ยอดรักมองคนที่บอกตนว่าเป็นหัวหน้าแม่บ้านอย่างพิจารณาด้วยสายตาเฉกเช่นเดียวกับที่ถูกมองมาคือ เหยียดหยันและเชิดใส่
“อ๋อ... หรือคะ พอดีว่าฉันกับเพื่อนได้รับเชิญโดยตรงจากเจ้าของไร่ อ้อ... ไม่ใช่สิ ต้องบอกว่า คุณแม่ เจ้าของไร่ เชิญเรามาที่นี่และเจ้าของไร่ก็รู้แล้วว่าเราจะมาในวันนี้ หากคุณแม่บ้านจะกรุณา ช่วยหลีกทางให้แขก วี ไอ พี อย่างพวกเราด้วยนะคะ...”
ยอดรักพูดด้วยน้ำเสียงฉะฉานเน้นย้ำให้คนฟังเห็นถึงความสำคัญของตนอย่างทระนงตัว ยิ่งตอนนี้เธออยู่ในรูปลักษณ์ใหม่คือเรือนผมซอยสั้นทันสมัยเข้ากับรูปหน้าคมเฉี่ยวของตนแล้ว ทำให้เธอดูสูงปราดเปรียวและคล่องแคล่วมั่นใจมากขึ้น จนคนที่มองเธอด้วยแววตาเหยียดหยันในคราแรกรู้สึกถึงพลังงานบางอย่างที่แผ่กระจายออกมาจากหญิงสาวสวยตรงหน้า แต่ก็ยังเก๊กท่าว่าตัวเองนั้นเหนือกว่าอยู่
จะสักแค่ไหนวะ... ยอดรักคิดในใจห่ามๆ และเริ่มหงุดหงิด
เธอไม่ใช่คนอ่อนหวานอ่อนข้อให้ใครง่ายๆ ด้วยสิ ยิ่งมาเจอคนงานระดับนี้อวดศักดาใส่ยอดรักก็ยิ่งอยากจะวีน ไม่ใช่ว่าจะดูถูกดูแคลนคนที่ทำงานแม่บ้าน ยาม หรือชาวไร่ชาวสวน แต่ในเมื่อคนตรงหน้าเธอเป็นเพียงลูกจ้าง แต่ทำตัวเหมือนเป็นเจ้าของบ้านที่เสียมารยาทแบบนี้ ยอดรักเองก็ไม่ปลื้มเช่นกัน คนเราหากไม่ได้ดีเด่นกว่าใคร ก็อย่ามองคนอื่นด้วยสายตาเหยียดหยันหรือดูแคลนใครอย่างไร้มารยาทเช่นที่หัวหน้าแม่บ้านคนนี้ทำอยู่เลย...
“จะมาจากไหนก็ไม่สำคัญ แต่วันนี้ยังไงพวกเธอไม่ได้พบคุณเด่นอยู่ดีเพราะคุณเด่นไม่อยู่” อีกฝ่ายยังไม่ยอมแพ้
“เรากลับไปหาโรงแรมพักในเมืองก็ได้มั้งนังยอด แล้วพรุ่งนี้ค่อยมาใหม่...” กุ้งเต้นซึ่งไม่อยากเห็นเพื่อนรักแสดงแสนยานุภาพการทำลายล้างเอ่ยชวนนิ่มๆ
“ไม่ไป... ฉันตั้งใจมาแล้ว แกก็น่าจะรู้ว่าหากฉันตั้งใจแล้ว อะไรก็ไม่อาจจะต้านทานได้”
“แต่ฉันนี่ล่ะจะต้านทานพวกแก เชิญกลับไปได้ไร่นี้ไม่ต้อนรับพวกหล่อน”
หัวหน้าแม่บ้านนามว่าคิตตี้เชิดหน้าพูดอย่างไร้มารยาทเหมือนเป็นเจ้าของบ้านทำให้กุ้งเต้นเริ่มอยากแสดงฤทธิ์เสียเอง
“นี่นางกุลาหน้าฝ้า หน้าวอก หัดตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาหัวตัวเองบ้างนะยะ หล่อนเป็นใครยะ หัวหน้าแม่บ้าน นี่ขนาดเป็นแค่หัวหน้าแม่บ้านยังไร้มารยาทไล่แขกของเจ้าบ้านเจ้าเรือนขนาดนี้ มันไม่มากไปหน่อยหรือยะ แล้วนี่เจ้าของบ้านเขารู้มั้ยว่าจ้างนางกุลาใจหยาบมาเฝ้าบ้าน แถมยังมีท่าทางเหมือนหมาขี้เรือนหวงก้างไม่มีผิด นี่หากฉันเป็นเจ้าของบ้านนะ ฉันไล่หล่อนออกไปนานแล้ว รู้จักเจียมตัวไว้บ้าง อย่าให้กะเทยวีนนะยะเดี๋ยวจะหาว่าสวยไม่เตือน...”
กุ้งเต้นเท้าสะเอวชี้นิ้วกราดใส่หน้าคิตตี้ซึ่งได้แต่อ้าปากค้างอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าคนทั้งสองจะด่าตนซึ่งๆ หน้าแบบนี้ และไม่คิดว่าจะโดนด่าด้วยเพราะที่ผ่านมาเธอจะเป็นฝ่ายที่ชนะมาตลอด ไม่เคยมีใครฝ่าด่านเธอไปได้เลย และต่างก็แตกพ่ายไปอย่างไม่เป็นท่าด้วย แต่สาวแท้สาวเทียมสองคนนี้มาจากไหนถึงกล้ามาแหยมกับเธอ...
“นี่พวกแก แก...” เจ้าหล่อนอ้าปากพะงาบๆ พูดไม่ออกได้แต่ชี้หน้าแขกผู้มาเยือนด้วยอาการสั่นเทิ้มไปทั้งตัวด้วยความโกรธ
“โว้ย... นังแมว ฉันให้แกมาดูว่าใครมา ทำไมหายหัวไปเลยวะ ข้ารอใช้เอ็งอยู่นะเว้ย...”
เสียงร้องโหวกเหวกของใครบ้างคนดังขึ้นทำให้ทั้งสามสาวหันไปมองพร้อมกัน ทำให้หญิงสาวที่บอกว่าตนเป็นหัวหน้าแม่บ้านถึงกับหน้าเสีย เมื่อปรายตามามองเห็นว่าสองสาวนั้นปิดปากหัวเราะเธอเบาๆ ก็ยิ่งเดือดดาล
“ที่แท้ก็ชื่อแมว สาระแนมาบอกเราว่าชื่อคิตตี้ ชื่อแมวก็ดูดีกว่าเยอะเลยนะ กระแดะมาชื่อฝรั่ง” กุ้งเต้นเบะปากใส่
“อ้าว คุณๆ มาพบใครคะ...” ผู้มาใหม่เป็นหญิงวัยกลางคนรูปร่างค่อนข้างท้วมใบหน้าอวบอูมดูใจดีถามพวกเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนน้อมดูมีการอบรมที่ดี
“สวัสดีค่ะคุณป้า พวกเราเป็นแขกของคุณดารากับน้องบีและเราก็จะมาพักผ่อนที่นี่ตามคำเชิญของคุณเด่นค่ะ”
ยอดรักบอกด้วยน้ำเสียงสดใสพลางยิ้มให้ผู้สูงวัยกว่าด้วยกิริยานอบน้อมจน ป้าแก้ว ยิ้มอย่างเอ็นดูหญิงสาวที่ดูเปรี้ยวจี๊ดปราดเปรียวตรงหน้าแต่กิริยามารยาทนั้นอ่อนหวานน่ารักจับใจ...
“อ้อ... จริงด้วยวันนี้คุณเด่นเธอสั่งไว้แล้วค่ะว่าให้ต้อนรับคุณๆ พอดีว่าคุณเด่นมีประชุมด่วนเลยไม่ได้อยู่ต้อนรับคุณๆ นะคะ เชิญเลยค่ะ ป้าชื่อป้าแก้วนะคะ เป็นแม่บ้านของที่นี่ล่ะค่ะ เรียกใช้ป้าได้ตามสะดวกเลยนะคะ พวกเราเตรียมห้องพักไว้ให้แล้ว นังแมว เอ๊ย นังคิตตี้พาคุณๆ เขาไปห้องพักได้แล้ว นี่อย่าบอกนะว่าแกมาแผลงฤทธิ์อะไรกับคุณๆ เขาอีก...”
ป้าแก้วเอ่ยด้วยความนอบน้อมทั้งยังหันไปดุคนที่ก้มหน้าก้มตาอย่างรู้สึกอับอายเมื่อตนถูกป้าแก้วต่อว่าแบบไม่ไว้หน้า
“อะไรกันป้า อย่ามาใส่ความฉันนะ...”
“เออ.. จับไม่ได้คาหนังคาเขา ขี้ข้าอย่างแกมันไม่ยอมรับหรอก ไปเลย ไปช่วยคุณๆ เขายกของไปที่ห้องเลยไป”
คิตตี้หน้างอเมื่อเจอคำสั่งของป้าแก้ว เธอเดินไปยกกระเป๋าใบใหญ่ของกุ้งเต้นซึ่งตั้งใจจะให้คิตตี้ยกไปให้ด้วยความหมั่นไส้เปิดเผย ส่วนยอดรักก็เดินลากกระเป๋าตามเข้าไปโดยไม่ให้ป้าแก้วช่วยถืออะไรเลย ในขณะที่กุ้งเต้นเดินถือกระเป๋าใบเล็กใบน้อยเข้าบ้านหลังงามไปอย่างอารมณ์ดี...
บทที่3.“หึ้ยยย เจ็บใจจริงๆ เล้ย นางป้าแก้วปากสว่างนั่นไม่น่ามาขัดจังหวะเลยเชียว...”แมวหรือคิตตี้แม่บ้านสาวที่มักตีตัวเสมอเจ้านายลับหลังเดินบ่นปอดแปดออกมายังสวนหลังเรือนเด่นซึ่งเป็นสวนดอกไม้และสนามหญ้าร่มรื่นด้วยต้นไม้ซึ่งหนึ่งในนั้นมีต้นก้ามปูต้นใหญ่อายุหลายสิบปีที่แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงาขยายพื้นที่กิ่งก้านจนไปถึงลำธารเล็กๆ ที่ไหลผ่านทำให้เรือนเด่นนั้นงดงามตระการตาและร่มเย็นน่าอยู่มากขึ้น“นางสองคนนั่นต้องหวังมาอ่อยคุณเด่นแน่ๆ เลย เราจะยอมไม่ได้ เราเฝ้ามาตั้งนานจะให้ใครมาเอาไปง่ายๆ ได้ยังไงวะ...”คิตตี้ซึ่งใครๆ ในไร่ต่างก็ตั้งฉายาให้ว่า คิตตี้ฉึกๆ นั้น แอบรักอัครามาตั้งแต่เข้ามาทำงานทีนี่เมื่อห้าปีที่แล้ว ความจริงแล้วคิตตี้เป็นคนสวยและผิวพรรณดี แต่ด้วยความที่อยากสวยมากกว่าเดิมเธอจึงพยายามที่จะทำทุกอย่างให้ตัวเองสวยมากขึ้น ทั้งไปศัลยกรรมใบหน้า ฉีดนั่นเสริมนี่ทั้งใช้ครีมสำหรับหน้าขาวยี่ห้อต่างๆ ที่มีขายตามท้องตลาด จนใบหน้าที่มีความงามตามธรรมชาตินั้นเริ่มเป็นฝ้าด่างดำชนิดที่ว่าไม่สามารถจะรักษาได้แต่เธอก็ไม่หวั่นยังขยันหาครีมมาทาเพื่อให้หน้าขาวอยู่คิตตี้นั้นเป็นคนรักสวยรักงาม และยอมทุ
บทที่4.ยอดรักถามด้วยสีหน้าแช่มชื่นขึ้นทำให้กุ้งเต้นหันมามองหน้าเพื่อนรักด้วยรอยยิ้มรู้ทัน กุ้งเต้นมักมีโชคเรื่องเสี่ยงดวงเสมอ ในขณะที่เธอนั้นดวงกุดนักแลกับการเสี่ยงโชคทุกรูปแบบ หากไม่เหนื่อยไม่ได้ทำงานจนเหงื่อออกอย่าหวังว่าจะได้เงินมาง่าย ๆ“ก็แล้วแต่แกว่ะ แกอยู่ให้สบายใจไปเลย ไหนๆ เราก็หลบออกมาจากวงการมายาแล้ว แกเองก็ดูสดชื่นมากกว่าตอนอยู่กรุงเทพฯ อีกนะแกรู้ตัวมั้ย”“ก็คงเพราะที่นี่อากาศดี ห่างไกลมลพิษมั้ง...” น้ำเสียงตอนท้ายของยอดรักแผ่วลงไปบ้าง กุ้งเต้นจึงเดินมาโอบกอดเพื่อนรักแล้วตบบ่าเบาๆ“แก... เรื่องบางเรื่อง เราก็ต้องปล่อยให้มันเป็นไปตามทางของมัน แกแก้ไขสันดานใครไม่ได้นะยอด หมาสองตัวกัดกันแกก็อย่าไปคิดแทนมันเลย” กุ้งเต้นเปรียบเทียบให้เพื่อนรักปล่อยวางเรื่องที่ทำให้พวกเธอต้องหลบมาที่นี่“แน่นอน... ฉันรู้และทำใจได้แล้ว เพียงแต่...”“อะไร...”“ฉันคิดว่าอาจจะหางานทำ อาจจะลงทุนทำอะไรสักอย่างหลังจากนี้ แบบจริงๆ จังๆ”“แกจะทำอะไรฉันก็เอาด้วยอยู่แล้ว” สองสาวที่แม้จะต่างกันที่เพศตามกำเนิด แต่ด้วยความรักที่มีให้กันมาเนิ่นนานยิ้มให้กันอย่างมีความสุขกับความฝันครั้งใหม่ของพวกเธอ...อั
บทที่ 1.บารนี ดีแลนด์ สะใภ้คนสวยแห่งตระกูลดังยิ้มให้สองสาวที่มาพบในวันนี้ด้วยความยินดียิ่ง เมื่อเธอจะได้ตอบแทนน้ำใจของนางแบบสาวคนสวยที่นับถือน้ำใจและให้ความเคารพว่าเป็นพี่สาวเช่นยอดรัก ที่ยินดีรับคำเชิญของเธอกับ คุณดารา ผู้เป็นแม่สามีซึ่งเชิญให้ยอดรักไปพักผ่อนที่ไร่อัคราอันกว้างใหญ่ของครอบครัวเสียที แต่เหนือสิ่งอื่นใดเธอกับแม่สามีแอบคาดหวังอะไรอยู่ในการเชิญให้เจ้าหล่อนไปเยือนไร่แห่งนี้...“บีดีใจมากเลยค่ะที่พี่รักตอบรับคำเชิญเราเสียที”“ความจริงพี่ก็อยากจะหยุดทำงานแล้วพักผ่อนบ้างอยู่หรอกค่ะ เพียงแต่ติดคิวงานที่ยังคาราคาซังอยู่ นี่ก็เกือบจะหนึ่งปีแล้วสินะที่คุณบีเชิญเรา”“โธ่... พี่รักน่ะ บอกกี่ครั้งแล้วคะว่าให้เรียกว่าน้องบีเถอะค่ะ อย่าเรียกคุณอะไรเลย ฟังดูขัดๆ เขินๆ ยังไงไม่รู้”“โอเคๆ ค่ะ น้องบี...”ยอดรักยิ้มกว้างให้สาวสวยตรงหน้าและนึกชื่นชมว่าลูกชายบ้านนี้ช่างโชคดีที่ได้ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งเก่งและน่ารักนิสัยดีอย่างบารนี เธอไม่นึกเสียใจเลยที่รับไมตรีนี้จากหญิงสาวตรงหน้า“แล้วนี่พี่รักกับพี่กุ้งเต้นจะไปไหนกันต่อคะ”“พี่กุ้งเต้นกับนังยอดจะไปชอปปิงเสริมความงามกันต่อค่ะ แบบว่าเราจะไปสว