Share

บทที่ 451

Penulis: เย่ว์เหมี่ยว
โม่จุนยิ้มอย่างเย็นชา : "นิสัยของท่านอ๋องสามมักจะหยิ่งทระนง ส่วนท่านอ๋องสี่เป็นคนสุขุม ทั้งสองมีความแตกต่างกัน อีกอย่างตอนนั้นฝ่าบาทก็ดันมาเสด็จสวรรคตอย่างกระทันหัน ท่านอ๋องสามเลยคิดว่าเป็นโอกาสอันดี แต่ท่านอ๋องสี่คงคิดว่ายังเตรียมการไม่พร้อม"

มู่จิ่วซีคิดดูก็ว่าใช่ จากนั้นก็ยิ้มกล่าว : "พวกเขาคงไม่คาดคิดว่าเจ้าจะฉลาดขนาดนี้ คาดไม่ถึงว่าจะปราบไว้ได้ ท่านอ๋องสี่เลยไม่กล้าลงมือหุนหันพลันแล่น บางทีเดิมเขาอาจไม่คิดจะร่วมมือกับศัตรู แต่เพราะความล้มเหลวของท่านอ๋องสาม เขาคงรู้สึกว่าหากไม่ร่วมมือกับศัตรูคนนอกก็คงไม่มีทางสำเร็จ"

โม่จุนพยักหน้ากล่าว: "ก็อาจจะ แต่ว่าซีเอ๋อร์ ไม่คาดคิดจริงๆ ว่าเจ้าจะเปิดโปงแผนการออกมาได้ในพริบตา ทำให้เขาต้องหลบหนีจนหัวซุกหัวซุน ต้องทิ้งทุกอย่างที่เตรียมมาอย่างสูญเปล่า คงจะเกลียดเจ้ามากแน่ๆ"

"มีคนเกลียดก็หมายถึงว่าข้าโดดเด่นน่ะสิ" มู่จิ่วซีหัวเราะยิ้มแย้ม

แววตาของโม่จุนแฝงด้วยความอบอุ่นขึ้นมา แม่นางคนนี้เชื่อมันในตัวเองจริงๆ

"ใช่แล้ว ข้ายังมีธุระต้องออกไปจัดการ เจ้าทานเสร็จแล้วก็นอนพักผ่อนหน่อย อีกสองวันคณะเจรจาของแคว้นเป่ยจิ้นก็จะมาแล้ว เจ้าจะออกไปเจอคนในสภาพ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 452

    มู่จิ่วซีรู้สึกว่าเหมือนกับร้านค้าที่นิยมติดกระแสเลยทันใดนั้นนางก็นึกถึงหอหล่านจวี๋และหอหงซิ่วซึ่งล้วนเป็นธุรกิจของท่านอ๋องสี่ ตอนนี้ไม่ได้ริบยึดเอามา และไม่รู้ว่าใครเป็นคนรับช่วงต่อ นี่คือธุรกิจที่ดีแต่ว่าต่อให้พระพันปีหลวงมอบให้นาง นางก็ไม่กล้าจะรับไว้ กลัวว่าเดี๋ยวจวนมู่จะกลายเป็นอำนาจสูงกลบนาย (อำนาจสูงกลบนาย หมายถึง มีอำนาจมาก มีความสามารถมาก แต่ไม่ประมาณตนจนทำให้กษัตริย์เจ้าแผ่นดินระแวง)มู่จิ่วซีอย่างนางสามารถกำเริบเสิบสาน ทระนงตนได้อย่างอิสระ แต่จวนมู่ไม่อาจทำได้ จวนมู่คือจวนแม่ทัพใหญ่ จำเป็นต้องทำหน้าที่ในฐานะขององคมนตรี หลีกเลี่ยงภัยพิบัติทำลายล้างตระกูลที่จะเข้ามาในสักวันส่วนโม่จุนอันที่จริงก็เหมือนกัน จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมนางถึงบอกว่าให้เอาข้าวของทรัพย์สินของท่านอ๋องสี่ไว้เป็นสมบัติส่วนกลาง โดยไม่ได้มอบเป็นรางวัลให้กับนางหรือว่าโม่จุน ซึ่งล้วนไม่ใช่เรื่องดีคำคืนอันไร้ซุ่มเสียง มู่จิ่วซีกำลังจัดการกับขวดภาชนะของนางทางด้านนั้นในห้องอยู่ตลอด ลู่เอ๋อร์เหนื่อยจนหาวออกมา ไม่รู้ว่าคุณหนูใหญ่ทำอะไรเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ท้องฟ้าจู่ๆ ก็มีละอองฝนตกลงมา ในฤดูหนาวแบบนี้อุณหภูมิลด

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 453

    คนเปิดประตูเป็นเด็กรับใช้อายุประมาณ 17-18 ปี หลังจากเขาหลีกทางให้ มู่จิ่วซีก็เห็นชายที่นั่งอยู่ตรงกลางเป็นชายอายุประมาณ 30 ต้นๆ หน้าผากขาวสะอาด ใบหน้าสมส่วนหล่อเหลา จมูกเป็นสันโด่งชัดเจน เผยรูปร่างกำยำของชายชาตรีให้เห็นชัด แต่ริมฝีปากสีม่วงกลับเฉียบบาง เป็นความรู้สึกมีเสน่ห์ที่ดูจะไม่ค่อยเข้ากันชุดคลุมยาวผ้าไหมสีขาวข้าวดูหรูหราและสูงศักดิ์ ในมือถือพัดผ้าไหมหยกขาว กำลังโบกพัดไปตามอารมณ์ ใบหน้าหล่อเหลาอันเป็นเอกลักษณ์ให้ความรู้สึกเหมือนผู้ดีมีการศึกษา ที่แท้ก็เป็นชายหนุ่มรูปงามที่น่าดึงดูดผู้คนมากที่สุดก็คือดวงตาของเขาคู่นั้น มู่จิ่วซีไม่คาดคิดว่าดวงตานั้นจะปรากฎให้เห็นสีเขียวเข้มจางๆ เหมือนกับมรกตในคืนมืดมิด เพียงกระพริบตาก็รู้สึกได้ถึงความแปลกประหลาดเล็กน้อยใบหน้านี้สำหรับมู่จิ่วซีถือได้ว่าเป็นใบหน้าของคนแปลกหน้า นางเลิกคิ้วเบาๆ นางไม่รู้จักชายคนนี้ สายตามองไปที่มือของเขา สวยงามมาก ทั้งเรียวยาวและเห็นข้อกระดูกชัด มองไม่ออกว่าว่าเป็นคนชอบลอกหนังมนุษย์ ดูไปแล้วเหมือนคนที่ชอบบรรเลงดีดฉินมากกว่าแต่มู่จิ่วซีรู้ว่าเป็นมือของช่างฝีมือ ปกติทั่วไปแล้วก็จะงดงาม เพราะว่าต้องทะนุถนอม รัก

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 454

    "ฮาๆๆ! คุณหนูใหญ่มู่ไม่ทำให้ข้าผิดหวังจริงๆ ไม่คาดคิดว่าจะมองออกมากขนาดนี้ ไม่เลวๆ" จื่ออวิ๋นเฟยกล่าวอย่างดีใจ "เจ้าเหมาะสมจะเป็นคู่ปรับของข้า""คู่ปรับ? เกรงว่าเจ้าไม่ได้มีสิทธิมาเป็นคู่ปรับคุณหนูใหญ่อย่างข้า คู่ปรับที่ดีนั้นมีค่ามาก ข้าไม่เคยเอาคนชั้นต่ำมาเป็นคู่ปรับ" ประโยคนี้ของมู่จิ่วซีฉีกกระชากใบหน้าของเขาตรงๆจื่ออวิ๋นเฟยสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างที่คาดไว้ เสียงเปลี่ยนเป็นเย็นชาและกล่าว : "เจ้าบอกว่าข้าชั้นต่ำ?""ถ้าไม่ใช่คนชั้นต่ำแล้วเป็นคนคุณธรรมสูงส่งงั้นเหรอ? เจ้าคิดว่าการลอกหนังหน้าคนทั้งเป็นเป็นเรื่องที่มีความสุขมากหรือไง? คงจะทำให้เจ้ารู้สึกตื่นเต้นสินะ?" มู่จิ่วซีดูถูกคนวิปริตคนนี้จื่ออวิ๋นเฟยทันใดนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไปและจ้องมู่จิ่วซีอย่างคาดไม่ถึง นางรู้ได้อย่างไรว่าเขาเองตอนทำเรื่องแบบนั้นรู้สึกตื่นเต้น"ดูเหมือนว่าข้าจะเดาถูกสินะ ฮาๆ ไม่คาดคิดว่าหมอเทวดาผู้มีชื่อเสียงโด่งดังในยุทธจักร จะป่วยโรคที่ตัวเองก็ไม่อาจรักษาให้หาย เป็นเรื่องน่าตลกจริงๆ""ข้าป่วย? ป่วยโรคอะไร?" ดวงตาของจื่ออวิ๋นเฟยถลึงออกมา"เจ้าเป็นโรคจิตวิปริต!" มู่จิ่วซีกล่าวอย่างเย็นชา "คนปกติคนหนึ่งกลับโ

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 455

    จื่ออวิ๋นเฟยตบโต๊ะอย่างแรงและลุกขึ้นมาพร้อมกับยื่นมือชี้นิ้วมาทางมู่จิ่วซีกล่าวอย่างโมโห : "มู่จิ่วซี เจ้ามันโอหังไม่รู้จักสัมมาคารวะ!""ข้าไม่ใช่โอหัง ข้าแค่มั่นใจ ถ้าเจ้าไม่เชื่อ พวกเรามาเดิมพันกันก็ได้" มู่จิ่วซียักใหล่ บนใบหน้าประดับด้วยรองยิ้มจางๆ"ได้! เดิมพันก็เดิมพัน! ศาสตร์ศัลยกรรมงั้นเหรอ? ข้าก็อยากจะเห็นว่าศาสตร์ศัลกรรมของเจ้าจะสูงส่งสักแค่ไหน!" จื่ออวิ๋นเฟยกล่าวโมโห"เจ้านั่งลงก่อน เป็นถึงหมอเทวดาของยุทธจักร มีมารยาทหน่อยไม่ได้หรือไง?" มู่จิ่วซียิ้มกล่าว "การเดิมพันก็ต้องมีของเดิมพัน หากข้าพอใจ แน่นอนว่าข้าจะยอมเดิมพันด้วย""ถ้าไม่พอใจเจ้าก็จะไม่เดิมพันรึไง?" จื่ออวิ๋นเฟยโมโหอีกครั้ง อีกอย่างใครกันแน่ที่ไม่มีมารยาท นางพอเจอหน้าก็หาเรื่องเขา ยังมาบอกว่าเขาไม่มีมารยาท?"ถ้าไม่พอใจทำไมต้องเดิมพัน ตอนนี้คนที่ไมพอใจคือเจ้า ไม่ใช่ข้าปะ?" มู่จิ่วซีกล่าวอย่างไม่พอใจ"เจ้า....ได้ๆๆ ไม่ว่าเจ้าจะเดิมพันด้วยอะไร ข้าก็ไม่เชื่อหรอกว่าจะแพ้" จื่ออวิ๋นเฟยกล่าวอย่างโมโห"เดิมพันด้วยศาสตร์ศัลยกรรม หากข้าฝีมือดีกว่า เจ้าจะต้องดื่มพิษสาบาน ว่าหลังจากนี้จะไม่ทำหน้ากากหนังมนุษย์อะไรอีก" ม

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 456

    เห็นเขาเหม่อตกตะลึง เกรงว่าเขาคงกำลังสงสัยความฉลาดของตัวเอง"เป็นไปไม่ได้ เจ้าจะรู้จักศิษย์น้องข้าได้อย่างไร!" จื่ออวิ๋นเฟยก็เงยหน้าในทันทีพร้อมกับมองมู่จิ่วซีอย่างตกใจ"ศิษย์น้องของเจ้าเอาแต่เปรียบเทียบศาสตร์แพทย์ของเจ้ามาตลอด คงจะไม่ยอมรับศาสตร์แพทย์ของเจ้า แต่การปรุงพิษของเขาถือว่าเก่งกว่าใช่ไหมล่ะ?" มู่จิ่วซีกล่าว"เจ้า เจ้ารู้ได้ยังไง? เขาอยู่ที่ไหน?" จื่ออวิ๋นเฟยมุ่ยหน้าอันหล่อเหลาของเขาในทันที"เจ้ากับศิษย์น้องของเจ้ามีความสัมพันธ์เป็นไงบ้าง?" มู่จิ่วซีถาม"ทำไมถึงถาม เกี่ยวกับเจ้าหรือไง?""แน่นอนว่าเกี่ยว หากเจ้ากับศิษย์น้องเจ้าสนิทกันดี ข้าก็จะไม่บอกเจ้า ถึงอย่างไรศิษย์น้องของเจ้าก็เคยวางยากระดูกอ่อนกับข้า แต่ว่าความสามารถในการปรุงพิษห่วยไปหน่อย ผลของพิษ 12 ชั่วยามถูกข้าถอนพิษได้ภายใน 1 ชั่วยาม ฮาๆๆ เขารับไม่ได้เลยล่ะ"จื่ออวิ๋นเฟยมองมู่จิ่วซีและเผยสีหน้าหวาดกลัว : "เจ้า เจ้าพูดเรื่องจริง? ยากระดูกอ่อนของเขาเจ้าถอนได้เพียงแค่ 1 ชั่วยาม? เป็นไปได้ยังไง? แต่ก่อนข้าใช้ตั้ง 6 ชั่วยามกว่าจะถอนได้""ดังนั้นเจ้าเลยเทียบข้าไม่ได้ยังไงล่ะ" มู่จิ่วซีช่วยเขาสรุปประเด็น "ไม่สิ ศิษ

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 457

    จื่ออวิ๋นเฟยหลังจากคิดอยู่ครู่ก็กล่าวขึ้นมา : "บอกเจ้าก็ได้ ข้าคือคนของแคว้นอู ส่วนศิษย์น้องของข้าเป็นคนแคว้นเป่ยจิ้น ตอนเล็กพวกเราถูกปรมาจารย์รับมาเลี้ยง เจ้าพูดถูกแล้ว ความสัมพันธ์ของข้ากับศิษย์น้องปกติอย่างมาก ตั้งแต่เด็กความสามารถของเขาน้อยกว่าข้าอยู่ระดับหนึ่ง ดังนั้นเลยคิดอยากชนะข้าตลอดเวลา""ต่อมาปรมาจารย์ก่อนจะจากโลกนี้ไปก็ได้มอบคัมภีร์ลับของศาสตร์แพทย์ให้กับข้า ส่วนศิษย์น้องหลังจากเกลียดข้าก็ได้จากไป จนถึงตอนนี้ข้าก็ยังไม่เจอเขา""ที่แท้ก็เป็นแบบนี้" มู่จิ่วซีถอนหายใจ "ดูเหมือนแต่ละครอบครัวล้วนมีปัญหาที่คนนอกยากจะเข้าใจ แต่ว่าก็ไม่ได้เกี่ยวกับข้า เจ้ามาที่แคว้นเกาอวิ๋นก็เพราะข้า? หรือว่าเพราะจุดประสงค์อื่น?"จื่ออวิ๋นเฟยโกรธจนแก้มป่องออกมา แค่อยากจะบอกว่าผู้หญิงคนนี้สวยมาก แต่ว่าปากร้ายจริงๆ คำพูดคำจาล้วนสามารถเชือดเฉือนหัวใจของเขา"อันที่จริงข้ามาก็เพราะเจ้า มาเพราะวิธีการเย็บชันสูตรศพของเจ้า ส่วนเรื่องด้านอื่นๆ แม้ว่าเจ้าจะเก่งกาจ แต่ว่าข้าไม่ได้สนใจ"วิธีการเย็บชันสูตรศพหรอ ฮาๆๆ" มู่จิ่วซีไม่คาดคิดว่าฝีมือด้านนี้จะสามารถดึงดูดหมอเทวดายุทธจักรได้ อย่างที่ต้องรู้ว่าทั้งย

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 458

    "เป็นข้าเรียกเจ้าสำนักฮั้วให้มาเอง ไม่ใช่ว่าให้เขามายืนยันว่าข้าได้ดูอาการโรคหัวใจของอาจื่อจนหายดีและทักษะแพทย์ก็เก่งกาจกว่าเจ้าไม่ใช่หรือไง" มู่จิ่วซีกระพริบตาปริบๆ มองฮั้วอวิ๋นเทียนจื่ออวิ๋นเฟยทันใดนั้นก็รีบพูด : "ฮั้วอวิ๋นเทียน คุณหนูใหญ่มู่พูดจริงงั้นรึ? นางรักษาอาจื่อได้จริงรึ?"ฮั้วอวิ๋นเทียนพยักหน้าและกล่าว : "ใช่ หากมองจากจุดนี้ ศาสตร์แพทย์ของจิ่วซีถือว่าเก่งกว่าเจ้ามาก"จื่ออวิ๋นเฟยทันใดนั้นก็เหมือนถูกกระทบกระเทือนจนสั่นคลอน จากนั้นก็นั่งลงและเหม่อลอย"จิ่วซี เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม?" ฮั้วอวิ๋นเทียนถามนางมู่จิ่วซีส่ายหัวและกล่าว : "เขาก็แค่หาเรื่องใส่ตัวเอง ท่านพี่ฮั้ว เจ้าดูเหมือนจะสนิทกับเขามาก?""พวกเราเป็นคนแคว้นอู" ฮั้วอวิ๋นเทียนขมวดคิ้วเบาๆ และเหลือบมองจื่ออวิ๋นเฟย"อ๋อ คนบ้านเดียวกัน" มู่จิ่วซีแอบหัวเราะในใจ ทั้งสองคนจะต้องมีความสัมพันธ์ที่ไม่อาจบอกคนอื่นได้"ต่อหน้าเจ้า คนมากมายล้วนหาเรื่องใส่ตัวเอง" ฮั้วอวิ๋นเทียนยิ้มขึ้นมา "เดิมคิดว่าทักษะฉินของข้าจะเป็นหนึ่งใน 6 แคว้น ไม่คาดคิดว่าพอประลองกับเจ้า ข้าก็กลายเป็นเด็กน้อย""ท่านพี่ฮั้ว เจ้าก็หยอกล้อข้าเกินไป ข้าแค

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 459

    "อายุ 26? งั้นเจ้ารีบแก่เกินไปหรือเปล่า?" มู่จิ่วซีตกตะลึงตาค้างมองไปที่จื่ออวิ๋นเฟยแม้ว่ารูปลักษณ์ใบหน้าของจื่ออวิ๋นเฟยจะไม่เลว แต่ว่าดูไปแล้วเหมือนคนอายุ 30 กว่าจริงๆ พร้อมกับกลิ่นอายของชายวัยผู้ใหญ่แต่ว่านิสัยอารมณ์ไม่ได้สุขุมเหมือนชายวัยผู้ใหญ่เลย"ฮาๆๆ" ฮั้วอวิ๋นเทียนหัวเราะกับคำหยอกล้อของมู่จิ่วซี "เขารีบแก่เกินไปจริงๆ""เจ้าไสหัวไปเลย ถ้าไม่ใช่เพราะการทดลองยาของปรมาจารย์ในตอนนั้น เลยทำให้ข้าตอนนี้เลยดูแก่ขึ้นมาบ้าง" จื่ออวิ๋นเฟยกล่าวอย่างโมโหเดือดดาลพร้อมกับเอื้อมมือลูบใบหน้าของตนเอง"อย่าโมโหเลย มันไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องจนปัญญาหรือไง? แต่ว่าเจ้าเป็นถึงหมอเทวดา ทำให้ตัวเองอ่อนเยาว์ไม่ได้หรือไง?" มู่จิ่วซีหัวเราะกล่าว "สภาพเจ้าคงถูกพิษในชีพจรแน่นอน ลองถอนพิษและบำรุงร่างกายก็คงจะฟื้นฟูกลับไปอ่อนเยาว์ได้แน่""ถูกพิษ? ปรมาจารย์ไม่มีทางวางยาพิษข้า" จื่ออวิ๋นเฟยชะงักไป จากนั้นก็เหมือนนึกอะไรได้ ภายในแววตาได้เปลี่ยนไป แต่ที่มากกว่านั้นก็คือความไม่อยากเชื่อ"คงไม่ใช่ศิษย์น้องเจ้าหรอกใช่ไหม?" มู่จิ่วซีเลิกคิ้วเบาๆ พร้อมกับกล่าว"หมอผี? เจ้าเองก็รู้จัก?" ฮั้วอวิ๋นเทียนมองไปที่มู่จิ

Bab terbaru

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 507

    ฮั้วอวิ๋นเทียนหันมองจื่ออวิ๋นเฟยด้วยแววตาปวดร้าว เขากล่าวอย่างเสียใจ : "ทำไมเป็นแบบนี้? เป็นฝีมืออาจื่อใช่ไหม?"จื่ออวิ๋นเฟยพาเขามานั่งข้างนอกและถอนใจสารภาพ : "อาจื่อสวมหน้ากากหนังมนุษย์ปลอมตัวเป็นหญิงอุ้มท้อง มู่จิ่วซีเจตนาดีช่วยหญิงอุ้มท้องจนถูกอาจื่อทำร้ายในระยะประชิด แผลที่เอวบาดเจ็บสาหัส แต่โชคดีที่นางทานยาเทพสถิตย์ทันที"แม้จื่ออวิ๋นเฟยจะเสียยายาเทพสถิตย์ไปสองเม็ดจนเขาอยากจะสบถ แต่พอรู้ว่ามู่จิ่วซีไม่เป็นอะไร เขาก็รู้สึกว่ามันคุ้มที่จะเสีย หากมู่จิ่วซีเป็นอะไรไป เขาคงจะเสียใจมากกว่าไม่ง่ายที่ในชีวิตนี้เขาจะมีเพื่อนสนิทไว้พูดคุย ได้เป็นศิษย์น้องของเขาร่วมกันค้นคว้าวิจัย เขาไม่อยากเสียนางไปจริงๆมีแค่นางสามารถปรุงยาเทพสถิตย์ฮั้วอวิ๋นเทียนตัวสั่นยิ้มเจื่อน : "ตอนนั้นเพื่อจะปกป้องอาจื่อ ข้าเลยขอยาเทพสถิตย์และหน้ากากหนังมนุษย์ให้นาง แต่กลับถูกเอามาใช้เล่นงานจิ่วซี จิ่วซีพูดถูกแล้ว ข้ามันไม่ทันสังเกต"ชิงเฟิงตายไปแล้ว มู่จิ่วซีคงทำใจไม่ได้ในทันที วิธีเดียวที่จะคลายปมแค้นในใจนางคือต้องจับอาจื่อ เจ้ารู้ไส้อาจื่อเป็นอย่างดี เจ้าพอจะช่วยนางได้ไหม?" จื่ออวิ๋นเฟยถามฮั้วอวิ๋นเทียนกล

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 506

    จื่ออวิ๋นเฟยใช้เวลากว่า 1 ชั่วยามซับเหงื่อมู่จิ่วซี เขาถอนหายใจมองใบหน้าซีดเซียวของนางผู้หญิงคนนี้ทำเวรทำกรรมอะไรมา แผลตรงอกไม่ทันหาย ตรงเอวก็มาเป็นต่อ แค่มองก็รู้ว่าถูกแทงระยะประชิดมู่จิ่วซีได้สติในเช้าวันรุ่งขึ้น นางตะโกนเสียงดัง : "ชิงเฟิง ! ชิงเฟิง?"ลู่เอ๋อร์กล่าวร้องห่มร้องไห้ : "คุณหนู ท่านอย่าเพิ่งขยับตัว ชิงเฟิงจากไปแล้วเจ้าค่ะ"มู่จิ่วซีกำผ้าห่มแน่น ในหัวยังคงเห็นภาพที่เกิดขึ้นเมื่อวานทั้งหมดชิงเฟิงตายเพราะช่วยนาง คนลงมือสังหารไม่ใช่อาจื่อ แต่เป็นมือธนูที่เชี่ยวชาญอีกคนต้องโทษนางที่มองแผนการปลอมเป็นหญิงตั้งครรภ์ไม่ออก ตอนนั้นเหตุการณ์โกลาหล ผู้คนวิ่งเตลิดร้องขอความช่วยเหลือนางช่วยหญิงตั้งภรรค์คนนั้นไว้เพราะอยากให้ต้องตายทั้งกลม ไม่คาดคิดว่าอาจื่อจะใช้ประโยชน์จากความใจอ่อนย้อนมาทำร้ายนางเองผู้หญิงคนนี้ฉลาด โหดร้ายชั่วช้า"ฉินหลานจื่อ! ข้าขอสาบาน ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อหาเจ้าให้เจอ ข้าจะเลาะเนื้อเฉือนกระดูกเจ้าเพื่อแก้แค้นให้ชิงเฟิง!" มู่จิ่วซี"คุณหนูใหญ่ ท่านใจเย็นก่อน! เดี๋ยวแผลฉีก!" จื่ออวิ๋นเฟยเดินเข้ามาเห็นคราบเลือดบนเตียงขณะมู่จิ่วซีหุนหันเคียดแค้นโม่จุนเด

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 505

    มู่จิ่วซีหันไปมอง เห็นธนูเพลิงดอกหนึ่งพุ่งไปยังหญิงสาวด้านหลังคนนั้นอีกทั้งนางเป็นหญิงท้องตั้งครรภ์มู่จิ่วซีไม่มีเวลาให้คิดมาก นางพุ่งตัวเข้าไปหาจากบนม้า กริชเล็งเควี้ยงออกไปยังธนูดอกนั้น ส่วนนางก็กระโจนคว้าหญิงตั้งครรภ์เอาไว้"คุณหนูใหญ่!" ชิงเฟิงตะโกนลั่นตามเข้ามาร่างกายของมู่จิ่วซีกระโจนไปหาหญิงตั้งครรภ์ ขณะมือของนางกำลังจะคว้าหญิงตั้งครรภ์คนนั้น นางกลับขนลุกชันขึ้นมาทั้งตัว นางจึงเอี้ยวตัวไปด้านข้าง"ฉวก!" กริชเล่มหนึ่งปักลงตรงเอวด้านซ้ายของนางมีดบินในมือของมู่จิ่วซีเล็งปาดไปที่คอของผู้หญิงตรงหน้าอย่างแรงนางเห็นใบหน้าของหญิงสาวคนนั้นชัดเจน เป็นสาวชาวบ้านธรรมดาๆ ทว่าตรงจมูกระหว่างตามีไฝสีดำเม็ดเล็กอาจื่อ! คาดไม่ถึงว่านางจะปลอมเป็นคนท้องเพียงเพื่อจะสังหารมู่จิ่วซี"มู่จิ่วซี เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า!" เสียงของอาจื่อแฝงไปด้วยความเย็นเยือกสุดขั้วพร้อมกับเบี่ยงศีรษะไปด้านหลัง หลบเลี่ยงคอ ทว่ามีดบินก็ยังกรีดเข้าที่หน้า บาดหน้ากากหนังมนุษย์จนเป็นรอย เลือดสดไหลซึมออกมาดวงตาของมู่จิ่วซีทั้งสองข้างคือความโกรธแค้น มีดบินปรากฎขึ้นในมืออีกครั้ง อาจื่อกลิ้งหลบไปด้านหลังสองตลบแล

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 504

    "แน่นอนอยู่แล้ว เซวียนหยวนเชาเมื่อก่อนคิดอยากจะช่วยหวางชิว หวางชิวไม่ใช่คนในราชวงศ์ แล้วเขาเป็นใครกันแน่? เขาถึงได้ไม่ไหว้หน้าเซวียนหยวนห้าว?" มู่จิ่วซียิ้มกล่าวโจวเหยาส่ายหัวและกล่าว : "หวางชิวแทรกซึมเข้าในแคว้นเกาอวิ๋น 20 กว่าปีแล้ว คงมีน้อยคนมากที่จะรู้ตัวตนแท้จริงของเขาในแคว้นเป่ยจิ้น"มู่จิ่วซีพยักหน้าพูด : "ดูเหมือนเซวียนหยวนห้าวใกล้จะมาแล้ว ในเมื่อหวางชิวสำคัญขนาดนั้น คราวนี้แคว้นเป่ยจิ้นคงต้องได้สังเวยเลือดครั้งใหญ่""คุณหนูใหญ่ เราจะต้องปล่อยหวางชิวไปในตอนสุดท้ายใช่ไหม?" โจวเหยาร้อนรนกล่าว "ถ้าต้องปล่อยเขาไป แบบนั้นเป็นการปล่อยเสือกลับภูเขาชัดๆ""เจ้าคิดว่าข้าใจดีขนาดนั้น?" ดวงตาทั้งสองข้างของมู่จิ่วซีมองโจวเหยาโจวเหยาตกตะลึง จากนั้นก็หัวเราะเสียงดังกล่าวออกมา : "งั้นข้าก็สบายใจได้แล้ว เขารู้ความลับของแคว้นเกาอวิ๋นมากเกินไป ถ้าต้องปล่อยเขากลับแคว้นเป่ยจิ้น ถือว่าไม่เป็นประโยชน์ต่อพวกเรา""วางใจเถอะ ต่อให้ปล่อยเขาออกกรมพระราชวังนครบาลไป ก็คงกลับไม่ถึงแคว้นเป่ยจิ้น เรื่องนี้ข้ากับโม่จุนได้ปรึกษากันแล้ว อนุญาตให้เซวียนหยวนเชามกุฎราชกุมารพิการคนนี้กลับไปได้เท่านั้น" มุมปาก

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 503

    มู่จิ่วซีกล่าวอย่างยิ้มมีเสน่ห์ : "ถึงอย่างไรเจ้าก็ห้ามทำไม่ดีกับข้า ไม่งั้นหลังจากนี้ข้าจะคิดบัญชีกับเจ้า อ่อใช่ เจ้าเคยคิดถึงกิจการในห้าแคว้นอื่นของท่านอ๋องสี่ไหม? ร่วมมือกับท่านพี่ฮั้วไหม?"มู่จิ่วซีเคยพูดถึงแผนการของฮั้วอวิ๋นเทียนให้โม่จุนฟัง"ฮั้วอวิ๋นเทียนคนนี้มันเจ้าเล่ห์ ต่อให้ข้าไม่ร่วมมือ เข้าก็ยังได้ทราบข้อมูลข่าวกรองก่อนใคร ลงมือก่อนใคร ข้าเองได้แต่เป็นฝ่ายถูกกระทำ ในเมื่อเขาเสนอมาว่าจะให้แบ่งให้เจ้าครึ่งหนึ่ง ข้าก็ตกลง เจ้าสมควรได้รับไว้"มู่จิ่วซีทันใดนั้นก็คลายกังวลและยิ้มกล่าว : "แล้วทางพระพันปีหลวงล่ะ?""อีกห้าแคว้นยังมีตำหนัก ไม่ได้ประกอบธุรกิจ ยังมีโฉนดอยู่ บางส่วนมอบคืนให้ราชวงศ์ ส่วนกิจการอื่นที่เกี่ยวข้องกับพระพันปีหลวงก็คงจะรู้ว่าไม่อาจเอากลับมาได้ ทั้ง 5 แคว้นแย่งไปจนเกลี้ยงแล้ว"โม่จุนกล่าวต่อ "ต่อให้ทหารมังกรดำของข้าอยู่ใน 5 แคว้น ก็ไม่อาจเอากลับมาได้ แบบนั้นจะเป็นหารเปิดเผยตัวตนพวกเขา ดังนั้นแผนการของฮั้วอวิ๋นเทียนจึงถูกใจข้าพอดี ข้าเดิมทีก็อยากจะร่วมมือกับเขา ในเมื่อเขามาหาเองถึงที่ งั้นทางเราก็จะไว้หน้าเขา""เจ้าเองก็จิ้งจอกเฒ่า" มู่จิ่วซีมองเขาซึ่งวา

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 502

    "ที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด ดูเหมือนว่าเราจะเดาผิด" มู่จิ่วซีกล่าว "แผลจะได้ไม่ต้องปริ"มู่จิ่วซีกุมอก"หากเป็นที่ลับตา ยังมีอีกที่หนึ่ง" โม่จุนหันมองมู่จิ่วซี"จวนท่านอ๋องสาม?" มู่จิ่วซีเลิกคิ้ว"ใช่ เขาหนีออกไปได้แล้ว ใครจะคิดว่าเขาจะกลับมา?" โม่จุนรีบกลับเลี้ยวม้าออกไปนอกวังด้านหลังตามขบวนมายาวเป็นหางว่าว เย่ฮาน ชิงเฟิงและทหารมังกรดำตามมาติดๆจนเมื่อมาถึงจวนอ๋องสาม เดิมทีควรจะเงียบสงัด ทว่ากลับได้ยินเสียงร้องไห้จากด้านในหลังจากโม่จุนอุ้มมู่จิ่วซีลงจากม้าก็กระโดดข้ามกำแพงเรือนเข้าไป ไม่ได้เข้ามาทางประตูใหญ่พอถึงพื้นก็ได้กลิ่นคาวเลือดคลุ้ง ทั้งสองสีหน้าเปลี่ยนไปมาก"ท่านผู้สำเร็จราชการแทน ช่วยด้วย!" บ่าวรับใช้รีบตะโกนเรียกเมื่อเห็นโม่จุนและมู่จิ่วซีโม่จุนเห็นบ่าวรับใช้นอนจมกองเลือดเลยรีบเข้าไปถาม : "ที่นี่เกิดอะไรขึ้น?""พระชายา พระชายาถูกลักพาตัวไปแล้วเจ้าค่ะ องค์หญิงสือบาดเจ็บ..." บ่าวรับใช้ชี้นิ้วไปด้านในโม่จุนรีบเรียกคนด้านหลังให้มาช่วยปฐมพยาบาล ส่วนเขาเองกับมู่จิ่วซีรีบเข้าไปด้านใน ตามทางมีองครักษ์มากมายถูกฆ่า ทั้งสองสีหน้าแย่มากกว่าเก่าหลังจากท่าน

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 501

    เย่อู่เหิงรีบวิ่งออกไป มู่จิ่วซีสีหน้าเปลี่ยน หลังจากเดินไปมาหลายรอบก็กัดฟัน เปลี่ยนเป็นชุดจิ้นจวงและเดินออกมา"คุณหนู ท่านจะไปไหน?" ลู่เอ๋อร์เข้ามาจากด้านนอกเห็นมู่จิ่วซีเปลี่ยนเสื้อผ้าออกไป นางตกใจสะดุ้งจนตะโกนร้องเรียก"ข้ามีธุระ เย่ฮาน ชิงเฟิง!" มู่จิ่วซีตะโกนเรียกจื่ออวิ๋นเฟยที่กำลังงุ่นง่านกับศาสตร์ศัลยกรรมตกแต่งได้ยินเสียงของมู่จิ่วซี ก็รีบวิ่งออกมา"คุณหนูใหญ่ เจ้า ท่านจะออกไปข้างนอกรึ?" เย่ฮานกล่าวอย่างตกใจ"มู่จิ่วซี ไม่รักชีวิตตัวเองเลยรึไง แผลยังไม่ทันหายยังจะออกไปอีก?" จื่ออวิ๋นเฟยเองก็ตกใจ"ข้าต้องเข้าไปในวัง ไปเตรียมม้า!" มู่จิ่วซีรีบวิ่งออกไป"เห้ยๆๆ เจ้าระมัดระวังด้วย อย่าบุ่มบ่ามจนแผลฉีกล่ะ" จื่ออวิ๋นเฟยตะโกนจากด้านหลัง"เอายามาให้ข้าเม็ดหนึ่ง! กันไว้ก่อน" มู่จิ่วซีันควับกลับมาและยืนมือไปทางจื่ออวิ๋นเฟย "กลับมาแล้วข้าจะปรุงยาเอามาคืนเจ้า"จื่ออวิ๋นเฟยเบือนหน้าหนีเดินถอยออกไป มู่จิ่วซีเบ้ปากกล่าว : "ขี้งก"พูดจบก็รีบเดินไปทางประตูจื่ออวิ๋นเฟยหยุดฝีเท้าลงและพูดขึ้นมากะทันหัน : "เอาไป!"มู่จิ่วซีหันกลับมา เห็นเพียงขวดยาที่ถูกโยนมาให้"ในนั้นเหลือแค่ 2 เม็ด

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 500

    "เจ้าไปวาดใบหน้าของหน้ากากหนังมนุษย์ของอาจื่อออกมาก่อน" มู่จิ่วซีกล่าว"เออ ข้า ข้าก็จำไม่ค่อยได้แล้ว เป็นผู้หญิงธรรมดามากๆ ไม่สะดุดตาเลย ข้าตอนนั้นกำลังเพิ่งเริ่มศึกษาค้นคว้า เลยทำหน้ากากออกมาแค่ผืนเดียว ถ้าของมันดี ข้าคงอดไม่ได้ที่จะต้องยกให้คนอื่นใช่ไหมล่ะ?" จื่ออวิ๋นเฟยทำสีหน้าโศกเศร้า"ไม่มีเอกลักษณ์อะไรเลยงั้นเหรอ? ถ้าเจ้าเห็นกับตาจะจำได้ไหม?" มู่จิ่วซีสูดหายใจเข้า"เอกลักษณ์? มีสิ ตรงจมูกหว่างตามีไฝสีดำเม็ดหนึ่ง มีแค่จุดนั้น เพราะว่าเป็นไฝเลยไม่มีวิธีจะเอาออก อาจื่อตอนนั้นยังบอกว่าอัปลักษณ์"มู่จิ่วซีก็ถอยหายใจได้ในที่สุด ขอเพียงมีเอกลักษณ์จุดสังเกต อย่างน้อยให้นางครั้งหน้าเห็นและจำได้ อีกอย่างอาจื่อคงจะต้องคิดหาวิธีมาฆ่านางแน่นอน"อายุล่ะ ภายนอกอายุประมาณเท่าไหร่?" มู่จิ่วซีถาม"ประมาณระหว่าง 20-30 ปี" จื่ออวิ๋นเฟยกล่าว "สีผิวดูคล้ำกว่าเจ้าเล็กน้อย ไม่ใช่คุณหนูประเภทนั้น คล้ายกับบ่าวรับใช้"มู่จิ่วซีพยักหน้า เข้าใจแล้ว"งั้นก็ดี ตอนนี้ข้าจะสอนศาสตร์ศัลยกรรมตกแต่งให้เจ้า" มู่จิ่วซีจิตใจวิตกกังวล แต่ก็ทำได้เพียงสงบใจและรอฟังข่าวเท่านั้นตกกลางคืน เย่อู่เหิงได้มาเยี่ยม คน

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 499

    จื่ออวิ๋นเฟยกล่าวอย่างระแวง : "เจ้า เจ้าอย่ามองข้าแบบนั้น อาจื่อไม่ใช่ว่ามีโรคหัวใจแต่กำเนิดรึไง? มอบยาให้นางไปก็เพื่อใช้ปกป้องชีวิตของนาง""เจ้าไม่ใช่ว่าเห็นนางขัดหูขัดตาหรือไง?" มู่จิ่วซีกล่าวอย่างโมโห"เออ คือ คือข้าได้แลกเปลี่ยนกับฮั้วอวิ๋นเทียน ว่าให้ข้าสามารถรับสวัสดิการที่ดีที่สุดในหอดาราจันทราทั้ง 6 แคว้นได้ ได้รับการปกป้องจากหอดาราจันทราทั้ง 6 แคว้น" จื่ออวิ๋นเฟยสำนักผิดมู่จิ่วซีหมดคำจะพูด"ท่านอ๋องสามตอนนั้นได้ก่อกบฎ ถูกโม่จุนหักขาไปข้าง ทว่าวันนี้ขาของข้ากลับมาเดินบนพื้นได้อีก แค่อาจไม่ค่อยคล่องแคล่ว คงได้ทานยาเทพสถิตย์ไปแล้วแน่" มู่จิ่วซีกล่าวอย่างมั่นใจ "นอกเสียจากมียารักษาสุดยอดยิ่งกว่ายาเทพสถิตย์"จื่ออวิ๋นเฟยอ้าปากกว้าง จากนั้นก็กล่าวอย่างอักอ่วน : "งั้น งั้นก็คงจะเป็นยาเทพสถิตย์แล้วล่ะ""จะให้พวกเขาหนีออกไปจากแคว้นเกาอวิ๋นไม่ได้เด็ดขาด ไม่งั้นไอระยำสองตัวนั้นคงทำให้พวกเราไม่อาจอยู่อย่างสงบได้แน่นอน" มู่จิ่วซีกำหมัดจนแน่น แววตาเต็มไปด้วยจิตสังหารจื่ออวิ๋นเฟยส่งเสียงไอ เขาถึงกับหัวหด"เจ้ายังมีอะไรปิดบังข้าอีก?" มู่จิ่วซีรู้สึกว่าจื่ออวิ๋นเฟยแปลกออกไป"หะ! ไม่

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status