Share

บทที่ 111

Author: ดอกถังร่วงหล่น
ตอนนี้เขาทำเรื่องผิดมหันต์ต่อหน้าธารกำนัล มิเท่ากับยื่นจุดอ่อนให้พวกเขาถึงมือหรอกหรือ

องค์ชายใหญ่จิ่งสืออวิ๋นผู้มีบรรดาศักดิ์อ๋องจ้าวรีบพาคนจำนวนหนึ่งเดินตรงไปทันที เอ่ยถามด้วยเสียงเคร่งขรึม “น้องรอง เจ้าทำบ้าอะไรกันน่ะ?”

จิ่งสือเฟิงรีบร้อนตอบว่า “ข้าไม่ได้ทำอะไรเลย! เมื่อครู่นี้มีคนผลักข้า!”

จิ่งสืออวิ๋นหัวเราะอย่างเย็นชา “มีคนผลักเจ้า? น่าตลกเสียจริง เมื่อครู่นี้พวกเราต่างก็เห็นกันหมด ด้านหลังเจ้าไม่มีใครอยู่สักคน”

ขณะที่ทั้งสองคนกำลังถกเถียงกัน พระสนมคนโปรดก็วิ่งน้ำตานองหน้าไปฟ้องฮ่องเต้เจาหยวน

จิ่งสือเยี่ยนคิดจะออกไปช่วยแก้สถานการณ์ เฟิ่งชูอิ่งกลับดึงแขนเสื้อของเขาแล้วกล่าวว่า “องค์ชายห้า ขออภัยเพคะ เมื่อครู่นี้ข้าไม่ได้ตั้งใจจริงๆ

“ท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหม? ต้องเรียกหมอหลวงมาตรวจดูหรือไม่”

เมื่อครู่นี้จิ่งสือเยี่ยนถูกนางใช้คมธนูแทงจนรู้สึกเจ็บแปลบเล็กน้อย แต่ตอนนี้มันไม่ได้เจ็บแล้ว

เขาจึงกล่าวว่า “ข้าไม่เป็นไร แผลเล็กน้อยแค่นี้ไม่ต้องเชิญหมอหลวงหรอก”

เฟิ่งชูอิ่งทำหน้าสำนึกผิด “ข้านี่มันโง่ชะมัดเลย แค่ลูกธนูยังถือให้มั่นคงไม่ได้ ท่านถึงต้องเจ็บตัวเช่นนี้

“ท่านลงโทษข้าเถอะ หลังจากนี้ไป
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
โบ้ โบ้
อิพี่อยากจะบอกน้องชายมากนั้นนางเอกเราแค่เสแสร้ง......
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 112

    เขาบรรลุอย่างถ่องแท้ว่าเฟิ่งชูอิ่งเป็นนักแสดงละครตัวยง จิ่งสือเยี่ยนเพิ่งจะได้พบนางวันนี้ครั้งแรก ก็ยอมเอ่ยปากช่วยนางถึงเพียงนี้แล้วเขาจึงตอบรับเสียงเฉยชาว่า “ได้”จิ่งสือเยี่ยนทำท่าเหมือนจะพูดอะไรต่อ เฟิ่งชูอิ่งที่อยู่ข้างๆ กลับกระตุกชายอาภรณ์ของเขา “องค์ชายห้า ท่านอย่าต่อว่าท่านอ๋องเช่นนั้นเลยเพคะ“ท่านอ๋องทรงดีกับข้ามากเลย เขาก็แค่แสดงออกไม่เก่งเท่านั้นเอง”จิ่งสือเยี่ยนมองนางอย่างหมดคำพูด แบบนี้ยังเรียกว่าดีมากอีกหรือ?เขาสูดหายใจลึกๆ หนึ่งครา แต่ก็รู้ดีว่านี่เป็นเรื่องระหว่างพวกเขาสองคน ตนเองเข้าไปยุ่งเกี่ยวมากไม่ได้เขาหันมองจิ่งโม่เยี่ยแวบหนึ่งด้วยสีหน้าหนักอกหนักใจเขาคิดว่าพี่สามคนนี้เป็นโสดได้ด้วยความสามารถของตนเองล้วนๆ แม่นางเฟิ่งก็ช่างน่าสงสารเหลือเกินแต่เพราะเขาเพิ่งจะได้พบกับเฟิ่งชูอิ่งวันนี้ครั้งแรก การออกตัวช่วยอีกฝ่ายมากเกินไปจะดูไม่ดีเขาหันมองเฟิ่งชูอิ่งด้วยท่าทางเห็นอกเห็นใจ ก่อนจะเดินจากไปอีกทางเฟิ่งชูอิ่งเห็นสีหน้าท่าทางของเขาก็รู้สึกเสียดายอย่างมาก ปฏิกิริยาตอบโต้ของจิ่งสือเยี่ยนในวันนี้ทำให้นางประหลาดใจมากจริงๆ การกระทำของนางในวันนี้ นอกจากจะเพื่อเล่นงานจิ่ง

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 113

    ตอนที่ทั้งสองคนมาถึงตำหนักสือหนิง ด้านในตำหนักก็เละเทะวุ่นวายไปหมดแล้วพระสนมคนนั้นร้องห่มร้องไห้อยู่ตรงหน้าฮ่องเต้เจาหยวนและกำลังฟ้องอะไรบางอย่าง ส่วนจิ่งสือเฟิงก็คุกเข่าอยู่ข้างๆ จิ่งสือเยี่ยนยืนอยู่ตรงมุมตำหนัก ทำตัวเหมือนอากาศธาตุเฟิ่งชูอิ่งกระซิบบอกจิ่งโม่เยี่ย “ท่านอ๋อง ช่วยอะไรข้าสักหน่อยได้ไหม?”จิ่งโม่เยี่ยเหลือบมองนาง นางจึงกระซิบว่า “ท่านช่วยสกัดจุดองค์ชายห้า ให้เขาเคลื่อนไหวไม่ได้ชั่วคราวได้ไหม?”หากตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนขยับตัวแล้วจิ่งสือเฟิงขยับตามเขาทุกอย่างภายในตำหนักเล็กๆ แห่งนี้ การที่คนสองคนเคลื่อนไหวเหมือนกันทุกอย่างจะสะดุดตาเกินไป ซึ่งมันอาจจะสร้างปัญหาให้จิ่งสือเยี่ยนได้นางคิดว่าตนเองเป็นคนรู้จักขอบเขต นางคิดว่าจิ่งสือเยี่ยนเป็นคนดีอยู่ไม่น้อย จึงไม่อยากลากเขามาซวยด้วยจิ่งโม่เยี่ยเอ่ยถามเสียงเย็นชา “ทำไมข้าจะต้องช่วยเจ้าด้วย?”เขาในตอนนี้พอจะสรุปได้แล้วว่ายันต์เหล่านั้นให้ผลลัพธ์อย่างไรบ้าง ย่อมต้องเดาความคิดของนางออกเขารู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย แล้วก็มั่นใจได้เรื่องหนึ่ง นั่นคือจิ่งสือเยี่ยนมีความสำคัญต่อนางไม่น้อยเลยทีเดียวเฟิ่งชูอิ่งตอบกลับว่า “ยันต์ที่ไม่มีปัญ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 114

    เฟิ่งชูอิ่งนึกอยากจะช่วยเหลือจิ่งสือเฟิงแก้ตัว แต่นางไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะช่วยพูดอะไรแทนเขาได้ การออกตัวแทนยังอาจจะนำภัยมาสู่ตัวได้ด้วยจิ่งสือเยี่ยนสูดหายใจลึกๆ แล้วตอบว่า “ทูลเสด็จพ่อ ขอที่เสด็จพ่อปามา ลูกมิกล้าหลบพ่ะย่ะค่ะ ยินดีรับการลงโทษแทนเสด็จพี่รอง”เฟิ่งชูอิ่งลอบยกนิ้วโป้งในเขาในใจเงียบๆ เห็นเขาท่าทางสดใสร่าเริงเหมือนคนไร้เล่ห์เหลี่ยม ทว่าสมองกลับปราดเปรื่องไม่เลวเลยอย่างที่คิดเลย ในราชวงศ์แห่งนี้ น่ากลัวว่าต่อให้เป็นคนที่ดูใสซื่อมากที่สุด ก็ยังมีความเจ้าเล่ห์เล็กๆ ติดตัวอยู่ดี ประโยคนี้ของเขานอกจากจะประจบเอาใจฮ่องเต้เจาหยวนแล้ว ยังสามารถซื้อน้ำใจจากจิ่งสือเฟิงได้ด้วยฮ่องเต้เจาหยวนพึงพอใจคำตอบของเขามาก ในบรรดาลูกชายทั้งหมดของเขา จิ่งสือเยี่ยนเป็นคนที่ซื่อสัตย์มากที่สุดเขาจึงกล่าวว่า “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเจ้า รีบเช็ดเลือดเถอะ”จิ่งสือเยี่ยนตอบรับหนึ่งคำ แต่กลับไม่อาจเช็ดเลือดตัวเองได้ฮ่องเต้เจาหยวนเป็นท่าทางโง่เขลาของเขาก็ไม่อยากจะทนมองอีกต่อไป แต่การกระทำของจิ่งสือเยี่ยนกลับทำให้ฮ่องเต้เจาหยวนรู้สึกใจอ่อนลงเล็กน้อยเขากล่าวกับจิ่งสือเฟิงว่า “เจ้ายังมีอะไรจะพูดอีกไหม?”ฮ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 115

    จิ่งสือเฟิงรีบโขกศีรษะขอบพระทัยไทเฮา เรื่องนี้จึงผ่านพ้นไปด้วยดีหัวหน้านางกำนัลจึงเข้ามาสอบถามไทเฮาว่าต้องการเริ่มงานเลี้ยงเลยหรือไม่ ไทเฮาพยักหน้ารับ คนทั้งหมดจึงพากันไปนั่งประจำที่เฟิ่งชูอิ่งจึงหันไปขยิบตาให้จิ่งโม่เยี่ย เขาจึงช่วยคลายการสกัดจุดให้จิ่งสือเยี่ยนจิ่งสือเยี่ยนที่รู้สึกว่าร่างการสามารถขยับเขยื้อนได้แล้วจึงยกมือขึ้นเช็ดเลือดที่จมูก ทำให้จิ่งสือเฟิงยกมือขึ้นมาลูบหน้าตัวเองไปด้วยซึ่งการกระทำของเขากลับกลายเป็นการเช็ดน้ำตาในมุมมองของฮ่องเต้เจาหยวนฮ่องเต้เจาหยวนพลันคิดว่าเขาไม่ได้เรื่องเอาเสียเลย เป็นผู้ชายแท้ๆ กลับร้องห่มร้องไห้แบบนี้ มันใช้ได้ที่ไหนกันด้วยเหตุนี้เอง ฮ่องเต้เจาหยวนจึงมีความคิดเห็นต่อจิ่งสือเฟิงแย่ลงกว่าเดิมหนึ่งส่วนฮ่องเต้เจาหยวนหันมองไปทางจิ่งสือเยี่ยนที่ยังเช็ดคราบเลือดอยู่ เขาคิดว่าอีกฝ่ายเป็นคนที่รู้ความ แต่ว่าซื่อตรงเกินไปหน่อยหลังจากทุกคนเข้าประจำที่ ไทเฮาก็กวักมือเรียกเฟิ่งชูอิ่ง “เจ้ามานั่งข้างๆ ข้าเถอะ”ฮ่องเต้เจาหยวนได้ยินเช่นนั้นก็หันไปมองเฟิ่งชูอิ่ง นัยน์ตาของเขาสงบนิ่งจนยากจะคาดเดาไทเฮากล่าวกับฮ่องเต้เจาหยวนว่า “เจ้าพระราชทานสมรสให้เยี่ย

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 116

    นับตั้งแต่เกิดเรื่องที่กรมราชทัณฑ์ นางก็รู้สึกติดใจสงสัยมาโดยตลอด หลังจากจบเรื่องแล้วนางจึงส่งคนไปตรวจสอบที่กรมราชทัณฑ์สภาพด้านในมีแต่เรื่องแปลกพิสดารเต็มไปหมด บรรดาขันทีที่ทำงานในกรมราชทัณฑ์ล้วนตายอย่างน่าสยดสยองขุนนางจากศาลต้าหลี่มาตรวจสอบแล้วยังบอกว่าคนเหล่านั้นตายแปลกประหลาดเกินไป เป็นการตายแบบผิดปกตินักพรตจากสำนักโหรหลวงบอกว่าคืนนั้นในวังหลวงมีการกระเพื่อมของไอมังกร ทิศทางตรงไปที่กรมราชทัณฑ์ คาดว่าคืนนั้นจะต้องมีวิญญาณร้ายอาละวาดอยู่ในกรมราชทัณฑ์ซึ่งในคืนนั้นคนที่รอดออกมาจากกรมราชทัณฑ์ได้มีเพียงเฟิ่งชูอิ่งและจิ่งโม่เยี่ย จิ่งโม่เยี่ยน่าจะเข้าไปเพียงครู่เดียวก็ออกมาเลย คนที่อยู่ด้านในมาตั้งแต่แรกคือเฟิ่งชูอิ่งแล้ววันนี้พอเฟิ่งชูอิ่งเข้าวังมา จิ่งสือเฟิงก็ทำตัวผิดปกติทันทีนางสงสัยอย่างยิ่งว่าเรื่องที่เกิดกับจิ่งสือเฟิงในวันนี้จะเกี่ยวข้องกับเฟิ่งชูอิ่ง แต่นางไม่มีหลักฐานแล้วยามนี้ไทเฮายังปกป้องเฟิ่งชูอิ่งอีก นางคงลงมือได้ลำบาก จึงต้องทนข่มความอัดอั้นเอาไว้ชั่วคราวมื้ออาหารภายในงานเลี้ยงครานี้ ผู้คนทั้งหลายต่างดื่มกินกันด้วยความคิดที่แตกต่าง นอกจากไทเฮาแล้ว แต่ละคนก็แทบจะไม่อ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 117

    หลังจากพวกเขาออกไปแล้ว ไทเฮาก็ทรงพระสรวลเบาๆ หันไปคุยกับนางกำนัลอาวุโสข้างกาย “เจ้าคิดว่าพวกเขาเหมาะสมกันหรือไม่?”นางกำนัลอาวุโสตอบกลับยิ้มๆ “เหมาะสมมากเพคะ”ไทเฮาพรูลมหายใจยาวแล้วเอ่ย “การแก่งแย่งกันในครอบครัว ช่างน่าสะเทือนใจยิ่งนัก“ข้าแก่แล้ว เรื่องหลายอย่างแม้มีใจก็ไม่มีแรงจะทำ“ตอนนี้ข้าหวังเพียงแค่เยี่ยเอ๋อร์จะมีชีวิตอยู่นานกว่าข้าสักหน่อย ข้าไม่อยากจะสัมผัสความเจ็บปวดของคนผมขาวยืนส่งคนผมดำอีกแล้ว”คำพูดของนางแฝงไว้ด้วยความลับอันยิ่งใหญ่ของราชวงศ์ นางกำนัลอาวุโสจึงไม่เอ่ยอะไร แล้วก็ไม่กล้าเอ่ยด้วย เพียงยิ้มรับบางๆไทเฮาก็ไม่คิดจะเอ่ยถึงเรื่องนี้อีก นางกล่าวอย่างมีความสุขว่า “เรื่องในวันนี้ แปดส่วนต้องเป็นฝีมือของชูอิ่ง“เด็กสาวคนนี้ดูเหมือนจะมีกลอุบายที่ไม่มีใครล่วงรู้ แล้วยังเสแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ได้อย่างแนบเนียนอีก ข้าถูกใจมากจริงๆ”ความจริงแล้ววันนี้ไทเฮาไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติอะไรเลยแต่นางตระหนักดีว่าจิ่งสือเฟิงไม่มีทางกล้าลงมือทำเรื่องแบบนั้นกับพระสนมในวังหลังอย่างแน่นอนกลอุบายทั้งหลายที่คนในวังใช้กันนางก็รู้จักเป็นอย่างดี ใครบ้าดีเดือดพอจะเลือกใช้วิธีการแบบนั้นง

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 118

    เฟิ่งชูอิ่งได้ยินเสียงดังกล่าวก็เผลอเลิกคิ้วเบาๆ เพราะนางจำได้ว่านั่นคือเสียงของจิ่งสือเฟิงดวงตาดอกท้อของจิ่งโม่เยี่ยแข็งกร้าวเล็กน้อย นัยน์ตาของเขาแฝงไว้ด้วยความรำคาญหลายส่วนเฟิ่งชูอิ่งเห็นท่าทางของเขาเช่นนั้น ก็ทราบทันทีว่ากำลังจะมีงิ้วดีเกิดขึ้นอีกแล้วนางรู้สึกตื่นเต้นจนเผลอเลียปากตัวเองเล็กน้อยการกระทำดังกล่าวทำให้ทั้งสองคนหยุดชะงักไปครู่หนึ่งเพราะว่ามือของจิ่งโม่เยี่ยปิดทับปากของนางอยู่ พอนางแลบลิ้นเลียเช่นนี้เลยโดนมือของเขาด้วยจิ่งโม่เยี่ยรู้สึกว่ามีบางอย่างที่นุ่มนิ่มและเปียกชื้นลากผ่านกลางฝ่ามือของเขาไป ซึ่งการสัมผัสแบบนี้ทำให้เขาถูกกระตุ้นอย่างรุนแรงความทรงจำหนึ่งพลันผุดขึ้นในสมองของเขา ครั้งก่อนเขาคิดจะลองชิมรสชาติของนางดู จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่สมปรารถนาเลยคราวนี้เขาไม่คิดจะอดทนอีกแล้วเขาคว้านางเข้ามาไว้ในอ้อมแขน คลายมือที่ปิดปากของนางออกแล้วก้มลงไปจูบนางแบบแอบดุดันเฟิ่งชูอิ่ง “......”เฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”นางคิดว่าเขาต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ!ตอนนี้จิ่งสือเฟิงกำลังยืนรอหาเรื่องเขาอยู่ข้างนอก เขากลับเสียสติเกิดอยากจะลวนลามนางขึ้นมาเสียอย่างนั้นอย่างที่คิดเลย เรื่องที่คนบ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 119

    เมื่อครู่นี้ยังจูบนางอยู่เลยแท้ๆ ผ่านไปครู่เดียวก็ไล่นางลงจากรถแล้วการกระทำของเขาโดยเนื้อแท้แล้วไม่ต่างจากการได้แล้วทิ้งเลยสักนิดจิ่งโม่เยี่ยเห็นนางนั่งนิ่งไม่ขยับ จึงปรายตามองนางอย่างเหนื่อยหน่าย “อย่าให้ข้าต้องพูดเป็นครั้งที่สอง”เฟิ่งชูอิ่งสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วเอ่ยเสียงต่ำว่า “ถ้าเก่งนักทีหลังก็ไม่ต้องมาหาข้าอีก!”นางกล่าวจบก็สะบัดแขนเสื้อกระโดดลงจากรถม้าไปเหมือนเช่นครั้งก่อน ทันทีที่ขาของนางแตะพื้น รถม้าก็แทบจะพุ่งทะยานออกไปราวกับบินได้เฟิ่งชูอิ่งลอบด่าบรรพบุรุษสิบแปดรุ่นของเขาในใจอีกครั้งจิ่งสือเฟิงที่โกรธจัดยิ่งกว่านางตะเกียกตะกายขึ้นมาจากพื้น ก่อนจะกระทืบเท้าด้วยความโมโห “จิ่งโม่เยี่ย เจ้ากลับมาเดี๋ยวนี้นะ!”รถม้าของจิ่งโม่เยี่ยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดแม้แต่น้อย มันวิ่งฉิวออกไปอย่างไรเยื่อใยจิ่งสือเฟิงโกรธจนแทบบ้า เฟิ่งชูอิ่งจึงปลอบใจเขาด้วยความหวังดีว่า “ท่านอ๋องเฉิน ท่านอ๋องฉู่ทรงจากไปไกลแล้วเพคะ ท่านด่าไปเขาก็ไม่ได้ยินหรอก”จิ่งสือเฟิงจึงหันหน้ามาถลึงตาใส่นางอย่างโกรธเคือง “เรื่องง่ายๆ ที่เห็นอยู่ตำตาแบบนี้ ข้ายังต้องให้เจ้ามาเอ่ยเตือนด้วยหรือ?”เฟิ่งชูอิ่งหัวเราะแห้งๆ ทำท่า

Latest chapter

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 997

    เฟิ่งชูอิ่งพูดต่อว่า “แต่ตอนนี้ข้าไม่เหลือทั้งบิดามารดาแล้ว เจ้าห้ามรังแกข้าเชียวนะ!”จิ่งโม่เยี่ยยกมือสาบานต่อฟ้าทันที “หากข้าทำไม่ดีกับเจ้าในภายภาคหน้า ขอให้สวรรค์ลงทัณฑ์ส่งฟ้ามาผ่าให้ตาย!”เฟิ่งชูอิ่งหัวเราะ “เรื่องฟ้าผ่าไม่ต้องถึงมือสวรรค์หรอก ข้าก็ทำได้”จิ่งโม่เยี่ย “......”เขาเกือบลืมไปแล้วว่านางวาดยันต์ได้เก่งมาก ตราบใดที่นางต้องการ ใช้ฟ้าผ่าเขาก็ไม่ใช่เรื่องยากเฟิ่งชูอิ่งเห็นท่าทางของเขาก็แอบหัวเราะเบาๆ เอื้อมมือไปกอดแล้วซุกศีรษะพิงอกเขา กล่าวว่า “ข้าเชื่อใจท่าน”“ตอนนี้เราทั้งสองล้วนไม่มีพ่อแม่แล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่ก็มีเพียงกันและกัน”“ต่อไปข้าจะดูแลเจ้าอย่างเต็มที่ จะไม่ระแวงเจ้าอีก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าจะเชื่อใจเจ้า”หัวใจที่ตึงเครียดของจิ่งโม่เยี่ยก็ผ่อนคลายลงในทันทีเขากอดนางตอบ “กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าการตัดสินใจของเจ้าถูกต้อง”เขาโน้มตัวลงจูบหน้าผากนางเบาๆ เอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “ข้าจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อรักเจ้า”เมื่อเฟิ่งชูอิ่งได้ยินคำพูดนี้ หัวใจก็สั่นไหว นางช้อนตามองขึ้นไปที่เขา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนนางรู้ว่าคำพูดของเขาในตอนนี้ล้วนมาจ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 996

    ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้ฐานะของจิ้งจอกสือซานเหนียง แต่ตอนนี้เขาพอจะเข้าใจได้หลังจากได้ยินบทสนทนาระหว่างจิ้งจอกสือซานเหนียงและเฟิ่งชูอิ่งจิ้งจอกสือซานเหนียงเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของเขาก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากไปเฟิ่งชูอิ่งถามว่า “เจ้าจะไปไหน? ข้ายังมีเรื่องอยากจะถามเจ้าอีกมาก”จิ้งจอกสือซานเหนียงตอบว่า “ข้าจะไปหาที่ขับไล่พลังชั่วร้ายออกจากร่างกาย พอขับไล่เสร็จแล้วข้าจะกลับมาหาเจ้า”ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางฝึกฝนวิชาสายชั่วร้ายมากมาย ทำให้พลังชั่วร้ายในร่างกายมีมากเกินไป หากอยู่ใกล้ใครนานๆ จะมีผลกระทบต่อคนรอบข้างเฟิ่งชูอิ่งจึงเตือนนางว่า “เจ้าอย่าผิดคำพูดล่ะ ข้าจะรอเจ้ากลับมา!”จิ้งจอกสือซานเหนียงโบกมือแล้วบอกว่า “วางใจเถอะ ข้าจะกลับมาแน่นอน”หลังจากนางเดินออกไปไกลแล้ว เฟิ่งชูอิ่งก็ถอนหายใจยาวๆ และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากแยกทางกันให้จิ่งโม่เยี่ยฟังหลังจากที่จิ่งโม่เยี่ยได้ยินเรื่องของเหมยตงยวน เขาก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เพราะรักถลำลึกจึงไม่ยืนยาว เรื่องระหว่างท่านพ่อกับท่านแม่ช่างน่าเศร้า”เฟิ่งชูอิ่งกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ดังนั้นการสื่อสารจึงสำคัญ ต่อไปไม่ว่าจะมี

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 995

    สิ้นเสียงของนาง สายฟ้าก็ฟาดลงมาอีกครั้ง ทำให้พลังที่พุ่งพล่านของเขาสลายไปจิ่งสือเยี่ยน “!!!!!!!!”หลังจากถูกอสนีบาตฟาดใส่อย่างต่อเนื่องห้าครั้ง ร่างวิญญาณของเขาก็จางลงอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่ตายเฟิ่งชูอิ่งถึงกับตกใจ ชีวิตของจิ่งสือเยี่ยนช่างแข็งแกร่งเสียจริง!นางอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาจะกลายเป็นเทียนซือคนที่สอง และจะกลายเป็นภัยพิบัติในอนาคตนางกำลังจะม้วนแขนเสื้อขึ้นเพื่อเสกยันต์ใส่จิ่งสือเยี่ยนอีกครั้ง แต่กลับมีเงาร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาแล้วกลืนเขาเข้าไปทั้งตัวเฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”จิ้งจอกสือซานเหนียงเรอออกมาคำโตแล้วบอกว่า “เขาเป็นอาหารที่ข้าหมายตาไว้แต่แรก”“การปล่อยให้อาหารหลุดมือไป เป็นเรื่องที่ไม่อาจให้อภัยได้”เฟิ่งชูอิ่ง “......”นางเคยจินตนาการถึงความตายของจิ่งสือเยี่ยนไว้หลายแบบ แต่ไม่มีฉากจบแบบนี้อยู่เลยนางได้คงบอกได้แค่ว่าจิ้งจอกสือซานเหนียงเจ๋งสุดยอด!ขณะเดียวกันนั้นจิ่งโม่เยี่ยก็เดินเข้ามา เขาจ้องมองจิ้งจอกสือซานเหนียงด้วยความระแวดระวัง มือจับกระบี่เอาไว้ เตรียมพร้อมที่จะฟันจิ้งจอกสือซานเหนียงได้ทุกเมื่อเฟิ่งชูอิ่งบีบมือเขาเบาๆ ให้เขาผ่อนคลายจิ้งจอก

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 994

    แต่ทว่าคันธนูของจิ่งสือเยี่ยนเพิ่งจะยกขึ้นมา ก็มีลูกธนูที่เร็วกว่าพุ่งทะลุหัวใจของเขาในทันทีจิ่งสือเยี่ยนมองลูกธนูที่ปักอยู่บนอกด้วยความไม่อยากเชื่อ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองและเห็นดวงตาที่เย็นชาของจิ่งโม่เยี่ยเมื่อครู่นี้พวกเขาทั้งสองยังมีระยะห่างต่อกันอยู่แท้ๆ และตำแหน่งที่เขาหลบอยู่ก็เป็นมุมอับที่จิ่งโม่เยี่ยยิงมาไม่ถึงทว่าเพียงแค่อึดใจเดียว จิ่งโม่เยี่ยก็ปรับตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วและยิงธนูทะลุหัวใจเขาได้ในนัดเดียวในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนกับจิ่งโม่เยี่ยไม่ได้อยู่ห่างกันมากนัก แต่ถ้าพูดคุยกันตามปกติก็คงไม่ได้ยินทว่าในเวลาเช่นนี้ จิ่งสือเยี่ยนกลับได้ยินเสียงของจิ่งโม่เยี่ย “คนที่กล้าทำร้ายชูอิ่งต้องตาย!”ก่อนหน้านี้จิ่งสือเยี่ยนคิดแค่ว่าจิ่งโม่เยี่ยดีต่อเฟิ่งชูอิ่งมาก ทว่าตอนนี้เขาเพิ่งได้รู้ซึ้งเรื่องบางอย่างเฟิ่งชูอิ่งไม่ใช่แค่จุดอ่อนของจิ่งโม่เยี่ย แต่เป็นทั้งชีวิตของเขาแต่มาเข้าใจเอาป่านนี้ก็สายไปแล้วในตอนนี้เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนคว่ำอยู่บนพื้นหิมะ นางได้ยินเสียงวัตถุแหวกอากาศจึงหันไปมอง และเห็นภาพของจิ่งสือเยี่ยนล้มลงกับพื้นในเวลานี้ เฟิ่งชูอิ่งก็เข้าใจใด้ทันทีว่าในโลกน

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 993

    ในเมื่อเขาไม่ได้ราชบัลลังก์และเฟิ่งชูอิ่งมาครอบครอง ราชบัลลังก์เขาอาจจะทำลายไม่ได้ แต่เฟิ่งชูอิ่งแค่คนเดียวเขาทำลายได้แน่นอนองครักษ์สองคนของเขารีบเปลี่ยนมาง้างคันธนูเล็งไปที่เฟิ่งชูอิ่ง ทว่าลูกธนูยังไม่ทันได้ยิงออกไป ก็ถูกบางสิ่งบางอย่างปัดออกไปอีกครั้งในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนก็พลันเข้าใจบางอย่างขึ้นมาทันทีตลอดทางที่ผ่านมา วิญญาณร้ายของเฟิ่งชูอิ่งถึงจะมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ลงมือ นั่นก็น่าจะมีเหตุผลที่ลงมือไม่ได้วิญญาณร้ายโจมตีองครักษ์ของเขา แต่กลับไม่โจมตีเขา นั่นก็หมายความว่าวิญญาณร้ายเหล่านั้นโจมตีเขาไม่ได้เขานึกถึงข่าวลือที่เคยได้ยินมาว่า พลังมังกรของผู้เป็นฮ่องเต้เป็นสิ่งที่ปราบภูตผีปีศาจได้วิญญาณร้ายไม่โจมตีเขา นั่นแสดงว่าวิญญาณร้ายทำอะไรเขาไม่ได้ แปลว่าเขามีพลังมังกรอยู่ในตัว?ความคิดนี้ทำให้จิตใจเขาฮึกเหิมขึ้นมาทันที เขารีบหยิบธนูของตัวเองขึ้นมา อดทนต่อความเจ็บปวดจากบาดแผลแล้วยิงธนูไปที่หลังของเฟิ่งชูอิ่งเฉี่ยวหลิงเห็นภาพนี้ก็ตกใจ รีบยื่นมือออกไปเพื่อจะรับลูกธนูนั้นทว่าลูกธนูนั้นเปื้อนเลือดของจิ่งสือเยี่ยน เลือดนั้นเป็นอันตรายต่อวิญญาณร้ายอย่างมาก มือของนางแค่เพียงสัมผ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 992

    หิมะยังคงโปรยปรายลงมา โลกนี้เงียบสงัด มีเพียงเสียงฝีเท้ากระทบกับพื้นหิมะดังฟุ่บฟั่บช่วงใกล้รุ่งสาง ชวีเหลียงอวี่ก็มาปรากฏตัวและเอ่ยขึ้นทันทีว่า "ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการรออยู่ข้างนอกแล้ว"เมื่อได้ยินดังนั้น เฟิ่งชูอิ่งก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยนางหันไปบอกกับจิ่งสือเยี่ยนว่า "เมื่อครู่ข้าลองคิดดูดีๆ แล้ว รู้สึกว่าที่เจ้าพูดก็มีเหตุผลอยู่บ้าง การมีชีวิตอยู่ก็ไม่เลว"จิ่งสือเยี่ยน “......”หลังจากผ่านมาทั้งคืน นางกลับปลงตกในเรื่องเช่นนี้ได้ ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจอยู่เล็กน้อยแต่การที่นางคิดได้ในตอนนี้ก็เป็นเรื่องดีเขาจึงพูดว่า "หลายสิ่งหลายอย่างทำได้ตอนมีชีวิตอยู่เท่านั้น ตายไปแล้วทำไม่ได้""ตราบใดที่เจ้าพาข้าออกจากค่ายกลแห่งนี้ ข้าจะไม่สร้างความลำบากให้เจ้าอีก”เฟิ่งชูอิ่งพยักหน้า "ก็ได้ งั้นตอนนี้ข้าจะพาเจ้าไปทำลายค่ายกล"พูดจบนางก็ควบม้านำหน้าไป จิ่งสือเยี่ยนรีบนำทหารตามไปทันทีเพียงแต่พวกเขาเดินวนเวียนอยู่ที่นี่ทั้งคืน ทั้งเหนื่อยทั้งหิว พลังจึงลดลงไปมากเฟิ่งชูอิ่งมียันต์ป้องกันความหนาวติดตัวอยู่จึงไม่รู้สึกหนาว ก่อนหน้านี้ก็นอนหลับมาตลอดทาง ทำให้รักษาพลังงานไว้ได้มากที่สุ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 991

    เขาไม่เคยเจอใครดื้อด้านเท่านางมาก่อน!เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับโทสะ เพราะตอนนี้เขาไม่สามารถตบตีหรือด่าทอนางได้ทั้งนั้นเขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เจ้าอยากไปเจียงหนานไม่ใช่หรือ? พอออกจากที่นี่ได้ ข้าจะไม่ขัดขวางเจ้า เจ้าก็จะได้ไปชมวิวทิวทัศน์เจียงหนานที่เจ้าอยากเห็น”“เจียงหนานในฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุมทั้งงดงามและน่าหลงใหล ถ้าเจ้ายังไม่เคยเห็น ต้องไปดูด้วยตาตัวเองให้ได้เลย”เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนอยู่บนพื้นไม่ยอมลุกขึ้น “ไม่ไป อากาศหนาวเกินไป เดินทางเหนื่อยเกินไป”จิ่งสือเยี่ยน “…...”ตั้งแต่วินาทีที่เขาติดกับอยู่ที่นี่ สถานะระหว่างเขากับเฟิ่งชูอิ่งก็สลับกันโดยสิ้นเชิงเพราะเขามีความทะเยอทะยาน อยากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายยิ่งเฟิ่งชูอิ่งแสดงออกว่าอยากตายมากเท่าไหร่ จิ่งสือเยี่ยนก็ยิ่งไม่ยอมให้นางตายมากขึ้นเท่านั้นดังนั้นตอนนี้นางจึงควบคุมเขาได้อย่างเบ็ดเสร็จการที่นางแสดงท่าทีไม่ยอมทำตามไม่ว่าเขาจะใช้ไม้แข็งหรือไม้อ่อนเช่นนี้ ทำให้เขาแทบเป็นบ้าจิ่งสือเยี่ยนไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าการจับตัวประกันจะน่าอึดอัดขนาดนี้เฟิ่งชูอิ่งนอนเอกเขนกอยู่ตรงนั้นอย่างสบายใจ เหตุผลก็ง่ายๆ นางใช้

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 990

    เฟิ่งชูอิ่งยิ้มแล้วถามว่า “ทางที่ข้าชี้นำ เจ้ากล้าเดินตามหรือ?”เมื่อมาถึงตอนนี้แล้ว นางก็คร้านจะเสแสร้งต่อไปสีหน้าของจิ่งสือเยี่ยนแข็งค้างไปครู่หนึ่ง นางพูดอย่างเฉื่อยชาว่า “เพราะพวกเจ้าติดอยู่ที่นี่ คงรู้สึกหนาวเหน็บและหวาดกลัว”“เจ้าบาดเจ็บ ในสภาพอากาศหนาวเย็นเช่นนี้ แผลของเจ้าจะยิ่งทรุดหนัก”“เจ้ารีบร้อนมารวบรวมกำลังพลของกองกำลังอวี๋ซาน เจ้าคงไม่ได้พกอาหารมาด้วยมากนัก ดังนั้นตอนนี้พวกเจ้าคงหิวมากแล้ว”“ในสถานการณ์เช่นนี้ แค่ข้ากักขังพวกเจ้าไว้ที่นี่ ต่อให้ไม่หนาวตาย พวกเจ้าก็คงอดตายอยู่ดี”ขณะนี้หิมะขาวโพลนโปรยปรายไปทั่ว อากาศหนาวเหน็บ สภาพอากาศเช่นนี้คงจะดำเนินต่อไปเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนเป็นอย่างที่เฟิ่งชูอิ่งบอก พวกเขาเดินทางมาที่นี่โดยไม่ได้พกเสบียงอาหารแห้งหรืออะไรทำนองนั้นมาด้วยเลยด้วยเหตุนี้ตอนที่พวกเขาเดินวนจนครบรอบที่สาม เสบียงอาหารก็หมดลงตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว หลังจากตกกลางคืน อากาศจะยิ่งหนาวเย็นลง พวกเขาจะยิ่งลำบากมากขึ้นจิ่งสือเยี่ยนชักกระบี่ยาวออกมา “เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถบั่นคอเจ้าด้วยกระบี่เล่มนี้ได้!”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มหวานแล้วเอ่ยว่า “เอาเลย ฆ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 989

    เขาคลี่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ได้”หลังจากฆ่าจิ่งโม่เยี่ยแล้ว จะปล่อยนางไปหรือไม่ เรื่องนี้เขาจะเป็นคนตัดสินใจนางเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขารู้สึกชอบจริงๆ และนางก็เป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขารู้จักกับความล้มเหลวเขารู้ว่านางมีวิธีการบางอย่างที่คนทั่วไปไม่มี ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าประมาท เขาจะป้อนยาที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงให้นางกินทุกวันเฟิ่งชูอิ่งรู้ทันความคิดของเขา และยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดีขณะที่ในใจของนางกำลังครุ่นคิด ครั้งที่แล้วโดนไปขนาดนั้นยังรอดมาได้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องหาโอกาสฆ่าเขาให้ตายสนิทแบบไม่มีสิทธิ์ฟื้นขึ้นมาอีกนางพลันนึกถึงเรื่องที่เหมยตงยวนวิญญาณแหลกสลายหลังจากรู้ข่าวการตายของเฟิ่งชิงหลิง จิตใจนางจึงหม่นหมองตามไปด้วยนางรู้ว่าเหมยตงยวนรักเฟิ่งชิงหลิงอย่างสุดซึ้ง แต่ไม่คิดว่านั่นจะเป็นรากฐานที่ทำให้เขามีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้เพราะนางเห็นความรักของพวกเขา นางจึงยิ่งรู้ชัดว่าตัวเองมีความรู้สึกแบบไหนต่อจิ่งโม่เยี่ยในเมื่อรักแล้ว ก็ต้องรักให้สุดหัวใจอย่าได้ทำเรื่องที่ทำให้ตัวเองเสียใจและทำให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจผิดอีกจิ่งสือเยี่ยนไม่ได้ไปตามล่าจิ่งโม่เยี่ยโดยตรง เขาวางแผนท

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status