โม่จุนแทบอยากจะกรอกตา ผู้หญิงคนนี้วุ่นวายเสียจริงโจวเหยาในใจก็คิด แบบนี้ก็ได้หรอ?คุณหนูใหญ่มู่ช่างต่างกับคนอื่นเสียจริงอานเย่ เย่ฮาน ชิงเฟิงและจี๋เฟิงทั้งหมดได้เข้ามา ทั้งสี่คนมองโม่จุนและมู่จิ่วซี สีหน้าพวกเขาทั้งหมดตึงเครียดมากพวกเขาทราบถึงความสำคัญของเรื่องในคืนนี้"ไม่จำเป็นต้องใช้คนเยอะขนาดนี้ไหม?" มู่จิ่วซีมองหน้าโม่จุนและยิ้มกล่าวอย่างขมขื่น "บนกระดาษข้อความเขียนว่าให้ข้าไปคนเดียว พวกเจ้ามากันขนาดนี้ อยากจะบีบให้พวกนั้นฆ่าท่านอ๋องหกหรือไง? ขนาดข้ายังไม่อยากพาเจ้าไป แต่เจ้าอยากจะพาพวกเขาไปด้วย?"เย่ฮานก็รีบพูดขึ้นมา : "คุณหนูใหญ่ ท่านไปคนเดียวมันอันตราย ข้าน้อย ข้าน้อยไม่กล้าเอาเรื่องนี้ไปบอกคุณท่าน""เจ้าลองกล้าบอกสิ!" มู่จิ่วซีถลึงจ้องมองเขา "นอกจากจะทำให้ท่านพ่อกังวลแล้วยังจะมีประโยชน์อะไรอีก?เย่ฮานน้อยใจเล็กน้อย หากเกิดเรื่องขึ้นมาจริงๆ คุณท่านได้ตัดคอเขาขาดแน่"เจ้าไม่ต้องกังวล คุณหนูใหญ่จะต้องไม่เกิดเรื่องขึ้นแน่" ชิงเฟิงปลอบใจเย่ฮาน"ชิงเฟิงช่างเข้าใจข้าเสียจริง" มู่จิ่วซีหันไปกล่าวชมให้ชิงเฟิงชิงเฟิงก็รีบพูดขึ้นมา : "ในสายตาของข้าน้อย คุณหนูใหญ่จะไม่สู้ใน
"เจ้าได้ยินไหม?" โม่จุนเห็นมู่จิ่วซีเอาแต่จ้องมองเขาไม่พูดไม่จา เขาเลยถามไปอีกคำ "เจ้าห้ามเป็นอะไรไปเด็ดขาด เข้าใจไหม?"มู่จิ่วซีถูกเขาเขย่าอย่างแรงจนได้สติอย่างรวดเร็ว จากนั้นนางก็ยิ้มให้เขาอย่างชั่วร้ายและกล่าวขึ้นมา : "โม่จุน เจ้าหลงรักข้าแล้วใช่ไหม?"โม่จุนตกตะลึงทันที จากนั้นก็ปล่อยนาง ดวงตาของเขาแวววาว หลังจากเขาหันไปก็กล่าวด้วยเสียงแหบพร่า : "เรื่องรักๆ ใคร่ๆ ข้าไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้หรอก รู้แค่ว่าแคว้นเกาอวิ๋นยังต้องการเจ้า เจ้าห้ามเป็นอะไรไปเด็ดขาด!"ขณะพูดก็ได้เดินออกไปมู่จิ่วซีรีบเข้าไปคว้าแขนของเขาพร้อมกับกล่าวด้วยรอยยิ้มร้ายๆ : "ข้าเข้าใจแล้ว ท่านใต้เท้าท่านผู้สำเร็จราชการแทน เพื่อไม่ให้ท่านผู้สำเร็จราชการแทนแห่งแคว้นเกาอวิ๋นเสียใจ ข้ามู่จิ่วซีคนนี้จะต้องกลับมาอย่างปลอดภัยให้ได้"โม่จุนหันไปมองใบหน้าหัวหมอและเจ้าเล่ห์ของนางและกล่าว : "เจ้าทำไมไม่กังวลเลยแม้แต่น้อย?""กังวลไปแล้วได้อะไร ข้าไม่กังวลไม่ได้หมายความว่าข้าไม่ให้ความสำคัญ โม่จุน เจ้าควรรู้ ข้ารักชีวิตของข้าเองมากกว่าใคร ข้าจะต้องหาเงินให้มากๆ มะรืนนี้หอโม่ช่างเหวินก็จะเปิดใหม่อีกครั้ง ข้าจะไม่ไปร่วมได้ยังไง
โม่จุนกล่าวสั่งการต่อไป "ใต้เท้าโจว เจ้าเฝ้ากรมพระราชวังนครบาลไว้ให้ดี ซีเอ๋อร์พูดถูก อาจเกิดการเคลื่อนไหวขึ้น เสืออาจหลุดออกมาจากถ้ำ หวางชิวยังมีชีวิตอยู่! อีกอย่างเขายังสำคัญกับพวกนั้นมาก เป็นไปได้มากว่าจะมีคนบุกเข้ามาในเรือนจำ ไปบอกกระทรวงราชทัณฑ์ให้จัดกำลังคนครึ่งหนึ่งมาคุ้มกัน!"โจวเหยาพยักหน้าอย่างเคร่งเครียด เขาจะทำพลาดไม่ได้อีกแล้วเย่ฮานและคนอื่นๆ ทั้ง 4 หลังจากรับคำก็พากลุ่มของตนออกเดินทางโม่จุนกระโดดขึ้นไปบนหลังม้าสีดำพุ่งทะยานไปตามทางที่มู่จิ่วซีออกเดินทางเมื่อครู่ค่ำคืนค่อยๆ มืดมากขึ้น ไอควันจากบ้านเรือนตามถนนก็ค่อยๆ น้อยลงมู่จิ่วซีรู้ตำแหน่งของป่าช้าภูเขาตะวันตก เพราะว่าเจ้าของร่างเดิมเคยมา แต่ว่าตอนนั้นนางมาลองของที่ป่าช้ากับพวกคุณชายใจกล้าป่าช้าเป็นที่สำหรับสถานที่ที่นำเอาร่างซึ่งยังไม่ได้ทำพิธีหรือเหตุผลบางอย่างที่ไม่สามารถทำพิธีได้เอามาวางไว้ ถือว่าเป็นพื้นที่ของศาลต้าหลี่ด้านในเรือนของป่าช้ามีเจ้าหน้าที่คอยดูแล รวมถึงขุนนางฝ่ายชันสูตรของศาลต้าหลี่ก็อยู่ด้านในด้วยเช่นกันเรือนในป่าช้ามีขนาดใหญ่ แบ่งออกเป็นหน้าหลังสองเรือน เรือนหน้าสำหรับให้คนอยู่อาศัย เรื
มู่จิ่วซีเหลือบมองไปยังด้านในโลงศพ เห็นว่าข้างในไม่ใช่โม่หยวนชิง ทันใดนั้นก็ถอนหายใจโล่งอก นางกลัวจริงๆ ว่าโม่หยวนชิงจะถูกฆ่าหรือบาดเจ็บสาหัส"ที่แท้พละกำลังของคุณหนูใหญ่มู่ก็แข็งแกร่ง ไม่แปลกที่หวางชิวไม่ใช่คู่ต่อกรของเจ้า" เสียงของชายคนนั้นดังขึ้นอีกครั้ง"ผู้หญิงธรรมดาคนเดียวคงไม่อาจเทียบมกุฎราชกุมารผู้มีวรยุทธไร้เทียมทานได้หรอก" มู่จิ่วซีกล่าวตัดพ้อ "ออกมาให้เห็นเถอะ เล่ากันว่ามกุฎราชกุมารแห่งแคว้นเป่ยจิ้นเป็นหนุ่มรูปงามอันดับหนึ่ง จิ่วซีอยากจะเห็นจริงๆ""ชายคนนั้นไม่ได้พูด ราวกับว่าเขาตกใจคำพูดของมู่จิ่วซี ตอนนี้มันใช่เวลามาเชยชมหนุ่มรูปงามไหม?คุณหนูใหญ่มู่คลั่งผู้ชายสมคำล่ำลือจริงๆเพียงแต่คนคลั่งผู้ชายคนอื่นล้วนเป็นคนไร้ประโยชน์ แต่คนคลั่งผู้ชายอย่างนางกลับทำให้คนต้องปวดหัวได้ แน่นอนว่าไม่กล้าประเมินนางต่ำเงาร่างสีดำค่อยๆ เดินอกมาจากเรือนหลังมู่จิ่วซีเหลือบมองชายที่สูงกว่าโม่จุนประมาณครึ่งหัว รูปร่างผอมสูง แต่ดูแข็งแกร่งกำยำไม่อ่อนแอ บนหัวมีหมวกสีเทาสวมไว้ใบหนึ่ง กดปลายหมวกด้านหน้าต่ำอยู่เล็กน้อยจนปิดบังแววตาทั้งสองข้างเผยให้เห็นจมูกที่สูงเป็นสัน โด่งงุ้มคล้ายกับเหยี
เซวียนหยวนเชานิ่งชะงัก จากนั้นก็ยิ้มออกมาเดิมทีใบหน้าหล่อเหลาอันคมเป็นสันก็ดูอ่อนโยนขึ้นมา ยิ่งทำให้หล่อเหลาอย่างเห็นได้ชัด"คุณหนูใหญ่มู่พูดจาน่าขำเสียจริง หากพวกเราไม่ได้เป็นศัตรูกัน คงจะได้เป็นเพื่อนกันแน่นอน" เซวียนหยวนเชากล่าว"งั้นก็คงน่าเสียดายจริงๆ พวกเราคงเป็นได้แค่ศัตรู นอกเสียจากแคว้นเป่ยจิ้นจะยอมลงนามในสนธิสัญญาว่าจะไม่รุกรานแคว้นเกาอวิ๋นเป็นเวลา 100 ปี ข้าก็จะลองไปคิดเรื่องเป็นเพื่อนกับเจ้าดู" มู่จิ่วซียักใหล่กล่าว"คุณหนูใหญ่มู่พูดน่าขำ แคว้นเป่ยจิ้นตอนนี้ไม่ใช่ข้าเป็นคนกำหนด" เซวียนหยวนเชายิ้มและส่ายหัว มู่จิ่วซีคนนี้ช่างอยู่นอกเหนือความคาดหมายของเขาจริงๆทว่าผู้หญิงคนนี้กล้าได้กล้าเสียและตรงไปตรงไป ไม่เหมือนหญิงสาวที่เสแสร้งแกล้งทำเป็นเขินอายประเภทนั้น นางเหมือนกับผู้ชายคนหนึ่งมากกว่า เพียงแต่ใบหน้านี้ดูจะเป็นผู้หญิงมากเกินไป ง่ายมากจริงๆ ที่จะถูกรูปลักษณ์ภายนอกหลอก"ก็ได้ ท่านอ๋องหกเองก็ปลอดภัย ข้าเองก็มาถึงแล้ว งั้นจุดประสงค์เจ้าล่ะ?" มู่จิ่วซียักใหล่กล่าว"ขอเพียงเจ้ายอมตาย ข้าก็จะปล่อยท่านอ๋องหกไปทันที" ชั่ววินาทีก่อนหน้าเซวียนหยวนเชายังยิ้มอยู่ วินาทีต่อมาส
เซวียนหยวนเชาชะงักไป จากนั้นก็หัวเราะยิ้มร่าและกล่าว : "คุณหนูใหญ่มู่ ข้อตกลงธุรกิจนี้ถ้าไม่รับคงจะเสียดายแย่ ขนาดท่านอ๋องหกอยู่ในกำมือของข้า เจ้ายังเล่นแง่มากมายขนาดนี้อีก ถ้าเจ้าไปกับข้า แน่นอนว่าข้าจะปล่อยท่านอ๋องหกไป ไม่งั้นเจ้าก็กลับไปพร้อมกับร่างไร้วิญญาณของเขาแล้วกัน""องค์มกุฎราชกุมาร เจ้าไม่กลัวท่านผู้สำเร็จราชการแทนทำสงครามกับแคว้นเป่ยจิ้นหรือไง?" มู่จิ่วซียิ้มเยาะกล่าว"มกุฎราชกุมารอย่างข้ามาในฐานะส่วนตัว ไม่ได้เกี่ยวกับแคว้นเป่ยจิ้น ถ้าไม่มีหลักฐานประจักษ์ยืนยันต่อหน้า เสด็จพ่อไม่มีทางยอมรับว่าเป็นแคว้นเป่ยจิ้นลงมือ แน่นอนว่า หากจะทำสงคราม แคว้นเป่ยจิ้นเองก็ไม่เคยเกรงกลัว!" มุมปากของเซวียนหยวนเชาเผยรอยยิ้มอันโหดเหี้ยมออกมา"ต่ำทรามน่าอับอาย องค์มกุฎราชกุมารอย่างท่านเหมาะแล้วกับสมญานี้" มู่จิ่วซียิ้มกล่าว "เลิกพูดไร้สาระเถอะ เจ้าอยากให้ทำอะไรถึงจะปล่อยท่านอ๋องหกไป? เจรจากันให้ดีก่อน แต่ถ้าจะให้ข้าต้องตายคงเป็นไปไม่ได้ ข้ามีค่ายิ่งกว่าท่านอ๋องหก""ความสามารถของคุณหนูใหญ่มู่ ข้าได้มีประสบการณ์พบเจอมาแล้ว คารวะนับถืออย่างมาก คนแบบนี้ข้าเองก็รู้สึกเสียดายความสามารถ หากว่าไม่
เซวียนหยวนเชามองมู่จิ่วซีที่นิ่งราวกับภูเขาพร้อมกับยิ้มกล่าว : "ได้ยินมาว่าท่านอ๋องหกคนนี้ชอบเจ้ามู่จิ่วซี คิดอยากจะไปสู่ขอแต่งงาน เจ้ามันไร้หัวใจจริงๆ""ข้าโดดเด่นขนาดนี้ คนมาสู่ขอมีตั้งเยอะ" มู่จิ่วซีกล่าว "องค์มกุฎราชกุมาร เจ้าจะเอาอย่างไรกันแน่ พูดมาเถอะ อย่าทำเป็นเล่นเหมือนเด็กจนทำให้ข้าต้องเอือมกับเจ้า""ใช้ตัวเจ้าแลกกับท่านอ๋องหกล่ะเป็นไง?" เซวียนหยวนเชายิ้มมุกปาก "กินยาเม็ดนี้ ผูกมัดแขนข้าเจ้า ขอเพียงเจ้ายอมร่วมมืออย่างเชื่อฟัง ข้าก็จะไม่ฆ่าเจ้าทิ้ง"ขณะพูดมือของเขาก็ปรากฎเม็ดยาสีดำ"ยาอะไร? พูดมาให้ข้าฟังก่อน แล้วก็เจ้าจะพาข้าออกจากแคว้นเกาอวิ๋นใช่ไหม?" มู่จิ่วซีถาม"ยากระดูกอ่อน ก็แค่ให้คุณหนูใหญ่มู่สูญเสียกำลังภายในไปก็เท่านั้น ส่วนเรื่องจะพาเจ้าออกจากแคว้นเกาอวิ๋นไปหรือไม่ ข้าเองก็หวังว่าจะทำเช่นนั้น" เซวียนหยวนเชายิ้มเล็กน้อย"ส่งยามาให้ข้าดู" มู่จิ่วซียื่นมือออกไป เซวียนหยวนเชาก็โยนโยนยาเม็ดนั้นมาให้นางทันที มู่จิ่วซีวางไว้ใต้จมูกดม จากนั้นก็เลิกคิ้วเล็กน้อย"ได้ยินมาว่าวิชาแพทย์ของคุณหนูใหญ่มู่ไม่เลว" เซวียนหยวนเชากล่าว "ยาเม็ดนี้คือยากระดูกอ่อน ไม่มีอันตรายอะไรกั
เซวียนหยวนเชายักใหล่กล่าว : "ขอเพียงคุณหนูใหญ่มู่ทำตามที่พูด แน่นอนข้าเองก็จะไม่เล่นลูกไม้ตุกติก"มู่จิ่วซีหันมองท่านอ๋องหกที่ค่อยๆ เดินไปยังเรือนหน้า เขากระวนกระวายจริงๆ แต่ว่านางนั้นมองออกว่าเขากำลังพยายามอย่างมาก แสดงว่ายากระดูกอ่อนเม็ดนี้คงจะรุนแรง"ผลของยานานเท่าไหร่?" มู่จิ่วซีถาม"12 ชั่วยามและจะสลายไปเอง ท่านอ๋องหกกลับไปนอนสักหน่อยเดี๋ยวก็ฟื้นตัวดีขึ้น" เซวียนหยวนเชากล่าว "คุณหนูใหญ่มู่รู้สึกอย่างไรบ้าง?""ก็พอไหว แค่รู้สึกเย็นวูบวาบตรงท้อง คงจะไม่ท้องเสียหรอกใช่ไหม?" มู่จิ่วซีเลิกคิ้วเซวียนหยวนเชาชะงักนิ่ง จากนั้นก็หันไปมองพวกคนชุดดำ พวกคนชุดดำก็ส่ายหัวและกล่าว : "ยานี้ไม่ทำให้ท้องเสีย แต่จะค่อนไปทางเย็นพะยะค่ะ""งั้นข้ากินแล้วมดลูกจะเย็นไหม? หลังจากนี้ถ้าข้ามีลูกไม่ได้ขึ้นมา ข้าจะมาเอาชีวิตเจ้า" มู่จิ่วซีทันใดนั้นก็แสร้งทำเป็นโกรธโมโหและกล่าวใบหน้าของคนชุดดำเป็นชายวัยกลางคน หน้าตาอัปลักษณ์ ไม่มีอะไรโดดเด่น พอได้ยินคำพูดของมู่จิ่วซีก็ตื่นตกใจ จากนั้นก็กล่าวอย่างไม่พอใจ : "คุณหนูใหญ่มู่ ตอนนี้มันใช่เวลามาสนใจเรื่องนี้ไหม?""เจ้าเป็นหมอหรือไง?" มู่จิ่วซีเลิกคิ้วกล่าว "