แชร์

บทที่ 1126

ผู้เขียน: หูเทียนเสี่ยว
หลังจากจั๋วซือหรานได้ยิน ก็ยิ้มออกมา เพียงแต่ว่า พวกเขาไม่มีใครเห็นความรู้สึกยิ้มจากสีหน้ายิ้มของนางเลย

ยิ่งไปกว่านั้น ในคำพูดถัดจากนี้ของนาง ก็ยิ่งไม่มีคามอบอุ่นเหลืออยู่อีก

"ข้าแค่จะทำให้สำนักพวกเจ้าขายหน้าแค่นั้นที่ไหน" จั๋วซือหรานเหลือบมองพวกเขาเย็นชาผาดหนึ่ง เอ่ยต่อว่า "สิ่งที่ข้าต้องการ คือสำนักของพวกเจ้า...ตายไปให้หมด!"

แม้นางจะไม่พูดอะไรมาตลอด ต่อให้คนรับใช้ของนางเอง ก็รู้แค่เป้าหมายการเดินทางครั้งนี้ของนาง แต่กลับไม่รู้ความรู้สึกส่วนลึกในใจนางเลย

เพราะนางไม่เคยพูดอะไรออกมา และไม่เคยเผยอะไรออกมาด้วย

แต่ในความเป็นจริง หลังจากที่รู้ว่าเจ้าสำนักเมฆาวารี เพื่อจะช่วยเหลือลูกของตนเอง จนต้องใช้น้องสาวของนางมาเป็นผู้ทดลองยา

ในใจจั๋วซือหรานก็อดกลั้นเอาไว้มาตลอด

ความโกรธนี้ แผดเผาอยู่ในใจนางมาตลอด ทำให้ในใจนางอันที่จริงโกรธแค้นไม่หยุดมาตลอด

นางคิดถึงน้องชายนับครั้งไม่ถ้วน คิดถึงเด็กน้อยจั๋วหวาย

เด็กคนนี้ ในเส้นโชคชะตาของเจ้าของร่างเดิม เป็นเด็กน้อยที่ตายไปอย่างน่าเวทนา

นางรับชีวิตของเจ้าของร่างเดิมมา มีความปรารถนาอยู่หนึ่งเรื่อง ก็คือทำให้ท่านแม่ น้องชายที่เจ้าของร่างเดิมรักใน
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1127

    พอเห็นภาพตรงหน้า จั๋วซือหรานไม่ได้รู้สึกอะไร...ผู้ดูแลชุยออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้นางแล้ว จัดการสั่งสอนคนตระกูลเหอให้เช่นนั้นก็มีแค่ความเป็นไปได้เดียว"มีคนชิงตัดหน้าไปก่อนแล้วหรือ?" จั๋วซือหรานงึมงำจากนั้นจังหวะก้าวเท้าที่ไม่เร่งไม่ร้อนแต่เดิม ตอนนี้กลับเพิ่มความเร็วขึ้นมา! เดินตรงไปด้านใน!จั๋วซือหรานยังเดินไม่ทันถึงประตูห้อง ก็ได้ยินในห้องมีเสียงครวญครางลอดออกมาพอเดินเข้าไป ก็เห็นสภาพในห้อง แทบไม่ได้แตกต่างกับสภาพคนที่นอนบ้อท่าอยู่ในลานบ้านพวกนั้นเลยเก้าอี้ที่นั่งหลักกลายเป็นเศษชิ้นไม้ผู้เฒ่าเหอนั่งหมดสภาพอยู่บนเศษไม้บนพื้น ขยับตัวไม่ได้ ร้องไอ๊โยวไอ๊โยวครวญครางและรอบๆ ยังมีคนรับใช้ตระกูลเหออีกบางส่วน ล้วนนอนกระจัดกระจายกันอยู่บนพื้น ดูแล้วไม่เหลือสภาพกันเลยมีแค่ร่างหนึ่งที่อยู่ตรงกลาง ที่ยังดูเด่นหน่อย เพราะดูจากสภาพแล้วเหมือนจะหนักหนากว่าคนอื่นพอควรจั๋วซือหรานพิจารณา คนผู้นี้น่าจะเป็นผู้ดูแลชุยจากสำนักเมฆาวารีสาเหตุที่ใช้คำว่าพิจารณา ก็เพราะบนตัวคนผู้นี้เสื้อผ้าคนผู้นี้ที่พอจะ่บอกตัวตนได้แทบจะไม่เหลืออยู่แล้วบาดแผลบนตัวดูแล้ว...เหมือนถูกไฟร้อนแรงลวกเข้าอย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1128

    ผู้เฒ่าเหอกับหกคนนั้นของสำนักเมฆาวารี พริบตานี้ ก้เหมือนสัมผัสได้ถึงความรู้สึกอันตรายที่ทำให้คนรู้สึกไม่ค่อยดี...จากบนตัวนาง"เจ้า..." คนสำนักเมฆาวารีคนหนึ่งเอ่ยขึ้น "คิดจะทำอะไร?"สายตาจั๋วซือหรานเหลือบผ่านพวกเขากับผู้เฒ่าเหอ จากนั้นก็เอ่ยขึ้นขรึมๆ ว่า "ข้ามาที่นี่ ไม่ใช่แค่มาดูผู้ดูแลชุยของพวกเจ้าเท่านั้น"ผู้เฒ่าเหอบางทีอาจจะยังไม่เข้าใจความหมายคำพูดของจั๋วซือหรานแต่คนสำนักเมฆาวารี ปัญญาเกิดขึ้นในพริบตา เข้าใจได้ทันทีนางมาเพื่อหุ่นเชิดความมืดขอผู้ดูแลชุย!เมื่อครุ่นางใช้ปลายฝักกริชพลิกไปมาบนตัวผู้ดูแลชุย แน่นอนว่าไม่ใช่ตรวจสอบบาดแผลบนตัวผู้ดูแลชุยแต่เพื่อค้นหาตลับหุ่นเชิดของเขาแต่ก็หาไม่เจอตอนที่ตระหนักได้ถึงสิ่งนี้ สีหน้าคนสำนักเมฆาวารีก็เปลี่ยนไป"แล้วเจ้า....เจ้าตอนนี้คิดจะทำอะไร...."จั๋วซือหรานพิจารณาตัวพวกเขา จากนั้นในมือก็ปรากฏตะปูวิญญาณสีดำเล่มหนึ่งออกมา นำออกมาหมุนเล่นบนนิ้ว"ในเมื่อไม่มีสินสงคราม ข้าก็กำลังคิดว่า หลอมพวกเจ้ามาเป็นหุ่นเชิดความมืดเปลี่ยนเป็นสินสงครามไปเลยดีไหม" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นเสียงเรียบมุมปากของนางมีรอยยิ้ม กระทั่งพวกเขาก็ยังไม่แน่ใจไป

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1129

    เพียงแต่ว่า เหอจื้อหย่วนทางนี้ นางคงไม่ได้คำตอบอะไรแล้วบนนิ้วจั๋วซือหรานยังคงหมุนตะปูวิญญาณเล่นเหมือนควงปากกา ลุกขึ้นยืน เดินพิจารณาตัวเหอจื้อหย่วนสำนักเมฆาวารีทั้งหกคน แล้วก็ฐนตัวผู้ดูแลชุยไปรอบหนึ่งสภาพผู้ดูแลชุยตอนนี้ดูสับสนมาก แต่สำนักเมฆาวารีทั้งหกคนและเหอจื้อหย่วน พอเห็นท่าทางเดินเล่นเหมือนอยู่ในสวนของจั๋วซือหรานแล้วก็ผวาขึ้นมาจะแย่กลัวว่าจั๋วซือหรานจะพลั้งมือเอาตะปูวิญญาณในมือจิ้มเข้ามาที่หลังคอพวกเขา อย่างนั้นได้บรรลัยกันพอดีถ้าเป็นคนอื่นล่ะก็ พวกเขาอาจจะไม่มีความรู้สึกเช่นนี้แต่ว่า หญิงสาวตรงหน้าคนนี้ ทำให้พวกเขารู้สึกมองไม่ออกเลย! ไม่รู้ว่าในใจนางกำลังคิดอะไรดังนั้น จึงไม่กล้าเดิมพันกับหญิงสาวคนนี้ว่าจะปราณีพวกเขาหรือเปล่ารู้สึกแค่ว่านางเหมือนจะบ้าขึ้นมาได้ทุกขณะพวกเขาจ้องมองจั๋วซือหรานอย่างเคร่งเครียด เหงื่อไหลหยดลงมาจากหน้าผากจั๋วซือหรานแค่ร้องเชอะเย็นชาขึ้นมา เอ่ยว่า "ช่างเถอะ"นางใช้ตะปูวิญญาณชี้ไปที่พวกสำนักเมฆาวารี "พวกเจ้าแบกหัวหน้าพวกเจ้า แล้วไปกับข้า"พวกสำนักเมฆาวารีตกตะลึง นิ่งงันกันไปพักหนึ่งจั๋วซือหรานยิ้มตาโค้ง มองพวกเขาอย่างเย็นชา "พวกเจ้า

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1130

    ดังนั้นจึงไม่กล้าอวดดีแล้วจั๋วซือหรานนำคนสำนักเมฆาวารีไปที่โรงเตี๊ยมหกคนนั้นของสำนักเมฆาวารีแบกผู้ดูแลชุยเหมือนคนดำแบกโลงศพอย่างไรอย่างนั้น...ตอนที่ออกจากโรงเตี๊ยมไปที่ตระกูลเหอ ก็ดึงดูดความสนใจไปไม่น้อยแล้ว ตอนนี้จากจวนตระกูลเหอยังแบกคนที่เจ็บจนน่าเวทนากลับมาอีกคน จึงทำให้คนที่เห็นยิ่งรู้สึกอยากรู้อยากเห็นเข้าไปอีกยิ่งไปกว่านั้นยังมองออกอย่างรวดเร็วอีกว่าคนคนนั้น แม้บนตัวจะเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง แต่ก็มองออกไม่ยาก ว่าเป็นคนของสำนักเมฆาวารีเช่นกัน ยิ่งไปกว่นั้น เนื่องจากสื้อผ้าที่เหลืออยู่บางส่วนบนตัว พอมองก็รู้ว่าแตกต่างกับศิษย์ทั่วไปของสำนักเมฆาวารีดังนั้นจึงคาดเดาได้ไม่ยาก น่าจะเป็นคนที่มีฐานะหน่ยอในสำนักเมฆาวารียังกลายมาเป็นสภาพนี้...ถ้าบอกว่าแต่ก่อนสำนักเมฆาวารีมีชื่อเสียงมากในเมืองหยาง วันนี้ก็น่าจะถึงจุดต่ำสุดในประวัติศาสตร์แล้วจั๋วซือหรานไม่ได้สนใจสายตาคนรอบข้าง นางเป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรเพียงแต่ว่า ระหว่างทางที่กลับมานี้ ผู้ดูแลชุยก็ร้องอย่างน่าเวทนา ฟังแล้วทำเอารำคาญขึ้นมาเลยพอมาถึงโรงเตี๊ยม ผู้จัดการโรงเตี๊ยมคางแทบจะห้อยลงมาแล้วพวกสำนักเมฆาวารีวางผู้ดูแลชุย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1131

    เพียงแต่ว่า ความคิดในใจจั๋วซือหราน ยังไม่ได้คิดจะบอกกับเจิ้นเจียงเพราะความคิดในใจเหล่านั้น มันค่อนข้างจะมืดมนจั๋วซือหรานคิดไว้นานแล้ว ว่าจะพาคนสำนักเมฆาวารีไปให้หมด รวมถึงพวกศิษย์ทั่วไปสำนักเมฆาวารีที่จับมาเป็นตัวประกันตอนด่านกระดูกแพะก่อนหน้านี้ด้วยรวมถึงศิษย์สำนักเมฆาวารีกับผู้ดูแลชุยที่เป็นกองหนุนของเหอจื้อหย่วนนี่ด้วยนางจะพาไปให้หมด"พาพวกเขาไป แล้วจากนั้นล่ะ?" ในห้อง หลังจากปันอวิ๋นได้ยินการตัดสินใจของนางก็ถามขึ้นมาเขากลอกตามองนางผาดหนึ่ง ท่าทางในมือไม่มีสับสนแม้แต่น้อยกล่องเคลือบขนาดเท่าอ่างล้างหน้าใบหนึ่ง ตัวกล่องมีลวดลายสีสันสดใส แต่ความสวยนี้กลับแผ่ความอันตรายแปลกประหลาดออกมายิ่งไปกว่านั้นยังมีเสียงสวบสาบดังลอดออกมาจากในกล่องด้วยจั๋วซือหรานมองหลุมฆ่าในมือเขาไม่วางตา พลางตอบออกมาอย่างขอไปทีว่า "เอาไปคุมเชิงกับเจ้าสำนักเมฆาวารี ให้เขาปล่อยคนออกมา"จั๋วซือหรานสังเกตทิศทางไหลเวียนกับระดับความเข้มข้นของพลังวิญญาณที่นิ้วปันอวิ๋นอย่างละเอียดถึงอย่างไร...เจ้าหุบเขาหมื่นพิษก็ระบบวิชากู่ให้กับนางด้วยตนเอง นี่เป็นโอกาสที่หาได้น้อยมากนะ! โอกาสอันดีปันอวิ๋นพอได้ิน ท่า

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1132

    ปันอวิ๋นได้ยินนางคำนวนเช่นนี้ ในใจก็อดถอนใจกับเรื่องนี้ขึ้นมาไม่ได้ให้ตายสิ โดนนางคิดรวบมันทุกอย่างกระทั่งว่า หลังจากได้ยินนางคำนวนอย่างละเอียดเช่นนี้ ก็ไม่อยากจะถามอะไรอีกแล้ว แค่อยากจะถามประโยคก่อนหน้าเท่านั้น "แล้วจากนั้นล่ะ?"แค่อยากรู้ว่า ด้วยความฉลาดของนาง หลังจากนี้จะทำอย่างไรจั๋วซือหรานเลิกคิ้ว "หลังจากนั้น? ก็ต้องช่วยน้องชายข้าออกมาสิ ทำลายแผนการนางที่คิดจะเอาน้องชายข้ามาเป็นผู้ทดลองยาให้เรียบ"ปันอวิ๋นเลิกคิ้ว "นั่นดูค่อนข้างสิ้นหวังเลยนะ""นี่ยังไม่ใช่จุดสิ้นหวังที่สุดหรอก จุดสิ้นหวังที่สุดคือ นางจะได้รู้ ว่าโรคของลูกสาวนาง อันที่จริงข้ารักษษได้" จั๋วซือหรานยกมุมปากขึ้นอย่างเย็นชาปันอวิ๋นจุ๊ปาก "ข้าเหมือนยังไม่เคยผิดใจกับเจ้าใช่มั๊ย?"จั๋วซือหรานหรี่ตามองเขา เหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้ม เอ่ยขึ้นว่า "เจ้าหุบเขาขี้หลงขี้ลืมซะจริง พิษกู่ร้อยไหมของท่านจนป่านนี้ก็ยังอยู่กับข้านะ แล้วยังไม่ต้องพูดเรื่องที่ต่อมาท่านไปช่วยซือคงอวี้อีก...ทำเอาข้าลำบากอยู่เหมือนกันนะ"มุมปากปันอวิ๋นยกขึ้นเป็นรอยยิ้มชั่วร้าย เดิมทีเขาก็หน้าตาหล่อเหลาแบบชั่วร้ายอยู่แล้ว พอยิ้มตอนนี้ บุคลิกที่ทั้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1133

    ที่ขอบฟ้ามีแสงสว่างขาวเหมือนท้องปลาขึ้นรำไรปันอวิ๋นจึงถอนหายใจยาวออกมา เอ่ยขึ้นว่า "เท่านี้ก็แล้วกัน""อื๋อ?" จั๋วซือหรานเหลือบมองเขา พยักหน้าตอบ "เอาเถอะ ขอบคุณเจ้ามาก"ปันอวิ๋นจึงหวาดหวอดขึ้นมา "ข้าต้องไปพักผ่อนหน่อยแล้ว ฟ้าใกล้จะสางแล้ว"จั๋วซือหรานเหลือบมองสีท้องฟ้านอกหน้าต่างผาดหนึ่ง "จริงด้วย ไม่รู้ตัวเลย ดึก...เช้าขนาดนี้แล้วแฮะ""เจ้เาองก็รีบพักผ่อน" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้น โบกมือโยนหลุมฆ่าให้กับนาง "อันนี้ให้เจ้า""เอ๋?" จั๋วซือหรานมองเขา "เจ้าหุบเขาใจกว้างเสียจริง อาวุธกู่ล้ำค่าแบบนี้ให้ข้าจริงหรือ?"ปันอวิ๋นเอียงตามองนาง "ขลุ่ยที่ล้ำค่าของข้าตอนนั้น ก็ไม่ใช้ให้เจ้าไปหรือไรกัน?""เจ้าหุบเขาปันพูดแบบนี้..." จั๋วซือหรานหัวเราะเบาๆ "ขลุ่ยกู่ของเจ้า ข้าใช้ดาบใช้หอกแย่งกลับมาต่างหาก อย่าพูดว่าเจ้าให้มาด้วยมิตรภาพสิ"ในดวงตาชั่วร้ายของปันอวิ๋น มีประกายจนใจออกมา หญิงสาวคนนี้ไม่ไว้หน้ากันเลยทั้งทั้งที่สอนให้เจ้าอย่างลำบากมาทั้งคืนแท้ๆ"สรุปคือ เจ้าหลุมกู่นี่ก็มอบให้เจ้าแล้ว ตัวเองก็ค่อยๆ เล่นไปแล้วกัน" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้น "ข้าว่าเจ้าลองทำความเข้าใจเองสักหน่อย ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรแล

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1134

    จั๋วซือหรานรับรายชื่อของขวัญมา กวาดตามองผาดหนึ่ง คิ้วเลิกขึ้นเบาๆ "จวนตระกูลเหอส่งมาหรือ?""ขอรับ ส่งมาแต่เช้าตรูเลย น่าจะเตรียมไว้เมื่อคืนนี้" เจิ้นเจียงเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานดีดรายการของขวัญในมือเบาๆ มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม "ดูท่าเหอจื้อหย่วนจะกลัวจริงๆ ซะแล้ว"เมื่อคืนนี้ก่อนที่นางจะออกมาบอกกับเหอจื้อหย่วนเรื่องที่นางจะสะสางหนี้ ดูท่าจะทำเขาผวาไปแล้วฟ้ายังไม่สาง ก็ส่งกองนี้เข้ามา"ต้อง ต้องรับไว้ไหม?" เจิ้นเจียงดูจะระแวดระวัง "จะมีตุกติกอะไรหรือเปล่า?""จะมีอะไรตุกติกได้อีก" จั๋วซือหรานยิ้มๆ "ยังมองไม่ออกอีกหรือ?""มองอะไร...ไม่ออกหรือขอรับ?" เจิ้นเจียงไม่เข้าใจจั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น "เขากำลังขับไล่สิ่งอัปมงคลนี่ ให้ข้ามาเยอะขนาดนี้ คงอยากให้ข้ารีบไปเต็มแก่แล้ว..."เจิ้นเจียงได้ยินคำนี้ แม้จะรู้สึกดู...ยังไงๆ อยู่ แต่ก็...เหมาะควรดีจั๋วซือหรานเดิมทียังไม่ได้นอนมาคืนหนึ่ง แม้คุณสมบัติร่างกายจะแข็งแกร่ง ด้านสุขภาพไม่มีอาการเหนื่อยล้า แต่ในด้านจิตใจก็มีอาการเหนื่อยล้าเล็กๆตอนนี้ก็ดูจะมีแรงขึ้นหน่อย ถือรายการของขวัญมือไพล่หลังเดินไปยังรถของขวัญด้านนอกเพื่อตรวจสอบ ดูแล้วจิตใจจะ

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1263

    ท่าทีของเฟิงเหยียน ไม่ถือว่ากระตือรือร้นมากนัก กระทั่งค่อนข้างเย็นชาด้วยซ้ำแต่ก็เป็นเรื่องปกติ หลังจากที่เขาออกจากสำนักในตอนนั้น ก็ไม่ได้มีความฮึกเหิมเหมือนสมัยครั้งยังเด็กอีกมักจะเย็นชา และมักจะเฉยเมยปันอวิ๋นเม้มริมฝีปาก เข้าใจถึงสาเหตุนั้นสภาพการณ์ตอนที่เฟิงเหยียนออกจากสำนักครั้งนั้น เขาเองก็รู้เป็นอย่างดีต่อให้จนถึงตอนนี้ ก็ยังจดจำได้อย่างชัดเจนเพราะเฟิงเหยียนถูกทรยศเป็นคนแรก ดังนั้น ตอนนั้นพวกเขาก็อยู่ในฐานะคนที่ยังไม่ถูกทรยศอันที่จริง จะมากน้อยก็ยังมีความสงสัยว่าถ้าไม่อยู่ในสถานการณ์เดียวกันก็คงไม่เข้าใจอยู่พวกเขารู้สึกว่าเฟิงเหยียนทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเฟิงเหยียนที่ไม่รู้จักบุญคุณพวกเขารู้สึกว่า เป็นเฟิงเหยียนที่ทำไม่ถูกเฟิงเหยียนเป็นคนอกตัญญูจนต่อมา ต่อมาของต่อมา ทุกคนทยอยกันเดินบนเส้นทางของเฟิงเหยียน ใครก็หนีไม่พ้นการทรยศหรือใช้ประโยชน์ทั้งนั้นตามหลักแล้วควรจะยอมรับชะตากรรมอย่างที่เคยเตือนเฟิงเหยียนเอาไว้ในตอนนั้น และมองว่าสิ่งนั้นเป็นการบ่มเพาะและการให้ความสำคัญจากสำนักแต่เพระาอะไร...ถึงได้ดีใจกันขึ้นมาไม่ได้เลยและหลังจากนั้นอีก แต่ละคนก็ทร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1262

    ดังนั้นเขาจึงยังไม่กล้าไปกอดนางไว้แบบนี้ตลอด คอยอยู่ด้วยเงียบๆแต่เขากลับไม่ง่วงเลย ไม่ได้หลับ ไม่ได้ปิดตาด้วยแค่มองนางเงียบๆ สัมผัสถึงความร้อนในตัวนางกับชีพจรนางกระทั่งตัวเขาเองก็ยังบอกไม่ได้ว่าเพราะอะไร แต่ก็มีความรู้สึกอย่างหนึ่ง...รู้สึกสงบใจอย่างมากราวกับว่า ทั้งหมดเปลี่ยนเป็นสมบูรณ์แบบแล้วทั้งที่ความทรงจำในอดีตยังไม่กลับคืนเข้าที่ แต่ความรู้สึกนี้ เหมือนสลักประทับอยู่ในจิตวิญญาณอย่างไรอย่างนั้น ยากที่จะลบเลือนจนกระทั่งลมหายใจของจั๋วซือหรานมั่นคงแล้ว สีหน้ายิ่งมีประกายแดง สภาพดีขึ้นมากแล้วเขามองไปที่คราบเลือดแห้งกรังเหล่านั้นบนใบหน้าจั๋วซือหราน รู้สึกเสียดแทงตาเหลือเกินจึงได้เคลื่อนไหวเบาๆ เดินออกไปด้านนอก กำชับคนรับใช้ให้เตรียมน้ำร้อนมาไม่ให้คนรับใช้เข้ามาปรนนิบัติ แต่เขาหิ้วถังน้ำเข้ามาเองเขาอุ้มนางมาแช่ในถังน้ำ คอยสระชำระเส้นผมนางทีละเล็กทีละน้อย เช็ดคราบเลือดบนผิวนางออกอาบตัวนางจนสะอาดหมดจด อุ้มกลับไปบนเตียง ใช้ผ้าห่มห่อตัวนางจากนั้นจึงใช้พลังวิญญาณธาตุไฟบริสุทธิ์ เป่าผมนางจนแห้งและเพราะมีกลิ่นอายของเขาห่อหุ้มอยู่ จั๋วซือหรานจึงหลับลึกอย่างสบาย ไม่ตื

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1261

    พลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงที่บริสุทธิ์ที่สุด ถูกส่งผ่านเข้ามาอย่างนั้นจั๋วซือหรานมีความรู้สึกเหมือนตนเองถูกแช่ไว้ในน้ำอุ่น เป็นความรู้สึกที่สบายอย่างที่สุดในลำคอก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาด้วยความสบายยิ่งไปกว่านั้น คนเราก็เหมือนจะเป็นเช่นนี้เดิมทีก็ไม่ได้รู้สึกว่าตนเองลำบากยากเย็นอะไรนักแต่ตอนที่ร่างกายสามารถผ่อนคลายลงมาได้ ไม่รู้สึกเจ็บปวดทรมานอีกแล้วพอย้อนคิดไปถึงความยากลำบากเหล่านั้นก่อนหน้า กลับรู้สึกว่าตนเองน่าสงสารขึ้นมาจั๋วซือหรานตอนนี้ก็รู้สึก ว่าตนเอง...ไม่ค่อยได้รับความเป็นธรรมเท่าไรชายคนนี้ เจ้าคนสมควรตายนี่มีสิทธิ์อะไร?มีสิทธิ์อะไรกัน?"..." ชายหนุ่มรู้สึกเจ็บที่ปลายลิ้นเขาขมวดคิ้ว รสชาติคคาวหวานของเลือดแผ่ซ่านในร่องฟันของทั้งสองคนเขามองหญิงสาวตรงหน้า ก็เห็นแววตาของนางมีความหงุดหงิดอยู่หน่อยๆแล้วยังมีสีหน้าท้าทายอีกด้วยดูเหมือนจะจงใจกัดปลายลิ้นเขา น่าจะโมโหเอาการชายหนุ่มไม่ครางออกมาเลย ราวกับไม่รู้สึกเจ็บอย่างไรอย่างนั้นยิ่งไปกว่านั้นยังไม่ใส่ใจ ปลายลิ้นยังโถมใส่นางอย่างเร่าร้อนรุนแรงถ้านางอยากได้ ก็ต้องแล้วแต่นางจั๋วซือหรานดูจนใจหน่อยๆ แต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1260

    เหมือนว่าความทรมานทั้งหมดก่อนหน้านี้ ไม่ได้ทรมานอะไรขนาดนั้นและไม่รู้ว่าเจ้าโง่นี้ใช้แรงกระแทกนางมากแค่ไหน...มีหลายครั้ง ที่นางรู้สึกได้ว่า ในมิตินี้เหมือนสั่นไหวขึ้นมาราวกับวิญญาณของนางที่ถูกขังอยู่ในมิติ จะถูกดันกลับเข้าไปที่เดิมเลยจั๋วซือหรานถลึงตาโตขึ้นหน่อย จ้องมองมิติที่โยกไหวหน่อยๆรู้สึกหมดคำจะพูดแมงมุมน้อยงึมงำขึ้นมาข้างๆ "นายท่าน...ในนี้มัน...ร้อนจัง..."จั๋ซซือรหานมองไปทางเหล่าสัตว์อสูรของตนเอง มองออกไม่ยาก พวกมันเหมือนเริ่มมึนๆ จะหลับกันแล้ว พอเห็นแบบนี้ ก็เหมือนจะไม่ได้แตกต่างอะไรนักกับสถานการณ์ครั้งที่แล้วเพียงแต่ครั้งที่แล้ว ตนเองถูกทำจนเกือบจะสลบไปและตอนนี้ ตนเองถูกทำ...จนใกล้จะตื่นขึ้นมาแล้วผู้ชายคนนี้...ร้ายกาจจริงๆนี่มันช่าง....สัมผัสแนบเนื้อบนตัวนางมีเหงื่อบางๆ ชั้นหนึ่ง ผิวที่เคยขาวซีดไปทั้งตัว ตอนนี้พอมีเม็ดเหงื่อเกาะอยู่ จึงยิ่งดูเป็นประกายระยิบระยับขึ้นมาและไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน..."อือ..." หญิงสาวที่ไม่มีปฏิกิริยามาตลอด ริมฝีปากที่ยังมีรอยเลือดที่ยังเช็ดไม่สะอาด ส่งเสียงครางออกมาเหมือนลูกแมวตัวน้อยฟังดูแล้วเป็นเสียงอือๆ งึมงำๆน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1259

    ในใจจั๋วหวายเข้าใจอย่างหนักแน่นว่าเฟิงเหยียนคือผู้ชายทรยศแต่ว่านี่ไม่ได้เป็นอุปสรรคที่ทำให้เขาคิดว่าเฟิงเหยียนจะทำให้พี่สาวดีขึ้นได้คนเราก็มักมีสองมาตรฐานเช่นนี้ ไม่มีทางเลือกดังนั้นจั๋วหวายแม้จะไม่ได้เน้นหนักว่าผู้ชายทรยศคนนั้นคือผู้ชายทรยศ แต่ก็ยังถามขึ้นว่า "เขาจะพาพี่สาวข้าไปไหน?"ปันอวิ๋นได้ยินคำนี้ สายตาก็ลึกซึ้งขึ้นมา "นั่น...เป็นเรื่องของผู้ใหญ่เขา เด็กๆ ไม่ต้องถามเยอะ"จั๋วหวายเบ้ปาก ในใจก็บ่นว่าตนเองไม่ใช่เด็กแล้วเสียหน่อยแต่ปันอวิ๋นในที่สุดก็ไม่ได้บอกจั๋วหวาย ว่าเฟิงเหยียนจะพาจั๋วซือหรานไปที่ไหนในใจปันอวิ๋นชัดเจนดี สภาพของจั๋วซือหรานแย่หนักถึงระดับนี้แล้ว ขนาดยาก็ยังดื่มไม่ลงถ้าคิดจะใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ปลอบประโลมตัวนาง รวมถึงปลอบประโลมลูกในท้องนาง...วิธีการที่ดีที่สุด คือสิ่งนั้นอย่างไม่ต้องสงสัยสติสัมปชัญญะของจั๋วซือหรานไม่ได้หลับลึกอย่างสมบูรณ์ ในมิติยังสัมผัสรับรู้ได้ถึงสภาพแวดล้อมรอบๆความรู้สึกนั้น เหมือนกับสติสัมปชัญญะถูกขังอยู่ในมิติอย่างไรอย่างนั้นนางจึงเป็นได้เพียงแค่ผู้ชมเท่านั้น"เฮ้อ ดูท่าเขาจะใช้วิะีนั้นสินะ" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นขนมถั่วแดงกั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1258

    แต่ว่าชายหนุ่มยังคงไม่ตอบเขาเขาเพียงยกมือขึ้นมา สะบัดแขนเสื้อ เผยท่อนแขนออกมาจากในแขนเสื้อจั๋วหวายจึงเห็นว่าท่อนแขนของชายคนนี้ มีลายมัดกล้ามที่สวยงาม กระชับเรียวยาวผิวเองก็ขาวเย็น ไม่รู้ว่าเพราะปกติไม่ค่อยโดนแสงแดดหรือเปล่าและตอนนี้เอง ผิวหนังขาวเย็นที่โผล่ออกมานอกแขนเสื้อพอต้องกับแสงตะวัน จั๋วหวายก็รู้สึกเหมือนขาวจนสะท้อนแสงออกมาเลย!จากนั้น หลังจากสัมผัสกับแสง ก็ค่อยๆ รอยแผลเหมือนไฟลวกที่ค่อยๆ แดงขึ้น ก็ปรากฏมาบนท่อนแขนเขาไม่เพียงเท่านี้ หลังจากที่รอยไหม้เหล่านี้ปรากฏ ท่อนแขนเขาก็มีอักขระประหลาดบางส่วนปรากฏขึ้นมาอย่างรวดเร็วพออักขระคำสาปปรากฏ บาดแผลเผาไหม้พวกนั้นก็ถูกสะกดลงไป บาดแผลบนผิวหนังเริ่มสมานตัวกลับเหมือนเดิม หลังจากแผลสมานดี อักขระคำสาปเหล่านั้นก็ค่อยๆ สลายหายไปบนผิวหนังเขาแต่ไม่นานนัก ก็ปรากฏแผลไฟลวกอีกครั้ง อักขระเหล่านั้นก็ปรากฏขึ้นมาอีกซ้ำไปซ้ำมาแบบนี้ ดูแล้วทำให้คน...รู้สึกประหลาดมากจั๋วหวายมองจนบื้อไปเลยและชายหนุ่มก็ไม่ได้ใส่ใจกับแผลที่หายแล้วก็เกิด เกิดแล้วก็หายพวกนี้เลย ราวกับเหมือนมองไม่เห็นอย่างไรอย่างนั้นและก็เหมือนไม่ได้เจ็บได้ปวดเลย แม้ต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1257

    เหมือนว่าพอสายตามองเห็นหญิงสาวในอ้อมกอดปันปวิ๋นที่เหมือนลมพัดก็สลายหายไปได้ ตอนนั้นเอง สัมผัสทั้งหมดก็เหมือนหายวับไปในพริบตาดวงตามองไม่เห็นสิ่งใดอีกแล้ว หุเองก็ไม่ได้ยินเสียงอื่นใดอีกความรู้สึกเดียวที่เหลืออยู่คือความเจ็บปวดรุนแรงเหมือนมีดกรีดกลางใจ ไม่เพียงเท่านี้ สมองก็เหมือนถูกของมีคมกวนคนอย่างไรอย่างนั้น เจ็บขึ้นมาเป็นระยะๆยิ่งเจ็บ ก็ยิ่งอยากจะมองนางให้ชัดจเน ไม่อยากพลาดไปแม้แต่น้อยปันอวิ๋นพอเห็นร่างของเขา และกลิ่นอายนั่นบนตัวปันอวิ๋นในที่สุดก็ถอนใจโล่ง เขามาได้เสียที..."เจ้าหุบเขา?" ศิษย์สำนักข้างๆ ยังระแวดระวังอยู่ปันอวิ๋นบอกกับศิษย์สำนักเสียงเรียบว่า "เขาไม่ทำอะไรหรอก"ศิษย์สำนักพอได้ยินคำนี้ จึงถอนใจโล่งออกมา เพราะตอนที่พวกคนคุ้มกันขวางเขาเมื่อครู่มันเกินต้านแล้วจริงๆปรมาจารย์กู่อย่างพวกเขาเดิมทีก็แพ้ธาตุไฟอยู่แล้ว และชายคนนี้ก็เหมือนจะมีธาตุไฟระดับสูงด้วยพวกเขาไม่มีความสามารถจะไปทัดทานได้เลยปันอวิ๋นพอเห็นร่างสูงใหญ่ตรงหน้า ก็คิดในใจ ยังจะงงอะไรอยู่เล่า ถ้าเจ้ายังงงอยู่ หญิงสาวคนนี้จะไม่ไหวแล้วนะ!"โอ๊ค..." ในปากจั๋วซือหรานมีเลือดสดทะลักออกมาและมือข้างนั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1256

    ราวกับว่า...ต่อให้นางจะดูอ่อนแอเหมือนกดให้ตายได้ด้วยนิ้วเดียวแต่ยังคงไม่ยอมให้คนรู้สึกว่าอ่อนแอ ยังคงทำให้คนรู้สึกว่า ถ้าหากอยากจะเป็นศัตรูกับนาง ก่อนนางตายก็จะลากเจ้าลงนรกไปด้วยกันตอนนี้รอยยิ้มที่ดูเกียจคร้านไม่ใส่ใจ กลับยิ่งดูสงบนิ่งมั่นคงราวกับยกของหนักได้อย่างสบายนางเอ่ยขึ้นอย่างเกียจคร้าน "ใครจะรู้ล่ะ? อาจจะขาดหนูไม้ไผ่อยู่กระมัง"ปันอวิ๋นกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่พอได้ยินหนูไม้ไผ่สองคำนี้ เขาก็รู้แล้ว ว่าตอนที่เขาไปทิ้งจดหมายที่บ้านไม้ไผ่ นางก็เดาได้แล้วว่าเขาทำอะไรเพียงแต่ไม่ได้พูดออกมาเท่านั้นเป็นหญิงสาวที่เจ้าเล่ห์กว่าจิ้งจอกเสียอีกปันอวิ๋นจุ๊ปาก "เจ้านี่ถึงตายไป สมองก็คงจะแล่นอยู่อย่างนี้สินะ?"จั๋วซือหรานแค่เหลือบมองเขา ไม่ได้พูดอะไร มุมปากกลับยกโค้งขึ้นบางๆหลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง คิ้วนางก็ขมวดขึ้นบางๆ"ทำไมหรือ?" ปันอวิ๋นเห็นการเปลี่ยนแปลงของสีหน้านาง จึงขมวดคิ้วเดินเข้ามา สองมือประคองบ่านางไว้อันที่จริงเป็นเพราะเขาไม่ค่อยได้เห็นสีหน้าทรมานจากหน้านางนัก นางมักจะทำเป็นเหมือนไม่เป็นไรเสมอแต่ตอนนี้ บนสีหน้า กลับดูทรมานขึ้นอย่างชัดเจนจากนั้น นางก็เหมือนจะยืน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1255

    จั๋วหวายเกือบจะสำรอกออกมาแล้ว!"ถ้าจะอาเจียนก็ออกไปอาเจียนซะ ถ้าทำกู่กล่องนี้ของข้าพัง ข้าจะจับเจ้าแขวนห้อยหัวซะเลย" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นเสียงเรียบจั๋วหวายหมุนตัวพุ่งออกไป สูดลมหายใจลึกหลายครั้งกว่าจะสงบลงมาได้ จากนั้นจึงเตรียมตัวเตรียมใจ ตอนที่เข้าไปอีกครั้งก็ไม่มีกระทบกระเทือนอย่างแรงแบบก่อนหน้าแล้วแต่สายตากลับไม่ได้มองไปยังแผ่นกระดานที่มีของดิ้นกระแด่วๆ นั่นมองแล้วขนลุกสุดๆ"มีเรื่องอะไร?" ปันอวิ๋นถามขึ้นเสียงเรียบจั๋วหวายเอ่ยเสียงต่ำ "ท่านรู้..." เขาสูดจมูก ถามออกไปว่า "ท่านรู้จักเฟิงเหยียนใช่ไหม?"ปันอวิ๋นเดิมทีกำลังป้อนอาหารเจ้าพวกดุ๊กดิ๊กพวกนั้นพอได้ยินคำนี้ การเคลื่อนไหวก็หยุดลงมา ไม่หันไปมองเขา ผ่านไปครู่หนึ่งจึงถามขึ้นเรียบๆ ว่า "ทำไมล่ะ?""ข้าอยากเจอเขา ข้าอยากจะถามเขา ว่าทำไมทำแบบนี้กับพี่ของข้า" จั๋วหวายขอบตาแดงรื้นเขาสูดหายใจลึกแล้วพ่นออกมา "ข้าเองก็อยากจะถามเขา ว่าช่วยพี่ข้าได้ไหม ถ้าหากไม่ได้ หรือก็คือเขาเป็นผู้ชายทรยศ ไม่ยินยอม เช่นนั้นเขามาบอกกับท่านพี่ได้ไหม ว่าให้เลิกแล้วต่อกันจบๆ ไป"ปันอวิ๋นพอได้ยินคำนี้ จะฟังความเสียใจในใจจั๋วหวายไม่ออกได้อย่างไรกั

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status