Share

บทที่ 103

Author: ดอกถังร่วงหล่น
last update Last Updated: 2024-07-16 19:09:39
ดูเหมือนตั้งแต่เขารู้จักเฟิ่งชูอิ่งมา นางก็ทำลายสถิติครั้งแรกในชีวิตของเขาแบบนับครั้งไม่ถ้วน

เขามองนางอย่างเย็นชา นางจึงกล่าวเสียงอ่อนหวานว่า “เมื่อครู่นี้เป็นเพราะท่านอ๋องช่วยรับไว้ มิเช่นนั้นข้าจะต้องล้มแน่เลยเพคะ

“ท่านอ๋องทรงดีมากจริงๆ เพคะ ไม่เสียแรงที่ข้าหลงรักปักใจท่านมาตลอด”

นางคิดมาอย่างรอบคอบ ตรงนี้คือหน้าประตูวังหลวง จิ่งโม่เยี่ยไม่มีทางกล้าลงมือสังหารนางตรงนี้แน่นอน

ในเมื่อตอนนี้ไม่มีทางตาย เช่นนั้นนางก็จะเอาคืนเขาต่อ

อย่างไรเสียมันก็เป็นบทที่ต้องแสดงอยู่แล้ว ทำไมนางจะหาผลประโยชน์ใส่ตัวบ้างไม่ได้ล่ะ

จิ่งโม่เยี่ยเป็นผู้ชายที่หล่อเหลามากที่สุดเท่าที่นางเคยพบเจอมา แต๊ะอั๋งสักหน่อยก็ไม่เสียหาย

ในนิยายบอกว่าเขาป่วยหนักจนร่างกายซูบผอม แต่ตอนที่นางแอบลูบคลำแผงอกเขาเมื่อกี้ กล้ามเนื้อของเขาเป็นมัดๆ ชัดเจน จับแล้วเพลินมือมากทีเดียว

ได้กำไรแล้วล่ะ

จิ่งโม่เยี่ยมองนางแล้วเอ่ยว่า “เจ้ากำลังหาเรื่องตายอยู่นะ!”

เฟิ่งชูอิ่งจึงโผเข้าหาแผงอกเขาอีกครั้งแล้วลูบๆ คลำๆ กล้ามของอีกฝ่าย “ข้างนอกลมแรงยิ่งนัก พัดจนข้าหนาวไปหมดแล้ว ท่านอ๋องช่วยบังให้หน่อยสิเพคะ!”

จิ่งโม่เยี่ย “......”

เขาคิดว่าตัวเอง
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Tom Brad
5555 น่ารัก..ร้ายพอกันเลย
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 104

    เขามีคิ้วคมดุจกระบี่ ดวงตาเป็นประกายเหมือนดวงดาว ผิวออกจะคล้ำเล็กน้อย ตอนที่หันมาเห็นพวกเขาก็คลี่ยิ้มบางๆ รอยยิ้มของเขาเจิดจ้ายิ่งกว่าพระอาทิตย์เสียอีก ทำให้คนสัมผัสได้ถึงความกระตือรือร้นอันแรงกล้าเขายิ้มแล้วเอ่ยเรียกว่า “พี่สาม!”จิ่งโม่เยี่ยถูกจัดอันดับรวมกับสมาชิกราชวงศ์ทั้งหมด เขาอยู่ลำดับที่สามหลังจากฮ่องเต้พระองค์ก่อนสวรรคต ฮ่องเต้เจาหยวนจึงประกาศว่าจะดูแลจิ่งโม่เยี่ยเหมือนบุตรชายในอุทรของตัวเอง เพื่อแสดงภาพลักษณ์ใจกว้างและความสนิทชิดเชื้อ ดังนั้นเขาจึงถูกจัดลำดับร่วมกับองค์ชายทั้งหมดตามอายุ อายุของเขาอยู่ในลำดับที่สาม ดังนั้นองค์ชายทั้งหมดจึงเรียกเขาว่าพี่สามจิ่งโม่เยี่ยปรายตามองเขาแล้วผงกศีรษะเพียงเล็กน้อย ก่อนจะพาเฟิ่งชูอิ่งเดินตรงเข้าไปข้างในจิ่งสือเยี่ยนมองเฟิ่งชูอิ่งด้วยท่าทางสงสัยใคร่รู้ “เจ้าคือเฟิ่งชูอิ่ง ว่าที่พระชายาของพี่สามสินะ?”เฟิ่งชูอิ่งพยักหน้า “เพคะ มิทราบว่าท่านคือใครหรือ?”จิ่งสือเยี่ยนหันมายิ้มอวดฟันขาวให้นาง “ข้าคือองค์ชายห้าจิ่งสือเยี่ยน”เฟิ่งชูอิ่งก้มหน้าด้วยท่าทางมีมารยาท “ถวายบังคมองค์ชายห้า....”นางกล่าวจบก็คล้ายจะได้สติคืนมา เบิกตากว้างแล้วเอ่ยถ

    Last Updated : 2024-07-16
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 105

    กลับได้ยินนางเอ่ยว่า “ในใจของข้า ท่านอ๋องเป็นบุรุษรูปงามอันดับหนึ่งในใต้หล้า ไม่ว่าบุรุษคนอื่นจะหน้าตาเป็นอย่างไร แต่เมื่อมาอยู่ต่อหน้าท่านอ๋องก็ล้วนแต่จืดชืดหมดเลยเพคะ”จิ่งโม่เยี่ยยังไม่ทันจะได้เอ่ยอะไร ก็มีเสียงหัวเราะขบขันดังมาจากด้านข้าง “น้องสาม เจ้านี่ช่างโชคดีเสียจริงนะ“ต่อให้ก่อนหน้านี้จะมีว่าที่พระชายาตายไปถึงเจ็ดคน ก็ยังมีสาวน้อยมาหลงรักปักใจเจ้าอยู่ดี”เฟิ่งชูอิ่งเอียงหน้าไปมอง พบว่ามีชายหนุ่มสีหน้าท่าทางเย็นชายืนอยู่อีกฝั่งหนึ่งหางตาของเขาชี้ขึ้น โหนกแก้มสูงเล็กน้อย คิ้วระเกะระกะไม่เป็นรูปทรง ดูจากโหงวเฮ้งแล้วเป็นคนประเภทจิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตจิ่งโม่เยี่ยมองเขาแวบหนึ่งแล้วเอ่ยว่า “พี่สองกล่าวได้ถูกต้อง ข้าเป็นคนมีเสน่ห์ก็เลยมีแต่คนมาหลงรัก“เรื่องนี้พี่สองจะอิจฉาไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอก ใครใช้ให้ท่านหน้าตาขี้เหร่กันล่ะ”จิ่งสือเฟิง “......”ความจริงแล้วหน้าตาเขาไม่ได้ขี้เหร่สักนิด แต่พื้นฐานหน้าตาของคนในราชวงศ์ดีงามเกินไป พอเอามาเปรียบเทียบกันแล้ว หน้าตาของเขาก็สู้จิ่งโม่เยี่ยไม่ได้จริงๆ นั่นแหละจิ่งโม่เยี่ยไม่สนใจเขาอีก เพียงหันกลับมาคุยกับเฟิ่งชูอิ่ง “เขาคือเจ้าสอง จิ่

    Last Updated : 2024-07-16
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 106

    เฟิ่งชูอิ่งกล่าวถึงตรงนี้ก็หันไปถามจิ่งโม่เยี่ย “ท่านอ๋อง เจ้าอาวาสกล่าวเช่นนี้ ถูกต้องไหมเพคะ?”จิ่งโม่เยี่ยอยากจะตอบมากกว่า “ถูกกับผีน่ะสิ เมื่อไม่กี่วันก่อนยังคิดจะทิ้งงานแต่งหนีตามผู้ชายอยู่เลย มาตอนนี้กลับบอกว่าจะมีลูกให้เขาเต็มบ้าน เจ้าเด็กเลี้ยงแกะ!”ทว่าตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาหักหน้านาง เขาลอบมองนางแวบหนึ่งแล้วพยักหน้าเบาๆ คำพูดของนางช่างถูกใจไทเฮายิ่งนัก นางจึงดึงมือของเฟิ่งชูอิ่งมากุมอย่างสนิทสนม “ข้าก็เห็นเจ้าเป็นเด็กที่มีดวงชะตานำโชคเหมือนกัน“พวกเขาต่างกล่าวกันว่าเยี่ยเอ๋อร์เป็นดาวหายนะ ข้าไม่เคยเชื่อเรื่องนั้นเลย“ตามกฎระเบียบแล้วข้าไม่สามารถออกจากวังได้ มิฉะนั้นหลังจากพวกเจ้ามีลูกแล้ว ข้าก็อยากจะออกจากวังไปช่วยพวกเจ้าเลี้ยงหลานเหมือนกัน”เฟิ่งชูอิ่ง “......”เรื่องนั้นไม่จำเป็นหรอก!นางก็แค่พูดส่งเดชไปอย่างนั้นเอง!จิ่งโม่เยี่ยเห็นสีหน้าของนางก็แอบขบขันอยู่ในใจ ใครใช้ให้เจ้าพูดจาโกหกล่ะ เขาอยากจะรู้นักว่านางจะกลบเกลื่อนได้อย่างไร ตอนนั้นเอง เสียงเล็กแหลมของขันทีคนหนึ่งก็ดังแทรกขึ้นมา “ฝ่าบาทเสด็จ ฮองเฮาเสด็จ!”ไทเฮาได้ยินเช่นหน้าก็หน้าตึงอย่างฉับพลัน ก่อนจะเดินไปยังที่นั่ง

    Last Updated : 2024-07-16
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 107

    ครั้งก่อนไทเฮาใช้เรื่องที่เกิดในกรมราชทัณฑ์สั่งลงโทษฮองเฮาอย่างหนัก จนฮองเฮาแทบไม่เหลือหน้าไปพบใคร แล้วยังต้องมอบอำนาจจัดการวังหลังครึ่งหนึ่งให้คนอื่นอีกนางเกลียดไทเฮาอย่างกับอะไรดี แต่กลับไม่กล้าล่วงเกินอีกฝ่ายต่อหน้าเพราะนางทราบว่าไทเฮาเป็นมารดาแท้ๆ ของฮ่องเต้เจาหยวน ฮ่องเต้เจาหยวนพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อเอาอกเอาใจไทเฮา หากพระนางสั่งให้เขาปลดตำแหน่งฮองเฮา เขาก็พร้อมจะเห็นดีเห็นงามด้วยทันทีเฟิ่งชูอิ่งที่อยู่ข้างๆ นั่งมองผู้สูงศักดิ์ทั้งสามที่ทรงอำนาจมากสุดในใต้หล้าประชันกัน นางเห็นแล้วรู้สึกคันไม้คันมือยิ่งนัก หลังจากทักทายกันพอเป็นพิธีแล้ว ฮ่องเต้เจาหยวนก็หันไปทางจิ่งโม่เยี่ย “เยี่ยเอ๋อร์ ข้าได้ยินว่าเจ้าถูกใจว่าที่พระชายาคนใหม่มาก ข้ารู้สึกยินดีปรีดายิ่งนัก”จิ่งโม่เยี่ยกล่าวเสียงเฉยชา “เสด็จลุงทรงพยายามอย่างหนัก ข้ารู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมาก”ฮ่องเต้เจาหยวนยิ้มแล้วเอ่ย “เจ้าพอใจก็ดีแล้ว ช่วงหลายปีมานี้ข้าเป็นห่วงเรื่องการแต่งงานของเจ้ามาก อยากเห็นวันที่เจ้าแต่งงานมีครอบครัวไวๆ จะได้มีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง”เขากล่าวจบก็เงียบไปสักพัก ก่อนจะเอ่ยเสริมว่า “จะได้ขัดขวางข่าวลือไม่มีมู

    Last Updated : 2024-07-16
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 108

    ตอนที่เขาดึงมือกลับมา ยันต์แผ่นนั้นก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขาอีกครั้งจิ่งสือเยี่ยนเอ่ยถามด้วยสีหน้าประหลาดใจ “พี่สาม ท่านไปเอาของเล่นประหลาดแบบนี้มาจากไหนกัน? วิเศษไปเลย!”จิ่งโม่เยี่ย “......”เจ้าห้าจะน่ารำคาญเกินไปแล้ว!เฟิ่งชูอิ่ง “......”นี่คือพระเอกในนิยายจริงๆ หรือ?ทั้งสองต่างก็พูดอะไรไม่ออกจิ่งโม่เยี่ยถามเฟิ่งชูอิ่ง “แกะออกมาได้ไหม?”เฟิ่งชูอิ่งไม่กล้าบอกเขาว่ายันต์ทั่วไปสามารถแกะออกมาได้เพียงแต่ตอนที่นางกำลังวาดยันต์พวกนี้ให้เขา นางรู้สึกรำคาญเขามากจึงแอบใส่ลูกไม้อะไรลงไปนิดหน่อยดังนั้นหลังจากแปะยันต์แผ่นนี้ไปแล้ว นอกจากจะแกะออกมาไม่ได้ ยังส่งผลข้างเคียงบางอย่างด้วยนางไม่คาดคิดจริงๆ ว่าสุดท้ายแล้วยันต์แผ่นนี้จะแปะอยู่บนตัวของจิ่งสือเยี่ยนนางส่ายหน้าเบาๆ ขณะเดียวกันจิ่งสือเฟิงก็เดินเข้ามาหาจิ่งสือเยี่ยนแล้วดึงเขาออกไป “ชะตาชีวิตของเขาเป็นอย่างไรเจ้าก็รู้ดีมิใช่หรือ เจ้าหัดตั้งสติเสียบ้างเถอะ!”เฟิ่งชูอิ่งเห็นสถานการณ์ตรงหน้าก็แอบเลิกคิ้วเบาๆจิ่งสือเยี่ยนทำท่าจะพูดบางอย่าง จิ่งสือเฟิงกลับไม่ยอมเปิดโอกาสให้เขาได้พูดแม้แต่คำเดียว ก็ลากตัวเขาออกไปทันทีเฟิ่งชูอิ่งแค่นเสียง ‘ชิ’

    Last Updated : 2024-07-16
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 109

    จิ่งโม่เยี่ย “......”จู่ๆ เขาก็นึกเสียใจที่วันนี้พานางเข้าวังมาด้วยเฟิ่งชูอิ่งพูดแบบนี้ไม่ได้มีความหมายแอบแฝงอะไรนางรู้ว่าในวังหลวงแห่งนี้เต็มไปด้วยอันตรายมากมาย การอยู่ข้างกายเขาย่อมปลอดภัยกว่าอย่างน้อยหากต้องมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับคนอื่น สองหัวย่อมต้องดีกว่าหัวเดียวอยู่แล้วจิ่งโม่เยี่ยหรี่ตาถามว่า “หลังจากออกจากวังเจ้าได้เจอดีแน่”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มแล้วตอบกลับ “เพคะ”ทั้งสองคนพูดคุยกระซิบกระซาบกันไปมา ในสายตาของคนนอกที่มองมาต่างก็เห็นคู่รักหวานแหวว มีเพียงพวกเขาสองคนที่เข้าใจว่าอยากจิกหัวอีกฝ่ายกันขนาดไหนจิ่งสือเฟิงลากจิ่งสือเยี่ยนออกมาแล้วสั่งสอนเขาชุดใหญ่ “เจ้าเป็นคนซื่อบื้อหรืออย่างไร?“ข้าบอกเจ้าตั้งกี่ครั้งกี่หนแล้วว่าให้อยู่ห่างๆ จิ่งโม่เยี่ยเอาไว้ ทำไมเจ้าถึงไม่เคยฟังกันบ้างเลย?”จิ่งสือเยี่ยนยกมือเกาท้ายทอยเบาๆ “ข้าคิดว่าพี่สามก็ออกจะเป็นคนดีนะ!”จิ่งสือเฟิงก็เผลอยกมือขึ้นเกาศีรษะตัวเองแบบไม่รู้ตัว เขารู้สึกว่าเรื่องนี้มันแปลกๆ แต่ก็ไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจเขาสั่งสอนจิ่งสือเยี่ยนอยู่สักพักก็กล่าวปิดท้ายว่า “เจ้ายืนสำนึกผิดอยู่ตรงนี้ไปเลยนะ!”จิ่งสือเยี่ยนปกติก็ค่อนข้างเกรงกลัว

    Last Updated : 2024-07-16
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 110

    ครั้งนี้เฟิ่งชูอิ่งเสียบได้อย่างประจวบเหมาะมาก จึงทำให้เขาเสียหลักพุ่งตัวออกไปด้านหน้าอย่างไม่อาจควบคุมการที่เขาพุ่งออกไปเช่นนี้ไม่นับว่าเป็นปัญหาอะไร ก็แค่เซไปข้างหน้าสองสามก้าวเท่านั้นทว่าจิ่งสือเฟิงไม่ใช่แค่นั้นน่ะสิ ตอนแรกเขาก็อยู่ใกล้กับพระสนมคนนั้นมากแล้ว พอร่างกายถูกพลักออกไปด้านหน้าสองสามก้าว เขาก็เลยชนเข้ากับด้านข้างของสนมนางนั้นเต็มๆมือของเขายังเผลอคว้าอากาศเบื้องหน้า จนบังเอิญแปะลงบนต้นขาของพระสนมคนนั้นพอดีจิ่งสือเฟิง “......”พระสนม “!!!!!”นางกำนัลขันทีที่อยู่แถวนั้นต่างตกละลึงจนยืนตัวแข็งทื่อ พวกเขาไม่รู้ว่าควรจะตอบสนองกับเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างไรพระสนมคนนั้นคิดไม่ถึงว่าเขาจะกล้าทำอะไรแบบนี้ ใบหน้าจึงแดงก่ำด้วยความอับอาย รีบถอยห่างออกไปอีกฝั่งเฟิ่งชูอิ่งใช้หางตาเหลือบมองเหตุการณ์ทางด้านนั้น ก่อนจะหันไปประคองจิ่งสือเยี่ยน “องค์ชายห้า ขอประทานอภัยเพคะ ข้าไม่ได้ตั้งใจให้เป็นอย่างนี้”นางกล่าวจบก็ใช้ปลายแหลมของลูกธนูจิ้มจุดลมปราณของเขาหนึ่งที ทำเขาเขาขากระตุกจนเดินสะดุดไปอีกสองสามก้าว เตะเป้าที่เป็นหม้อใส่ลูกดอกจนล้มคว่ำจิ่งสือเฟิงกำลังคิดจะเอ่ยขอโทษพระสนมคนนั้น บอกว่าเข

    Last Updated : 2024-07-16
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 111

    ตอนนี้เขาทำเรื่องผิดมหันต์ต่อหน้าธารกำนัล มิเท่ากับยื่นจุดอ่อนให้พวกเขาถึงมือหรอกหรือองค์ชายใหญ่จิ่งสืออวิ๋นผู้มีบรรดาศักดิ์อ๋องจ้าวรีบพาคนจำนวนหนึ่งเดินตรงไปทันที เอ่ยถามด้วยเสียงเคร่งขรึม “น้องรอง เจ้าทำบ้าอะไรกันน่ะ?”จิ่งสือเฟิงรีบร้อนตอบว่า “ข้าไม่ได้ทำอะไรเลย! เมื่อครู่นี้มีคนผลักข้า!”จิ่งสืออวิ๋นหัวเราะอย่างเย็นชา “มีคนผลักเจ้า? น่าตลกเสียจริง เมื่อครู่นี้พวกเราต่างก็เห็นกันหมด ด้านหลังเจ้าไม่มีใครอยู่สักคน”ขณะที่ทั้งสองคนกำลังถกเถียงกัน พระสนมคนโปรดก็วิ่งน้ำตานองหน้าไปฟ้องฮ่องเต้เจาหยวนจิ่งสือเยี่ยนคิดจะออกไปช่วยแก้สถานการณ์ เฟิ่งชูอิ่งกลับดึงแขนเสื้อของเขาแล้วกล่าวว่า “องค์ชายห้า ขออภัยเพคะ เมื่อครู่นี้ข้าไม่ได้ตั้งใจจริงๆ“ท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหม? ต้องเรียกหมอหลวงมาตรวจดูหรือไม่”เมื่อครู่นี้จิ่งสือเยี่ยนถูกนางใช้คมธนูแทงจนรู้สึกเจ็บแปลบเล็กน้อย แต่ตอนนี้มันไม่ได้เจ็บแล้วเขาจึงกล่าวว่า “ข้าไม่เป็นไร แผลเล็กน้อยแค่นี้ไม่ต้องเชิญหมอหลวงหรอก”เฟิ่งชูอิ่งทำหน้าสำนึกผิด “ข้านี่มันโง่ชะมัดเลย แค่ลูกธนูยังถือให้มั่นคงไม่ได้ ท่านถึงต้องเจ็บตัวเช่นนี้“ท่านลงโทษข้าเถอะ หลังจากนี้ไป

    Last Updated : 2024-07-16

Latest chapter

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 990

    เฟิ่งชูอิ่งยิ้มแล้วถามว่า “ทางที่ข้าชี้นำ เจ้ากล้าเดินตามหรือ?”เมื่อมาถึงตอนนี้แล้ว นางก็คร้านจะเสแสร้งต่อไปสีหน้าของจิ่งสือเยี่ยนแข็งค้างไปครู่หนึ่ง นางพูดอย่างเฉื่อยชาว่า “เพราะพวกเจ้าติดอยู่ที่นี่ คงรู้สึกหนาวเหน็บและหวาดกลัว”“เจ้าบาดเจ็บ ในสภาพอากาศหนาวเย็นเช่นนี้ แผลของเจ้าจะยิ่งทรุดหนัก”“เจ้ารีบร้อนมารวบรวมกำลังพลของกองกำลังอวี๋ซาน เจ้าคงไม่ได้พกอาหารมาด้วยมากนัก ดังนั้นตอนนี้พวกเจ้าคงหิวมากแล้ว”“ในสถานการณ์เช่นนี้ แค่ข้ากักขังพวกเจ้าไว้ที่นี่ ต่อให้ไม่หนาวตาย พวกเจ้าก็คงอดตายอยู่ดี”ขณะนี้หิมะขาวโพลนโปรยปรายไปทั่ว อากาศหนาวเหน็บ สภาพอากาศเช่นนี้คงจะดำเนินต่อไปเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนเป็นอย่างที่เฟิ่งชูอิ่งบอก พวกเขาเดินทางมาที่นี่โดยไม่ได้พกเสบียงอาหารแห้งหรืออะไรทำนองนั้นมาด้วยเลยด้วยเหตุนี้ตอนที่พวกเขาเดินวนจนครบรอบที่สาม เสบียงอาหารก็หมดลงตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว หลังจากตกกลางคืน อากาศจะยิ่งหนาวเย็นลง พวกเขาจะยิ่งลำบากมากขึ้นจิ่งสือเยี่ยนชักกระบี่ยาวออกมา “เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถบั่นคอเจ้าด้วยกระบี่เล่มนี้ได้!”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มหวานแล้วเอ่ยว่า “เอาเลย ฆ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 989

    เขาคลี่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ได้”หลังจากฆ่าจิ่งโม่เยี่ยแล้ว จะปล่อยนางไปหรือไม่ เรื่องนี้เขาจะเป็นคนตัดสินใจนางเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขารู้สึกชอบจริงๆ และนางก็เป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขารู้จักกับความล้มเหลวเขารู้ว่านางมีวิธีการบางอย่างที่คนทั่วไปไม่มี ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าประมาท เขาจะป้อนยาที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงให้นางกินทุกวันเฟิ่งชูอิ่งรู้ทันความคิดของเขา และยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดีขณะที่ในใจของนางกำลังครุ่นคิด ครั้งที่แล้วโดนไปขนาดนั้นยังรอดมาได้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องหาโอกาสฆ่าเขาให้ตายสนิทแบบไม่มีสิทธิ์ฟื้นขึ้นมาอีกนางพลันนึกถึงเรื่องที่เหมยตงยวนวิญญาณแหลกสลายหลังจากรู้ข่าวการตายของเฟิ่งชิงหลิง จิตใจนางจึงหม่นหมองตามไปด้วยนางรู้ว่าเหมยตงยวนรักเฟิ่งชิงหลิงอย่างสุดซึ้ง แต่ไม่คิดว่านั่นจะเป็นรากฐานที่ทำให้เขามีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้เพราะนางเห็นความรักของพวกเขา นางจึงยิ่งรู้ชัดว่าตัวเองมีความรู้สึกแบบไหนต่อจิ่งโม่เยี่ยในเมื่อรักแล้ว ก็ต้องรักให้สุดหัวใจอย่าได้ทำเรื่องที่ทำให้ตัวเองเสียใจและทำให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจผิดอีกจิ่งสือเยี่ยนไม่ได้ไปตามล่าจิ่งโม่เยี่ยโดยตรง เขาวางแผนท

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 988

    เฟิ่งชูอิ่งเหลือบมองเขา ตอนนี้บนใบหน้าของเขามีบาดแผลเลือดไหลซึมอยู่หลายแห่ง น่าจะเป็นฝีมือของปลากินคนองคาพยพทั้งห้าที่เคยดูสดใสร่าเริงของเขา กลับดูดุร้ายน่ากลัวขึ้นหลายส่วนเมื่อมีรอยฟันปลาเหล่านั้นนางเอ่ยอย่างปลงตก “เจ้านี่หนังเหนียวจริงๆ นะ เจอขนาดนี้แล้วยังไม่ตายอีก”สมกับเป็นพระเอกของเรื่อง เป็นผู้มีบุญวาสนาโดยแท้ตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนเหนื่อยจะแสร้งทำเป็นสดใสร่าเริงแล้ว เขามองนางด้วยสายตามืดดำ “เจ้าคงผิดหวังมากสินะ?”“จิ่งโม่เยี่ยรักเจ้ามากขนาดนั้น หากเจ้าตกอยู่ในเงื้อมมือของข้า เดาสิว่าเขาจะทำอย่างไร?”เฟิ่งชูอิ่งครุ่นคิดอย่างจริงจังก่อนจะตอบว่า “คิดไม่ออก เจ้าลองเดาเองไหม?”จิ่งสือเยี่ยนจ้องมองนาง พยายามมองมาความหวาดกลัว ความวิตกกังวลจากสีหน้าของนาง แต่กลับไม่พบอะไรเลยแววตาของเขาหม่นลงเล็กน้อย “ถ้าข้าใช้เจ้าแลกกับใต้หล้าแห่งนี้ คิดว่าจิ่งโม่เยี่ยจะยอมไหม?”เฟิ่งชูอิ่งครุ่นคิดอย่างจริงจังอีกครั้ง “คงไม่มั้ง ถึงเขาจะยอม เจ้าก็คงไม่ปล่อยข้าและเขาให้มีชีวิตอยู่ต่อไปหรอก”“สุดท้ายเราสองคนก็คงต้องตายด้วยน้ำมือเจ้า ดังนั้นเขาคงไม่ยอมแลกหรอก”พูดจบนางก็บอกกับจิ่งสือเยี่ยนอีกว

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 987

    เพียงแต่เขาดูแข็งแกร่งเกินไป แล้วยังมีวิชาเต๋าที่แกร่งกล้าคอยค้ำจุนเอาไว้ เขาไม่ยอมแสดงด้านที่อ่อนแอให้นางเห็น นางก็เลยไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้มาก่อนนางรู้ว่าความปรารถนาอันแรงกล้าที่สุดในใจของเขาคือเฟิ่งชิงหลิง ตอนนี้พอรู้ว่าเฟิ่งชิงหลิงวิญญาณแหลกสลายไปแล้ว ปณิธานดังกล่าวก็เลือนหายไปด้วยที่เขาทนมาได้จนถึงทุกวันนี้ ล้วนเป็นเพราะความปรารถนานั้น ตอนนี้ไม่เหลืออะไรให้ยึดเหนี่ยวอีกแล้วจิ้งจอกสือซานเหนียงก็ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ นางมองดูแสงดาวที่สลายไปของเหมยตงยวนอย่างเหม่อลอย แล้วถอนหายใจยาวนางเป็นปีศาจจิ้งจอก คิดว่าตัวเองเข้าใจด้านมืดของจิตใจมนุษย์แต่ตอนนี้นางกลับรู้สึกว่า ความรักที่ซ่อนเร้นไว้ มักจะถูกคนอื่นประเมินค่าต่ำไปสิ่งที่นางคิดว่าเป็นความเฉยชา กลับเต็มไปด้วยความรักที่ลึกซึ้งที่สุดในโลกความปรารถนาเดิมของนางคือการฆ่าเหมยตงยวน แต่ตอนนี้เหมยตงยวนตายไปแล้ว นางกลับรู้สึกเสียใจอย่างมากระหว่างที่ทั้งสองจมอยู่ในความโศกเศร้า ไม่ทันสังเกตเห็นว่ามีคนแอบเข้ามาใกล้กว่าเฟิ่งชูอิ่งจะรับรู้ถึงความผิดปกติที่คืบคลานเข้ามา ก็สายเกินไปเสียแล้ว มีฝ่ามือสับลงที่สันคอของนางอย่างแรงนางหันก

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 986

    เฟิ่งชูอิ่งรีบหยิบยันต์ออกมาแผ่นหนึ่งแปะลงบนตัวเหมยตงยวน เพื่อระงับโทสะและพลังอำนาจด้านมืดที่พลุ่งพล่านออกมาจากตัวเขานางร้องเรียกด้วยความเป็นห่วง “ท่านพ่อ!”แต่เหมยตงยวนไม่ได้หันมองนาง เพียงพึมพำว่า “ข้าเป็นคนฆ่าเฟิ่งชิงหลิง ข้าเป็นคนทำให้นางต้องตาย!”“ตอนนั้นทำไมข้าต้องออกไปทำภารกิจด้วย ข้าควรจะฆ่าเจ้าสำนักให้เร็วกว่านี้”เดิมทีจิ้งจอกสือซานเหนียงมั่นใจว่าเฟิ่งชิงหลิงถูกเขาฆ่าตาย แต่เมื่อเห็นสภาพเขาเช่นนี้ก็รู้ว่าตนเองคิดผิดเพราะเฟิ่งชิงหลิงวิญญาณสลายไปแล้ว เหมยตงยวนก็ตายไปแล้วเช่นกันในสถานการณ์เช่นนี้ เหมยตงยวนไม่จำเป็นต้องหลอกนางอีกจิ้งจอกสือซานเหนียงฝึกฝนอย่างหนักตลอดหลายปีมานี้ก็เพื่อฆ่าเหมยตงยวน แต่ตอนนี้นางกลับพบว่า ความเกลียดชังที่นางมีต่อเหมยตงยวนมานานหลายปีกลับสูญเปล่าตอนนี้นางรู้สึกสับสน ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไปนางพูดด้วยน้ำตาคลอเบ้า “ในเมื่อเจ้ามีคุณหนูอยู่ในใจ ทำไมตอนนั้นถึงไม่แสดงออกให้ชัดเจนกว่านี้?”“คุณหนูเคยคิดว่าเจ้าไม่เคยรักนางสักนิด ซ้ำยังคิดว่าเจ้าเกลียดชังนางด้วย”ตอนที่เฟิ่งชิงหลิงยังมีชีวิตอยู่ นางคิดมาตลอดว่าสาเหตุที่เหมยตงยวนบุกเข้าไปในดินแ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 985

    “เจ้าสำนักมีของวิเศษชิ้นหนึ่ง สามารถเปลี่ยนร่างเป็นคนอื่นได้ตามใจชอบ”“ข้าถูกเขาเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก จึงรู้จักข้าดีที่สุด ดังนั้นการที่เขาจะเปลี่ยนร่างเป็นข้าจึงเป็นเรื่องง่ายมาก”เมื่อได้ยินดังนั้นทั้งเฟิ่งชูอิ่งและจิ้งจอกสือซานเหนียงก็ตกตะลึงเหมยตงยวนกำมือแน่น “ข้าคือผู้ที่เขาเลือกเฟ้นอย่างดีให้เป็นเจ้าสำนักคนต่อไป”“เขาคิดว่าการจะเป็นเจ้าสำนักได้ต้องตัดเยื่อใยไร้ความรัก เมื่อเฟิ่งชิงหลิงตาย ข้าก็จะไม่มีพันธะใดๆ ในโลกนี้อีก ตอนนั้นข้าถึงจะคู่ควรกับตำแหน่งเจ้าสำนักลี้ลับ”“แต่ก่อนหน้านี้ข้าเคยทะเลาะกับเขาอย่างรุนแรงเรื่องของชิงหลิง เขาจึงไม่กล้าลงมือทำอะไรอีก”“แต่ข้าไม่คิดเลยว่าเขาจะทำเรื่องเลวทรามต่ำช้าเช่นนี้!”ก่อนออกไปทำภารกิจ เขาแอบไปเยี่ยมเฟิ่งชิงหลิง พบว่าอาการของนางดีขึ้นมากแล้วด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงวางใจออกไปทำภารกิจด้านนอกแต่เมื่อเขาย้อนกลับมาอีกครั้ง นางก็จากไปแล้วเหมยตงยวนเคยติดใจสงสัยเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน แต่เพราะเขาสืบไม่พบเบาะแสใดใดยิ่งไปกว่านั้น หลังจากเฟิ่งชิงหลิงเสียชีวิตแล้ว เขาก็หาดวงวิญญาณของนางไม่พบ จึงคิดไปว่านางคงไม่อยากเห็นหน้าเขาอีกต่อไปใน

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 984

    เหมยตงเหยวนรีบเถียงว่า “ข้าเคยวางยาพิษนางตอนไหนกัน?”จิ้งจอกสือซานเหนียงหัวเราะเยาะ “เจ้ายังกล้าปฏิเสธอีก เจ้านี่มันเลวถึงแก่นจริงๆ!”สิ้นเสียง นางก็เหวี่ยงดาบในมือรวดเร็วยิ่งกว่าเดิมเฟิ่งชูอิ่งทนดูไม่ได้ จึงหาโอกาสแปะยันต์ตรึงกายาใส่จิ้งจอกสือซานเหนียงจิ้งจอกสือซานเหนียงขยับเขยื้อนไม่ได้ นางจึงเอ่ยด้วยความเดือดดาล “แกะยันต์ออกไป ข้าจะฆ่าไอ้คนทรยศนี่เพื่อแก้แค้นให้คุณหนู!”เฟิ่งชูอิ่งนวดขมับ “ถ้าเจ้าสงบพอจะพูดคุยกันอย่างมีสติได้เมื่อไหร่ ข้าจะปล่อยเจ้าเอง”“หากพ่อข้าเป็นอย่างที่เจ้าพูดจริงๆ คงไม่ลำบากตามหาแม่ข้าจนถึงทุกวันนี้ แล้วก็คงใช้กระบี่ปลิดชีพเจ้าไปนานแล้ว”จิ้งจอกสือซานเหนียงโมโหจนหอบหายใจรุนแรง ก่อนจะกัดฟันตอบว่า “ก็ได้ ข้าอยากจะฟังเหมือนกันว่าเขาจะแก้ตัวอย่างไร!”ในใจของเหมยตงยวนเต็มไปด้วยความสับสนงุนงง เขาเอ่ยถามว่า “เจ้าบอกว่าข้าวางยาพิษชิงหลิง มีหลักฐานหรือไม่? อยู่ดีๆ ข้าจะวางยาพิษนางเพื่ออะไรกันล่ะ?”จิ้งจอกสือซานเหนียงเบ้ปากใส่ “เจ้ายังกล้าถามเช่นนี้อีก หน้าด้านจริงๆ!”“ตอนแรกที่คุณหนูล้มป่วย เจ้าเป็นคนส่งยามาให้นางกินทุกวัน ซึ่งตอนนั้นอาการของคุณหนูก็ดีขึ้น

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 983

    ก่อนหน้านี้นางได้ยินข่าวว่าเหมยตงยวนถูกฆ่าตายแล้ว นางรู้สึกสะใจมาก แต่ก็ยังรู้สึกว่าแค่นี้มันยังไม่พอคนอย่างเหมยตงยวนสมควรวิญญาณแตกสลายไม่ได้ผุดได้เกิด!เพียงแต่นางรู้ดีว่าเหมยตงยวนนั้นเก่งกาจมาก ถึงแม้เขาจะตายไปแล้วก็ยังคงแข็งแกร่งอยู่ดังนั้นนางจึงยิ่งฝึกฝนอย่างหนัก เพื่อเพิ่มพลังปีศาจของตัวเองให้แกร่งกล้า นางถึงขั้นยอมใช้วิธีการที่ผิดบาป เมื่อครู่นี้นางได้ยินพวกนักพรตพูดว่าเหมยตงยวนใช้กระบี่เพียงเล่มเดียวสังหารเจ้าอาราม และใช้พลังของตนเองเพียงอย่างเดียว ขวางคนของอารามเทียนอี้ทั้งหมดไว้ได้จิ้งจอกสือซานเหนียงยอมรับว่านางไม่มีความสามารถเช่นนี้ เหมยตงยวนคนนี้แข็งแกร่งกว่าในความทรงจำของนางมากการจะฆ่าเหมยตงยวนนั้นยากกว่าที่นางคาดการณ์เอาไว้เฟิ่งชูอิ่งขมวดคิ้ว "พ่อข้าจะวางยาพิษฆ่าแม่ข้าได้อย่างไร?"จิ้งจอกสือซานเหนียงมองเฟิ่งชูอิ่งแล้วบอกว่า "นอกจากเจ้าจะพบกับเหมยตงยวนแล้ว ยังหลงเชื่อคำพูดของเขาด้วยสินะ”"ตอนแรกคุณหนูไม่มีทางตายได้หรอก ถ้าไม่ใช่เพราะดื่มยาพิษที่เขาส่งมาให้ นางจะถูกพิษเล่นงานจนตายได้อย่างไร”"หลังจากคุณหนูตายไปแล้ว วิญญาณของนางก็น่าจะกลับไปยังปรโลก หรือเร่รอน

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 982

    ตอนนี้ผิวน้ำเปื้อนไปด้วยเลือด ปลากินคนก็ยิ่งคลั่งหนัก พากันแหวกว่ายไปรวมตัวตรงจุดที่มีเลือดผุดขึ้นมากระดาษยันต์ไฟในมือของเฟิ่งชูอิ่งมอดดับลง พวกเขามองไม่เห็นสถานการณ์บนผิวน้ำอีกต่อไปแต่ในสถานการณ์เช่นนี้ ความน่าจะเป็นที่จิ่งสือเยี่ยนจะรอดชีวิตนั้นมีน้อยมากเนื่องจากจิ่งสือเยี่ยนเป็นพระเอกของเรื่อง เป็นผู้มีบุญญาธิการอย่างแท้จริง ตอนนี้ยังไม่เห็นศพของเขา เฟิ่งชูอิ่งก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะตายจริงหรือไม่เพราะจิ่งสือเยี่ยนตอนที่ถูกจิ้งจอกสือซานเหนียงดูดพลังไปเกือบหมด ยังสามารถหนีออกมาจากเงื้อมมือของนางได้ แล้วยังดวงดีบังเอิญไปเจอทางออกลับอีกเส้นด้วยโชคชะตาของเขาช่างแข็งแกร่งจริงๆเพื่อความปลอดภัย นางรู้สึกว่าพวกเขาควรจะต้องป้องกันไว้ก่อน “ถ้าจิ่งสือเยี่ยนยังมีชีวิตอยู่ เขาจะต้องหาวิธีติดต่อกับคนของเขาอย่างแน่นอน”จิ่งโม่เยี่ยพยักหน้า “ข้าจะส่งคนไปดักเขาที่ทางออกของแม่น้ำใต้ดิน”“ถ้าหากยังมีชีวิตอยู่ต้องเห็นคน ตายแล้วต้องเห็นศพ”เฟิ่งชูอิ่งเห็นด้วยกับวิธีการของเขาเรื่องเสี่ยงอันตรายอย่างการไปดักฆ่าจิ่งสือเยี่ยน ไม่จำเป็นต้องให้เฟิ่งชูอิ่งเข้าร่วมด้วยหลังจากที่จิ่งโม่เยี่ยออกมาจา

DMCA.com Protection Status