Share

บทที่ 190

Penulis: หูเทียนเสี่ยว
เฟิงเหยียนนั่งอยู่บนพื้น ดวงตาของเขายังคงมองไม่เห็น แต่เขายังคงรู้สึกถึงจุดสีแดงที่กะพริบ เขาไม่รู้ว่ามันเป็นความรู้สึกทางการมองเห็นหรือประสาทสัมผัส

มันมหัศจรรย์มาก มันไม่เหมือนทุกอย่างที่เคยเจอมาก่อน แต่เขารู้สึกได้

และเขาก็พยายามเอื้อมมือไปจับจุดสีแดงในเมื่อสักครู่นี้ แล้วก็พบว่า...ที่เขาคว้าไว้คือมือของนาง

เดิมทีจั๋วซือหรานคิดว่าเขามามองเห็นได้แล้ว แต่เมื่อตรวจสอบอย่างใกล้ชิด ดูเหมือนว่าเขายังมองไม่เห็น

แต่สภาพของเฟิงเหยียนในบัดนี้ ท่าที่สองคนนั่งอยู่บนพื้นในห้องโถงด้านหน้าของตระกูลเฟิง ดูเหมือน...อย่างมาก

จั๋วซือหรานพูดไม่ถูกและนางไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะใช้คำใด ๆ มาบรรยาย นางใช้คิดนานมาก จึคงคิดคำบรรยายออก'รักใคร่กลมเกลียวกัน' แต่นางรู้สึกว่าไม่เพียงพอที่จะบรรยาย

ฟิงเหยียนพูดอย่างแผ่วเบา “ข้าไม่ได้เสียพลังวิเศษกับพวกเขามากนัก”

จั๋วซือหรานพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำอีก " ท่านอ๋องเก่ง..."

เฟิงเหยียนไม่โกรธเมื่อเห็นนางฝืนใจพูดเช่นนี้ เขาพูดต่อว่า "นางคงเคยได้ยินพลังของสายเลือดตระกูลใช่ไหม"

จั๋วซือหรานตกใจเมื่อได้ยินคำพูดนี้ จากนั้นนางพยักหน้า

นางเคยได้ยินเรื่องนี้มาจริง ๆ แต่พลังสายเลือดแ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 191

    ดูเหมือนวิญญาณไม้โดยกำเนิดของตระกูลจั๋วหายไปแล้วคุณลักษณะไม้ในพลังวิเศษของคนในตระกูลค่อย ๆ หายไปแต่ลูกหลานของตระกูลเฟิงมีคุณลักษณะของพลังวิเศษแห่งไฟมาโดยตลอด ว่ากันว่านี่ค่อนข้างมมหัศจรรย์ แต่ที่ตลอดผ่านมา ไม่มีผู้ใดเกิดความสงสัยและไม่มีผู้ใดเคยถามเรื่องนี้พวกเขาอาจจะไม่ได้คิดเกี่ยวเรื่องนี้มาก หรือพวกเขาไม่กล้าถามเนื่องจากความแข็งแกร่งของตระกูลเฟิงจั๋วซือหรานไม่กลัว ยิ่งกว่านั้นเฟิงเหยียนเป็นผู้ที่เริ่มพูดถึงเรื่องนี้“วิธีอะไร” เมื่อจั๋วซือหรานถามคำถามนี้เฟิงเหยียนไม่พูด เขาเงียบเป็นครู่หนึ่ง เมื่อจั๋วซือหรานรู้สึกเฟิงเหยียนอาจจะไม่ตอบคำถามนี้ในที่สุดนางก็ได้ยินเสียงพูดอันลึกล้ำของของเฟิงเหยียน“หากไม่มีใครปลุกพลังแห่งสายเลือดตระกูลได้ คุณลักษณะวิญญาณโดยกำเนิดอันทรงพลังของตระกูลจะหายไป ตระกูลเฟิงแข็งแกร่งมาตลอด จึงไม่ยอมให้ตระกูลตกอยู่ในสภาพที่ไร้พลังวิเศษ ดังนั้นพวกเขาจึงหาทางแก้ไข้ นั่นก็คือนำพลังวิเศษของตระกูล…......”ก่อนที่เฟิงเหยียนพูดจบ เสียงทุ้มที่ดังมาจากประตูก็ขัดจังหวะคำพูดของเฟิงเหยียน“ เฟิงเหยียน ระวังคำพูดหน่อย!”เสียงนี้ฟังดูเคร่งขรึมและมีทรงพลังจั๋

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 192

    นางหัวเราะเบา ๆ และเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะ ชายวัยกลางคนก็ขมวดคิ้ว ในที่สุดเขนมองนาง“เจ้าหัวเราะอะไร” เขาถามจั๋วซือหรานทำสีหน้าประหลาดใจและพูดว่า "ว้าว ท่านเห็นข้าอยู่หรือ ข้ายังคิดอยู่ว่า ข้าได้ฝึกฝนทักษะการแอบซ่อนตัวหรือเปล่า จนท่านมองไม่เห็นข้า"ชายวัยกลางคนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง อาจเป็นเพราะเขาไม่คาดคิดว่า จั๋วซือหรานจะพูดเช่นนั้น และเขาก็ไม่คิดว่าจั๋วซือหราน จะพูดด้วยน้ำเสียงเช่นนี้จั๋วซือหรานเห็นเขาตกตะลึงเช่นนี้ นางคิดในใจว่า ชายคนนี้อาจไม่เคยถูกผู้อื่นพูดจาเหน็บแนมเช่นนี้มาก่อนชายวัยกลางคนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เขาจึงฟื้นคืนสติ ดวงตาของเขาเย็นชาและเฉียบคม เขาเยาะเย้ยว่า " ตระกูลจั๋วมีการสอนแค่นี้หรือ และลูกสาวที่พวกเขาสอนก็ไม่สุภาพจริง ๆ "“ท่านพ่อของข้าเสียชีวิตไปนานแล้ว ข้าอาจจะขาดการสั่งสอนทางบ้านไปหน่อย ขออภัย” จั๋วซือหรานกล่าวคำพูดเหล่านี้ดูเหมือนมีการถ่อมตัวเล็กน้อย ดังนั้นหลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้ สีหน้าของชายวัยกลางคนก็ดูดีขึ้นแต่เขาไม่คาดคิดว่าคำพูดส่วนหลังของจั๋วซือหรานก่อนที่เขาจะพูดอะไรมากกว่านี้ จั๋วซือหรานกล่าวเสริมว่า "แต่ท่านพ่อของท่านคงจากไปตั้งนานแ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 193

    จนกระทั่งชายวัยกลางคนเดินออกจากห้องโถงด้านหน้า จั๋วซือหรานจึงเอื้อมมือออกไปและค่อย ๆ ดันดาบประจำตระกูลในมือของเฟิงเหยียนกลับเข้าไปในฝัก“เขาไปแล้ว” จั๋วซือหรานกล่าวว่า “อย่าโกรธเลย”จั๋วซือหรานดันดาบประจำตระกูลของเขากลับเข้าไปในฝัก และสังเกตพลังอันรุนแรงรอบตัวของเขา เมื่อดาบประจำตระกูลถูกดันใส่เข้ามฝัก นางพึมพำด้วย "...ดูเป็นคนเย็นชา แต่ทำไมเหมือนปลาปักเป้า โกรธง่ายจัง"เนื่องจากนางพูดเสียงเบามาก และการได้ยินของเขาได้รับผลกระทบจากอาการบาดเจ็บ เดิมทีจั๋วซือหรานคิดว่าเฟิงเหยียน อาจจะไม่ได้ยิน ดังนั้นนางจึงถือว่ามันเป็นแค่การพูดคุยกับตัวเองโดยไม่คาดคิด วินาทีต่อมานางได้ยินเฟิงเหยียนถามนาง "ปลาปักเป้าคืออะไร"จั๋วซือหราน ตกตะลึง “เจ้าได้ยินแล้วหรือ”“ข้าแค่ได้รับบาดเจ็บ ไม่ใช่หูหนวก” เฟิงเหยียนกล่าวจั๋วซือหรานยิ้ม "มันเป็นแค่ปลาชนิดหนึ่ง..." จริง ๆ แล้ว นางไม่รู้ว่าโลกใบนี้มีปลาปักเป้าอยู่หรือไม่ แต่นางยังพูดต่อ "เมื่อถูกคุกคาม ปลานี้จะพองตัวเพื่อทำให้ศัตรูหวาดกลัว "เฟิงเหยียน ”…“จั๋วซือหรานคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวเสริมว่า "มีพิษ"เฟิงเหยียน ”…“จั๋วซือหรานกล่าวเสริมอีก "แต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 194

    เช่นตระกูลจั๋ว แม้ว่าพวกเขาเคยให้ความสำคัญกับจั๋วซือหราน นางกก็ยังถูกละทิ้งอยู่ดีแต่การที่ตระกูลเฟิงให้ความสำคัญกับเฟิงเหยียนนั้นแตกต่างไปจากตระกูลอื่นอย่างสิ้นเชิงดังนั้นจึงไม่ยากที่จะอธิบายว่าทำไมพลังวิเศษของเฟิงเหยียนจึงสามารถข่มขู่เหล่าผู้อาวุโสได้ หากพลังของเขาเป็นไปตามที่เขากล่าวไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งพลังของเขาเกี่ยวข้องกับพลังศักดิ์สิทธิ์บางอย่างของตระกูลจริง ๆ ... นั่นก็สามารถอธิบายได้ง่ายดังนั้นจั๋วซือหรานจึงไม่อยากถามรายละเอียดเพิ่มเติมสิ่งเดียวที่นางยังคิดไม่เข้าใจเหตุใดพลังของเฟิงเหยียนสามารถข่มขู่ผู้อาวุโสทุกท่านในตระกูลเฟิงได้ แต่ทำไมจึงไม่สามารถขู่ชายวัยกลางคนในเมื่อครู่นี้ได้ - ท่านพ่อของเขา ทำให้ชัยคนนั้นกลัวล่ะแต่จั๋วซือหรานไม่รีบหาคำตอบ เพราะยังมีเวลาอีกยาว วันหลังน่าจะมีโอกาสรู้เองเนื่องจากเฟิงเหยียนไม่ยอมให้จั๋วซือหรานฝืนตัว ดังนั้นหลังจากนั้น จั๋วซือหรานรักษาอาการบาดเจ็บของเขาได้ง่ายพลังของการแพทย์สายวิเศษของนางทำหน้าที่เป็นตัวช่วย เพื่อให้เฟิงเหยียนฟื้นตัวได้เร็วขึ้นนางไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน แม้ว่าเฟิงเหยียนไม่ให้นางฝืนตัว ให้นางเป็นผู้ช่วยในกา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 195

    จั๋วซือหรานไม่ได้ง่วงขนาดนั้น แต่นางไม่สามารถตื่นขึ้นมาได้ ซึ่งสภาพนี้ค่อนข้างมหัศจรรย์มันเหมือนกับว่านางรู้ชัดเจนว่า นางกำลังหลับอยู่ และนางรู้สึกว่านางตื่นขึ้นได้ทันทีเมื่อนางลืมตา แต่นางก็ไม่สามารถตื่นได้ซึ่งเป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดมาก และจั๋วซือหรานรู้สึกตัวเองกำลังถูกห่อหุ้มด้วยน้ำร้อน นางรู้สึกร้อนเล็กน้อย แต่ก็ไม่รู้สึกทุกข์ใจมากเมื่อเทียบกับความรู้สึกทุกข์ใจตอนพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้า ๆ ความรู้สึก ณ ปัจจุบันนี้ดีกว่ามากในความเป็นจริง คราวนี้เมื่อนางรักษาเฟิงเหยียน จั๋วซือหราน รู้สึกอย่างชัดเจนว่า เมื่อเขารักษาเฟิงเหยียนในครั้งนี้ ดูเหมือนว่านางไม่ต้องใช้ความพยายามมากเท่ากับครั้งสุดท้ายที่นางได้รักษาชายผู้นี้ที่ศูนย์การแพทย์ตระกูลเหยียนตอนแรกนางคิดอยู่ว่าเป็นเพราะคราวนี้ อาการบาดเจ็บของเขาค่อนข้างเบา แต่เขาสูญเสียประสาทสัมผัสทั้งห้าอย่างเห็นได้ชัด เห็นได้ชัดว่าอาการบาดเจ็บครั้งนี้รุนแรงกว่าจั๋วซือหรานจึงเดาได้ว่าความแข็งแกร่งของนางดีขึ้นบ้างหรือไม่ หากมีการปรับปรุง การปรับปรุงนี้เกี่ยวข้องกับอะไรบ้างเพียงแต่ก่อนหน้านี้นางตั้งใจรักษาเฟิงเหยียน และไม่มีเวลาคิดเกี่ยว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 196

    โดยไม่คาดคิด เฟิงเหยียน ขมวดคิ้วและพูดว่า "เรือนของข้าไม่มีสาวรับใช้ มันคงไม่สะดวกมากหากจั๋วเสียวจิ่วต้องการใครดูแล"ดังนั้นมีแต่หานกวงเท่านั้นที่ใช้ได้ แม้ว่านางเป็นผู้หญิงที่กล้าหาญและสามารถโจมตีผู้ชายได้ แต่นางก็ยังเป็นผู้หญิงฉูนจวีนคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดอย่างช่วยไม่ได้ว่า "หากหานกวงได้ยินคำสั่งนี้ นางต้องหนีตัวไปไกล ๆ แน่ ๆ อย่างไรก็ตาม ท่านจะหมั้นกับแม่นางจิ่วขอรับ มีความสัมพันธ์ที่เป็นคู่หมั้นกันหากต้องการให้คนดูแลจริง ๆ ....."ฉูนจวีนพูดอย่างกล้าหาญว่า "ท่านมีตราแพทย์ไม่ใช่หรือขอรับ ท่านก็เคยทายาให้แม่นางจิ่ว ตอนนั้นไม่เห็นท่านนึงถึงความแตกต่างระหว่างชายและหญิงเลยขอรับ"เฟิงเหยียนขมวดคิ้วและดุว่า "ออกไป"ฉูนจวีนแตะจมูกแล้วรีบหนีไปอย่างรวดเร็วโชคดีที่จั๋วซือหรานไม่มีอะไรที่ต้องให้คนดูแล นางเหนื่อยล้าเป็นหลัก นางจึงจำเป็นต้องฟื้นตัว ดังนั้นนางจึงต้องการการพักผ่อนที่ดีนางนอนหลับอย่างสงบทั้งคืนเฟิงเหยียนนั่งข้างกันเงียบ ๆ เขาหลับตาเพื่อพักผ่อน บางครั้งก็ลืมตาเพื่อเหลือบมองคนที่นอนบนเก้าอี้เตียงเพื่อยืนยันอาการของนางเขาต้องบอกว่าผู้หญิงหยิ่งผยองและมักจะปฏิเสธที่จะยอมรับ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 197

    เฟิงเหยียนห่มนางด้วยเสื้อคลุมตัวใหญ่แล้วอุ้มนางหลังจากเดินออกจากห้อง ฉูนจวีนรีบเดินเข้ามาหาเขา ฉูนจวีนกังวลเล็กน้อย เนื่องจากเขาเคยทำเช่นนี้มานานแล้ว เมื่อเห็นเฟิงเหยียนเดินออกจากห้องในเวลาที่ทีแสงอาทิตย์ เขากังวลโดยไม่รู้ตัวแต่เมื่อเห็นเฟิงเหยียนไม่ได้รับบาดเจ็บ แล้วเห็นเฟิงเหยียนอุ้มผู้คนหนึ่งไว้แน่นด้วยเสื้อคลุมในอ้อมแขนของเขาฉูนจวีนยังไม่ตระหนักได้ว่าเกิดอะไรขึ้น“ท่านขอรับ นี่คือ…” ฉูนจวีนลังเลและถาม แต่ก็รู้คำตอบในวินาทีถัดมา “ แม่นางจิ่วเป็นอะไรขอรับ”เฟิงเหยียนไม่มีเวลาอธิบาย ดังนั้นเขาจึงดุด้วยเสียงเข้ม "หลีกทาง อย่าขวางทาง"ฉูนจวีนรีบหลีกทางให้และเดินตามเฟิงเหยียนอย่างใกล้ชิด พวกเขาเดินไปในทิศทางของสระน้ำเย็นสระน้ำเย็นอยู่ในเรือยที่กว้างขวางถัดจากตำหนักนอนของเฟิงเหยียน เฟิงเหยียนมาถึงประตูเรือนที่มีสระน้ำเย็นด้วยความเร็วเพียงไม่กี่ก้าว เขาเตะประตูออกจากนั้นเขารีบเข้าไปในประตูและเตะประตูปิดอีกครั้ง ด้วยการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วเช่นนี้ ฉูนจวีนมีเวลาเพียงเห็นคนที่เจ้านายอุ้มไว้ในอ้อมแขน เขาเห็นมือข้างหนึ่งห้อยลงอย่างนุ่มนวลปลายนิ้วสีขาวและเรียวยาวเปื้อนเลือด และเลือ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 198

    และใบหน้าของนางและผิวของนางขาวอย่างไม่น่าเชื่อ สีแดงสุดขีดนั้นคู่กับสีขาวสุดขีดนั้น...ซึ่งทำให้นางดูเงียบและไร้ลมหายใจ เหมือนางเสียชีวิตแล้วไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยเห็นสภาพที่น่าสังเวชของนาง ความจริง เขาเคยเห็นสภาพเช่นนั้นหลายหนแล้ว ตอนที่นางถูกตระกูลจั๋วตำหนิและลงโทษ สภาพที่น่าเวทนาจนทนดูไม่ได้หลังจากถูกเฆี่ยนตีเก้าครั้งนางถูกตระกูลเหยียนใส่ร้ายและถูกทรมานอย่างทารุณใน หน่วยสืบสวนพิเศษไม่ว่าครั้งไหน นางดูน่าเวทนาอย่างมาก แต่ไม่ว่าครั้งไหน นางแข็งแกร่งเสมือนหญ้าธูปฤาษี และไม่ว่านางดูน่าสมเพชแค่ไหน นางก็ไม่ยอมอ่อนข้อ นางยังคงปากแข็งได้และอดทนได้ และนางสามารถทนมันได้อย่างยากลำบากแต่ไม่ใช่อยู่ในสภาพเช่นนี้...เงียบและไร้ลมหายใจเฟิงเหยียนขมวดคิ้วขึ้นอีกเล็กน้อย เขากอดนางด้วยมือข้างหนึ่ง และมืออีกข้างก็กดหน้าอกของเขาเบา ๆมันเป็นภาพลวงตาหรือไม่ ทำไมอาการปวดตุ๊บ ๆ ที่หน้าอกอย่างอธิบายไม่ได้จึงดูชัดเจนมากขึ้นเฟิงเหยียนยกมือขึ้นและสัมผัสใบหน้าของนางเบา ๆ ริมฝีปากบางของเขาขยับเล็กน้อย " จั๋วจิ่ว "นางไม่มีปฏิกิริยาใดๆเขาสัมผัสใบหน้าของนางอีกครั้ง และเนื่องจากนิ้วของเขาเปื้อนเลือดของนา

Bab terbaru

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1162

    บนหน้าที่เหมือนศพแห้ง เผยให้เห็นรอยยิ้มน่าขนลุก "ตายซะ ตาย!"จั๋วซือหรานมองท่าทางนี้ของเขา โดยเฉพาะระฆังที่ดังขึ้นอย่างบ้าคลั่งนั่นนางจุ๊ปากเบาๆ "ถ้าข้าไม่ใช้เครื่องมืออะไรบ้าง ก็คงจะผิดต่อเจ้าที่สั่นกระดิ่งดั่งลั่นขนาดนี้"หลังจากนั้น จั๋วซือหรานพลิกข้อมือ ในฝ่ามือขาวนวล ปรากฏขลุ่ยสั้นมาเลาหนึ่ง!ขลุ่ยสั้นเลานี้ดูเหมือนทั้งเลาจะเปล่งประกายหลากสีราวกับเคลือบน้ำมัน สวยงามอย่างน่าพิศวง!ยิ่งไปกว่านั้นแค่มองก็...หวงเจี้ยนถังถลึงตากลมโต "นี่คือ..."เขามองออกแล้ว "...อาวุธกู่?"ยิ่งไปกว่านั้นคุณภาพก็ดูไม่เลวเลย ถ้าหากเป็นอาวุธกู่จริง แล้วเป็นพวกที่ยอมรับเจ้านายล่ะก็ ก็ต้องทำการหลอมสกัดขึ้นมาเองอย่างน้อยนี่ก็อธิบายได้ ว่าหญิงสาวคนนี้ต่อให้ฝีมือในการหลอมวัตถุ ก็ยังยอดเยี่ยม!หวงเจี้ยนถังอดคิดขึ้นมาอีกไม่ได้ นี่เป็นแค่...หญิงสาวคนหนึ่งเท่านั้น!แล้วก็โมโหกว่าเดิมเดิมทียังคิดว่าตนเองจะแพ้แค่ด้านวิชาหุ่นเชิดเท่านั้น แค่ตนเองมีพรสวรรค์ไม่พอ หรืออาจจะเดินผิดเส้นทางเท่านั้นแต่อย่างน้อยฝีมือด้านการหลอมวัตถุก็ยังยอดเยี่ยมอยู่แต่ตอนนี้พอเห็น บางทีในด้านหลอมวัตถุ ตนเองก็ไม่แน่ว่าจะไ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1161

    หวงเจี้ยนถังรู้สึกว่า ที่พึ่งตอนนี้ของจั๋วซือหรานคือคนสำนักเมฆาวารีและคุณชายฉินที่ถูกนางควบคุมอยู่เหล่านี้คนเหล่านี้จะทำอะไรได้ อย่าว่าแต่เจ็ดคนนี้เลย ต่อให้มาอีกสักสิบคน ก็ไม่ใช่คู่มือหุ่นเชิดความมืดของเขาสำหรับเรื่องนี้ หวงเจี้ยนถังมีความมั่นใจอยู่แม้จะบอกว่าเขาถูกจั๋วซือหรานทำให้เสียความมั่นใจในด้านวิชาหุ่นเชิดแต่ในด้านการหลอมสกัดหุ่นเชิด ด้านคุณสมบัติหุ่นเชิด หวงเจี้ยนถังก็ไม่ประหม่าเท่าไรนักความหยิ่งผยองในตอนนี้ ถือว่ามีรากฐานที่แข็งแกร่งอยู่จั๋วซือหรานไม่ตอบสนองอะไรต่อสายตาและคำพูดยิ้มเยาะของหวงเจี้ยนถังเลยแค่มองดูสถานการณ์ตรงหน้าเงียบๆด้วยความโกรธแค้นและชิงชังต่อนางของหวงเจี้ยนถัง จึงไม่มีการถ่วงเวลาอะไรทั้งสิ้น การต่อสู้เริ่มขึ้นทันทีหุ่นเชิดความมืดพวกนั้นพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วและมิน่าที่หวงเจี้ยนถังมั่นใจขนาดนั้น หุ่นเชิดความมืดเหล่านี้ล้วนเป็นของดีทั้งสิ้น!จั๋วซือหรานจะมีแค่ตาเดียวก็ยังพิจารณาได้ ว่าหุ่นเชิดความมืดพวกนี้ไม่ใช่ของธรรมดาอย่างน้อยก็ดีกว่าหุ่นเชิดความมืดที่ได้มาจากผู้เฒ่าเหอ รวมถึงหุ่นเชิดความมืดที่ได้จากผู้ดูแลชุยต่อมาด้วยมองผาดเดียวก็ม

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1160

    จ้องจั๋วซือหรานเขม็ง"มีสิทธิ์อะไร...มีสิทธิ์อะไร....หึ หึๆๆๆ...ฮ่าๆๆๆ!"เขาหัวเราะขึ้นอย่างบ้าคลั่ง สายตาจ้องมาทางจั๋วซือหรานเป็นระยะ "มีสิทธิ์อะไร...ข้าทุ่มเทมาหลายสิบปี! แต่หญิงสาวคนเดียวก็ยังสู้ไม่ได้เหรอ! มีสิทธิ์อะไร?! ข้าไม่เชื่อ! ข้าไม่เชื่อ! สวรรค์ทอดทิ้งข้า!"หลังจากนั้น ในมือเขาก็มีเสียงวูม! มีตลับหุ่นเชิดโผล่มาอีกหลายตลับ!ยิ่งไปกว่านั้นอักขระคำสาปประหลาดบนนั้น จั๋วซือหรานใช้ความเข้าใจต่อการคัดลอกอักขระคำสาปของตลับหุ่นเชิดในช่วงหลายวันนี้มาทำการประเมินตลับหุ่นเชิดเหล่านี้ล้วนเป็นหุ่นเชิดความมืดทั้งหมด!ดังนั้น ตอนที่หวงเจี้ยนถังเอาตลับหุ่นเชิดออกมามากมายนั้นคนสำนักเมฆาวารีที่เข้ามารายงานนั่น กับคนที่มาดูมหรสพอีกมากมาย เดิมทียังคิดว่า จั๋วซือหรานน่าจะมีความหวาดกลัว...หรือไม่ก็สายตาที่ระแวดระวังขึ้นมาบ้าง?แต่ว่าไม่มีเลยไม่มีเลยสักนิดถ้าแค่ไม่มีก็ว่าไปอย่าง ถึงอย่างไรพวกเขาก็แทบจะไม่เคยเห็นสีหน้าหวาดกลัวใดๆ บนหน้าหญิงสาวที่เผชิญหน้ากับอันตรายคนนี้เลยแต่ ไม่ใช่แค่ไม่มีความหวาดกลัวพวกเขายังเห็นว่า...ดวงตาของนางเป็นประกายขึ้นด้วยซ้ำ!ตาของนาง...เปล่งประกายขึ้น

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1159

    แต่ตรงหน้าเหล่านี้ ล้วนยังมีชีวิตกันอยู่นางสามารถควบคุมพวกเขาได้อย่างสบาย ตอนที่พวกเขายังมีชีวิตอยู่!"นี่เป็นไปได้อย่างไรกัน...เป็นไปได้อย่างไร..." หวงเจี้ยนถังราวกับถูกกระตุ้นอย่างรุนแรง รู้สึกเริ่มสับสนหมดหวังขึ้นมาแล้วเขาพูดงึมงำซ้ำไปซ้ำมาไม่หยุด "นี่เป็นไปได้อย่างไรกัน เป็นไปได้อย่างไร...นี่มันเป็นไปไม่ได้...เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด...""ถ้าหากแบบนี้ เช่นนั้นข้า...มันคืออะไรล่ะ? แล้วข้า...จะเป็นอะไรไปได้?" หวงเจี้ยนถังพูด ในสีหน้าก็เหมือนจะเสียสติคุ้มคลั่งขึ้นมาแล้วรางๆแต่ก็ยังไม่ถือว่ารุนแรงนัก และตอนนี้เอง ด้านนอกประตูก็มีคนในชุดสำนักเมฆาวารีคนหนึ่ง เข้ามาพูดอะไรข้างหูหวงเจี้ยนถังสีหน้าหวงเจี้ยนถังยิ่งปั้นยากขึ้นไปอีก ราวกับไม่มีลมหายใจเหลืออยู่อีกแล้วจั๋วซือหรานมองคนสำนักเมฆาวารีที่รีบเข้ามาจากด้านนอก เห็นสีหน้าแปลกประหลาดของเขา ก็พอจะเดาได้ว่าเขาพูดอะไรเพราะจั๋วซือหรานจำคนสำนักเมฆาวารีคนนี้ได้ ถ้าหากจำไม่ผิด เหมือนจะเคยเห็นมาแล้วครั้งหนึ่งที่โรงเตี๊ยมดังนั้นที่เขารีบเข้ามาตอนนี้ สีหน้ายังดูเหมือนพูดไม่ออกบอกไม่ถูกแบบนี้จั๋วซือหรานก็นึกไปถึงหนึ่งความเป็นไปได้...บาง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1158

    ยังคงอยู่ในท่าทางป้องกันเช่นเดียว ขวางอยู่ตรงหน้าจั๋วซือหรานคอของพวกเขากระทั่งเลือดหยุดไหลไปแล้ว และถ้าหากมองอย่างละเอียดจะพบว่า แผลบนคอคุณชายฉินก่อนหน้านี้ ไม่ใช่แค่เลือดหยุดไหล กระทั่งว่า!กระทั่งมันเริ่มรักษาแล้ว!หวงเจี้ยนถังเองก็มองสิ่งเหล่านี้ออก ไม่ใช่สิ่งที่อยู่เหนือความเข้าใจเขาเลย ยิ่งไปกว่านั้นเขาใช้ชีวิตมาแล้วตั้งหลายปี จะมายอมรับและเผชิญหน้ากับความไม่รู้และความล้มเหลวของตนเองง่ายๆ ได้อย่างไร?หวงเจี้ยนถังยิ่งมั่นใจในความคิดของตนเองมากขึ้นไปอีก"นี่ถ้าไม่ใช่วิชาชั่วร้าย แล้วจะเป็นอะไรไปได้?! ศิษย์สำนักข้าล้วนถูกเจ้าควบคุมไปหมด!" หวงเจี้ยนถังเอ่ยขึ้นอย่างโกรธแค้น "เจ้ามัน...ปีศาจสาวชัดๆ! ได้ยินว่าเจ้าสร้างความวุ่นวายในเมืองหลวงน่าดู น่าจะใช้วิชาชั่วร้ายแบบนี้สินะ! วันนี้ข้าจะจัดการแทนสวรรค์..."เขายังพูดไม่ทันจบ ก็เห็นว่ามุมปากหญิงสาวคนนี้ยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม ไม่มีความอบอุ่น แต่แฝงไว้ด้วยอำนาจที่เหนือกว่าเสียงของนางเรียบใสเย็น "คิดให้ดีแล้วค่อยพูด แทนสวรรค์รึ? วิญญาณนับไม่ถ้วนที่มือเจ้า เต็มไปด้วยกรรมชั่ว แล้วยังคิดจะแทนสวรรค์? เจ้าทำได้หรือไงกัน?""อ๊ะ ใช่แล้ว" นางเห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1157

    "เจ้า...!" บนหน้าผอมแห้งของหวงเจี้ยนถัง ดวงตาเบิกโพลงฉับพลัน!ยิ่งไปกว่านั้นเนื่องจากผอมเกินไป เดิมทีดวงตาที่โตอยู่แล้ว ตอนนี้พอถลึงตา ก็ยิ่งโตขึ้นจนแทบจะร่วงลงมาอย่างไรอย่างนั้นในดวงตาเขาตกตะลึงจนยากจะปิดบัง เพราะเนื่องจากตกใจมากเกินไป กระทั่งปากก็ยังอ้าค้าง มุมปากสั่นเล็กน้อย ราวกับได้รับผลกระทบมหาศาล"นี่...นี่เป็นไปได้อย่างไรกัน..." เขางึมงำขึ้นคำหนึ่งในน้ำเสียงฟังแล้ว ก็เหมือนไม่มีความเย็นชาดุดันแบบก่อนหน้าแล้วหวงเจี้ยนถังเป็นปรมาจารย์วิชาเหยี่ยนมาแล้วหลายปี เข้าใจว่าวิชาหุ่นเชิดของตนเองไม่ธรรมดายิ่งไปกว่านั้นการค้นคว้าต่อวิชาเหยี่ยน ระดับการหลอมวัตถุของเขาเองก็ไม่ได้ต่ำเลยนี่เป็นพื้นฐานและความภาคภูมิใจของเขามาโดยตลอดโดยเฉพาะหุ่นเชิดความมืด กระทั่งในสำนักเมฆาวารี มีหุ่นเชิดความมืดไม่น้อยที่หลอมสกัดออกมาจากมือเขา อย่างหุ่นเชิดความมืดของผู้ดูแลชุยก่อนหน้านั้น อันที่จริงก็หลอมมาจากมือของหวงเจี้ยนถังกระทั่งเจ้าสำนักก็ยังมีหุ่นเชิดความมืดบางส่วน ที่หวงเจี้ยนถังหลอมสกัดออกมาให้อีกด้วย ถึงอย่างไรการหลอมสกัดหุ่นเชิดก็เป็นงานละเอียดอ่อน เปลืองทั้งเวลาเปลืองทั้งแรง ไม่ใช่อะไ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1156

    พอเข้าใจวิชาหุ่นเชิดบ้าง และล้วนรู้ว่า เพื่อหุ่นเชิดหนึ่งตัว ไม่ว่าจะเป็นหุ่นเชิดธรรมดาหรือหุ่นเชิดความมืด ปรมาจารย์วิชาเหยี่ยนต้องใช้เวลาสักพักหนึ่งในการหลอมสกัดจึงจะนำมาใช้งานได้เหมือนกับนางแบบนี้เสียที่ไหน?! คิดจะใช้ก็เอามาใช้เลย?ยิ่งไปกว่านั้น! คุณชายฉินก็ยังไม่ตายด้วย!พวกเขาเห็นว่าเขายังหายใจอยู่!คนสำนักเมฆาวารีพวกนั้น ก็รู้สึกตกตะลึงอย่างมากกับฉากที่เห็นตรงหน้า!ถ้าหากบอกว่าก่อนหน้านี้พวกเขารู้สึกตกตะลึงกับการแสดงออกของจั๋วซือหราน พวกเขาในตอนนี้คืองงเป็นไก่ตาแตกไปแล้วไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน ที่พวกเขารู้ กระทั่งเจ้าสำนักก็ยังไม่มีความสามารถแบบนี้!และตอนนีเ้อง คนสำนักเมฆาวารีก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้น เย็นๆ ใสๆ เส้นเสียงทั้งที่น่าฟัง แต่ตอนนี้ในหูพวกเขา กลับราวกับเป็นเสียงที่ลอดมาจากขุมนรก"พวกเจ้า ลองหลบดูอีกสักครั้งไหม?"คนเหล่านี้รู้สึกเหมือน หัวใจจะหยุดเต้นไปแล้วในพริบตาอวัยวะสัมผัสหลายจุดแจ่มชัดขึ้นเป็นพิเศษในพริบตานี้ อย่างเช่นว่า พวกเขาสามารถมองเห็นอย่างชัดเจน ว่านิ้วมือของนางขยับอย่างไรภาพการกระดิกนิ้วเบาๆ นั่น...กลับสร้างความตกตะลึงได้ยิ่งกว่าโบกแกว่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1155

    นางไม่กลัวเลยจริงๆ! ยิ่งไปกว่านั้น ประทัดที่ว่ามันคืออะไร!คนสำนักเมฆาวารีมีปฏิกิริยาขึ้นมา สิ่งที่นางพูดน่าจะหมายถึงกระบอกเสียงของพวกเขาเมื่อครู่นี้ประทัดอะไรกันเล่า? ฟังแล้วดูตลกเสียจริงสีหน้าพวกเขาปั้นยากขึ้นมาแต่ว่ากลับไม่มีปฏิกิริยาใดกับคำพูดยโสของนาง เพราะว่า...ผู้อาวุโสยังไม่มาหญิงสาวคนนี้ลึกล้ำเกินหยั่งจริงๆนิ่งกันแบบกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่พักหนึ่ง พวกเขาก็ได้ยินเสียงนางที่เหมือนจะหมดความอดทน "หรือว่า ข้าต้องปาดคอพวกเจ้าทิ้งด้วย ผู้อาวุโสของพวกเจ้าถึงจะรู้สึกว่าเรื่องนี้สำคัญแล้วยอมเข้ามา?"พวกเข้าหน้าเขียวปี๋ สายตาพรั่นพรึงขึ้นมา"เอาเถอะ" สองมือที่กอดอกอยู่ของจั๋วซือหราน ยื่นออกมาข้างหนึ่งเหมือนกับที่จัดการคุณชายฉินเมื่อครู่ ชูนิ้วหนึ่งขึ้นมาสายตาคนสำนักเมฆาวารีถลึงตาโต พวกเขารู้จักท่านี้ของนง ดังนั้น พอเห็นท่าทางนี้ ก็เลยตึงเครียดกันขึ้นมาพวกเขาจ้องไปที่นิ้วเรียวขาวของนางอย่างตึงเครียด และเห็นว่านิ้วของนางกระดิกเบาๆ ขึ้นมาทันที!ตอนนี้เอง พวกเขาในที่สุดก็ได้ยินเสียงจากไกลๆ พุ่งเข้ามาเป็นเสียงกระดิ่ง กริ๊งๆๆ...!พวกเขาแทบน้ำตาคลอเบ้า! เพราะพวกเขารู้จัก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1154

    รู้สึกเหมือนถูกสัตว์ร้ายจับจ้องอยู่อย่างไรอย่างนั้น พอบวกกับ ที่จมูกตอนนี้ยังได้กลิ่นเลือดสดที่ทะลักออกมาจากคอของคุณชายฉินจนมีกลิ่นคาวเลือดจางๆและยังได้ยินเสียงอ่อคๆ ในคอของคุณชายฉินอีก ขนาดที่ความน่าเกรงขามที่แข็งแกร่งขนาดนี้ แข็งแกร่งจนราวกับจะจับต้องมันได้ขึ้นมา!ดังนั้นพวกเขาที่เดิมทียังคิดจะบุกเข้าไป จึงยืนนิ่งตัวแข็งกันอยู่ที่เดิมพอเห็นท่าทางแข็งทื่อไปกะทันหันของพวกเขา จั๋วซือหรานก็เลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ยกมุมปากเอ่ยขึ้นว่า "เป็นตัวเลือกที่ฉลาด"รอบๆ ไม่รู้ว่าใครที่ตะโกนขึ้นมา "ให้ตายเถอะ! ใยหุ่นเชิด...มากมายเต็มไปหมด!""ให้ตาย! เยอะมากจริงๆ! นางเองก็เป็นปรมาจารย์วิชาเหยี่ยนหรือ?!"พอได้ยินเสียงแบบนี้ขึ้นมารอบๆ พวกสำนักเมฆาวารีก็สังเกตเห็นขึ้นมา ว่าระว่างนางกับพวกเขา มีใยละเอียดอยู่มากมายจริงๆ...เพียงแต่มันโปร่งใสอยู่ตลอด ดังนั้น ถ้าหากไม่สังเกตอย่างละเอียดก็จะมองไม่เห็นและมีใยหุ่นเชิดในนี้ ที่ย้อมเลือดอยู่ด้วยไม่รู้ว่านางปล่อยใยหุ่นเชิดมากมายขนาดนี้มาตั้งแต่เมื่อไรคิดดูแล้วเมื่อครู่นี้คุณชายฉินน่าจะถูกปาดคอไปตอนที่นางใช้นิ้วปาดวาด ก็คงพราะเจ้าใยหุ่นเชิดพวกนี้สินะพลัง

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status