แชร์

บทที่ 451

ผู้เขียน: เย่ว์เหมี่ยว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-08-10 17:00:00
โม่จุนยิ้มอย่างเย็นชา : "นิสัยของท่านอ๋องสามมักจะหยิ่งทระนง ส่วนท่านอ๋องสี่เป็นคนสุขุม ทั้งสองมีความแตกต่างกัน อีกอย่างตอนนั้นฝ่าบาทก็ดันมาเสด็จสวรรคตอย่างกระทันหัน ท่านอ๋องสามเลยคิดว่าเป็นโอกาสอันดี แต่ท่านอ๋องสี่คงคิดว่ายังเตรียมการไม่พร้อม"

มู่จิ่วซีคิดดูก็ว่าใช่ จากนั้นก็ยิ้มกล่าว : "พวกเขาคงไม่คาดคิดว่าเจ้าจะฉลาดขนาดนี้ คาดไม่ถึงว่าจะปราบไว้ได้ ท่านอ๋องสี่เลยไม่กล้าลงมือหุนหันพลันแล่น บางทีเดิมเขาอาจไม่คิดจะร่วมมือกับศัตรู แต่เพราะความล้มเหลวของท่านอ๋องสาม เขาคงรู้สึกว่าหากไม่ร่วมมือกับศัตรูคนนอกก็คงไม่มีทางสำเร็จ"

โม่จุนพยักหน้ากล่าว: "ก็อาจจะ แต่ว่าซีเอ๋อร์ ไม่คาดคิดจริงๆ ว่าเจ้าจะเปิดโปงแผนการออกมาได้ในพริบตา ทำให้เขาต้องหลบหนีจนหัวซุกหัวซุน ต้องทิ้งทุกอย่างที่เตรียมมาอย่างสูญเปล่า คงจะเกลียดเจ้ามากแน่ๆ"

"มีคนเกลียดก็หมายถึงว่าข้าโดดเด่นน่ะสิ" มู่จิ่วซีหัวเราะยิ้มแย้ม

แววตาของโม่จุนแฝงด้วยความอบอุ่นขึ้นมา แม่นางคนนี้เชื่อมันในตัวเองจริงๆ

"ใช่แล้ว ข้ายังมีธุระต้องออกไปจัดการ เจ้าทานเสร็จแล้วก็นอนพักผ่อนหน่อย อีกสองวันคณะเจรจาของแคว้นเป่ยจิ้นก็จะมาแล้ว เจ้าจะออกไปเจอคนในสภาพ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 452

    มู่จิ่วซีรู้สึกว่าเหมือนกับร้านค้าที่นิยมติดกระแสเลยทันใดนั้นนางก็นึกถึงหอหล่านจวี๋และหอหงซิ่วซึ่งล้วนเป็นธุรกิจของท่านอ๋องสี่ ตอนนี้ไม่ได้ริบยึดเอามา และไม่รู้ว่าใครเป็นคนรับช่วงต่อ นี่คือธุรกิจที่ดีแต่ว่าต่อให้พระพันปีหลวงมอบให้นาง นางก็ไม่กล้าจะรับไว้ กลัวว่าเดี๋ยวจวนมู่จะกลายเป็นอำนาจสูงกลบนาย (อำนาจสูงกลบนาย หมายถึง มีอำนาจมาก มีความสามารถมาก แต่ไม่ประมาณตนจนทำให้กษัตริย์เจ้าแผ่นดินระแวง)มู่จิ่วซีอย่างนางสามารถกำเริบเสิบสาน ทระนงตนได้อย่างอิสระ แต่จวนมู่ไม่อาจทำได้ จวนมู่คือจวนแม่ทัพใหญ่ จำเป็นต้องทำหน้าที่ในฐานะขององคมนตรี หลีกเลี่ยงภัยพิบัติทำลายล้างตระกูลที่จะเข้ามาในสักวันส่วนโม่จุนอันที่จริงก็เหมือนกัน จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมนางถึงบอกว่าให้เอาข้าวของทรัพย์สินของท่านอ๋องสี่ไว้เป็นสมบัติส่วนกลาง โดยไม่ได้มอบเป็นรางวัลให้กับนางหรือว่าโม่จุน ซึ่งล้วนไม่ใช่เรื่องดีคำคืนอันไร้ซุ่มเสียง มู่จิ่วซีกำลังจัดการกับขวดภาชนะของนางทางด้านนั้นในห้องอยู่ตลอด ลู่เอ๋อร์เหนื่อยจนหาวออกมา ไม่รู้ว่าคุณหนูใหญ่ทำอะไรเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ท้องฟ้าจู่ๆ ก็มีละอองฝนตกลงมา ในฤดูหนาวแบบนี้อุณหภูมิลด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-10
  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 453

    คนเปิดประตูเป็นเด็กรับใช้อายุประมาณ 17-18 ปี หลังจากเขาหลีกทางให้ มู่จิ่วซีก็เห็นชายที่นั่งอยู่ตรงกลางเป็นชายอายุประมาณ 30 ต้นๆ หน้าผากขาวสะอาด ใบหน้าสมส่วนหล่อเหลา จมูกเป็นสันโด่งชัดเจน เผยรูปร่างกำยำของชายชาตรีให้เห็นชัด แต่ริมฝีปากสีม่วงกลับเฉียบบาง เป็นความรู้สึกมีเสน่ห์ที่ดูจะไม่ค่อยเข้ากันชุดคลุมยาวผ้าไหมสีขาวข้าวดูหรูหราและสูงศักดิ์ ในมือถือพัดผ้าไหมหยกขาว กำลังโบกพัดไปตามอารมณ์ ใบหน้าหล่อเหลาอันเป็นเอกลักษณ์ให้ความรู้สึกเหมือนผู้ดีมีการศึกษา ที่แท้ก็เป็นชายหนุ่มรูปงามที่น่าดึงดูดผู้คนมากที่สุดก็คือดวงตาของเขาคู่นั้น มู่จิ่วซีไม่คาดคิดว่าดวงตานั้นจะปรากฎให้เห็นสีเขียวเข้มจางๆ เหมือนกับมรกตในคืนมืดมิด เพียงกระพริบตาก็รู้สึกได้ถึงความแปลกประหลาดเล็กน้อยใบหน้านี้สำหรับมู่จิ่วซีถือได้ว่าเป็นใบหน้าของคนแปลกหน้า นางเลิกคิ้วเบาๆ นางไม่รู้จักชายคนนี้ สายตามองไปที่มือของเขา สวยงามมาก ทั้งเรียวยาวและเห็นข้อกระดูกชัด มองไม่ออกว่าว่าเป็นคนชอบลอกหนังมนุษย์ ดูไปแล้วเหมือนคนที่ชอบบรรเลงดีดฉินมากกว่าแต่มู่จิ่วซีรู้ว่าเป็นมือของช่างฝีมือ ปกติทั่วไปแล้วก็จะงดงาม เพราะว่าต้องทะนุถนอม รัก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-11
  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 454

    "ฮาๆๆ! คุณหนูใหญ่มู่ไม่ทำให้ข้าผิดหวังจริงๆ ไม่คาดคิดว่าจะมองออกมากขนาดนี้ ไม่เลวๆ" จื่ออวิ๋นเฟยกล่าวอย่างดีใจ "เจ้าเหมาะสมจะเป็นคู่ปรับของข้า""คู่ปรับ? เกรงว่าเจ้าไม่ได้มีสิทธิมาเป็นคู่ปรับคุณหนูใหญ่อย่างข้า คู่ปรับที่ดีนั้นมีค่ามาก ข้าไม่เคยเอาคนชั้นต่ำมาเป็นคู่ปรับ" ประโยคนี้ของมู่จิ่วซีฉีกกระชากใบหน้าของเขาตรงๆจื่ออวิ๋นเฟยสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างที่คาดไว้ เสียงเปลี่ยนเป็นเย็นชาและกล่าว : "เจ้าบอกว่าข้าชั้นต่ำ?""ถ้าไม่ใช่คนชั้นต่ำแล้วเป็นคนคุณธรรมสูงส่งงั้นเหรอ? เจ้าคิดว่าการลอกหนังหน้าคนทั้งเป็นเป็นเรื่องที่มีความสุขมากหรือไง? คงจะทำให้เจ้ารู้สึกตื่นเต้นสินะ?" มู่จิ่วซีดูถูกคนวิปริตคนนี้จื่ออวิ๋นเฟยทันใดนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไปและจ้องมู่จิ่วซีอย่างคาดไม่ถึง นางรู้ได้อย่างไรว่าเขาเองตอนทำเรื่องแบบนั้นรู้สึกตื่นเต้น"ดูเหมือนว่าข้าจะเดาถูกสินะ ฮาๆ ไม่คาดคิดว่าหมอเทวดาผู้มีชื่อเสียงโด่งดังในยุทธจักร จะป่วยโรคที่ตัวเองก็ไม่อาจรักษาให้หาย เป็นเรื่องน่าตลกจริงๆ""ข้าป่วย? ป่วยโรคอะไร?" ดวงตาของจื่ออวิ๋นเฟยถลึงออกมา"เจ้าเป็นโรคจิตวิปริต!" มู่จิ่วซีกล่าวอย่างเย็นชา "คนปกติคนหนึ่งกลับโ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-11
  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 455

    จื่ออวิ๋นเฟยตบโต๊ะอย่างแรงและลุกขึ้นมาพร้อมกับยื่นมือชี้นิ้วมาทางมู่จิ่วซีกล่าวอย่างโมโห : "มู่จิ่วซี เจ้ามันโอหังไม่รู้จักสัมมาคารวะ!""ข้าไม่ใช่โอหัง ข้าแค่มั่นใจ ถ้าเจ้าไม่เชื่อ พวกเรามาเดิมพันกันก็ได้" มู่จิ่วซียักใหล่ บนใบหน้าประดับด้วยรองยิ้มจางๆ"ได้! เดิมพันก็เดิมพัน! ศาสตร์ศัลยกรรมงั้นเหรอ? ข้าก็อยากจะเห็นว่าศาสตร์ศัลกรรมของเจ้าจะสูงส่งสักแค่ไหน!" จื่ออวิ๋นเฟยกล่าวโมโห"เจ้านั่งลงก่อน เป็นถึงหมอเทวดาของยุทธจักร มีมารยาทหน่อยไม่ได้หรือไง?" มู่จิ่วซียิ้มกล่าว "การเดิมพันก็ต้องมีของเดิมพัน หากข้าพอใจ แน่นอนว่าข้าจะยอมเดิมพันด้วย""ถ้าไม่พอใจเจ้าก็จะไม่เดิมพันรึไง?" จื่ออวิ๋นเฟยโมโหอีกครั้ง อีกอย่างใครกันแน่ที่ไม่มีมารยาท นางพอเจอหน้าก็หาเรื่องเขา ยังมาบอกว่าเขาไม่มีมารยาท?"ถ้าไม่พอใจทำไมต้องเดิมพัน ตอนนี้คนที่ไมพอใจคือเจ้า ไม่ใช่ข้าปะ?" มู่จิ่วซีกล่าวอย่างไม่พอใจ"เจ้า....ได้ๆๆ ไม่ว่าเจ้าจะเดิมพันด้วยอะไร ข้าก็ไม่เชื่อหรอกว่าจะแพ้" จื่ออวิ๋นเฟยกล่าวอย่างโมโห"เดิมพันด้วยศาสตร์ศัลยกรรม หากข้าฝีมือดีกว่า เจ้าจะต้องดื่มพิษสาบาน ว่าหลังจากนี้จะไม่ทำหน้ากากหนังมนุษย์อะไรอีก" ม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-12
  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 456

    เห็นเขาเหม่อตกตะลึง เกรงว่าเขาคงกำลังสงสัยความฉลาดของตัวเอง"เป็นไปไม่ได้ เจ้าจะรู้จักศิษย์น้องข้าได้อย่างไร!" จื่ออวิ๋นเฟยก็เงยหน้าในทันทีพร้อมกับมองมู่จิ่วซีอย่างตกใจ"ศิษย์น้องของเจ้าเอาแต่เปรียบเทียบศาสตร์แพทย์ของเจ้ามาตลอด คงจะไม่ยอมรับศาสตร์แพทย์ของเจ้า แต่การปรุงพิษของเขาถือว่าเก่งกว่าใช่ไหมล่ะ?" มู่จิ่วซีกล่าว"เจ้า เจ้ารู้ได้ยังไง? เขาอยู่ที่ไหน?" จื่ออวิ๋นเฟยมุ่ยหน้าอันหล่อเหลาของเขาในทันที"เจ้ากับศิษย์น้องของเจ้ามีความสัมพันธ์เป็นไงบ้าง?" มู่จิ่วซีถาม"ทำไมถึงถาม เกี่ยวกับเจ้าหรือไง?""แน่นอนว่าเกี่ยว หากเจ้ากับศิษย์น้องเจ้าสนิทกันดี ข้าก็จะไม่บอกเจ้า ถึงอย่างไรศิษย์น้องของเจ้าก็เคยวางยากระดูกอ่อนกับข้า แต่ว่าความสามารถในการปรุงพิษห่วยไปหน่อย ผลของพิษ 12 ชั่วยามถูกข้าถอนพิษได้ภายใน 1 ชั่วยาม ฮาๆๆ เขารับไม่ได้เลยล่ะ"จื่ออวิ๋นเฟยมองมู่จิ่วซีและเผยสีหน้าหวาดกลัว : "เจ้า เจ้าพูดเรื่องจริง? ยากระดูกอ่อนของเขาเจ้าถอนได้เพียงแค่ 1 ชั่วยาม? เป็นไปได้ยังไง? แต่ก่อนข้าใช้ตั้ง 6 ชั่วยามกว่าจะถอนได้""ดังนั้นเจ้าเลยเทียบข้าไม่ได้ยังไงล่ะ" มู่จิ่วซีช่วยเขาสรุปประเด็น "ไม่สิ ศิษ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-12
  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 457

    จื่ออวิ๋นเฟยหลังจากคิดอยู่ครู่ก็กล่าวขึ้นมา : "บอกเจ้าก็ได้ ข้าคือคนของแคว้นอู ส่วนศิษย์น้องของข้าเป็นคนแคว้นเป่ยจิ้น ตอนเล็กพวกเราถูกปรมาจารย์รับมาเลี้ยง เจ้าพูดถูกแล้ว ความสัมพันธ์ของข้ากับศิษย์น้องปกติอย่างมาก ตั้งแต่เด็กความสามารถของเขาน้อยกว่าข้าอยู่ระดับหนึ่ง ดังนั้นเลยคิดอยากชนะข้าตลอดเวลา""ต่อมาปรมาจารย์ก่อนจะจากโลกนี้ไปก็ได้มอบคัมภีร์ลับของศาสตร์แพทย์ให้กับข้า ส่วนศิษย์น้องหลังจากเกลียดข้าก็ได้จากไป จนถึงตอนนี้ข้าก็ยังไม่เจอเขา""ที่แท้ก็เป็นแบบนี้" มู่จิ่วซีถอนหายใจ "ดูเหมือนแต่ละครอบครัวล้วนมีปัญหาที่คนนอกยากจะเข้าใจ แต่ว่าก็ไม่ได้เกี่ยวกับข้า เจ้ามาที่แคว้นเกาอวิ๋นก็เพราะข้า? หรือว่าเพราะจุดประสงค์อื่น?"จื่ออวิ๋นเฟยโกรธจนแก้มป่องออกมา แค่อยากจะบอกว่าผู้หญิงคนนี้สวยมาก แต่ว่าปากร้ายจริงๆ คำพูดคำจาล้วนสามารถเชือดเฉือนหัวใจของเขา"อันที่จริงข้ามาก็เพราะเจ้า มาเพราะวิธีการเย็บชันสูตรศพของเจ้า ส่วนเรื่องด้านอื่นๆ แม้ว่าเจ้าจะเก่งกาจ แต่ว่าข้าไม่ได้สนใจ"วิธีการเย็บชันสูตรศพหรอ ฮาๆๆ" มู่จิ่วซีไม่คาดคิดว่าฝีมือด้านนี้จะสามารถดึงดูดหมอเทวดายุทธจักรได้ อย่างที่ต้องรู้ว่าทั้งย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-13
  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 458

    "เป็นข้าเรียกเจ้าสำนักฮั้วให้มาเอง ไม่ใช่ว่าให้เขามายืนยันว่าข้าได้ดูอาการโรคหัวใจของอาจื่อจนหายดีและทักษะแพทย์ก็เก่งกาจกว่าเจ้าไม่ใช่หรือไง" มู่จิ่วซีกระพริบตาปริบๆ มองฮั้วอวิ๋นเทียนจื่ออวิ๋นเฟยทันใดนั้นก็รีบพูด : "ฮั้วอวิ๋นเทียน คุณหนูใหญ่มู่พูดจริงงั้นรึ? นางรักษาอาจื่อได้จริงรึ?"ฮั้วอวิ๋นเทียนพยักหน้าและกล่าว : "ใช่ หากมองจากจุดนี้ ศาสตร์แพทย์ของจิ่วซีถือว่าเก่งกว่าเจ้ามาก"จื่ออวิ๋นเฟยทันใดนั้นก็เหมือนถูกกระทบกระเทือนจนสั่นคลอน จากนั้นก็นั่งลงและเหม่อลอย"จิ่วซี เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม?" ฮั้วอวิ๋นเทียนถามนางมู่จิ่วซีส่ายหัวและกล่าว : "เขาก็แค่หาเรื่องใส่ตัวเอง ท่านพี่ฮั้ว เจ้าดูเหมือนจะสนิทกับเขามาก?""พวกเราเป็นคนแคว้นอู" ฮั้วอวิ๋นเทียนขมวดคิ้วเบาๆ และเหลือบมองจื่ออวิ๋นเฟย"อ๋อ คนบ้านเดียวกัน" มู่จิ่วซีแอบหัวเราะในใจ ทั้งสองคนจะต้องมีความสัมพันธ์ที่ไม่อาจบอกคนอื่นได้"ต่อหน้าเจ้า คนมากมายล้วนหาเรื่องใส่ตัวเอง" ฮั้วอวิ๋นเทียนยิ้มขึ้นมา "เดิมคิดว่าทักษะฉินของข้าจะเป็นหนึ่งใน 6 แคว้น ไม่คาดคิดว่าพอประลองกับเจ้า ข้าก็กลายเป็นเด็กน้อย""ท่านพี่ฮั้ว เจ้าก็หยอกล้อข้าเกินไป ข้าแค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-13
  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 459

    "อายุ 26? งั้นเจ้ารีบแก่เกินไปหรือเปล่า?" มู่จิ่วซีตกตะลึงตาค้างมองไปที่จื่ออวิ๋นเฟยแม้ว่ารูปลักษณ์ใบหน้าของจื่ออวิ๋นเฟยจะไม่เลว แต่ว่าดูไปแล้วเหมือนคนอายุ 30 กว่าจริงๆ พร้อมกับกลิ่นอายของชายวัยผู้ใหญ่แต่ว่านิสัยอารมณ์ไม่ได้สุขุมเหมือนชายวัยผู้ใหญ่เลย"ฮาๆๆ" ฮั้วอวิ๋นเทียนหัวเราะกับคำหยอกล้อของมู่จิ่วซี "เขารีบแก่เกินไปจริงๆ""เจ้าไสหัวไปเลย ถ้าไม่ใช่เพราะการทดลองยาของปรมาจารย์ในตอนนั้น เลยทำให้ข้าตอนนี้เลยดูแก่ขึ้นมาบ้าง" จื่ออวิ๋นเฟยกล่าวอย่างโมโหเดือดดาลพร้อมกับเอื้อมมือลูบใบหน้าของตนเอง"อย่าโมโหเลย มันไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องจนปัญญาหรือไง? แต่ว่าเจ้าเป็นถึงหมอเทวดา ทำให้ตัวเองอ่อนเยาว์ไม่ได้หรือไง?" มู่จิ่วซีหัวเราะกล่าว "สภาพเจ้าคงถูกพิษในชีพจรแน่นอน ลองถอนพิษและบำรุงร่างกายก็คงจะฟื้นฟูกลับไปอ่อนเยาว์ได้แน่""ถูกพิษ? ปรมาจารย์ไม่มีทางวางยาพิษข้า" จื่ออวิ๋นเฟยชะงักไป จากนั้นก็เหมือนนึกอะไรได้ ภายในแววตาได้เปลี่ยนไป แต่ที่มากกว่านั้นก็คือความไม่อยากเชื่อ"คงไม่ใช่ศิษย์น้องเจ้าหรอกใช่ไหม?" มู่จิ่วซีเลิกคิ้วเบาๆ พร้อมกับกล่าว"หมอผี? เจ้าเองก็รู้จัก?" ฮั้วอวิ๋นเทียนมองไปที่มู่จิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-14

บทล่าสุด

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 507

    ฮั้วอวิ๋นเทียนหันมองจื่ออวิ๋นเฟยด้วยแววตาปวดร้าว เขากล่าวอย่างเสียใจ : "ทำไมเป็นแบบนี้? เป็นฝีมืออาจื่อใช่ไหม?"จื่ออวิ๋นเฟยพาเขามานั่งข้างนอกและถอนใจสารภาพ : "อาจื่อสวมหน้ากากหนังมนุษย์ปลอมตัวเป็นหญิงอุ้มท้อง มู่จิ่วซีเจตนาดีช่วยหญิงอุ้มท้องจนถูกอาจื่อทำร้ายในระยะประชิด แผลที่เอวบาดเจ็บสาหัส แต่โชคดีที่นางทานยาเทพสถิตย์ทันที"แม้จื่ออวิ๋นเฟยจะเสียยายาเทพสถิตย์ไปสองเม็ดจนเขาอยากจะสบถ แต่พอรู้ว่ามู่จิ่วซีไม่เป็นอะไร เขาก็รู้สึกว่ามันคุ้มที่จะเสีย หากมู่จิ่วซีเป็นอะไรไป เขาคงจะเสียใจมากกว่าไม่ง่ายที่ในชีวิตนี้เขาจะมีเพื่อนสนิทไว้พูดคุย ได้เป็นศิษย์น้องของเขาร่วมกันค้นคว้าวิจัย เขาไม่อยากเสียนางไปจริงๆมีแค่นางสามารถปรุงยาเทพสถิตย์ฮั้วอวิ๋นเทียนตัวสั่นยิ้มเจื่อน : "ตอนนั้นเพื่อจะปกป้องอาจื่อ ข้าเลยขอยาเทพสถิตย์และหน้ากากหนังมนุษย์ให้นาง แต่กลับถูกเอามาใช้เล่นงานจิ่วซี จิ่วซีพูดถูกแล้ว ข้ามันไม่ทันสังเกต"ชิงเฟิงตายไปแล้ว มู่จิ่วซีคงทำใจไม่ได้ในทันที วิธีเดียวที่จะคลายปมแค้นในใจนางคือต้องจับอาจื่อ เจ้ารู้ไส้อาจื่อเป็นอย่างดี เจ้าพอจะช่วยนางได้ไหม?" จื่ออวิ๋นเฟยถามฮั้วอวิ๋นเทียนกล

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 506

    จื่ออวิ๋นเฟยใช้เวลากว่า 1 ชั่วยามซับเหงื่อมู่จิ่วซี เขาถอนหายใจมองใบหน้าซีดเซียวของนางผู้หญิงคนนี้ทำเวรทำกรรมอะไรมา แผลตรงอกไม่ทันหาย ตรงเอวก็มาเป็นต่อ แค่มองก็รู้ว่าถูกแทงระยะประชิดมู่จิ่วซีได้สติในเช้าวันรุ่งขึ้น นางตะโกนเสียงดัง : "ชิงเฟิง ! ชิงเฟิง?"ลู่เอ๋อร์กล่าวร้องห่มร้องไห้ : "คุณหนู ท่านอย่าเพิ่งขยับตัว ชิงเฟิงจากไปแล้วเจ้าค่ะ"มู่จิ่วซีกำผ้าห่มแน่น ในหัวยังคงเห็นภาพที่เกิดขึ้นเมื่อวานทั้งหมดชิงเฟิงตายเพราะช่วยนาง คนลงมือสังหารไม่ใช่อาจื่อ แต่เป็นมือธนูที่เชี่ยวชาญอีกคนต้องโทษนางที่มองแผนการปลอมเป็นหญิงตั้งครรภ์ไม่ออก ตอนนั้นเหตุการณ์โกลาหล ผู้คนวิ่งเตลิดร้องขอความช่วยเหลือนางช่วยหญิงตั้งภรรค์คนนั้นไว้เพราะอยากให้ต้องตายทั้งกลม ไม่คาดคิดว่าอาจื่อจะใช้ประโยชน์จากความใจอ่อนย้อนมาทำร้ายนางเองผู้หญิงคนนี้ฉลาด โหดร้ายชั่วช้า"ฉินหลานจื่อ! ข้าขอสาบาน ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อหาเจ้าให้เจอ ข้าจะเลาะเนื้อเฉือนกระดูกเจ้าเพื่อแก้แค้นให้ชิงเฟิง!" มู่จิ่วซี"คุณหนูใหญ่ ท่านใจเย็นก่อน! เดี๋ยวแผลฉีก!" จื่ออวิ๋นเฟยเดินเข้ามาเห็นคราบเลือดบนเตียงขณะมู่จิ่วซีหุนหันเคียดแค้นโม่จุนเด

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 505

    มู่จิ่วซีหันไปมอง เห็นธนูเพลิงดอกหนึ่งพุ่งไปยังหญิงสาวด้านหลังคนนั้นอีกทั้งนางเป็นหญิงท้องตั้งครรภ์มู่จิ่วซีไม่มีเวลาให้คิดมาก นางพุ่งตัวเข้าไปหาจากบนม้า กริชเล็งเควี้ยงออกไปยังธนูดอกนั้น ส่วนนางก็กระโจนคว้าหญิงตั้งครรภ์เอาไว้"คุณหนูใหญ่!" ชิงเฟิงตะโกนลั่นตามเข้ามาร่างกายของมู่จิ่วซีกระโจนไปหาหญิงตั้งครรภ์ ขณะมือของนางกำลังจะคว้าหญิงตั้งครรภ์คนนั้น นางกลับขนลุกชันขึ้นมาทั้งตัว นางจึงเอี้ยวตัวไปด้านข้าง"ฉวก!" กริชเล่มหนึ่งปักลงตรงเอวด้านซ้ายของนางมีดบินในมือของมู่จิ่วซีเล็งปาดไปที่คอของผู้หญิงตรงหน้าอย่างแรงนางเห็นใบหน้าของหญิงสาวคนนั้นชัดเจน เป็นสาวชาวบ้านธรรมดาๆ ทว่าตรงจมูกระหว่างตามีไฝสีดำเม็ดเล็กอาจื่อ! คาดไม่ถึงว่านางจะปลอมเป็นคนท้องเพียงเพื่อจะสังหารมู่จิ่วซี"มู่จิ่วซี เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า!" เสียงของอาจื่อแฝงไปด้วยความเย็นเยือกสุดขั้วพร้อมกับเบี่ยงศีรษะไปด้านหลัง หลบเลี่ยงคอ ทว่ามีดบินก็ยังกรีดเข้าที่หน้า บาดหน้ากากหนังมนุษย์จนเป็นรอย เลือดสดไหลซึมออกมาดวงตาของมู่จิ่วซีทั้งสองข้างคือความโกรธแค้น มีดบินปรากฎขึ้นในมืออีกครั้ง อาจื่อกลิ้งหลบไปด้านหลังสองตลบแล

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 504

    "แน่นอนอยู่แล้ว เซวียนหยวนเชาเมื่อก่อนคิดอยากจะช่วยหวางชิว หวางชิวไม่ใช่คนในราชวงศ์ แล้วเขาเป็นใครกันแน่? เขาถึงได้ไม่ไหว้หน้าเซวียนหยวนห้าว?" มู่จิ่วซียิ้มกล่าวโจวเหยาส่ายหัวและกล่าว : "หวางชิวแทรกซึมเข้าในแคว้นเกาอวิ๋น 20 กว่าปีแล้ว คงมีน้อยคนมากที่จะรู้ตัวตนแท้จริงของเขาในแคว้นเป่ยจิ้น"มู่จิ่วซีพยักหน้าพูด : "ดูเหมือนเซวียนหยวนห้าวใกล้จะมาแล้ว ในเมื่อหวางชิวสำคัญขนาดนั้น คราวนี้แคว้นเป่ยจิ้นคงต้องได้สังเวยเลือดครั้งใหญ่""คุณหนูใหญ่ เราจะต้องปล่อยหวางชิวไปในตอนสุดท้ายใช่ไหม?" โจวเหยาร้อนรนกล่าว "ถ้าต้องปล่อยเขาไป แบบนั้นเป็นการปล่อยเสือกลับภูเขาชัดๆ""เจ้าคิดว่าข้าใจดีขนาดนั้น?" ดวงตาทั้งสองข้างของมู่จิ่วซีมองโจวเหยาโจวเหยาตกตะลึง จากนั้นก็หัวเราะเสียงดังกล่าวออกมา : "งั้นข้าก็สบายใจได้แล้ว เขารู้ความลับของแคว้นเกาอวิ๋นมากเกินไป ถ้าต้องปล่อยเขากลับแคว้นเป่ยจิ้น ถือว่าไม่เป็นประโยชน์ต่อพวกเรา""วางใจเถอะ ต่อให้ปล่อยเขาออกกรมพระราชวังนครบาลไป ก็คงกลับไม่ถึงแคว้นเป่ยจิ้น เรื่องนี้ข้ากับโม่จุนได้ปรึกษากันแล้ว อนุญาตให้เซวียนหยวนเชามกุฎราชกุมารพิการคนนี้กลับไปได้เท่านั้น" มุมปาก

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 503

    มู่จิ่วซีกล่าวอย่างยิ้มมีเสน่ห์ : "ถึงอย่างไรเจ้าก็ห้ามทำไม่ดีกับข้า ไม่งั้นหลังจากนี้ข้าจะคิดบัญชีกับเจ้า อ่อใช่ เจ้าเคยคิดถึงกิจการในห้าแคว้นอื่นของท่านอ๋องสี่ไหม? ร่วมมือกับท่านพี่ฮั้วไหม?"มู่จิ่วซีเคยพูดถึงแผนการของฮั้วอวิ๋นเทียนให้โม่จุนฟัง"ฮั้วอวิ๋นเทียนคนนี้มันเจ้าเล่ห์ ต่อให้ข้าไม่ร่วมมือ เข้าก็ยังได้ทราบข้อมูลข่าวกรองก่อนใคร ลงมือก่อนใคร ข้าเองได้แต่เป็นฝ่ายถูกกระทำ ในเมื่อเขาเสนอมาว่าจะให้แบ่งให้เจ้าครึ่งหนึ่ง ข้าก็ตกลง เจ้าสมควรได้รับไว้"มู่จิ่วซีทันใดนั้นก็คลายกังวลและยิ้มกล่าว : "แล้วทางพระพันปีหลวงล่ะ?""อีกห้าแคว้นยังมีตำหนัก ไม่ได้ประกอบธุรกิจ ยังมีโฉนดอยู่ บางส่วนมอบคืนให้ราชวงศ์ ส่วนกิจการอื่นที่เกี่ยวข้องกับพระพันปีหลวงก็คงจะรู้ว่าไม่อาจเอากลับมาได้ ทั้ง 5 แคว้นแย่งไปจนเกลี้ยงแล้ว"โม่จุนกล่าวต่อ "ต่อให้ทหารมังกรดำของข้าอยู่ใน 5 แคว้น ก็ไม่อาจเอากลับมาได้ แบบนั้นจะเป็นหารเปิดเผยตัวตนพวกเขา ดังนั้นแผนการของฮั้วอวิ๋นเทียนจึงถูกใจข้าพอดี ข้าเดิมทีก็อยากจะร่วมมือกับเขา ในเมื่อเขามาหาเองถึงที่ งั้นทางเราก็จะไว้หน้าเขา""เจ้าเองก็จิ้งจอกเฒ่า" มู่จิ่วซีมองเขาซึ่งวา

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 502

    "ที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด ดูเหมือนว่าเราจะเดาผิด" มู่จิ่วซีกล่าว "แผลจะได้ไม่ต้องปริ"มู่จิ่วซีกุมอก"หากเป็นที่ลับตา ยังมีอีกที่หนึ่ง" โม่จุนหันมองมู่จิ่วซี"จวนท่านอ๋องสาม?" มู่จิ่วซีเลิกคิ้ว"ใช่ เขาหนีออกไปได้แล้ว ใครจะคิดว่าเขาจะกลับมา?" โม่จุนรีบกลับเลี้ยวม้าออกไปนอกวังด้านหลังตามขบวนมายาวเป็นหางว่าว เย่ฮาน ชิงเฟิงและทหารมังกรดำตามมาติดๆจนเมื่อมาถึงจวนอ๋องสาม เดิมทีควรจะเงียบสงัด ทว่ากลับได้ยินเสียงร้องไห้จากด้านในหลังจากโม่จุนอุ้มมู่จิ่วซีลงจากม้าก็กระโดดข้ามกำแพงเรือนเข้าไป ไม่ได้เข้ามาทางประตูใหญ่พอถึงพื้นก็ได้กลิ่นคาวเลือดคลุ้ง ทั้งสองสีหน้าเปลี่ยนไปมาก"ท่านผู้สำเร็จราชการแทน ช่วยด้วย!" บ่าวรับใช้รีบตะโกนเรียกเมื่อเห็นโม่จุนและมู่จิ่วซีโม่จุนเห็นบ่าวรับใช้นอนจมกองเลือดเลยรีบเข้าไปถาม : "ที่นี่เกิดอะไรขึ้น?""พระชายา พระชายาถูกลักพาตัวไปแล้วเจ้าค่ะ องค์หญิงสือบาดเจ็บ..." บ่าวรับใช้ชี้นิ้วไปด้านในโม่จุนรีบเรียกคนด้านหลังให้มาช่วยปฐมพยาบาล ส่วนเขาเองกับมู่จิ่วซีรีบเข้าไปด้านใน ตามทางมีองครักษ์มากมายถูกฆ่า ทั้งสองสีหน้าแย่มากกว่าเก่าหลังจากท่าน

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 501

    เย่อู่เหิงรีบวิ่งออกไป มู่จิ่วซีสีหน้าเปลี่ยน หลังจากเดินไปมาหลายรอบก็กัดฟัน เปลี่ยนเป็นชุดจิ้นจวงและเดินออกมา"คุณหนู ท่านจะไปไหน?" ลู่เอ๋อร์เข้ามาจากด้านนอกเห็นมู่จิ่วซีเปลี่ยนเสื้อผ้าออกไป นางตกใจสะดุ้งจนตะโกนร้องเรียก"ข้ามีธุระ เย่ฮาน ชิงเฟิง!" มู่จิ่วซีตะโกนเรียกจื่ออวิ๋นเฟยที่กำลังงุ่นง่านกับศาสตร์ศัลยกรรมตกแต่งได้ยินเสียงของมู่จิ่วซี ก็รีบวิ่งออกมา"คุณหนูใหญ่ เจ้า ท่านจะออกไปข้างนอกรึ?" เย่ฮานกล่าวอย่างตกใจ"มู่จิ่วซี ไม่รักชีวิตตัวเองเลยรึไง แผลยังไม่ทันหายยังจะออกไปอีก?" จื่ออวิ๋นเฟยเองก็ตกใจ"ข้าต้องเข้าไปในวัง ไปเตรียมม้า!" มู่จิ่วซีรีบวิ่งออกไป"เห้ยๆๆ เจ้าระมัดระวังด้วย อย่าบุ่มบ่ามจนแผลฉีกล่ะ" จื่ออวิ๋นเฟยตะโกนจากด้านหลัง"เอายามาให้ข้าเม็ดหนึ่ง! กันไว้ก่อน" มู่จิ่วซีันควับกลับมาและยืนมือไปทางจื่ออวิ๋นเฟย "กลับมาแล้วข้าจะปรุงยาเอามาคืนเจ้า"จื่ออวิ๋นเฟยเบือนหน้าหนีเดินถอยออกไป มู่จิ่วซีเบ้ปากกล่าว : "ขี้งก"พูดจบก็รีบเดินไปทางประตูจื่ออวิ๋นเฟยหยุดฝีเท้าลงและพูดขึ้นมากะทันหัน : "เอาไป!"มู่จิ่วซีหันกลับมา เห็นเพียงขวดยาที่ถูกโยนมาให้"ในนั้นเหลือแค่ 2 เม็ด

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 500

    "เจ้าไปวาดใบหน้าของหน้ากากหนังมนุษย์ของอาจื่อออกมาก่อน" มู่จิ่วซีกล่าว"เออ ข้า ข้าก็จำไม่ค่อยได้แล้ว เป็นผู้หญิงธรรมดามากๆ ไม่สะดุดตาเลย ข้าตอนนั้นกำลังเพิ่งเริ่มศึกษาค้นคว้า เลยทำหน้ากากออกมาแค่ผืนเดียว ถ้าของมันดี ข้าคงอดไม่ได้ที่จะต้องยกให้คนอื่นใช่ไหมล่ะ?" จื่ออวิ๋นเฟยทำสีหน้าโศกเศร้า"ไม่มีเอกลักษณ์อะไรเลยงั้นเหรอ? ถ้าเจ้าเห็นกับตาจะจำได้ไหม?" มู่จิ่วซีสูดหายใจเข้า"เอกลักษณ์? มีสิ ตรงจมูกหว่างตามีไฝสีดำเม็ดหนึ่ง มีแค่จุดนั้น เพราะว่าเป็นไฝเลยไม่มีวิธีจะเอาออก อาจื่อตอนนั้นยังบอกว่าอัปลักษณ์"มู่จิ่วซีก็ถอยหายใจได้ในที่สุด ขอเพียงมีเอกลักษณ์จุดสังเกต อย่างน้อยให้นางครั้งหน้าเห็นและจำได้ อีกอย่างอาจื่อคงจะต้องคิดหาวิธีมาฆ่านางแน่นอน"อายุล่ะ ภายนอกอายุประมาณเท่าไหร่?" มู่จิ่วซีถาม"ประมาณระหว่าง 20-30 ปี" จื่ออวิ๋นเฟยกล่าว "สีผิวดูคล้ำกว่าเจ้าเล็กน้อย ไม่ใช่คุณหนูประเภทนั้น คล้ายกับบ่าวรับใช้"มู่จิ่วซีพยักหน้า เข้าใจแล้ว"งั้นก็ดี ตอนนี้ข้าจะสอนศาสตร์ศัลยกรรมตกแต่งให้เจ้า" มู่จิ่วซีจิตใจวิตกกังวล แต่ก็ทำได้เพียงสงบใจและรอฟังข่าวเท่านั้นตกกลางคืน เย่อู่เหิงได้มาเยี่ยม คน

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 499

    จื่ออวิ๋นเฟยกล่าวอย่างระแวง : "เจ้า เจ้าอย่ามองข้าแบบนั้น อาจื่อไม่ใช่ว่ามีโรคหัวใจแต่กำเนิดรึไง? มอบยาให้นางไปก็เพื่อใช้ปกป้องชีวิตของนาง""เจ้าไม่ใช่ว่าเห็นนางขัดหูขัดตาหรือไง?" มู่จิ่วซีกล่าวอย่างโมโห"เออ คือ คือข้าได้แลกเปลี่ยนกับฮั้วอวิ๋นเทียน ว่าให้ข้าสามารถรับสวัสดิการที่ดีที่สุดในหอดาราจันทราทั้ง 6 แคว้นได้ ได้รับการปกป้องจากหอดาราจันทราทั้ง 6 แคว้น" จื่ออวิ๋นเฟยสำนักผิดมู่จิ่วซีหมดคำจะพูด"ท่านอ๋องสามตอนนั้นได้ก่อกบฎ ถูกโม่จุนหักขาไปข้าง ทว่าวันนี้ขาของข้ากลับมาเดินบนพื้นได้อีก แค่อาจไม่ค่อยคล่องแคล่ว คงได้ทานยาเทพสถิตย์ไปแล้วแน่" มู่จิ่วซีกล่าวอย่างมั่นใจ "นอกเสียจากมียารักษาสุดยอดยิ่งกว่ายาเทพสถิตย์"จื่ออวิ๋นเฟยอ้าปากกว้าง จากนั้นก็กล่าวอย่างอักอ่วน : "งั้น งั้นก็คงจะเป็นยาเทพสถิตย์แล้วล่ะ""จะให้พวกเขาหนีออกไปจากแคว้นเกาอวิ๋นไม่ได้เด็ดขาด ไม่งั้นไอระยำสองตัวนั้นคงทำให้พวกเราไม่อาจอยู่อย่างสงบได้แน่นอน" มู่จิ่วซีกำหมัดจนแน่น แววตาเต็มไปด้วยจิตสังหารจื่ออวิ๋นเฟยส่งเสียงไอ เขาถึงกับหัวหด"เจ้ายังมีอะไรปิดบังข้าอีก?" มู่จิ่วซีรู้สึกว่าจื่ออวิ๋นเฟยแปลกออกไป"หะ! ไม่

DMCA.com Protection Status