แชร์

บทที่ 244

ผู้เขียน: หูเทียนเสี่ยว
จั๋วซือหรานมองจั๋วหรูซิน นางดูเหมือนยิ้มบ้าง แต่ก็ไม่ได้ยิ้ม"เช่นนั้นเขาค่อนข้างยุ่ง แต่ไม่ต้องกังวล อีกไม่นานก็จะไม่มีอะไรให้ยุ่ง"

เมื่อมองดูสีหน้าอันยิ้มบ้างและไม่ยิ้มบางของจั๋วซือหราน จั๋วหรูซินรู้สึกกังวัลเล็กน้อย

ความภาคภูมิใจในตอนแรกเริ่มหายไปบ้าง “เจ้าไม่ต้องทำตัวขู่คน กาอนหน้านี้เจ้าบอกว่า ข้าต้องถูกกฏกระกูลลงโทษไม่ใช่หรือ ดูสิ เจ้าก็ไม่ได้เก่งสักเท่าไร ไม่เห็นคำพูดของเจ้าแม่นยำสักเท่าไร ข้ายังไม่ถูกกฏตระกูลลงโทษไม่ใช่หรือ ข้ารู้เจ้าไม่สบายใจเรื่องนี้มาก”

สีหน้าของจั๋วซือหรานไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก

จั๋วหรูซินยื่นใบอะไรให้จั๋วซือหราน "พี่ชายให้ข้าเอามาให้ หากเจ้าไม่พอใจจริง ๆ เรามาแข่งขันกันในสนามฝึกฝนละกัน ถึงเวลานั้น ใครแพ้ คนผู้นั้นต้องยอมรับความพ่ายแพ้”

เมื่อได้ยินคำพูดของจั๋วหรูซิน ในที่สุดจั๋วซือหรานก็อดหัวเราะไม่ได้

จั๋วหรูซินโกรธเล็กน้อย "เจ้าหัวเราะทำไม"

จั๋วซือหรานโบกมือและไม่ตอบ นางเพียงพยักหน้าใส่ฉวนคูน จากนั้นฉวนคูนก็เข้าไปรับใบเชิญจากจั๋วหรูซิน และมอบให้จั๋วซือหราน

จั๋วซือหรานเหลือบมองใบเชิญนั้นอย่างไม่ให้ความสนใจมาก ใบเชิญนั้นถูกทำเครื่องหมายด้วยตราประจำตระก
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 245

    ก่อนหน้านี้ จู่ ๆ จั๋วซือหรานก็นึกถึงงานเลี้ยงน้ำชาของอ๋องชินยวี่แม้ว่านางจะไม่รู้ว่าอ๋องชินยวี่ได้เตรียมกลอุบายอะไรไว้สำหรับงานเลี้ยงน้ำชานี้ แต่ในกรณีนี้ ปล่อยให้ศัตรูมารวมตัวกันจะดีกว่าเพียงแต่ด้วยความเกลียดชังที่จั๋วหรูซินมีต่อจั๋วซือหรานจั๋วซือหรานรู้สึกว่ายิ่งนางำม่ให้จั๋วหรูซินไปมากเท่าไร จั๋วหรูซิน ก็จะยิ่งไม่อยากไปมากเท่านั้นดังนั้น......“อย่าไปนะ ข้าไม่อยากเจอหน้าเจ้า” จั๋วซือหรานกล่าว“ข้าต้องไป” จั๋วหรูซินโกรธมากจั๋วซือหรานเม้มมุมของริมฝีปากขึ้นเล็กน้อยโดยจั๋วหรูซินไม่ทันสังเกต - ยั่วยุได้ผลแล้วจนจั๋วหรูซินออกจากจวนของจั๋วซือหราน นางยังสาปแช่งจั๋วซือหรานอยู่เลย นางสาปแช่งประมาณว่านางไปงานเลี้ยงน้ำชานี้ให้ได้หลังจากจั๋วหรูซินจากไปฉวนคูนซึ่งอยู่ใกล้ ๆ ระมัดระวังอย่างมากแม้จะหายใจ เขาก็ระวัดระวังมาก เพื่อทำให้ตัวเองไม่เด่นมาก เขาแทบจะหวังว่าเขาเป็นเพียงพืชในพื้นดินในขณะนี้ เขาจึงพูดกับจั๋วซือหรานว่า " คุณหนูหกติดกับดักแล้วจริง ๆ หรือ"จั๋วซือหรานมองา "ฮะ ใช่สิ เจ้ามองออกแล้วด้วย"“ใช่ขอรับ มันค่อนข้างชัดเจนขอรับ” ฉวนคูนพยักหน้า“หากเป็น ฝูซู เด็กคนนั้นอ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 246

    “นางไม่ได้ก่อปัญหาอะไรใช่ไหม ข้าให้เจ้าไปหานาง เพื่อบรรเทาความสัมพันธ์อันแย่ระหว่างเจ้ากับจั๋วจิ่ว ” จั๋วหยุนชิน กล่าวจั๋วหรูซินรีบพยักหน้า "ข้าทราบเจ้าค่ะ ข้าไม่ได้สร้างปัญหาใด ๆ "เมื่อเห็นว่าใบหน้าของพี่ชายของนางดูเหมือนถูกปกคลุมไปด้วยเมฆดำ จั๋วหรูซินไม่กล้าพูดถึงงานเลี้ยงน้ำชานางเพียงพูดอย่างระมัดระวังว่า "ท่านพี่เจ้าคะ ท่านพี่ไม่ต้องกังวล ตราบใดที่ข้ามีคำแนะนำและยาเม็ดของท่านพี่ ข้าต้องสามารถเอาชนะจั๋วซือหรานได้ในการฝึกฝนอย่างแน่นอน ข้าจะไม่ทำให้ท่านพี่และท่านพ่อเสียหน้าแน่ ๆ "ปกติแล้ว เมื่อนางพูดเช่นนี้ สีหน้าของท่านพี่ต้องดูดีขึ้นหน่อยมิใช่หรือแต่จั๋วหรูซินเห็นใบหน้าของพี่ชายของนางยังคงถูกปกคลุมไปด้วยเมฆเช่นเดิม นางอดไม่ได้ที่ต้องถาม "ท่านพี่ เกิดอะไรขึ้น ท่านพี่ดูสีหน้าไม่ดีมาก"ทันใดนั้น จั๋วหรูซินจึงตระหนักด้วยว่า ไม่เพียงแต่ท่านพี่ของนางเท่านั้น แต่สีหน้าของท่านพ่อก็ไม่ได้ดูดีมากด้วย มันเป็นเพียงเพราะร่างกายของท่านพ่อของยังไม่ดีขึ้นหลังจากท่านพ่อถูกลงโทษตามกฎตระกูล สีหน้าของท่านพ่อเลยไม่ค่อยดีนัก ดังนั้น เมื่อครู่นี้ นางจึงไม่ได้สังเกตคุณท่านจั๋วลิ่วพูดด้วยน้ำเสี

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 247

    คุณท่านจั๋วลิ่วตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งเมื่อได้ยินคำพูดของจั๋วหรูซิน "ใช่สิ จั๋วจิ่ว... "จั๋วหยุนชินขมวดคิ้วและมองคุณท่านจั๋วลิ่ว "ท่านพ่อ จั๋วจิ่วเคยตกลงเรื่องนี้กับตระกูลเหยียนหรือขอรับ""ใช่ มีข้อตกลงนี้จริง ๆ " คุณท่านจั๋วลิ่วนึกถึงการแข่งขันระหว่าง จั๋วซือหรานกับตระกูลเหยียน "นางถูกตระกูลเหยียนบีบบังคับ และเดิมพันสูงขึ้นเรื่อย ๆ นางไม่เพียงแต่ต้องการให้ศูนย์การแพทย์ตระกูลเหยียนปิดตัวลง แต่ยังให้ตระกูลเหยียนตอบสนองความต้องการของนางด้วย”จั๋วหยุนชินเยาะเย้ย "ข้าไม่คิดเลยว่ามีเงื่อนไขเช่นนี้ เช่นนั้นทุกอย่างง่ายขึ้น ไม่ต้องใช้ความพยายามมากเท่าไร และเมื่อมีนาง ไม่จำเป็นต้องกังวลระกูลเหยียนขึ้นราคายาอีก"เมื่อคุณท่านจั๋วลิ่วได้ยินคำพูดของจั๋วหยุนชิน เขาก็เดาแผนของเขาได้คร่าว ๆ แต่เขาก็ยังกังวลเล็กน้อย "แต่นางไม่ได้เป็นสมาชิกของสำนักงานใหญ่ของตระกูลอีกแล้ว และนางอาจจะรู้สึกขุ่นเคืองเพราะนางถูกกฎตระกูลลงโทษ นางคงไม่ฟังเราหรอกนะ”“เชอะ นั่นไม่ได้ขึ้นอยู่กับนาง” จั๋วหยุนชินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “นางใช้ทรัพยากรและชีวิตที่ตระกูลมอบให้นางมานานกว่าสิบปี นางควรช่วยเหลือตระกูล นางคิดว่าทุกอย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 248

    “สัญชาตญาณ สัญชาตญาณอะไร” ผู้อาวุโสห้าขมวดคิ้วและถาม เห็นได้ชัดว่านางไม่สนใจคำตอบสีหน้าของผู้อาวุโสใหญ่ยังคงเคร่งขรึม และเขาพูดอย่างสงบ "ข้ามีลางสังหรณ์ว่า หากคงบังคับสาวน้อยคนนั้นต่อ สักวันหนึ่งจะเกิดผลร้าย แต่ในเมื่อพวกเจ้าทุกคนคิดว่าแผนนี้ดี ข้าพูดอะไรก็ไม่ได้"ผู้อาวุโสสามขมวดคิ้ว "ข้าคิดว่าเจ้ากังวลมากเกินไป นางเป็นผู้หญิงและนางไม่มีสำนักงานใหญ่ของตระกูลที่จะพึ่งพา นางเป็นเพียงแหนที่ไม่มีกิ่งก้านให้พึ่งพา นางจะเปลี่ยนโลกหรือ หากเจ้าไม่อยากทำเรื่องนี้ ให้ข้าทำละกัน ข้าไปเป็นผู้ร้ายเอง ดีไหม”“แล้วแต่เจ้าเลย” ผู้อาวุโสใหญ่เลิกมองพวกเขาแล้วเดินจากไปผู้อาวุโสสามถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นผู้อาวุโสใหญ่ ที่เป็นคนที่ไม่เห็นด้วยกับพวกเขาจากไป เขาเริ่มปรึกษาแผนรับมือกับผู้อาวุโสท่านอื่น“...ใช่ ทำตามที่หยุนชินบอก ข้าจะไปที่นั่นเอง อย่างที่หยุนชิน บอก แม่และน้องชายของเด็กผู้หญิงคนนั้นก็อยู่ในบ้านทั้งคู่ ทำไมต้องกังวลว่านางไม่เชื่อฟังด้วย”จั๋วซือหรานไม่รู้ข่าวที่นี่นางอยู่ในบ้าน กำลังยุ่งกลั่นยาอย่างไม่เร่งรีบ ไม่เพียงแต่มียาเม็ดกู้หยวนและยาเม็ดเผยหยวนเท่านั้น แต่ยังมียาอื่น ๆ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 249

    “นางออกมาได้ด้วยหรือ”ไม่แปลกใจเลยที่จั๋วซือหรานนึกออกไม่ได้ในตอนแรก นางไม่คิดว่าหลิ่วเย่จะฟื้นตัวเร็วขนาดนี้และสามารถลุกจากเตียงได้ตอนนี้ฉวนคูนกล่าวว่า "หากคุณหนูไม่อยากเจอนาง ข้าจะให้นางออกไป"จั๋วซือหรานคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดว่า "ไม่ต้อง ให้นางเข้ามาเลย ข้าอยากฟังนางจะพูดอะไร"“รับทราบ”ฉวนคูนใช้เวลาครุ่หนึ่ง จึงพาบุคคลนั้นเข้ามา ไม่ใช่เพราะเขาช้า แต่เป็นเพราะอาการของหลิ่วเย่ นางเดินเร็วไม่ได้ นางเกือบต้องหยุดพักหลังจากเดินไปไม่กี่ก้าวฉวนคูนต้องสงสัย นางออกจากจวนจั๋วตั้งแต่เมื่อไร ใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะมาถึงที่นี่?ฉวนคูนกลัวเดินช้าเกินไป จะทำให้คุณหนูโกรธ เขาจึงพยอง หลิ่วเย่ และพูดว่า "ข้าพยุงเจ้าด้วยรีบไปกันเถิด อย่าให้คุณหนุรอนาน"หลิ่วเย่ไม่ปฏิเสธในที่สุด เดินถึงสวนหลังบ้านสักที หลิ่วเย่เห็นสาวสวยที่สวมชุดแดงนั่งอยู่บนขั้นบันไดหน้าห้อง สาวสวยผู้นี้เอาข้อศอกวางไว้บนเข่า เอาคางวางไว้บนฝ่ามือ มองดูนางอย่างไม่คิดอะไร"... คุณหนู" หลิ่วเย่เรียกสาวสวยผู้นี้จั๋วซือหรานยิ้มเบา ๆ และพูดว่า "ดูท่าทาง เจ้าฟื้นตัวได้ดีและลงเตียงเร็วจัง"หลิ่วเย่หายใจเข้าเล็กน้อย สีหน้าซีดเซี

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 250

    นางไม่ได้ประหลาดใจหรือเหมือนในฝันเพราะได้รับความช่วยเหลือจากผู้อาวุโสใหญ่ แต่นางแค่รู้สึกมหัศจรรย์เล็กน้อย“ผู้อาวุโสใหญ่พูดเช่นนี้จริง ๆ หรือ” จั๋วซือหรานถามหลิ่วเย่พยักหน้า "ใช่ นี่เป็นคำพูดของท่านทั้งหมด"“คงต้องเกิดอาเพสอะไรสักอย่างแน่เลย…” จั๋วซือหรานพึมพำหลิ่วเย่กล่าวต่อ " ผู้อาวุโสใหญ่ยังมีประโยคหนึ่งด้วย ให้ข้าบอกคุณหนูด้วย"ไหน ๆ ก็พูดถึงเช่นนี้แล้ว จั๋วซือหรานถามนาง "ว่ามา"" ผู้อาวุโสใหญ่กล่าวว่า ท่านจะไม่เข้าร่วมในเรื่องเหล่านี้อีกต่อไป และจะไม่แสดงจุดยืนของท่านอีก ยิ่งไม่เข้าข้างพวกเขาด้วย ดังนั้น ท่านหวังว่าสักวันหนึ่ง เมื่อมีความจำเป็นอย่างยิ่ง หากเป็นไปได้ หวังว่าคุณหนูเห็นแก่หน้าของท่าน ช่วยตระกูลจั๋วหน่อยเจ้าค่ะ ”หลังจากได้ยินคำพูดนี้ ดวงตาของจั๋วซือหรานก็เปล่งประกายด้วยความประหลาดใจแม้ว่านางยังไม่เข้าใจผู้อาวุโสใหญ่มองเห็นอนาคตไกลแค่ไหนแต่จั๋วซือหรานมีร่องรอยและความทรงจำทั้งหมดที่เกี่ยวกับเส้นโชคชะตาของเจ้าของร่างเดิม ดังนั้นนางจึงรู้ว่าความกังวลของผู้อาวุโสใหญ่ไม่ใช่ไม่มีเหตุผล เพราะในเส้นโชคชะตาเจ้าของร่างเดิมนั้น ตระกูลจั๋วถูกทำลายจนเสียชีวิตไปหมด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 251

    ฉวนคูนรีบกระโดดขึ้นและไปเตรียมม้า เขายังถามจั๋วซือหราน ต้องการใช้รถม้าไหมจั๋วซือหรานคิดอยู่พักหนึ่งแล้วตอบ "ไม่ต้องก็ได้ สวมอาน ข้าขี่ไปที่นั่นเอง จะได้ถึงเร็ว ๆ ข้าต้องรีบไปรีบกลับ มิเช่นนั้น เดี๋ยวคนของตระกูลจั๋วจะมาอีก"เมื่อฉวนคูนได้ยินคำพูดของคุณหนู เขาก็เลยรู้ว่านางมีแผนรับมือในใจอยู่แล้วจั๋วซือหรานขี่ม้าไปจวนของตระกูลเหยียนอย่างรวดเร็วเมื่อนางหยุดที่ประตูจวนของตระกูลเหยียน นางดูน่ากลัวมากจนยามเฝ้าจวนสะดุ้งและรีบเข้าไปรายงานหลังจากนั้นไม่นาน เหยียนฉีเดินออกมาต้อนรับนางด้วยตนเองอาจเป็นเพราะเขารีบเดินออกมา เหยียนฉีหายใจเร็วเล็กน้อย " แม่นางจิ่ว เจ้ามาที่นี่มีธุระอันใด"จั๋วซือหรานยิ้มและพูด "เข้าไปคุยกันเลยไหม ข้ากังวลว่าจะหน้าบ้านมีคนเดินไปเดินมาบ่อย ๆ เดี๋ยวมีคนนินทา"“เชิญเข้าบ้านขอรับ” เหยียนฉีเชิญนางเข้าบ้านทันทีเมื่อเดินเข้าไปในประตูตระกูลเหยียน เหยียนฉี ฃก็พูดว่า "เจ้ากังวลพวกเราไม่ได้ทำตามอย่างที่เจ้าพูดหรือไม่ เจ้าไม่ต้องกังวล พวกเราทำตามแผนของเจ้า และทำเสร็จแล้วด้วย"จั๋วซือหรานยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า "ไม่เป็นเช่นนั้น ข้าอาจไม่สามารถไว้วางใจผู้อื่นในตระกูลเห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 252

    จั๋วซือหรานกล่าวต่อ "ข้าตั้งแผนนี้ชื่อว่า แผนได้คืบจะเอาศอก"“ผลได้คืบจะเอาศอกหรือ”“ใช่ เจ้ารู้สึกห้องนี้มืดเกินไปแล้วอยากเปิดช่องแสง แต่เขาไม่เห็นด้วย แล้วหากเจ้าบอกตรง ๆ ตั้งแต่แรกว่าห้องนี้มืดเกินไปและต้องการรื้อหลังคาออก แล้วทีนี้ ผู้คนบางคนจะคิดว่าการเปิดหน้าต่างที่หลังคาก็ไม่เลว” จั๋วซือหรานยิ้มและกล่าวนางมองเหยียนฉี "ดังนั้น พวกเจ้าได้ขึ้นราคาของวัสดุยาถึงห้าเท่าแล้ว ในเวลานี้ หากข้าเรียกสองเท่าของราคา ในสายตาของ ตระกูลจั๋ว พวกเขายังพอไหวราคาของข้า"“แม้พวกเขาจะรู้ว่าราคายาสองเท่านั้นไม่สมเหตุสมผลตั้งแต่แรก พวกเขาก็จะรู้สึกว่า ช่างมันเถิดหากพวกเขาไม่รีบซื้อ หลัง ๆ พวกเขาอาจพลาดราคานี้ไป พวกเขาอาจจะไม่ได้ราคาสองเท่าด้วยซ้ำ เพราะในระหว่างปรับราคาวัสดุยาขึ้น พวกเขากำลังคิดอยู่ว่า พวกเจ้าขึ้นราคาเช่นนี้ ต้องมีความแค้นส่วนตัวเกี่ยวข้อง และความแค้นส่วนตัวนั้นอธิบายได้ยาก…”จั๋วซือหรานกล่าวจุดนี้ แล้วพูดประโยคสุดท้ายเบา ๆ ว่า "จริง ๆ แล้ว หากมีเวลาพอสมควร ตระกูลจั๋วยังมีโอกาศหาซื้อวัสดุยาจากช่องทางอื่น และได้ราคาที่พวกเขารับได้ด้วย แต่สิ่งที่ตระกูลจั๋วขาดมากที่สุดในตอนนี้ก็คือเว

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1094

    ถ้าหากใช้ศพของคนล่ะ?แต่ถึงอย่างไรมันก็เป็นสิ่งต้องห้าม ดังนั้นตอนที่หุ่นเชิดร่างแรกถูกหลอมออกมา ปรมาจารย์วิชาเหยี่ยนคนนั้นกระทั่ง ปรมาจารย์วิชาเหยี่ยนคนนั้นก็พบกับการลงโทษที่รุนแรงยิ่งไปกว่านั้นหุ่นเชิดมนุษย์ก็ถูกตราว่าเป็นสิ่งต้องห้าม แต่ว่า ทักษะนี้ก็ปรากฏออกมาแล้วทักษะอะไรก็ตามพอปรากฏออกมาแล้ว ต่อให้จะถูกตีตราเป็นสิ่งต้องห้ามก็ตาม แต่ก็ยังมีคนที่แอบนำมาใช้งานกันอยู่ส่วนหุ่นเชิดความมืดตัวแรกนั้น...จั๋วซือหรานฟังถึงตรงนี้ก็เลิกคิ้วขึ้น "ดังนั้นเอาคนเป็นมาใช้ถึงจะกลายเป็นหุ่นเชิดความมืดสินะ"นางมองผู้เฒ่าเหอ "ข้าเป็นหมอ วิชาแพทย์เองก็ไม่เลวนัก บาดแผลที่เกิดขึ้นก่อนตายกับบาดแผลที่เกิดขึ้นหลายตายไปแล้ว ข้าเข้าใจเป็นอย่างดี"เจตนาที่จั๋วซือหรานพูดคำนี้ออกมานั้นง่ายมาก ก็คือจะพูดกับผู้เฒ่าเหอให้ชัดเจนถึงความหมายหนึ่ง...อย่าโกหกข้าผู้เฒ่าเหอเหลือบมองนางผาดหนึ่ง ตอนนี้จึงเอ่ยขึ้นเสียงเล็ก "ใช่แล้ว แค่นำคนเป็นมาทำ ก็จะเรียกว่าหุ่นเชิดความมืด แม้หุ่นเชิดความมืดจะถูกสั่งห้ามมาตลอด แต่ระหว่างปรมาจารย์วิชาเหยี่ยนด้วยกันก็มีการหารือกันมาตลอด หุ่นเชิดมนุษย์ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องควา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1093

    พอได้ยินคำพูดของจั๋วซือหราน ดวงตาผู้เฒ่าเหอถลึงตาโตกว่าเดิมไม่มีอะไรที่ที่จะยอดเยี่ยมไปกว่าคนที่เก่งรอบด้าน คำพูดส่งๆ ที่ว่า 'อันที่จริงข้าก็แค่เล่นๆ เท่านั้น ไม่เคยเรียนรู้จริงจังมาก่อนเลย' ยิ่งทำให้คนรู้สึกว่าถูกดูถูกมากขึ้นไปอีกแต่ผู้เฒ่าเหอถึงจะโกรธก็ไม่กล้าพูด ดูเหมือนกลั้นหายใจค้างอยู่ที่อก เข้าก็ไม่ได้ออกก็ไม่ได้ผ่านไปพักหนึ่งถึงหายใจได้คล่องหน่อยเหมือนเพิ่งจะได้ความสามารถในการพูดกลับมา"สิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดของวิชาหุ่นเชิดก็คือหุ่นเชิดความมืด และสิ่งที่สำคัญที่สุดของหุ่นเชิดความมืดก็คือตะปูวิญญาณ" ผู้เฒ่าเหอเอ่ยขึ้นหลังจากที่จั๋วซือหรานได้ยิน ก็เลิกคิ้วขึ้น ทำท่าเหมือนจะสนใจขึ้นมา "เล่าให้ละเเอียดหน่อย"ผู้เฒ่าเหอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน ในใจก็เกิดความคิดขึ้นเพียงแต่ความคิดเหล่านี้พอโผล่ขึ้นมาในใจ ก็ถูกจั๋วซือหรานทำลายลงทันที"ถึงอย่างไรเจ้าก็คิดจะดึงข้าไว้ที่นี่อยู่แล้ว เจ้าจะได้ให้กองหนุนจากสำนักเมฆาวารีเข้ามาสั่งสอนข้า ช่วยระบายให้กับเจ้าไม่ใช่หรือ" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น"ข้าเองก็ให้ความร่วมมือกับเจ้าได้ รอกองหนุนของเจ้าที่นี่เสียเลย" จั๋วซือหรานยกมุมปากเป็นร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1092

    ตอนที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้าม รู้สึกถึงแต่ความกดดันบีบคั้น ทว่ายืนอยู่ฝั่งตนเองก็ไม่เหมือนเดิม รู้สึกปลอดภัยอย่างสิ้นเชิงโดยเฉพาะ...ทำไมถึงเริ่มนับขึ้นมาล่ะ?ยิ่งไปกว่านั้น ในมือจั๋วซือหรานตอนนี้ ยังปรากฏตะปูยาวสีดำที่เต็มไปด้วยอักขระคำสาปแปลกประหลาดที่ดูแล้วลึกลับอย่างมากเล่มหนึ่ง!จากนั้นจึงเริ่มนับ "หนึ่ง""สอง"แล้วความเร็วการนับก็ไม่ได้ช้าเลย รู้สึกเหมือนไม่คิดจะให้คนได้ลังเลด้วยซ้ำจะยอมแพ้ หรือจะตาย ไม่มีตัวเลือกที่สามจะเจรจาหรือไม่เจรจา ไม่มีให้เห็นทั้งสิ้นผู้เฒ่าเหอ ตอนที่สายตาจับภาพตะปูยาวในมือจั๋วซือหรานได้ก็เปลี่ยนไปแล้ว ความหวาดกลัวตกตะลึงมหาศาลระเบิดขึ้นมาในดวงตากระทั่งตอนที่จั๋วซือหรานนับถึงสอง เขาก็รีบเอ่ยขึ้นว่า "ให้เจ้า! ให้เจ้าก็พอสินะ!"เสียงของผู้เฒ่าเหอแม้จะไม่ได้ต่ำขรึม แต่ก็ยังหนักแน่นแต่ตอนที่รีบตะโกนคำนี้ออกมา เสียงก็สั่นเครือราวกับกรีดร้องแหลมเหมือนกลัวว่าถ้าช้าไปสักนิดเดียว นางจะเอาตะปูประหลาดเล่มนั้นมาเล่นงานเขาดูแล้วพอเทียบกับการกลัวจั๋วซือหราน สู้บอกว่าเขากลัวตะปูในมือนางนั่นมากกว่าจั๋วซือหรานเลิกคิ้ว ตะปูยาวที่อยู่ระหว่างนิ้ว หมุนควงเหมื

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1091

    ผู้เฒ่าเหอก่อนหน้านี้เดิมทีถูกทำให้ตกใจจนสลบไปเท่านั้น ร่างกายไม่ได้บุบสลายแต่อย่างใดดังนั้นจึงได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว เพียงแต่ว่า หลังจากได้สติแล้วในใจยังไม่มีแผนรับมือ จึงทำได้แค่แกล้งนอนสลบไปบนพื้นต่อครุ่นคิดว่าควรจะรับมืออย่างไร แต่หญิงสาวคนนี้จะหลอกล่อก็หลอกไม่ได้ ทิฐิสูงไม่มีอ่อนข้อให้เลยจริงๆชั่วขณะหนึ่งก็ยากจะหาแผนการรับมือออกมาได้จึงทำได้แค่แกล้งสลบดึงเวลาออกไปก่อนดังนั้นผู้เฒ่าเหอจึงแกล้งนอนสลบอยู่บนพื้น ไม่ยอมลุกขึ้นมาเขายังคิดว่าจะไม่ถูกพบเสียอีก ฟังคำพูดเหล่านั้นของจั๋วซือหราน ฟังฟู่จาวหนิงชักชวนยุยงเหล่าคนคุ้มกันของเขาผู้เฒ่าเหอรู้สึกชิงชังในใจ!ตอนนี้เขาเองก็มีปฏิกิริยาขึ้นมาแล้ว ว่าคนคุ้มกันเหล่านี้ไม่ได้ทรยศหักหลังเขาแต่หญิงสาวคนนี้จงใจไว้ชีวิตพวกเขา ปล่อยพวกเขากลับมา...ใครจะรู้ว่านางคำนวณไว้แล้วหรือเปล่าว่าเขาจะไม่มีท่าทีที่ดีกับคนคุ้มกันเหล่านี้ ใครจะรู้ว่านางรอให้สถานการณ์แบบนี้ปรากฏขึ้นหรือเปล่า?!ผู้เฒ่าเหอในใจชิงชังนางอย่างมากแล้วยังแอบคิดในใจ ถึงอย่างไรหนังสือสารกรมธรรม์เจ้าพวกนี้ก็ยังอยู่ในมือเขาขอแค่หนังสือสารกรมธรรม์ยังอยู่ในมือเขา จั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1090

    จั๋วซือหรานไม่ตอบ แค่เลิกคิ้วขึ้นอย่างไม่ยอมรับหรือปฏิเสธหัวหน้าคนคุ้มกันออกแรงเม้มปาก ในดวงตาแดงก่ำขึ้นจั๋วซือหรานเอ่ยเสียงเรียบ "เดิมทีข้าคิดว่าเจ้าน่าจะเห็นแล้วว่าเจ้านายเจ้าเป็นพวกที่ไม่เห็นความสำคัญของชีวิตคน จะมองออกถึงดวงชะตาแล้ว ทั้งที่ผ่านความเป็นความตายมาแล้วก็น่าจะหวงแหนชีวิตขึ้นมาบ้างจึงจะถูก นี่เจ้ากลับเข้ามารนหาที่ตาย"หัวหน้าคนคุ้มกันริมฝีปากสั่นระริก "แม่นาง..."จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ "เอาล่ะ เลือกมา"พอได้ยินคำพูดของจั๋วซือหราน หัวหน้าคนคุ้มกันก็ตกตะลึง "อะ อะไรหรือ?""อยากจะรอดหรืออยากจะตาย" จั๋วซือหรานพลิกข้อมือ อาวุธเล่มหนึ่งปรากฏขึ้นกลางฝ่ามือ "ถ้าจะส่งเจ้าไปสบายมันง่ายดายมาก ไม่ใช่เรื่องลำบากเลย อย่าว่าแต่เจ้า พวกลูกน้องเหล่านี้ของเจ้า ข้าสังหารทั้งหมดได้แค่ในไม่กี่อึดใจ"พอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน หัวหน้าคนคุ้มกันที่ในดวงตาสงบนิ่งไปแล้วแท้ๆ แต่กลับเหมือนมีประกายของดวงดาวเปล่งปลั่งขึ้นมา"ยังมี...ชีวิตต่อได้หรือ?" ในน้ำเสียงของหัวหน้าคนคุ้มกันมีความหวังขึ้นมาแล้วจั๋วซือหรานเหลือบมองเขาผาดหนึ่ง "ได้ แต่มีสิ่งที่ต้องจ่าย""จ่ายด้วย...อะไรหรือ?"

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1089

    เพราะขนมชามมีไฟวิเศษเปลวเพลิงอู๋ซื่ออยู่ในตัว รูปร่างเดิมจึงกึ่งโปร่งใสถนัดการพรางตัวมากที่สุดและสภาพก่อนหน้านี้ การปรากฏตัวกะทันหันของจั๋วซือหราน ตอนที่ผู้เฒ่าเหอมีอาการสั่นไปทั้งตัวจากความผวาต่อตัวนาง แน่นอนว่าความสนใจทั้งหมดจึงพุ่งไปบนตัวนางจนไม่ทันได้สังเกตถึงการเคลื่อนไหวผิดปกติอื่น ดังนั้นจึงไม่รู้สึกตัวเลย ว่าแมลงกู่ที่ร่างกายกึ่งโปรงใสในปกติ และในตอนที่จำเป็นก็เพิ่มระดับความโปร่งใสได้อีก ตัวนี้ ไปเกาะอยู่บนไหล่เขาตั้งแต่เมื่อไรตอนนีเ้อง พอเห็นว่าร่างของผู้เฒ่าเหอล้มลงกะทันหันขนมชามก็รีบกระพือปีกน้อยทั้งสองนั่นขึ้นมา แม้จะบินไม่ได้เร็วหรือสูงนัก แต่การจะบินขึ้นมาจากจุดเดิมไม่ใช่ปัญหาใหญ่ตุบตุบ...ตุบตุบ...มาอยู่เบื้องหน้าจั๋วซือหราน หยุดลงข้างๆ หูแล้วจึงส่งเสียงจี๊ดๆ ขึ้นมาแต่ที่ได้ยินในหูจั๋วซือหราน ขนมชามกำลังบอกว่า "นายท่าน เขาสลบไปแล้ว"จั๋วซือหรานจุ๊ปากขึ้นมา "ชิ อ่อนแอเสียจริง""ใช่เลย" ขนมชามเห็นด้วยกับคำพูดของนายท่าน หลังจากนั้นก็ร่อนลงมาบนไหล่จั๋วซือหราน เอ่ยว่า "ทั้งที่ข้าเป็นคนที่ทนรับได้ง่ายที่สุดในกลุ่มพวกเราแล้วด้วยซ้ำ"จั๋วซือหรานคิดแล้วก็ขำ พูดอ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1088

    สีหน้าผู้เฒ่าเหอแข็งทื่อไป หลังจากตั้งสติกลับมาได้ สีหน้าก็เขียวจนซีดไป นี่นางกำลังตอบโต้เขาว่าก่อนหน้านี้ผายลมออกมาไม่ดังพอสินะ!ผู้เฒ่าเหอโมโหไม่พอใจ สูดลมหายใจลึก แล้วจึงสงบลงมาได้เขาจ้องจั๋วซือหราน "ใต้เท้าจั๋ว ท่านมาโดยไม่ได้รับเชิญถึงสองรอบ วางยาพิษลูกชายข้า ทำร้ายผู้ใต้บัญชาข้า นี่รังแกกันมากเกินไปแล้ว ทำไมหรือ? ขุนนางราชสำนักสามารถรังแกคนได้แบบนี้หรือไรกัน? คิดว่าต้าชางไม่มีกฏหมายหรือไร?"จั๋วซือหรานหลังจากได้ยินคำนี้ พูดออกมาแค่ว่า "เจ้าพูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไร?""ความหมายของข้าก็คือ..." ผู้เฒ่าเหอกำลังคิดจะพูดแต่เขายังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกจั๋วซือหรานตัดบทไปแล้ว "เจ้าคิดว่ายกเอากฏหมายออกมาแล้วจะช่วยชีวิตเจ้าได้เรอะ?""นี่เจ้า...!" ผู้เฒ่าเหอถลึงตาโตในดวงตาถลึงโตของเขา สะท้อนใบหน้ารอยยิ้มชั่วร้ายของจั๋วซือหราน "ในเมื่อเจ้ากล้าคิดวิธีมาทำร้ายข้า ก็คงจะเคยหาข่าวเรื่องข้ามาแล้ว คงเข้าใจในตัวข้าอยู่บ้างสินะ""ในเมื่อเจ้าเข้าใจตัวข้า ก็น่าจะชัดเจนว่า จั๋วจิ่วอย่างข้าไม่มีนิสัยที่ทำตามกฏระเบียบมาแต่ไหนแต่ไร" จั๋วซือหรานเหลือบตามองเขา"เจ้ายกกฏหมายขึ้นมามีประโยชน์อะไร? ต่อ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1087

    พอได้ยินเสียงนี้ที่ดังขึ้นกะทันหัน แล้วยังคุ้นหูขนาดนี้คุ้นหูจนทำให้ผู้เฒ่าเหอยังหลังเย็นวาบ จนถึงตอนนี้ ข้างหูเขาก็เหมือนยังได้ยินเสียงกรีดร้องของลูกชายอยู่เลย...ดังนั้น พริบตาที่ได้ยินเสียงนี้ เสียงของผู้เฒ่าเหอที่เดิมทียังกระฟัดกระเฟียด ก็หยุดลงไปทันทีทั่วทั้งลานเปลี่ยนเป็นเงียบสงัด!และเสียงใสเย็นของหญิงสาวคนนั้น ก็ดังลอดเข้ามาอีกครั้ง "เจ้าเองก็ลองผายลมเสียงดังๆ ให้ฟังหน่อยสิ"ผู้เฒ่าเหอก็เหมือนจะเพิ่งยืนยันได้ว่านี่ไม่ได้หูฝาด แต่เป็นเสียงของหญิงสาวคนนั้นจริงๆสีหน้าเปลี่ยนเป็นปั้นยากขึ้นมาทันทีและตอนนี้เองหัวหน้าคนคุ้มกันตระกูลเหอที่นอนหายใจรวยรินกันบนพื้น แม้แต่จะเหลือบตามองก็ยังสุดกำลัง ก็เลิกหนังตาขึ้น แล้วมองไปทางเสียงที่ดังลอดเข้ามาเหลือบมองออกไปอย่างสุดกำลังที่มีในสายตา เงาสีแดงร่างหนึ่ง ก็รวกับเป็นเปลวไฟกลุ่มหนึ่ง เผาไหม้เข้ามาจั๋วซือหรานยืนอยู่ตรงนั้น จากนั้น จึงก้มลงมองเขาผาดหนึ่งและสบตาเข้ากับเขาที่เงยขึ้นมาพอดีจั๋วซือหรานเลิกคิ้ว จุ๊ปากขึ้นมาทีหนึ่ง "ข้าเตือนพวกเจ้าแล้ว"หัวหน้าคนนี้เข้าใจความหมายในคำพูดของจั๋วซือหรานซึ่งก็จริง ก่อนหน้านี้นาง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1086

    "เจ้า...เจ้าเจ้า..." เสียงของคนคุ้มกันประตูตะกุกตะกักขึ้นมาเขาเห็นหญิงสาวตรงหน้าหรี่ตายิ้ม แต่กลับไม่รู้สึกว่าอบอุ่นเลย ซ้ำยังสัมผัสได้ถึงอาการเย็นวาบที่แผ่นหลังอีกด้วยก่อนหน้าที่จั๋วซือหรานจะมาถึงเมืองหยางหน่วยคนคุ้มกันที่ผู้เฒ่าเหอส่งออกมารับมือจั๋วซือหราน แต่กลับล้มเหลวแถมยังบาดเจ็บ ก็กลับมาถึงจวนตระกูลเหอแล้วพอรู้ว่าพวกเขากลับมาอย่างล้มเหลว แล้วตลับหุ่นเชิดยังถูกแย่งไปอีกด้วย ผู้เฒ่าเหอก็โมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงไม่ได้สนใจพวกคนคุ้มกันที่บาดเจ็บกลับมาเหล่านั้นเลย กระทั่งพวกเขาอันที่จิรงมีคนหนึ่งไม่ได้กลับมาด้วย ไม่รู้ว่าตายไปแล้วหรือยังแต่ภายใต้สถานการณืเช่นนี้ ผู้เฒ่าเหอเองก็ยังจะลงโทษพวกเขาก่อนหน้าที่จั๋วซือหรานจะมาถึงเมืองหยาง พวกเขาก็ถูกผู้เฒ่าเหอลงโทษด้วยแส้มาตลอดแรกสุดที่บาดเจ็บจากหมอกพิษที่ป่าทวนแสง แล้วยังรีบกลับมาอย่างสุดกำลัง บวกกับการลงแส้ของผู้นำตระกูลนี่อีกพวกเขาล้วนกลายเป็นธนูแผ่วปลายกันหมดแล้ว หายใจรวยรินและตอนนี้เอง ผู้เฒ่าเหอหยุดฟาดแส้ ไม่ใช่เพราะเห็นบาดแผลพวกเขาแล้วใจอ่อนลงมา แต่เป็นเพราะเอาแต่หวดแส้แบบนี้ ผู้เฒ่าเหอเองก็เหนื่อยขึ้นมาแล้วเท่านั้น

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status