แชร์

บทที่ 194

ผู้เขียน: หูเทียนเสี่ยว
เช่นตระกูลจั๋ว แม้ว่าพวกเขาเคยให้ความสำคัญกับจั๋วซือหราน นางกก็ยังถูกละทิ้งอยู่ดี

แต่การที่ตระกูลเฟิงให้ความสำคัญกับเฟิงเหยียนนั้นแตกต่างไปจากตระกูลอื่นอย่างสิ้นเชิง

ดังนั้นจึงไม่ยากที่จะอธิบายว่าทำไมพลังวิเศษของเฟิงเหยียนจึงสามารถข่มขู่เหล่าผู้อาวุโสได้ หากพลังของเขาเป็นไปตามที่เขากล่าวไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งพลังของเขาเกี่ยวข้องกับพลังศักดิ์สิทธิ์บางอย่างของตระกูลจริง ๆ ... นั่นก็สามารถอธิบายได้ง่าย

ดังนั้นจั๋วซือหรานจึงไม่อยากถามรายละเอียดเพิ่มเติม

สิ่งเดียวที่นางยังคิดไม่เข้าใจเหตุใดพลังของเฟิงเหยียนสามารถข่มขู่ผู้อาวุโสทุกท่านในตระกูลเฟิงได้ แต่ทำไมจึงไม่สามารถขู่ชายวัยกลางคนในเมื่อครู่นี้ได้ - ท่านพ่อของเขา ทำให้ชัยคนนั้นกลัวล่ะ

แต่จั๋วซือหรานไม่รีบหาคำตอบ เพราะยังมีเวลาอีกยาว วันหลังน่าจะมีโอกาสรู้เอง

เนื่องจากเฟิงเหยียนไม่ยอมให้จั๋วซือหรานฝืนตัว ดังนั้นหลังจากนั้น จั๋วซือหรานรักษาอาการบาดเจ็บของเขาได้ง่าย

พลังของการแพทย์สายวิเศษของนางทำหน้าที่เป็นตัวช่วย เพื่อให้เฟิงเหยียนฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

นางไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน แม้ว่าเฟิงเหยียนไม่ให้นางฝืนตัว ให้นางเป็นผู้ช่วยในกา
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 195

    จั๋วซือหรานไม่ได้ง่วงขนาดนั้น แต่นางไม่สามารถตื่นขึ้นมาได้ ซึ่งสภาพนี้ค่อนข้างมหัศจรรย์มันเหมือนกับว่านางรู้ชัดเจนว่า นางกำลังหลับอยู่ และนางรู้สึกว่านางตื่นขึ้นได้ทันทีเมื่อนางลืมตา แต่นางก็ไม่สามารถตื่นได้ซึ่งเป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดมาก และจั๋วซือหรานรู้สึกตัวเองกำลังถูกห่อหุ้มด้วยน้ำร้อน นางรู้สึกร้อนเล็กน้อย แต่ก็ไม่รู้สึกทุกข์ใจมากเมื่อเทียบกับความรู้สึกทุกข์ใจตอนพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้า ๆ ความรู้สึก ณ ปัจจุบันนี้ดีกว่ามากในความเป็นจริง คราวนี้เมื่อนางรักษาเฟิงเหยียน จั๋วซือหราน รู้สึกอย่างชัดเจนว่า เมื่อเขารักษาเฟิงเหยียนในครั้งนี้ ดูเหมือนว่านางไม่ต้องใช้ความพยายามมากเท่ากับครั้งสุดท้ายที่นางได้รักษาชายผู้นี้ที่ศูนย์การแพทย์ตระกูลเหยียนตอนแรกนางคิดอยู่ว่าเป็นเพราะคราวนี้ อาการบาดเจ็บของเขาค่อนข้างเบา แต่เขาสูญเสียประสาทสัมผัสทั้งห้าอย่างเห็นได้ชัด เห็นได้ชัดว่าอาการบาดเจ็บครั้งนี้รุนแรงกว่าจั๋วซือหรานจึงเดาได้ว่าความแข็งแกร่งของนางดีขึ้นบ้างหรือไม่ หากมีการปรับปรุง การปรับปรุงนี้เกี่ยวข้องกับอะไรบ้างเพียงแต่ก่อนหน้านี้นางตั้งใจรักษาเฟิงเหยียน และไม่มีเวลาคิดเกี่ยว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 196

    โดยไม่คาดคิด เฟิงเหยียน ขมวดคิ้วและพูดว่า "เรือนของข้าไม่มีสาวรับใช้ มันคงไม่สะดวกมากหากจั๋วเสียวจิ่วต้องการใครดูแล"ดังนั้นมีแต่หานกวงเท่านั้นที่ใช้ได้ แม้ว่านางเป็นผู้หญิงที่กล้าหาญและสามารถโจมตีผู้ชายได้ แต่นางก็ยังเป็นผู้หญิงฉูนจวีนคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดอย่างช่วยไม่ได้ว่า "หากหานกวงได้ยินคำสั่งนี้ นางต้องหนีตัวไปไกล ๆ แน่ ๆ อย่างไรก็ตาม ท่านจะหมั้นกับแม่นางจิ่วขอรับ มีความสัมพันธ์ที่เป็นคู่หมั้นกันหากต้องการให้คนดูแลจริง ๆ ....."ฉูนจวีนพูดอย่างกล้าหาญว่า "ท่านมีตราแพทย์ไม่ใช่หรือขอรับ ท่านก็เคยทายาให้แม่นางจิ่ว ตอนนั้นไม่เห็นท่านนึงถึงความแตกต่างระหว่างชายและหญิงเลยขอรับ"เฟิงเหยียนขมวดคิ้วและดุว่า "ออกไป"ฉูนจวีนแตะจมูกแล้วรีบหนีไปอย่างรวดเร็วโชคดีที่จั๋วซือหรานไม่มีอะไรที่ต้องให้คนดูแล นางเหนื่อยล้าเป็นหลัก นางจึงจำเป็นต้องฟื้นตัว ดังนั้นนางจึงต้องการการพักผ่อนที่ดีนางนอนหลับอย่างสงบทั้งคืนเฟิงเหยียนนั่งข้างกันเงียบ ๆ เขาหลับตาเพื่อพักผ่อน บางครั้งก็ลืมตาเพื่อเหลือบมองคนที่นอนบนเก้าอี้เตียงเพื่อยืนยันอาการของนางเขาต้องบอกว่าผู้หญิงหยิ่งผยองและมักจะปฏิเสธที่จะยอมรับ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 197

    เฟิงเหยียนห่มนางด้วยเสื้อคลุมตัวใหญ่แล้วอุ้มนางหลังจากเดินออกจากห้อง ฉูนจวีนรีบเดินเข้ามาหาเขา ฉูนจวีนกังวลเล็กน้อย เนื่องจากเขาเคยทำเช่นนี้มานานแล้ว เมื่อเห็นเฟิงเหยียนเดินออกจากห้องในเวลาที่ทีแสงอาทิตย์ เขากังวลโดยไม่รู้ตัวแต่เมื่อเห็นเฟิงเหยียนไม่ได้รับบาดเจ็บ แล้วเห็นเฟิงเหยียนอุ้มผู้คนหนึ่งไว้แน่นด้วยเสื้อคลุมในอ้อมแขนของเขาฉูนจวีนยังไม่ตระหนักได้ว่าเกิดอะไรขึ้น“ท่านขอรับ นี่คือ…” ฉูนจวีนลังเลและถาม แต่ก็รู้คำตอบในวินาทีถัดมา “ แม่นางจิ่วเป็นอะไรขอรับ”เฟิงเหยียนไม่มีเวลาอธิบาย ดังนั้นเขาจึงดุด้วยเสียงเข้ม "หลีกทาง อย่าขวางทาง"ฉูนจวีนรีบหลีกทางให้และเดินตามเฟิงเหยียนอย่างใกล้ชิด พวกเขาเดินไปในทิศทางของสระน้ำเย็นสระน้ำเย็นอยู่ในเรือยที่กว้างขวางถัดจากตำหนักนอนของเฟิงเหยียน เฟิงเหยียนมาถึงประตูเรือนที่มีสระน้ำเย็นด้วยความเร็วเพียงไม่กี่ก้าว เขาเตะประตูออกจากนั้นเขารีบเข้าไปในประตูและเตะประตูปิดอีกครั้ง ด้วยการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วเช่นนี้ ฉูนจวีนมีเวลาเพียงเห็นคนที่เจ้านายอุ้มไว้ในอ้อมแขน เขาเห็นมือข้างหนึ่งห้อยลงอย่างนุ่มนวลปลายนิ้วสีขาวและเรียวยาวเปื้อนเลือด และเลือ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 198

    และใบหน้าของนางและผิวของนางขาวอย่างไม่น่าเชื่อ สีแดงสุดขีดนั้นคู่กับสีขาวสุดขีดนั้น...ซึ่งทำให้นางดูเงียบและไร้ลมหายใจ เหมือนางเสียชีวิตแล้วไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยเห็นสภาพที่น่าสังเวชของนาง ความจริง เขาเคยเห็นสภาพเช่นนั้นหลายหนแล้ว ตอนที่นางถูกตระกูลจั๋วตำหนิและลงโทษ สภาพที่น่าเวทนาจนทนดูไม่ได้หลังจากถูกเฆี่ยนตีเก้าครั้งนางถูกตระกูลเหยียนใส่ร้ายและถูกทรมานอย่างทารุณใน หน่วยสืบสวนพิเศษไม่ว่าครั้งไหน นางดูน่าเวทนาอย่างมาก แต่ไม่ว่าครั้งไหน นางแข็งแกร่งเสมือนหญ้าธูปฤาษี และไม่ว่านางดูน่าสมเพชแค่ไหน นางก็ไม่ยอมอ่อนข้อ นางยังคงปากแข็งได้และอดทนได้ และนางสามารถทนมันได้อย่างยากลำบากแต่ไม่ใช่อยู่ในสภาพเช่นนี้...เงียบและไร้ลมหายใจเฟิงเหยียนขมวดคิ้วขึ้นอีกเล็กน้อย เขากอดนางด้วยมือข้างหนึ่ง และมืออีกข้างก็กดหน้าอกของเขาเบา ๆมันเป็นภาพลวงตาหรือไม่ ทำไมอาการปวดตุ๊บ ๆ ที่หน้าอกอย่างอธิบายไม่ได้จึงดูชัดเจนมากขึ้นเฟิงเหยียนยกมือขึ้นและสัมผัสใบหน้าของนางเบา ๆ ริมฝีปากบางของเขาขยับเล็กน้อย " จั๋วจิ่ว "นางไม่มีปฏิกิริยาใดๆเขาสัมผัสใบหน้าของนางอีกครั้ง และเนื่องจากนิ้วของเขาเปื้อนเลือดของนา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 199

    เฟิงเหยียนไม่รู้เลยว่า จั๋วซือหรานในสภาพที่เบลอ ๆ ในขณะนี้ แต่คำพูดที่สั่นคลอนที่นางเพิ่งพูดด้วยความงุนงงนั้นได้บอกความต้องการของนางอย่างชัดเจนแล้วนางหนาวมากซึ่งทำให้เฟิงเหยียนถอนหายใจด้วยความโล่งอก เพราะนี่เป็นสิ่งที่เขาทำได้ง่ายที่สุดพลังวิเศษของเขามีอุณหภูมิที่ร้อนจัด เสื้อผ้าของพวกเขาเปียกด้วยน้ำในบ่อเย็น และพลังวิเศษของเขาอบผ้าแห้งในเวลาอันสั้นแต่ร่างกายของจั๋วซือหรานยังคงสั่นเทาไม่หยุด ราวกับว่าอุณหภูมิของสระน้ำเย็นได้ทำร้ายร่างกายของนางอย่างหนักเฟิงเหยียนลดสายตาลงและจ้องมองไปที่หญิงสาวในอ้อมแขนของเขาครู่หนึ่ง จากนั้นจึงก้มศีรษะเบา ๆริมฝีปากบางของเขากดลงบนริมฝีปากของนาง และค่อย ๆ ส่งพลังวิเศษเข้าไปในช่องปากของนาง......จั๋วซือหรานรู้สึกตัวเองกำลังจะตาย อย่างแรก นางรู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก ร่างกายของนางเหมือนถูกเผาไหม้ด้วยไฟแต่นางก็รู้สึกถึงประโยชน์บางอย่างเช่นกัน หลังจากนางรักษาเขาครั้งที่แล้ว แม้ว่านางเจ็บปวดมาก แต่ความแข็งแกร่งของนางก็ดูดีขึ้นบ้างในระดับหนึ่งครั้งนี้คล้าย ๆ กัน ใครจะรู้ว่าเฟิงเหยียนกอดนางแล้วลงสระน้ำเย็นเลยทีเดียว อุ๊ย ช่างเป็นคนมีน้ำใจเหลือเกิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 200

    จากนั้น หานกวงเห็น... สีหน้าหนักใจและทำอะไรไม่ถูกบนใบหน้าของฉูนจวีนอาจกล่าวได้ว่าค่อนข้างซับซ้อนฉูนจวีนหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดด้วยเสียงถอนหายใจ "ตอนนี้ไม่สะดวก เดี๋ยวเจ้าค่อยเข้าไป"หานกวงไม่มีการคัดค้านใด ๆ แต่เมื่อเห็นการกระทำต่อไปของ ฉูนจวีน นางรู้สึกมึนงง"แต่พี่ใหญ่... พี่คุกเข่าทำไม"ฉูนจวีนมองนางเบา ๆ และไม่ตอบนางคุกเข่าเพื่ออะไรได้อีกล่ะ แน่นอนว่าเขากำลังรอเจ้านายลงโทษเขาฉูนจวีนอยากบอกจริง ๆ ว่า เขาไม่ได้เห็นอะไรเลย แต่เขาเป็นคนซื่อสัตย์ เขาไม่สามารถหลอกลวงหัวใจของเขาได้ภาพที่เขาเห็นในเมื่อครูนี้...ฉูนจวีนแอบพูดในใจ ท่านช่าง... ไม่เป็นสุภาพบุรุษ แม่นางจิ่ว เป็นเช่นนี้เพราะรักษาท่าน... แต่ท่านกลับเอาเปรียบผู้หญิงคนนี้เช่นนั้นหรือเฟิงเหยียนไม่รู้ว่าลูกน้องของเขากำลังคิดอะไรอยู่ในขณะนี้ และความคิดที่ฉูนจวีนคิดว่าเขากำลังเอาเปรียบผู้หญิงนั้นไม่เป็นความจริงทั้งหมดอันที่จริง มันเป็นเรื่องจริงที่เฟิงเหยียนถูกเอารัดเอาเปรียบมากกว่าจั๋วซือหรานกอดคอของเขาและจูบเขาเรื่อย ๆจนกระทั่งนางรู้สึกร่างกายอุ่นขึ้นอีกครั้ง พลังเย็นระเหยกลายเป็นควันสีขาวจาง ๆในที่สุด จั๋วซือหรา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 201

    เมื่อจั๋วซือหรานตื่นขึ้น นางรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วทั้งร่างกายความเจ็บปวดในร่างกายของนางดูเหมือนจะตื่นขึ้นก่อนสติของนางเมื่อนางลืมตาขึ้น สิ่งที่นางเห็นคือ... จันทันที่ไม่คุ้นเคยจั๋วซือหรานถึงกับรู้สึกงุนงงอยู่ครู่หนึ่ง โดยไม่รู้ว่าวันนี้วันที่เท่าไร หรือตัวเองอยู่ที่ไหนจนกระทั่งใบหน้าของผู้หญิงที่มีโครงร่างที่คมชัดและมีลักษณะที่กล้าหาญปรากฏขึ้นในสายตาของนางผู้หญิงคนนั้นเรียกนางทันที “แม่นางจิ่วตื่นแล้วหรือเจ้าคะ”เมื่อได้ยินชื่อนี้ จิตสำนึกของจั๋วซือหรานจึงกลับมาอย่างรวดเร็ว และนางก็รู้ทันทีว่านางอยู่ที่ไหนและทำไมนางถึงมาที่นี่ไม่น่าแปลกใจเลยในเรือนหลังนี้ แม้แต่คานบนหลังคาก็ยังงดงาม แกะสลักด้วยลวดลายที่ละเอียดอ่อนมาก และดูสวยงามมาก ราวกับเป็นนกบางชนิด...ความทรงจำบางอย่างค่อย ๆ กลับมา และจั๋วซือหรานก็จำสิ่งที่ เฟิงเหยียนพูดได้ โดยตระหนักว่ารูปแบบที่ละเอียดอ่อนผิดปกติเหล่านั้น ซึ่งคล้ายกับนกบางชนิดนั้น ต้องเป็นตราประจำตระกูลของตระกูลเฟิง นั่นก็คือ หงส์แดง“ แม่นางจิ่ว” เหมือนไม่ได้คำตอบจากจั๋วซือหราน หานกวงเรียกอีกครั้งและโบกมือเบา ๆ ต่อหน้าต่อตาจั๋วซือหราน"เจ้าเป็นใคร" จั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 202

    “เวลาผ่านไปสองคืนหนึ่งวันแล้วเจ้าค่ะ” หานกวงกล่าวจั๋วซือหรานพูดในใจว่า พลาดอาหารไปห้ามื้อ จะไม่หิวได้อย่างไรล่ะ“หากแม่นางหิวแล้ว ข้ารีบตามคนในครัวนำอาหารมาให้เจ้า” หานกวงพูดแล้วเงียบชั่วคราวแล้วพูดต่อ “แต่อาจไม่อร่อยนัก”หานกวงมองจั๋วซือหรานแล้วกระซิบ "ข้าได้ยินจากจ้านหลู เขาเล่าให้ฟังว่า แม่นางจิ่วทำอาหารเก่งมาก แม่นางอาจไม่ชอบกับข้าวที่นี่..."โดยปกติแล้ว แม้แต่คนธรรมดาที่มีจิตใจที่ละเอียดอ่อนกว่าเล็กน้อยก็สามารถฟังออกความหมายที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังของคำพูดของหานกวงได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้ที่ฉลาดอย่างจั๋วซือหราน นางต้องเดาออกความในใจของหานกวงแน่ ๆ เมื่อได้ยินคำพูดของหานกวงโดยเฉพาะหานกวงแสดงท่าทีที่อยากชิมฝีมืองของนางอย่างมาก ราวกับว่าน้้ไลจะไหลออกจากมุมปากของนางในวินาทีถัดไปน่ารักเชียวจั๋วซือหรานหรี่ตาลง นางขดริมฝีปากแล้วยิ้ม "...จริงหรือ หากมีวัตถุดิบอาหาร ข้าจะทำเอง"หานกวงดีใจทันที “มี มีเจ้าค่ะ มีทุกอย่างเจ้าค่ะ”เมื่อยืนอยู่ในครัวเล็ก ๆ ในลานบ้านของเฟิงเหยียน จั๋วซือหราน รู้สึกพูดอะไรไม่ถูก นางไม่ทันมีปฏิกิริยาเลย ทำไมเรื่องกลายเป็นเช่นนี้ตามแผน นางมาที่นี่เพื่อคุย

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1090

    จั๋วซือหรานไม่ตอบ แค่เลิกคิ้วขึ้นอย่างไม่ยอมรับหรือปฏิเสธหัวหน้าคนคุ้มกันออกแรงเม้มปาก ในดวงตาแดงก่ำขึ้นจั๋วซือหรานเอ่ยเสียงเรียบ "เดิมทีข้าคิดว่าเจ้าน่าจะเห็นแล้วว่าเจ้านายเจ้าเป็นพวกที่ไม่เห็นความสำคัญของชีวิตคน จะมองออกถึงดวงชะตาแล้ว ทั้งที่ผ่านความเป็นความตายมาแล้วก็น่าจะหวงแหนชีวิตขึ้นมาบ้างจึงจะถูก นี่เจ้ากลับเข้ามารนหาที่ตาย"หัวหน้าคนคุ้มกันริมฝีปากสั่นระริก "แม่นาง..."จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ "เอาล่ะ เลือกมา"พอได้ยินคำพูดของจั๋วซือหราน หัวหน้าคนคุ้มกันก็ตกตะลึง "อะ อะไรหรือ?""อยากจะรอดหรืออยากจะตาย" จั๋วซือหรานพลิกข้อมือ อาวุธเล่มหนึ่งปรากฏขึ้นกลางฝ่ามือ "ถ้าจะส่งเจ้าไปสบายมันง่ายดายมาก ไม่ใช่เรื่องลำบากเลย อย่าว่าแต่เจ้า พวกลูกน้องเหล่านี้ของเจ้า ข้าสังหารทั้งหมดได้แค่ในไม่กี่อึดใจ"พอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน หัวหน้าคนคุ้มกันที่ในดวงตาสงบนิ่งไปแล้วแท้ๆ แต่กลับเหมือนมีประกายของดวงดาวเปล่งปลั่งขึ้นมา"ยังมี...ชีวิตต่อได้หรือ?" ในน้ำเสียงของหัวหน้าคนคุ้มกันมีความหวังขึ้นมาแล้วจั๋วซือหรานเหลือบมองเขาผาดหนึ่ง "ได้ แต่มีสิ่งที่ต้องจ่าย""จ่ายด้วย...อะไรหรือ?"

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1089

    เพราะขนมชามมีไฟวิเศษเปลวเพลิงอู๋ซื่ออยู่ในตัว รูปร่างเดิมจึงกึ่งโปร่งใสถนัดการพรางตัวมากที่สุดและสภาพก่อนหน้านี้ การปรากฏตัวกะทันหันของจั๋วซือหราน ตอนที่ผู้เฒ่าเหอมีอาการสั่นไปทั้งตัวจากความผวาต่อตัวนาง แน่นอนว่าความสนใจทั้งหมดจึงพุ่งไปบนตัวนางจนไม่ทันได้สังเกตถึงการเคลื่อนไหวผิดปกติอื่น ดังนั้นจึงไม่รู้สึกตัวเลย ว่าแมลงกู่ที่ร่างกายกึ่งโปรงใสในปกติ และในตอนที่จำเป็นก็เพิ่มระดับความโปร่งใสได้อีก ตัวนี้ ไปเกาะอยู่บนไหล่เขาตั้งแต่เมื่อไรตอนนีเ้อง พอเห็นว่าร่างของผู้เฒ่าเหอล้มลงกะทันหันขนมชามก็รีบกระพือปีกน้อยทั้งสองนั่นขึ้นมา แม้จะบินไม่ได้เร็วหรือสูงนัก แต่การจะบินขึ้นมาจากจุดเดิมไม่ใช่ปัญหาใหญ่ตุบตุบ...ตุบตุบ...มาอยู่เบื้องหน้าจั๋วซือหราน หยุดลงข้างๆ หูแล้วจึงส่งเสียงจี๊ดๆ ขึ้นมาแต่ที่ได้ยินในหูจั๋วซือหราน ขนมชามกำลังบอกว่า "นายท่าน เขาสลบไปแล้ว"จั๋วซือหรานจุ๊ปากขึ้นมา "ชิ อ่อนแอเสียจริง""ใช่เลย" ขนมชามเห็นด้วยกับคำพูดของนายท่าน หลังจากนั้นก็ร่อนลงมาบนไหล่จั๋วซือหราน เอ่ยว่า "ทั้งที่ข้าเป็นคนที่ทนรับได้ง่ายที่สุดในกลุ่มพวกเราแล้วด้วยซ้ำ"จั๋วซือหรานคิดแล้วก็ขำ พูดอ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1088

    สีหน้าผู้เฒ่าเหอแข็งทื่อไป หลังจากตั้งสติกลับมาได้ สีหน้าก็เขียวจนซีดไป นี่นางกำลังตอบโต้เขาว่าก่อนหน้านี้ผายลมออกมาไม่ดังพอสินะ!ผู้เฒ่าเหอโมโหไม่พอใจ สูดลมหายใจลึก แล้วจึงสงบลงมาได้เขาจ้องจั๋วซือหราน "ใต้เท้าจั๋ว ท่านมาโดยไม่ได้รับเชิญถึงสองรอบ วางยาพิษลูกชายข้า ทำร้ายผู้ใต้บัญชาข้า นี่รังแกกันมากเกินไปแล้ว ทำไมหรือ? ขุนนางราชสำนักสามารถรังแกคนได้แบบนี้หรือไรกัน? คิดว่าต้าชางไม่มีกฏหมายหรือไร?"จั๋วซือหรานหลังจากได้ยินคำนี้ พูดออกมาแค่ว่า "เจ้าพูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไร?""ความหมายของข้าก็คือ..." ผู้เฒ่าเหอกำลังคิดจะพูดแต่เขายังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกจั๋วซือหรานตัดบทไปแล้ว "เจ้าคิดว่ายกเอากฏหมายออกมาแล้วจะช่วยชีวิตเจ้าได้เรอะ?""นี่เจ้า...!" ผู้เฒ่าเหอถลึงตาโตในดวงตาถลึงโตของเขา สะท้อนใบหน้ารอยยิ้มชั่วร้ายของจั๋วซือหราน "ในเมื่อเจ้ากล้าคิดวิธีมาทำร้ายข้า ก็คงจะเคยหาข่าวเรื่องข้ามาแล้ว คงเข้าใจในตัวข้าอยู่บ้างสินะ""ในเมื่อเจ้าเข้าใจตัวข้า ก็น่าจะชัดเจนว่า จั๋วจิ่วอย่างข้าไม่มีนิสัยที่ทำตามกฏระเบียบมาแต่ไหนแต่ไร" จั๋วซือหรานเหลือบตามองเขา"เจ้ายกกฏหมายขึ้นมามีประโยชน์อะไร? ต่อ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1087

    พอได้ยินเสียงนี้ที่ดังขึ้นกะทันหัน แล้วยังคุ้นหูขนาดนี้คุ้นหูจนทำให้ผู้เฒ่าเหอยังหลังเย็นวาบ จนถึงตอนนี้ ข้างหูเขาก็เหมือนยังได้ยินเสียงกรีดร้องของลูกชายอยู่เลย...ดังนั้น พริบตาที่ได้ยินเสียงนี้ เสียงของผู้เฒ่าเหอที่เดิมทียังกระฟัดกระเฟียด ก็หยุดลงไปทันทีทั่วทั้งลานเปลี่ยนเป็นเงียบสงัด!และเสียงใสเย็นของหญิงสาวคนนั้น ก็ดังลอดเข้ามาอีกครั้ง "เจ้าเองก็ลองผายลมเสียงดังๆ ให้ฟังหน่อยสิ"ผู้เฒ่าเหอก็เหมือนจะเพิ่งยืนยันได้ว่านี่ไม่ได้หูฝาด แต่เป็นเสียงของหญิงสาวคนนั้นจริงๆสีหน้าเปลี่ยนเป็นปั้นยากขึ้นมาทันทีและตอนนี้เองหัวหน้าคนคุ้มกันตระกูลเหอที่นอนหายใจรวยรินกันบนพื้น แม้แต่จะเหลือบตามองก็ยังสุดกำลัง ก็เลิกหนังตาขึ้น แล้วมองไปทางเสียงที่ดังลอดเข้ามาเหลือบมองออกไปอย่างสุดกำลังที่มีในสายตา เงาสีแดงร่างหนึ่ง ก็รวกับเป็นเปลวไฟกลุ่มหนึ่ง เผาไหม้เข้ามาจั๋วซือหรานยืนอยู่ตรงนั้น จากนั้น จึงก้มลงมองเขาผาดหนึ่งและสบตาเข้ากับเขาที่เงยขึ้นมาพอดีจั๋วซือหรานเลิกคิ้ว จุ๊ปากขึ้นมาทีหนึ่ง "ข้าเตือนพวกเจ้าแล้ว"หัวหน้าคนนี้เข้าใจความหมายในคำพูดของจั๋วซือหรานซึ่งก็จริง ก่อนหน้านี้นาง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1086

    "เจ้า...เจ้าเจ้า..." เสียงของคนคุ้มกันประตูตะกุกตะกักขึ้นมาเขาเห็นหญิงสาวตรงหน้าหรี่ตายิ้ม แต่กลับไม่รู้สึกว่าอบอุ่นเลย ซ้ำยังสัมผัสได้ถึงอาการเย็นวาบที่แผ่นหลังอีกด้วยก่อนหน้าที่จั๋วซือหรานจะมาถึงเมืองหยางหน่วยคนคุ้มกันที่ผู้เฒ่าเหอส่งออกมารับมือจั๋วซือหราน แต่กลับล้มเหลวแถมยังบาดเจ็บ ก็กลับมาถึงจวนตระกูลเหอแล้วพอรู้ว่าพวกเขากลับมาอย่างล้มเหลว แล้วตลับหุ่นเชิดยังถูกแย่งไปอีกด้วย ผู้เฒ่าเหอก็โมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงไม่ได้สนใจพวกคนคุ้มกันที่บาดเจ็บกลับมาเหล่านั้นเลย กระทั่งพวกเขาอันที่จิรงมีคนหนึ่งไม่ได้กลับมาด้วย ไม่รู้ว่าตายไปแล้วหรือยังแต่ภายใต้สถานการณืเช่นนี้ ผู้เฒ่าเหอเองก็ยังจะลงโทษพวกเขาก่อนหน้าที่จั๋วซือหรานจะมาถึงเมืองหยาง พวกเขาก็ถูกผู้เฒ่าเหอลงโทษด้วยแส้มาตลอดแรกสุดที่บาดเจ็บจากหมอกพิษที่ป่าทวนแสง แล้วยังรีบกลับมาอย่างสุดกำลัง บวกกับการลงแส้ของผู้นำตระกูลนี่อีกพวกเขาล้วนกลายเป็นธนูแผ่วปลายกันหมดแล้ว หายใจรวยรินและตอนนี้เอง ผู้เฒ่าเหอหยุดฟาดแส้ ไม่ใช่เพราะเห็นบาดแผลพวกเขาแล้วใจอ่อนลงมา แต่เป็นเพราะเอาแต่หวดแส้แบบนี้ ผู้เฒ่าเหอเองก็เหนื่อยขึ้นมาแล้วเท่านั้น

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1085

    หัวหน้าคนคุ้มกันถอนหายใจออกมาเบาๆ "เป็นข้าที่เลินเล่อเอง ตอนที่แม่นางเข้าเมืองข้าลืมเตือนแม่นาง ว่าในเมืองหยางนี้มีเจ้าถิ่นอยู่""ถ้าหากไปเจอเข้า เลี่ยงไว้หน่อยก็จะดี ถึงอย่างไรแม่นางก็ไม่ได้คิดจะอยู่นานอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องไปเจอกับเรื่องยุ่งยากโดยไม่จำเป็น แม่นางมาจากเมืองหลวง คิดว่าก็น่าจะเข้าใจ ว่ามันจะมีพวกคน...ที่เหมือนกับพวกคางคงอะไรแบบนั้น" หัวหน้าคนคุ้มกันเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานเข้าใจความหมายของเขา ก็ใช่ คางคกเวลาปีนขึ้นมาหลังเท้า ต่อให้ไม่กัดคน ก็ยังน่าขยะแขยงจั๋วซือหรานเลิกคิ้วขึ้น "ตระกูลเหอหรือ?"หัวหน้าคนคุ้มกันพยักหน้า "ตระกูลเหอขอรับ"เขาควรจะคิดถึงตั้งนานแล้ว ว่าคนตรงหน้าคนนี้ ตอนอยู่ที่เมืองหลวง ก็ไม่ได้เป็นคนที่ยอมให้ใครมาข่มเหงง่ายๆ ไม่ต้องพูดถึงเมืองหยางเลยคิดๆ แล้วก็ใช่ คนตรงหน้าคนนี้คือคนที่ไม่เห็นห้าตระกูลใหญ่ของเมืองหลวงในสายตา เป็นหญิงสาวที่ถูกตระกูลขับไล่ แต่กลับถูกผู้อาวุโสมาเชิญให้กลับตระกูล...คนเช่นนี้ จะมาหวาดกลัวตระกูลเหอในเมืองหยางได้อย่างไรกันแต่หัวหน้าคนคุ้มกันยังคงจดจำบุญคุณที่จั๋วซือหรานมีต่อค่ายคุ้มกันและท่านแม่ทัพ ดังนั้น ไม่ว่าจั๋วซือหรา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1084

    จั๋วซือหรานชูเข็มในมือขึ้น เอ่ยว่า "สมอง"จากนั้นก็ใช้เข็มชี้ไปที่ห่วงแขนขาทั้งสี่ "ระบบประสาท"ดีมาก ตอนนี้ก็เข้าใจได้แล้วจั๋วซือหรานตาเป็นประกาย!ไม่ว่าจะแมงมุมน้อยหรือพวกก้อนเนื้อ ตอนนี้ก็น่าจะสัมผัสได้ถึงอารมณ์ลิงโลดของจั๋วซือหรานแล้วเพราะตาของนางเปล่งประกายมาก!จากนั้นนางจึงชูเข็มในมือขึ้นอีกครั้ง "สมอง"ชี้ไปที่ห่วงแขนขาทั้งสี่ "ระบบประสาท"หลังจากพูดซ้ำเช่นนี้ไปหลายรอบ ตอนที่แมงมุมน้อยกับพวกก้อนเนื้อทวนซ้ำคำพูดกับท่าทางของนางได้การเคลื่อนไหวของนางในที่สุดก็มีการเปลี่ยนแปลง!นางบีบขนมถั่วแดงไว้ในมือ เอ่ยขึ้นว่า "สมอง""เอ๋?" ในดวงตาเล็กๆ ของขนมถั่วแดงเบิกกว้างสงสัย ไม่ใช่เข็มนั่นที่เป็นสมองหรือ?จากนั้นนายท่านก้ดึงไหมกู่ของมันออกมาหลายเส้น เอ่ยขึ้นว่า "ระบบประสาท"จั๋วซือหรานตาเป็นประกายจนเหมือนดวงดาว "ไม่ต้องอธิบายแล้ว" นางหัวเราะขึ้นมา "ข้านี่มันอัจฉริยะจริงๆ อัจฉริยะ"เหล่าก้อนเนื้อันที่จริงก็ยังไม่ค่อยเข้าใจความหมายของนายท่นา แต่สัมผัสได้ถึงอารมณ์เบิกบานของนายท่าน พวกมันก็รู้สึกดีใจตามขึ้นมาแมงมุมน้อยเหมือนจะเข้าใจบ้าง แต่ก็ไม่แน่ใจนัก ดังนั้นจึงไม่ได้พูดแท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1083

    นิ้วของจั๋วซือหรานมีแสงหยกครบอยู่ชั้นหนึ่ง ยื่นตรงไปยังเข็มยาวสีดำที่ปักอยู่ตรงท้ายทอยของหุ่นเชิดความมืดเล่มนั้นขนมชาเขียวอยู่ข้างหูนาง เอ่ยขึ้นอย่างกังวล "นายท่าน ข้ารู้สึกว่าเจ้าสิ่งนี้อันตรายมากเลย...ท่านต้องระวังหน่อยนะ"ขนมชาเขียวไม่ได้ร่าเริงเหมือนขนมถั่วแดง น่าจะเพราะมันมีพลังของไฟเย็นข่งเชวี่ยอยู่กับตัวดังนั้นการที่มันพูดเช่นนี้ จึงทำให้จั๋วซือหรานรู้สึกแปลกใจมาก"อื๋อ? ทำไมพูดแบบนั้นล่ะ?" จั๋วซือหรานมองไปทางมันขนมชาเขียวส่ายหัว เพราพวกมันล้วนเป็นก้อนเนื้อ พูดว่าส่ายหัว อันที่จริงก็คือก็โยกไปมาของครึ่งท่อนบนขนมชาเขียวบอกว่า "ข้าเองก็บอกไม่ถูก แค่รู้สึก ว่ามันเย็นเยือกมาก""เย็นเยือก..." จั๋วซือหรานทวนซ้ำคำพูดนี้ของขนมชาเขียวจั๋วซือหรานรู้ เพราะขนมชาเขียวมีพลังของไฟเย็นข่งเชวี่ยอยู่กับตัว ดังนั้นมันจึงค่อนข้างฉับไวกับสิ่งที่เย็นเยียบยิ่งไปกว่านั้นหุ่นเชิดความมืดคนนี้กับอักขระคำสาปบนตัวเหล่านั้น จะมองอย่างไรก็ไม่เหมือนสิ่งที่มีพลังหยางเลยในใจจั๋วซือหรานคิดอะไรไว้บ้างแล้ว แสงหยกบนมือนางค่อยๆ สลายไป ค่อยๆ เปล่งแสงสีสันสวยงาม และมีความร้อนเหมือนเปลวไฟขึ้นมานางควบร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1082

    แต่อันที่จริงด้านในมีโพรงสวรรค์อยู่สมบัติที่นางสะสมมาจากชาติที่แล้วและชาตินี้ ห้องคลังก็ล้วนอยู่ในบ้านหลังนี้ทั้งสิ้นคลังของนางพูดได้ว่าใหญ่โตเอามากๆ กระทั่งคลังยังถูกแบ่งออกเป็นหลายประเภทด้วย คลังยา คลังอาวุธ คลังเสบียงอาหารประจำวัน คลังของจิปาถะเป็นต้นนอกจากนี้ ยังมีห้องหลอมสกัดยาของนางด้วย...อันที่จริงในชาติที่แล้ว มิติห้องหลอมสกัดยานี้ไม่ได้เอามาใช้หลอมยา แต่บางครั้งนางนำมาใช้เป็นการทดลองยาอะไรพวกนี้พอมาชาตินี้ ก็นำมาใช้หลอมยาสกัดยา ก็ยังถือว่าตรงสายงานเฉพาะทางอยู่ ไม่เสียเปล่าแล้วยังมีห้องเพาะเลี้ยงของตนเองด้วย ตอนนั้นตั้งใจจะมาเพาะเลี้ยงพวกของที่ไม่ค่อยอยากให้ใครรู้ พวกเห็ดอะไรทำนองนี้ในมิติของนาง ด้านนอกเป็นพื้นที่โล่ง พวกพืชเองก็ปลูกแบบสะเปะสะปะแต่ว่าพวกเห็ดมันคือเชื้อราจริงๆ อยู่ด้านนอกก็ปลูกไม่ค่อยโต ดังนั้นจั๋วซือหรานจึงจงใจสร้างห้องเพาะขึ้นมาโดยเฉพาะเพียงแต่ตอนนี้ยังว่างอยู่จั๋วซือหรานก่อนหน้านี้โยนหุ่นเชิดความมืดเข้ามาในห้องเพาะปลูกนี้ชั่วคราวแต่ตอนนี้ มันไม่อยู่ด้านในแล้วถ้าตามที่แมงมุมน้อยว่า มันหลบอยู่ที่ด้านหลังของบ้านจั๋วซือหรานเดินเข้าไป ยื่นหน้

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status