แชร์

บทที่ 89

ผู้เขียน: ดอกถังร่วงหล่น
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-06-29 10:29:44
แต่ครั้งนี้นางน่าจะหวาดกลัวจริงๆ ในแววตายังดูผวาอยู่เลย

ตอนแรกจิ่งโม่เยี่ยคิดว่าคนใจกล้าอย่างนาง คงจะไม่รู้จักคำว่าหวาดกลัวเหมือนคนอื่นหรอก คิดไม่ถึงเลยว่านางจะกลัวเป็นด้วย

เขาถามนาง “เจ้าร้องไห้ทำไม?”

เฟิ่งชูอิ่งสูดจมูกเบาๆ “ข้ากลัวท่านอ๋องจะฆ่าข้า แล้วท่านจะต้องตายไปด้วย

“ข้าตายก็ไม่เป็นไรหรอก แต่หากท่านอ๋องตาย คงเป็นเรื่องน่าเสียดายมาก”

จิ่งโม่เยี่ย “....เจ้ายังกล้าเล่นลิ้นอยู่อีก ดูเหมือนข้าควรจะตัดกะโหลกศีรษะของเขาออกมาจริงๆ”

คำพูดของเขาฟังดูโหดร้าย น้ำเสียงเฉยชา ทว่าในแววตากลับไม่มีความดุร้าย

เฟิ่งชูอิ่งมองเขาแล้วกล่าว “ข้าพูดความจริงเพคะ ข้าไม่อยากให้ท่านอ๋องตาย”

จิ่งโม่เยี่ยยื่นมือไปบีบจมูกนาง “เจ้ากลัวจะถูกข้าฆ่าก็บอกมาตรงๆ เถอะ ไม่ต้องพูดอ้อมโลกขนาดนั้น”

บนจมูกของนางมีคราบน้ำตาอยู่นิดหน่อย ตอนเขาแตะโดนจึงขมวดคิ้วด้วยความรังเกียจ ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดมือ

หลังจากเขาเช็ดเสร็จแล้ว นางก็ถลึงดวงตาที่มีน้ำตาจ้องมองเขา ดูแล้วน่ารักทีเดียว

เขาจึงหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับน้ำตาให้นางแบบไม่รู้ตัว

หลังจากเช็ดน้ำตาให้นางเสร็จแล้ว พวกเขาทั้งสองคนก็นิ่งไป

จิ่งโม่เยี่ยไม่เคยทำเรื่องแบ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 90

    คนพวกนั้นเป็นบ่าวรับใช้ของฮว๋าซื่อ วันนี้จุดประสงค์ของพวกเขาคือต้องการฆ่าเฟิ่งชูอิ่งให้ตายคนที่เดินดุ่มๆ เข้าไปคนแรกคิดจะประจบเอาใจฮว๋าซื่อ เขาจึงตรงดิ่งเข้าไปข้างในอย่างว่องไว ปากก็ด่าหยาบคายไปด้วย “เฟิ่งชูอิ่ง เจ้ามันนังสารเลว....”เสียงของเขาขาดหายไปพร้อมกับเสียงกรีดกระบี่สายหนึ่ง ที่แทงเข้าไปในคอหอยของเขาอย่างแม่นยำแสงกระบี่วาววับสะท้อนไปมาในห้องเหมือนสายฟ้าแลบ กลิ่นอายเย็นเยียบน่าสะพรึงกลัวชวนให้คนเสียวสันหลังวาบดวงตาของท้อของจิ่งโม่เยี่ยหรี่ลงเล็กน้อย เขาใช้ด้ามกระบี่ผลักร่างคนที่ถูกปาดคอ ร่างของอีกฝ่ายพลิกม้วนอย่างเสียการควบคุม เลือดอุ่นร้อนและเหม็นคาวพลันสาดใส่ใบหน้าของคนข้างหลังเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเร็วเกินไป คนด้านหลังไม่ทันจะได้ตั้งตัว แล้วยังมีคนตะโกนด่าต่อว่า “นังแพศยาลอบคบชู้หน้าไม่อาย!”“จับตัวพวกเขาไปถ่วงน้ำด้วยกันเลย!”คนที่โดนเลือดสาดเปื้อนหน้าสบถว่า “อะไรวะเนี่ย!”พวกเขายื่นมือออกไปคลำดู คนที่เดินนำเข้าไปคนแรกก็ล้มลงไปแล้วตายคาที่เสียงโหวกเหวกพลันดังก้องไปทั่วคนด้านหลังคิดจะบุกเข้าไป ส่วนคนด้านหน้าก็อยากจะถอยออกมามู่ลี่ลูกปัดถูกเขย่าจนส่งเสียงครืนๆ สถานการ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-29
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 91

    ทว่าในใจนางกลับสนุกสนานมาก นางชอบนักแหละที่ฮว๋าซื่อมาจับชู้เองถึงที่!น่าเสียดายที่นางถูกผ้าเช็ดหน้าปิดทับอยู่ ก็เลยมองไม่เห็นสถานการณ์ในห้องจิ่งโม่เยี่ยปรายตามองนางแวบหนึ่ง เขาเติบโตมาในวัง จึงคุ้นเคยกับกลอุบายของสตรีพวกนั้นเป็นอย่างดี ถึงวิธีการของฮว๋าซื่อจะไม่ได้ปราดเปรื่อง แล้วยังดูเป็นการหาเรื่องอย่างเห็นได้ชัด แต่มันกลับโหดเหี้ยมอย่างมากเขาพอจะรู้มาบ้างว่าสถานการณ์ของเฟิ่งชูอิ่งในจวนสกุลหลินไม่สู้ดีนัก แต่กลับเพิ่งเคยได้สัมผัสกับตัวครั้งแรกตอนนี้เขาเริ่มจะเข้าใจบ้างแล้วว่าทำไมเฟิ่งชูอิ่งถึงพูดโกหกได้คล่องปากขนาดนั้น คงเป็นเพราะถูกคนพวกนี้บีบคั้นเอาน่ะสิฮว๋าซื่อตะโกนอยู่นอกห้อง “ตอนนี้ชายชู้ก็อยู่ในห้องกับเจ้าด้วย เจ้ายังกล้าพูดจาเช่นนี้อีกหรือ เจ้าทำให้ข้าผิดหวังเหลือเกิน!“พวกเจ้าน่ะ เข้าไปจับตัวชายชู้ออกมาเดี๋ยวนี้!”พวกบ่าวชายพากันจ้องมองศพที่นอนกองบนพื้น ไม่มีใครกล้านำออกไปแม้แต่คนเดียวบ่าวบางคนถึงกับถอยหลังหนี เดินเข้ามาหาฮว๋าซื่อแล้วกล่าวว่า “ฮูหยิน ชายชู้คนนั้นโหดเหี้ยมมากขอรับ เขาฆ่าคนในจวนด้วย!”ฮว๋าซื่อได้ยินก็โกรธจัด “เป็นใครกันถึงกล้าทำตัวเช่นนี้ในจวนสกุลหลิน!”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-29
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 92

    ฮว๋าซื่ออดตัวสั่นขึ้นมาไม่ได้ นางพยายามเอ่ยว่า “ท่านอ๋อง ต่อให้ท่านจะเป็นว่าที่สามีภรรยากับเฟิ่งชูอิ่ง แต่เรื่องนี้ก็ไม่ถูกไม่ควรนะเพคะ”จิ่งโม่เยี่ยหัวเราะเบาๆ “น่าขำจริงๆ บนโลกใบนี้ยังมีคนกล้าพูดเรื่องความเหมาะสมกับข้าอีกหรือ“ถ้าเจ้ามีปัญหากับเรื่องนี้ มิลองเข้าวังไปถามเสด็จอาของข้าดูเล่า ดูสิว่าเขาจะพูดเรื่องความเหมาะสมกับข้า หรือจะจับเจ้าไปใส่กรงหมูถ่วงน้ำ”ฮว๋าซื่อ “......”ฐานะของจิ่งโม่เยี่ยพิเศษมาก แม้ฮ่องเต้เจาหยวนจะอยากฆ่าเขา แต่ก็ไม่กล้าลงมืออย่างเปิดเผยอีกอย่างถึงอยู่ต่อหน้า ฮ่องเต้เจาหยวนก็ยังเกรงใจจิ่งโม่เยี่ยอยู่มากตอนนี้ชื่อเสียงของนางเหลวแหลก หากผิดพลาดขึ้นมาอาจถูกจับถ่วงน้ำได้จริงๆหลินชูเจิ้งที่ได้ข่าวก็รีบแล่นมาที่เกิดเหตุทันที เขาเอ่ยขึ้นมาว่า “ไม่ทราบว่าท่านอ๋องมาเยือน จึงไม่ได้รอต้อนรับ ขอท่านอ๋องโปรดอภัยด้วย”จิ่งโม่เยี่ยเอ่ยเสียงเรียบ “ใต้เท้าหลิน ฮูหยินของท่านเล่นชู้กลางวันแสกๆ ต่อหน้าทุกคน ในเมืองหลวงเขารู้กันทั่ว“นางทำเรื่องไร้ยางอายแบบนั้นได้ จึงคิดว่าสตรีในใต้หล้าล้วนหน้าไม่อายเหมือนตัวเองหมด ท่านจะไม่จัดการเรื่องนี้หน่อยหรือ?”หลินชูเจิ้ง “......”เขา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-29
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 93

    เขาหันมองเฟิ่งชูอิ่ง ก่อนจะแค่นเสียงเย็นชา เดินตามหลินชูเจิ้งไปที่โถงเรือนหน้าเมื่อพวกเขาไปแล้ว เฟิ่งชูอิ่งก็หัวเราะคิกคักแล้วบอกฮว๋าซื่อว่า “ฝีมือการจับชู้ของท่านป้าช่างยอดเยี่ยมนัก ข้านับถือจนอยากลงไปกราบเลยเจ้าค่ะ”ฮว๋าซื่อกัดฟัน “มิน่าล่ะเจ้าถึงได้เย่อหยิ่งจองหองนัก ที่แท้ก็เพราะมีต้นไม้ใหญ่อย่างอ๋องฉู่นี่เอง“แต่ว่าเขาเองก็เป็นแค่พระโพธิสัตว์ดินข้ามแม่น้ำ[footnoteRef:1] แค่ตัวเองยังแทบจะไม่รอด ข้าอยากรู้นักว่าเจ้าจะอวดดีได้อีกนานแค่ไหน!” [1: ดูเหมือนยิ่งใหญ่ แต่จริงๆ แล้วเปราะบาง] เฟิ่งชูอิ่งยิ้มบางๆ “ท่านกล้าไปพูดเช่นนี้ต่อหน้าเขาไหม?”ฮว๋าซื่อ “......”เฟิ่งชูอิ่งยักคิ้วเบาๆ “ท่านไม่กล้า! แค่นี้ท่านยังไม่กล้าพูดต่อหน้าเขาเลย ขอแค่เขายังมีชีวิตอยู่ ข้าก็ยังจองหองได้เหมือนเดิม“แต่ท่านป้าวางใจได้เลย ข้าตั้งใจจะฆ่าท่านให้ตายก่อนเขาอยู่แล้ว รับรองว่าท่านไม่มีโอกาสได้สะใจหรอก”ฮว๋าซื่อ “......”เฟิ่งชูอิ่งกล่าวว่า “หากตอนนี้ท่านป้ามีเวลาว่างมานั่งด่าข้า มิสู้เอาเวลาไปจัดการเรื่องในครั้งนี้จะดีกว่า“เพราะถึงข้าจะคบชู้ก็คบกับว่าที่พระสวามีของตัวเอง แต่ท่านคบชู้กับบ่าวในจวนของตัวเอง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-29
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 94

    จิ่งโม่เยี่ยกล่วจบก็ก้มหน้าลงมาทำท่าจะจูบนางเขาเป็นคนที่คิดจะทำอะไรแล้วต้องได้ทำ วันนี้เขาอยากจะชิมรสชาติของนาง ต่อให้ถูกขัดจังหวะเขาก็ต้องชิมให้ได้เฟิ่งชูอิ่งเบื่อการถูกเขาบีบคางมากที่สุด การกระทำดังกล่าวนอกจากจะดูคุกคามแล้ว ยังให้ความรู้สึกเหมือนเขาอยู่เหนือกว่าด้วยแล้วพอเขายื่นหน้าเข้ามาแบบนี้ นางก็เลยเผลอตัวฟาดฝ่ามือใส่ใบหน้าเขาเต็มแรงเพราะนางตวัดมือเร็วมาก แล้วจิ่งโม่เยี่ยก็ไม่คาดคิดว่านางจะลงมือด้วย ผลคือเขาโดนนางตบเต็มๆ“เผียะ” เสียงตบดังก้องขึ้นมา ทั้งสองชะงักไปพร้อมกันดวงตาดอกท้อของจิ่งโม่เยี่ยเปลี่ยนไปสีเข้ม มองเฟิ่งชูอิ่งอย่างเย็นชาในใจนางร่ำร้องว่า “ซวยแล้วไง! คราวนี้ได้ตายจริงแน่ ข้าเพิ่งจะตบหน้าจอมวายร้ายที่ใหญ่สุดในนิยายไป แล้วชีวิตน้อยๆ นี้จะยังปกป้องเอาไว้ได้อย่างไร!”ความคิดมากมายแล่นในสมองของนาง ก่อนจะฉีกยิ้มบางๆ “การตบหน้าท่านอ๋อง สำหรับข้าแล้วตื่นเต้นยิ่งกว่าการลอบคบชู้อีกเพคะ”“ท่านอ๋อง ชอบหรือไม่? ตื่นเต้นเร้าใจหรือเปล่า?”จิ่งโม่เยี่ย “......”นางตบเขา แล้วยังกล้าถามอีกหรือว่าชอบหรือเปล่า?มือของเขาแตะลงบนกระบี่เฟิ่งชูอิ่งจึงรีบกดด้ามกระบี่ของเขา “ท่านอ๋อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-29
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 95

    แต่วันนี้เฟิ่งชูอิ่งกลับกล้าตบหน้าของเขา!หรือว่านิสัยของเขาจะเปลี่ยนไปแล้ว?หลินหว่านถิงมองศพที่บ่าวไพร่ในจวนที่กองอยู่เต็มพื้นเพราะยังไม่มีใครมาจัดการ ยางจึงเงียบไปสักพักนางเกิดคงามกังวลขึ้นในใจ หากจิ่งโม่เยี่ยปกป้องเฟิ่งชูอิ่งขนาดนี้ หลังจากนี้พวกเขาจะลงมืออย่างไรล่ะ?ไม่ได้ อย่างไรเฟิ่งชูอิ่งก็ต้องตาย!หากเฟิ่งชูอิ่งไม่ตาย นางก็ไม่ได้เป็นพระชายาอ๋องเฉินน่ะสิ!จิ่งโม่เยี่ยปกป้องเฟิ่งชูอิ่งได้แค่ไม่นานหรอก เขาไม่สามารถอยู่ข้างกายเฟิ่งชูอิ่งได้ตลอดเวลาวิธีการฆ่าคนอันโหดเหี้ยมอำมหิตที่ซ่อนอยู่ภายในจวนด้านหลังแห่งนี้ มันจะต้องฆ่าเฟิ่งชูอิ่งได้แน่นอนจิ่งโม่เยี่ยวันนี้นอกจากจะไม่ได้ลิ้มรสเฟิ่งชูอิ่ง ยังถูกนางตบอีกต่างหากเขารู้สึกหงุดหงิดอย่างมาก เพราะเขาโตมาจนป่านนี้แล้ว ยังไม่เคยมีใครกล้าลงมือขนาดนี้มาก่อนแล้วอีกฝ่ายยังเป็นสตรีด้วย!หลังออกมาจากจวนสกุลหลินก็คิดได้เรื่องหนึ่ง นางตบเขาเชียวนะ ทำไมเขาถึงไม่ใช้กระบี่ฟันแขนนางขาดล่ะ?เรื่องนี้แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่เข้าใจ เพราะว่ามันไม่สอดคล้องกับสิ่งที่เขาทำมาตลอดเขาครุ่นคิดว่าควรจะกลับไปหานางเพื่อตัดมือดีไหม แต่หากกลับไปตอนนี้มันก็ดูไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-29
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 96

    จิ่งโม่เยี่ยไม่ไว้หน้าหลินชูเจิ้งสักนิด วันนี้เขาถูกอีกฝ่ายด่ากราดแบบไม่เกรงใจ จนแทบจะไร้ค่ากว่าอึสุนัขหากวันนี้ฮว๋าซื่อทำสำเร็จ เขาก็อาจจะชื่นชมนางสักหน่อยแต่หากฮว๋าซื่อทำพลาด แปลว่ามันคือความผิดของนางฮว๋าซื่อสีหน้าบิดเบี้ยว นางกรอกตาขึ้นบนแล้วสลบไปทันทีเมื่อคืนนางต้องเจอเรื่องสารถีแซ่หลิว วันนี้นางต้องเจอเรื่องจิ่งโม่เยี่ยข่มขู่ แล้วถูกเฟิ่งชูอิ่งยั่วโมโหอีก พอหลินชูเจิ้งด่าซ้ำนางก็เลยรับไม่ไหวหลินชูเจิ้งเห็นนางสลบเหมือดก็แอบชะงักเล็กน้อย ก่อนจะด่านางต่อไปว่า “นังสารเลวไม่ได้เรื่อง!”แต่ถึงเขาจะด่านาง ก็ยังเรียกคนมาช่วยกันแบกฮว๋าซื่อขึ้นไปนอนแล้วเรียกหมอมาตรวจดูเพราะเขารู้สึกรังเกียจฮว๋าซื่อ แม้แต่ปลายนิ้วเขาก็ไม่อยากสัมผัสหลินชูเจิ้งยิ่งคิดยิ่งโกรธ เขากลับเข้าห้องหนังสือไปเขียนจดหมาย เรียกผู้ดูแลโจวให้ดั้นด้นเอาจดหมายไปส่งถึงจวนสกุลฮว๋ากลางดึกเขาต้องการหย่ากับฮว๋าซื่อ แต่ก็ตัดใจปล่อยท่อน้ำเลี้ยงอย่างสกุลฮว๋าไม่ลง จึงต้องใช้วิธีเจรจาต่อรองผู้ดูแลโจวสั่งคนให้ไปส่งจดหมายแล้ว เขาก็รู้สึกกระวนกระวายใจเมื่อคืนนี้เขานอนหลับสบายเป็นครั้งแรก เขาจึงคิดว่าวิญญาณร้ายตนนั้นน่าจะไปแล้ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-29
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 97

    เฟิ่งชูอิ่งเอ่ยอย่างปวดใจ “ถ้ารอให้เสียเปรียบก็สายไปแล้วน่ะสิ!”เฉี่ยวหลิง “......มีเหตุผล!”นางดูยันต์ไม่เป็น แต่หลังจากเห็นเฟิ่งชูอิ่งเขียนยันต์บ่อยๆ เข้า นางก็พอจะรู้ประเภทของแต่ละยันต์นางเป็นวิญญาณ ของพวกนั้นนางสัมผัสไม่ได้ ก็เลยช่วยอะไรไม่ได้ จึงตัดสินใจไปถูพื้นแทนจิ่งโม่เยี่ยฆ่าคนตายในห้องของนาง คราบเลือดก็เลยเลอะเต็มไปหมดหากว่าตามปกติแล้ว ห้องใครมีคนตายมากมายขนาดนี้ คงจะกลัวจนไม่กล้าอยู่กันแล้วแต่เรื่องนี้ไม่มีผลกับเฟิ่งชูอิ่ง พวกบ่าวชายที่ตายไปแล้ววิญญาณยังวนเวียนอยู่ในห้อง เฟิ่งชูอิ่งจึงบอกให้เฉี่ยวหลิงจับพวกเขามาช่วยทำความสะอาดในมุมมองของเฟิ่งชูอิ่ง การทำงานบ้านของเฉี่ยวหลิงก็เป็นเรื่องที่เหนื่อยหนักไม่น้อย มีตัวทุ่นแรงดผล่มาทั้งที จะไม่ใช้ได้อย่างไรล่ะไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ห้องนี้สกปรกเพราะพวกเขาอีกต่างหากเฉี่ยวหลิงชี้นิ้วสั่งให้พวกเขาทำความสะอาดอย่างเป็นธรรมชาติตอนแรกพวกเขาไม่เต็มใจทำ พากันบ่นนั่นบ่นนี่ เฟิ่งชูอิ่งจึงบอกว่า “เฉี่ยวหลิง ต่อยพวกเขาเลย!”พวกเขาเป็นวิญญาณที่เพิ่งตาย จะไปสู้แรงของเฉี่ยวหลิงได้อย่างไร พอถูกต่อยเข้าสักพัก พวกเขาก็พากันเชื่อฟังอย่างดี พากัน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-29

บทล่าสุด

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 981

    เฟิ่งชูอิ่งดึงเขาไว้แล้วพูดว่า “อย่ากระโดดลงไป ในแม่น้ำใต้ดินนี้มีปลากินคน ถ้าเขากระโดดลงไปแบบนี้จะต้องถูกปลากินคนกินจนไม่เหลือแม้แต่กระดูกแน่นอน”จิ่งโม่เยี่ยหันไปมองนาง คิดว่านางกำลังพูดไร้สาระ หรืออาจจะกำลังใช้เล่ห์กลทางจิตวิทยา หลอกให้จิ่งสือเยี่ยนเสียขวัญนางหัวเราะเบาๆ แล้วเดินไปที่ริมแม่น้ำ ดึงแผ่นไม้กั้นน้ำที่อยู่ริมฝั่งออกมาแผ่นหนึ่งเมื่อแผ่นไม้กั้นน้ำเปิดออก ก็มีปลาสีดำนับไม่ถ้วนพากันแหวกว่ายออกมาปลาเหล่านั้นมีลักษณะหัวโต ฟันแหลมคม ดูท่าทางดุร้ายมากจิ่งโม่เยี่ย “......”เขาอดไม่ได้ที่จะถามว่า “เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าที่นี่มีปลากินคน?”เฟิ่งชูอิ่งตอบว่า “ชิงหยวนบอกข้า”ชิงหยวนทำหน้ามึนงงแล้วพูดว่า “เอ๊ะ? ข้าบอกเจ้าหรือ? ข้าบอกเจ้าตอนไหนกัน?”“แม้แต่ตัวข้าเองก็ยังไม่รู้เลย!”เขาก้มลงมองแผนที่เส้นทางลับ แต่บนแผนที่ก็ไม่ได้บอกว่าที่นี่มีปลากินคนอยู่ด้วย!เฟิ่งชูอิ่งพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “ข้าดูแผนที่ที่เจ้าวาดอย่างละเอียด แล้วก็ศึกษาภูมิศาสตร์ของอารามเทียนอี้”“โดยพื้นฐานแล้ว ทางลับทั้งหมดและภูมิศาสตร์ของอารามเทียนอี้อยู่ในรูปแบบของสัญลักษณ์บ่อน้ำ( )”“สัญลักษณ์บ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 980

    เดิมทีจิ่งโม่เยี่ยตั้งใจจะตามไปทางเรือ แต่เมื่อขึ้นไปบนเรือแล้วก็พบว่าก้นเรือรั่ว มีคนใช้กระบี่งัดก้นเรือจนเป็นรูขนาดใหญ่เขาไปดูอีกสองลำ ปรากฏว่าเป็นแบบเดียวกันหมดเฟิ่งชูอิ่งขมวดคิ้ว “จิ่งสือเยี่ยนทำอะไรก็รอบคอบเหมือนเดิมเลย”“เขาไม่เพียงแต่รอบคอบ แต่ยังเด็ดขาดมากด้วย”เรือพัง พวกเขาก็ไม่มีทางตามไปได้อีกในใจนางนึกชื่นชม สมกับเป็นพระเอกของนิยายต้นฉบับ มีโชคทางวาสนาหนุนหลัง สถานการณ์แบบนี้ยังหนีไปได้อีก สุดยอดจริงๆจิ่งโม่เยี่ยคำนวณระยะทางในใจ “เราขวางจิ่งสือเยี่ยนไม่ได้แล้ว ครั้งนี้คงต้องสู้กันหนักแน่”เพียงแค่จิ่งสือเยี่ยนรวมพลกับกองกำลังของเขาได้ เขาก็จะมีทหารนับแสนในทันทีในสถานการณ์เช่นนี้ จิ่งโม่เยี่ยต้องเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆเขานึกถึงคำทำนายที่เฟิ่งชูอิ่งเคยทำนายให้เขา เขาคิดว่านางทำนายได้แม่นยำมากจริงๆเฟิ่งชูอิ่งกัดริมฝีปากเบาๆ “สถานการณ์แบบนี้ เราทำได้แค่หาทางขวางเขาไว้ก่อน”“ถ้ามีโอกาสฆ่าเขาก่อนจะรวมพลกับกองกำลังได้ ก็ต้องลงมืออย่างเด็ดขาด”จิ่งโม่เยี่ยก็คิดเหมือนกับนางถึงแม้ว่าตอนนี้โอกาสที่จะตามเขาไปทันจะมีน้อย แต่พวกเขาก็ต้องลองดู จะไม่ยอมแพ้แบบนี้โดยเด็ดข

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 979

    ชิงหยวนตอบว่า “ทางลับเส้นนี้เป็นความลับสุดยอดของอาราม ปกติจะไม่เปิดใช้งาน”“ข้าก็เพิ่งมาที่นี่เป็นครั้งแรก ยังไม่คุ้นเคยกับที่นี่”“ตามที่ข้าเห็นในแผนผัง น่าจะอยู่แถวนั้น”พูดจบ เขาก็ชี้ไปทางมุมหนึ่งอันที่จริงแล้วตอนอยู่ในทางลับ ทิศทางที่เขาชี้ก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรมาก เพราะมันมีทางหลักเพียงเส้นเดียวถ้ำของจิ้งจอกสือซานเหนียง เดิมทีถูกออกแบบโดยผู้ยิ่งใหญ่ของสำนักลี้ลับ มีไว้สำหรับเก็บเสบียงอาหารเพียงแต่เนื่องจากเวลาผ่านไปนาน ทางเข้าเล็กๆ แห่งนั้นก็ถูกจิ้งจอกสือซานเหนียงทำกลไกบางอย่าง ดังนั้นคนของอารามเทียนอี้จึงไม่มีใครเดินผ่านไปทางนั้นเมื่อชิงหยวนพูดเรื่องนี้ออกมา ทุกคนก็รู้สึกว่าคนของสำนักลี้ลับช่างรักตัวกลัวตายจริงๆ สร้างทางลับยังต้องทำอะไรให้ซับซ้อนยุ่งยากขนาดนี้พวกเขาเดินไปตามทิศทางที่ชิงหยวนบอก แต่ก็ไม่พบทางลับตามที่เล่าลือกัน เฟิ่งชูอิ่งมองไปที่เขา “เจ้าจำผิดหรือเปล่า”ชิงหยวนดูไม่ค่อยแน่ใจ “ไม่น่าจะผิดนะ”พูดจบ เขาก็ดึงปิ่นไม้บนหัวออกมาแล้ววาดแผนที่ทางลับลงบนพื้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็วาดทางแยกในตำแหน่งที่สอดคล้องกันเขายังไม่ได้วาดทางแยกเสร็จ ก็วาดสถานที่ที่ทาง

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 978

    เฟิ่งชูอิ่งมองจิ้งจอกสือซานเหนียงด้วยหางตาแล้วตอบว่า “เรื่องของผู้ชายข้า เจ้าไม่ต้องมายุ่ง”“ถ้าเจ้ายังคิดจะยุ่งกับเขาอีก ข้าไม่รังเกียจที่จะส่งยันต์ปัญจอัสนีบาตให้เจ้าอีกสักแผ่น”จิ้งจอกสือซานเหนียง “......”ในขณะนี้ นางรู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงความแตกต่างระหว่างเฟิ่งชูอิ่งกับเฟิ่งชิงหลิงผู้เป็นมารดาของนางตอนที่เฟิ่งชิงหลิงอยู่กับเหมยตงยวน ทั้งสองต่างระแวงและไม่เชื่อใจกันทุกครั้งที่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น เฟิ่งชิงหลิงแทบจะไม่เชื่อใจเหมยตงยวนเลยซึ่งเหมยตงยวนก็ทำร้ายเฟิ่งชิงหลิงจนบาดแผลมันฝังลึกเกินจะแก้ทั้งสองต่างไม่เชื่อใจกันตั้งแต่แรกเพราะความไม่เชื่อใจ จึงทำให้เมื่อเจอเรื่องอะไรก็จะคอยรแวงกันและกันนางมองเฟิ่งชูอิ่งแล้วพูดว่า “สำหรับเจ้าแล้ว จิ่งโม่เยี่ยดีขนาดนั้นเลยหรือ?”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มแล้วบอกว่า “ไม่ใช่เรื่องดีหรือไม่ดี แต่เขาเป็นคนของข้า ข้าไม่ยอมให้ใครมายุ่งกับเขา”นางกับจิ่งโม่เยี่ยผ่านเรื่องราวมามากมาย จึงมีความเชื่อใจให้กันอย่างลึกซึ้งจิ่งโม่เยี่ยยืนอยู่ข้างหลังนาง มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย ดวงตาเต็มไปด้วยรอยยิ้มเขาชอบเวลาที่นางปกป้องเขาจิ้งจอกสือซานเหนียงแค่นเสี

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 977

    “คุณหนูเดิมทีเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์ผู้สูงศักดิ์แห่งแคว้นซีฉู่ ควรได้รับความเคารพนับถือและมีชีวิตที่มีความสุขไปตลอดชีวิต”“เพราะได้พบกับเขา นางถึงต้องเจอกับความเจ็บปวดมากมายขนาดนี้ แถมยังต้องเสียชีวิตอีก!”“เหมยตงยวนไอ้สารเลวนั่น ถึงจะเป็นพ่อแท้ๆ ของเจ้า แต่มันก็ไม่คู่ควรจะเป็นพ่อของเจ้าสักนิด!”พอได้ยินแบบนี้ เฟิ่งชูอิ่งก็รู้ทันทีว่าจิ้งจอกสือซานเหนียงเกลียดเหมยตงยวนเข้ากระดูกดำนางพูดเบาๆ ว่า “ระหว่างพ่อกับแม่ของข้ามีความเข้าใจผิดกันหลายอย่าง…”“ไม่ใช่ความเข้าใจผิด!” จิ้งจอกสือซานเหนียงขัดจังหวะนางแล้วพูดว่า “เหมยตงยวนคงบอกเจ้าว่าเรื่องระหว่างเขากับคุณหนูเป็นเรื่องเข้าใจผิดสินะ?”เฟิ่งชูอิ่งยังไม่ทันได้ตอบ จิ้งจอกสือซานเหนียงก็ด่าต่อว่า “คนแบบมันนี่หน้าด้านที่สุดเลย!”“คุณหนูทุ่มเททุกอย่างให้กับมัน แต่มันกลับเอาแต่หลอกใช้คุณหนู”“มันปล่อยให้เจ้าอารามคนเก่าและเหล่าผู้อาวุโสของสำนักลี้ลับรังแกคุณหนู แล้วยังแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นอีก”“คุณหนูต้องเจอกับความทุกข์ยากลำบากมากมายเพราะมัน แต่มันก็ยังกล้าทำร้ายคุณหนูอีก!”“ถ้าเรื่องพวกนี้เรียกว่าเรื่องเข้าใจผิด งั้นมันก็เป็นไอ้สารเลวแล้ว!

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 976

    เฟิ่งชูอิ่งมองนางแล้วพูดว่า “ในใจเจ้ามีคำตอบอยู่แล้ว จะถามให้มันได้อะไรขึ้นมาล่ะ”จิ้งจอกสือซานเหนียงถอนหายใจยาวแล้วเอ่ยว่า “เจ้าพูดถูก เจ้ากับคุณหนูหน้าตาเหมือนกันขนาดนี้ เจ้าต้องเป็นลูกของคุณหนูอยู่แล้วล่ะ”“ถ้าคุณหนูรู้ว่าเจ้าไม่เพียงแต่รอดชีวิตมาได้ แถมยังมีชีวิตที่ดีเช่นนี้ นางต้องดีใจมากแน่ๆ”อารมณ์ของนางค่อยๆ สงบลง สมองก็เริ่มกลับมาประมวลผลได้นางมองจิ่งโม่เยี่ยแล้วพูดว่า “เมื่อครู่นี้เจ้าบอกว่าเขาเป็นสามีของเจ้า งั้นเจ้าก็คือเฟิ่งชูอิ่งงั้นหรือ”เฟิ่งชูอิ่งมองนางด้วยความไม่เข้าใจแล้วพูดว่า “ตอนที่เจ้าอยู่ข้างกายท่านแม่ข้า ข้าก็เกิดออกมาแล้ว เจ้าไม่รู้จักชื่อข้าหรือ?”จิ้งจอกสือซานเหนียงตอบว่า “ตอนคุณหนูคลอดเจ้า นางคลอดยากมาก นางใช้แรงทั้งหมดที่มีเพื่อคลอดเจ้าออกมา”“คุณหนูบอกว่าตอนเจ้าเกิดมา ทั้งแม่และลูกต่างก็เดินอยู่บนเส้นแบ่งระหว่างความเป็นและความตาย นางไม่ได้ต้องการอะไรจากเจ้า ขอแค่เจ้าปลอดภัยและมีสุขภาพแข็งแรงก็พอ”“ดังนั้นนางจึงตั้งชื่อเล่นให้เจ้าว่าผิงอัน ปกติพวกเราจะเรียกเจ้าว่าอันอัน”เฟิ่งชูอิ่งได้ยินคำพูดนี้ก็รู้สึกสะเทือนใจ เพราะเรื่องนี้เหมยตงยวนไม่เคยรู้

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 975

    ฝีมือของเฟิ่งชูอิ่งไม่ได้ร้ายกาจอะไรนัก แต่นางมียันต์มากมายยันต์พวกนี้คือสิ่งที่จิ้งจอกสือซานเหนียงแพ้ทางมากเสียด้วยเมื่อจิ้งจอกสือซานเหนียงสัมผัสตัวนาง ก็เจอยันต์แผ่นหนึ่งปรากฏออกมา ฉีดพ่นน้ำใส่ตาของจิ้งจอกสือซานเหนียงทันทีจิ้งจอกสือซานเหนียงรีบหลบอย่างทุลักทุเล พอแตะอีกทีก็เจอยันต์อสนี ฟาดใส่ร่างจนนางร้องเสียงหลงนางโกรธจัด “เจ้าเป็นใคร? ทำไมมียันต์เยอะขนาดนี้?”เฟิ่งชูอิ่งพูดเสียงต่ำ “ยันต์พวกนี้สร้างมาเพื่อจัดการเจ้าโดยเฉพาะ มีไว้สั่งสอนปีศาจอย่างเจ้า”“กว่าเจ้าจะบำเพ็ญเพียรสำเร็จได้นั้นยากลำบาก แต่กลับไปยุ่งเกี่ยวกับพวกไสยเวทอย่างเทียนซือ แล้วยังดูดพลังจากผู้ชายอีก”“เจ้าจะเดินไปในทางที่ผิดแบบนี้หรือ? ถ้าท่านแม่ยังอยู่คงจะต้องโกรธเจ้ามากแน่ๆ!”จิ้งจอกสือซานเหนียงได้ยินก็ตกใจเล็กน้อย เอ่ยถามว่า “เจ้าเป็นใครกันแน่?”เฟิ่งชูอิ่งไม่พูดอะไร จับนางเหวี่ยงลงพื้นแล้วรัวหมัดใส่ไม่ยั้งจิ้งจอกสือซานเหนียง “……”นางสงสัยว่าเฟิ่งชูอิ่งจงใจพูดแบบนั้นเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของนาง แล้วค่อยซ้อมนางนางโกรธจัดอยากจะโต้ตอบกลับ แต่เฟิ่งชูอิ่งกลับจุดยันต์ไฟขึ้นมาเมื่อแสงไฟสว่างปรากฏขึ้น

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 974

    เมื่อได้ยินเสียงนั้นเฟิ่งชูอิ่งก็หรี่ตาลงเล็กน้อย ภายในอารามเทียนอี้มีแต่ผู้ชาย หากมีเสียงผู้หญิงดังขึ้นมาได้ แสดงว่าต้องเป็นคนนอกอย่างแน่นอนนางและจิ่งโม่เยี่ยสบตากัน แล้วรีบสาวเท้าตรงไปยังที่มาของเสียงทันทีแต่พวกเขาเพิ่งจะวิ่งได้ไม่ไกล ก็เห็นศิษย์ของอารามเทียนอี้คนหนึ่งวิ่งสวนกลับมาทางพวกเขาทางเดินลับนั้นค่อนข้างแคบ เมื่อพวกเขาเผชิญหน้ากันเกือบจะชนกันอย่างจังจิ่งโม่เยี่ยคว้าไหล่ของศิษย์ผู้นั้นไว้ได้อย่างรวดเร็ว แล้วเหวี่ยงเขาล้มลงกับพื้นชิงหยวนเห็นใบหน้าของชายคนนั้นอย่างชัดเจน และพูดอย่างประหลาดใจว่า "ศิษย์พี่ชิงเหอ ท่านมาทำอะไรที่นี่ เกิดอะไรขึ้นหรือ"ชิงเหอลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล แล้วเอื้อมมือผลักชิงหยวนไปข้างหลัง ก่อนจะวิ่งต่อไปข้างหน้าอีกครั้งจิ่งโม่เยี่ยคว้าตัวชิงหยวนไว้ ส่วนเฟิ่งชูอิ่งก็ถีบชิงเหอล้มลงกับพื้น เห็นได้ชัดว่าคนผู้นี้มีเจตนาร้าย นางจึงลงมืออย่างเด็ดขาดหลังจากถูกถีบล้ม ชิงเหอยังคงพยายามจะวิ่งหนี เฟิ่งชูอิ่งคว้าผมของเขาไว้ แล้วกระแทกศีรษะของเขาเข้ากับผนังทางเดินลับ จนเขาส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเสียงหญิงสาวที่แสนจะยั่วยวนดังขึ้นว่า "โอ้ ตรงนี้ม

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 973

    ตอนที่พวกเขากระโดดแบบกบเมื่อครู่นี้ เฟิ่งชูอิ่งมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าชิงหยวนกระโดดนำไปข้างหน้าหลายครั้ง แต่ก็ถูกเพื่อนร่วมอารามเตะกลับมาข้างหลังนั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงเป็นคนสุดท้ายที่กระโดดเสร็จชิงหยวนพูดอย่างเขินอายเล็กน้อยว่า "นั่นเป็นเพราะข้าเป็นศิษย์ที่อายุน้อยที่สุดในอาราม"เฟิ่งชูอิ่งถามว่า "เป็นเพราะเจ้าอายุน้อยที่สุด แต่กลับคิดว่าตัวเองมีวิชาเก่งกล้าที่สุด ก็เลยเอาไปอวดเทียนซือสินะ?”ชิงหยวนตกใจเล็กน้อย "ท่านรู้ได้อย่างไร?"เฟิ่งชูอิ่งพูดอย่างใจเย็นว่า "ข้าคำนวณเอา"จริงๆ แล้วเรื่องแบบนี้คำนวณไม่ได้หรอก นางเดาเอาจากเนื้อเรื่องในนิยายต้นฉบับนักพรตที่ชื่อชิงหยวนคนนี้ เป็นคนที่จิตใจดีที่สุดในบรรดาคนทั้งหมดที่อยู่รอบตัวจิ่งสือเยี่ยนถึงแม้เขาจะได้รับการแต่งตั้งเป็นราชครูจากจิ่งสือเยี่ยน เพราะช่วยชีวิตจิ่งสือเยี่ยนไว้ในหนังสือต้นฉบับแต่เขาก็ไม่ได้ยโสโอหังเพราะตำแหน่งที่สูงขึ้นในทางกลับกัน เขายังคงปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างอ่อนโยน และยังเคยห้ามปรามจิ่งสือเยี่ยนไม่ให้ฆ่าคนหลายครั้งแววตาที่ชิงหยวนมองนางนั้นมีความเคารพนับถือมากขึ้น การที่มองออกได้ขนาดนี้นับว่าเก่งก

DMCA.com Protection Status