แชร์

บทที่ 748

ผู้เขียน: ดอกถังร่วงหล่น
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-08 18:00:01
พูดจบเขาก็คำนับเฟิ่งชูอิ่งอีกครั้ง “เมื่อครู่ฮองเฮาได้ล่วงเกินพระชายา ข้าต้องขออภัยพระชายาไว้ ณ ที่นี้ด้วย”

เมื่อเขาพูดเช่นนี้ ขุนนางในจวนผู้ว่าราชการก็อดไม่ได้ที่จะคิดไปต่างๆ นาๆ

หรือว่าฮองเฮาจะทำเรื่องน่าอับอายอะไรบางอย่างไว้จริงๆ?

มิฉะนั้น ท่านมหาราชครูคงจะไม่แสดงสีหน้าเช่นนี้

ผู้ว่าราชการเมืองหลวงตัวสั่นเทา วันนี้เขารู้สึกว่าตัวเองรู้เรื่องมากเกินไปหน่อย

เขาคิดว่าตอนนี้จะหาโอกาสหนีออกจากประตูหลังของจวนผู้ว่าราชการ ไม่รู้ว่าจะยังทันหรือไม่

ด้วยฐานะของท่านมหาราชครู บัดนี้กลับยอมอ่อนข้อลงพูดจาไพเราะ และยังมองข้ามเรื่องที่นางตบฮองเฮา เฟิ่งชูอิ่งจึงไม่ถือสาเรื่องนี้อีก

นางจึงหันไปยั่วโมโหฮองเฮา “ไม่ว่าจะมีการเข้าใจผิดหรือไม่ ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่าฮองเฮาถูกเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ล่วงเกินได้”

“ให้ตายสิ ข้าไม่เข้าใจเลยสักนิด ฮองเฮาผู้แปดเปื้อนไม่บริสุทธิ์เช่นนี้ ยังมีหน้ามาเป็นฮองเฮาต่อไปได้อย่างไร”

ฮองเฮากำมือแน่น พูดด้วยน้ำเย็นเยียบ “เรื่องของข้า ย่อมมีฝ่าบาทเป็นผู้ตัดสิน ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าจะมาชี้นิ้วสั่งสอนได้!”

เฟิ่งชูอิ่งเม้มริมฝีปาก อมยิ้มบางๆ “ฮองเฮาพูดถูก ฝ่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 749

    ท่านมหาราชครูยกมือกุมขมับ ฮองเฮาเป็นคนสุขุมเยือกเย็น ปกติแล้วไม่มีทางที่จะยอมรับการเดิมพันเรื่องแบบนี้เพียงแต่ว่าวันนี้เมื่อฮองเฮาเสด็จมา เฟิ่งชูอิ่งลงมือทำร้ายพระนางก่อนแล้วยังด่าทอซ้ำอีก ทำให้อารมณ์ของพระนางเดือดดาลจนขาดสติยั้งคิดในเวลานี้ฮองเฮาคงคิดว่าจับผิดเฟิ่งชูอิ่งได้ จึงรีบตอบรับอย่างใจร้อน จนตกลงไปในหลุมพรางของเฟิ่งชูอิ่งเฟิ่งชูอิ่งยิ้มหวานกล่าวว่า “เอาล่ะ งั้นต่อไปเชิญทุกท่านรับชมการแสดง ฮองเฮาตีลังกากลับหัวกินอุจจาระได้เลย ควรมีเสียงปรบมือต้อนรับสักหน่อยนะ!”หลังจากพูดจบ นางก็ปรบมือพลางเปิดเนตรทิพย์ให้ฮองเฮาเดิมทีฮองเฮายังอยากจะเยาะเย้ยเฟิ่งชูอิ่งอีกสองสามคำ แต่เพียงพริบตาเดียว นางก็มองเห็นจิ่งสือเฟิงที่กำลังเดินวนเวียนอยู่รอบตัวนางนางตกใจถอยหลังไปก้าวใหญ่ ร้องด้วยความตกใจว่า “เฟิงเอ๋อร์?”จิ่งสือเฟิงเห็นว่าฮองเฮามองเห็นเขาได้แล้ว จึงรีบพูดว่า “เสด็จแม่ ข้าอยู่ตรงนี้ตลอดเลย!”“ทำอย่างไรท่านถึงยอมรับได้ ท่านอาจจะยังไม่รู้ เฟิ่งชูอิ่งเป็นผู้มีวิชาอาคมสูงส่ง การเรียกวิญญาณเป็นเรื่องง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปากสำหรับนาง”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มหวานและกล่าวว่า “ใช่ที่ไหนกัน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-09
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 750

    แววตาที่เปี่ยมไปด้วยความหวังของจิ่งสือเฟิงพลันมืดมนลงในทันทีหากถามว่าในโลกนี้เขาห่วงใยใครมากที่สุด คำตอบก็คือพระมารดาเขาคิดว่าเขากับพระมารดามีความผูกพันลึกซึ้ง พระมารดาต้องดีใจมากแน่ๆ ที่ได้เห็นหน้าเขาอีกครั้งทว่าในตอนนี้ เมื่อได้ยินคำพูดและเห็นสีหน้าของพระมารดา เขาก็รู้ตัวว่าตนเองคิดผิดก่อนหน้านี้เขาเคยได้ยินคนพูดว่าราชวงศ์ไม่มีเยื่อใยต่อกัน เขายังคิดอยู่เลยว่าไม่ถูกต้อง อย่างน้อยพระมารดาก็รักเขาบัดนี้เขาเพิ่งรู้ว่า ถึงแม้เขาจะเป็นลูกที่พระมารดาให้กำเนิด แต่ในสายตาของพระมารดา อำนาจก็สำคัญกว่าตัวเขามากตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่ เขาสามารถสืบทอดราชบัลลังก์ นำมาซึ่งเกียรติยศให้พระมารดา เขาจึงเป็นลูกชายที่ดีของพระมารดาเมื่อเขาตายไปแล้ว ไม่มีทางได้เป็นฮ่องเต้ได้ พระมารดาจึงรังเกียจเขาเมื่อจิ่งสือเฟิงคิดเรื่องนี้ได้ เขาก็รู้สึกผิดหวังอยู่บ้าง เขาจึงหันหลังกลับไปหลังจากที่พระมารดาตำหนิเขาเสร็จ ก็ไม่สนใจเขาอีก หันไปมองจิ่งโม่เยี่ยแล้วพูดว่า “วันนี้ข้ามาที่จวนผู้ว่าราชการเพราะมีเรื่องจะประกาศอีกเรื่องหนึ่ง”เฟิ่งชูอิ่งรู้สึกว่านางคงไม่หวังดี จึงพูดเสียงดังว่า “ขอถามหน่อยว่าเมื่อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-09
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 751

    “ไม่งั้นเรื่องนี้ข้าไม่ยอมจบแน่ นอกจากฮองเฮาจะแสดงการตีลังกากลับหัวกินอุจจาระให้ดูต่อหน้าทุกคน!”มหาราชครู “!!!!!”หากฮองเฮอยอมรับว่าตัวเองต่ำช้า ก็เท่ากับยอมรับว่าตัวเองไม่คู่ควรกับตำแหน่งฮองเฮา ก็เท่ากับยอมรับว่าการอบรมสั่งสอนของจวนมหาราชครูมีปัญหาหากการอบรมสั่งสอนของจวนมหาราชครูมีปัญหา มหาราชครูก็ไม่ต่างอะไรกับคนที่ประพฤติตัวไม่เหมาะสมมหาราชครูที่ประพฤติตัวไม่เหมาะสมจะสามารถเป็นอาจารย์ของฮ่องเต้ได้อย่างไร จะสามารถเป็นแบบอย่างที่ดีของคนทั่วทั้งใต้หล้าได้อย่างไรเพราะฉะนั้นฮองเฮาไม่มีทางยอมรับว่าตัวเองต่ำช้าเด็ดขาดและตอนนี้ด้วยท่าทางกัดไม่ยอมปล่อยของเฟิ่งชูอิ่ง ฮองเฮาต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่างตีลังกากลับหัวกินอุจจาระกับยอมรับว่าตัวเองต่ำช้า ไม่งั้นนางคงไม่ยอมเลิกราแน่เฟิ่งชูอิ่งกอดอกถามฮองเฮา “ตอนนี้เจ้าจะเลือกตีลังกากลับหัวกินอุจจาระหรือยอมรับว่าตัวเองต่ำช้า เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง!”ฮองเฮาไม่อยากเลือกสักอย่าง นางจึงเลือกที่จะเปิดเผยข่าวใหญ่แทน “พระสนมสวี่ลักลอบคบชู้!”เดิมทีนางตั้งใจจะเกริ่นนำปูทางก่อน แต่ตราบใดที่นางเริ่มเอ่ยปูทาง เฟิ่งชูอิ่งจะต้องหาทางขัดจังหวะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-09
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 752

    สายตาของฮองเฮาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ “หากพวกท่านไม่เชื่อเรื่องนี้ ก็สามารถหาหมอที่ไว้ใจมาตรวจชีพจรให้พระสนมสวี่ได้”“เอาตัวพระสนมสวี่เข้ามา!”คำพูดของพระนางหนักแน่นเช่นนี้ แสดงว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงเฟิ่งชูอิ่งและจิ่งโม่เยี่ยต่างก็เกลียดพระสนมสวี่ แต่พระสนมสวี่ก็เป็นพระมารดาของจิ่งโม่เยี่ยจริงๆ ดังนั้นเรื่องของพระสนมสวี่จึงเกี่ยวข้องกับจิ่งโม่เยี่ยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้พระสนมสวี่ลักลอบคบชู้ จิ่งโม่เยี่ยก็ต้องพลอยเสียหน้าไปด้วยเช่นกันนางหันไปมองจิ่งโม่เยี่ย ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา เมื่อเห็นนางมองมา เขาก็ฝืนคลี่รอยยิ้มจางๆ เหมือนจะบอกนางว่าไม่ต้องกังวลเฟิ่งชูอิ่งอยากจะบอกว่านางไม่ได้กังวลเรื่องเขา แต่เรื่องนี้ทำให้นางรู้สึกขยะแขยงไม่มากก็น้อยผู้ว่าราชการเมืองหลวงปวดหัวมาก วันนี้เขาแค่ต้องการพิจารณาคดีของเฟิ่งชูอิ่ง ไม่ได้คิดว่าจะต้องเข้าไปพัวพันกับเรื่องอื้อฉาวของราชวงศ์แต่ที่นี่คือจวนผู้ว่าราชการของเขา ต่อให้เขาอยากไปก็ไปไม่ได้เขาหันไปมองท่านเสนาบดีฝ่ายซ้าย ก่อนจะเห็นว่าท่านเสนาบดีฝ่ายซ้ายนั่งลงแล้ว และกำลังจิบชาอย่างสบายอารมณ์ผู้ว่าราชการเมืองหลวง “......”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-09
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 753

    แต่นางก็ยิ่งเกลียดชังฮองเฮามากกว่า เป็นนางแพศยาสารเลวคนนี้ที่แย่งเอาฮ่องเต้เจาหยวนไปจากนาง ทำให้นางไม่ได้เป็นฮองเฮาอีกต่อไปนางมองไปที่ฮองเฮาแล้วพูดว่า “ข้ารู้ว่าเจ้าอยากทำอะไร แต่ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าสมหวัง! ฮ่าๆๆๆ!”ฮองเฮามองเห็นสีหน้าบ้าคลั่งของพระสนมสวี่แล้วหัวเราะเบาๆ “ข้าแค่อยากจะเปิดโปงเรื่องน่าอับอายของเจ้าให้คนอื่นรู้เท่านั้น”“หลังจากฮ่องเต้สวรรคต เจ้าควรจะต้องฝังตัวเองไปด้วย!”“ที่ยังให้เจ้ามีชีวิตอยู่ต่อ ก็เพราะว่ารัชทายาทในขณะนั้นยังเด็ก ต้องการการดูแลเอาใจใส่จากมารดา”“น่าเสียดายที่เจ้าลักลอบคบชู้ ทำเรื่องไร้ยางอายแบบนี้!”พระสนมสวี่เกลียดฮองเฮา ฮองเฮาก็เกลียดพระสนมสวี่เข้ากระดูกดำเช่นกันฮ่องเต้เจาหยวนไร้ความรู้สึก พระสนมในวังหลังไม่มีใครทำให้เขาหวั่นไหวได้เขาก็ยังปฏิบัติต่อพระสนมสวี่และพระสนมคนอื่นๆ แตกต่างกันบ้าง เขาจะเอาใจพระสนมสวี่ และหาวิธีทำให้พระสนมสวี่พอใจแล้วเขาก็ทำให้ฮองเฮาเสียหน้าหลายครั้งเพราะเรื่องของพระสนมสวี่ ซึ่งฮองเฮาก็จดจำหนี้แค้นไว้ในใจทั้งหมดพระสนมสวี่หัวเราะเสียงดัง “ใช่แล้ว เรื่องไร้ยางอายของข้า เจ้าก็ไม่ได้เพิ่งมารู้วันนี้เสียหน่อย”“ก่อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-10
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 754

    ฮองเฮาพบว่าวันนี้พระสนมสวี่เป็นบ้าไปแล้ว นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน?พระนางกัดฟันตรัสว่า “ตอนนี้เจ้าไม่รักษาภาพลักษณ์ของสตรีผู้สูงส่งแล้ว แต่ก่อนเจ้าก็คงไม่บริสุทธิ์หรอก อ๋องผู้สำเร็จราชการคงไม่ใช่โอรสของฮ่องเต้พระองค์ก่อนกระมัง?”พระสนมสวี่ได้ยินคำนี้ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วก็เข้าใจความตั้งใจของฮองเฮาในทันทีนางหัวเราะออกมา “ใช่แล้ว จิ่งโม่เยี่ยไม่ใช่โอรสของฮ่องเต้องค์ก่อน แต่เป็นโอรสของฝ่าบาท”“ตอนที่ฮ่องเต้องค์ก่อนยังมีพระชนม์ชีพอยู่ ข้าก็มีสัมพันธ์ลับๆ กับฝ่าบาทแล้ว และให้กำเนิดจิ่งโม่เยี่ยกับฝ่าบาท”ฮองเฮา “......”ทุกคน “......”นี่เป็นเรื่องที่พวกเขาควรฟังหรือ?พวกเขาคิดว่าวันนี้น่าตื่นเต้นพอแล้ว แต่ไม่คิดว่าจะมีอะไรที่น่าตื่นเต้นกว่านี้อีกเดิมทีฮองเฮาต้องการใช้เรื่องที่พระสนมสวี่ตั้งครรภ์ มาตราหน้าพระสนมสวี่ว่าเป็นหญิงสำส่อน เพื่อให้ฐานะของจิ่งโม่เยี่ยมีปัญหาเขาจะไม่สามารถใช้อำนาจในฐานะผู้สำเร็จราชการแผ่นดินได้อีกต่อไป เพราะจะเป็นการใช้อำนาจแบบไม่ชอบธรรมแต่พระนางไม่คิดเลยว่าพระสนมสวี่จะพูดแบบนี้ถ้าจิ่งโม่เยี่ยเป็นลูกของฮ่องเต้เจาหยวนจริงๆ พระสนมสวี่คงไม่รังเกียจเขา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-10
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 755

    ถึงแม้ว่าพระสนมสวี่จะทำอะไรสุดโต่งไปบ้าง บางครั้งก็เหมือนคนบ้า แต่สมองกลับดีกว่าฮองเฮาสีหน้าของฮองเฮาค่อนข้างดูไม่ดี พระสนมสวี่พูดเรื่องนี้ออกมาต่อหน้าคนมากมาย ก็เหมือนกับตบหน้านางฮองเฮาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เจ้าไม่ซื่อสัตย์ก่อน เรื่องที่เจ้าพูดตอนนี้เชื่อถือไม่ได้แม้แต่น้อย!”พระสนมสวี่มองนางแล้วพูดว่า “คำพูดของข้าเชื่อถือไม่ได้? แล้วของเจ้าล่ะเชื่อถือได้หรือ?”“เพียงเพราะเจ้าเป็นฮองเฮาอย่างนั้นหรือ? ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น เจ้าทำเรื่องน่าอับอายมามากแค่ไหนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จำเป็นต้องแจกแจงออกมาทีละเรื่องเลยไหม?”ฮองเฮา “!!!!!”นางกับพระสนมสวี่ต่อสู้กันมาหลายปี ทั้งสองต่างรู้ความลับของกันและกันมากมายพวกนางเคยใช้ความลับเหล่านี้โจมตีกันและกัน และเคยใช้ความลับเหล่านี้หลอกให้อีกฝ่ายตกหลุมพราง ทำร้ายผู้บริสุทธิ์มากมายถ้าจะพูดว่าใครรู้จักพวกนางมากที่สุดในโลกนี้ แน่นอนว่าคือพวกนางเองฮองเฮากัดฟันแน่นแล้วพูดว่า “หุบปาก!”พระสนมสวี่หัวเราะเสียงดัง “ทำไม? เจ้ากลัวแล้วหรือ?”“เจ้ากลัวก็ถูกแล้ว! สิบสามตายไปแล้ว ข้าไม่มีอะไรต้องห่วงอีกแล้วในโลกฝลนี้ เจ้าคิดว่าข้าจะกลัวเจ้าหรื

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-10
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 756

    เมื่อมหาราชครูได้ยินบทสนทนาระหว่างฮองเฮากับเฟิ่งชูอิ่ง เขาก็ขมวดคิ้วแน่นทันที เพราะฮองเฮาแทบจะตกเป็นรองเฟิ่งชูอิ่งอยู่ตลอดถ้าเขาไม่เข้าไปแทรกแซง ฮองเฮาต้องแพ้แน่ทันใดนั้น เขาก็เอ่ยเสียงเข้มว่า “พระสนมสวี่เป็นฮองเฮาของฮ่องเต้พระองค์ก่อน นางประพฤติผิดในกาม ลักลอบมีชู้แล้วยังแอบตั้งครรภ์ นี่ถือเป็นการไม่เคารพต่อฮ่องเต้พระองค์ก่อน”“เพื่อรักษาเกียรติของราชวงศ์ จับพระสนมสวี่ไปประหารเดี๋ยวนี้!”ทันทีที่เขาพูดจบ ก็มีทหารวิ่งเข้าหาพระสนมสวี่แต่ยังไม่ทันได้เข้าใกล้ ก็ถูกทหารของจิ่งโม่เยี่ยขวางไว้ทั้งสองฝ่ายชักกระบี่ออกมา บรรยากาศตึงเครียดขึ้นในทันทีผู้ว่าราชการแทบจะตกใจตาย รีบเข้ามาไกล่เกลี่ย “ท่านอ๋อง ท่านมหาราชครู ใกล้วันปีใหม่แล้ว มีอะไรก็ค่อยๆ พูดกันเถอะ”“กระบี่ไม่มีตา อย่าให้เกิดการบาดเจ็บเลย”มหาราชครูมองไปที่จิ่งโม่เยี่ยแล้วถามว่า “ท่านอ๋องจะปกป้องหญิงแพศยานี่หรือ?”จิ่งโม่เยี่ยพูดอย่างใจเย็นว่า “ตามกฎหมายของราชวงศ์เรา หากมีผู้ใดล่วงประเวณี ทั้งชายและหญิงจะต้องได้รับโทษเท่าเทียมกัน”“เมื่อครู่พระสนมสวี่บอกว่าชู้ของนางคือฮ่องเต้เจาหยวน ท่านมหาราชครูอยากประหารทั้งชายและหญิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-10

บทล่าสุด

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 942

    แววตาของจิ่งโม่เยี่ยเยือกเย็นลงในทันที พร้อมกับจิตสังหารที่แผ่ออกมาจากตัวเขาเขาไม่ได้ยึดติดกับบัลลังก์ แต่ตอนนี้เขาต้องการมีชีวิตอยู่เขาต้องมีชีวิตรอดต่อไปเท่านั้น ถึงจะสามารถอยู่เคียงข้างเฟิ่งชูอิ่งได้เพื่อที่จะได้อยู่เคียงข้างนาง เขาสามารถทำทุกอย่างได้เดิมทีเขาไม่ได้มีเจตนาจะฆ่าจิ่งสือเยี่ยน แต่ในวินาทีนี้ เขากลับรู้สึกว่าจิ่งสือเยี่ยนสมควรตายได้แล้วเขาพูดกับเฟิ่งชูอิ่งว่า “ข้าจะกลับเข้าวังก่อน”กลับไปเพื่อฆ่าจิ่งสือเยี่ยนแต่เหมยตงยวนกลับรั้งเขาไว้ว่า “เจ้าช้าก่อน”จิ่งโม่เยี่ยหันไปมองเขา เหมยตงยวนจึงยื่นกระบี่ในมือให้เขา “ใช้สิ่งนี้ไปฆ่าจิ่งสือเยี่ยน”จิ่งโม่เยี่ยค่อนข้างงุนงง เหมยตงยวนอธิบายว่า “กระบี่เกล็ดน้ำค้างเหมันต์ของเจ้าถึงแม้จะคมกริบ แต่เจ้าหล่อเลี้ยงมันด้วยจิตสังหารมามากเกินไปในช่วงหลายปีมานี้”“จิตสังหารที่รุนแรงเช่นนี้ เมื่อชักกระบี่ออกมา แท้จริงแล้วคนที่ได้รับความเสียหายที่สุดคือตัวเจ้าเอง มันจะส่งผลต่อโชคชะตาของเจ้า”“สำหรับเจ้าในอดีต จิตสังหารเหล่านี้ไม่ได้ส่งผลเสียอะไร แต่ตอนนี้โชคชะตาของเจ้ากำลังเฟื่องฟู หากจิตสังหารหนักเกินไป มันจะส่งผลกระทบต่อโชคช

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 941

    เหมยตงยวนตอบสนองอย่างรวดเร็ว หลบสายฟ้าที่ฟาดลงมาสายนั้นได้สายฟ้านั้นเหมือนจะค้นพบอะไรบางอย่าง จึงพุ่งเข้าใส่เขาอย่างบ้าคลั่งเหมยตงยวนกลัวว่าเฟิ่งชูอิ่งจะได้รับบาดเจ็บ จึงรีบระงับพลังแล้ววิ่งออกไปอย่างรวดเร็วเรื่องนี้เกิดขึ้นเร็วมาก ทำให้เฟิ่งชูอิ่งและจิ่งโม่เยี่ยตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเฟิ่งชูอิ่งนึกถึงวันที่นางได้พบกับเหมยตงยวนครั้งแรก เขาก็มาพร้อมกับอสนีบาตจากฟากฟ้าเช่นนี้แต่วันนั้นเขาหาตัวแทนรับเคราะห์ สายฟ้าจึงไม่ได้ฟาดลงมาที่เขาเมื่อครู่เขาคำนวณอะไรบางอย่าง จึงไปรบกวนพลังแห่งสวรรค์ ทำให้สวรรค์ตามล่าเขาอีกครั้ง ใช้สายฟ้าฟาดใส่เขาโดยตรงเฟิ่งชูอิ่งหันไปมองจิ่งโม่เยี่ยแล้วพูดว่า "เรื่องนี้ดูท่าจะใหญ่โตเอาการ"จิ่งโม่เยี่ยถามว่า "ท่านพ่อจะเป็นอะไรไหม?"เฟิ่งชูอิ่งมองเขาแล้วพูดว่า "ถ้าท่านพ่อเป็นอะไรไป ข้าไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่!"จิ่งโม่เยี่ย “......”ข้อเท็จจริงพิสูจน์แล้วว่าความกังวลของเฟิ่งชูอิ่งนั้นมากเกินไป เพราะหลังจากนั้นเพียงไม่นาน เหมยตงยวนก็กลับมาเพียงแต่อีกฟากฝั่งของเมือง ที่นั่นมีเสียงฟ้าร้องดังสนั่นเฟิ่งชูอิ่งเห็นเขาก็ถามทันทีว่า "ท่านพ่อ ท่านไม่เป็นไรใช่ไหมเจ้า

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 940

    ครู่ต่อมา นางก็เอาหัวโขกโต๊ะอีกครั้งเฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”เอาเถอะ นางยอมแพ้แล้ว!นางสูดน้ำมูกพลางพูดว่า “สวรรค์ช่างน่าเบื่อจริงๆ จงใจกลั่นแกล้งคนชัดๆ!”จิ่งโม่เยี่ยเห็นก้อนบวมสองก้อนบนหน้าผากของนางก็รู้สึกสงสารไม่ได้ “ให้ข้าทายาให้เถอะ”เฟิ่งชูอิ่งกลับพูดว่า “เรื่องทายาไม่รีบร้อนหรอก ขอข้าตั้งสติคิดก่อนว่าเรื่องบ้าๆ นี่มันเกิดอะไรขึ้น”จิ่งโม่เยี่ยเห็นนางสบถออกมาก็รู้ว่าครั้งนี้นางโกรธจริงๆ จึงพูดว่า “งั้นข้าทายาให้พลางๆ เจ้าก็คิดไปพลางๆ แล้วกัน”ครั้งนี้เฟิ่งชูอิ่งไม่ได้ปฏิเสธเพียงแต่พอเขาเข้ามาใกล้ นางก็ได้กลิ่นกายของเขา หอมสดชื่นแต่ก็ยั่วยวนอย่างมากนางอดไม่ได้ที่จะมองเขาแวบหนึ่ง ดวงตาและคิ้วของเขาเดิมทีก็งดงามอยู่แล้ว เป็นแบบที่นางชอบที่สุดตอนนี้เขาเข้ามาใกล้ ท่าทางที่ทายาให้นางนั้นดูตั้งใจมาก มองดูแล้วเห็นความรักที่ลึกซึ้งมากขึ้นหลายส่วนขนตาที่เป็นแพยาวและโค้งงอน ดวงตาสีดำสนิท มีเสน่ห์ที่ส่งผลต่อนางอย่างร้ายกาจเดิมทีสมองของนางก็มึนงงอยู่แล้ว พอเห็นท่าทางแบบนี้ของเขา หัวสมองของนางก็หยุดทำงานไปเลยคิดคำนวณอะไรกัน ดูหนุ่มหล่อไม่ดีกว่าหรือ?ดังนั้นนางจึงเลิกคำนวณแล้ว

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 939

    ทั้งสองคนไม่ได้พูดอะไร นั่งกินหม้อไฟกันเงียบๆเมื่อจิ่งโม่เยี่ยได้นั่งอยู่เคียงข้างนาง อันตรายจากการช่วงชิงอำนาจก็ไม่เกี่ยวข้องกับเขาอีกต่อไปในค่ำคืนที่แสนพิเศษนี้ เพียงมีนางอยู่เคียงข้างเขา หัวใจของเขาก็สงบอย่างยิ่งทั้งคู่ไม่ได้พูดอะไร แต่บรรยากาศอบอุ่นเป็นอย่างมากเฟิ่งชูอิ่งกำลังลวกเนื้อชิ้นหนึ่งเตรียมที่จะคีบให้จิ่งโม่เยี่ย ในขณะเดียวกันเขาก็คีบเนื้อที่เพิ่งลวกเสร็จใหม่ๆ ให้นางทั้งสองคนต่างชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยิ้มให้กัน กินเนื้อที่อีกฝ่ายคีบให้เฟิ่งชูอิ่งถามว่า “ท่านตั้งใจจะขึ้นครองราชย์เมื่อไหร่?”จิ่งโม่เยี่ยตอบว่า “กรมพิธีการกำลังวางแผนอยู่ สำนักโหรหลวงกำลังคำนวณฤกษ์งามยามดี…”พูดถึงตรงนี้เขาก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ “ฤกษ์ที่สำนักโหรหลวงคำนวณออกมาอาจจะไม่แม่นยำเท่าเจ้า เจ้าช่วยคำนวณให้ข้าหน่อยได้ไหม”เฟิ่งชูอิ่งมองเขาอย่างพินิจ จากนั้นก็ยกนิ้วขึ้นมาคำนวณครู่ต่อมาเลือดกำเดาของนางก็ไหลออกมาเฟิ่งชูอิ่ง “……”จิ่งโม่เยี่ย “……”เขารีบยื่นผ้าเช็ดหน้าให้นางเฟิ่งชูอิ่งสบถออกมา “มันต้องขนาดนี้เลยหรือ!”นางรู้สึกหดหู่ใจจริงๆ นางแค่จะคำนวณดวงชะตาให้เขาเท่านั้น

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 938

    เหมยตงยวนมองเขาด้วยสายตาเย็นชาอย่างฉับพลัน เจ้าลูกหมานี่พูดจาแบบนี้ได้คล่องปากขึ้นทุกวันเฟิ่งชูอิ่งมองไปยังศาลาร่มรื่นที่เต็มไปด้วยวิญญาณร้าย นางรู้สึกว่าควรจะเตือนจิ่งโม่เยี่ยสักหน่อยนางจึงเปิดเนตรทิพย์ให้เขาอย่างเงียบๆ ทันใดนั้นเขาก็เห็นเหมยตงยวนทำหน้าบึ้งตึง และเหล่าวิญญาณร้ายตนอื่นๆ ที่ทำหน้าเหมือนกำลังดูละครสนุกๆจิ่งโม่เยี่ย “......”อย่างที่คิดไว้จริงๆ เรื่องน่าตกใจมันมีอยู่ทุกที่เขาไอเบาๆ แล้วคำนับเหมยตงยวน “สวัสดี ท่านอาเหมย”เหมยตงยวนพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน “ข้าไม่กล้ารับคำนับจากฝ่าบาทหรอก”พลังแห่งฮ่องเต้ในตัวจิ่งโม่เยี่ยเข้มข้นขึ้นมากหลังจากผ่านคืนนี้ไปนั่นหมายความว่าการเข้าวังของเขาในวันนี้เป็นไปอย่างราบรื่นเพียงแต่ตอนนี้ดวงดาวของฮ่องเต้ยังไม่กลับมาประจำตำแหน่ง บัลลังก์ของเขายังไม่มั่นคงจิ่งโม่เยี่ยยิ้มแห้งๆ “ท่านอาเหมยอย่าล้อข้าเลย”“ตำแหน่งฮ่องเต้ไม่ใช่สิ่งที่ข้าต้องการได้มา แต่การมีตำแหน่งนี้ช่วยให้ข้าทำหลายๆ สิ่ง หลายๆ อย่างได้”เหมยตงยวนแค่นเสียง “ปากบอกว่าไม่ต้องการ แต่ความทะเยอทะยานมันเด่นชัดขนาดนั้น เจ้าเองก็ไม่ได้ดีไปกว่าจิ่งสือเยี่ยนนักหรอก”

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 937

    ถัดมา ม่านหน้าต่างก็สั่นไหวอย่างรุนแรง เผยให้เห็นเงาร่างน่าขนลุก รูปร่างคล้ายกับฮ่องเต้พระองค์ก่อนปู๋เยี่ยโหวเป็นคนแรกที่รู้สึกตัว “แม่เจ้า!”พูดจบก็กระโดดขึ้นไปขี่บนหลังท่านเสนาบดีฝ่ายซ้ายท่านเสนาบดีฝ่ายซ้าย “......”เขาอยากจะด่าบรรพบุรุษปู๋เยี่ยโหวสิบแปดชั่วโคตร!พุ่งเข้ามาแบบนี้ ตัวหนักขนาดนี้ เขาเป็นขุนนางฝ่ายบุ๋น อายุก็มากแล้ว จะแบกปู๋เยี่ยโหวไหวได้อย่างไร!แล้วทั้งสองคนก็ล้มกลิ้งลงกับพื้น ปู๋เยี่ยโหวกลายเป็นเบาะรองคนอื่นๆ ก็ตกใจตัวสั่นด้วยความกลัว เบียดเสียดกันเป็นก้อนตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นฮองเฮา พระโอรสผู้สูงศักดิ์หรือขุนนางผู้สุขุมเยือกเย็นในราชสำนัก ต่างก็หดตัวเป็นก้อน อยากจะเบียดเข้าหากันเป็นหนึ่งเดียวบางคนที่ว่องไวก็วิ่งออกไปอย่างรวดเร็วพระราชวังเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด การเกิดเรื่องแบบนี้ทำให้พวกเขาแทบสิ้นสติตอนแรกพวกเขาไม่เชื่อคำพูดของปู๋เยี่ยโหวเลย พอเกิดเรื่องแปลกประหลาดแบบนี้ จะไม่เชื่อก็ยากแล้วเดิมทีฮองเฮายังอยากจะซักถามปู๋เยี่ยโหวสองสามคำ พอเห็นสภาพแบบนี้นางก็พูดอะไรไม่ออกตอนนี้ทุกคนมีเพียงความคิดเดียวเท่านั้นหรือว่าเป็นเพราะองค์ฮ่องเต้เจาหยวนท

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 936

    สุดท้ายปู๋เยี่ยโหวที่มีชนักติดหลังก็ยังอดแววตาสั่นไหวไม่ได้การกระพริบตาของเขา คนทั่วไปอาจจะไม่เห็นถึงปัญหา แต่คนที่เขากำลังเผชิญอยู่คือท่านเสนาบดีฝ่ายซ้ายท่านเสนาบดีฝ่ายซ้ายตีความได้ทันทีว่า เรื่องนี้เป็นฝีมือของปู๋เยี่ยโหวท่านเสนาบดีฝ่ายซ้ายด่าทออยู่ในใจ “เจ้าตัวสร้างปัญหา ฮ่องเต้เจาหยวนสิ้นพระชนม์ไปแล้ว ยังมาทำลายพระศพให้เป็นแบบนี้ คิดจะโยนความผิดให้คนอื่นรึไง?”“โง่จริงๆ โง่ที่สุด!”ถึงแม้จะด่าทออยู่ในใจอย่างหนัก แต่สีหน้ากลับไม่แสดงออกเลยแม้แต่น้อยเขาพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “ข้าได้ยินมาว่า หากคนเรามีบาปกรรมมากมาย เมื่อตายไป ร่างกายก็จะถูกทำลาย”“แต่เรื่องนี้ข้าแค่เคยได้ยินมา ไม่เคยเห็นมาก่อน”หลังจากพูดจบ เขาก็ถามปู๋เยี่ยโหวว่า “เมื่อครู่ เกิดอะไรขึ้นในท้องพระโรงหรือ?”เมื่อปู๋เยี่ยโหวได้ยินคำถามนี้ ก็รู้ทันทีว่าท่านเสนาบดีฝ่ายซ้ายรู้แล้วว่าสภาพของฮ่องเต้เจาหยวนที่เป็นแบบนี้เป็นฝีมือของเขาเขาลอบถอนหายใจเบาๆ นี่แหละจิ้งจอกเฒ่าตัวจริง ไม่มีอะไรปิดบังท่านเสนาบดีฝ่ายซ้ายได้เลย โชคดีที่ท่านเสนาบดีฝ่ายซ้ายอยู่ข้างเดียวกับเขาปู๋เยี่ยโหวตอบทันทีว่า “หลังจากที่อ๋องผู้สำเร็จราช

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 935

    ปู๋เยี่ยโหวหวาดกลัวยิ่งกว่าเดิม จึงลงมือทุบกระดูกมือและกระดูกขาของฮ่องเต้เจาหยวนจนแหลกละเอียดฮ่องเต้เจาหยวน “……”ฮ่องเต้เจาหยวน “!!!!!!”ไอ้เจ้าสุนัขปู๋เยี่ยโหวมันกล้าดีอย่างไรมาทำลายศพของเขา! เขาจะฆ่ามัน!พลังวิญญาณของเขาพลุ่งพล่านถึงขีดสุดอย่างฉับพลันแต่เขายังไม่ทันได้กลายร่างเป็นวิญญาณร้าย ก็ถูกพลังมังกรซัดกระแทกลงพื้นอีกครั้งและเนื่องจากพลังวิญญาณของเขาแข็งแกร่งเกินไป พลังมังกรจึงตัดสินว่าเขาเป็นวิญญาณร้ายที่อันตรายอย่างยิ่งในการรับมือกับวิญญาณร้ายที่อันตรายเช่นนี้ พลังมังกรจะแสดงพลังอย่างรุนแรงและเด็ดขาด โดยการตรงเข้าไปฉีกวิญญาณของฮ่องเต้เจาหยวนจนแตกเป็นเสี่ยงๆฮ่องเต้เจาหยวน “!!!!!!”เขายังไม่ทันได้เข้าใจสถานการณ์ ก็วิญญาณแตกสลายไปแล้วไม่ว่าเขาจะมีความโกรธหรือความไม่ยินยอมมากแค่ไหน ก็ไม่มีประโยชน์อะไรอีกแล้วตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่ เขาคือฮ่องเต้ ดังนั้นพลังมังกรจึงคุ้มครองเขาแต่หลังจากเขาตาย วิญญาณของเขาก็ไม่ต่างจากวิญญาณตนอื่นๆเพราะทันทีที่ฮ่องเต้เจาหยวนสิ้นพระชนม์ เขาก็ไม่ใช่ฮ่องเต้อีกต่อไป เมื่อวิญญาณของเขากลายเป็นวิญญาณร้าย มันก็จะถูกพลังมังกรโจมตียิ่งไป

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 934

    ถึงปู๋เยี่ยโหวจะใจกล้าบ้าบิ่น แต่เขาก็กลัวผีที่เขาไม่กลัวเฉี่ยวหลิงมากนัก เพราะรู้จักกันดีแล้ว รู้ว่านางจะไม่ทำร้ายเขาแต่ฮ่องเต้เจาหยวน ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็ไม่ใช่ผีที่ดีแน่ ๆ เพราะตอนยังมีชีวิตอยู่ก็ไม่ใช่คนดีอะไรปู๋เยี่ยโหวไม่พูดพร่ำทำเพลง คว้าอิฐที่วางอยู่ข้างๆ ซึ่งเตรียมไว้สำหรับรองฐานโลงศพ ฟาดลงไปที่หัวของฮ่องเต้เจาหยวนอย่างจังในจังหวะที่ฮ่องเต้เจาหยวนกำลังจะลุกขึ้นนั่งนั้น พระองค์ตั้งใจจะร้องเรียกขุนนางที่เฝ้าอยู่ด้านหน้าพระองค์คิดว่าหากบอกขุนนางเหล่านั้นว่าถูกจิ่งโม่เยี่ยกักขังไว้ในวัง ขุนนางคนสนิทของพระองค์จะต้องออกมาต่อต้านอย่างแน่นอนก่อนหน้านี้พระองค์ไม่สามารถติดต่อกับขุนนางเหล่านี้ได้ เมื่อพระองค์สิ้นพระชนม์ ขุนนางเหล่านี้จะต้องเข้าวังพระองค์ยังทรงทราบอีกว่าขุนนางเหล่านั้นเฝ้าอยู่ข้างนอก เพียงแค่พระองค์ร้องเสียงดัง พวกขุนนางก็จะได้ยินทันทีแผนการของพระองค์ค่อนข้างยอดเยี่ยม ในทางปฏิบัติแล้วนี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการส่งข่าวสารออกไปหากพระองค์สามารถส่งข่าวสารออกไปได้ แม้ว่าจะสิ้นพระชนม์หลังจากนั้น ก็ยังสามารถสร้างความลำบากให้กับจิ่งโม่เยี่ยได้ไม่น้อยหลังจากนี้

DMCA.com Protection Status