วพูดว่า "ลองดูสิ ข้าชงเอง"

ชิ่งหมิงยกถ้วยขึ้นและดื่มชา เขากระพริบตา เขารู้สึกค่อนข้างประหลาดใจ “กลิ่นหอมมากนัก ฝีมือของเจ้ายอดเยี่ยมมาก”

จั๋วซือหรานเลิกคิ้วแล้วมองเขา "ไม่ตื่นตระหนกแล้วนะ"

ชิ่งหมิงกลอกตาและพยักหน้า "ไม่... ได้ตื่นตระหนกขนาดนั้น"

“สรุปท่านตื่นตระหนกเมื่อหิว และผ่อนคลายเมื่อทานข้าวอิ่ม” จั๋วซือหรานถือถ้วยชาและพูด

“ขอบคุณสำหรับการต้อนรับของเจ้า” ชิ่งหมิงกล่าว “เดิมทีข้ามาที่นี่เพื่อเรื่องการหลอมอาวุธ”

ชิ่งหมิงคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดต่อ "แต่ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะแนะนำ... เพื่อนตัวน้อยให้ข้ารู้จัก"

เขามองจั๋วซือหรานอย่างจริงจังและพูดว่า "ข้ามีอายุมากแล้ว ข้าแก่กว่าเจ้า"

จั๋วซือหราน มองชิ่งหมิงอย่างจริงจังและพูดว่า "ไม่จริงแน่ ๆ "

สีหน้าของนางดูจริงจังมากจนชิ่งหมิงอดไม่ได้ที่ต้องหัวเราะ ดวงตาของเขาบิดเบี้ยว "ข้าจี๋กวาน"(สมัยก่อน เด็กชายจีนเมื่อมีอายุ 20 ปี ก็จะมีพิธีสวมเครื่องประดับบนศีรษะ เรียก จี๋กวาน )

จี๋กวาน นั่นหมายความว่า... อายุยี่สิบปีแล้วไม่ใช่หรือ

บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 235

    ชิ่งหมิงมองจั๋วซือหราน และไม่ตอบอะในไรทันทีทันใดนั้นเขาก็จำได้ว่า จั๋วซือหรานเคยถูกลงโทษในหน่วยสืบสวนพิเศษ และดูเหมือนว่า ในเวลานั้น ซือเจิ้งท่านนี้อยู่ในหตุการณ์นั้นชิ่งหมิงสงสัยว่านางมีข้อโต้แย้งต่อท่านซือเจิ้งอยู่ในใจหรือไม่?เพราะอยากที่นางกล่าว หากนางมีข้อโต้แย้งกับใครก็ตาม นางต้องแก้แค้นแน่ ๆชิ่งหมิงอดไม่ได้ที่ต้องโน้มน้าว "อย่า... มีความแค้นใด ๆ กับซือเจิ้ง ต้องรับ...สูญเสียมาก"เมื่อจั๋วซือหรานได้ยินคำพูดนี้ นางรู้ชิ่งหมิงกังวลอะไร นางก็หัวเราะทันที "ข้าแค่อยากรู้ ข้าจะกล้าไม่พอใจใต้เท้าซือเจิ้งได้อย่างไร"ตอนนี้นางไม่กล้าไม่พอใจ แต่ในอนาคต ก็ไม่แน่ใจนะจั๋วซือหรานนึกถึงชายที่สวมหน้ากากลายเปลวไฟสีแดงในตอนนั้น เขามองนางด้วยสายตาอันเย็นชาขณะที่นางกำลังถูกเหยียนชางใส่ร้ายและบังคับยอมรับความผิดนางยังอดไม่ได้ที่ต้องโกรธเล็กน้อยแต่ผู้ที่มีนิสัยบริสุทธิ์อย่างชิ่งหมิง เขาเป็นห่วงจั๋วซือหรานโดยไม่มีความคิดอย่างอื่น ดังนั้นแน่นอนว่าเขาฟังไม่ออกคำพูของจั๋วซือดหรานดังนั้นหลังจากได้ยินคำพูดของจั๋วซือหราน เขาก็พยักหน้าและกล่าวว่า "ใต้เท้าซือเจิ้งถูก...สภาผู้อาวุโส...แต่งตั้งโ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 236

    ชิ่งหมิงรู้สึกเขินอายเล็กน้อย "เพราะ... ข้าคิดว่าเจ้าน่าจะเก่งเรื่องการหลอมอาวุธ และ และหากเจ้าเรียนรู้วิธีหลอมอาวุธ เจ้าอาจสามารถเข้าลัทธิเดียวกับข้าได้ใน อนาคต. "ขณะที่เขาพูดอย่างนั้น ความเขินอายบนใบหน้าของชิ่งหมิงก็แสดงให้เห็นชัดเจนมากขึ้น "หากเป็นเช่นนั้น ข้าก็เป็นรุ่นพี่แล้ว"จั๋วซือหรานหัวเราะเมื่อนางได้ยินคำพูดที่ตรงไปตรงมาของเขา "อ้าว ขยันขนาดนี้ สรุปแค่เพื่อใช้ประโยชน์หรือ ไม่ต้องเรียกท่านเป็นพี่แล้ว ไหน ๆ ท่านสอนข้าหลอมอาวุธแล้ว.. ” จั๋วซือหรานจับคางของนางไว้ในมือข้างหนึ่ง นางยิ้มและมองเขา นางพูดว่า "... แล้วข้าจะเรียกท่านว่า อาจารย์น้อย เป็นอย่างไรเจ้าคะ"ใบหน้าเล็ก ๆ ที่สวยงามของนาง ด้วยท่าคางขี้เกียจและดวงตาที่ยิ้มแย้มของนาง นางเหมือนนางฟ้าที่มีเสน่ห์อย่างมากจากนั้นเห็นได้ชัดว่า ใบหน้าของชิ่งหมิง เปลี่ยนเป็นสีแดงจนแดงถึงคอของเขา “ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ได้ ข้าไม่มี ข้าไม่มีคุณสมบัติที่จะรับลูกศิษย์ได้”...อย่างไรก็ตาม อย่างไรก็ตาม ให้ข้าสอนเจ้าละกัน สนุกมาก”จั๋วซือหรานไม่คัดค้านเรื่องนี้ นางพยักหน้า "รับทราบเจ้าค่ะ บังเอิญว่าข้าก็ค่อนข้างสนใจหลอมอาวุธเช่นกัน"นางมีประส

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 237

    นี่คือใบหน้าที่ไม่มีอะไรผิดปกติ โครงร่างนั้นเฉียบคมและกล้าหาญ และใบหน้าก็ถือได้ว่าหล่อ แต่... มันทำให้ผู้คนรู้สึกจริงจังและตรงไปตรงมาตั้งแต่แรกเห็นความตรงไปตรงมานั้นดูเหมือนถูกจารึกไว้ในกระดูกเหมือนไม่มีรอยยิ้มใด ๆ บนใบหน้านี้แม้ว่าจั๋วหวายและฝูซูจะไม่รู้จักเจ้าของของใบหน้านี้ได้ แต่พวกเขาก็ไม่กล้าทำผิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่พวกเขารู้ตัวตนที่แท้จริงของชิ่งหมิง แม้ว่าพวกเขาจะไม่ทราบตัวตนเฉพาะของบุคคลที่อยู่ข้างหน้าพวกเขาก็ตาม พวกเขาสามารถเดาตัวตนโดยประมาณได้พวกเขารู้สึกได้ทันทีว่าเมื่อเทียบกับใบหน้าเสมือนก้อนน้ำแข็งตรงหน้า ชิ่งหมิงเป็นเด็กน่ารักที่เอาใจใส่ผู้อื่นจั๋วซือหรานตระหนักได้อย่างเป็นธรรมชาติว่าบุคคลนี้เป็นใครในขณะที่นางเห็นเขานางก้มตาแล้วยิ้ม "วันนี้จวนของข้าคึกคักจัง"ชายคนนั้นจ้องมองจั๋วซือหรานด้วยสายตาที่ไม่แยแส เขาพูดด้วยน้ำเสียงสงบมาก "ข้าเคยบอกเจ้าแล้วว่า เมื่อเจ้าสัญญากับ ชิ่งหมิง เจ้าต้องรักษาคำพูดของตัวเอง"จั๋วซือหรานพูดอย่างช่วยไม่ได้ "เพราะว่าช่วงนี้ข้ามีปัญหามากเกินไป"ใช่ ผู้มาเยือนไม่ใช่ใครนอกจากซือหลี่ตันติ่ง เวินป๋อยวนเสียงของเวินป๋อยวนยัง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 238

    ของที่บรรจุอยู่ในกล่องคือแมลงที่กำลังบิดตัวไป ๆมา ๆ และขยับตัวไปทางซ้ายและขวาในกล่อง มันกำลังพยายามหลีกเลี่ยงเลือดของนางนี่คือหนอนพิษกู่ที่จั๋วซือหรานไล่ออกจากร่างกายของไทเฮาในก่อนหน้านี้ นางเลี้ยงมันตลอดเวลา แต่นางแค่เลี้ยงมันโดยไม่ได้สนใจมันมากนักในทุกวันนี้ เนื่องจากนางยุ่งตลอด ดังนั้นนางจึงไม่มีเวลาดูแลมันแค่คืนนี้นางไม่รู้จะทำอะไรเลย นางเลยหยิบมันออกมา เล่นกับมัน เพราะนี่คือหนอนพิษกู่ที่มีเจ้าของแล้ว ดังนั้นมันต้านทานเลือดของคนอื่นที่ไม่ใช่เจ้าของของหนอนพิษกู่ แต่มันจำเป็นต้องพึ่งพาเลือดของจั๋วซือหราน เพื่อให้ตัวเองมีชีวิตต่อได้เพียงแต่ว่า ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา จั๋วซือหรานสังเกตหนอนพิษกู่นี้ปฏิเสธและต่อต้านเลือดของนางอย่างมาก และดูเหมือนว่ามันอยากจะอดอาหารมากกว่า จะได้ไม่สัมผัสเลือดของนางจั๋วซือหรานหันไปมองชายคนนั้น " ท่านอ๋อง ท่านรู้เกี่ยวกับลิทธิกู่ของดินแดนทางใต้หรือไม่"เฟิงเหยียนเดินไปเคียงข้างนางแล้ว และทันทีที่เขาลดสายตาลง เขาก็สบตากับดวงตาที่อันงดงามของนางเขาเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดเบาๆ “เจ้าลืมใครช่วยเจ้ากำจัดเสน่ห์หนอนพิษกู่หรือ”จั๋วซือหรานตกตะลึงเมื่อได้ย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 239

    " เฟิงเหยียน เจ้า..." จั๋วซือหรานไม่รู้เฟิงเหยียนกำลังทำอะไรอยู่จริง ๆ ตามความเข้าใจในทักษะทางการแพทย์ของนาง จั๋วซือหรานไม่เคยคิดเลยว่าเฟิงเหยียนกำลังรักษานางแต่หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง นางรู้สึกได้ชัดเจนว่ามีบางอย่าง... ถูกดึงออกจากร่างกายของนางจั๋วซือหรานกระพริบตาเล็กน้อย จากนั้นนางกระพริบอีกครั้ง และถามด้วยเสียงต่ำว่า "เจ้าทำอะไรไป"เนื่องจากพวกเขาอยู่ใกล้กันมาก หากพวกเขาพูดดังขึ้น พวกเขาก็จะกังวลว่าจะสัมผัสหรือรบกวนซึ่งกันและกัน ดังนั้นแม้แต่เสียงพูดของพวกเขาก็ลดลงเล็กน้อยโดยไม่ได้ตั้งใจมันค่อนข้างสนุกเมื่อได้เห็นหญิงสาวที่หยิ่งผยองพูดเบา ๆเสียงของเฟิงเหยียนก็เบาลงเช่นกัน "ไม่มีอะไร เพียงเพื่อไม่ให้เจ้าทำให้หนอนตาย"ลมหายใจที่เย็นชื่นใจและร้อนของชายคนนั้นสัมผัสทุก ๆ ส่วนของประสาทสัมผัสของนางจั๋วซือหรานอดไม่ได้ที่ต้องถาม "แล้ว... เสร็จหรือยัง"“เสร็จแล้ว” เฟิงเหยียนตอบ แต่เขาไม่ได้ขยับตัวห่างจากนางในเมื่อเขาจัดการเสร็จแล้วแต่หลังจากจั๋วซือหรานได้ยินคำตอบนี้ นางก็ตกตะลึงแล้วก้าวถอยหลัง“ลองดูสิ ตอนนี้มันคงไม่อดอาหารแล้ว” เฟิงเหยียนกล่าว และสีหน้าของเขาไม่เปลี่ยนไป ราวกั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 240

    ในตำหนักหนึ่งหลังของพระราชวัง บนเตียงอันหรูหราในตำหนัก เด็กหญิงคนหนึ่งที่กำลังหลับอยู่ก็ลืมตาขึ้นอย่างกะทันหัน นางก้มตัวลงและพิงที่ข้างเตียง "พัฟ——"เลือดเต็มปากพุ่งออกมาการเคลื่อนไหวของนางทำให้สาวใช้ในวังตื่นทันที เดิมทีสาวใช้คอนนี้ทกำลังเอนตัวอยู่ข้างเก้าอี้สำหรับวางเท้า เพื่อรอรับใช้ เมื่อได้ยินเสียงอ้วก สาวรับใช้จึงรีบเทียนทันทีและพูดว่า "องค์หญิง เกิดอะไรขึ้นเพคะ..."สาวใช้ในวังถือเชิงเทียนแล้วมองไปที่คนบนเตียง นางตกใจมาก แต่นางก็ไม่กล้าส่งเสียดัง"องค์หญิงเป็นอะไรไปเพคะ"เด็กผู้หญิงที่นอนอยู่ข้างเตียงเช็ดเลือดที่มุมริมฝีปากของนางด้วยผ้าเช็ดหน้าอย่างไม่ตั้งใจ ดวงตาของนางค่อย ๆ เย็นลงและเย็นชาลง และนางยิ้มอย่างไร้ความอบอุ่น“ไปเอากล่องจากตู้ข้าง ๆ มา” หญิงสาวสั่ง “อันที่มีลายสีน้ำเงิน”สีหน้าของสาวใช้วังเปลี่ยนไปทันที เห็นได้ชัดว่านางกลัวกล่องที่องค์หญิงพูดถึงมาก แต่นางไม่กล้าขัดคำสั่ง "หม่อมฉันรับทราบเพคะ"นางค่อย ๆ นำกล่องเคลือบที่มีฝีมือดีและลวดลายประณีตออกมาจากตู้ด้านข้างอย่างระมัดระวัง พื้นผิวของกล่องถูกแกะสลักด้วยลวดลายสีน้ำเงินทอง และมีเสียงการเคลื่อนไหวดังจากด้านใน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 241

    แต่จั๋วซือหรานจะไม่ยึดติดกับหนอนพิากู่ที่ไม่สำคัญหรอกนางโยนกล่องลงบนโต๊ะแล้วหันไปมองเฟิงเหยียน “ไม่ต้องพูดถึงมันอีกแล้ว”จั๋วซือหรานโค้งดวงตาของนาง นางมองไปที่เฟิงเหยียน " ท่านอ๋องคงไม่ได้ตั้งใจมาที่นี่เพื่อเล่นหนอนกับข้าหรอกนะ"เนื้อหาที่นางได้ยินจากเหยียนฉี นางให้หานกวงนำข้อความกลับไปให้เฟิงเหยียน เพียงเพราะนางอยากให้เฟิงเหยียนมาอธิบายให้นางฟังเองเฟิงเหยียนลดสายตาลงและจ้องมองไปที่หญิงสาวที่นั่งอยู่ที่โต๊ะ นางสวมชุดสีแดง และผมยาวของนางถูกมัดหลวม ๆ ไว้ข้างหลัง เมื่อมองแวบแรก รู้เลยว่าชุดที่นางใส่เป็นชุดที่สำหรับสวมไว้ในบ้านเพื่อความสบายมือข้างหนึ่งพยุงโต๊ะและจับคางของเขา แขนเสื้อที่กว้างมีพื้นผิวเรียบและเลื่อนไปที่ข้อศอกโดยตรง เผยให้เห็นปลายแขนที่เรียวยาวนางเงยหน้าขึ้นและมองเขา รอคำตอบจากเขามีเทียนอยู่ใกล้ ๆ เสียงเทียนดังขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งทำให้ไฟกระพริบสว่างขึ้น ๆ ลง ๆเฟิงเหยียนเหลือบมองไฟที่แตกกระจาย เหยียดนิ้วออกและเล่นไส้เทียนอย่างสบาย ๆ ราวกับว่าเขาไม่รู้สึกถึงอุณหภูมิของเปลวเทียนเลยหลังจากเขาเล่นกับมันสองสามครั้ง แสงเทียนก็สว่างมั่นคงจั๋วซือหรานรู้สึกการกระทำเช่น

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 242

    คำพูดของของเฟิงเหยียนทำให้จั๋วซือหรานเกิดความสนใจ นางเลิกคิ้วแล้วถามเขา "โอ้ ท่านอ๋องเดาออกและตัดสินได้อย่างไร หากข้าทำตามการเตรียมการและแผนต่อไปของเหล่าผู้อาวุโส หากข้าหมั้นกับเจ้าและทำตามขั้นตอนต่อไป...เจ้าเดาว่าจะเกิดอะไรขึ้น”เมื่อเขาได้ยินนางถามเช่นนี้ สีหน้าของเฟิงเหยียนไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ น้ำเสียงของเขายังคงสงบและต่ำ และเขาก็พูดว่า "ข้าเดาว่าคงเกิดเรื่องไม่ดี ดังนั้นข้าขอแนะนำเจ้าเป็นการส่วนตัว... " เขามองดวงตาของจั๋วซือหราน และพูดว่า "รีบหนี"จั๋วซือหรานไม่คิดว่าเขาจะซื่อสัตย์ขนาดนี้ เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ของเขาและสภาพที่น่าเศร้าของตระกูลเฟิง หากไม่มีใครสามารถช่วยเขาได้ เขาอาจจะตายตั้งแต่ยังเยาว์วัยภายใต้เลื่อนไขดังกล่าว เขายังแนะนำนางรีบหนี...ซึ่งทำให้จั๋วซือหรานอดไม่ได้ที่ต้องหัวเราะ " ท่านอ๋องจริงใจมาก" นางมองเขาด้วยสายตาที่คดเคี้ยว "เจ้าไม่กลัวความตายหรือ"เฟิงเหยียนมองดวงตาที่โค้งและโตของนาง จากลูกตาของนาง เขาไม่เห็นสัญญาณของการหดตัวเลย ในทางตรงกันข้าม นางเต็มไปด้วยความสนใจและกระตือรือร้น นางอยากลองดูมาก...เฟิงเหยียนเลิกคิ้วเล็กน้อยแล้วถามนาง "เจ้าไม่กลั

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1094

    ถ้าหากใช้ศพของคนล่ะ?แต่ถึงอย่างไรมันก็เป็นสิ่งต้องห้าม ดังนั้นตอนที่หุ่นเชิดร่างแรกถูกหลอมออกมา ปรมาจารย์วิชาเหยี่ยนคนนั้นกระทั่ง ปรมาจารย์วิชาเหยี่ยนคนนั้นก็พบกับการลงโทษที่รุนแรงยิ่งไปกว่านั้นหุ่นเชิดมนุษย์ก็ถูกตราว่าเป็นสิ่งต้องห้าม แต่ว่า ทักษะนี้ก็ปรากฏออกมาแล้วทักษะอะไรก็ตามพอปรากฏออกมาแล้ว ต่อให้จะถูกตีตราเป็นสิ่งต้องห้ามก็ตาม แต่ก็ยังมีคนที่แอบนำมาใช้งานกันอยู่ส่วนหุ่นเชิดความมืดตัวแรกนั้น...จั๋วซือหรานฟังถึงตรงนี้ก็เลิกคิ้วขึ้น "ดังนั้นเอาคนเป็นมาใช้ถึงจะกลายเป็นหุ่นเชิดความมืดสินะ"นางมองผู้เฒ่าเหอ "ข้าเป็นหมอ วิชาแพทย์เองก็ไม่เลวนัก บาดแผลที่เกิดขึ้นก่อนตายกับบาดแผลที่เกิดขึ้นหลายตายไปแล้ว ข้าเข้าใจเป็นอย่างดี"เจตนาที่จั๋วซือหรานพูดคำนี้ออกมานั้นง่ายมาก ก็คือจะพูดกับผู้เฒ่าเหอให้ชัดเจนถึงความหมายหนึ่ง...อย่าโกหกข้าผู้เฒ่าเหอเหลือบมองนางผาดหนึ่ง ตอนนี้จึงเอ่ยขึ้นเสียงเล็ก "ใช่แล้ว แค่นำคนเป็นมาทำ ก็จะเรียกว่าหุ่นเชิดความมืด แม้หุ่นเชิดความมืดจะถูกสั่งห้ามมาตลอด แต่ระหว่างปรมาจารย์วิชาเหยี่ยนด้วยกันก็มีการหารือกันมาตลอด หุ่นเชิดมนุษย์ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องควา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1093

    พอได้ยินคำพูดของจั๋วซือหราน ดวงตาผู้เฒ่าเหอถลึงตาโตกว่าเดิมไม่มีอะไรที่ที่จะยอดเยี่ยมไปกว่าคนที่เก่งรอบด้าน คำพูดส่งๆ ที่ว่า 'อันที่จริงข้าก็แค่เล่นๆ เท่านั้น ไม่เคยเรียนรู้จริงจังมาก่อนเลย' ยิ่งทำให้คนรู้สึกว่าถูกดูถูกมากขึ้นไปอีกแต่ผู้เฒ่าเหอถึงจะโกรธก็ไม่กล้าพูด ดูเหมือนกลั้นหายใจค้างอยู่ที่อก เข้าก็ไม่ได้ออกก็ไม่ได้ผ่านไปพักหนึ่งถึงหายใจได้คล่องหน่อยเหมือนเพิ่งจะได้ความสามารถในการพูดกลับมา"สิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดของวิชาหุ่นเชิดก็คือหุ่นเชิดความมืด และสิ่งที่สำคัญที่สุดของหุ่นเชิดความมืดก็คือตะปูวิญญาณ" ผู้เฒ่าเหอเอ่ยขึ้นหลังจากที่จั๋วซือหรานได้ยิน ก็เลิกคิ้วขึ้น ทำท่าเหมือนจะสนใจขึ้นมา "เล่าให้ละเเอียดหน่อย"ผู้เฒ่าเหอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน ในใจก็เกิดความคิดขึ้นเพียงแต่ความคิดเหล่านี้พอโผล่ขึ้นมาในใจ ก็ถูกจั๋วซือหรานทำลายลงทันที"ถึงอย่างไรเจ้าก็คิดจะดึงข้าไว้ที่นี่อยู่แล้ว เจ้าจะได้ให้กองหนุนจากสำนักเมฆาวารีเข้ามาสั่งสอนข้า ช่วยระบายให้กับเจ้าไม่ใช่หรือ" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น"ข้าเองก็ให้ความร่วมมือกับเจ้าได้ รอกองหนุนของเจ้าที่นี่เสียเลย" จั๋วซือหรานยกมุมปากเป็นร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1092

    ตอนที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้าม รู้สึกถึงแต่ความกดดันบีบคั้น ทว่ายืนอยู่ฝั่งตนเองก็ไม่เหมือนเดิม รู้สึกปลอดภัยอย่างสิ้นเชิงโดยเฉพาะ...ทำไมถึงเริ่มนับขึ้นมาล่ะ?ยิ่งไปกว่านั้น ในมือจั๋วซือหรานตอนนี้ ยังปรากฏตะปูยาวสีดำที่เต็มไปด้วยอักขระคำสาปแปลกประหลาดที่ดูแล้วลึกลับอย่างมากเล่มหนึ่ง!จากนั้นจึงเริ่มนับ "หนึ่ง""สอง"แล้วความเร็วการนับก็ไม่ได้ช้าเลย รู้สึกเหมือนไม่คิดจะให้คนได้ลังเลด้วยซ้ำจะยอมแพ้ หรือจะตาย ไม่มีตัวเลือกที่สามจะเจรจาหรือไม่เจรจา ไม่มีให้เห็นทั้งสิ้นผู้เฒ่าเหอ ตอนที่สายตาจับภาพตะปูยาวในมือจั๋วซือหรานได้ก็เปลี่ยนไปแล้ว ความหวาดกลัวตกตะลึงมหาศาลระเบิดขึ้นมาในดวงตากระทั่งตอนที่จั๋วซือหรานนับถึงสอง เขาก็รีบเอ่ยขึ้นว่า "ให้เจ้า! ให้เจ้าก็พอสินะ!"เสียงของผู้เฒ่าเหอแม้จะไม่ได้ต่ำขรึม แต่ก็ยังหนักแน่นแต่ตอนที่รีบตะโกนคำนี้ออกมา เสียงก็สั่นเครือราวกับกรีดร้องแหลมเหมือนกลัวว่าถ้าช้าไปสักนิดเดียว นางจะเอาตะปูประหลาดเล่มนั้นมาเล่นงานเขาดูแล้วพอเทียบกับการกลัวจั๋วซือหราน สู้บอกว่าเขากลัวตะปูในมือนางนั่นมากกว่าจั๋วซือหรานเลิกคิ้ว ตะปูยาวที่อยู่ระหว่างนิ้ว หมุนควงเหมื

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1091

    ผู้เฒ่าเหอก่อนหน้านี้เดิมทีถูกทำให้ตกใจจนสลบไปเท่านั้น ร่างกายไม่ได้บุบสลายแต่อย่างใดดังนั้นจึงได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว เพียงแต่ว่า หลังจากได้สติแล้วในใจยังไม่มีแผนรับมือ จึงทำได้แค่แกล้งนอนสลบไปบนพื้นต่อครุ่นคิดว่าควรจะรับมืออย่างไร แต่หญิงสาวคนนี้จะหลอกล่อก็หลอกไม่ได้ ทิฐิสูงไม่มีอ่อนข้อให้เลยจริงๆชั่วขณะหนึ่งก็ยากจะหาแผนการรับมือออกมาได้จึงทำได้แค่แกล้งสลบดึงเวลาออกไปก่อนดังนั้นผู้เฒ่าเหอจึงแกล้งนอนสลบอยู่บนพื้น ไม่ยอมลุกขึ้นมาเขายังคิดว่าจะไม่ถูกพบเสียอีก ฟังคำพูดเหล่านั้นของจั๋วซือหราน ฟังฟู่จาวหนิงชักชวนยุยงเหล่าคนคุ้มกันของเขาผู้เฒ่าเหอรู้สึกชิงชังในใจ!ตอนนี้เขาเองก็มีปฏิกิริยาขึ้นมาแล้ว ว่าคนคุ้มกันเหล่านี้ไม่ได้ทรยศหักหลังเขาแต่หญิงสาวคนนี้จงใจไว้ชีวิตพวกเขา ปล่อยพวกเขากลับมา...ใครจะรู้ว่านางคำนวณไว้แล้วหรือเปล่าว่าเขาจะไม่มีท่าทีที่ดีกับคนคุ้มกันเหล่านี้ ใครจะรู้ว่านางรอให้สถานการณ์แบบนี้ปรากฏขึ้นหรือเปล่า?!ผู้เฒ่าเหอในใจชิงชังนางอย่างมากแล้วยังแอบคิดในใจ ถึงอย่างไรหนังสือสารกรมธรรม์เจ้าพวกนี้ก็ยังอยู่ในมือเขาขอแค่หนังสือสารกรมธรรม์ยังอยู่ในมือเขา จั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1090

    จั๋วซือหรานไม่ตอบ แค่เลิกคิ้วขึ้นอย่างไม่ยอมรับหรือปฏิเสธหัวหน้าคนคุ้มกันออกแรงเม้มปาก ในดวงตาแดงก่ำขึ้นจั๋วซือหรานเอ่ยเสียงเรียบ "เดิมทีข้าคิดว่าเจ้าน่าจะเห็นแล้วว่าเจ้านายเจ้าเป็นพวกที่ไม่เห็นความสำคัญของชีวิตคน จะมองออกถึงดวงชะตาแล้ว ทั้งที่ผ่านความเป็นความตายมาแล้วก็น่าจะหวงแหนชีวิตขึ้นมาบ้างจึงจะถูก นี่เจ้ากลับเข้ามารนหาที่ตาย"หัวหน้าคนคุ้มกันริมฝีปากสั่นระริก "แม่นาง..."จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ "เอาล่ะ เลือกมา"พอได้ยินคำพูดของจั๋วซือหราน หัวหน้าคนคุ้มกันก็ตกตะลึง "อะ อะไรหรือ?""อยากจะรอดหรืออยากจะตาย" จั๋วซือหรานพลิกข้อมือ อาวุธเล่มหนึ่งปรากฏขึ้นกลางฝ่ามือ "ถ้าจะส่งเจ้าไปสบายมันง่ายดายมาก ไม่ใช่เรื่องลำบากเลย อย่าว่าแต่เจ้า พวกลูกน้องเหล่านี้ของเจ้า ข้าสังหารทั้งหมดได้แค่ในไม่กี่อึดใจ"พอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน หัวหน้าคนคุ้มกันที่ในดวงตาสงบนิ่งไปแล้วแท้ๆ แต่กลับเหมือนมีประกายของดวงดาวเปล่งปลั่งขึ้นมา"ยังมี...ชีวิตต่อได้หรือ?" ในน้ำเสียงของหัวหน้าคนคุ้มกันมีความหวังขึ้นมาแล้วจั๋วซือหรานเหลือบมองเขาผาดหนึ่ง "ได้ แต่มีสิ่งที่ต้องจ่าย""จ่ายด้วย...อะไรหรือ?"

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1089

    เพราะขนมชามมีไฟวิเศษเปลวเพลิงอู๋ซื่ออยู่ในตัว รูปร่างเดิมจึงกึ่งโปร่งใสถนัดการพรางตัวมากที่สุดและสภาพก่อนหน้านี้ การปรากฏตัวกะทันหันของจั๋วซือหราน ตอนที่ผู้เฒ่าเหอมีอาการสั่นไปทั้งตัวจากความผวาต่อตัวนาง แน่นอนว่าความสนใจทั้งหมดจึงพุ่งไปบนตัวนางจนไม่ทันได้สังเกตถึงการเคลื่อนไหวผิดปกติอื่น ดังนั้นจึงไม่รู้สึกตัวเลย ว่าแมลงกู่ที่ร่างกายกึ่งโปรงใสในปกติ และในตอนที่จำเป็นก็เพิ่มระดับความโปร่งใสได้อีก ตัวนี้ ไปเกาะอยู่บนไหล่เขาตั้งแต่เมื่อไรตอนนีเ้อง พอเห็นว่าร่างของผู้เฒ่าเหอล้มลงกะทันหันขนมชามก็รีบกระพือปีกน้อยทั้งสองนั่นขึ้นมา แม้จะบินไม่ได้เร็วหรือสูงนัก แต่การจะบินขึ้นมาจากจุดเดิมไม่ใช่ปัญหาใหญ่ตุบตุบ...ตุบตุบ...มาอยู่เบื้องหน้าจั๋วซือหราน หยุดลงข้างๆ หูแล้วจึงส่งเสียงจี๊ดๆ ขึ้นมาแต่ที่ได้ยินในหูจั๋วซือหราน ขนมชามกำลังบอกว่า "นายท่าน เขาสลบไปแล้ว"จั๋วซือหรานจุ๊ปากขึ้นมา "ชิ อ่อนแอเสียจริง""ใช่เลย" ขนมชามเห็นด้วยกับคำพูดของนายท่าน หลังจากนั้นก็ร่อนลงมาบนไหล่จั๋วซือหราน เอ่ยว่า "ทั้งที่ข้าเป็นคนที่ทนรับได้ง่ายที่สุดในกลุ่มพวกเราแล้วด้วยซ้ำ"จั๋วซือหรานคิดแล้วก็ขำ พูดอ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1088

    สีหน้าผู้เฒ่าเหอแข็งทื่อไป หลังจากตั้งสติกลับมาได้ สีหน้าก็เขียวจนซีดไป นี่นางกำลังตอบโต้เขาว่าก่อนหน้านี้ผายลมออกมาไม่ดังพอสินะ!ผู้เฒ่าเหอโมโหไม่พอใจ สูดลมหายใจลึก แล้วจึงสงบลงมาได้เขาจ้องจั๋วซือหราน "ใต้เท้าจั๋ว ท่านมาโดยไม่ได้รับเชิญถึงสองรอบ วางยาพิษลูกชายข้า ทำร้ายผู้ใต้บัญชาข้า นี่รังแกกันมากเกินไปแล้ว ทำไมหรือ? ขุนนางราชสำนักสามารถรังแกคนได้แบบนี้หรือไรกัน? คิดว่าต้าชางไม่มีกฏหมายหรือไร?"จั๋วซือหรานหลังจากได้ยินคำนี้ พูดออกมาแค่ว่า "เจ้าพูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไร?""ความหมายของข้าก็คือ..." ผู้เฒ่าเหอกำลังคิดจะพูดแต่เขายังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกจั๋วซือหรานตัดบทไปแล้ว "เจ้าคิดว่ายกเอากฏหมายออกมาแล้วจะช่วยชีวิตเจ้าได้เรอะ?""นี่เจ้า...!" ผู้เฒ่าเหอถลึงตาโตในดวงตาถลึงโตของเขา สะท้อนใบหน้ารอยยิ้มชั่วร้ายของจั๋วซือหราน "ในเมื่อเจ้ากล้าคิดวิธีมาทำร้ายข้า ก็คงจะเคยหาข่าวเรื่องข้ามาแล้ว คงเข้าใจในตัวข้าอยู่บ้างสินะ""ในเมื่อเจ้าเข้าใจตัวข้า ก็น่าจะชัดเจนว่า จั๋วจิ่วอย่างข้าไม่มีนิสัยที่ทำตามกฏระเบียบมาแต่ไหนแต่ไร" จั๋วซือหรานเหลือบตามองเขา"เจ้ายกกฏหมายขึ้นมามีประโยชน์อะไร? ต่อ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1087

    พอได้ยินเสียงนี้ที่ดังขึ้นกะทันหัน แล้วยังคุ้นหูขนาดนี้คุ้นหูจนทำให้ผู้เฒ่าเหอยังหลังเย็นวาบ จนถึงตอนนี้ ข้างหูเขาก็เหมือนยังได้ยินเสียงกรีดร้องของลูกชายอยู่เลย...ดังนั้น พริบตาที่ได้ยินเสียงนี้ เสียงของผู้เฒ่าเหอที่เดิมทียังกระฟัดกระเฟียด ก็หยุดลงไปทันทีทั่วทั้งลานเปลี่ยนเป็นเงียบสงัด!และเสียงใสเย็นของหญิงสาวคนนั้น ก็ดังลอดเข้ามาอีกครั้ง "เจ้าเองก็ลองผายลมเสียงดังๆ ให้ฟังหน่อยสิ"ผู้เฒ่าเหอก็เหมือนจะเพิ่งยืนยันได้ว่านี่ไม่ได้หูฝาด แต่เป็นเสียงของหญิงสาวคนนั้นจริงๆสีหน้าเปลี่ยนเป็นปั้นยากขึ้นมาทันทีและตอนนี้เองหัวหน้าคนคุ้มกันตระกูลเหอที่นอนหายใจรวยรินกันบนพื้น แม้แต่จะเหลือบตามองก็ยังสุดกำลัง ก็เลิกหนังตาขึ้น แล้วมองไปทางเสียงที่ดังลอดเข้ามาเหลือบมองออกไปอย่างสุดกำลังที่มีในสายตา เงาสีแดงร่างหนึ่ง ก็รวกับเป็นเปลวไฟกลุ่มหนึ่ง เผาไหม้เข้ามาจั๋วซือหรานยืนอยู่ตรงนั้น จากนั้น จึงก้มลงมองเขาผาดหนึ่งและสบตาเข้ากับเขาที่เงยขึ้นมาพอดีจั๋วซือหรานเลิกคิ้ว จุ๊ปากขึ้นมาทีหนึ่ง "ข้าเตือนพวกเจ้าแล้ว"หัวหน้าคนนี้เข้าใจความหมายในคำพูดของจั๋วซือหรานซึ่งก็จริง ก่อนหน้านี้นาง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1086

    "เจ้า...เจ้าเจ้า..." เสียงของคนคุ้มกันประตูตะกุกตะกักขึ้นมาเขาเห็นหญิงสาวตรงหน้าหรี่ตายิ้ม แต่กลับไม่รู้สึกว่าอบอุ่นเลย ซ้ำยังสัมผัสได้ถึงอาการเย็นวาบที่แผ่นหลังอีกด้วยก่อนหน้าที่จั๋วซือหรานจะมาถึงเมืองหยางหน่วยคนคุ้มกันที่ผู้เฒ่าเหอส่งออกมารับมือจั๋วซือหราน แต่กลับล้มเหลวแถมยังบาดเจ็บ ก็กลับมาถึงจวนตระกูลเหอแล้วพอรู้ว่าพวกเขากลับมาอย่างล้มเหลว แล้วตลับหุ่นเชิดยังถูกแย่งไปอีกด้วย ผู้เฒ่าเหอก็โมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงไม่ได้สนใจพวกคนคุ้มกันที่บาดเจ็บกลับมาเหล่านั้นเลย กระทั่งพวกเขาอันที่จิรงมีคนหนึ่งไม่ได้กลับมาด้วย ไม่รู้ว่าตายไปแล้วหรือยังแต่ภายใต้สถานการณืเช่นนี้ ผู้เฒ่าเหอเองก็ยังจะลงโทษพวกเขาก่อนหน้าที่จั๋วซือหรานจะมาถึงเมืองหยาง พวกเขาก็ถูกผู้เฒ่าเหอลงโทษด้วยแส้มาตลอดแรกสุดที่บาดเจ็บจากหมอกพิษที่ป่าทวนแสง แล้วยังรีบกลับมาอย่างสุดกำลัง บวกกับการลงแส้ของผู้นำตระกูลนี่อีกพวกเขาล้วนกลายเป็นธนูแผ่วปลายกันหมดแล้ว หายใจรวยรินและตอนนี้เอง ผู้เฒ่าเหอหยุดฟาดแส้ ไม่ใช่เพราะเห็นบาดแผลพวกเขาแล้วใจอ่อนลงมา แต่เป็นเพราะเอาแต่หวดแส้แบบนี้ ผู้เฒ่าเหอเองก็เหนื่อยขึ้นมาแล้วเท่านั้น

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status