แชร์

บทที่ 242

ผู้เขียน: หูเทียนเสี่ยว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-07-30 18:44:35
คำพูดของของเฟิงเหยียนทำให้จั๋วซือหรานเกิดความสนใจ นางเลิกคิ้วแล้วถามเขา "โอ้ ท่านอ๋องเดาออกและตัดสินได้อย่างไร หากข้าทำตามการเตรียมการและแผนต่อไปของเหล่าผู้อาวุโส หากข้าหมั้นกับเจ้าและทำตามขั้นตอนต่อไป...เจ้าเดาว่าจะเกิดอะไรขึ้น”

เมื่อเขาได้ยินนางถามเช่นนี้ สีหน้าของเฟิงเหยียนไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ น้ำเสียงของเขายังคงสงบและต่ำ และเขาก็พูดว่า "ข้าเดาว่าคงเกิดเรื่องไม่ดี ดังนั้นข้าขอแนะนำเจ้าเป็นการส่วนตัว... " เขามองดวงตาของจั๋วซือหราน และพูดว่า "รีบหนี"

จั๋วซือหรานไม่คิดว่าเขาจะซื่อสัตย์ขนาดนี้ เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ของเขาและสภาพที่น่าเศร้าของตระกูลเฟิง หากไม่มีใครสามารถช่วยเขาได้ เขาอาจจะตายตั้งแต่ยังเยาว์วัย

ภายใต้เลื่อนไขดังกล่าว เขายังแนะนำนางรีบหนี...

ซึ่งทำให้จั๋วซือหรานอดไม่ได้ที่ต้องหัวเราะ " ท่านอ๋องจริงใจมาก" นางมองเขาด้วยสายตาที่คดเคี้ยว "เจ้าไม่กลัวความตายหรือ"

เฟิงเหยียนมองดวงตาที่โค้งและโตของนาง จากลูกตาของนาง เขาไม่เห็นสัญญาณของการหดตัวเลย ในทางตรงกันข้าม นางเต็มไปด้วยความสนใจและกระตือรือร้น นางอยากลองดูมาก...

เฟิงเหยียนเลิกคิ้วเล็กน้อยแล้วถามนาง "เจ้าไม่กลั
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 243

    อาจเป็นเพราะความฝันนี้ไร้สาระมากจนเมื่อจั๋วซือหรานตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น นางก็ยังรู้สึกตลกอยู่บ้างในวันนั้นนางไม่ได้วางแผนที่จะไปไหน ดังนั้นนางจึงอยู่แต่ในบ้านและดูฉวนคูนทำงานที่พื้นที่โล่ง“คุณหนูขอรับ อากาศร้อน คุณหนูอย่าตากแดดเลยขอรับ เข้าไปในบ้านก่อนเถิด ข้าทำงานเสร็จแล้ว คุณหนูค่อยมาตรวจงานก็ได้” ฉวนคูนกล่าวจั๋วซือหรานไม่ได้สนใจตัวเองโดนแดด นางพูดว่า "ไม่เป็นไร เจ้าทำงานต่อเลย ข้าดูเฉย ๆ "ฉวนคูนเห็นคุณหนูไม่ยอมเข้าบ้าน เขาถอนหายใจยัง จากนั้นเข้าไปในบ้านและเอาเก้าอี้เตียงสั้นมาวางไว้ใต้ต้นไม้ใกล้ ๆ "เช่นนั้น คุณหนูนั่งตรงนี้เลยขอครับ ที่นี่เย็นกว่า"ไม่นานนัก แขกที่ไม่ได้รับเชิญก็เดินเข้ามาจากประตูทางเข้าอาการของจั๋วหรูซินนั้นดีกว่าตอนที่จั๋วซือหรานเจอที่ห้องโถงบรรพบุรุษนครั้งสุดท้าย แม้ว่านางไม่ได้ทำตัวหยิ่งเหมือนเมื่อก่อนอีก แต่อย่างน้อยสีหน้าของนางก็ไม่ได้ซีดเซียวเหมือนเมื่อเห็นในครั้งสุดท้ายเดิมทีจั๋วหรูซินคิดว่ามันคงไม่ง่ายนักที่จะเข้าจวนของจั๋วซือหรานได้ แต่นางไม่คาดคิดว่าจวนของจั๋วซือหราน ไม่มียามเฝ้าจวนสักคนเลย นางจึงเข้าไปข้างในได้อย่างราบรื่นมากจากนั้นน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-30
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 244

    จั๋วซือหรานมองจั๋วหรูซิน นางดูเหมือนยิ้มบ้าง แต่ก็ไม่ได้ยิ้ม"เช่นนั้นเขาค่อนข้างยุ่ง แต่ไม่ต้องกังวล อีกไม่นานก็จะไม่มีอะไรให้ยุ่ง"เมื่อมองดูสีหน้าอันยิ้มบ้างและไม่ยิ้มบางของจั๋วซือหราน จั๋วหรูซินรู้สึกกังวัลเล็กน้อยความภาคภูมิใจในตอนแรกเริ่มหายไปบ้าง “เจ้าไม่ต้องทำตัวขู่คน กาอนหน้านี้เจ้าบอกว่า ข้าต้องถูกกฏกระกูลลงโทษไม่ใช่หรือ ดูสิ เจ้าก็ไม่ได้เก่งสักเท่าไร ไม่เห็นคำพูดของเจ้าแม่นยำสักเท่าไร ข้ายังไม่ถูกกฏตระกูลลงโทษไม่ใช่หรือ ข้ารู้เจ้าไม่สบายใจเรื่องนี้มาก”สีหน้าของจั๋วซือหรานไม่ได้เปลี่ยนไปมากนักจั๋วหรูซินยื่นใบอะไรให้จั๋วซือหราน "พี่ชายให้ข้าเอามาให้ หากเจ้าไม่พอใจจริง ๆ เรามาแข่งขันกันในสนามฝึกฝนละกัน ถึงเวลานั้น ใครแพ้ คนผู้นั้นต้องยอมรับความพ่ายแพ้”เมื่อได้ยินคำพูดของจั๋วหรูซิน ในที่สุดจั๋วซือหรานก็อดหัวเราะไม่ได้จั๋วหรูซินโกรธเล็กน้อย "เจ้าหัวเราะทำไม"จั๋วซือหรานโบกมือและไม่ตอบ นางเพียงพยักหน้าใส่ฉวนคูน จากนั้นฉวนคูนก็เข้าไปรับใบเชิญจากจั๋วหรูซิน และมอบให้จั๋วซือหรานจั๋วซือหรานเหลือบมองใบเชิญนั้นอย่างไม่ให้ความสนใจมาก ใบเชิญนั้นถูกทำเครื่องหมายด้วยตราประจำตระก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-31
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 245

    ก่อนหน้านี้ จู่ ๆ จั๋วซือหรานก็นึกถึงงานเลี้ยงน้ำชาของอ๋องชินยวี่แม้ว่านางจะไม่รู้ว่าอ๋องชินยวี่ได้เตรียมกลอุบายอะไรไว้สำหรับงานเลี้ยงน้ำชานี้ แต่ในกรณีนี้ ปล่อยให้ศัตรูมารวมตัวกันจะดีกว่าเพียงแต่ด้วยความเกลียดชังที่จั๋วหรูซินมีต่อจั๋วซือหรานจั๋วซือหรานรู้สึกว่ายิ่งนางำม่ให้จั๋วหรูซินไปมากเท่าไร จั๋วหรูซิน ก็จะยิ่งไม่อยากไปมากเท่านั้นดังนั้น......“อย่าไปนะ ข้าไม่อยากเจอหน้าเจ้า” จั๋วซือหรานกล่าว“ข้าต้องไป” จั๋วหรูซินโกรธมากจั๋วซือหรานเม้มมุมของริมฝีปากขึ้นเล็กน้อยโดยจั๋วหรูซินไม่ทันสังเกต - ยั่วยุได้ผลแล้วจนจั๋วหรูซินออกจากจวนของจั๋วซือหราน นางยังสาปแช่งจั๋วซือหรานอยู่เลย นางสาปแช่งประมาณว่านางไปงานเลี้ยงน้ำชานี้ให้ได้หลังจากจั๋วหรูซินจากไปฉวนคูนซึ่งอยู่ใกล้ ๆ ระมัดระวังอย่างมากแม้จะหายใจ เขาก็ระวัดระวังมาก เพื่อทำให้ตัวเองไม่เด่นมาก เขาแทบจะหวังว่าเขาเป็นเพียงพืชในพื้นดินในขณะนี้ เขาจึงพูดกับจั๋วซือหรานว่า " คุณหนูหกติดกับดักแล้วจริง ๆ หรือ"จั๋วซือหรานมองา "ฮะ ใช่สิ เจ้ามองออกแล้วด้วย"“ใช่ขอรับ มันค่อนข้างชัดเจนขอรับ” ฉวนคูนพยักหน้า“หากเป็น ฝูซู เด็กคนนั้นอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-01
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 246

    “นางไม่ได้ก่อปัญหาอะไรใช่ไหม ข้าให้เจ้าไปหานาง เพื่อบรรเทาความสัมพันธ์อันแย่ระหว่างเจ้ากับจั๋วจิ่ว ” จั๋วหยุนชิน กล่าวจั๋วหรูซินรีบพยักหน้า "ข้าทราบเจ้าค่ะ ข้าไม่ได้สร้างปัญหาใด ๆ "เมื่อเห็นว่าใบหน้าของพี่ชายของนางดูเหมือนถูกปกคลุมไปด้วยเมฆดำ จั๋วหรูซินไม่กล้าพูดถึงงานเลี้ยงน้ำชานางเพียงพูดอย่างระมัดระวังว่า "ท่านพี่เจ้าคะ ท่านพี่ไม่ต้องกังวล ตราบใดที่ข้ามีคำแนะนำและยาเม็ดของท่านพี่ ข้าต้องสามารถเอาชนะจั๋วซือหรานได้ในการฝึกฝนอย่างแน่นอน ข้าจะไม่ทำให้ท่านพี่และท่านพ่อเสียหน้าแน่ ๆ "ปกติแล้ว เมื่อนางพูดเช่นนี้ สีหน้าของท่านพี่ต้องดูดีขึ้นหน่อยมิใช่หรือแต่จั๋วหรูซินเห็นใบหน้าของพี่ชายของนางยังคงถูกปกคลุมไปด้วยเมฆเช่นเดิม นางอดไม่ได้ที่ต้องถาม "ท่านพี่ เกิดอะไรขึ้น ท่านพี่ดูสีหน้าไม่ดีมาก"ทันใดนั้น จั๋วหรูซินจึงตระหนักด้วยว่า ไม่เพียงแต่ท่านพี่ของนางเท่านั้น แต่สีหน้าของท่านพ่อก็ไม่ได้ดูดีมากด้วย มันเป็นเพียงเพราะร่างกายของท่านพ่อของยังไม่ดีขึ้นหลังจากท่านพ่อถูกลงโทษตามกฎตระกูล สีหน้าของท่านพ่อเลยไม่ค่อยดีนัก ดังนั้น เมื่อครู่นี้ นางจึงไม่ได้สังเกตคุณท่านจั๋วลิ่วพูดด้วยน้ำเสี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-02
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 247

    คุณท่านจั๋วลิ่วตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งเมื่อได้ยินคำพูดของจั๋วหรูซิน "ใช่สิ จั๋วจิ่ว... "จั๋วหยุนชินขมวดคิ้วและมองคุณท่านจั๋วลิ่ว "ท่านพ่อ จั๋วจิ่วเคยตกลงเรื่องนี้กับตระกูลเหยียนหรือขอรับ""ใช่ มีข้อตกลงนี้จริง ๆ " คุณท่านจั๋วลิ่วนึกถึงการแข่งขันระหว่าง จั๋วซือหรานกับตระกูลเหยียน "นางถูกตระกูลเหยียนบีบบังคับ และเดิมพันสูงขึ้นเรื่อย ๆ นางไม่เพียงแต่ต้องการให้ศูนย์การแพทย์ตระกูลเหยียนปิดตัวลง แต่ยังให้ตระกูลเหยียนตอบสนองความต้องการของนางด้วย”จั๋วหยุนชินเยาะเย้ย "ข้าไม่คิดเลยว่ามีเงื่อนไขเช่นนี้ เช่นนั้นทุกอย่างง่ายขึ้น ไม่ต้องใช้ความพยายามมากเท่าไร และเมื่อมีนาง ไม่จำเป็นต้องกังวลระกูลเหยียนขึ้นราคายาอีก"เมื่อคุณท่านจั๋วลิ่วได้ยินคำพูดของจั๋วหยุนชิน เขาก็เดาแผนของเขาได้คร่าว ๆ แต่เขาก็ยังกังวลเล็กน้อย "แต่นางไม่ได้เป็นสมาชิกของสำนักงานใหญ่ของตระกูลอีกแล้ว และนางอาจจะรู้สึกขุ่นเคืองเพราะนางถูกกฎตระกูลลงโทษ นางคงไม่ฟังเราหรอกนะ”“เชอะ นั่นไม่ได้ขึ้นอยู่กับนาง” จั๋วหยุนชินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “นางใช้ทรัพยากรและชีวิตที่ตระกูลมอบให้นางมานานกว่าสิบปี นางควรช่วยเหลือตระกูล นางคิดว่าทุกอย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-03
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 248

    “สัญชาตญาณ สัญชาตญาณอะไร” ผู้อาวุโสห้าขมวดคิ้วและถาม เห็นได้ชัดว่านางไม่สนใจคำตอบสีหน้าของผู้อาวุโสใหญ่ยังคงเคร่งขรึม และเขาพูดอย่างสงบ "ข้ามีลางสังหรณ์ว่า หากคงบังคับสาวน้อยคนนั้นต่อ สักวันหนึ่งจะเกิดผลร้าย แต่ในเมื่อพวกเจ้าทุกคนคิดว่าแผนนี้ดี ข้าพูดอะไรก็ไม่ได้"ผู้อาวุโสสามขมวดคิ้ว "ข้าคิดว่าเจ้ากังวลมากเกินไป นางเป็นผู้หญิงและนางไม่มีสำนักงานใหญ่ของตระกูลที่จะพึ่งพา นางเป็นเพียงแหนที่ไม่มีกิ่งก้านให้พึ่งพา นางจะเปลี่ยนโลกหรือ หากเจ้าไม่อยากทำเรื่องนี้ ให้ข้าทำละกัน ข้าไปเป็นผู้ร้ายเอง ดีไหม”“แล้วแต่เจ้าเลย” ผู้อาวุโสใหญ่เลิกมองพวกเขาแล้วเดินจากไปผู้อาวุโสสามถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นผู้อาวุโสใหญ่ ที่เป็นคนที่ไม่เห็นด้วยกับพวกเขาจากไป เขาเริ่มปรึกษาแผนรับมือกับผู้อาวุโสท่านอื่น“...ใช่ ทำตามที่หยุนชินบอก ข้าจะไปที่นั่นเอง อย่างที่หยุนชิน บอก แม่และน้องชายของเด็กผู้หญิงคนนั้นก็อยู่ในบ้านทั้งคู่ ทำไมต้องกังวลว่านางไม่เชื่อฟังด้วย”จั๋วซือหรานไม่รู้ข่าวที่นี่นางอยู่ในบ้าน กำลังยุ่งกลั่นยาอย่างไม่เร่งรีบ ไม่เพียงแต่มียาเม็ดกู้หยวนและยาเม็ดเผยหยวนเท่านั้น แต่ยังมียาอื่น ๆ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-04
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 249

    “นางออกมาได้ด้วยหรือ”ไม่แปลกใจเลยที่จั๋วซือหรานนึกออกไม่ได้ในตอนแรก นางไม่คิดว่าหลิ่วเย่จะฟื้นตัวเร็วขนาดนี้และสามารถลุกจากเตียงได้ตอนนี้ฉวนคูนกล่าวว่า "หากคุณหนูไม่อยากเจอนาง ข้าจะให้นางออกไป"จั๋วซือหรานคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดว่า "ไม่ต้อง ให้นางเข้ามาเลย ข้าอยากฟังนางจะพูดอะไร"“รับทราบ”ฉวนคูนใช้เวลาครุ่หนึ่ง จึงพาบุคคลนั้นเข้ามา ไม่ใช่เพราะเขาช้า แต่เป็นเพราะอาการของหลิ่วเย่ นางเดินเร็วไม่ได้ นางเกือบต้องหยุดพักหลังจากเดินไปไม่กี่ก้าวฉวนคูนต้องสงสัย นางออกจากจวนจั๋วตั้งแต่เมื่อไร ใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะมาถึงที่นี่?ฉวนคูนกลัวเดินช้าเกินไป จะทำให้คุณหนูโกรธ เขาจึงพยอง หลิ่วเย่ และพูดว่า "ข้าพยุงเจ้าด้วยรีบไปกันเถิด อย่าให้คุณหนุรอนาน"หลิ่วเย่ไม่ปฏิเสธในที่สุด เดินถึงสวนหลังบ้านสักที หลิ่วเย่เห็นสาวสวยที่สวมชุดแดงนั่งอยู่บนขั้นบันไดหน้าห้อง สาวสวยผู้นี้เอาข้อศอกวางไว้บนเข่า เอาคางวางไว้บนฝ่ามือ มองดูนางอย่างไม่คิดอะไร"... คุณหนู" หลิ่วเย่เรียกสาวสวยผู้นี้จั๋วซือหรานยิ้มเบา ๆ และพูดว่า "ดูท่าทาง เจ้าฟื้นตัวได้ดีและลงเตียงเร็วจัง"หลิ่วเย่หายใจเข้าเล็กน้อย สีหน้าซีดเซี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-05
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 250

    นางไม่ได้ประหลาดใจหรือเหมือนในฝันเพราะได้รับความช่วยเหลือจากผู้อาวุโสใหญ่ แต่นางแค่รู้สึกมหัศจรรย์เล็กน้อย“ผู้อาวุโสใหญ่พูดเช่นนี้จริง ๆ หรือ” จั๋วซือหรานถามหลิ่วเย่พยักหน้า "ใช่ นี่เป็นคำพูดของท่านทั้งหมด"“คงต้องเกิดอาเพสอะไรสักอย่างแน่เลย…” จั๋วซือหรานพึมพำหลิ่วเย่กล่าวต่อ " ผู้อาวุโสใหญ่ยังมีประโยคหนึ่งด้วย ให้ข้าบอกคุณหนูด้วย"ไหน ๆ ก็พูดถึงเช่นนี้แล้ว จั๋วซือหรานถามนาง "ว่ามา"" ผู้อาวุโสใหญ่กล่าวว่า ท่านจะไม่เข้าร่วมในเรื่องเหล่านี้อีกต่อไป และจะไม่แสดงจุดยืนของท่านอีก ยิ่งไม่เข้าข้างพวกเขาด้วย ดังนั้น ท่านหวังว่าสักวันหนึ่ง เมื่อมีความจำเป็นอย่างยิ่ง หากเป็นไปได้ หวังว่าคุณหนูเห็นแก่หน้าของท่าน ช่วยตระกูลจั๋วหน่อยเจ้าค่ะ ”หลังจากได้ยินคำพูดนี้ ดวงตาของจั๋วซือหรานก็เปล่งประกายด้วยความประหลาดใจแม้ว่านางยังไม่เข้าใจผู้อาวุโสใหญ่มองเห็นอนาคตไกลแค่ไหนแต่จั๋วซือหรานมีร่องรอยและความทรงจำทั้งหมดที่เกี่ยวกับเส้นโชคชะตาของเจ้าของร่างเดิม ดังนั้นนางจึงรู้ว่าความกังวลของผู้อาวุโสใหญ่ไม่ใช่ไม่มีเหตุผล เพราะในเส้นโชคชะตาเจ้าของร่างเดิมนั้น ตระกูลจั๋วถูกทำลายจนเสียชีวิตไปหมด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-06

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 914

    ทุกคนรู้สึกว่านางผิด เพียงแค่เพราะ นางไม่ยอมทำตัวเป็นปกติเหมือนพวกเขาสายตาของเหยียนเจินเปล่งประกาย เอ่ยขึ้นว่า "จะไม่มีทางออกเลยหรือไร? ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็ไปเข้ากับจั๋วจิ่วเลย!"เหยียนฉีพอได้ยินก็ตกตะลึง งงงันไป "ได้...ได้หรือ? ตระกูลเหยียนกับนาง...ตอนนี้น่าจะอยู่ในสภาพไม่ตายไม่เลิกรากันแล้วกระมัง?""ตระกูลเหยียนก็คือตระกูลเหยียน" เหยียนเจินไม่แยแส "พวกเราถ้าออกจากตระกูลเหยียน เช่นนั้นความแค้นนั่นก็ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเรา ยิ่งไปกว่านั้นข้าก็มองออกถึงนิสัยจั๋วจิ่ว ขอแค่ไม่ผิดใจกับนาง นางก็จะไม่ทำอะไรคนอื่น"อดพูดไม่ได้ เหยียนเจินมองนิสัยจั๋วซือหรานออกจริงๆดังนั้น พ่อลูกตระกูลเหยียนคู่นี้ หลังจากที่หารือกันเสร็จคืนนี้เช้าวันถัดมาตอนที่ข่าวเรื่องจั๋วซือหรานถูกพระราชทานรางวัลลือมาถึงเมืองหลวง จึงออกจากตระกูลเหยียนไปเงียบๆสถานการณ์ของตระกูลเหยียนเป็นเช่นนี้ ตระกูลอื่นกลับเป็นอีกแบบหนึ่งบรรยากาศของตระกูลเฟิงตึงเครียดมากแต่สิ่งเหล่านี้ เฟิงเหยียนไม่คิดจะเข้าร่วม เขานั่งอยู่ตรงนั้น ไม่ว่าเหล่าผู้อาวุโสจะพูดอะไรกันเขาก็ไม่เข้าร่วมการสนทนาเลยสายตาเหม่อลอยหน่อยๆ ราวกับคิดถึงเรื่อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 913

    "เจ้าอย่ามาพูดให้เกินจริงนัก! ทุกคนรวมตัวกันอยู่ที่นี่ ไม่ใช่เพื่อมาฟังเจ้าพูดเกินจริง!""นั่นสิ ตระกูลฮั่วเพราะอะไรถึงได้ช่วยจั๋วจิ่วแบบนี้ เสี่ยงจะผิดใจกับตระกูลอื่นๆ อีก..."และก็มีเสียงคัดค้านไม่เชื่อปรากฏขึ้นเช่นกันแต่คนฉลาดก็หัวเราะเย็นชาขึ้นา "ใช่สิ ข้าพูดเกินจริงเองนั่นล่ะ พวกเจ้าเห็นว่าตระกูลฮั่วมันโง่สินะ"คนผู้นี้โมโหจนหัวเราะ "ตระกูลฮั่วถูกพวกเราสี่ตระกูลกดมาตั้งหลายปี! พวกเขาในสายตาพวกเราคืออะไร? ผู้ค่าข่าว ผู้จัดการโรงเตี๊ยม...หลายปีมานี้ถูกพวกเราสี่ตระกูลกดดัน""ตอนนี้พวกเขาได้เวลาเฉิดฉายแล้ว โดยไม่สิ้นเปลืองกำลังทหารอีกด้วย ก็แค่เพราะ...เดิมพันถูกกับความโดดเด่นของจั๋วจิ่วเท่านั้น! พวกเจายังคิดว่าเขาจะร่วมมือกับเราเพื่อแก้แค้นหรือ? พวกเรานั่นล่ะที่เป็นศัตรูของเขา!"พูดจบสิ่งเหล่านี้ เขาเองก็ขี้เกียจจะพูดไร้สาระกับคนเหล่านี้แล้วมีแค่วิธีเดียว ออกไป รีบออกไปจากตระกูลที่ไม่มียาอะไรจะช่วยได้แล้วนี่เสียคนผู้นี้ไม่ใช่ใครอื่น พ่อของเหยียนฉีนั่นเองในงานประชุมของตระกูลเช่นนี้ แม้ยังพูดเรื่องเหล่านี้ได้บ้าง แต่เพราะความตรงไปตรงมาและรุนแรงเกินไป ทำให้ก่อนหน้านี้มักจะก่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 912

    สิ่งเหล่านี้ จั๋วซือหรานล้วนไม่รู้เหมือนกับที่นางก็ไม่รู้ ว่าตอนนี้ในตระกูลเหล่านั้น ตอนนี้มีสภาพเช่นไรมันวุ่นวายยุ่งเหยิงแค่ไหนเพราะว่า ข่าวที่นางได้รับชัยไม่ใช่เพิ่งลือมาถึงเมืองหลวงเช้าวันนี้แม้จะบอกว่าเช้าวันนี้เพิ่งส่งมาถึงเมืองหลวง แต่ในฐานะตระกูลชั้นสูง เมื่อวานนี้ก็รู้ข่าวที่ค่ายคุ้มกันแล้วดังนั้นเมื่อคืนนี้ ตอนที่จั๋วซือหรานพักผ่อนอยู่ในค่ายคุ้มกันในเมืองหลวง ตระกูลต่างๆ กลับเป็นคนละแบบกันไปเลยในโถงใหญ่งานพิธีตระกูลเหยียน โคมไฟสว่างไสวบรรยายาศกลับตึงเครียด"ตอนนี้อย่างไรถึงจะดี..." คำถามแบบที่ไม่มีความเห็นแบบนี้และมีพวกที่อารมณ์รุนแรง ด่ากราดออกมาทันที "ถ้าไม่ใช่พวกเจ้าคิดแต่จะไปยุ่งกับตระกูลเฟิง คงไม่ทำให้จั๋วจิ่วผิดใจจนเป็นแบบนี้"มีคนไม่ค่อยยอมรับกับคำพูดนี้ "เจ้าพูดอะไรออกมา! จั๋วจิ่วนั่น! ตระกูลเหยียนของพวกเราผิดใจไปตั้งนานแล้ว! คนที่ผิดใจกับนางตอนแรกสุดคือพวกเรา! ตอนนี้ถ้าคิดจะถอยออกมามันทันเสียที่ไหน!""เพราะอะไรถึงไม่ทัน! ทำไมถึงจะไม่ทัน! เพราะอะไรถึงจะไม่ทัน! นางไปร่วมมือกับตระกูลฮั่วแล้ว! ยิ่งไปกว่านั้นจากที่ข้าเห็น ตระกูลจั๋วเหมือนจะต้องกระโจนขึ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 911

    ตอนนี้ข่าวที่รู้แน่ชัดแล้วคือ องค์จักรพรรดิเฒ่าจะส่งอำนาจพ่อค้าหลวงของตระกูลจั๋วให้กับนางวังสวนอุทยานหลิ่วพ่านของราชวงศ์เองก็ให้นางด้วยแล้วจากที่พูด กระทั่งจวนชินอ๋องอวี้กับสวนชิวอี ก็จะยอมยกให้นางด้วยแล้วยังมีข่าวที่มากกว่า เริ่มทยอยกันลือออกมา"ได้ยินว่าฝ่าบาทยังถามนางด้วยว่าจะแต่งงานกับอ๋องเซี่ยนหรือเปล่า!""ให้ตายเถอะ! นี่มันสุดยอดไปเลย""จริงด้วย ตระกูลเฟิงทำผิดกับนาง เอาจริงๆ จั๋วจิ่วคนนี้ควรจะไม่เหลือหน้าตาอีกแล้วสิ คิดไม่ถึงเลย ว่าฝ่าบาทถึงกับถามนางว่าจะแต่งงานกับอ๋องเซี่ยนไหม!""จะว่าไป สถานการณ์ตรงหน้านนี้ ชินอ๋องอวี้ท่าจะไม่ไหวแล้วมั๊ง เช่นนั้นหลังจากนี้...ไม่แน่ว่าอ๋องเซี่ยนก็จะเป็น...""จริงด้วย ถ้านางพยักหน้าล่ะก็ อนาคตจะไม่ใช่..."พระมารดาแห่งใต้หล้าหรือ!ตามหลักการ ตัวตนฐานะของจั๋วจิ่วเองก็ไม่ใช่ต่ำต้อย ตระกูลจั๋วเองก็ถือว่าเป็นครอบครัวตระกูลสูงปัญหาคือตอนนี้นางเป็นแค่หญิงสาวที่ถูกทอดทิ้งเท่านั้นพอบวกกับ ก่อนหน้านี้นางเคยหมั้นไปครั้งหนึ่ง ตัวนางเองก็โดนเสน่ห์หนอนพิษกู่จนต้องมาเสียใจที่แต่งงาน แล้วก็ยังเกือบจะได้แต่งงานไปครั้งหนึ่งด้วย ทำเอาพิธีแต่งงานวั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 910

    แต่พอคิดดู เขาจะไปทำอะไรแม่นางจิ่วได้กันล่ะ?ดังนั้นทุกคนจึงค่อนข้างวางใจ"เจ้าอยากจะรู้อะไร?"และไม่รู้เพราะเห็นจั๋วซือหรานไม่พูดอะไรเลย คนผู้นี้จึงถามนางขึ้นมาอย่างทนไม่ไหวจั๋วซือหรานยิ้มๆ "ไม่ต้องรีบ ตอนที่ข้าอยากรู้ ข้าจะถามเจ้าเอง""เจ้าตอนนี้ยังไม่อยากรู้หรือ?" สีหน้าของชายหนุ่มดูแล้วแปลกประหลาดสุดๆจั๋วซือหรานตอบเสียงเรียบ "ยังไม่ถึงเวลา รออีกหน่อยเถอะ"จั๋วซือหรานคิดๆ ถามไปคำหนึ่ง "จริงด้วย เจ้าชื่ออะไรล่ะ?"ชายหนุ่มก้มหน้าลงเล็กน้อย ดวงตาเป็นประกาย "ฮาร์วีย์ ข้าชื่อฮาร์วีย์"จั๋วซือหรานพยักหน้า เอ่ยเสียงต่ำเรียกชื่อนี้ขึ้นมา "ฮาร์วีย์หรือ? เข้าใจแล้ว"นางบอกกับเขาว่า "เจ้าก็ตามข้ามาแล้วกัน รอตอนที่ข้าอยากถาม ข้าจะถามเจ้าเอง"จั๋วซือหรานเดินมาถึงกระโจมค่าย ซือคงเซี่ยนเองก็เดินเข้ามาพอเห็นว่าด้านหลังนางมีคนแดนใต้ตามอยู่ ก็รู้สึกประหลาดใจหน่อยๆแต่ว่าซือคงเซี่ยนเองก็ไม่ได้ตกใจมากนัก แค่ถามขึ้นว่า "ซือหาาน ได้ยินว่าเจ้าจะไปส่งเสด็จพ่อกับเสด็จแม่ที่เมืองหลวงด้วยตนเองหรือ?""อืม" จั๋วซือหรานขานกลับเสียงแผ่ว "ถึงอย่างไรข้าก็จะไปเมืองหลวงอยู่แล้ว ถือโอกาสทำให้ไปเลย""

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 909

    บางครั้ง คำพูดร้ายๆ ก็ไม่จำเป็นต้องพูดขณะที่กำลังโกรธจัดถึงจะมีพลังทำร้ายประหัตประหารกระทั่งในบางโอกาศ พูดออกมาตอนที่ยิ้มๆ ยังมีพลังทำร้ายมากยิ่งกว่าอย่างเช่นตอนนี้ จั๋วซือหรานพูดออกมาด้วยรอยยิ้มตาหยีเช่นนี้ ยิ่งทำให้คนที่พูดว่านางสะกดคำว่าตายไม่เป็นก่อนหน้านี้ เกิดอาการเหงื่อแตกพลั่กขึ้นมาเขาอ้าปากพะงาบๆ ชั่วขณะหนึ่งไม่รู้ว่าควรจะตอบกลับคำนี้ของจั๋วซือหรานอย่างไรจั๋วซือหรานขี้เกียจจะสนใจเขา เอ่ยต่อมาว่า "ถ้าหากมีคนยอมบอกข้าล่ะก็ ข้าก็จะไว้ชีวิตนั้นไว้ โอ้จริงด้วย กระทั่งไม่แตะต้องแมลงกู่บนตัวเลยนะ"และหลังจากที่พวกเขาได้ยินคำนี้ของจั๋วจิ่วแล้วจึงเห็นนางนับจำนวนพวกเขาขึ้นมาอย่างไม่ค่อยตั้งใจนัก "พวกเจ้ามีสิบสี่คน แต่ข้ามีแมลงแค่เจ็ดตัว ก่อนหน้านี้กินไปที่ประตูค่ายแล้วตัวนึง เหลืออีกหกตัว เมื่อครู่กินของพวกเจ้าไปแล้วหกคน พวกเจ้ายังเหลืออีกแปดคนสินะ ทว่ามื้อต่อไปขอแค่เจ็ดคนก็พอ"นางคำนวณขึ้นมาอย่างไม่รีบไม่ร้อน จากนั้นจึงพยักหน้าเอ่ยว่า "เหลือไว้ได้คนนึงจริงๆ"เหล่าปรมาจารย์กู่แดนใต้ดูสิ้นหวังหน่อยๆ เพราะพวกเขาได้ยินคำพูดเมื่อครู่ของจั๋วซือหรานแล้วอะไรคือ...มื้อต่อไป?เจ้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 908

    ให้ใครมาเห็น ก็ล้วนไม่ใช่ภาพที่ชวนมองนักหน้าผากคนเหล่านี้ เส้นเลือดที่คอกับแขนขาไขกระดูก ราวกับมีอะไรบางอย่างกำลังมุดทะลวงอยู่อย่างไรอย่างนั้นจั๋วซือหรานรู้ ว่านั่นคือไหมกู่ของเจ้าพวกก้อนเนื้อ พวกมันเข้ากลืนกินแมลงกู่ทั้งหมดที่น่าจะซ่อนและบำรุงอยู่ตามเส้นลมปราณเส้นชีพจรของปรมาจารย์กู่คนเถื่อนเหล่านี้สำหรับคนทั่วไปแล้ว อาจจะไม่คิดว่านี่เป็นเรื่องใหญ่แต่สำหรับคนเถื่อนเหล่านี้แล้ว พวกเขาล้วนเป็นปรมาจารย์กู่นะ แมลงกู่ของพวกเขาล้วนเป็นรากฐานที่ทำให้ตนเองอยู่ได้อย่างมั่นคงไหนจะเรื่องที่แมลงกู่พวกนี้ต้องใช้เลือดเนื้อของตัวพวกเขาในการชุบเลี้ยง ยิ่งเป็นสิ่งที่พวกเขาให้ความสำคัญเข้าไปอีกตอนนี้ถูกแมลงกู่ของจั๋วจิ่ว กินกันอย่างเอร็ดอร่อยมื้อใหญ่...พวกเขาจะไม่โกรธได้อย่างไรแต่นอกจากความโกรธแล้ว ก็ยังมีความตกตะลึงอยู่ด้วยนางเป็นแค่หญิงสาวอายุน้อยคนหนึ่ง แล้วยังอยู่ในดินแดนต้าชาง แล้วไปฝึกวิชากู่มาจากไหน? ฝึกแมลงกู่ที่อหังการขนาดนี้ออกมาได้อย่างไร?เพราะ นางยัดเข้ามาในปากคนอื่นแบบนี้ ไม่ได้กังวลเลยว่าแมลงกู่ของตนเองจะมาเจอกับแมลงที่ร้ายกาจกว่าของตนเองสังหารหรือไม่นางไม่กังวลเลยสั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 907

    เอาจริงๆ เจ้าพวกนี้โอดครวญอยู่นานแล้วก่อนหน้านี้จั๋วซือหรานทนการโอดครวญของเจ้าพวกนี้ แล้วไปรักษาทหารบาดเจ็บคนนั้นนี่ทำให้จั๋วซือหรานเกิด...ความรู้สึกของหมอในสนามรบแล้วจริงๆหมอในสนามรบคนอื่นด้านนอกมีเสียงการล่าการสังหารแต่ในสมองนางมีเสียงพวกลูกๆ ทะเลาะกันจะเป็นจะตายจะว่าอย่างไรดี ถ้าว่าจากเรื่องมลภาวะทางเสียงก็ถือว่าพอๆ กัน สถานการณ์ที่นางเจอไม่ได้ด้อยกว่ากันเลย ยิ่งไปกว่านั้นจั๋วซือหรานยังรู้สึกว่า เนื่องจากเจ้าพวกแมลงสามารถกลิ้งไปกลิ้งมาในจิตสำนึกนางได้โดยตรงดังนั้น...บางทีสถานการณ์ที่ตนเองเผชิญจะดูรุนแรงกว่าการรบกวนที่พวกแพทย์สนามรบได้รับเสียอีกแมลงพวกนี้ไม่ได้จงใจเอะอะใส่นาง แต่ก่อนหน้านี้ที่นางยัดขนมชาเขียวเข้าไปในปากปรมาจารย์กู่ที่เตรียมจะระเบิดตัวเองคนนั้นหลังจากที่เก็บขนมชาเขียวกลับมา ขนมชาเขียวก็ดูอิ่มเอมมาก อดไปพูดให้เจ้าก้อนเนื้อตัวอื่นๆ ในมิติน้ำพุวิเศษฟังอย่างอดไม่อยู่ส่วนเจ้าพวกก้อนเนื้อจะว่าอย่างไรดี เพิ่งจะมีสติปัญญาขึ้นมาได้ไม่นานนัก จะมากน้อยก็ยังมีความคิดนิสัยแบบเด็กๆ อยู่ขนมชาเขียวพอเอาของอร่อยที่ผู้ปกครองซื้อให้กลับไปคุยโม้กับเพื่อนๆ คนอื่นในหั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 906

    แพทย์ทหารเอ่ยขึ้นเสียงต่ำ "ข้าข้ามีทักษะเช่นนี้...ทหารราบเหล่านั้นก็คงไม่ตายกันแล้ว..."เสียงของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด เขาประจักษ์กับตาแล้วถึงการเปลี่ยนสิ่งเน่าเสียกลายเป็นสิ่งอัศจรรย์ของแม่นางจั๋วจิ่วแล้วพอเห็นว่านางทำตัวราวกับเป็นช่างยอดฝีมือ จัดการเย็บช่องท้องของคนผู้นี้ราวกับเย็บกระเป๋าขาดยิ่งไปกว่านั้นยังจัดการรักษาส่วนที่บาดเจ็บของอวัยวะภายในไปแล้วด้วยนี่ทำให้เขาอดคิดไปถึงทหารที่ตายอย่างน่าเวทนาเหล่านั้น ต่อมาถูกก็ถูกพวกคนเถื่อนเอาหัวขึ้นไปแขวนบนคาน...เขาอดคิดไม่ได้เลย ถ้าหากตนเองมีฝีมือเสียหน่อย ไม่แน่คนเหล่นั้นอาจจะช่วยไว้ได้กระมังคำพูดนี้มีอารมณ์อยู่ด้วย เพราะตอนนี้อารมณ์ของเขาถูกส่งผลกระทบอยู่จริงๆแต่เสียงของจั๋วซือหรานกลับสงบ นางก้มหน้าพูดว่า "ไม่หรอก ถ้าหากเจ็บหนักเกินไป อย่างเช่นหัวขาดออกจากกัน ต่อให้เทพเจ้าก็ทำอะไรไม่ได้ แน่นอนว่าข้าเองก็ไม่มีวิธีเหมือนกัน ข้าเป็นแค่แพทย์ ไม่ใช่พระเจ้า"แม้คำพูดนี้จะดูใจเย็น ราวกับกำลังอธิบายข้อเท็จจริงอยู่ แต่คำพูดนี้ก็ยังทำให้แพทย์ทหารที่ยังรู้สึกโทษตัวเองอยู่ก่อนหน้านี้ อารมณ์ผ่อนคลายลงมาบ้างแล้วจั๋วซือหรานเย็บเข็มส

DMCA.com Protection Status