ยอดรักถามด้วยสีหน้าแช่มชื่นขึ้นทำให้กุ้งเต้นหันมามองหน้าเพื่อนรักด้วยรอยยิ้มรู้ทัน กุ้งเต้นมักมีโชคเรื่องเสี่ยงดวงเสมอ ในขณะที่เธอนั้นดวงกุดนักแลกับการเสี่ยงโชคทุกรูปแบบ หากไม่เหนื่อยไม่ได้ทำงานจนเหงื่อออกอย่าหวังว่าจะได้เงินมาง่าย ๆ
“ก็แล้วแต่แกว่ะ แกอยู่ให้สบายใจไปเลย ไหนๆ เราก็หลบออกมาจากวงการมายาแล้ว แกเองก็ดูสดชื่นมากกว่าตอนอยู่กรุงเทพฯ อีกนะแกรู้ตัวมั้ย”
“ก็คงเพราะที่นี่อากาศดี ห่างไกลมลพิษมั้ง...” น้ำเสียงตอนท้ายของยอดรักแผ่วลงไปบ้าง กุ้งเต้นจึงเดินมาโอบกอดเพื่อนรักแล้วตบบ่าเบาๆ
“แก... เรื่องบางเรื่อง เราก็ต้องปล่อยให้มันเป็นไปตามทางของมัน แกแก้ไขสันดานใครไม่ได้นะยอด หมาสองตัวกัดกันแกก็อย่าไปคิดแทนมันเลย” กุ้งเต้นเปรียบเทียบให้เพื่อนรักปล่อยวางเรื่องที่ทำให้พวกเธอต้องหลบมาที่นี่
“แน่นอน... ฉันรู้และทำใจได้แล้ว เพียงแต่...”
“อะไร...”
“ฉันคิดว่าอาจจะหางานทำ อาจจะลงทุนทำอะไรสักอย่างหลังจากนี้ แบบจริงๆ จังๆ”
“แกจะทำอะไรฉันก็เอาด้วยอยู่แล้ว” สองสาวที่แม้จะต่างกันที่เพศตามกำเนิด แต่ด้วยความรักที่มีให้กันมาเนิ่นนานยิ้มให้กันอย่างมีความสุขกับความฝันครั้งใหม่ของพวกเธอ...
อัคราชะงักเล็กน้อยเมื่อกำลังจะเดินเข้าเรือนก็เหลือบเห็นบางอย่างทางหางตา ขาแข็งแรงค่อยๆ ก้าวเดินไปยังสิ่งที่เรียกความสนใจของตนช้าๆ หัวใจแกร่งที่แห้งแล้งมานานเต้นระทึกไหววูบแปลกๆ จนเขาเองยังรู้สึกแปลกใจกับอาการเช่นนี้ของตน... นี่เขากำลังหัวใจเต้นแรงหรือนี่...
ภาพตรงหน้าของเขาคือภาพหญิงสาวผมสั้นทันสมัยในชุดนอนแบบเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวยาวถึงปลีน่องเรียวเสลา รูปร่างสูงโปร่งดูอ่อนหวานปราดเปรียว เจ้าหล่อนคงกำลังสูดเอาอากาศสดชื่นเข้าปอดก่อนจะย่อตัวลงเก็บดอกกาสะลองที่ร่วงพราวอยู่บนระเบียงกว้างขึ้นมาสูดดม
ซึ่งสถานที่แห่งนี้เป็นทั้งที่นั่งเล่นพักผ่อนของเขาและยังเป็นห้องรับแขกกลางแจ้งที่เขามักจะรับรองบรรดาเพื่อนๆ ที่สนิทกันที่นี่รวมไปถึงทุกคนในครอบครัวของเขาก็ชอบมารวมตัวกันที่นี่ด้วยยามที่มาไร่อัครา อัครามองหญิงสาวที่เขาเห็นเพียงด้านหลังของเธอเหมือนต้องมนต์ แม้เห็นเพียงด้านหลังเท่านั้นก็ทำให้หัวใจหนุ่มวัยเลยเลขสามหลายปีเต้นแรงอย่างไม่น่าเชื่อ และเรียวขาของเจ้าหล่อนก็ทำให้เขาอดที่จะมองมันอย่างหลงใหลไม่ได้เธอมีเรียวขาที่สวยเหลือเกิน...
จะเป็นไงหนอหากมันเกาะเกี่ยวเอวของเขาในขณะที่เขากำลัง... โอ้.. ตายล่ะ นี่เขากำลังคิดอะไรกันเนี่ย
เพล้งงง... อัคราตกใจกับความคิดของตัวเองจนทำให้เดินสะดุดกระถางต้นไม้ตกแตกกระจาย ทำให้คนที่กำลังเพลินกับการชื่นชมบรรยากาศของบ้านไร่ในยามค่ำหันขวับมาด้วยความตกใจ...
ยอดรักรู้สึกเหมือนกำลังถูกไฟฟ้านับแสนโวลต์ช็อตกระชากร่างกายจนชาแล้วยังถูกเหวี่ยงกระเด็นไปปะทะกำแพงหินแกร่งแล้วร่วงลงมานอนแอ้งแม้งบนพื้น เธอไม่ได้รู้สึกเจ็บแต่หัวใจเต้นแรงเหมือนวิ่งมาราธอนมาไกลแสนไกลกระนั้นเมื่อหันมาสบตากับชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งหน้าตารกไปด้วยหนวดเคราและผมเผ้าที่ยาวประบ่ากว้างนั้นก็ยุ่งเหยิง
“นาย...” ยอดรักตกตะลึงไม่อยากจะเชื่อสายตาว่าจะเจอเขาคนนั้นอีกครั้ง... คนที่ขโมยจูบเธอ... อีตาบ้านี่มาที่นี่ได้อย่างไร...
“เธอ...” ไม่ใช่แค่ยอดรักตกตะลึงเมื่อเห็นหน้ากัน อัคราเองก็คาดไม่ถึงเช่นกันว่าจะเป็นเธอ...
“เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง / นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง...”
เป็นคำถามที่ออกจากปากของทั้งคู่พร้อมกับต่างชี้หน้ากันด้วยความคาดไม่ถึง ยอดรักเดินมาเท้าสะเอวตรงหน้าเขาแล้วปัดนิ้วแกร่งที่ชี้มายังเธอแรงๆ อย่างไม่เกรงกลัว ใบหน้าสวยเฉี่ยวบึ้งตึงมองเขาตาเขียวปัด
“ฉันถามนายก่อนนะนายมหาโจรบ้ากาม..”
“ฉันถามเธอก่อนต่างหากยายแห้งปากเสีย”
หนุ่มสาวต่างไม่มีใครยอมใครทั้งที่ต่างก็หัวใจเต้นรัวกับการได้พบหน้ากันอีกครั้งหลังจากเมื่อปีที่แล้วพวกเขาได้เจอกันมาแล้วและก็เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ทั้งเขาและเธอลืมกันและกันไม่ลง...
“อ๊ายยย นายว่าใครยายแห้งยะ”
“ก็ว่าเธอไง ยายแห้ง แห้งเป็นไม้กระดานด้วย...” อัครายักคิ้วพูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้ายียวนที่สุดในสายตาของยอดรัก ที่มองเขาอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ เลือดในกายสาวเดือดพล่านเมื่อเจอคำสบประมาทเช่นนี้ เธอนี่นะได้ชื่อว่าเป็นนางแบบสาวผิวน้ำผึ้งตาคมเซ็กซี่มาหลายสมัยจากนิตยสารต่างๆ ทั่วฟ้าเมืองไทย เขากล้าดีอย่างไรถึงได้มาว่าเธอแห้งเป็นไม้กระดาน มันจะหยามกันมากไปแล้ว...
“นายหน้าโหดปากเสีย กล้าดียังไงฮ้า มาว่านางแบบสุดฮอตอย่างฉันว่าแห้งเป็นไม้กระดานน่ะฮ้า”
“เหอะ... นางแบบที่อกหักรักคุดเป็นมือที่สามให้ครอบครัวเขาร้าวฉานจนต้องหลบหน้าสังคมมาเลียแผลใจที่ไร่ฉันล่ะไม่ว่า...”
“อะไรนะ ไร่ของนาย... นี่หมายความว่า นาย นายคือ...” ยอดรักชี้หน้าเขาตาโตดูน่าขัน อัคราไม่พูดอะไรได้แต่เลิกคิ้วมองเธอด้วยมาดของผู้ที่เหนือกว่า...
“ขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการนะครับคุณผู้หญิง ผู้ชายคนนี้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าคุณคนนี้คือ อัครา ดีแลนด์ หรือคุณเด่นนายใหญ่ของไร่อัครา... ชัดมั้ย... ยอดรัก สลักจิตอารี... นางแบบสาวผู้ฉาวโฉ่...”
อัครากล่าวเน้นย้ำด้วยอยากจะกวนประสาทยั่วให้เธอโกรธ ซึ่งก็ได้ผลเพราะตอนนี้ยอดรักโกรธจนเรียกว่าสั่นเทิ้มไปทั้งตัวเลยทีเดียว ใบหน้าเรียวได้รูปของเธอแดงก่ำดวงตาเฉี่ยวคมวาววับราวแม่เสือสาว ริมฝีปากรูปกระจับอวบอิ่มที่เขาเคยลิ้มรสมันมาแล้วว่าหวานแค่ไหนสั่นระริก ซึ่งเจ้าหล่อนคงพยายามควบคุมอารมณ์ของตนอย่างที่สุด...
“นาย...”
บทที่ 1.บารนี ดีแลนด์ สะใภ้คนสวยแห่งตระกูลดังยิ้มให้สองสาวที่มาพบในวันนี้ด้วยความยินดียิ่ง เมื่อเธอจะได้ตอบแทนน้ำใจของนางแบบสาวคนสวยที่นับถือน้ำใจและให้ความเคารพว่าเป็นพี่สาวเช่นยอดรัก ที่ยินดีรับคำเชิญของเธอกับ คุณดารา ผู้เป็นแม่สามีซึ่งเชิญให้ยอดรักไปพักผ่อนที่ไร่อัคราอันกว้างใหญ่ของครอบครัวเสียที แต่เหนือสิ่งอื่นใดเธอกับแม่สามีแอบคาดหวังอะไรอยู่ในการเชิญให้เจ้าหล่อนไปเยือนไร่แห่งนี้...“บีดีใจมากเลยค่ะที่พี่รักตอบรับคำเชิญเราเสียที”“ความจริงพี่ก็อยากจะหยุดทำงานแล้วพักผ่อนบ้างอยู่หรอกค่ะ เพียงแต่ติดคิวงานที่ยังคาราคาซังอยู่ นี่ก็เกือบจะหนึ่งปีแล้วสินะที่คุณบีเชิญเรา”“โธ่... พี่รักน่ะ บอกกี่ครั้งแล้วคะว่าให้เรียกว่าน้องบีเถอะค่ะ อย่าเรียกคุณอะไรเลย ฟังดูขัดๆ เขินๆ ยังไงไม่รู้”“โอเคๆ ค่ะ น้องบี...”ยอดรักยิ้มกว้างให้สาวสวยตรงหน้าและนึกชื่นชมว่าลูกชายบ้านนี้ช่างโชคดีที่ได้ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งเก่งและน่ารักนิสัยดีอย่างบารนี เธอไม่นึกเสียใจเลยที่รับไมตรีนี้จากหญิงสาวตรงหน้า“แล้วนี่พี่รักกับพี่กุ้งเต้นจะไปไหนกันต่อคะ”“พี่กุ้งเต้นกับนังยอดจะไปชอปปิงเสริมความงามกันต่อค่ะ แบบว่าเราจะไปสว
บทที่2.ยอดรักมองคนที่บอกตนว่าเป็นหัวหน้าแม่บ้านอย่างพิจารณาด้วยสายตาเฉกเช่นเดียวกับที่ถูกมองมาคือ เหยียดหยันและเชิดใส่ “อ๋อ... หรือคะ พอดีว่าฉันกับเพื่อนได้รับเชิญโดยตรงจากเจ้าของไร่ อ้อ... ไม่ใช่สิ ต้องบอกว่า คุณแม่ เจ้าของไร่ เชิญเรามาที่นี่และเจ้าของไร่ก็รู้แล้วว่าเราจะมาในวันนี้ หากคุณแม่บ้านจะกรุณา ช่วยหลีกทางให้แขก วี ไอ พี อย่างพวกเราด้วยนะคะ...”ยอดรักพูดด้วยน้ำเสียงฉะฉานเน้นย้ำให้คนฟังเห็นถึงความสำคัญของตนอย่างทระนงตัว ยิ่งตอนนี้เธออยู่ในรูปลักษณ์ใหม่คือเรือนผมซอยสั้นทันสมัยเข้ากับรูปหน้าคมเฉี่ยวของตนแล้ว ทำให้เธอดูสูงปราดเปรียวและคล่องแคล่วมั่นใจมากขึ้น จนคนที่มองเธอด้วยแววตาเหยียดหยันในคราแรกรู้สึกถึงพลังงานบางอย่างที่แผ่กระจายออกมาจากหญิงสาวสวยตรงหน้า แต่ก็ยังเก๊กท่าว่าตัวเองนั้นเหนือกว่าอยู่จะสักแค่ไหนวะ... ยอดรักคิดในใจห่ามๆ และเริ่มหงุดหงิดเธอไม่ใช่คนอ่อนหวานอ่อนข้อให้ใครง่ายๆ ด้วยสิ ยิ่งมาเจอคนงานระดับนี้อวดศักดาใส่ยอดรักก็ยิ่งอยากจะวีน ไม่ใช่ว่าจะดูถูกดูแคลนคนที่ทำงานแม่บ้าน ยาม หรือชาวไร่ชาวสวน แต่ในเมื่อคนตรงหน้าเธอเป็นเพียงลูกจ้าง แต่ทำตัวเหมือนเป็นเจ้าของบ้านท
บทที่3.“หึ้ยยย เจ็บใจจริงๆ เล้ย นางป้าแก้วปากสว่างนั่นไม่น่ามาขัดจังหวะเลยเชียว...”แมวหรือคิตตี้แม่บ้านสาวที่มักตีตัวเสมอเจ้านายลับหลังเดินบ่นปอดแปดออกมายังสวนหลังเรือนเด่นซึ่งเป็นสวนดอกไม้และสนามหญ้าร่มรื่นด้วยต้นไม้ซึ่งหนึ่งในนั้นมีต้นก้ามปูต้นใหญ่อายุหลายสิบปีที่แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงาขยายพื้นที่กิ่งก้านจนไปถึงลำธารเล็กๆ ที่ไหลผ่านทำให้เรือนเด่นนั้นงดงามตระการตาและร่มเย็นน่าอยู่มากขึ้น“นางสองคนนั่นต้องหวังมาอ่อยคุณเด่นแน่ๆ เลย เราจะยอมไม่ได้ เราเฝ้ามาตั้งนานจะให้ใครมาเอาไปง่ายๆ ได้ยังไงวะ...”คิตตี้ซึ่งใครๆ ในไร่ต่างก็ตั้งฉายาให้ว่า คิตตี้ฉึกๆ นั้น แอบรักอัครามาตั้งแต่เข้ามาทำงานทีนี่เมื่อห้าปีที่แล้ว ความจริงแล้วคิตตี้เป็นคนสวยและผิวพรรณดี แต่ด้วยความที่อยากสวยมากกว่าเดิมเธอจึงพยายามที่จะทำทุกอย่างให้ตัวเองสวยมากขึ้น ทั้งไปศัลยกรรมใบหน้า ฉีดนั่นเสริมนี่ทั้งใช้ครีมสำหรับหน้าขาวยี่ห้อต่างๆ ที่มีขายตามท้องตลาด จนใบหน้าที่มีความงามตามธรรมชาตินั้นเริ่มเป็นฝ้าด่างดำชนิดที่ว่าไม่สามารถจะรักษาได้แต่เธอก็ไม่หวั่นยังขยันหาครีมมาทาเพื่อให้หน้าขาวอยู่คิตตี้นั้นเป็นคนรักสวยรักงาม และยอมทุ