แชร์

บทที่ 122

ผู้เขียน: หูเทียนเสี่ยว
แต่เขาเพียงนั่งอยู่ที่นั่น จากร่างก็ดูออกเลยว่า เขามีบุคลิกที่ทรงพลังอย่างมาก

“เช่นนั้นมาเริ่มกันเลย” เหยียนฉีกล่าว

จั๋วซือหรานส่ายหัว "ไม่ เรามาตกลงกันว่า จะแข่งอย่างไร และจะแข่งอะไร"

เหยียนฉีไม่พูดอะไรและเหลือบมองชายที่นั่งอยู่ที่นั่นเท่านั้น

จั๋วซือหรานมองเห็นบางสิ่งบางอย่างจากการมองของเหยียนฉี เหยียนฉีหรือตระกูลเหยียนต่างไม่สามารถตัดสินใจได้

จะแข่งอย่างไร จะแข่งอะไร ดูเหมือนว่าไม่ได้ขึ้นอยู่กับพวกเขา แต่ขึ้นอยู่กับเฟิงเหยียน

วินาทีต่อมามีเสียงทุ้มดังมาจากใต้ผ้าคลุมของหมวก

“เดี๋ยวข้ามีบาดแผล ใครก็ตามที่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บของข้าได้จะเป็นผู้ชนะ”

เมื่อซือหลี่ตันติ่งได้ยินคำพูดนี้ เขาอดไม่ได้ที่ต้องมองเฟิงเหยียน

จั๋วซือหรานยังคงสงสัยเล็กน้อยว่า อาการบาดเจ็บของเขามาจากไหน วินาทีต่อมา ผู้ดูแลก็เข้ามาและถอดม่านหนาที่หน้าต่างออก

แสงด้านนอกส่องเข้ามาทางหน้าต่าง ขับไล่ความมืดในห้องออกไปในที่สุด

แต่วินาทีต่อมา ลูกตาของจั๋วซือหรานหดตัวลง

นางมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่า มือและกล้ามเนื้อท่อนแขนครึ่งหนึ่งของเขาที่ถูกเปิดออก และเริ่มแสดงอาการบาดเจ็บสาหัส

รอยดำที่ไหม้เกรียมเช่นนั้น... ด
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 123

    เหยียนฉีใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วยาม(หนึ่งชั่วยาม=สองชั่วโมง)รักษาอาการบาดเจ็บของเฟิงเหยียนโดยทั่วไปแล้ว อาการบาดเจ็บจากไฟไหม้ที่เห็นบนผิวหนังที่ถูกเปิดเผยของเขาได้รับการรักษาและไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าอีกต่อไปเหยียนฉีถอนหายใจยาว ๆมีบางคนมาดูที่นอกประตูแล้ว เพราะแม้ว่าตระกูลเหยียนจะมีอำนาจห้ามชาวบ้านธรรมดาได้ แต่พวกเขาไม่สามารถห้ามตระกูลขุนนางเหล่านั้นได้เสียงกระซิบดังมาจากประตู“ดูสิ ถึงอย่างไร ผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงต้องเก่งกว่าผู้ไร้ชื่อเสียงสิ”“ ใช่แล้ว ถึงอย่างไร ตระกูลเหยียนก็คือตระกูลเหยียน พวกเขาฝึกฝนแพทย์และเภสัชวิทยามาหลายปีแล้ว พวกเขาต้องมีความสามารถประจำตัวของพวกเขาอยู่”“ ทีนี้ จั๋วจิ่วต้องเสียหน้าแน่ ๆ ...”ไม่ใช่จั๋วซือหรานไม่ได้ยินเสียงที่มาจากประตูห้องให้คำปรึกษา นางแค่ขี้เกียจสนใจคำพูดเหล่านั้นสีหน้าประหลาดใจของนางเมื่อนางเห็นอาการบาดเจ็บของเฟิงเหยียนในก่อนอาจทำให้ทุกคนคิดว่านางกลัวแต่จั๋วซือหรานขี้เกียจไปอธิบายอะไรอีก ทักษะทางการแพทย์ไม่ต้องอธิบายมากมาย พิสูจน์ตัวเองด้วยทักษะทางการแพทย์ คนอื่นจะเลิกนินทาเองหลังจากเหยียนฉีรักษาอาการบาดเจ็บที่ป

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 124

    คอเรียว หน้าอกและหน้าท้องที่แข็งแรง กล้ามเนื้ออันสวยงาม ไหล่กว้าง และหลังตรงเพียงแต่ร่างกายที่มีกล้ามเนื้อสวยงามถูกปกคลุมไปด้วยรอยไหม้สีดำ ซึ่งเพียงมองแวบเดียวก็ตกตะลึงการรักษาในก่อนหน้านี้ดูเหมือนว่ามีเพียงแขนที่เปิดออกและคอของเขาเท่านั้นที่หายดีแล้วอาการบาดเจ็บที่อื่นยังคงน่าตกใจเมื่อเห็นอาการที่อื่น ท่าทีอันเย่อหยิ่งในก่อนหน้านี้ของตระกูลเหยียนก็กลายเป็นเรื่องตลกเหยียนฉียังไม่ทันเช็ดเหงื่อใบหน้าให้เสร็จเลย เขาต้องตกตะลึงอย่างสิ้นเชิงเมื่อเขาเห็นอาการบาดเจ็บบนตัวของเฟิงเหยียนใบหน้าของเขาซีดลงทันทีจั๋วซือหรานมองสีหน้าเหยียนฉี นางเข้าใจทันดี เหยียนฉีอาจจะไม่ได้ใช้วิธีบังสายตาของคนอื่น แต่... บางทีเขาอาจคาดไม่ถึงว่า อาการบาดเจ็บของเฟิงเหยียนจะร้ายแรงขนาดนี้.นี่ทำให้จั๋วซือหรานคาดเดาได้อย่างคลุมเครือ เป็นไปได้ไหมที่อาการของเฟิงเหยียนแย่ลงจริง ๆ อย่างน้อยมันก็แย่กว่าที่เหยียนฉีรับรู้มาก่อนอย่างมาก ดังนั้นก่อนหน้านี้ เหยียนฉีจึงวินิจฉัยผิดแต่ในขณะนี้ จั๋วซือหรานไม่ได้คิดอะไรมากนางลดสายตาลงและมองดูอาการบาดเจ็บอันน่าสยดสยองบนร่างกายของเฟิงเหยียน บาดแผลแต่ละจุดดูเหมือนหลุม

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 125

    จั๋วซือหรานทราบดี เขาต้องมีวิธีของตัวเองในการควบคุมระดับของการบาดเจ็บของตนเอง หรือวิธีการยับยั้งการบาดเจ็บจากพลังวิเศษของตนเองในระดับหนึ่งสุราในน้ำเต้าในวันนั้น บ่อเย็นในคืนนั้น และคาถาแปลก ๆ และซับซ้อนบนร่างกายของเขาเมื่ออยู่ในบ่อเย็นของทั้งหมดนั้นต้องมีประโยชน์แต่วันนี้เขาอาจจะไม่ได้ทำการรักษาใด ๆ และปรากฏตัวเช่นนี้ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมอาการบาดเจ็บบนร่างกายของเขาจึงดูน่ากลัวและน่าสยองจั๋วซือหรานบิดแหวนเสวียนเหยียน ความจริงนางได้สังเกตแล้วว่าผู้คนในโลกนี้ดูเหมือนไม่สามารถมองเห็นแหวนเสวียนเหยียนของนางได้ดังนั้นเมื่อนางบิดแหวนเสวียนเหยียน แม้ว่าการเคลื่อนไหวของนางจะไม่มาก แต่นางก็ไม่ได้ปิดบังแหวนเสวียนเหยียนเป็นเครื่องร่างวิเศษที่นางนำมาจากชาติก่อน และเป็นรากฐานสำหรับนางในการปักหลักและใช้ชีวิตของนาง แหวนวงนี้ไม่ได้เป็นเพียงภาชนะที่เก็บของเท่านั้น แต่ยังสามารถกักเก็บพลังได้ในระดับหนึ่ง รวมถึงพลังของการแพทย์สายวิเศษและศิลปะการต่อสู้โบราณความสามารถในการบรรจุพลังนั้นขึ้นอยู่กับกับความแข็งแกร่งและสภาพแวดล้อมของนางเองยิ่งนางแข็งแกร่งเท่าไร นางยิ่งเก็บพลังได้มากขึ้นเท่านั้นเ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 126

    เพราะความเจ็บปวดที่เจ้านายต้องทนเมื่อเขาอาศัยพลังเย็นเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บที่ตัวเองทำนั้นไม่สามารถมองเห็นได้ในการแสดงออกของเจ้านาย แต่ก็ไม่ยากที่จะเห็นจากกล้ามเนื้อและแขนขาที่ตึงเครียดของเขาแต่ในขณะนี้... ฉูนจวีนไม่แน่ใจมันเป็นภาพลวงตาของเขาหรือจะรู้สึกตึงเครียดเลยไม่เพียงแต่ไม่ได้ตึงเครียด แต่ยังผ่อนคลายอย่างมาก ขาเรียวทั้งสองข้างเหยียดไปข้างหน้ามากและรู้สึกขายาวทั้งสองข้างเหยียดไปข้างหน้าอย่างสบายตัวจั๋วซือหรานยืนอยู่ตรงหน้าเขาและรักษาอาการบาดเจ็บของเขา นางไม่ได้สังเกตพวกนี้มากนัก แต่ในสายตาของคนอื่น เวลานี้นางเหมือนกำลังยืนอยู่ในช่องว่างระหว่างขายาวทั้งสองข้างของเขา ตราบใดที่เขายื่นมืออก เขาสามารถอุ้มนางไว้ในอ้อมแขนของเขาได้ในสายตาของผู้อื่น พวกเขารู้สึกตราบใดที่นางยืนไม่นิ่งเล็กน้อย นางจะนั่งอยู่บนตักของเขาแล้วอาการบาดเจ็บบนร่างกายของเขาเบาลงและจางลงเรื่อย ๆเหยียนฉีมยืนองดูจากด้านข้าง เขารู้สึกโล่งใจ แต่ก็ท้อแท้เล็กน้อยเช่นกันในความเป็นจริง เหยียนฉีรู้ดีว่าเขาพ่ายแพ้ตั้งแต่ตอนที่จั๋วซือหรานเริ่มรักษาเฟิงเหยียน นางเริ่มการรักษาโดยไม่ต้องใช้ยาใด ๆ เลยเหยียนฉีมั่นใจว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 127

    เฟิงเหยียนเงยหน้าขึ้นและมองจั๋วซือหราน เขาเห็นสีหน้าของนางไม่มีการเปลี่ยนแปลงในสายตาของคนนอก ท่าทางของนางทำให้ควพวกนั้นรู้สึกว่า แม่นางจั๋วจิ่วรักษาอาการบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้ได้ ไม่เพียงแต่เร็วกว่าคุณชายสามเหยียน แต่นางยังรักษาให้หายด้วยวิธีที่ง่ายดาย และนางไม่หนื่อยด้วยซึ่งเห็นได้ชัดว่าความสามารถของนางเก่งกว่าตระกูลเหยียน อย่างมากหากเฟิงเหยียนไม่ได้เป็นหนึ่งในฝ่ายที่เกี่ยวข้องและอยู่ใกล้นางมาก เขาอาจเห็นด้วยว่า นางรักษาอาการของเขาอย่างง่ายดายแต่ตอนนี้ เฟิงเหยียนสังเกตเหงื่อบนฝ่ามือของนางอย่างชัดเจน และเขารู้โดยธรรมชาติว่านางกำลังพยายามอดทนอยู่จั๋วซือหรานสังเกตถึงสายตาของเขา แต่นางมองเขาอย่างสงบมาก จากนั้นนางหันตัวกลับอย่างผ่อนคลายนางพูดเบา ๆ กับเหยียนฉี “ขอบคุณที่ออมมือ”แม้ว่าเหยียนฉีดูเขินอายเล็กน้อย แต่เขาจะไม่ปฏิเสธที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ หลังจากได้ยินคำพูดของจั๋วซือหราน เขาก็ยกมือขึ้นและทำท่าเคารพเล็กน้อยแล้วพูดว่า "เหยียนฉีมีทักษณะที่ไม่ดีเท่าแม่นาง ข้าเต็มใจที่จะยอมรับความพ่ายแพ้”จั๋วซือหรานไม่ได้มีเจตนาร้ายต่อเหยียนฉี ดังนั้นทั้งท่าทีหรือคำพูดของนางจึงไม่ได้มุ่งเป้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 128

    คำเยาะเย้ยของผู้คนจะไม่มีวันที่ผ่านไปได้ และไม่มีวันที่หยุดนินทายิ่งไปกว่านั้น ตระกูลเหยียนเก่งเรื่องการแพทย์มาหลายชั่วอายุคนแล้ว พวกคนที่มาชมการแข่งขันอาจมองไม่ออก แถมอาจรู้สึกว่าหลังจากที่จั๋วซือหรานรักษาอาการบาดเจ็บแก่เฟิงเหยียน นางยังผ่อนคลายมากแต่ผู้อาวุโสสี่เหยียนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ของตระกูลเหยียนรู้ดีที่สุด เขารู้อาการบาดเจ็บของเฟิงเหยียนร้ายแรเพียงใด และรู้การรักษานี้ยากลำบากเพียงใดนางรักษาเฟิงเหยียนเหนื่อยแน่ ๆ สภาพของนางต้องไม่ดีเท่าที่เขาเห็นเป็นเพียงแต่ผู้หญิงคนนี้ระงับไว้ต่อหน้าทุกคนผู้ที่มีนิสัยเช่นนี้และผู้ที่มีความอดทนสูงและโหดเหี้ยมกับตัวเองได้จะประสบความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในอนาคตผู้อาวุโสสี่เหยียนแอบด่าเหยียนชาง ทำไมเขาต้องไปหาเรื่องกับบุคคลเช่นนี้แต่เพื่อความรุ่งโรจน์ของตระกูล ผู้อาวุโสสี่เหยียนไม่มีทางเลือกผู้อาวุโสสี่เหยียนยิ้มอย่างเขินอาย เขาพูด "จะมาว่าเรเป็นผู้กำหนดวิธีการแข่งได้อย่างไร แม่นางจั๋วจิ่ว เจ้าเป็นผู้ที่เสนอการแข่งขันครั้งนี้เอง ตั้งแต่แรกเริ่มเจ้าก็ไม่กำหนดว่าแข่งตาเดียวและตัดสินผู้ชนะหรือผู้แพ้ โดยทั่วไปแล้ว จะกำหนดแข่งห้าตา ใครชนะสา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 129

    ผู้อาวุโสสี่เหยียนเห็นสายตาของนาง แล้วมองริมฝีปากโค้งอันน่ากลัวของนางเขาแอบคิดในใจว่า มีบางอย่างผิดปกติ แย่แล้ว ผู้หญิงคนนี้เป็นคนบ้า ข้าจะลืมข้อนี้ได้อย่างไรนางมีการกระทำแปลกประหลาดผู้อาวุโสสี่เหยียนพยายามสงบสติอารมณ์ให้ได้ เขาพูดอย่างแห้งผาก "ข้าแค่... อยากให้เจ้ามีทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุด"“ข้า จั๋วซือหรานชอบทำอะไรแปลกประหลาดอยู่แล้ว” จั๋วซือหรานพูดเบา ๆ “ในเมื่อผู้อาวุโสสี่เหยียนอยากแข่งกับข้าหลายรอบเช่นนั้นหรือ”นางจ้องดวงตาของผู้อาวุโสสี่เหยียนและค่อย ๆ พยักหน้า"ก็ได้"ผู้อาวุโสสี่เหยียนหดดวงตาเล็กลง เขารีบพูด "ตกลง ถ้าอย่างนั้น ชนะสองในสามตากันดีกว่า มาเริ่มกันเลย..."“อย่าเพิ่งก่อนสิ ผู้อาวุโสสี่เหยียน” จั๋วซือหรานกล่าวต่อ “แต่เนื่องจากเจ้าอยากรังแกข้าคนเดียวด้วยหลาย ๆ คน แน่นอนว่าเราไม่ควรเดิมพันน้อยแค่นี้ เราเล่นให้ใหญ่กว่านี้สิ”ผู้อาวุโสสี่เหยียนขมวดคิ้ว เดิมที่เขารู้สึกว่า การเสนอแข่งขันต่อเป็นเรื่องที่ทำให้ทุกอย่างแย่ลงเล็กน้อยอยู่แล้ว แต่เนื่องจากเขาเป็นผู้ที่เสนอเรื่องนี้ แน่นอนว่าเขาต้องอดทนรับมือไว้ เขาเลยถาม"เจ้าหมายถึงอะไร"จั๋วซือหรานจ้องมองเข้าไปในดวงต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 130

    จั๋วซือหรานยืนเท้าออกและดึงเก้าอี้จากด้านข้าง การเคลื่อนไหวของนางสง่าและผ่อนคลาย นางค่อย ๆ นั่งลงดูเหมือนว่าในครูี่เดียว สถานการณ์เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงรอยยิ้มบนใบหน้าของนางยังคงสงบและไม่แยแส " คุณหนูเจ็ดเหยียนอย่าใจร้อนเหมือนข้าเลย ถูกคนยั่งยุง่าย ๆ หากพวกเจ้าแข่งต่อไม่ไหว ยอมแพ้ก็ได้ อย่างไรก็ตาม ข้าชนะรอบแรกไปแล้ว ดังนั้นไม่ต้องการอะไรมาก ให้เหยียนชางมาเขียนผ่านป้ายว่ายอมแพ้แล้ว ”“เจ้า” เหยียนหยี่หลิงโกรธมากจนสีหน้าของนางเปลี่ยนเป็นแดงจั๋วซือหรานพูดอย่างผ่อนคลาย นางเพียงไม่กี่คำ นางก็ชิงอำนาจการตัดสินใจกลับมาได้อีกครั้งผู้อาวุโสสี่เหยียนจะมองไม่ออกเจตนาในคำพูดของนางได้อย่างไร แต่เขาก็ถูกเงื่อนไขที่จั๋วซือหรานเสนอโดยดึงดูดแล้วจริง ๆไม่ใช่ว่าตระกูลเหยียนไม่มีแพทย์กลั่นยา แต่เป็นเพราะแพทย์กลั่นยาของตระกูลเหยียนส่วนใหญ่ได้ไปที่ลัทธิแล้ว อัจฉริยะไม่อยากรับใช้ตระกูลหรอกแต่จั๋วซือหรานประกาศอย่างกระจ่างว่า หากนางแพ้ นางยอมรับใช้ตระกูลของเขาผู้อาวุโสสี่เหยียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาถามด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก "เจ้ารักษาคำพูดของเจ้าไหม ถึงเวลานั้น อย่าบอกนะ ตระกูลจั๋ว บิดพลิ้วอีก.

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1086

    "เจ้า...เจ้าเจ้า..." เสียงของคนคุ้มกันประตูตะกุกตะกักขึ้นมาเขาเห็นหญิงสาวตรงหน้าหรี่ตายิ้ม แต่กลับไม่รู้สึกว่าอบอุ่นเลย ซ้ำยังสัมผัสได้ถึงอาการเย็นวาบที่แผ่นหลังอีกด้วยก่อนหน้าที่จั๋วซือหรานจะมาถึงเมืองหยางหน่วยคนคุ้มกันที่ผู้เฒ่าเหอส่งออกมารับมือจั๋วซือหราน แต่กลับล้มเหลวแถมยังบาดเจ็บ ก็กลับมาถึงจวนตระกูลเหอแล้วพอรู้ว่าพวกเขากลับมาอย่างล้มเหลว แล้วตลับหุ่นเชิดยังถูกแย่งไปอีกด้วย ผู้เฒ่าเหอก็โมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงไม่ได้สนใจพวกคนคุ้มกันที่บาดเจ็บกลับมาเหล่านั้นเลย กระทั่งพวกเขาอันที่จิรงมีคนหนึ่งไม่ได้กลับมาด้วย ไม่รู้ว่าตายไปแล้วหรือยังแต่ภายใต้สถานการณืเช่นนี้ ผู้เฒ่าเหอเองก็ยังจะลงโทษพวกเขาก่อนหน้าที่จั๋วซือหรานจะมาถึงเมืองหยาง พวกเขาก็ถูกผู้เฒ่าเหอลงโทษด้วยแส้มาตลอดแรกสุดที่บาดเจ็บจากหมอกพิษที่ป่าทวนแสง แล้วยังรีบกลับมาอย่างสุดกำลัง บวกกับการลงแส้ของผู้นำตระกูลนี่อีกพวกเขาล้วนกลายเป็นธนูแผ่วปลายกันหมดแล้ว หายใจรวยรินและตอนนี้เอง ผู้เฒ่าเหอหยุดฟาดแส้ ไม่ใช่เพราะเห็นบาดแผลพวกเขาแล้วใจอ่อนลงมา แต่เป็นเพราะเอาแต่หวดแส้แบบนี้ ผู้เฒ่าเหอเองก็เหนื่อยขึ้นมาแล้วเท่านั้น

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1085

    หัวหน้าคนคุ้มกันถอนหายใจออกมาเบาๆ "เป็นข้าที่เลินเล่อเอง ตอนที่แม่นางเข้าเมืองข้าลืมเตือนแม่นาง ว่าในเมืองหยางนี้มีเจ้าถิ่นอยู่""ถ้าหากไปเจอเข้า เลี่ยงไว้หน่อยก็จะดี ถึงอย่างไรแม่นางก็ไม่ได้คิดจะอยู่นานอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องไปเจอกับเรื่องยุ่งยากโดยไม่จำเป็น แม่นางมาจากเมืองหลวง คิดว่าก็น่าจะเข้าใจ ว่ามันจะมีพวกคน...ที่เหมือนกับพวกคางคงอะไรแบบนั้น" หัวหน้าคนคุ้มกันเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานเข้าใจความหมายของเขา ก็ใช่ คางคกเวลาปีนขึ้นมาหลังเท้า ต่อให้ไม่กัดคน ก็ยังน่าขยะแขยงจั๋วซือหรานเลิกคิ้วขึ้น "ตระกูลเหอหรือ?"หัวหน้าคนคุ้มกันพยักหน้า "ตระกูลเหอขอรับ"เขาควรจะคิดถึงตั้งนานแล้ว ว่าคนตรงหน้าคนนี้ ตอนอยู่ที่เมืองหลวง ก็ไม่ได้เป็นคนที่ยอมให้ใครมาข่มเหงง่ายๆ ไม่ต้องพูดถึงเมืองหยางเลยคิดๆ แล้วก็ใช่ คนตรงหน้าคนนี้คือคนที่ไม่เห็นห้าตระกูลใหญ่ของเมืองหลวงในสายตา เป็นหญิงสาวที่ถูกตระกูลขับไล่ แต่กลับถูกผู้อาวุโสมาเชิญให้กลับตระกูล...คนเช่นนี้ จะมาหวาดกลัวตระกูลเหอในเมืองหยางได้อย่างไรกันแต่หัวหน้าคนคุ้มกันยังคงจดจำบุญคุณที่จั๋วซือหรานมีต่อค่ายคุ้มกันและท่านแม่ทัพ ดังนั้น ไม่ว่าจั๋วซือหรา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1084

    จั๋วซือหรานชูเข็มในมือขึ้น เอ่ยว่า "สมอง"จากนั้นก็ใช้เข็มชี้ไปที่ห่วงแขนขาทั้งสี่ "ระบบประสาท"ดีมาก ตอนนี้ก็เข้าใจได้แล้วจั๋วซือหรานตาเป็นประกาย!ไม่ว่าจะแมงมุมน้อยหรือพวกก้อนเนื้อ ตอนนี้ก็น่าจะสัมผัสได้ถึงอารมณ์ลิงโลดของจั๋วซือหรานแล้วเพราะตาของนางเปล่งประกายมาก!จากนั้นนางจึงชูเข็มในมือขึ้นอีกครั้ง "สมอง"ชี้ไปที่ห่วงแขนขาทั้งสี่ "ระบบประสาท"หลังจากพูดซ้ำเช่นนี้ไปหลายรอบ ตอนที่แมงมุมน้อยกับพวกก้อนเนื้อทวนซ้ำคำพูดกับท่าทางของนางได้การเคลื่อนไหวของนางในที่สุดก็มีการเปลี่ยนแปลง!นางบีบขนมถั่วแดงไว้ในมือ เอ่ยขึ้นว่า "สมอง""เอ๋?" ในดวงตาเล็กๆ ของขนมถั่วแดงเบิกกว้างสงสัย ไม่ใช่เข็มนั่นที่เป็นสมองหรือ?จากนั้นนายท่านก้ดึงไหมกู่ของมันออกมาหลายเส้น เอ่ยขึ้นว่า "ระบบประสาท"จั๋วซือหรานตาเป็นประกายจนเหมือนดวงดาว "ไม่ต้องอธิบายแล้ว" นางหัวเราะขึ้นมา "ข้านี่มันอัจฉริยะจริงๆ อัจฉริยะ"เหล่าก้อนเนื้อันที่จริงก็ยังไม่ค่อยเข้าใจความหมายของนายท่นา แต่สัมผัสได้ถึงอารมณ์เบิกบานของนายท่าน พวกมันก็รู้สึกดีใจตามขึ้นมาแมงมุมน้อยเหมือนจะเข้าใจบ้าง แต่ก็ไม่แน่ใจนัก ดังนั้นจึงไม่ได้พูดแท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1083

    นิ้วของจั๋วซือหรานมีแสงหยกครบอยู่ชั้นหนึ่ง ยื่นตรงไปยังเข็มยาวสีดำที่ปักอยู่ตรงท้ายทอยของหุ่นเชิดความมืดเล่มนั้นขนมชาเขียวอยู่ข้างหูนาง เอ่ยขึ้นอย่างกังวล "นายท่าน ข้ารู้สึกว่าเจ้าสิ่งนี้อันตรายมากเลย...ท่านต้องระวังหน่อยนะ"ขนมชาเขียวไม่ได้ร่าเริงเหมือนขนมถั่วแดง น่าจะเพราะมันมีพลังของไฟเย็นข่งเชวี่ยอยู่กับตัวดังนั้นการที่มันพูดเช่นนี้ จึงทำให้จั๋วซือหรานรู้สึกแปลกใจมาก"อื๋อ? ทำไมพูดแบบนั้นล่ะ?" จั๋วซือหรานมองไปทางมันขนมชาเขียวส่ายหัว เพราพวกมันล้วนเป็นก้อนเนื้อ พูดว่าส่ายหัว อันที่จริงก็คือก็โยกไปมาของครึ่งท่อนบนขนมชาเขียวบอกว่า "ข้าเองก็บอกไม่ถูก แค่รู้สึก ว่ามันเย็นเยือกมาก""เย็นเยือก..." จั๋วซือหรานทวนซ้ำคำพูดนี้ของขนมชาเขียวจั๋วซือหรานรู้ เพราะขนมชาเขียวมีพลังของไฟเย็นข่งเชวี่ยอยู่กับตัว ดังนั้นมันจึงค่อนข้างฉับไวกับสิ่งที่เย็นเยียบยิ่งไปกว่านั้นหุ่นเชิดความมืดคนนี้กับอักขระคำสาปบนตัวเหล่านั้น จะมองอย่างไรก็ไม่เหมือนสิ่งที่มีพลังหยางเลยในใจจั๋วซือหรานคิดอะไรไว้บ้างแล้ว แสงหยกบนมือนางค่อยๆ สลายไป ค่อยๆ เปล่งแสงสีสันสวยงาม และมีความร้อนเหมือนเปลวไฟขึ้นมานางควบร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1082

    แต่อันที่จริงด้านในมีโพรงสวรรค์อยู่สมบัติที่นางสะสมมาจากชาติที่แล้วและชาตินี้ ห้องคลังก็ล้วนอยู่ในบ้านหลังนี้ทั้งสิ้นคลังของนางพูดได้ว่าใหญ่โตเอามากๆ กระทั่งคลังยังถูกแบ่งออกเป็นหลายประเภทด้วย คลังยา คลังอาวุธ คลังเสบียงอาหารประจำวัน คลังของจิปาถะเป็นต้นนอกจากนี้ ยังมีห้องหลอมสกัดยาของนางด้วย...อันที่จริงในชาติที่แล้ว มิติห้องหลอมสกัดยานี้ไม่ได้เอามาใช้หลอมยา แต่บางครั้งนางนำมาใช้เป็นการทดลองยาอะไรพวกนี้พอมาชาตินี้ ก็นำมาใช้หลอมยาสกัดยา ก็ยังถือว่าตรงสายงานเฉพาะทางอยู่ ไม่เสียเปล่าแล้วยังมีห้องเพาะเลี้ยงของตนเองด้วย ตอนนั้นตั้งใจจะมาเพาะเลี้ยงพวกของที่ไม่ค่อยอยากให้ใครรู้ พวกเห็ดอะไรทำนองนี้ในมิติของนาง ด้านนอกเป็นพื้นที่โล่ง พวกพืชเองก็ปลูกแบบสะเปะสะปะแต่ว่าพวกเห็ดมันคือเชื้อราจริงๆ อยู่ด้านนอกก็ปลูกไม่ค่อยโต ดังนั้นจั๋วซือหรานจึงจงใจสร้างห้องเพาะขึ้นมาโดยเฉพาะเพียงแต่ตอนนี้ยังว่างอยู่จั๋วซือหรานก่อนหน้านี้โยนหุ่นเชิดความมืดเข้ามาในห้องเพาะปลูกนี้ชั่วคราวแต่ตอนนี้ มันไม่อยู่ด้านในแล้วถ้าตามที่แมงมุมน้อยว่า มันหลบอยู่ที่ด้านหลังของบ้านจั๋วซือหรานเดินเข้าไป ยื่นหน้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1081

    "ดังนั้นจึงมาลงมือกับเจ้าหรือ?" จั๋วซือหรานมองไปทางแมงมุมน้อย "ถึงอย่างไรพอพูดขึ้นมา เจ้าเองก็ก็เป็นสิ่งมีพิษที่หาได้ยากด้วยนี่ แล้วยังเป็นระดับราชาสัตว์ด้วย ถ้าเขาเสพติดพิษขึ้นมาด้วยคุณสมบัติร่างกายแบบนั้นจริงล่ะก็..."จั๋วซือหรานตบเบาๆ ลงไปบนแขนเคียวของราชาแมงมุมหน้าผี "เจ้าเองก็ตัวใหญ่ขนาดนี้ ถือเป็นของบำรุงที่ไม่เลยเลยทีเดียว"จั๋วซือหรานก็เหมือนตระหนักได้ถึงแก่นแท้เรื่องราวในชั่วพริบตาราชาแมงมุมหน้าผีได้ยินการคาดเดากับการวิเคราะห์ของจั๋วซือหราน ก็คิดขึ้นมาถึงความเป็นไปได้นี้ พอคิดไปถึงว่าตนเองเกือบถูกคนเอาไปเป็นของบำรุงแล้ว ก็อดตัวสั่นขึ้นมาไม่ได้"ยังดีที่นายท่านช่วยเหลือไว้" แมงมุมน้อยเอ่ยขึ้นแม้จะบอกว่า จั๋วซือหรานเข้าใกล้แก่นแท้ของเรื่องราวไปแล้วในชั่วพริบตานั้น แต่นางก็เหมือนไม่ได้ใส่ใจอะไรนักนางโบกไม้โบกมือ เอ่ยขึ้นว่า "ช่างเถอะ ไม่มีอะไรน่าคิดเล็กคิดน้อย ด้วยพลังของคนเมื่อครู่นี้ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ข้าก็ไม่ไปหาเรื่องเขาหรอก คนแบบนั้น การสู้ให้ตายกันไปข้าง น่าจะไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไร"จั๋วซือหรานพูดไปด้วยพลางสังเกตสภาพของแมงมุมน้อยไปด้วย จากนั้นจึงตบเบาๆ แล้วเอ่ยขึ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1080

    เจ้าคิดว่าข้าทรยศเจ้า ใช้ประโยชน์จากเจ้า เจ้าคิดว่าเจ้าสูงส่งเต็มประดานักหรือ?! เจ้ามันก็จนตรอกแล้วเท่านั้น!รอให้เจ้าจนตรอกเสียก่อน เพื่อจะมีชีวิตต่อไปเจ้าก็ต้องทรยศคนทั้งหมดเหมือนกัน! เจ้าจะลงหมอบคลานกับพื้นส่ายหางอย่างน่าสงสาร!เจ้าไม่ได้ดีกว่าข้าหรอก! เจ้าก็จะเป็นเหมือนข้า! ถึงอยี่างไร ข้าก็เป็นคนสอนเจ้ามา!"หลงเฉินพูดจบ ก็หัวเราะขึ้นอย่างบ้าคลั่งเขาไม่ได้สังเกตเห็นสีตาของเฟิงเหยียน ที่ตอนนี้เหมือนจะเปลี่ยนเป็นลึกซึ้งขึ้นมาพอควรเสียงของเฟิงเหยียนกดลงต่ำมาก แต่กลับหนักแน่น "ข้าไม่มีทางเป็นแบบนั้น"เขาหันกลับไปมองชายหนุ่มที่น่าเศร้าซึ่งพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อความอยู่รอดในสมองก็อดคิดถึงเรื่องเหล่านั้นสมัยยังเด็กขึ้นมาไม่ได้เสียงที่อ่อนโยนอบอุ่นของชายคนนี้ นั่งอยู่ใต้ต้นดอกท้อบานสะพรั่ง หลับตาพริ้ม กำลังดื่มชาขาวดอกสาลี่ยิ้มตาหยีบอกกับเขาว่า "เหยียนเอ๋อร์ อันที่จริงเจ้าไม่ต้องพยายามอยากจะเติบโตอยากจะแข็งแกร่งขนาดนั้นหรอก เพราะพอเติบโตแล้ว...มันไม่น่าอภิรมย์เลยสักนิด คำของข้า รอเจ้าโตแล้วก็จะเข้าใจเอง"ตอนนั้นใบหน้าที่อ่อนโยนอบอุ่นของชายคนนี้ ค่อยๆ ซ้อนทับกับใบหน้าที่บ้าคล

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1079

    สีหน้าหลงเฉินปั้นยากมาก แต่...ไอ้การข่มกันของธาตุนี้เหมือนกับเป็นความสามารถแต่กำเนิด! ควบคุมได้ยากมากดังนั้นในพริบตาที่อุณหภูมิร้อนแรงบนตัวเฟิงเหยียน กับประกายไฟไร้รูปร่างปรากฏขึ้นร่างของหลงเฉินก็เบี่ยงหลบไปอย่างควบคุมไม่ได้เขียนเอ่ยเสียงแข็ง "เจ้า...จะทำอะไร"เฟิงเหยียนเหมือนห่อไว้ด้วยเปลวไฟทั้งตัว ทั้งร่างราวกับเป็นลูกไฟ อุณหภูมิสูงขึ้นอย่างร้ายกาจแล้วจึงเดินไปด้านหน้าโดยไม่สนใจใครไม่นานนักก็มาถึงตำแหน่งใจกลางหมอกพิษ จึงมองเห็นบัวเจ็ดดอกเจ็ดใบใจกลางเทียนช่อนั้นมันเป็นเหมือนกับชื่อเลย มีเจ็ดดอก ใบเจ็ดใบ ทุกดอกล้วนเป็นสีม่วง เกสรสีเหลืองยาวมาก ราวกับเป็นเทียนแล่มหนึ่งอย่างไรอย่างนั้นมันบานอยู่ในบ่อน้ำเล็กๆ บ่อน้ำยังใหญ่ไม่เท่าใบหน้าเลย แต่ของเหลวที่อยู่ด้านใน ดูแล้วกลับเป็นสีม่วงเข้ม!และเจ้าของเหลวสีม่วงเข้มเหล่านี้ พอเดือดระเหย แล้วผสมเข้ากับความชื่นในอากาศของป่าทวนแสง นานวันเข้าจึงกลายเป็นหมอกพิษที่เข้มข้นขึ้น"ที่แท้ท่านก็คอยคุ้มครองเจ้าสิ่งนี้นี่เอง" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นมาคำหนึ่งหลังจากนั้นจึงยื่นมือไปทางบัวเจ็ดดอกเจ็ดใบแกนกลางเทียนช่อนั้น"หยุดนะ!" หลงเฉินตะโก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1078

    หลงเฉินเนื่องจากร่างกายแบกพลังมังกรหนามม่วงไว้ แต่สิ่งที่ต้องนำมาสะกดนั้นตรงข้ามกับเฟิงเหยียนหลงเฉินเป็นประเภทที่ต้องพึ่งพาคุณสมบัติต่อพิษ ถ้าหากไม่มีการหาสิ่งที่พิษ พิษของมังกรหนามม่วงในร่างกายก็จะเริ่มทำร้ายตนเองอันที่จริงถ้าหากจั๋วซือหรานอยู่ที่นี่แล้วมีปฏิกิริยากับเนื้อหาที่เฟิงเหยียนพูดมาล่ะก็ คงจะมีคำจำกัดความให้อย่างรวดเร็วว่า:นี่มันก็เหมือนกับติดยาเสพติดนี่นาสถานการณ์ของหลงเฉินตอนนี้เป็นเช่นนี้จริงๆ"เพราะที่พรมแดนใต้มีสิ่งมีพิษอยู่มากกว่า" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้น "แต่ก่อน บางทีท่านก็หายไประยะหนึ่ง บอกว่าตนเองปิดด่าน หลังจากกลับมาสีหน้ากับสภาพก็ไม่ค่อยสู้ดีนักตอนนี้พอคิดๆ ดู ท่านก็น่าจะไปเอาสิ่งมีพิษมาใช้ประโยชน์กับตัวเองสินะ...ท่านอยู่แค่ในป่านี้ ก็เพราะที่นี่มีหมอกพิษข้าเดาว่าท่านคิดจะสูดรับหมอกพิษเหล่านี้แล้ว ค่อยไปยังใจกลางหมอกพิษเอาสมบัติที่ก่อหมอกพิษหนาแน่นนี้มาใช้ประโยชน์กับตนเองและสาเหตุที่ก่อนหน้านี้ท่านลงมือกับสัตว์อสูรของจั๋วเสียวจิ่ว ก็น่าจะเพราะแมงมุมตัวนั้นไปพบกับสมบัติที่ใจกลางหมอกพิษ แล้วกำลังจะเก็บมันมาสินะยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นเพราะ แมงมุมตัวนั้นก็เ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status