Share

บทที่ 121

Author: ดอกถังร่วงหล่น
last update Last Updated: 2024-07-16 19:09:43
เขายังไม่ทันจะได้ตั้งตัว จิ่งสือเฟิงก็คว้าเขาไปจูบหนึ่งทีแล้ว

องครักษ์ที่เหลือตรงนั้นพากันยืนตาค้าง เกิดอะไรขึ้นกับจิ่งสือเฟิงเนี่ย?

จิ่งสือเฟิงรู้สึกว่าการจูบองครักษ์คนนั้นอย่างเดียวยังไม่พอ จึงคิดจะถอดกางเกงของเขาด้วย

องครักษ์ “!!!!!!”

โลกนี้มันบ้าบอไปกันหมดแล้ว!

เขาพยายามผลักไสจิ่งสือเฟิงอย่างสุดชีวิต จิ่งสือเฟิงก็เลยหันไปจูบองครักษ์คนอื่นแทน

องครักษ์ไม่กล้าลงมือทำร้ายเขา จึงทำได้เพียงผลักออกไป

เหมือนเขาจะรู้สึกตัวว่าองครักษ์เหล่านี้แรงเยอะเกินไป ไม่ถูกใจอย่างที่เขาต้องการ เขาจึงทำท่าหงุดหงิดแล้วฉีกอาภรณ์ของตนเองออก ขณะพุ่งตัวออกไปด้านนอก

พอเขาออกมาได้ ก็พบกับหญิงนางหนึ่งที่อายุประมาณห้าสิบปีกว่า เขาจึงพุ่งเข้าไปหานางจนล้มลงพื้น ”คนสวย มานอนกับข้าเสียดีๆ!”

หญิงนางนี้แม้จะอายุมากแล้ว แต่ก็ไม่เคยพบเจอเรื่องอะไรแบบนี้มาก่อน จึงตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ

นางแผดเสียงร้องแหลมแสบแก้วหู ทำเอาผู้คนที่สัญจรอยู่บนถนนหันมามองกันเกือบหมด

ลูกชายของหญิงคนนั้นบังเอิญอยู่แถวนั้นพอดี จึงถลาเข้ามาแล้วชกใส่จิ่งสือเฟิงเต็มแรง

องครักษ์ที่เห็นว่าเรื่องราวมันชักจะไปกันใหญ่แล้ว จึงใช้มือทุบเขาจนสลบ จากนั้นก็พาเขาเด
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 122

    เฟิ่งชูอิ่งรีบเอ่ยว่า “ขอโทษเจ้าค่ะ....”แต่พอนางเงยหน้าขึ้นมาเจอจิ่งโม่เยี่ย นางก็คลี่ยิ้มแล้วกล่าวว่า “ท่านอ๋องมาได้อย่างไรเพคะ?”จิ่งโม่เยี่ยไม่ได้ตอบ เขายื่นมือออกมาคว้ากล่องไปจากมือของนาง “เจ้าห้าดีกับเจ้าน่าดูเลยนะ”เฟิ่งชูอิ่งหันมองเขาแวบหนึ่งแล้วกล่าว “ไม่ใช่อ๋องจิ้นที่ดีกับข้า เป็นท่านอ๋องต่างหากเพคะที่ดีกับข้า“ท่านอ๋องจิ้นบอกข้าหมดแล้ว กล่องใส่ก้อนเงินใบนี้ท่านอ๋องไหว้วานเขาให้เอามามอบให้ข้า“เขายังบอกอีกว่าท่านอ๋องใส่ใจข้าอย่างมาก รู้ว่าข้าใช้ชีวิตอยู่ในจวนสกุลหลินอย่างลำบาก ก็เลยให้ก้อนเงินพวกนี้มาไว้ซื้อใจพวกบ่าวไพร่ในเรือน”แววตาของจิ่งโม่เยี่ยฉายแววสงสัย เฟิ่งชูอิ่งจึงยกสองมือกุมหัวใจแล้วเอ่ยว่า “ท่านอ๋องดีกับข้าจริงๆ ไม่เสียแรงที่ข้าปักใจท่านมาเนิ่นนาน“แต่ข้าไม่เข้าใจเลยเพคะ วันนี้ท่านอ๋องก็มอบของให้ข้าได้มิใช่หรือ ทำไมจะต้องฝากท่านอ๋องจิ้นมาด้วยล่ะ?“หรือว่าท่านอ๋องหน้าบางเกินไป ก็เลยเขินเกินกว่าจะมอบให้ข้าตรงๆ?”จิ่งโม่เยี่ยปรายตามองนางหนึ่งครา ก่อนจะส่งกล่องใส่ก้อนเงินคืนให้นางนางเหลือบมองเขาแล้วเบ้ปาก “วิธีการแสดงความรักของท่านอ๋องช่างอ้อมค้อมเหลือเกิน“อ้อมค้อมจ

    Last Updated : 2024-07-16
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 123

    จิ่งโม่เยี่ยตอบ “ฟังดูน่าสนใจดีนะ”เฟิ่งชูอิ่ง “......”ต่อให้นางจะรู้ตัวนานแล้วว่าใช้เหตุผลพูดคุยกับคนบ้าแบบเขาไม่ได้ แต่พอได้ยินสิ่งที่เขาพูดจริงๆ นางก็อดหัวเสียไม่ได้นางแค่นเสียงฮึเบาๆ ออกแรงสะบัดมือของตัวเองออกจากการเกาะกุม ก่อนจะเดินจากมาโดยไม่หันกลับไปมองจิ่งโม่เยี่ยเห็นท่าทางของนางก็อดอมยิ้มไม่ได้ เอ่ยไล่หลังนางไปว่า “ตอนที่เจ้าอยู่กับจิ่งสือเฟิงในโรงน้ำชา ข้านั่งอยู่ห้องข้างๆ“ถึงข้าจะไม่สนใจว่าเจ้าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร แต่ย่อมไม่ปล่อยให้ว่าที่พระชายาถูกดูหมิ่น”เฟิ่งชูอิ่งได้ยินที่เขาพูดก็หยุดชะงัก ก่อนจะเดินถอยหลังกลับไปหาเขาแล้วถามว่า “ท่านอ๋องกำลังจะบอกข้าว่า ตราบใดที่มีท่านอยู่ อ๋องเฉินก็ไม่มีทางรังแกข้าได้หรือเพคะ?“ท่านอ๋องกำลังเป็นห่วงข้าอยู่หรือ? หากท่านเป็นห่วงข้าจริงๆ ช่วยคืนกล่องใส่ก้อนเงินอันนั้นให้ข้าได้ไหม?”จิ่งโม่เยี่ยใช้หางตามองนางเล็กน้อย ไม่พูดไม่จา กอดกล่องใบนั้นไว้แล้วขึ้นรถม้าไปทันทีเฟิ่งชูอิ่ง “......”บุรุษสุนัขผู้นี้จะซึนเดเระเกินไปไหมรถม้าเคลื่อนตัวไปได้เพียงนิดเดียวก็จอดตรงหน้าเฟิ่งชูอิ่งจิ่งโม่เยี่ยเปิดม่านออกแล้วยื่นตั๋วเงินให้นางปึกหนึ่ง “รั

    Last Updated : 2024-07-17
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 124

    นางคิดไม่ออกจริงๆ ว่านังเด็กโง่แบบเฟิ่งชูอิ่งมีอะไรดีนักหนา ถึงได้รับของพระราชทานจากไทเฮาแบบนี้?แต่พอคิดว่าของที่ไทเฮาทรงพระราชทานมาย่อมต้องเป็นของดี และของพวกนี้นางต้องเก็บเอาไว้ให้ได้ดังนั้นฮว๋าซื่อจึงเดินออกไปรับของด้วยท่าทางตื่นเต้นยินดีนางกล่าวกับขันทีที่มาส่งของว่า “ชูอิ่งรู้สึกไม่ค่อยสบายนัก ข้าเป็นท่านป้าของนาง ของเหล่านี้ข้าจะรับแทนนางเอง”ขันทีคนนั้นหรี่ตามองนาง “ไทเฮาทรงมีรับสั่ง ของเหล่านี้เป็นของคุณเฟิ่งแต่เพียงผู้เดียว ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ห้ามรับแทน“คุณหนูเฟิ่งไม่สบายตรงไหนหรือ? ต้องการให้ข้าเชิญหมอหลวงมาตรวจนางหรือไม่?”ฮว๋าซื่อ “......”นางมองใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสของขันทีผู้นั้น พลันรู้สึกเหมือนตัวเองถูกคนตบหน้าแบบแปลกๆนางวางอำนาจบาตรใหญ่ในจวนสกุลหลินได้ แต่กลับไม่กล้าวางท่าอวดดีกับขันทีที่มาส่งของแทนไทเฮา จึงสั่งให้คนไปตามเฟิ่งชูอิ่งออกมาคราวนี้ใช้เวลาเพียงไม่นานเฟิ่งชูอิ่งก็มาถึง ฮว๋าซื่อจึงถลึงตาใส่นางไปหนึ่งทีนับตั้งแต่เรื่องคราก่อน พวกนางสองคนก็ฉีกหน้ากันอย่างเปิดเผย เฟิ่งชูอิ่งจึงไม่อยากแสดงละครต่อหน้าฮว๋าซื่ออีกขันทีผู้นั้นเห็นเฟิ่งชูอิ่งก็ยิ้มอย่างเป็นมิ

    Last Updated : 2024-07-17
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 125

    หลินชูเจิ้งจึงปล่อยข่าวออกไปว่าสตรีนางนั้นไม่ใช่นาง แต่เป็นสาวใช้คนหนึ่งที่หน้าตาคล้ายกับนางมาก ซึ่งเขาจัดการฆ่าสตรีนางนั้นทิ้งไปแล้วเขายังบอกอีกว่าฮวาซื่อผุดผ่องไร้มลทิน มีคนต้องการใส่ร้ายนางให้เสื่อมเสียคำอธิบายของเขา คนที่ไม่ได้เห็นเหตุการณ์ในวันนั้นหากได้ยินก็คงเชื่ออยู่หรอก เพราะทุกคนต่างก็คิดตรงกันว่าหากฮวาซื่อเกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้นจริงๆ จะต้องถูกหย่าและขับออกจากจวนแน่นอนเขาไม่ได้หย่ากับฮวาซื่อ แปลว่าฮวาซื่อเป็นผู้บริสุทธิ์จริงๆทว่าคนในจวนต่างรู้กันดีแก่ใจ ว่าคนที่ระเริงรักอย่างไม่อายฟ้าอายดินกับสารถีแซ่หลินในตอนนั้นก็คือนางเฟิ่งชูอิ่งเอ่ยเสียงเรียบว่า “จะใช่ท่านหรือไม่ ทุกคนต่างก็รู้ดีอยู่แก่ใจ“ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น ข้าขอถามท่านป้าแค่ประโยคเดียว หลังจากเกิดเรื่องนั้นแล้ว ท่านลุงมานอนค้างที่ห้องของท่านกี่ครั้ง?”คำพูดของนางมีพลังทำลายรุนแรงยิ่งกว่ามีดที่วาววับเมื่อครู่นี้อีก ดวงหน้าของฮวาซื่อซีดขาวอย่างฉับพลันเฟิ่งชูอิ่งเห็นสีหน้าของนางก็ขี้คร้านจะสนใจนางต่อ เอ่ยเรียกว่า “เฉี่ยวหลิง ขนของพวกนี้กลับไป”เฉี่ยวหลิงเป็นวิญญาณร้าย ว่ากันตามหลักแล้วในยามกลางวันนางจะมีร่างกายไม

    Last Updated : 2024-07-17
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 126

    ตอนที่เฉี่ยวหลิงไปหลอกหลินหว่านถิงนางใช้ทักษะบางอย่าง เปลี่ยนแปลงรูปร่างหน้าตาให้ไม่เหมือนเดิมแต่หลังจากหลินหว่านถิงโดนนางหลอกไปวันนั้น นางก็สัมผัสบรรยากาศรอบตัวของนางได้อย่างแม่นยำวันนี้พอเจอหน้ากันอีกครั้ง หลินหว่านถิงจึงคิดว่าเฉี่ยวหลิงคือผีที่หลอกนางคืนนั้นหลังจากนางถูกเฉี่ยวหลิงเล่นงานจนล้มป่วย ร่างกายก็ยังไม่ฟื้นฟูเป็นปกติสักที ยามนี้ต้องหวาดผวาซ้ำอีกรอบ แผ่นหลังของนางจึงเปียกชื้นไปด้วยเหงื่อ แข้งขาพลันอ่อนแรงพอนางตะโกนออกไปแบบนั้น หลินอีฉุนก็วิ่งหน้าตั้งมาทันที “ไหนล่ะผี?”หลินหว่านถิงชี้ไปที่เฉี่ยวหลิง “นางนั่นแหละผี!”เฉี่ยวหลิงยืนทำหน้าไร้เดียงสาอยู่ที่เดิม ใจแอบคิดว่าหลินหว่านถิงสายตาหลักแหลมไม่เบา นางอยู่สภาพนี้ยังมองออกอีกนางควรจะแสดงคางร่วงแตะพื้น ลูกตาหลุดจากเบ้าให้หลินหว่านถิงดูอีกสักทีไหม?เฟิ่งชูอิ่งปรายตามองเฉี่ยวหลิงแวบหนึ่ง แม้ในใจจะรู้สึกเสียดาย แต่นางก็ยอมถอยไปอยู่ด้านหลังเฟิ่งชูอิ่งแต่โดยดีเฟิ่งชูอิ่งหันไปทางหลินหว่านถิงแล้วถามว่า “พี่สาวหวาดผวาจนเสียสติแล้วหรือ?“ผีหลอกอะไรกัน นี่เป็นสาวใช้ที่ข้าซื้อตัวกลับมา“ท่านเคยเห็นผีที่ไหนปรากฏตัวตอนกลางวันแสกๆ ได้

    Last Updated : 2024-07-17
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 127

    แม้นางจะรู้สึกว่าจิ่งโม่เยี่ยเป็นคนบ้าที่ไม่มีใครกล้าอยู่ใกล้ แต่ต่อให้นางตาบอดก็ไม่มีวันเลือกหลินอีฉุนอยู่ดีไหนๆ นางก็ไม่มีอะไรทำพอดี งั้นนางจะเล่นกับเขาสักหน่อยก็แล้วกันนางจึงเอ่ยว่า “ขอแค่ข้าไม่แต่งงานกับอ๋องฉู่ เจ้าก็ยินดีจะแต่งข้าเป็นภรรยางั้นหรือ?”หลินอีฉุนทำหน้าหนักใจ “เจ้าก็รู้มิใช่หรือ ตอนนี้ข้ากำลังร่ำเรียนในสำนักศึกษาได้อย่างยอดเยี่ยม ปีนี้เตรียมจะลงสนามสอบขุนนาง“ตอนนี้พ่อของข้าเป็นถึงรองเจ้ากรมคลัง เชื่อว่าอีกไม่นานเขาก็จะกลายเป็นหัวหน้าเลขากรมคลังได้ ส่วนข้าขอแค่ลงสนามสอบ อย่างน้อยก็จะได้เป็นอันดับที่สอง“อนาคตของข้ายังอีกยาวไกล ภรรยาของข้าจะต้องเป็นสตรีมีชาติตระกูลเท่านั้น“ถึงแม้ว่าเจ้าจะดีมาก แต่บิดามารดาของเจ้าก็จากโลกไปหมดแล้ว เจ้าไม่สามารถช่วยผลักดันอะไรข้าได้ ดังนั้นข้าไม่มีทางแต่งเจ้าเป็นภรรยาเอกได้”เขากล่าวมาถึงตรงนี้ก็แสดงท่าทางอ่อนโยน มองนางอย่างรักใคร่ลึกซึ้ง “แต่ถึงข้าจะแต่งผู้หญิงคนอื่นเข้ามาเป็นภรรยาเอก เจ้าก็จะยังเป็นคนที่ข้ารักที่สุดตลอดไป“ขอแค่เจ้ายินดีจะเป็นสตรีของข้า ภายภาคหน้าข้าจะดูแลเจ้าเป็นอย่างดี ตำแหน่งอนุภรรยาของข้าจะเว้นว่างให้เจ้าตลอดกาล”

    Last Updated : 2024-07-18
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 128

    คราวนี้ผู้ดูแลโจวมาด้วยท่าทางอ่อนน้อมเป็นอย่างยิ่งเขาคุกเข่าตรงหน้าของเฟิ่งชูอิ่งแล้วโขกศีรษะให้นางสามครั้ง “คุณหนูเฟิ่งได้โปรดช่วยข้าด้วย!“มีเพียงคุณหนูเฟิ่งเท่านั้นที่ช่วยเหลือข้าได้ ข้าขอสาบานตรงนี้เลยว่านับจากนี้ไปจะยอมเป็นทาสรับใช้ท่าน”เขากล่าวจบก็โขกศีรษะให้นางอีกสามครั้ง “คุณหนูเฟิ่งได้โปรดช่วยข้าด้วย!”เฟิ่งชูอิ่งเห็นว่าท่าทีของเขาวันนี้แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ครั้งนี้ดูมีความจริงใจอย่างเห็นได้ชัดนางนั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่ มือแกะเมล็ดแตงขณะเอ่ยว่า “เงื่อนไขเหมือนเดิม หากอยากให้ข้าช่วย ก็ต้องแสดงความจริงใจให้เห็น”ผู้ดูแลโจวกล่าวทันทีว่า “ข้ารู้ความลับในจวนสกุลหลินทั้งหมด ข้าสามารถบอกกับคุณหนูเฟิ่งได้...”เฟิ่งชูอิ่งโบกมือไปมา “ความลับพวกนั้นเจ้าเก็บไว้ค่อยๆ บอกกับข้าทีหลังได้ วันนี้ข้ามีงานอยากให้เจ้าทำ”ผู้ดูแลโจวรีบตอบว่า “เชิญคุณหนูเฟิ่งรับสั่ง!”เฟิ่งชูอิ่งเห็นว่าท่าทางในตอนนี้ของเขามิเลวเลย จึงบอกว่า “หลังจากเจ้าทำเรื่องในวันนี้สำเร็จ ข้ารับปากว่าอายุเจ้าจะยืนยาวขึ้นอีกหนึ่งเดือน”วิญญาณร้ายที่ตามติดผู้ดูแลโจวได้ยินนางเอ่ยแบบนี้ก็ทำหน้าหมดอาลัยตายอยาก ก่

    Last Updated : 2024-07-18
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 129

    แค่จินตนาการในสมอง เขาก็ตื่นเต้นจนทนไม่ไหวแล้วเมื่อล่วงเข้าสู่ยามไฮ่ได้สักพัก หลินอีฉุนก็ได้ยินการเคลื่อนไหวจากด้านหลัง จึงเอ่ยว่า “ญาติผู้น้อง ในที่สุดเจ้าก็มาเสียที ข้ารออยู่นานมากเลยนะ”เขาเอ่ยจบก็ทำท่าจะลุกขึ้นยืน แต่เขายังไม่ทันจะได้ยืนเต็มความสูง ก็ถูกอะไรบางอย่างกระแทกจนล้มลงไปกองกับพื้นเขามึนงงไปชั่วขณะ สองมือของเขาคว้าของสิ่งนั้นขึ้นมาโดยอัตโนมัติ แต่กลับคว้าโดนขนเป็นกระจุกแทนเขาตกใจอย่างมากจึงหันไปมองของสิ่งนั้นแบบเต็มตา พบว่ามันคือศีรษะของสุนัขตัวหนึ่งสุนัขตัวนี้เขารู้จักเป็นอย่างดี มันคือสุนัขที่ถูกเลี้ยงเอาไว้ในจวน มีความดุร้ายอย่างยิ่งยามนี้ปากของสุนัขตัวนั้นอ้าออกเล็กน้อย กลิ่นคาวคลุ้งและเหม็นฉุนลอยออกมาจากปากของมัน ก่อนจะมีของเหลวหยดลงบนหน้าของเขาตอนแรกเขายังกรึ่มๆ ด้วยฤทธิ์สุรา ทว่ายามนี้กลับตื่นเต็มตาเขาคิดจะผลักสุนัขตัวนั้นออกไป เพราะมันมีความดุร้ายอย่างมาก แล้วยังมีพละกำลังมหาศาล เขาจึงไม่สามารถผลักมันออกไปได้ง่ายๆการดิ้นรนของเขากลับกระตุ้นสัญชาตญาณดิบเถื่อนของสุนัขตัวนั้น มันจึงแยกเขี้ยวใส่เขา ก่อนจะใช้ขาทั้งสี่ข้างตะกุยมั่วไปหมด ส่วนปากก็กัดเขาทั่วร่างเพี

    Last Updated : 2024-07-18

Latest chapter

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 996

    ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้ฐานะของจิ้งจอกสือซานเหนียง แต่ตอนนี้เขาพอจะเข้าใจได้หลังจากได้ยินบทสนทนาระหว่างจิ้งจอกสือซานเหนียงและเฟิ่งชูอิ่งจิ้งจอกสือซานเหนียงเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของเขาก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากไปเฟิ่งชูอิ่งถามว่า “เจ้าจะไปไหน? ข้ายังมีเรื่องอยากจะถามเจ้าอีกมาก”จิ้งจอกสือซานเหนียงตอบว่า “ข้าจะไปหาที่ขับไล่พลังชั่วร้ายออกจากร่างกาย พอขับไล่เสร็จแล้วข้าจะกลับมาหาเจ้า”ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางฝึกฝนวิชาสายชั่วร้ายมากมาย ทำให้พลังชั่วร้ายในร่างกายมีมากเกินไป หากอยู่ใกล้ใครนานๆ จะมีผลกระทบต่อคนรอบข้างเฟิ่งชูอิ่งจึงเตือนนางว่า “เจ้าอย่าผิดคำพูดล่ะ ข้าจะรอเจ้ากลับมา!”จิ้งจอกสือซานเหนียงโบกมือแล้วบอกว่า “วางใจเถอะ ข้าจะกลับมาแน่นอน”หลังจากนางเดินออกไปไกลแล้ว เฟิ่งชูอิ่งก็ถอนหายใจยาวๆ และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากแยกทางกันให้จิ่งโม่เยี่ยฟังหลังจากที่จิ่งโม่เยี่ยได้ยินเรื่องของเหมยตงยวน เขาก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เพราะรักถลำลึกจึงไม่ยืนยาว เรื่องระหว่างท่านพ่อกับท่านแม่ช่างน่าเศร้า”เฟิ่งชูอิ่งกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ดังนั้นการสื่อสารจึงสำคัญ ต่อไปไม่ว่าจะมี

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 995

    สิ้นเสียงของนาง สายฟ้าก็ฟาดลงมาอีกครั้ง ทำให้พลังที่พุ่งพล่านของเขาสลายไปจิ่งสือเยี่ยน “!!!!!!!!”หลังจากถูกอสนีบาตฟาดใส่อย่างต่อเนื่องห้าครั้ง ร่างวิญญาณของเขาก็จางลงอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่ตายเฟิ่งชูอิ่งถึงกับตกใจ ชีวิตของจิ่งสือเยี่ยนช่างแข็งแกร่งเสียจริง!นางอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาจะกลายเป็นเทียนซือคนที่สอง และจะกลายเป็นภัยพิบัติในอนาคตนางกำลังจะม้วนแขนเสื้อขึ้นเพื่อเสกยันต์ใส่จิ่งสือเยี่ยนอีกครั้ง แต่กลับมีเงาร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาแล้วกลืนเขาเข้าไปทั้งตัวเฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”จิ้งจอกสือซานเหนียงเรอออกมาคำโตแล้วบอกว่า “เขาเป็นอาหารที่ข้าหมายตาไว้แต่แรก”“การปล่อยให้อาหารหลุดมือไป เป็นเรื่องที่ไม่อาจให้อภัยได้”เฟิ่งชูอิ่ง “......”นางเคยจินตนาการถึงความตายของจิ่งสือเยี่ยนไว้หลายแบบ แต่ไม่มีฉากจบแบบนี้อยู่เลยนางได้คงบอกได้แค่ว่าจิ้งจอกสือซานเหนียงเจ๋งสุดยอด!ขณะเดียวกันนั้นจิ่งโม่เยี่ยก็เดินเข้ามา เขาจ้องมองจิ้งจอกสือซานเหนียงด้วยความระแวดระวัง มือจับกระบี่เอาไว้ เตรียมพร้อมที่จะฟันจิ้งจอกสือซานเหนียงได้ทุกเมื่อเฟิ่งชูอิ่งบีบมือเขาเบาๆ ให้เขาผ่อนคลายจิ้งจอก

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 994

    แต่ทว่าคันธนูของจิ่งสือเยี่ยนเพิ่งจะยกขึ้นมา ก็มีลูกธนูที่เร็วกว่าพุ่งทะลุหัวใจของเขาในทันทีจิ่งสือเยี่ยนมองลูกธนูที่ปักอยู่บนอกด้วยความไม่อยากเชื่อ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองและเห็นดวงตาที่เย็นชาของจิ่งโม่เยี่ยเมื่อครู่นี้พวกเขาทั้งสองยังมีระยะห่างต่อกันอยู่แท้ๆ และตำแหน่งที่เขาหลบอยู่ก็เป็นมุมอับที่จิ่งโม่เยี่ยยิงมาไม่ถึงทว่าเพียงแค่อึดใจเดียว จิ่งโม่เยี่ยก็ปรับตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วและยิงธนูทะลุหัวใจเขาได้ในนัดเดียวในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนกับจิ่งโม่เยี่ยไม่ได้อยู่ห่างกันมากนัก แต่ถ้าพูดคุยกันตามปกติก็คงไม่ได้ยินทว่าในเวลาเช่นนี้ จิ่งสือเยี่ยนกลับได้ยินเสียงของจิ่งโม่เยี่ย “คนที่กล้าทำร้ายชูอิ่งต้องตาย!”ก่อนหน้านี้จิ่งสือเยี่ยนคิดแค่ว่าจิ่งโม่เยี่ยดีต่อเฟิ่งชูอิ่งมาก ทว่าตอนนี้เขาเพิ่งได้รู้ซึ้งเรื่องบางอย่างเฟิ่งชูอิ่งไม่ใช่แค่จุดอ่อนของจิ่งโม่เยี่ย แต่เป็นทั้งชีวิตของเขาแต่มาเข้าใจเอาป่านนี้ก็สายไปแล้วในตอนนี้เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนคว่ำอยู่บนพื้นหิมะ นางได้ยินเสียงวัตถุแหวกอากาศจึงหันไปมอง และเห็นภาพของจิ่งสือเยี่ยนล้มลงกับพื้นในเวลานี้ เฟิ่งชูอิ่งก็เข้าใจใด้ทันทีว่าในโลกน

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 993

    ในเมื่อเขาไม่ได้ราชบัลลังก์และเฟิ่งชูอิ่งมาครอบครอง ราชบัลลังก์เขาอาจจะทำลายไม่ได้ แต่เฟิ่งชูอิ่งแค่คนเดียวเขาทำลายได้แน่นอนองครักษ์สองคนของเขารีบเปลี่ยนมาง้างคันธนูเล็งไปที่เฟิ่งชูอิ่ง ทว่าลูกธนูยังไม่ทันได้ยิงออกไป ก็ถูกบางสิ่งบางอย่างปัดออกไปอีกครั้งในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนก็พลันเข้าใจบางอย่างขึ้นมาทันทีตลอดทางที่ผ่านมา วิญญาณร้ายของเฟิ่งชูอิ่งถึงจะมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ลงมือ นั่นก็น่าจะมีเหตุผลที่ลงมือไม่ได้วิญญาณร้ายโจมตีองครักษ์ของเขา แต่กลับไม่โจมตีเขา นั่นก็หมายความว่าวิญญาณร้ายเหล่านั้นโจมตีเขาไม่ได้เขานึกถึงข่าวลือที่เคยได้ยินมาว่า พลังมังกรของผู้เป็นฮ่องเต้เป็นสิ่งที่ปราบภูตผีปีศาจได้วิญญาณร้ายไม่โจมตีเขา นั่นแสดงว่าวิญญาณร้ายทำอะไรเขาไม่ได้ แปลว่าเขามีพลังมังกรอยู่ในตัว?ความคิดนี้ทำให้จิตใจเขาฮึกเหิมขึ้นมาทันที เขารีบหยิบธนูของตัวเองขึ้นมา อดทนต่อความเจ็บปวดจากบาดแผลแล้วยิงธนูไปที่หลังของเฟิ่งชูอิ่งเฉี่ยวหลิงเห็นภาพนี้ก็ตกใจ รีบยื่นมือออกไปเพื่อจะรับลูกธนูนั้นทว่าลูกธนูนั้นเปื้อนเลือดของจิ่งสือเยี่ยน เลือดนั้นเป็นอันตรายต่อวิญญาณร้ายอย่างมาก มือของนางแค่เพียงสัมผ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 992

    หิมะยังคงโปรยปรายลงมา โลกนี้เงียบสงัด มีเพียงเสียงฝีเท้ากระทบกับพื้นหิมะดังฟุ่บฟั่บช่วงใกล้รุ่งสาง ชวีเหลียงอวี่ก็มาปรากฏตัวและเอ่ยขึ้นทันทีว่า "ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการรออยู่ข้างนอกแล้ว"เมื่อได้ยินดังนั้น เฟิ่งชูอิ่งก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยนางหันไปบอกกับจิ่งสือเยี่ยนว่า "เมื่อครู่ข้าลองคิดดูดีๆ แล้ว รู้สึกว่าที่เจ้าพูดก็มีเหตุผลอยู่บ้าง การมีชีวิตอยู่ก็ไม่เลว"จิ่งสือเยี่ยน “......”หลังจากผ่านมาทั้งคืน นางกลับปลงตกในเรื่องเช่นนี้ได้ ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจอยู่เล็กน้อยแต่การที่นางคิดได้ในตอนนี้ก็เป็นเรื่องดีเขาจึงพูดว่า "หลายสิ่งหลายอย่างทำได้ตอนมีชีวิตอยู่เท่านั้น ตายไปแล้วทำไม่ได้""ตราบใดที่เจ้าพาข้าออกจากค่ายกลแห่งนี้ ข้าจะไม่สร้างความลำบากให้เจ้าอีก”เฟิ่งชูอิ่งพยักหน้า "ก็ได้ งั้นตอนนี้ข้าจะพาเจ้าไปทำลายค่ายกล"พูดจบนางก็ควบม้านำหน้าไป จิ่งสือเยี่ยนรีบนำทหารตามไปทันทีเพียงแต่พวกเขาเดินวนเวียนอยู่ที่นี่ทั้งคืน ทั้งเหนื่อยทั้งหิว พลังจึงลดลงไปมากเฟิ่งชูอิ่งมียันต์ป้องกันความหนาวติดตัวอยู่จึงไม่รู้สึกหนาว ก่อนหน้านี้ก็นอนหลับมาตลอดทาง ทำให้รักษาพลังงานไว้ได้มากที่สุ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 991

    เขาไม่เคยเจอใครดื้อด้านเท่านางมาก่อน!เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับโทสะ เพราะตอนนี้เขาไม่สามารถตบตีหรือด่าทอนางได้ทั้งนั้นเขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เจ้าอยากไปเจียงหนานไม่ใช่หรือ? พอออกจากที่นี่ได้ ข้าจะไม่ขัดขวางเจ้า เจ้าก็จะได้ไปชมวิวทิวทัศน์เจียงหนานที่เจ้าอยากเห็น”“เจียงหนานในฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุมทั้งงดงามและน่าหลงใหล ถ้าเจ้ายังไม่เคยเห็น ต้องไปดูด้วยตาตัวเองให้ได้เลย”เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนอยู่บนพื้นไม่ยอมลุกขึ้น “ไม่ไป อากาศหนาวเกินไป เดินทางเหนื่อยเกินไป”จิ่งสือเยี่ยน “…...”ตั้งแต่วินาทีที่เขาติดกับอยู่ที่นี่ สถานะระหว่างเขากับเฟิ่งชูอิ่งก็สลับกันโดยสิ้นเชิงเพราะเขามีความทะเยอทะยาน อยากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายยิ่งเฟิ่งชูอิ่งแสดงออกว่าอยากตายมากเท่าไหร่ จิ่งสือเยี่ยนก็ยิ่งไม่ยอมให้นางตายมากขึ้นเท่านั้นดังนั้นตอนนี้นางจึงควบคุมเขาได้อย่างเบ็ดเสร็จการที่นางแสดงท่าทีไม่ยอมทำตามไม่ว่าเขาจะใช้ไม้แข็งหรือไม้อ่อนเช่นนี้ ทำให้เขาแทบเป็นบ้าจิ่งสือเยี่ยนไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าการจับตัวประกันจะน่าอึดอัดขนาดนี้เฟิ่งชูอิ่งนอนเอกเขนกอยู่ตรงนั้นอย่างสบายใจ เหตุผลก็ง่ายๆ นางใช้

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 990

    เฟิ่งชูอิ่งยิ้มแล้วถามว่า “ทางที่ข้าชี้นำ เจ้ากล้าเดินตามหรือ?”เมื่อมาถึงตอนนี้แล้ว นางก็คร้านจะเสแสร้งต่อไปสีหน้าของจิ่งสือเยี่ยนแข็งค้างไปครู่หนึ่ง นางพูดอย่างเฉื่อยชาว่า “เพราะพวกเจ้าติดอยู่ที่นี่ คงรู้สึกหนาวเหน็บและหวาดกลัว”“เจ้าบาดเจ็บ ในสภาพอากาศหนาวเย็นเช่นนี้ แผลของเจ้าจะยิ่งทรุดหนัก”“เจ้ารีบร้อนมารวบรวมกำลังพลของกองกำลังอวี๋ซาน เจ้าคงไม่ได้พกอาหารมาด้วยมากนัก ดังนั้นตอนนี้พวกเจ้าคงหิวมากแล้ว”“ในสถานการณ์เช่นนี้ แค่ข้ากักขังพวกเจ้าไว้ที่นี่ ต่อให้ไม่หนาวตาย พวกเจ้าก็คงอดตายอยู่ดี”ขณะนี้หิมะขาวโพลนโปรยปรายไปทั่ว อากาศหนาวเหน็บ สภาพอากาศเช่นนี้คงจะดำเนินต่อไปเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนเป็นอย่างที่เฟิ่งชูอิ่งบอก พวกเขาเดินทางมาที่นี่โดยไม่ได้พกเสบียงอาหารแห้งหรืออะไรทำนองนั้นมาด้วยเลยด้วยเหตุนี้ตอนที่พวกเขาเดินวนจนครบรอบที่สาม เสบียงอาหารก็หมดลงตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว หลังจากตกกลางคืน อากาศจะยิ่งหนาวเย็นลง พวกเขาจะยิ่งลำบากมากขึ้นจิ่งสือเยี่ยนชักกระบี่ยาวออกมา “เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถบั่นคอเจ้าด้วยกระบี่เล่มนี้ได้!”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มหวานแล้วเอ่ยว่า “เอาเลย ฆ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 989

    เขาคลี่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ได้”หลังจากฆ่าจิ่งโม่เยี่ยแล้ว จะปล่อยนางไปหรือไม่ เรื่องนี้เขาจะเป็นคนตัดสินใจนางเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขารู้สึกชอบจริงๆ และนางก็เป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขารู้จักกับความล้มเหลวเขารู้ว่านางมีวิธีการบางอย่างที่คนทั่วไปไม่มี ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าประมาท เขาจะป้อนยาที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงให้นางกินทุกวันเฟิ่งชูอิ่งรู้ทันความคิดของเขา และยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดีขณะที่ในใจของนางกำลังครุ่นคิด ครั้งที่แล้วโดนไปขนาดนั้นยังรอดมาได้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องหาโอกาสฆ่าเขาให้ตายสนิทแบบไม่มีสิทธิ์ฟื้นขึ้นมาอีกนางพลันนึกถึงเรื่องที่เหมยตงยวนวิญญาณแหลกสลายหลังจากรู้ข่าวการตายของเฟิ่งชิงหลิง จิตใจนางจึงหม่นหมองตามไปด้วยนางรู้ว่าเหมยตงยวนรักเฟิ่งชิงหลิงอย่างสุดซึ้ง แต่ไม่คิดว่านั่นจะเป็นรากฐานที่ทำให้เขามีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้เพราะนางเห็นความรักของพวกเขา นางจึงยิ่งรู้ชัดว่าตัวเองมีความรู้สึกแบบไหนต่อจิ่งโม่เยี่ยในเมื่อรักแล้ว ก็ต้องรักให้สุดหัวใจอย่าได้ทำเรื่องที่ทำให้ตัวเองเสียใจและทำให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจผิดอีกจิ่งสือเยี่ยนไม่ได้ไปตามล่าจิ่งโม่เยี่ยโดยตรง เขาวางแผนท

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 988

    เฟิ่งชูอิ่งเหลือบมองเขา ตอนนี้บนใบหน้าของเขามีบาดแผลเลือดไหลซึมอยู่หลายแห่ง น่าจะเป็นฝีมือของปลากินคนองคาพยพทั้งห้าที่เคยดูสดใสร่าเริงของเขา กลับดูดุร้ายน่ากลัวขึ้นหลายส่วนเมื่อมีรอยฟันปลาเหล่านั้นนางเอ่ยอย่างปลงตก “เจ้านี่หนังเหนียวจริงๆ นะ เจอขนาดนี้แล้วยังไม่ตายอีก”สมกับเป็นพระเอกของเรื่อง เป็นผู้มีบุญวาสนาโดยแท้ตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนเหนื่อยจะแสร้งทำเป็นสดใสร่าเริงแล้ว เขามองนางด้วยสายตามืดดำ “เจ้าคงผิดหวังมากสินะ?”“จิ่งโม่เยี่ยรักเจ้ามากขนาดนั้น หากเจ้าตกอยู่ในเงื้อมมือของข้า เดาสิว่าเขาจะทำอย่างไร?”เฟิ่งชูอิ่งครุ่นคิดอย่างจริงจังก่อนจะตอบว่า “คิดไม่ออก เจ้าลองเดาเองไหม?”จิ่งสือเยี่ยนจ้องมองนาง พยายามมองมาความหวาดกลัว ความวิตกกังวลจากสีหน้าของนาง แต่กลับไม่พบอะไรเลยแววตาของเขาหม่นลงเล็กน้อย “ถ้าข้าใช้เจ้าแลกกับใต้หล้าแห่งนี้ คิดว่าจิ่งโม่เยี่ยจะยอมไหม?”เฟิ่งชูอิ่งครุ่นคิดอย่างจริงจังอีกครั้ง “คงไม่มั้ง ถึงเขาจะยอม เจ้าก็คงไม่ปล่อยข้าและเขาให้มีชีวิตอยู่ต่อไปหรอก”“สุดท้ายเราสองคนก็คงต้องตายด้วยน้ำมือเจ้า ดังนั้นเขาคงไม่ยอมแลกหรอก”พูดจบนางก็บอกกับจิ่งสือเยี่ยนอีกว

DMCA.com Protection Status