Share

บทที่ 300

Author: เย่ว์เหมี่ยว
last update Last Updated: 2024-05-27 17:00:00
ไป๋เฟิ่งหว่านหลังจากตกใจก็กล่าวออกมา: "เจ้า เจ้าพูดอะไร? ท่านผู้สำเร็จราชการแทนนัดข้าไปทานข้าวหรอ?"

"ไม่งั้นเจ้าคิดว่าข้าจะมาหาหรอ?" มู่จิ่วซีกรอกตาใส่

"โม่จุนเชิญข้าไปร่วมทานอาหาร?" ไป๋เฟิ่งหว่านแทบไม่อยากจะเชื่อ ทันใดนั้นสีหน้าก็ยินดีขึ้นมา และเอาแต่พูดประโยคนั้นซ้ำไปมา

"โม่จุนนัดเจ้าไปทานอาหารที่หอชมจันทร์อีก 3 วันข้างหน้า เจ้าจะไปหรือไม่ไป? ถ้าจะไป เจ้าก็จัดการตัวเองให้ดีภายใน 3 วันนี้ ใครบ้างที่ไม่มีเรื่องลำบากใจ พ่อเจ้าเองก็แก่ขนาดนั้น เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ เจ้าไม่แม้แต่จะปลอบพ่อของเจ้า นี่ยังสมควรจะเป็นลูกสาวของเขาอีกหรอ? เสียแรงที่เขารักเอ็นดูเจ้า"

มู่จิ่วซีกล่าวสั่งสอนต่อ "คนตายไปแล้วไม่อาจฟื้นกลับมาได้ แต่คนเป็นยังไงก็ต้องมีชีวิตต่อไป ตอนนี้จวนอัครมหาเสนาบดีเหลือเพียงแค่เจ้า ไป๋ชิงและพ่อของพวกเจ้าต้องพึ่งพาอาศัยกัน ข้าเห็นว่าพ่อเจ้าดูแก่ขึ้นเป็น 10 ปี เจ้าทำใจได้จริงหรอ? ไป๋ชิงถูกทิ้งให้โดดเดี่ยวตั้งหลายปี นางก็ยังรู้ถึงความขมขื่นของพ่อนาง เจ้าถูกพ่อเจ้าประตบประหงมมาหลายปี เจ้าจะมีน้ำใจให้กับพ่อเจ้าไม่ได้เลยหรือไง?"

ไป๋เฟิ่งหว่านพอฟังคำพูดของมู่จิ่วซี ทันใดนั้นก็ร้องไห้อ
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 301

    มู่จิ่วซีหัวเราะยิ้มกล่าว : "พวกเราจับนางไม่ได้จริงๆ แต่ยอมรับเลยว่านางหลบซ่อนได้ลึกแนบเนียนจริงๆ แทบพลิกหาทั้งพระนครแล้ว แต่ก็กลับหานางไม่พบ ข้าเลยอยากมาถามว่าเจ้ารู้ไหม?""มู่จิ่วซี เจ้าโง่หรือเปล่า? เจ้าคิดว่าข้าจะบอกเจ้าหรอ?" จ้วงชิงเหมยยิ้มกล่าว"ก็ใช่ การเป็นไส้ศึกจะต้องระวังปากไว้เล็กให้เท่าขวด ข้าก็ไม่ได้หวังว่าเจ้าจะพูด แต่พรุ่งนี้เจ้าจะถูกส่งไปยังกรมพระราชวังนครบาล ทางนั้นไม่ได้ทำดีกับเจ้าอย่างใต้เท้าอัครมหาเสนาบดีหรอกนะ" มู่จิ่วซีเผยรอยยิ้มเวทนาสงสารออกมาจ้วงชิงเหมยก็ส่งเสียงไม่พอใจออกมา ทำท่าเหมือนไม่อยากจะพูด"ว่ากันว่าเสือร้ายไม่ยอมกินลูกตัวเอง เจ้ากล้าฆ่าลูกของตัวเองได้อย่างไร? ขนาดไป๋เฟิ่งหว่านยังเป็นบ้าไปแล้ว เจ้ามีความสุขดีใจมากหรือไง?" มู่จิ่วซีwย่อตัวลงตรงหน้านางและถาม (เสือร้ายไม่ยอมกินลูกตัวเอง หมายถึง โหดร้ายเพียงใดก็ไม่ทำร้ายเลือดเนื้อเชื้อไขตัวเอง)จ้วงชิงเหมยสีหน้าก็เปลี่ยนไป จากนั้นก็พูดขึ้นมา : "ข้ารู้ส่าข้าทำไม่ถูกกับพวกเขา แต่เรื่องบางเรื่องก็จำเป็นต้องทำ ไว้รอชาติหน้าข้าค่อยชดใช้ให้พวกเขาแล้วกัน""จิตใจเลวทรามจริงๆ คารวะเลย" มู่จิ่วซียอมรับแม่คนหนึ

    Last Updated : 2024-05-28
  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 302

    "ฟังเข้าสิ คำพูดเจ้าเห็นแก่ตัวแค่ไหน ยังไม่พูดถึงไป๋ชิง มาพูดถึงพ่อเจ้าก่อน หากไม่มีพ่อ ต่อให้แม่ของเจ้ารักเอ็นดูเจ้ามาก จนเจ้าได้มีชีวิตที่ดี แต่ถึงกระนั้นแม่ของเจ้าเดิมทีก็ไม่ได้รักเอ็นดูเจ้าจริงๆ ก็แค่เลี้ยงดูเจ้าและน้องชายเจ้าให้อ้วนพลีแล้วค่อยเชือด" ประโยคนี้ของมู่จิ่วซีได้แทงใจดำของไป๋เฟิ่งหว่าน"จิ่วซี..." ไป๋ชิงรีบดึงมู่จิ่วซีและหวังว่านางจะไม่ทำให้ไป๋เฟิ่งหว่านกระทบกระเทือน"นางน่ะ สมองไม่เคยคิดให้กระจ่าง ข้าก็แค่อยากให้นางคิดให้ชัดเจนว่าใครคือคนที่เป็นห่วงนางมากที่สุด แต่ก็ยังดีที่นางได้สติ ไปเถอะ พวกเราทานไปคุยไปดีกว่า ข้าหิวแล้ว"ขณะพูด นางก็คว้าแขนของไป๋เฟิ่งหว่านเอาไว้ไป๋เฟิ่งหว่านหันมองมู่จิ่วซี ราวกับมู่จิ่วซีไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีสักวันที่ทำดีกับนาง"ประหลาดใจเหรอ?" มู่จิ่วซีเลิกคิ้วไป๋เฟิ่งหว่านทันใดนั้นก็กลอกตาและพูดกล่าว : "ใครจะไปรู้ว่าเจ้าคิดอะไร""ข้าจะบอกเจ้าให้ ถ้าไม่ใช่เพราะลุงไป๋ข้อร้องข้าอย่างน่าสงสาร เจ้าคิดเหรอว่าข้าจะสนใจความเป็นตายของเจ้า อัครมหาเสนาบดีไป๋เป็นองคมนตรีสำคัญในแคว้นเกาอวิ๋น ข้าไม่อาจใจดำกับเขาได้หรอก เจ้าเองเป็นลูกสาวก็ยิ่งไม่ควร เข

    Last Updated : 2024-05-29
  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 303

    ไป๋ชิงหลุดขำพรืดออกมาและก็กล่าว: "น้องรอง ดูเหมือนเจ้าเฝ้ารอจะได้เห็นนายโลมนะ""แค่กๆๆ ก็ข้าไม่เคยเห็นนายโลมมาก่อน ก็แค่อยากรู้อยากเห็นนิดหน่อยเอง" ไป๋เฟิ่งหว่านรีบพูดขึ้นมา"เจาน่ะ เคยเห็นแค่โม่จุน ดังนั้นก็เลยรู้สึกว่าเขาดีที่สุด อันที่จริงผู้ชายดีๆ มีตั้งมากมาย" มู่จิ่วซียิ้มขึ้นมา"ไป๋ชิง เจ้าหลังจากนี้ก็คงไม่ได้เอาแต่สวดมนต์ใช่ไหมล่ะ ข้ามีความคิดดีๆ พวกเจ้าอยากฟังไหม" ตรงหัวของมู่จิ่วซีก็ปรากฎราวกับแสงธรรมจักรไป๋ชิงหลังจากชะงักไปก็ยิ้มแห้งๆ กล่าวออกมา : "จิ่วซี เจ้าจะทำอะไร?""ก่อนหน้านี้การแข่งของข้ากับแคว้นซีเย่ว์คงเคยได้ยินใช่ไหม?" มู่จิ่วซีถามไป๋ชิงรีบพยักหน้า แววตาสองข้าวเต็มไปด้วยความอิจฉาและนับถือ : "จิ่วซี เจ้าเก่งกาจมากจริงๆ"ไป๋เฟิ่งหว่านสีหน้ามึนงง ไป๋ชิงจึงได้แต่บอกกับนาง ไป๋เฟิ่งหว่านก็เอาแต่พูดว่าเป็นไปไม่ได้ เป็นไปได้ยังไง ไม่มีทาง แต่ตกใจอยู่ตลอด"เพราะการแข่งอันเป็นเกียรติยศให้กับแคว้นเกาอวิ๋น โม่จุนก็เลยแพ้มอบหอโม่ช่างเหวินให้ข้า" มู่จิ่วซีเผยสีหน้าภูมิใจอันเจ้าเล่ห์ออกมา"หอโม่ช่างเหวิน!" ไป๋เฟิ่งหว่านถึงกับตกใจอุทาน "นึกไม่ถึงว่าท่านผู้สำเร็จราชการแท

    Last Updated : 2024-05-30
  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 304

    หลังจากช่วงบ่าย มู่จิ่วซีก็พาทั้งสามคนไปที่โรงน้ำชาหลายแห่งเพื่อเลือกซื้อ และยังได้กล่าวข้อดีของร้านอื่นๆ พร้อมพูดถึงหอโม่ช่างเหวินของตัวเองว่าจะเปลี่ยนแปลงอย่างไรต่อจากนี้พี่น้องสองคนนี้มีความอยากรู้อยากเห็นมาก โดยเฉพาะยังรู้สึกว่าสิ่งที่มู่จิ่วซีบอกกล่าวเป็นของแปลกใหม่ เลยทำให้พวกนางมีอารมณ์คึกคักอยากสนใจทั้งสามคนหลังจากเดินจนพอและทานจนอิ่มแล้วก็กลับไปยังจวนอัครมหาเสนาบดี มู่จิ่วซีก็ได้เห็นแววตาอันซาบซึ้งของอัครมหาเสนาบดีไป๋ จากนั้นก็รีบไปที่โรงแพทย์หย่งไท่เพื่อเยี่ยมเซียวหลิงเย่ว์โม่จุนและมู่จิ่วซีได้เจอกันตรงหน้าประตูของโรงแพทย์พอเข้าไปก็เห็นองค์หญิงสือเฟิงสือหย่าอยู่ด้วย เซียวหลิงเย่ว์ได้ฟื้นขึ้นมาแล้ว นางนอนอยู่บนเตียงและกำลังคุยกับเฟิงสือหย่าเมื่อหมอเห็นท่านผู้สำเร็จราชการแทนและมู่จิ่วซีมาถึงแล้วก็รีบรายงานสถานการณ์ สถานการณ์ของเซียวหลิงเย่ว์ตอนนี้มั่งคงแล้วหลักจากทักทายกัน เฟิงสือหย่าก็ออกไปดูยา ส่วนมู่จิ่วซีนั่งอยู่ข้างเตียงมองเซียวหลิงเย่ว์ ใบหน้าเดิมทีอันงดงามแดงระเรื่อกลับขาวซีดไร้เลือดฝาด แต่สายตาก็ยังคงหันมองมู่จิ่วซีและเผยสีหน้าที่ซับซ้อนอย่างมากมู่จิ่วซีนั

    Last Updated : 2024-05-31
  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 305

    โม่จุนออกไปด้วยความเร็วราวกับบิน มู่จิ่วซีและชิงเฟิงก็รีบกลับไปที่บ้านพอถึงบ้านก็ได้รู้ว่ามู่เทียนซิงก็ถูกทางวังเรียกเข้าไปแล้วเช่นกันมู่จิ่วซีเดินอยู่ในเรือนของตัวเองไปมา นางคิดไม่ตกว่าทำไมตอนนี้ถึงได้เกิดสงครามกับแคว้นเป่ยจิ้นขึ้นมา?เสริมกำลังทหารโดยด่วน แสดงว่าสถานการณ์จะต้องรุนแรงมากระหว่างแคว้นเกาอวิ๋นและแคว้นเกาอวิ๋นเป็นพื้นที่ทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ เป็นภูมิประเทศราบลุ่ม เมื่อสองปีก่อน โม่จุนได้พากองทหารและใช้เมืองอิงซึ่งอยู่เหนือสุดเป็นกองหนุนเบื้องหลัง พร้อมกับทำสงครามกับทหารแคว้นเป่ยจิ้นบนทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ต่อเนื่องหลายแรมเดือน จนสุดท้ายก็ไล่แคว้นเป่ยจิ้นออกไปได้แคว้นเป่ยจิ้นได้พักฟื้นฟูไม่ถึง 2 ปีก็กล้าบุกมาหาเรื่องอีกแล้ว?ไม่ได้บอกว่าอีกเดือนต่อจากนี้ แคว้นเป่ยจิ้นจะส่งคนมาเจรจาพันธมิตรหรอกเหรอ?มู่จิ่วซียิ่งคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ยิ่งแปลกมาก แต่ว่านางเองก็ไม่ใช่คนในราชสำนัก นางไม่อาจเข้าไปหารือเกี่ยวกับเรื่องทางการทหาร ดังนั้นจึงได้แต่รอท่านพ่อกลับมาแล้วค่อยถามหลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วยาม เย่ฮานก็กลับมาแล้วบอกว่าได้จัดการเรียบร้อยทั้งหมดแล้ว พรุ่งนี้ก็ค่อยไปดูจ้วงชิงเหม

    Last Updated : 2024-06-01
  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 306

    "ฮาๆ พูดได้ดี งั้นพอกลับไปที่หอดาราจันทราแล้วเรามาแลกเปลี่ยนวรยุทธ์กับเจ้าสำนักกันต่อ" มู่จิ่วซียิ้มขึ้นมาและหัวเราะให้กับฮั้วอวิ๋นเทียนอย่างสบายใจ นางได้ทำเหมือนเขาเป็นเพื่อน แน่นอนว่านางเลยตอบรับไปอย่างอารมณ์ดีฮั้วอวิ๋นเทียนไม่นานก็ขอตัวลา มู่จิ่วซีก็มองร่างของเขาซึ่งเดินออกไปไกล มุมปากของนางก็ค่อยๆ ยิ้มขึ้นมาฮั้วอวิ๋นเทียนบอกข่าวกรองของแคว้นเป่ยจิ้นให้กับนางข่าวหนึ่ง สำหรับแคว้นเกาอวิ๋นถือว่าสำคัญมากจริงๆมู่จิ่วซีก็อยู่บ้านรอท่านพ่อตลอด แต่ว่ารอจนหลังอาหารเย็นแล้วก็ยังไม่กลับมา นางเลยจึงไปที่จวนอัครมหาเสนาบดี ถึงอย่างไรนางก็สัญญาอัครมหาเสนาบดีไป๋แล้วว่าจะพักอาศัยสองสามวันแต่นางก็ยังบอกชิงเฟิงให้เขาคอยรอบอกท่านพ่อว่าอย่าวิตกกังวลเกินไปแต่ไม่คาดคิดว่าโม่จุนกำลังรอนางอยู่ที่จวนอัครมหาเสนาบดี เพราะเขารู้ว่ามู่จิ่วซีจะต้องมาพักอาศัยที่จวนอัครมหาเสนาบดีมู่จิ่วซีพอมาถึงก็ถูกเชิญให้ไปยังห้องตำราของอัครมหาเสนาบดีไป๋ พอเห็นโม่จุน นางก็รู้ว่าเจ้าจิ้งจอกเจ้าเล่ห์สองคนนี้จะต้องคุยเจรจากันมานานแล้ว"ซีเอ๋อร์ เจ้าทราบรายงานสถานการณ์ทหารทางชายแดนของแคว้นเป่ยจิ้นแล้วใช่ไหม?" อัครมหาเสนา

    Last Updated : 2024-06-02
  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 307

    มู่จิ่วซีหันมองสีหน้าบูดบึ้งของโม่จุน ในใจก็คิดว่าเขาอุตส่าห์เอาข้อมูลมาให้ เจ้ายังจะมาชักสีหน้าอีก ทำหน้าแบบนี้ให้ใครดูกันนางไม่แม้แต่จะเหลือบสายตามองโม่จุน"ฮั้วอวิ๋นเทียนบอกว่าแคว้นเป่ยจิ้นรวมกำลังพลไม่ใช่เพื่อทำสงคราม เบื้องหลังเองก็ไม่มีกองทหารเลยสักกอง อาหารของแคว้นเป่ยจิ้นไม่เพียงพอ ไม่มีทางจะทำสงครามในฤดูหนาวได้ เสบียงอาหารของทหารไม่พอ""พวกเขารวมกำลังพลเพื่อกดดันแคว้นเกาอวิ๋น หลังจากนี้อีก 1 เดือนทั้งสองแคว้นจะเจรจาเป็นพันธมิตรกัน แคว้นเป่ยจิ้นบางทีอาจจะเสนอข้อเรียกร้องอันล้ำเส้นออกมา แต่ว่าเป็นข้อเรียกร้องอะไรนั้น ฮั้วอวิ๋นเทียนก็ไม่รู้"มู่จิ่วซีเอาคำพูดของฮั้วอวิ๋นเทียนบอกกับอัครมหาเสนาบดีไป๋อัครมหาเสนาบดีไป๋และโม่จุนก็มองหน้ากัน"ท่านผู้สำเร็จราชการแทน พอฟังแบบนี้แล้ว มันก็สมเหตุสมผลอยู่บ้าง เจ้าคิดว่าอย่างไรล่ะ?" อัครมหาเสนาบดีไป๋ถามโม่จุนโม่จุนก็เงียบครุ่นคิดไปพักก่อนจะพูดขึ้นมา : "แม้ว่าจะเป็นข่าวดี แต่หากข้อมูลนี้ผิดพลาด นั่นจะเป็นอันตรายร้ายแรงของแคว้นเกาอวิ๋น"มู่จิ่วซีพยักหน้าและกล่าว : "คำพูดนี้ข้าเห็นด้วย แต่ข้าคิดว่าฮั้วอวิ๋นเทียนไม่มีทางให้ข้อมูลข่าวก

    Last Updated : 2024-06-03
  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 308

    โม่จุนและอัครมหาเสนาบดีไป๋ก็มองหน้ากัน ทั้งสองหันไปมองมู่จิ่วซีตอนนี้มู่จิ่วซีได้นั่งลงมา เงียบสนิทและกำลังคิดอะไรอยู่แต่โม่จุนและอัครมหาเสนาบดีไป๋กลับรู้ใจและไม่ได้เอ่ยปากพูดขัดจังหวะความคิดของนางประโยคนี้ของนาง ทำให้รู้ว่านางกำลังจะต้องกาวิธีทำอย่างไรถึงจะทำให้มีเครื่องมือที่ดีพร้อมผ่านไปสักพักมู่จิ่วซีก็เงยหน้าขึ้นมาและกล่าว : "ตอนนี้อาวุธของทหารในสนามรบคืออะไร?""ดาบกระบี่ หอก เกราะ ธนูหน้่ไม้และเครื่องยิงหิน พวกขวดน้ำมันเพลิง..." โม่จุนรีบพูดขึ้นมา "โดยพื้นฐานแล้วคือศาสตร์การใช้กำลังพลที่มากกว่าและรูปแบบทัพ แต่ถ้าหากจำนวนคนในทัพแตกต่างมากเกินไป ก็แทบจะไม่มีทางชนะได้เลย"มู่จิ่วซีก็กล่าวอย่างตกใจ : "ไม่มีปืนใหญ่หรอ?""ปืนใหญ่? อะไรคือปืนใหญ่?" โม่จุนกล่าวอย่างตกใจ"ปืนใหญ่ ก็คืออาวุธซึ่งมีอำนาจทำลายล้างมากกว่าขวดน้ำมันเพลิง ระยะก็สามารถยิงได้ไกลกว่ามาก ปืนใหญ่แค่ 1 กระสุน ส่งผลกระทบเป็นรัศมีได้หลาย 10 เมตร" มู่จิ่วซีก็กล่าวอย่างคนหัวโบราณโม่จุนก็ตกใจ อัครมหาเสนาบดีไป๋ก็ถลึงตาโตพร้อมกับพูด : "มีอาวุธแบบนี้ด้วยงั้นเหรอ?"มุมปากของมู่จิ่วซีก็กระตุกขึ้นมา ไม่คาดคิดว่ายุค

    Last Updated : 2024-06-04

Latest chapter

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 507

    ฮั้วอวิ๋นเทียนหันมองจื่ออวิ๋นเฟยด้วยแววตาปวดร้าว เขากล่าวอย่างเสียใจ : "ทำไมเป็นแบบนี้? เป็นฝีมืออาจื่อใช่ไหม?"จื่ออวิ๋นเฟยพาเขามานั่งข้างนอกและถอนใจสารภาพ : "อาจื่อสวมหน้ากากหนังมนุษย์ปลอมตัวเป็นหญิงอุ้มท้อง มู่จิ่วซีเจตนาดีช่วยหญิงอุ้มท้องจนถูกอาจื่อทำร้ายในระยะประชิด แผลที่เอวบาดเจ็บสาหัส แต่โชคดีที่นางทานยาเทพสถิตย์ทันที"แม้จื่ออวิ๋นเฟยจะเสียยายาเทพสถิตย์ไปสองเม็ดจนเขาอยากจะสบถ แต่พอรู้ว่ามู่จิ่วซีไม่เป็นอะไร เขาก็รู้สึกว่ามันคุ้มที่จะเสีย หากมู่จิ่วซีเป็นอะไรไป เขาคงจะเสียใจมากกว่าไม่ง่ายที่ในชีวิตนี้เขาจะมีเพื่อนสนิทไว้พูดคุย ได้เป็นศิษย์น้องของเขาร่วมกันค้นคว้าวิจัย เขาไม่อยากเสียนางไปจริงๆมีแค่นางสามารถปรุงยาเทพสถิตย์ฮั้วอวิ๋นเทียนตัวสั่นยิ้มเจื่อน : "ตอนนั้นเพื่อจะปกป้องอาจื่อ ข้าเลยขอยาเทพสถิตย์และหน้ากากหนังมนุษย์ให้นาง แต่กลับถูกเอามาใช้เล่นงานจิ่วซี จิ่วซีพูดถูกแล้ว ข้ามันไม่ทันสังเกต"ชิงเฟิงตายไปแล้ว มู่จิ่วซีคงทำใจไม่ได้ในทันที วิธีเดียวที่จะคลายปมแค้นในใจนางคือต้องจับอาจื่อ เจ้ารู้ไส้อาจื่อเป็นอย่างดี เจ้าพอจะช่วยนางได้ไหม?" จื่ออวิ๋นเฟยถามฮั้วอวิ๋นเทียนกล

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 506

    จื่ออวิ๋นเฟยใช้เวลากว่า 1 ชั่วยามซับเหงื่อมู่จิ่วซี เขาถอนหายใจมองใบหน้าซีดเซียวของนางผู้หญิงคนนี้ทำเวรทำกรรมอะไรมา แผลตรงอกไม่ทันหาย ตรงเอวก็มาเป็นต่อ แค่มองก็รู้ว่าถูกแทงระยะประชิดมู่จิ่วซีได้สติในเช้าวันรุ่งขึ้น นางตะโกนเสียงดัง : "ชิงเฟิง ! ชิงเฟิง?"ลู่เอ๋อร์กล่าวร้องห่มร้องไห้ : "คุณหนู ท่านอย่าเพิ่งขยับตัว ชิงเฟิงจากไปแล้วเจ้าค่ะ"มู่จิ่วซีกำผ้าห่มแน่น ในหัวยังคงเห็นภาพที่เกิดขึ้นเมื่อวานทั้งหมดชิงเฟิงตายเพราะช่วยนาง คนลงมือสังหารไม่ใช่อาจื่อ แต่เป็นมือธนูที่เชี่ยวชาญอีกคนต้องโทษนางที่มองแผนการปลอมเป็นหญิงตั้งครรภ์ไม่ออก ตอนนั้นเหตุการณ์โกลาหล ผู้คนวิ่งเตลิดร้องขอความช่วยเหลือนางช่วยหญิงตั้งภรรค์คนนั้นไว้เพราะอยากให้ต้องตายทั้งกลม ไม่คาดคิดว่าอาจื่อจะใช้ประโยชน์จากความใจอ่อนย้อนมาทำร้ายนางเองผู้หญิงคนนี้ฉลาด โหดร้ายชั่วช้า"ฉินหลานจื่อ! ข้าขอสาบาน ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อหาเจ้าให้เจอ ข้าจะเลาะเนื้อเฉือนกระดูกเจ้าเพื่อแก้แค้นให้ชิงเฟิง!" มู่จิ่วซี"คุณหนูใหญ่ ท่านใจเย็นก่อน! เดี๋ยวแผลฉีก!" จื่ออวิ๋นเฟยเดินเข้ามาเห็นคราบเลือดบนเตียงขณะมู่จิ่วซีหุนหันเคียดแค้นโม่จุนเด

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 505

    มู่จิ่วซีหันไปมอง เห็นธนูเพลิงดอกหนึ่งพุ่งไปยังหญิงสาวด้านหลังคนนั้นอีกทั้งนางเป็นหญิงท้องตั้งครรภ์มู่จิ่วซีไม่มีเวลาให้คิดมาก นางพุ่งตัวเข้าไปหาจากบนม้า กริชเล็งเควี้ยงออกไปยังธนูดอกนั้น ส่วนนางก็กระโจนคว้าหญิงตั้งครรภ์เอาไว้"คุณหนูใหญ่!" ชิงเฟิงตะโกนลั่นตามเข้ามาร่างกายของมู่จิ่วซีกระโจนไปหาหญิงตั้งครรภ์ ขณะมือของนางกำลังจะคว้าหญิงตั้งครรภ์คนนั้น นางกลับขนลุกชันขึ้นมาทั้งตัว นางจึงเอี้ยวตัวไปด้านข้าง"ฉวก!" กริชเล่มหนึ่งปักลงตรงเอวด้านซ้ายของนางมีดบินในมือของมู่จิ่วซีเล็งปาดไปที่คอของผู้หญิงตรงหน้าอย่างแรงนางเห็นใบหน้าของหญิงสาวคนนั้นชัดเจน เป็นสาวชาวบ้านธรรมดาๆ ทว่าตรงจมูกระหว่างตามีไฝสีดำเม็ดเล็กอาจื่อ! คาดไม่ถึงว่านางจะปลอมเป็นคนท้องเพียงเพื่อจะสังหารมู่จิ่วซี"มู่จิ่วซี เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า!" เสียงของอาจื่อแฝงไปด้วยความเย็นเยือกสุดขั้วพร้อมกับเบี่ยงศีรษะไปด้านหลัง หลบเลี่ยงคอ ทว่ามีดบินก็ยังกรีดเข้าที่หน้า บาดหน้ากากหนังมนุษย์จนเป็นรอย เลือดสดไหลซึมออกมาดวงตาของมู่จิ่วซีทั้งสองข้างคือความโกรธแค้น มีดบินปรากฎขึ้นในมืออีกครั้ง อาจื่อกลิ้งหลบไปด้านหลังสองตลบแล

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 504

    "แน่นอนอยู่แล้ว เซวียนหยวนเชาเมื่อก่อนคิดอยากจะช่วยหวางชิว หวางชิวไม่ใช่คนในราชวงศ์ แล้วเขาเป็นใครกันแน่? เขาถึงได้ไม่ไหว้หน้าเซวียนหยวนห้าว?" มู่จิ่วซียิ้มกล่าวโจวเหยาส่ายหัวและกล่าว : "หวางชิวแทรกซึมเข้าในแคว้นเกาอวิ๋น 20 กว่าปีแล้ว คงมีน้อยคนมากที่จะรู้ตัวตนแท้จริงของเขาในแคว้นเป่ยจิ้น"มู่จิ่วซีพยักหน้าพูด : "ดูเหมือนเซวียนหยวนห้าวใกล้จะมาแล้ว ในเมื่อหวางชิวสำคัญขนาดนั้น คราวนี้แคว้นเป่ยจิ้นคงต้องได้สังเวยเลือดครั้งใหญ่""คุณหนูใหญ่ เราจะต้องปล่อยหวางชิวไปในตอนสุดท้ายใช่ไหม?" โจวเหยาร้อนรนกล่าว "ถ้าต้องปล่อยเขาไป แบบนั้นเป็นการปล่อยเสือกลับภูเขาชัดๆ""เจ้าคิดว่าข้าใจดีขนาดนั้น?" ดวงตาทั้งสองข้างของมู่จิ่วซีมองโจวเหยาโจวเหยาตกตะลึง จากนั้นก็หัวเราะเสียงดังกล่าวออกมา : "งั้นข้าก็สบายใจได้แล้ว เขารู้ความลับของแคว้นเกาอวิ๋นมากเกินไป ถ้าต้องปล่อยเขากลับแคว้นเป่ยจิ้น ถือว่าไม่เป็นประโยชน์ต่อพวกเรา""วางใจเถอะ ต่อให้ปล่อยเขาออกกรมพระราชวังนครบาลไป ก็คงกลับไม่ถึงแคว้นเป่ยจิ้น เรื่องนี้ข้ากับโม่จุนได้ปรึกษากันแล้ว อนุญาตให้เซวียนหยวนเชามกุฎราชกุมารพิการคนนี้กลับไปได้เท่านั้น" มุมปาก

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 503

    มู่จิ่วซีกล่าวอย่างยิ้มมีเสน่ห์ : "ถึงอย่างไรเจ้าก็ห้ามทำไม่ดีกับข้า ไม่งั้นหลังจากนี้ข้าจะคิดบัญชีกับเจ้า อ่อใช่ เจ้าเคยคิดถึงกิจการในห้าแคว้นอื่นของท่านอ๋องสี่ไหม? ร่วมมือกับท่านพี่ฮั้วไหม?"มู่จิ่วซีเคยพูดถึงแผนการของฮั้วอวิ๋นเทียนให้โม่จุนฟัง"ฮั้วอวิ๋นเทียนคนนี้มันเจ้าเล่ห์ ต่อให้ข้าไม่ร่วมมือ เข้าก็ยังได้ทราบข้อมูลข่าวกรองก่อนใคร ลงมือก่อนใคร ข้าเองได้แต่เป็นฝ่ายถูกกระทำ ในเมื่อเขาเสนอมาว่าจะให้แบ่งให้เจ้าครึ่งหนึ่ง ข้าก็ตกลง เจ้าสมควรได้รับไว้"มู่จิ่วซีทันใดนั้นก็คลายกังวลและยิ้มกล่าว : "แล้วทางพระพันปีหลวงล่ะ?""อีกห้าแคว้นยังมีตำหนัก ไม่ได้ประกอบธุรกิจ ยังมีโฉนดอยู่ บางส่วนมอบคืนให้ราชวงศ์ ส่วนกิจการอื่นที่เกี่ยวข้องกับพระพันปีหลวงก็คงจะรู้ว่าไม่อาจเอากลับมาได้ ทั้ง 5 แคว้นแย่งไปจนเกลี้ยงแล้ว"โม่จุนกล่าวต่อ "ต่อให้ทหารมังกรดำของข้าอยู่ใน 5 แคว้น ก็ไม่อาจเอากลับมาได้ แบบนั้นจะเป็นหารเปิดเผยตัวตนพวกเขา ดังนั้นแผนการของฮั้วอวิ๋นเทียนจึงถูกใจข้าพอดี ข้าเดิมทีก็อยากจะร่วมมือกับเขา ในเมื่อเขามาหาเองถึงที่ งั้นทางเราก็จะไว้หน้าเขา""เจ้าเองก็จิ้งจอกเฒ่า" มู่จิ่วซีมองเขาซึ่งวา

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 502

    "ที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด ดูเหมือนว่าเราจะเดาผิด" มู่จิ่วซีกล่าว "แผลจะได้ไม่ต้องปริ"มู่จิ่วซีกุมอก"หากเป็นที่ลับตา ยังมีอีกที่หนึ่ง" โม่จุนหันมองมู่จิ่วซี"จวนท่านอ๋องสาม?" มู่จิ่วซีเลิกคิ้ว"ใช่ เขาหนีออกไปได้แล้ว ใครจะคิดว่าเขาจะกลับมา?" โม่จุนรีบกลับเลี้ยวม้าออกไปนอกวังด้านหลังตามขบวนมายาวเป็นหางว่าว เย่ฮาน ชิงเฟิงและทหารมังกรดำตามมาติดๆจนเมื่อมาถึงจวนอ๋องสาม เดิมทีควรจะเงียบสงัด ทว่ากลับได้ยินเสียงร้องไห้จากด้านในหลังจากโม่จุนอุ้มมู่จิ่วซีลงจากม้าก็กระโดดข้ามกำแพงเรือนเข้าไป ไม่ได้เข้ามาทางประตูใหญ่พอถึงพื้นก็ได้กลิ่นคาวเลือดคลุ้ง ทั้งสองสีหน้าเปลี่ยนไปมาก"ท่านผู้สำเร็จราชการแทน ช่วยด้วย!" บ่าวรับใช้รีบตะโกนเรียกเมื่อเห็นโม่จุนและมู่จิ่วซีโม่จุนเห็นบ่าวรับใช้นอนจมกองเลือดเลยรีบเข้าไปถาม : "ที่นี่เกิดอะไรขึ้น?""พระชายา พระชายาถูกลักพาตัวไปแล้วเจ้าค่ะ องค์หญิงสือบาดเจ็บ..." บ่าวรับใช้ชี้นิ้วไปด้านในโม่จุนรีบเรียกคนด้านหลังให้มาช่วยปฐมพยาบาล ส่วนเขาเองกับมู่จิ่วซีรีบเข้าไปด้านใน ตามทางมีองครักษ์มากมายถูกฆ่า ทั้งสองสีหน้าแย่มากกว่าเก่าหลังจากท่าน

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 501

    เย่อู่เหิงรีบวิ่งออกไป มู่จิ่วซีสีหน้าเปลี่ยน หลังจากเดินไปมาหลายรอบก็กัดฟัน เปลี่ยนเป็นชุดจิ้นจวงและเดินออกมา"คุณหนู ท่านจะไปไหน?" ลู่เอ๋อร์เข้ามาจากด้านนอกเห็นมู่จิ่วซีเปลี่ยนเสื้อผ้าออกไป นางตกใจสะดุ้งจนตะโกนร้องเรียก"ข้ามีธุระ เย่ฮาน ชิงเฟิง!" มู่จิ่วซีตะโกนเรียกจื่ออวิ๋นเฟยที่กำลังงุ่นง่านกับศาสตร์ศัลยกรรมตกแต่งได้ยินเสียงของมู่จิ่วซี ก็รีบวิ่งออกมา"คุณหนูใหญ่ เจ้า ท่านจะออกไปข้างนอกรึ?" เย่ฮานกล่าวอย่างตกใจ"มู่จิ่วซี ไม่รักชีวิตตัวเองเลยรึไง แผลยังไม่ทันหายยังจะออกไปอีก?" จื่ออวิ๋นเฟยเองก็ตกใจ"ข้าต้องเข้าไปในวัง ไปเตรียมม้า!" มู่จิ่วซีรีบวิ่งออกไป"เห้ยๆๆ เจ้าระมัดระวังด้วย อย่าบุ่มบ่ามจนแผลฉีกล่ะ" จื่ออวิ๋นเฟยตะโกนจากด้านหลัง"เอายามาให้ข้าเม็ดหนึ่ง! กันไว้ก่อน" มู่จิ่วซีันควับกลับมาและยืนมือไปทางจื่ออวิ๋นเฟย "กลับมาแล้วข้าจะปรุงยาเอามาคืนเจ้า"จื่ออวิ๋นเฟยเบือนหน้าหนีเดินถอยออกไป มู่จิ่วซีเบ้ปากกล่าว : "ขี้งก"พูดจบก็รีบเดินไปทางประตูจื่ออวิ๋นเฟยหยุดฝีเท้าลงและพูดขึ้นมากะทันหัน : "เอาไป!"มู่จิ่วซีหันกลับมา เห็นเพียงขวดยาที่ถูกโยนมาให้"ในนั้นเหลือแค่ 2 เม็ด

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 500

    "เจ้าไปวาดใบหน้าของหน้ากากหนังมนุษย์ของอาจื่อออกมาก่อน" มู่จิ่วซีกล่าว"เออ ข้า ข้าก็จำไม่ค่อยได้แล้ว เป็นผู้หญิงธรรมดามากๆ ไม่สะดุดตาเลย ข้าตอนนั้นกำลังเพิ่งเริ่มศึกษาค้นคว้า เลยทำหน้ากากออกมาแค่ผืนเดียว ถ้าของมันดี ข้าคงอดไม่ได้ที่จะต้องยกให้คนอื่นใช่ไหมล่ะ?" จื่ออวิ๋นเฟยทำสีหน้าโศกเศร้า"ไม่มีเอกลักษณ์อะไรเลยงั้นเหรอ? ถ้าเจ้าเห็นกับตาจะจำได้ไหม?" มู่จิ่วซีสูดหายใจเข้า"เอกลักษณ์? มีสิ ตรงจมูกหว่างตามีไฝสีดำเม็ดหนึ่ง มีแค่จุดนั้น เพราะว่าเป็นไฝเลยไม่มีวิธีจะเอาออก อาจื่อตอนนั้นยังบอกว่าอัปลักษณ์"มู่จิ่วซีก็ถอยหายใจได้ในที่สุด ขอเพียงมีเอกลักษณ์จุดสังเกต อย่างน้อยให้นางครั้งหน้าเห็นและจำได้ อีกอย่างอาจื่อคงจะต้องคิดหาวิธีมาฆ่านางแน่นอน"อายุล่ะ ภายนอกอายุประมาณเท่าไหร่?" มู่จิ่วซีถาม"ประมาณระหว่าง 20-30 ปี" จื่ออวิ๋นเฟยกล่าว "สีผิวดูคล้ำกว่าเจ้าเล็กน้อย ไม่ใช่คุณหนูประเภทนั้น คล้ายกับบ่าวรับใช้"มู่จิ่วซีพยักหน้า เข้าใจแล้ว"งั้นก็ดี ตอนนี้ข้าจะสอนศาสตร์ศัลยกรรมตกแต่งให้เจ้า" มู่จิ่วซีจิตใจวิตกกังวล แต่ก็ทำได้เพียงสงบใจและรอฟังข่าวเท่านั้นตกกลางคืน เย่อู่เหิงได้มาเยี่ยม คน

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 499

    จื่ออวิ๋นเฟยกล่าวอย่างระแวง : "เจ้า เจ้าอย่ามองข้าแบบนั้น อาจื่อไม่ใช่ว่ามีโรคหัวใจแต่กำเนิดรึไง? มอบยาให้นางไปก็เพื่อใช้ปกป้องชีวิตของนาง""เจ้าไม่ใช่ว่าเห็นนางขัดหูขัดตาหรือไง?" มู่จิ่วซีกล่าวอย่างโมโห"เออ คือ คือข้าได้แลกเปลี่ยนกับฮั้วอวิ๋นเทียน ว่าให้ข้าสามารถรับสวัสดิการที่ดีที่สุดในหอดาราจันทราทั้ง 6 แคว้นได้ ได้รับการปกป้องจากหอดาราจันทราทั้ง 6 แคว้น" จื่ออวิ๋นเฟยสำนักผิดมู่จิ่วซีหมดคำจะพูด"ท่านอ๋องสามตอนนั้นได้ก่อกบฎ ถูกโม่จุนหักขาไปข้าง ทว่าวันนี้ขาของข้ากลับมาเดินบนพื้นได้อีก แค่อาจไม่ค่อยคล่องแคล่ว คงได้ทานยาเทพสถิตย์ไปแล้วแน่" มู่จิ่วซีกล่าวอย่างมั่นใจ "นอกเสียจากมียารักษาสุดยอดยิ่งกว่ายาเทพสถิตย์"จื่ออวิ๋นเฟยอ้าปากกว้าง จากนั้นก็กล่าวอย่างอักอ่วน : "งั้น งั้นก็คงจะเป็นยาเทพสถิตย์แล้วล่ะ""จะให้พวกเขาหนีออกไปจากแคว้นเกาอวิ๋นไม่ได้เด็ดขาด ไม่งั้นไอระยำสองตัวนั้นคงทำให้พวกเราไม่อาจอยู่อย่างสงบได้แน่นอน" มู่จิ่วซีกำหมัดจนแน่น แววตาเต็มไปด้วยจิตสังหารจื่ออวิ๋นเฟยส่งเสียงไอ เขาถึงกับหัวหด"เจ้ายังมีอะไรปิดบังข้าอีก?" มู่จิ่วซีรู้สึกว่าจื่ออวิ๋นเฟยแปลกออกไป"หะ! ไม่

DMCA.com Protection Status