แชร์

บทที่ 119

ผู้เขียน: ดอกถังร่วงหล่น
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-07-16 19:09:39
เมื่อครู่นี้ยังจูบนางอยู่เลยแท้ๆ ผ่านไปครู่เดียวก็ไล่นางลงจากรถแล้ว

การกระทำของเขาโดยเนื้อแท้แล้วไม่ต่างจากการได้แล้วทิ้งเลยสักนิด

จิ่งโม่เยี่ยเห็นนางนั่งนิ่งไม่ขยับ จึงปรายตามองนางอย่างเหนื่อยหน่าย “อย่าให้ข้าต้องพูดเป็นครั้งที่สอง”

เฟิ่งชูอิ่งสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วเอ่ยเสียงต่ำว่า “ถ้าเก่งนักทีหลังก็ไม่ต้องมาหาข้าอีก!”

นางกล่าวจบก็สะบัดแขนเสื้อกระโดดลงจากรถม้าไป

เหมือนเช่นครั้งก่อน ทันทีที่ขาของนางแตะพื้น รถม้าก็แทบจะพุ่งทะยานออกไปราวกับบินได้

เฟิ่งชูอิ่งลอบด่าบรรพบุรุษสิบแปดรุ่นของเขาในใจอีกครั้ง

จิ่งสือเฟิงที่โกรธจัดยิ่งกว่านางตะเกียกตะกายขึ้นมาจากพื้น ก่อนจะกระทืบเท้าด้วยความโมโห “จิ่งโม่เยี่ย เจ้ากลับมาเดี๋ยวนี้นะ!”

รถม้าของจิ่งโม่เยี่ยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดแม้แต่น้อย มันวิ่งฉิวออกไปอย่างไรเยื่อใย

จิ่งสือเฟิงโกรธจนแทบบ้า เฟิ่งชูอิ่งจึงปลอบใจเขาด้วยความหวังดีว่า “ท่านอ๋องเฉิน ท่านอ๋องฉู่ทรงจากไปไกลแล้วเพคะ ท่านด่าไปเขาก็ไม่ได้ยินหรอก”

จิ่งสือเฟิงจึงหันหน้ามาถลึงตาใส่นางอย่างโกรธเคือง “เรื่องง่ายๆ ที่เห็นอยู่ตำตาแบบนี้ ข้ายังต้องให้เจ้ามาเอ่ยเตือนด้วยหรือ?”

เฟิ่งชูอิ่งหัวเราะแห้งๆ ทำท่า
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 120

    เฟิ่งชูอิ่งยืนสะอื้นโดยไม่ตอบอะไรจิ่งสือเฟิงหันมองไปรอบๆ ตัวก่อนจะบอกนางว่า “แม่นางเฟิ่งตามข้าไปดื่มชาที่โรงน้ำชาด้านหน้านั่นเถอะ!”เขากล่าวจบก็ไม่สนใจว่านางจะยินยอมหรือไม่ สั่งให้ทหารองครักษ์ล้อมนางทันที นางจึงต้องยอมเดินตามจิ่งสือเฟิงไปที่โรงน้ำชาแต่โดยดีจิ่งสือเฟิงลอบมองนางอย่างละเอียด พบว่าคิ้วของนางเรียวสวย องคาพยพทั้งห้างดงามอย่างยิ่ง ทรวดทรงองค์เอวก็มิเลวเลยเขาจึงยิ้มบางๆ “แม่นางเฟิ่งหน้าตางดงามถึงเพียงนี้ น้องสามปฏิบัติต่อเจ้าย่ำแย่ขนาดนั้น เจ้าไม่ควรจะหลงรักปักใจกับเขาเลย“ขอแค่แม่นางเฟิ่งเต็มใจเข้าวังไปเป็นพยานยืนยันกับเสด็จพ่อของข้า บอกเขาว่าเรื่องในวันนี้เป็นแผนร้ายของน้องสาม ข้าจะต้องตอบแทนเจ้าอย่างงามแน่นอน”เฟิ่งชูอิ่งเพียงเม้มปากโดยไม่พูดไม่จา ท่าทางเหมือนคนกำลังเจ็บปวดจิ่งสือเฟิงเห็นนางเป็นเช่นนั้น จึงรู้ว่านางก็แค่เด็กสาวอ่อนแอที่ไม่เคยเผชิญโลกกว้างคนหนึ่งเท่านั้นเขาจึงโบกมือเบาๆ สั่งให้องครักษ์ทั้งหมดในห้องถอยออกไปจิ่งสือเฟิงลุกขึ้นแล้วเดินมานั่งข้างนาง นางคิดจะเบี่ยงตัวหลบ แต่เขากลับตวัดแขนมาโอบไหล่นางเอาไว้นางพลันตัวแข็งทื่อ ในใจก่นด่าอีกฝ่ายว่า “ไอ้หื่นกาม!

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-16
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 121

    เขายังไม่ทันจะได้ตั้งตัว จิ่งสือเฟิงก็คว้าเขาไปจูบหนึ่งทีแล้วองครักษ์ที่เหลือตรงนั้นพากันยืนตาค้าง เกิดอะไรขึ้นกับจิ่งสือเฟิงเนี่ย?จิ่งสือเฟิงรู้สึกว่าการจูบองครักษ์คนนั้นอย่างเดียวยังไม่พอ จึงคิดจะถอดกางเกงของเขาด้วยองครักษ์ “!!!!!!”โลกนี้มันบ้าบอไปกันหมดแล้ว!เขาพยายามผลักไสจิ่งสือเฟิงอย่างสุดชีวิต จิ่งสือเฟิงก็เลยหันไปจูบองครักษ์คนอื่นแทนองครักษ์ไม่กล้าลงมือทำร้ายเขา จึงทำได้เพียงผลักออกไปเหมือนเขาจะรู้สึกตัวว่าองครักษ์เหล่านี้แรงเยอะเกินไป ไม่ถูกใจอย่างที่เขาต้องการ เขาจึงทำท่าหงุดหงิดแล้วฉีกอาภรณ์ของตนเองออก ขณะพุ่งตัวออกไปด้านนอกพอเขาออกมาได้ ก็พบกับหญิงนางหนึ่งที่อายุประมาณห้าสิบปีกว่า เขาจึงพุ่งเข้าไปหานางจนล้มลงพื้น ”คนสวย มานอนกับข้าเสียดีๆ!”หญิงนางนี้แม้จะอายุมากแล้ว แต่ก็ไม่เคยพบเจอเรื่องอะไรแบบนี้มาก่อน จึงตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อนางแผดเสียงร้องแหลมแสบแก้วหู ทำเอาผู้คนที่สัญจรอยู่บนถนนหันมามองกันเกือบหมดลูกชายของหญิงคนนั้นบังเอิญอยู่แถวนั้นพอดี จึงถลาเข้ามาแล้วชกใส่จิ่งสือเฟิงเต็มแรงองครักษ์ที่เห็นว่าเรื่องราวมันชักจะไปกันใหญ่แล้ว จึงใช้มือทุบเขาจนสลบ จากนั้นก็พาเขาเด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-16
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 122

    เฟิ่งชูอิ่งรีบเอ่ยว่า “ขอโทษเจ้าค่ะ....”แต่พอนางเงยหน้าขึ้นมาเจอจิ่งโม่เยี่ย นางก็คลี่ยิ้มแล้วกล่าวว่า “ท่านอ๋องมาได้อย่างไรเพคะ?”จิ่งโม่เยี่ยไม่ได้ตอบ เขายื่นมือออกมาคว้ากล่องไปจากมือของนาง “เจ้าห้าดีกับเจ้าน่าดูเลยนะ”เฟิ่งชูอิ่งหันมองเขาแวบหนึ่งแล้วกล่าว “ไม่ใช่อ๋องจิ้นที่ดีกับข้า เป็นท่านอ๋องต่างหากเพคะที่ดีกับข้า“ท่านอ๋องจิ้นบอกข้าหมดแล้ว กล่องใส่ก้อนเงินใบนี้ท่านอ๋องไหว้วานเขาให้เอามามอบให้ข้า“เขายังบอกอีกว่าท่านอ๋องใส่ใจข้าอย่างมาก รู้ว่าข้าใช้ชีวิตอยู่ในจวนสกุลหลินอย่างลำบาก ก็เลยให้ก้อนเงินพวกนี้มาไว้ซื้อใจพวกบ่าวไพร่ในเรือน”แววตาของจิ่งโม่เยี่ยฉายแววสงสัย เฟิ่งชูอิ่งจึงยกสองมือกุมหัวใจแล้วเอ่ยว่า “ท่านอ๋องดีกับข้าจริงๆ ไม่เสียแรงที่ข้าปักใจท่านมาเนิ่นนาน“แต่ข้าไม่เข้าใจเลยเพคะ วันนี้ท่านอ๋องก็มอบของให้ข้าได้มิใช่หรือ ทำไมจะต้องฝากท่านอ๋องจิ้นมาด้วยล่ะ?“หรือว่าท่านอ๋องหน้าบางเกินไป ก็เลยเขินเกินกว่าจะมอบให้ข้าตรงๆ?”จิ่งโม่เยี่ยปรายตามองนางหนึ่งครา ก่อนจะส่งกล่องใส่ก้อนเงินคืนให้นางนางเหลือบมองเขาแล้วเบ้ปาก “วิธีการแสดงความรักของท่านอ๋องช่างอ้อมค้อมเหลือเกิน“อ้อมค้อมจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-16
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 123

    จิ่งโม่เยี่ยตอบ “ฟังดูน่าสนใจดีนะ”เฟิ่งชูอิ่ง “......”ต่อให้นางจะรู้ตัวนานแล้วว่าใช้เหตุผลพูดคุยกับคนบ้าแบบเขาไม่ได้ แต่พอได้ยินสิ่งที่เขาพูดจริงๆ นางก็อดหัวเสียไม่ได้นางแค่นเสียงฮึเบาๆ ออกแรงสะบัดมือของตัวเองออกจากการเกาะกุม ก่อนจะเดินจากมาโดยไม่หันกลับไปมองจิ่งโม่เยี่ยเห็นท่าทางของนางก็อดอมยิ้มไม่ได้ เอ่ยไล่หลังนางไปว่า “ตอนที่เจ้าอยู่กับจิ่งสือเฟิงในโรงน้ำชา ข้านั่งอยู่ห้องข้างๆ“ถึงข้าจะไม่สนใจว่าเจ้าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร แต่ย่อมไม่ปล่อยให้ว่าที่พระชายาถูกดูหมิ่น”เฟิ่งชูอิ่งได้ยินที่เขาพูดก็หยุดชะงัก ก่อนจะเดินถอยหลังกลับไปหาเขาแล้วถามว่า “ท่านอ๋องกำลังจะบอกข้าว่า ตราบใดที่มีท่านอยู่ อ๋องเฉินก็ไม่มีทางรังแกข้าได้หรือเพคะ?“ท่านอ๋องกำลังเป็นห่วงข้าอยู่หรือ? หากท่านเป็นห่วงข้าจริงๆ ช่วยคืนกล่องใส่ก้อนเงินอันนั้นให้ข้าได้ไหม?”จิ่งโม่เยี่ยใช้หางตามองนางเล็กน้อย ไม่พูดไม่จา กอดกล่องใบนั้นไว้แล้วขึ้นรถม้าไปทันทีเฟิ่งชูอิ่ง “......”บุรุษสุนัขผู้นี้จะซึนเดเระเกินไปไหมรถม้าเคลื่อนตัวไปได้เพียงนิดเดียวก็จอดตรงหน้าเฟิ่งชูอิ่งจิ่งโม่เยี่ยเปิดม่านออกแล้วยื่นตั๋วเงินให้นางปึกหนึ่ง “รั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-17
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 124

    นางคิดไม่ออกจริงๆ ว่านังเด็กโง่แบบเฟิ่งชูอิ่งมีอะไรดีนักหนา ถึงได้รับของพระราชทานจากไทเฮาแบบนี้?แต่พอคิดว่าของที่ไทเฮาทรงพระราชทานมาย่อมต้องเป็นของดี และของพวกนี้นางต้องเก็บเอาไว้ให้ได้ดังนั้นฮว๋าซื่อจึงเดินออกไปรับของด้วยท่าทางตื่นเต้นยินดีนางกล่าวกับขันทีที่มาส่งของว่า “ชูอิ่งรู้สึกไม่ค่อยสบายนัก ข้าเป็นท่านป้าของนาง ของเหล่านี้ข้าจะรับแทนนางเอง”ขันทีคนนั้นหรี่ตามองนาง “ไทเฮาทรงมีรับสั่ง ของเหล่านี้เป็นของคุณเฟิ่งแต่เพียงผู้เดียว ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ห้ามรับแทน“คุณหนูเฟิ่งไม่สบายตรงไหนหรือ? ต้องการให้ข้าเชิญหมอหลวงมาตรวจนางหรือไม่?”ฮว๋าซื่อ “......”นางมองใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสของขันทีผู้นั้น พลันรู้สึกเหมือนตัวเองถูกคนตบหน้าแบบแปลกๆนางวางอำนาจบาตรใหญ่ในจวนสกุลหลินได้ แต่กลับไม่กล้าวางท่าอวดดีกับขันทีที่มาส่งของแทนไทเฮา จึงสั่งให้คนไปตามเฟิ่งชูอิ่งออกมาคราวนี้ใช้เวลาเพียงไม่นานเฟิ่งชูอิ่งก็มาถึง ฮว๋าซื่อจึงถลึงตาใส่นางไปหนึ่งทีนับตั้งแต่เรื่องคราก่อน พวกนางสองคนก็ฉีกหน้ากันอย่างเปิดเผย เฟิ่งชูอิ่งจึงไม่อยากแสดงละครต่อหน้าฮว๋าซื่ออีกขันทีผู้นั้นเห็นเฟิ่งชูอิ่งก็ยิ้มอย่างเป็นมิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-17
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 125

    หลินชูเจิ้งจึงปล่อยข่าวออกไปว่าสตรีนางนั้นไม่ใช่นาง แต่เป็นสาวใช้คนหนึ่งที่หน้าตาคล้ายกับนางมาก ซึ่งเขาจัดการฆ่าสตรีนางนั้นทิ้งไปแล้วเขายังบอกอีกว่าฮวาซื่อผุดผ่องไร้มลทิน มีคนต้องการใส่ร้ายนางให้เสื่อมเสียคำอธิบายของเขา คนที่ไม่ได้เห็นเหตุการณ์ในวันนั้นหากได้ยินก็คงเชื่ออยู่หรอก เพราะทุกคนต่างก็คิดตรงกันว่าหากฮวาซื่อเกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้นจริงๆ จะต้องถูกหย่าและขับออกจากจวนแน่นอนเขาไม่ได้หย่ากับฮวาซื่อ แปลว่าฮวาซื่อเป็นผู้บริสุทธิ์จริงๆทว่าคนในจวนต่างรู้กันดีแก่ใจ ว่าคนที่ระเริงรักอย่างไม่อายฟ้าอายดินกับสารถีแซ่หลินในตอนนั้นก็คือนางเฟิ่งชูอิ่งเอ่ยเสียงเรียบว่า “จะใช่ท่านหรือไม่ ทุกคนต่างก็รู้ดีอยู่แก่ใจ“ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น ข้าขอถามท่านป้าแค่ประโยคเดียว หลังจากเกิดเรื่องนั้นแล้ว ท่านลุงมานอนค้างที่ห้องของท่านกี่ครั้ง?”คำพูดของนางมีพลังทำลายรุนแรงยิ่งกว่ามีดที่วาววับเมื่อครู่นี้อีก ดวงหน้าของฮวาซื่อซีดขาวอย่างฉับพลันเฟิ่งชูอิ่งเห็นสีหน้าของนางก็ขี้คร้านจะสนใจนางต่อ เอ่ยเรียกว่า “เฉี่ยวหลิง ขนของพวกนี้กลับไป”เฉี่ยวหลิงเป็นวิญญาณร้าย ว่ากันตามหลักแล้วในยามกลางวันนางจะมีร่างกายไม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-17
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 126

    ตอนที่เฉี่ยวหลิงไปหลอกหลินหว่านถิงนางใช้ทักษะบางอย่าง เปลี่ยนแปลงรูปร่างหน้าตาให้ไม่เหมือนเดิมแต่หลังจากหลินหว่านถิงโดนนางหลอกไปวันนั้น นางก็สัมผัสบรรยากาศรอบตัวของนางได้อย่างแม่นยำวันนี้พอเจอหน้ากันอีกครั้ง หลินหว่านถิงจึงคิดว่าเฉี่ยวหลิงคือผีที่หลอกนางคืนนั้นหลังจากนางถูกเฉี่ยวหลิงเล่นงานจนล้มป่วย ร่างกายก็ยังไม่ฟื้นฟูเป็นปกติสักที ยามนี้ต้องหวาดผวาซ้ำอีกรอบ แผ่นหลังของนางจึงเปียกชื้นไปด้วยเหงื่อ แข้งขาพลันอ่อนแรงพอนางตะโกนออกไปแบบนั้น หลินอีฉุนก็วิ่งหน้าตั้งมาทันที “ไหนล่ะผี?”หลินหว่านถิงชี้ไปที่เฉี่ยวหลิง “นางนั่นแหละผี!”เฉี่ยวหลิงยืนทำหน้าไร้เดียงสาอยู่ที่เดิม ใจแอบคิดว่าหลินหว่านถิงสายตาหลักแหลมไม่เบา นางอยู่สภาพนี้ยังมองออกอีกนางควรจะแสดงคางร่วงแตะพื้น ลูกตาหลุดจากเบ้าให้หลินหว่านถิงดูอีกสักทีไหม?เฟิ่งชูอิ่งปรายตามองเฉี่ยวหลิงแวบหนึ่ง แม้ในใจจะรู้สึกเสียดาย แต่นางก็ยอมถอยไปอยู่ด้านหลังเฟิ่งชูอิ่งแต่โดยดีเฟิ่งชูอิ่งหันไปทางหลินหว่านถิงแล้วถามว่า “พี่สาวหวาดผวาจนเสียสติแล้วหรือ?“ผีหลอกอะไรกัน นี่เป็นสาวใช้ที่ข้าซื้อตัวกลับมา“ท่านเคยเห็นผีที่ไหนปรากฏตัวตอนกลางวันแสกๆ ได้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-17
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 127

    แม้นางจะรู้สึกว่าจิ่งโม่เยี่ยเป็นคนบ้าที่ไม่มีใครกล้าอยู่ใกล้ แต่ต่อให้นางตาบอดก็ไม่มีวันเลือกหลินอีฉุนอยู่ดีไหนๆ นางก็ไม่มีอะไรทำพอดี งั้นนางจะเล่นกับเขาสักหน่อยก็แล้วกันนางจึงเอ่ยว่า “ขอแค่ข้าไม่แต่งงานกับอ๋องฉู่ เจ้าก็ยินดีจะแต่งข้าเป็นภรรยางั้นหรือ?”หลินอีฉุนทำหน้าหนักใจ “เจ้าก็รู้มิใช่หรือ ตอนนี้ข้ากำลังร่ำเรียนในสำนักศึกษาได้อย่างยอดเยี่ยม ปีนี้เตรียมจะลงสนามสอบขุนนาง“ตอนนี้พ่อของข้าเป็นถึงรองเจ้ากรมคลัง เชื่อว่าอีกไม่นานเขาก็จะกลายเป็นหัวหน้าเลขากรมคลังได้ ส่วนข้าขอแค่ลงสนามสอบ อย่างน้อยก็จะได้เป็นอันดับที่สอง“อนาคตของข้ายังอีกยาวไกล ภรรยาของข้าจะต้องเป็นสตรีมีชาติตระกูลเท่านั้น“ถึงแม้ว่าเจ้าจะดีมาก แต่บิดามารดาของเจ้าก็จากโลกไปหมดแล้ว เจ้าไม่สามารถช่วยผลักดันอะไรข้าได้ ดังนั้นข้าไม่มีทางแต่งเจ้าเป็นภรรยาเอกได้”เขากล่าวมาถึงตรงนี้ก็แสดงท่าทางอ่อนโยน มองนางอย่างรักใคร่ลึกซึ้ง “แต่ถึงข้าจะแต่งผู้หญิงคนอื่นเข้ามาเป็นภรรยาเอก เจ้าก็จะยังเป็นคนที่ข้ารักที่สุดตลอดไป“ขอแค่เจ้ายินดีจะเป็นสตรีของข้า ภายภาคหน้าข้าจะดูแลเจ้าเป็นอย่างดี ตำแหน่งอนุภรรยาของข้าจะเว้นว่างให้เจ้าตลอดกาล”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-18

บทล่าสุด

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 996

    ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้ฐานะของจิ้งจอกสือซานเหนียง แต่ตอนนี้เขาพอจะเข้าใจได้หลังจากได้ยินบทสนทนาระหว่างจิ้งจอกสือซานเหนียงและเฟิ่งชูอิ่งจิ้งจอกสือซานเหนียงเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของเขาก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากไปเฟิ่งชูอิ่งถามว่า “เจ้าจะไปไหน? ข้ายังมีเรื่องอยากจะถามเจ้าอีกมาก”จิ้งจอกสือซานเหนียงตอบว่า “ข้าจะไปหาที่ขับไล่พลังชั่วร้ายออกจากร่างกาย พอขับไล่เสร็จแล้วข้าจะกลับมาหาเจ้า”ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางฝึกฝนวิชาสายชั่วร้ายมากมาย ทำให้พลังชั่วร้ายในร่างกายมีมากเกินไป หากอยู่ใกล้ใครนานๆ จะมีผลกระทบต่อคนรอบข้างเฟิ่งชูอิ่งจึงเตือนนางว่า “เจ้าอย่าผิดคำพูดล่ะ ข้าจะรอเจ้ากลับมา!”จิ้งจอกสือซานเหนียงโบกมือแล้วบอกว่า “วางใจเถอะ ข้าจะกลับมาแน่นอน”หลังจากนางเดินออกไปไกลแล้ว เฟิ่งชูอิ่งก็ถอนหายใจยาวๆ และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากแยกทางกันให้จิ่งโม่เยี่ยฟังหลังจากที่จิ่งโม่เยี่ยได้ยินเรื่องของเหมยตงยวน เขาก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เพราะรักถลำลึกจึงไม่ยืนยาว เรื่องระหว่างท่านพ่อกับท่านแม่ช่างน่าเศร้า”เฟิ่งชูอิ่งกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ดังนั้นการสื่อสารจึงสำคัญ ต่อไปไม่ว่าจะมี

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 995

    สิ้นเสียงของนาง สายฟ้าก็ฟาดลงมาอีกครั้ง ทำให้พลังที่พุ่งพล่านของเขาสลายไปจิ่งสือเยี่ยน “!!!!!!!!”หลังจากถูกอสนีบาตฟาดใส่อย่างต่อเนื่องห้าครั้ง ร่างวิญญาณของเขาก็จางลงอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่ตายเฟิ่งชูอิ่งถึงกับตกใจ ชีวิตของจิ่งสือเยี่ยนช่างแข็งแกร่งเสียจริง!นางอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาจะกลายเป็นเทียนซือคนที่สอง และจะกลายเป็นภัยพิบัติในอนาคตนางกำลังจะม้วนแขนเสื้อขึ้นเพื่อเสกยันต์ใส่จิ่งสือเยี่ยนอีกครั้ง แต่กลับมีเงาร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาแล้วกลืนเขาเข้าไปทั้งตัวเฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”จิ้งจอกสือซานเหนียงเรอออกมาคำโตแล้วบอกว่า “เขาเป็นอาหารที่ข้าหมายตาไว้แต่แรก”“การปล่อยให้อาหารหลุดมือไป เป็นเรื่องที่ไม่อาจให้อภัยได้”เฟิ่งชูอิ่ง “......”นางเคยจินตนาการถึงความตายของจิ่งสือเยี่ยนไว้หลายแบบ แต่ไม่มีฉากจบแบบนี้อยู่เลยนางได้คงบอกได้แค่ว่าจิ้งจอกสือซานเหนียงเจ๋งสุดยอด!ขณะเดียวกันนั้นจิ่งโม่เยี่ยก็เดินเข้ามา เขาจ้องมองจิ้งจอกสือซานเหนียงด้วยความระแวดระวัง มือจับกระบี่เอาไว้ เตรียมพร้อมที่จะฟันจิ้งจอกสือซานเหนียงได้ทุกเมื่อเฟิ่งชูอิ่งบีบมือเขาเบาๆ ให้เขาผ่อนคลายจิ้งจอก

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 994

    แต่ทว่าคันธนูของจิ่งสือเยี่ยนเพิ่งจะยกขึ้นมา ก็มีลูกธนูที่เร็วกว่าพุ่งทะลุหัวใจของเขาในทันทีจิ่งสือเยี่ยนมองลูกธนูที่ปักอยู่บนอกด้วยความไม่อยากเชื่อ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองและเห็นดวงตาที่เย็นชาของจิ่งโม่เยี่ยเมื่อครู่นี้พวกเขาทั้งสองยังมีระยะห่างต่อกันอยู่แท้ๆ และตำแหน่งที่เขาหลบอยู่ก็เป็นมุมอับที่จิ่งโม่เยี่ยยิงมาไม่ถึงทว่าเพียงแค่อึดใจเดียว จิ่งโม่เยี่ยก็ปรับตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วและยิงธนูทะลุหัวใจเขาได้ในนัดเดียวในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนกับจิ่งโม่เยี่ยไม่ได้อยู่ห่างกันมากนัก แต่ถ้าพูดคุยกันตามปกติก็คงไม่ได้ยินทว่าในเวลาเช่นนี้ จิ่งสือเยี่ยนกลับได้ยินเสียงของจิ่งโม่เยี่ย “คนที่กล้าทำร้ายชูอิ่งต้องตาย!”ก่อนหน้านี้จิ่งสือเยี่ยนคิดแค่ว่าจิ่งโม่เยี่ยดีต่อเฟิ่งชูอิ่งมาก ทว่าตอนนี้เขาเพิ่งได้รู้ซึ้งเรื่องบางอย่างเฟิ่งชูอิ่งไม่ใช่แค่จุดอ่อนของจิ่งโม่เยี่ย แต่เป็นทั้งชีวิตของเขาแต่มาเข้าใจเอาป่านนี้ก็สายไปแล้วในตอนนี้เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนคว่ำอยู่บนพื้นหิมะ นางได้ยินเสียงวัตถุแหวกอากาศจึงหันไปมอง และเห็นภาพของจิ่งสือเยี่ยนล้มลงกับพื้นในเวลานี้ เฟิ่งชูอิ่งก็เข้าใจใด้ทันทีว่าในโลกน

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 993

    ในเมื่อเขาไม่ได้ราชบัลลังก์และเฟิ่งชูอิ่งมาครอบครอง ราชบัลลังก์เขาอาจจะทำลายไม่ได้ แต่เฟิ่งชูอิ่งแค่คนเดียวเขาทำลายได้แน่นอนองครักษ์สองคนของเขารีบเปลี่ยนมาง้างคันธนูเล็งไปที่เฟิ่งชูอิ่ง ทว่าลูกธนูยังไม่ทันได้ยิงออกไป ก็ถูกบางสิ่งบางอย่างปัดออกไปอีกครั้งในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนก็พลันเข้าใจบางอย่างขึ้นมาทันทีตลอดทางที่ผ่านมา วิญญาณร้ายของเฟิ่งชูอิ่งถึงจะมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ลงมือ นั่นก็น่าจะมีเหตุผลที่ลงมือไม่ได้วิญญาณร้ายโจมตีองครักษ์ของเขา แต่กลับไม่โจมตีเขา นั่นก็หมายความว่าวิญญาณร้ายเหล่านั้นโจมตีเขาไม่ได้เขานึกถึงข่าวลือที่เคยได้ยินมาว่า พลังมังกรของผู้เป็นฮ่องเต้เป็นสิ่งที่ปราบภูตผีปีศาจได้วิญญาณร้ายไม่โจมตีเขา นั่นแสดงว่าวิญญาณร้ายทำอะไรเขาไม่ได้ แปลว่าเขามีพลังมังกรอยู่ในตัว?ความคิดนี้ทำให้จิตใจเขาฮึกเหิมขึ้นมาทันที เขารีบหยิบธนูของตัวเองขึ้นมา อดทนต่อความเจ็บปวดจากบาดแผลแล้วยิงธนูไปที่หลังของเฟิ่งชูอิ่งเฉี่ยวหลิงเห็นภาพนี้ก็ตกใจ รีบยื่นมือออกไปเพื่อจะรับลูกธนูนั้นทว่าลูกธนูนั้นเปื้อนเลือดของจิ่งสือเยี่ยน เลือดนั้นเป็นอันตรายต่อวิญญาณร้ายอย่างมาก มือของนางแค่เพียงสัมผ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 992

    หิมะยังคงโปรยปรายลงมา โลกนี้เงียบสงัด มีเพียงเสียงฝีเท้ากระทบกับพื้นหิมะดังฟุ่บฟั่บช่วงใกล้รุ่งสาง ชวีเหลียงอวี่ก็มาปรากฏตัวและเอ่ยขึ้นทันทีว่า "ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการรออยู่ข้างนอกแล้ว"เมื่อได้ยินดังนั้น เฟิ่งชูอิ่งก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยนางหันไปบอกกับจิ่งสือเยี่ยนว่า "เมื่อครู่ข้าลองคิดดูดีๆ แล้ว รู้สึกว่าที่เจ้าพูดก็มีเหตุผลอยู่บ้าง การมีชีวิตอยู่ก็ไม่เลว"จิ่งสือเยี่ยน “......”หลังจากผ่านมาทั้งคืน นางกลับปลงตกในเรื่องเช่นนี้ได้ ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจอยู่เล็กน้อยแต่การที่นางคิดได้ในตอนนี้ก็เป็นเรื่องดีเขาจึงพูดว่า "หลายสิ่งหลายอย่างทำได้ตอนมีชีวิตอยู่เท่านั้น ตายไปแล้วทำไม่ได้""ตราบใดที่เจ้าพาข้าออกจากค่ายกลแห่งนี้ ข้าจะไม่สร้างความลำบากให้เจ้าอีก”เฟิ่งชูอิ่งพยักหน้า "ก็ได้ งั้นตอนนี้ข้าจะพาเจ้าไปทำลายค่ายกล"พูดจบนางก็ควบม้านำหน้าไป จิ่งสือเยี่ยนรีบนำทหารตามไปทันทีเพียงแต่พวกเขาเดินวนเวียนอยู่ที่นี่ทั้งคืน ทั้งเหนื่อยทั้งหิว พลังจึงลดลงไปมากเฟิ่งชูอิ่งมียันต์ป้องกันความหนาวติดตัวอยู่จึงไม่รู้สึกหนาว ก่อนหน้านี้ก็นอนหลับมาตลอดทาง ทำให้รักษาพลังงานไว้ได้มากที่สุ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 991

    เขาไม่เคยเจอใครดื้อด้านเท่านางมาก่อน!เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับโทสะ เพราะตอนนี้เขาไม่สามารถตบตีหรือด่าทอนางได้ทั้งนั้นเขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เจ้าอยากไปเจียงหนานไม่ใช่หรือ? พอออกจากที่นี่ได้ ข้าจะไม่ขัดขวางเจ้า เจ้าก็จะได้ไปชมวิวทิวทัศน์เจียงหนานที่เจ้าอยากเห็น”“เจียงหนานในฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุมทั้งงดงามและน่าหลงใหล ถ้าเจ้ายังไม่เคยเห็น ต้องไปดูด้วยตาตัวเองให้ได้เลย”เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนอยู่บนพื้นไม่ยอมลุกขึ้น “ไม่ไป อากาศหนาวเกินไป เดินทางเหนื่อยเกินไป”จิ่งสือเยี่ยน “…...”ตั้งแต่วินาทีที่เขาติดกับอยู่ที่นี่ สถานะระหว่างเขากับเฟิ่งชูอิ่งก็สลับกันโดยสิ้นเชิงเพราะเขามีความทะเยอทะยาน อยากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายยิ่งเฟิ่งชูอิ่งแสดงออกว่าอยากตายมากเท่าไหร่ จิ่งสือเยี่ยนก็ยิ่งไม่ยอมให้นางตายมากขึ้นเท่านั้นดังนั้นตอนนี้นางจึงควบคุมเขาได้อย่างเบ็ดเสร็จการที่นางแสดงท่าทีไม่ยอมทำตามไม่ว่าเขาจะใช้ไม้แข็งหรือไม้อ่อนเช่นนี้ ทำให้เขาแทบเป็นบ้าจิ่งสือเยี่ยนไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าการจับตัวประกันจะน่าอึดอัดขนาดนี้เฟิ่งชูอิ่งนอนเอกเขนกอยู่ตรงนั้นอย่างสบายใจ เหตุผลก็ง่ายๆ นางใช้

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 990

    เฟิ่งชูอิ่งยิ้มแล้วถามว่า “ทางที่ข้าชี้นำ เจ้ากล้าเดินตามหรือ?”เมื่อมาถึงตอนนี้แล้ว นางก็คร้านจะเสแสร้งต่อไปสีหน้าของจิ่งสือเยี่ยนแข็งค้างไปครู่หนึ่ง นางพูดอย่างเฉื่อยชาว่า “เพราะพวกเจ้าติดอยู่ที่นี่ คงรู้สึกหนาวเหน็บและหวาดกลัว”“เจ้าบาดเจ็บ ในสภาพอากาศหนาวเย็นเช่นนี้ แผลของเจ้าจะยิ่งทรุดหนัก”“เจ้ารีบร้อนมารวบรวมกำลังพลของกองกำลังอวี๋ซาน เจ้าคงไม่ได้พกอาหารมาด้วยมากนัก ดังนั้นตอนนี้พวกเจ้าคงหิวมากแล้ว”“ในสถานการณ์เช่นนี้ แค่ข้ากักขังพวกเจ้าไว้ที่นี่ ต่อให้ไม่หนาวตาย พวกเจ้าก็คงอดตายอยู่ดี”ขณะนี้หิมะขาวโพลนโปรยปรายไปทั่ว อากาศหนาวเหน็บ สภาพอากาศเช่นนี้คงจะดำเนินต่อไปเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนเป็นอย่างที่เฟิ่งชูอิ่งบอก พวกเขาเดินทางมาที่นี่โดยไม่ได้พกเสบียงอาหารแห้งหรืออะไรทำนองนั้นมาด้วยเลยด้วยเหตุนี้ตอนที่พวกเขาเดินวนจนครบรอบที่สาม เสบียงอาหารก็หมดลงตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว หลังจากตกกลางคืน อากาศจะยิ่งหนาวเย็นลง พวกเขาจะยิ่งลำบากมากขึ้นจิ่งสือเยี่ยนชักกระบี่ยาวออกมา “เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถบั่นคอเจ้าด้วยกระบี่เล่มนี้ได้!”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มหวานแล้วเอ่ยว่า “เอาเลย ฆ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 989

    เขาคลี่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ได้”หลังจากฆ่าจิ่งโม่เยี่ยแล้ว จะปล่อยนางไปหรือไม่ เรื่องนี้เขาจะเป็นคนตัดสินใจนางเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขารู้สึกชอบจริงๆ และนางก็เป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขารู้จักกับความล้มเหลวเขารู้ว่านางมีวิธีการบางอย่างที่คนทั่วไปไม่มี ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าประมาท เขาจะป้อนยาที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงให้นางกินทุกวันเฟิ่งชูอิ่งรู้ทันความคิดของเขา และยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดีขณะที่ในใจของนางกำลังครุ่นคิด ครั้งที่แล้วโดนไปขนาดนั้นยังรอดมาได้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องหาโอกาสฆ่าเขาให้ตายสนิทแบบไม่มีสิทธิ์ฟื้นขึ้นมาอีกนางพลันนึกถึงเรื่องที่เหมยตงยวนวิญญาณแหลกสลายหลังจากรู้ข่าวการตายของเฟิ่งชิงหลิง จิตใจนางจึงหม่นหมองตามไปด้วยนางรู้ว่าเหมยตงยวนรักเฟิ่งชิงหลิงอย่างสุดซึ้ง แต่ไม่คิดว่านั่นจะเป็นรากฐานที่ทำให้เขามีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้เพราะนางเห็นความรักของพวกเขา นางจึงยิ่งรู้ชัดว่าตัวเองมีความรู้สึกแบบไหนต่อจิ่งโม่เยี่ยในเมื่อรักแล้ว ก็ต้องรักให้สุดหัวใจอย่าได้ทำเรื่องที่ทำให้ตัวเองเสียใจและทำให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจผิดอีกจิ่งสือเยี่ยนไม่ได้ไปตามล่าจิ่งโม่เยี่ยโดยตรง เขาวางแผนท

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 988

    เฟิ่งชูอิ่งเหลือบมองเขา ตอนนี้บนใบหน้าของเขามีบาดแผลเลือดไหลซึมอยู่หลายแห่ง น่าจะเป็นฝีมือของปลากินคนองคาพยพทั้งห้าที่เคยดูสดใสร่าเริงของเขา กลับดูดุร้ายน่ากลัวขึ้นหลายส่วนเมื่อมีรอยฟันปลาเหล่านั้นนางเอ่ยอย่างปลงตก “เจ้านี่หนังเหนียวจริงๆ นะ เจอขนาดนี้แล้วยังไม่ตายอีก”สมกับเป็นพระเอกของเรื่อง เป็นผู้มีบุญวาสนาโดยแท้ตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนเหนื่อยจะแสร้งทำเป็นสดใสร่าเริงแล้ว เขามองนางด้วยสายตามืดดำ “เจ้าคงผิดหวังมากสินะ?”“จิ่งโม่เยี่ยรักเจ้ามากขนาดนั้น หากเจ้าตกอยู่ในเงื้อมมือของข้า เดาสิว่าเขาจะทำอย่างไร?”เฟิ่งชูอิ่งครุ่นคิดอย่างจริงจังก่อนจะตอบว่า “คิดไม่ออก เจ้าลองเดาเองไหม?”จิ่งสือเยี่ยนจ้องมองนาง พยายามมองมาความหวาดกลัว ความวิตกกังวลจากสีหน้าของนาง แต่กลับไม่พบอะไรเลยแววตาของเขาหม่นลงเล็กน้อย “ถ้าข้าใช้เจ้าแลกกับใต้หล้าแห่งนี้ คิดว่าจิ่งโม่เยี่ยจะยอมไหม?”เฟิ่งชูอิ่งครุ่นคิดอย่างจริงจังอีกครั้ง “คงไม่มั้ง ถึงเขาจะยอม เจ้าก็คงไม่ปล่อยข้าและเขาให้มีชีวิตอยู่ต่อไปหรอก”“สุดท้ายเราสองคนก็คงต้องตายด้วยน้ำมือเจ้า ดังนั้นเขาคงไม่ยอมแลกหรอก”พูดจบนางก็บอกกับจิ่งสือเยี่ยนอีกว

DMCA.com Protection Status