Share

บทที่ 751

Author: ดอกถังร่วงหล่น
“ไม่งั้นเรื่องนี้ข้าไม่ยอมจบแน่ นอกจากฮองเฮาจะแสดงการตีลังกากลับหัวกินอุจจาระให้ดูต่อหน้าทุกคน!”

มหาราชครู “!!!!!”

หากฮองเฮอยอมรับว่าตัวเองต่ำช้า ก็เท่ากับยอมรับว่าตัวเองไม่คู่ควรกับตำแหน่งฮองเฮา ก็เท่ากับยอมรับว่าการอบรมสั่งสอนของจวนมหาราชครูมีปัญหา

หากการอบรมสั่งสอนของจวนมหาราชครูมีปัญหา มหาราชครูก็ไม่ต่างอะไรกับคนที่ประพฤติตัวไม่เหมาะสม

มหาราชครูที่ประพฤติตัวไม่เหมาะสมจะสามารถเป็นอาจารย์ของฮ่องเต้ได้อย่างไร จะสามารถเป็นแบบอย่างที่ดีของคนทั่วทั้งใต้หล้าได้อย่างไร

เพราะฉะนั้นฮองเฮาไม่มีทางยอมรับว่าตัวเองต่ำช้าเด็ดขาด

และตอนนี้ด้วยท่าทางกัดไม่ยอมปล่อยของเฟิ่งชูอิ่ง ฮองเฮาต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่างตีลังกากลับหัวกินอุจจาระกับยอมรับว่าตัวเองต่ำช้า ไม่งั้นนางคงไม่ยอมเลิกราแน่

เฟิ่งชูอิ่งกอดอกถามฮองเฮา “ตอนนี้เจ้าจะเลือกตีลังกากลับหัวกินอุจจาระหรือยอมรับว่าตัวเองต่ำช้า เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง!”

ฮองเฮาไม่อยากเลือกสักอย่าง นางจึงเลือกที่จะเปิดเผยข่าวใหญ่แทน “พระสนมสวี่ลักลอบคบชู้!”

เดิมทีนางตั้งใจจะเกริ่นนำปูทางก่อน แต่ตราบใดที่นางเริ่มเอ่ยปูทาง เฟิ่งชูอิ่งจะต้องหาทางขัดจังหวะ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 752

    สายตาของฮองเฮาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ “หากพวกท่านไม่เชื่อเรื่องนี้ ก็สามารถหาหมอที่ไว้ใจมาตรวจชีพจรให้พระสนมสวี่ได้”“เอาตัวพระสนมสวี่เข้ามา!”คำพูดของพระนางหนักแน่นเช่นนี้ แสดงว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงเฟิ่งชูอิ่งและจิ่งโม่เยี่ยต่างก็เกลียดพระสนมสวี่ แต่พระสนมสวี่ก็เป็นพระมารดาของจิ่งโม่เยี่ยจริงๆ ดังนั้นเรื่องของพระสนมสวี่จึงเกี่ยวข้องกับจิ่งโม่เยี่ยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้พระสนมสวี่ลักลอบคบชู้ จิ่งโม่เยี่ยก็ต้องพลอยเสียหน้าไปด้วยเช่นกันนางหันไปมองจิ่งโม่เยี่ย ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา เมื่อเห็นนางมองมา เขาก็ฝืนคลี่รอยยิ้มจางๆ เหมือนจะบอกนางว่าไม่ต้องกังวลเฟิ่งชูอิ่งอยากจะบอกว่านางไม่ได้กังวลเรื่องเขา แต่เรื่องนี้ทำให้นางรู้สึกขยะแขยงไม่มากก็น้อยผู้ว่าราชการเมืองหลวงปวดหัวมาก วันนี้เขาแค่ต้องการพิจารณาคดีของเฟิ่งชูอิ่ง ไม่ได้คิดว่าจะต้องเข้าไปพัวพันกับเรื่องอื้อฉาวของราชวงศ์แต่ที่นี่คือจวนผู้ว่าราชการของเขา ต่อให้เขาอยากไปก็ไปไม่ได้เขาหันไปมองท่านเสนาบดีฝ่ายซ้าย ก่อนจะเห็นว่าท่านเสนาบดีฝ่ายซ้ายนั่งลงแล้ว และกำลังจิบชาอย่างสบายอารมณ์ผู้ว่าราชการเมืองหลวง “......”

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 753

    แต่นางก็ยิ่งเกลียดชังฮองเฮามากกว่า เป็นนางแพศยาสารเลวคนนี้ที่แย่งเอาฮ่องเต้เจาหยวนไปจากนาง ทำให้นางไม่ได้เป็นฮองเฮาอีกต่อไปนางมองไปที่ฮองเฮาแล้วพูดว่า “ข้ารู้ว่าเจ้าอยากทำอะไร แต่ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าสมหวัง! ฮ่าๆๆๆ!”ฮองเฮามองเห็นสีหน้าบ้าคลั่งของพระสนมสวี่แล้วหัวเราะเบาๆ “ข้าแค่อยากจะเปิดโปงเรื่องน่าอับอายของเจ้าให้คนอื่นรู้เท่านั้น”“หลังจากฮ่องเต้สวรรคต เจ้าควรจะต้องฝังตัวเองไปด้วย!”“ที่ยังให้เจ้ามีชีวิตอยู่ต่อ ก็เพราะว่ารัชทายาทในขณะนั้นยังเด็ก ต้องการการดูแลเอาใจใส่จากมารดา”“น่าเสียดายที่เจ้าลักลอบคบชู้ ทำเรื่องไร้ยางอายแบบนี้!”พระสนมสวี่เกลียดฮองเฮา ฮองเฮาก็เกลียดพระสนมสวี่เข้ากระดูกดำเช่นกันฮ่องเต้เจาหยวนไร้ความรู้สึก พระสนมในวังหลังไม่มีใครทำให้เขาหวั่นไหวได้เขาก็ยังปฏิบัติต่อพระสนมสวี่และพระสนมคนอื่นๆ แตกต่างกันบ้าง เขาจะเอาใจพระสนมสวี่ และหาวิธีทำให้พระสนมสวี่พอใจแล้วเขาก็ทำให้ฮองเฮาเสียหน้าหลายครั้งเพราะเรื่องของพระสนมสวี่ ซึ่งฮองเฮาก็จดจำหนี้แค้นไว้ในใจทั้งหมดพระสนมสวี่หัวเราะเสียงดัง “ใช่แล้ว เรื่องไร้ยางอายของข้า เจ้าก็ไม่ได้เพิ่งมารู้วันนี้เสียหน่อย”“ก่อ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 754

    ฮองเฮาพบว่าวันนี้พระสนมสวี่เป็นบ้าไปแล้ว นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน?พระนางกัดฟันตรัสว่า “ตอนนี้เจ้าไม่รักษาภาพลักษณ์ของสตรีผู้สูงส่งแล้ว แต่ก่อนเจ้าก็คงไม่บริสุทธิ์หรอก อ๋องผู้สำเร็จราชการคงไม่ใช่โอรสของฮ่องเต้พระองค์ก่อนกระมัง?”พระสนมสวี่ได้ยินคำนี้ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วก็เข้าใจความตั้งใจของฮองเฮาในทันทีนางหัวเราะออกมา “ใช่แล้ว จิ่งโม่เยี่ยไม่ใช่โอรสของฮ่องเต้องค์ก่อน แต่เป็นโอรสของฝ่าบาท”“ตอนที่ฮ่องเต้องค์ก่อนยังมีพระชนม์ชีพอยู่ ข้าก็มีสัมพันธ์ลับๆ กับฝ่าบาทแล้ว และให้กำเนิดจิ่งโม่เยี่ยกับฝ่าบาท”ฮองเฮา “......”ทุกคน “......”นี่เป็นเรื่องที่พวกเขาควรฟังหรือ?พวกเขาคิดว่าวันนี้น่าตื่นเต้นพอแล้ว แต่ไม่คิดว่าจะมีอะไรที่น่าตื่นเต้นกว่านี้อีกเดิมทีฮองเฮาต้องการใช้เรื่องที่พระสนมสวี่ตั้งครรภ์ มาตราหน้าพระสนมสวี่ว่าเป็นหญิงสำส่อน เพื่อให้ฐานะของจิ่งโม่เยี่ยมีปัญหาเขาจะไม่สามารถใช้อำนาจในฐานะผู้สำเร็จราชการแผ่นดินได้อีกต่อไป เพราะจะเป็นการใช้อำนาจแบบไม่ชอบธรรมแต่พระนางไม่คิดเลยว่าพระสนมสวี่จะพูดแบบนี้ถ้าจิ่งโม่เยี่ยเป็นลูกของฮ่องเต้เจาหยวนจริงๆ พระสนมสวี่คงไม่รังเกียจเขา

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 755

    ถึงแม้ว่าพระสนมสวี่จะทำอะไรสุดโต่งไปบ้าง บางครั้งก็เหมือนคนบ้า แต่สมองกลับดีกว่าฮองเฮาสีหน้าของฮองเฮาค่อนข้างดูไม่ดี พระสนมสวี่พูดเรื่องนี้ออกมาต่อหน้าคนมากมาย ก็เหมือนกับตบหน้านางฮองเฮาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เจ้าไม่ซื่อสัตย์ก่อน เรื่องที่เจ้าพูดตอนนี้เชื่อถือไม่ได้แม้แต่น้อย!”พระสนมสวี่มองนางแล้วพูดว่า “คำพูดของข้าเชื่อถือไม่ได้? แล้วของเจ้าล่ะเชื่อถือได้หรือ?”“เพียงเพราะเจ้าเป็นฮองเฮาอย่างนั้นหรือ? ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น เจ้าทำเรื่องน่าอับอายมามากแค่ไหนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จำเป็นต้องแจกแจงออกมาทีละเรื่องเลยไหม?”ฮองเฮา “!!!!!”นางกับพระสนมสวี่ต่อสู้กันมาหลายปี ทั้งสองต่างรู้ความลับของกันและกันมากมายพวกนางเคยใช้ความลับเหล่านี้โจมตีกันและกัน และเคยใช้ความลับเหล่านี้หลอกให้อีกฝ่ายตกหลุมพราง ทำร้ายผู้บริสุทธิ์มากมายถ้าจะพูดว่าใครรู้จักพวกนางมากที่สุดในโลกนี้ แน่นอนว่าคือพวกนางเองฮองเฮากัดฟันแน่นแล้วพูดว่า “หุบปาก!”พระสนมสวี่หัวเราะเสียงดัง “ทำไม? เจ้ากลัวแล้วหรือ?”“เจ้ากลัวก็ถูกแล้ว! สิบสามตายไปแล้ว ข้าไม่มีอะไรต้องห่วงอีกแล้วในโลกฝลนี้ เจ้าคิดว่าข้าจะกลัวเจ้าหรื

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 756

    เมื่อมหาราชครูได้ยินบทสนทนาระหว่างฮองเฮากับเฟิ่งชูอิ่ง เขาก็ขมวดคิ้วแน่นทันที เพราะฮองเฮาแทบจะตกเป็นรองเฟิ่งชูอิ่งอยู่ตลอดถ้าเขาไม่เข้าไปแทรกแซง ฮองเฮาต้องแพ้แน่ทันใดนั้น เขาก็เอ่ยเสียงเข้มว่า “พระสนมสวี่เป็นฮองเฮาของฮ่องเต้พระองค์ก่อน นางประพฤติผิดในกาม ลักลอบมีชู้แล้วยังแอบตั้งครรภ์ นี่ถือเป็นการไม่เคารพต่อฮ่องเต้พระองค์ก่อน”“เพื่อรักษาเกียรติของราชวงศ์ จับพระสนมสวี่ไปประหารเดี๋ยวนี้!”ทันทีที่เขาพูดจบ ก็มีทหารวิ่งเข้าหาพระสนมสวี่แต่ยังไม่ทันได้เข้าใกล้ ก็ถูกทหารของจิ่งโม่เยี่ยขวางไว้ทั้งสองฝ่ายชักกระบี่ออกมา บรรยากาศตึงเครียดขึ้นในทันทีผู้ว่าราชการแทบจะตกใจตาย รีบเข้ามาไกล่เกลี่ย “ท่านอ๋อง ท่านมหาราชครู ใกล้วันปีใหม่แล้ว มีอะไรก็ค่อยๆ พูดกันเถอะ”“กระบี่ไม่มีตา อย่าให้เกิดการบาดเจ็บเลย”มหาราชครูมองไปที่จิ่งโม่เยี่ยแล้วถามว่า “ท่านอ๋องจะปกป้องหญิงแพศยานี่หรือ?”จิ่งโม่เยี่ยพูดอย่างใจเย็นว่า “ตามกฎหมายของราชวงศ์เรา หากมีผู้ใดล่วงประเวณี ทั้งชายและหญิงจะต้องได้รับโทษเท่าเทียมกัน”“เมื่อครู่พระสนมสวี่บอกว่าชู้ของนางคือฮ่องเต้เจาหยวน ท่านมหาราชครูอยากประหารทั้งชายและหญิ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 757

    ไม่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกคู่นี้จะเลวร้ายเพียงใด ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่าพวกเขาเป็นแม่ลูกกันได้เสนาบดีฝ่ายซ้ายที่เงียบอยู่นาน เอ่ยถามอย่างใจเย็นว่า “ขอถามพระสนมสวี่ สิ่งที่ท่านเรียกว่าความลับเหล่านั้นหมายถึงอะไร”พระสนมสวี่มองเสนาบดีฝ่ายซ้าย แล้วยื่นกระดาษออกมาจากอกเสื้อ พูดเสียงดังว่า “แน่นอนว่าเป็นสิ่งเหล่านี้!”“นี่คือรายละเอียดการกระทำของตระกูลมหาราชครูที่แสวงหาผลประโยชน์ ฆ่าคน ยึดครองทรัพย์สินของประชาชน และข่มขู่ขุนนางในราชสำนักตลอดหลายปีที่ผ่านมา พร้อมทั้งหลักฐานและพยาน”เมื่อพูดถึงตรงนี้ นางก็หันมองไปที่ผู้ว่าราชการ “ข้าต้องการฟ้องมหาราชครู!”นางต่อสู้กับฮองเฮามาหลายปี ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเนื่องจากความแตกต่างทางสถานะ นางจึงถูกฮองเฮากดขี่อยู่เสมอฮองเฮามีครอบครัวที่ทรงอำนาจคอยหนุนหลัง ส่วนครอบครัวของนางถูกทำลายไปหมดแล้วเมื่อหลายปีก่อนและฮ่องเต้เจาหยวนก็เตือนนางซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าอย่าไปหาเรื่องฮองเฮา เพราะมันจะทำให้เขาลำบากใจไปด้วยในตอนนั้นพระสนมสวี่รักฮ่องเต้เจาหยวนมาก จึงเชื่อฟังเขาทุกอย่างแต่นางก็ยังแค้นใจ จึงแอบรวบรวมหลักฐานของมหาราชครูอยู่เงียบๆนางมี

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 758

    สีหน้าของเฟิ่งชูอิ่งก็เปลี่ยนไปเช่นกัน หากเขาจะปิดเมือง ตอนนี้นางจะกลับออกไปได้อย่างไร?ในใจนางรู้สึกสงสัยเล็กน้อยว่าการตัดสินใจของจิ่งโม่เยี่ยเป็นเพราะเรื่องส่วนตัว หรือเพราะคำฟ้องนั้นมีอานุภาพร้ายแรงกันแน่?เดิมทีนางก็อยู่ข้างๆ เขาอยู่แล้ว ตอนนี้ก็เลยขยับเข้าไปใกล้เขามากขึ้นอีกหน่อย เหลือบมองเนื้อหาข้างบนเอกสาร จากนั้นนางก็ขยับไปยืนด้านข้างเหมือนเดิมเอาเถอะ ช่วงเวลานี้เขาปิดเมืองตรวจสอบ ถือว่าจำเป็นอย่างยิ่งเพียงแต่นางแย่แล้วล่ะ ตอนนี้แม้แต่ออกไปข้างนอกก็ออกไปไม่ได้มหาราชครูและฮองเฮาเห็นปฏิกิริยาเช่นนี้ สีหน้าก็เปลี่ยนไปมหาราชครูกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า “พระสนมสวี่เพ้อเจ้อ นางไม่ถูกกับฮองเฮามาโดยตลอด เกรงว่าจะใส่ร้ายป้ายสี!”แม้เขาจะพูดเช่นนี้ แต่ในใจกลับไม่มั่นใจนักเพราะเขารู้ดีว่าตลอดหลายปีมานี้ เขาได้ทำอะไรลงไปบ้างเขาก็ไม่รู้ว่าคำฟ้องของพระสนมสวี่เขียนอะไรไว้เขาอยากจะแย่งคำฟ้องนั้นมา แต่คำฟ้องอยู่ในมือของจิ่งโม่เยี่ย เขาไม่คิดว่าตนเองจะมีความสามารถเช่นนั้นจิ่งโม่เยี่ยกล่าวกับมหาราชครูว่า “ใส่ร้ายป้ายสีหรือไม่ ตรวจสอบดูก็รู้”“ข้าให้ความเคารพมหาราชครูมาโดยตลอ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 759

    ฮองเฮาอยากจะกลับไปฉีกหน้าพระสนมสวี่ใจจะขาด แต่ตอนนี้ทำอะไรไม่ได้พระสนมสวี่เห็นท่าทางฮองเฮาก็หัวเราะชอบใจ คิดว่าจิ่งโม่เยี่ยก็ยังพอมีประโยชน์อยู่บ้างหลังจากฮองเฮาและมหาราชครูเดินไปไกลแล้ว พระสนมสวี่ก็พูดกับจิ่งโม่เยี่ยว่า "ถ้าเจ้าฆ่าเฟิ่งชูอิ่งนังตัวร้ายนี่ได้ ต่อไปข้าก็ยังเป็นแม่ของเจ้าเหมือนเดิม"จิ่งโม่เยี่ยได้ยินก็หัวเราะ "เจ้ากล้าพูดแบบนี้กับข้าได้อย่างไร?""ตอนข้ายังเด็ก เจ้าพูดแบบนี้อาจจะทำให้ข้าหวั่นไหวได้บ้าง แต่ตอนนี้ข้าฟังแล้วรู้สึกขำมากกว่า"พระสนมสวี่มองไปที่จิ่งโม่เยี่ย เขาไม่ใช่เด็กน้อยที่ค่อยแต่จ้องมองนางอย่างที่นางจำได้อีกต่อไปแล้วตอนนี้เขาเติบโตเป็นหนุ่มรูปงามสง่านี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่นางได้มองจิ่งโม่เยี่ยอย่างจริงจัง และเพิ่งสังเกตว่าเขามีเค้าโครงหน้าเหมือนฮ่องเต้องค์ก่อนมากขึ้นแต่จิตวิญญาณในดวงตากลับคล้ายนางอยู่บ้าง ทำให้ดูมีอารมณ์ความรู้สึกที่ลึกซึ้งอยู่บ้างนางเพิ่งค้นพบว่าจิ่งโม่เยี่ยไม่เพียงแต่สุขภาพแข็งแรงกว่าองค์ชายสิบสามเท่านั้น แต่ความสามารถและรูปร่างหน้าตาก็ดีกว่ามากด้วยไม่ว่าจะด้านไหน จิ่งโม่เยี่ยก็เหนือกว่าองค์ชายสิบสามอยู่มากนางรู

Latest chapter

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 997

    เฟิ่งชูอิ่งพูดต่อว่า “แต่ตอนนี้ข้าไม่เหลือทั้งบิดามารดาแล้ว เจ้าห้ามรังแกข้าเชียวนะ!”จิ่งโม่เยี่ยยกมือสาบานต่อฟ้าทันที “หากข้าทำไม่ดีกับเจ้าในภายภาคหน้า ขอให้สวรรค์ลงทัณฑ์ส่งฟ้ามาผ่าให้ตาย!”เฟิ่งชูอิ่งหัวเราะ “เรื่องฟ้าผ่าไม่ต้องถึงมือสวรรค์หรอก ข้าก็ทำได้”จิ่งโม่เยี่ย “......”เขาเกือบลืมไปแล้วว่านางวาดยันต์ได้เก่งมาก ตราบใดที่นางต้องการ ใช้ฟ้าผ่าเขาก็ไม่ใช่เรื่องยากเฟิ่งชูอิ่งเห็นท่าทางของเขาก็แอบหัวเราะเบาๆ เอื้อมมือไปกอดแล้วซุกศีรษะพิงอกเขา กล่าวว่า “ข้าเชื่อใจท่าน”“ตอนนี้เราทั้งสองล้วนไม่มีพ่อแม่แล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่ก็มีเพียงกันและกัน”“ต่อไปข้าจะดูแลเจ้าอย่างเต็มที่ จะไม่ระแวงเจ้าอีก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าจะเชื่อใจเจ้า”หัวใจที่ตึงเครียดของจิ่งโม่เยี่ยก็ผ่อนคลายลงในทันทีเขากอดนางตอบ “กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าการตัดสินใจของเจ้าถูกต้อง”เขาโน้มตัวลงจูบหน้าผากนางเบาๆ เอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “ข้าจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อรักเจ้า”เมื่อเฟิ่งชูอิ่งได้ยินคำพูดนี้ หัวใจก็สั่นไหว นางช้อนตามองขึ้นไปที่เขา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนนางรู้ว่าคำพูดของเขาในตอนนี้ล้วนมาจ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 996

    ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้ฐานะของจิ้งจอกสือซานเหนียง แต่ตอนนี้เขาพอจะเข้าใจได้หลังจากได้ยินบทสนทนาระหว่างจิ้งจอกสือซานเหนียงและเฟิ่งชูอิ่งจิ้งจอกสือซานเหนียงเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของเขาก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากไปเฟิ่งชูอิ่งถามว่า “เจ้าจะไปไหน? ข้ายังมีเรื่องอยากจะถามเจ้าอีกมาก”จิ้งจอกสือซานเหนียงตอบว่า “ข้าจะไปหาที่ขับไล่พลังชั่วร้ายออกจากร่างกาย พอขับไล่เสร็จแล้วข้าจะกลับมาหาเจ้า”ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางฝึกฝนวิชาสายชั่วร้ายมากมาย ทำให้พลังชั่วร้ายในร่างกายมีมากเกินไป หากอยู่ใกล้ใครนานๆ จะมีผลกระทบต่อคนรอบข้างเฟิ่งชูอิ่งจึงเตือนนางว่า “เจ้าอย่าผิดคำพูดล่ะ ข้าจะรอเจ้ากลับมา!”จิ้งจอกสือซานเหนียงโบกมือแล้วบอกว่า “วางใจเถอะ ข้าจะกลับมาแน่นอน”หลังจากนางเดินออกไปไกลแล้ว เฟิ่งชูอิ่งก็ถอนหายใจยาวๆ และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากแยกทางกันให้จิ่งโม่เยี่ยฟังหลังจากที่จิ่งโม่เยี่ยได้ยินเรื่องของเหมยตงยวน เขาก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เพราะรักถลำลึกจึงไม่ยืนยาว เรื่องระหว่างท่านพ่อกับท่านแม่ช่างน่าเศร้า”เฟิ่งชูอิ่งกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ดังนั้นการสื่อสารจึงสำคัญ ต่อไปไม่ว่าจะมี

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 995

    สิ้นเสียงของนาง สายฟ้าก็ฟาดลงมาอีกครั้ง ทำให้พลังที่พุ่งพล่านของเขาสลายไปจิ่งสือเยี่ยน “!!!!!!!!”หลังจากถูกอสนีบาตฟาดใส่อย่างต่อเนื่องห้าครั้ง ร่างวิญญาณของเขาก็จางลงอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่ตายเฟิ่งชูอิ่งถึงกับตกใจ ชีวิตของจิ่งสือเยี่ยนช่างแข็งแกร่งเสียจริง!นางอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาจะกลายเป็นเทียนซือคนที่สอง และจะกลายเป็นภัยพิบัติในอนาคตนางกำลังจะม้วนแขนเสื้อขึ้นเพื่อเสกยันต์ใส่จิ่งสือเยี่ยนอีกครั้ง แต่กลับมีเงาร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาแล้วกลืนเขาเข้าไปทั้งตัวเฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”จิ้งจอกสือซานเหนียงเรอออกมาคำโตแล้วบอกว่า “เขาเป็นอาหารที่ข้าหมายตาไว้แต่แรก”“การปล่อยให้อาหารหลุดมือไป เป็นเรื่องที่ไม่อาจให้อภัยได้”เฟิ่งชูอิ่ง “......”นางเคยจินตนาการถึงความตายของจิ่งสือเยี่ยนไว้หลายแบบ แต่ไม่มีฉากจบแบบนี้อยู่เลยนางได้คงบอกได้แค่ว่าจิ้งจอกสือซานเหนียงเจ๋งสุดยอด!ขณะเดียวกันนั้นจิ่งโม่เยี่ยก็เดินเข้ามา เขาจ้องมองจิ้งจอกสือซานเหนียงด้วยความระแวดระวัง มือจับกระบี่เอาไว้ เตรียมพร้อมที่จะฟันจิ้งจอกสือซานเหนียงได้ทุกเมื่อเฟิ่งชูอิ่งบีบมือเขาเบาๆ ให้เขาผ่อนคลายจิ้งจอก

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 994

    แต่ทว่าคันธนูของจิ่งสือเยี่ยนเพิ่งจะยกขึ้นมา ก็มีลูกธนูที่เร็วกว่าพุ่งทะลุหัวใจของเขาในทันทีจิ่งสือเยี่ยนมองลูกธนูที่ปักอยู่บนอกด้วยความไม่อยากเชื่อ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองและเห็นดวงตาที่เย็นชาของจิ่งโม่เยี่ยเมื่อครู่นี้พวกเขาทั้งสองยังมีระยะห่างต่อกันอยู่แท้ๆ และตำแหน่งที่เขาหลบอยู่ก็เป็นมุมอับที่จิ่งโม่เยี่ยยิงมาไม่ถึงทว่าเพียงแค่อึดใจเดียว จิ่งโม่เยี่ยก็ปรับตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วและยิงธนูทะลุหัวใจเขาได้ในนัดเดียวในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนกับจิ่งโม่เยี่ยไม่ได้อยู่ห่างกันมากนัก แต่ถ้าพูดคุยกันตามปกติก็คงไม่ได้ยินทว่าในเวลาเช่นนี้ จิ่งสือเยี่ยนกลับได้ยินเสียงของจิ่งโม่เยี่ย “คนที่กล้าทำร้ายชูอิ่งต้องตาย!”ก่อนหน้านี้จิ่งสือเยี่ยนคิดแค่ว่าจิ่งโม่เยี่ยดีต่อเฟิ่งชูอิ่งมาก ทว่าตอนนี้เขาเพิ่งได้รู้ซึ้งเรื่องบางอย่างเฟิ่งชูอิ่งไม่ใช่แค่จุดอ่อนของจิ่งโม่เยี่ย แต่เป็นทั้งชีวิตของเขาแต่มาเข้าใจเอาป่านนี้ก็สายไปแล้วในตอนนี้เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนคว่ำอยู่บนพื้นหิมะ นางได้ยินเสียงวัตถุแหวกอากาศจึงหันไปมอง และเห็นภาพของจิ่งสือเยี่ยนล้มลงกับพื้นในเวลานี้ เฟิ่งชูอิ่งก็เข้าใจใด้ทันทีว่าในโลกน

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 993

    ในเมื่อเขาไม่ได้ราชบัลลังก์และเฟิ่งชูอิ่งมาครอบครอง ราชบัลลังก์เขาอาจจะทำลายไม่ได้ แต่เฟิ่งชูอิ่งแค่คนเดียวเขาทำลายได้แน่นอนองครักษ์สองคนของเขารีบเปลี่ยนมาง้างคันธนูเล็งไปที่เฟิ่งชูอิ่ง ทว่าลูกธนูยังไม่ทันได้ยิงออกไป ก็ถูกบางสิ่งบางอย่างปัดออกไปอีกครั้งในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนก็พลันเข้าใจบางอย่างขึ้นมาทันทีตลอดทางที่ผ่านมา วิญญาณร้ายของเฟิ่งชูอิ่งถึงจะมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ลงมือ นั่นก็น่าจะมีเหตุผลที่ลงมือไม่ได้วิญญาณร้ายโจมตีองครักษ์ของเขา แต่กลับไม่โจมตีเขา นั่นก็หมายความว่าวิญญาณร้ายเหล่านั้นโจมตีเขาไม่ได้เขานึกถึงข่าวลือที่เคยได้ยินมาว่า พลังมังกรของผู้เป็นฮ่องเต้เป็นสิ่งที่ปราบภูตผีปีศาจได้วิญญาณร้ายไม่โจมตีเขา นั่นแสดงว่าวิญญาณร้ายทำอะไรเขาไม่ได้ แปลว่าเขามีพลังมังกรอยู่ในตัว?ความคิดนี้ทำให้จิตใจเขาฮึกเหิมขึ้นมาทันที เขารีบหยิบธนูของตัวเองขึ้นมา อดทนต่อความเจ็บปวดจากบาดแผลแล้วยิงธนูไปที่หลังของเฟิ่งชูอิ่งเฉี่ยวหลิงเห็นภาพนี้ก็ตกใจ รีบยื่นมือออกไปเพื่อจะรับลูกธนูนั้นทว่าลูกธนูนั้นเปื้อนเลือดของจิ่งสือเยี่ยน เลือดนั้นเป็นอันตรายต่อวิญญาณร้ายอย่างมาก มือของนางแค่เพียงสัมผ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 992

    หิมะยังคงโปรยปรายลงมา โลกนี้เงียบสงัด มีเพียงเสียงฝีเท้ากระทบกับพื้นหิมะดังฟุ่บฟั่บช่วงใกล้รุ่งสาง ชวีเหลียงอวี่ก็มาปรากฏตัวและเอ่ยขึ้นทันทีว่า "ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการรออยู่ข้างนอกแล้ว"เมื่อได้ยินดังนั้น เฟิ่งชูอิ่งก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยนางหันไปบอกกับจิ่งสือเยี่ยนว่า "เมื่อครู่ข้าลองคิดดูดีๆ แล้ว รู้สึกว่าที่เจ้าพูดก็มีเหตุผลอยู่บ้าง การมีชีวิตอยู่ก็ไม่เลว"จิ่งสือเยี่ยน “......”หลังจากผ่านมาทั้งคืน นางกลับปลงตกในเรื่องเช่นนี้ได้ ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจอยู่เล็กน้อยแต่การที่นางคิดได้ในตอนนี้ก็เป็นเรื่องดีเขาจึงพูดว่า "หลายสิ่งหลายอย่างทำได้ตอนมีชีวิตอยู่เท่านั้น ตายไปแล้วทำไม่ได้""ตราบใดที่เจ้าพาข้าออกจากค่ายกลแห่งนี้ ข้าจะไม่สร้างความลำบากให้เจ้าอีก”เฟิ่งชูอิ่งพยักหน้า "ก็ได้ งั้นตอนนี้ข้าจะพาเจ้าไปทำลายค่ายกล"พูดจบนางก็ควบม้านำหน้าไป จิ่งสือเยี่ยนรีบนำทหารตามไปทันทีเพียงแต่พวกเขาเดินวนเวียนอยู่ที่นี่ทั้งคืน ทั้งเหนื่อยทั้งหิว พลังจึงลดลงไปมากเฟิ่งชูอิ่งมียันต์ป้องกันความหนาวติดตัวอยู่จึงไม่รู้สึกหนาว ก่อนหน้านี้ก็นอนหลับมาตลอดทาง ทำให้รักษาพลังงานไว้ได้มากที่สุ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 991

    เขาไม่เคยเจอใครดื้อด้านเท่านางมาก่อน!เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับโทสะ เพราะตอนนี้เขาไม่สามารถตบตีหรือด่าทอนางได้ทั้งนั้นเขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เจ้าอยากไปเจียงหนานไม่ใช่หรือ? พอออกจากที่นี่ได้ ข้าจะไม่ขัดขวางเจ้า เจ้าก็จะได้ไปชมวิวทิวทัศน์เจียงหนานที่เจ้าอยากเห็น”“เจียงหนานในฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุมทั้งงดงามและน่าหลงใหล ถ้าเจ้ายังไม่เคยเห็น ต้องไปดูด้วยตาตัวเองให้ได้เลย”เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนอยู่บนพื้นไม่ยอมลุกขึ้น “ไม่ไป อากาศหนาวเกินไป เดินทางเหนื่อยเกินไป”จิ่งสือเยี่ยน “…...”ตั้งแต่วินาทีที่เขาติดกับอยู่ที่นี่ สถานะระหว่างเขากับเฟิ่งชูอิ่งก็สลับกันโดยสิ้นเชิงเพราะเขามีความทะเยอทะยาน อยากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายยิ่งเฟิ่งชูอิ่งแสดงออกว่าอยากตายมากเท่าไหร่ จิ่งสือเยี่ยนก็ยิ่งไม่ยอมให้นางตายมากขึ้นเท่านั้นดังนั้นตอนนี้นางจึงควบคุมเขาได้อย่างเบ็ดเสร็จการที่นางแสดงท่าทีไม่ยอมทำตามไม่ว่าเขาจะใช้ไม้แข็งหรือไม้อ่อนเช่นนี้ ทำให้เขาแทบเป็นบ้าจิ่งสือเยี่ยนไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าการจับตัวประกันจะน่าอึดอัดขนาดนี้เฟิ่งชูอิ่งนอนเอกเขนกอยู่ตรงนั้นอย่างสบายใจ เหตุผลก็ง่ายๆ นางใช้

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 990

    เฟิ่งชูอิ่งยิ้มแล้วถามว่า “ทางที่ข้าชี้นำ เจ้ากล้าเดินตามหรือ?”เมื่อมาถึงตอนนี้แล้ว นางก็คร้านจะเสแสร้งต่อไปสีหน้าของจิ่งสือเยี่ยนแข็งค้างไปครู่หนึ่ง นางพูดอย่างเฉื่อยชาว่า “เพราะพวกเจ้าติดอยู่ที่นี่ คงรู้สึกหนาวเหน็บและหวาดกลัว”“เจ้าบาดเจ็บ ในสภาพอากาศหนาวเย็นเช่นนี้ แผลของเจ้าจะยิ่งทรุดหนัก”“เจ้ารีบร้อนมารวบรวมกำลังพลของกองกำลังอวี๋ซาน เจ้าคงไม่ได้พกอาหารมาด้วยมากนัก ดังนั้นตอนนี้พวกเจ้าคงหิวมากแล้ว”“ในสถานการณ์เช่นนี้ แค่ข้ากักขังพวกเจ้าไว้ที่นี่ ต่อให้ไม่หนาวตาย พวกเจ้าก็คงอดตายอยู่ดี”ขณะนี้หิมะขาวโพลนโปรยปรายไปทั่ว อากาศหนาวเหน็บ สภาพอากาศเช่นนี้คงจะดำเนินต่อไปเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนเป็นอย่างที่เฟิ่งชูอิ่งบอก พวกเขาเดินทางมาที่นี่โดยไม่ได้พกเสบียงอาหารแห้งหรืออะไรทำนองนั้นมาด้วยเลยด้วยเหตุนี้ตอนที่พวกเขาเดินวนจนครบรอบที่สาม เสบียงอาหารก็หมดลงตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว หลังจากตกกลางคืน อากาศจะยิ่งหนาวเย็นลง พวกเขาจะยิ่งลำบากมากขึ้นจิ่งสือเยี่ยนชักกระบี่ยาวออกมา “เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถบั่นคอเจ้าด้วยกระบี่เล่มนี้ได้!”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มหวานแล้วเอ่ยว่า “เอาเลย ฆ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 989

    เขาคลี่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ได้”หลังจากฆ่าจิ่งโม่เยี่ยแล้ว จะปล่อยนางไปหรือไม่ เรื่องนี้เขาจะเป็นคนตัดสินใจนางเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขารู้สึกชอบจริงๆ และนางก็เป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขารู้จักกับความล้มเหลวเขารู้ว่านางมีวิธีการบางอย่างที่คนทั่วไปไม่มี ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าประมาท เขาจะป้อนยาที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงให้นางกินทุกวันเฟิ่งชูอิ่งรู้ทันความคิดของเขา และยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดีขณะที่ในใจของนางกำลังครุ่นคิด ครั้งที่แล้วโดนไปขนาดนั้นยังรอดมาได้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องหาโอกาสฆ่าเขาให้ตายสนิทแบบไม่มีสิทธิ์ฟื้นขึ้นมาอีกนางพลันนึกถึงเรื่องที่เหมยตงยวนวิญญาณแหลกสลายหลังจากรู้ข่าวการตายของเฟิ่งชิงหลิง จิตใจนางจึงหม่นหมองตามไปด้วยนางรู้ว่าเหมยตงยวนรักเฟิ่งชิงหลิงอย่างสุดซึ้ง แต่ไม่คิดว่านั่นจะเป็นรากฐานที่ทำให้เขามีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้เพราะนางเห็นความรักของพวกเขา นางจึงยิ่งรู้ชัดว่าตัวเองมีความรู้สึกแบบไหนต่อจิ่งโม่เยี่ยในเมื่อรักแล้ว ก็ต้องรักให้สุดหัวใจอย่าได้ทำเรื่องที่ทำให้ตัวเองเสียใจและทำให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจผิดอีกจิ่งสือเยี่ยนไม่ได้ไปตามล่าจิ่งโม่เยี่ยโดยตรง เขาวางแผนท

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status