แชร์

บทที่ 302

ผู้เขียน: เย่ว์เหมี่ยว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-05-29 17:00:00
"ฟังเข้าสิ คำพูดเจ้าเห็นแก่ตัวแค่ไหน ยังไม่พูดถึงไป๋ชิง มาพูดถึงพ่อเจ้าก่อน หากไม่มีพ่อ ต่อให้แม่ของเจ้ารักเอ็นดูเจ้ามาก จนเจ้าได้มีชีวิตที่ดี แต่ถึงกระนั้นแม่ของเจ้าเดิมทีก็ไม่ได้รักเอ็นดูเจ้าจริงๆ ก็แค่เลี้ยงดูเจ้าและน้องชายเจ้าให้อ้วนพลีแล้วค่อยเชือด" ประโยคนี้ของมู่จิ่วซีได้แทงใจดำของไป๋เฟิ่งหว่าน

"จิ่วซี..." ไป๋ชิงรีบดึงมู่จิ่วซีและหวังว่านางจะไม่ทำให้ไป๋เฟิ่งหว่านกระทบกระเทือน

"นางน่ะ สมองไม่เคยคิดให้กระจ่าง ข้าก็แค่อยากให้นางคิดให้ชัดเจนว่าใครคือคนที่เป็นห่วงนางมากที่สุด แต่ก็ยังดีที่นางได้สติ ไปเถอะ พวกเราทานไปคุยไปดีกว่า ข้าหิวแล้ว"

ขณะพูด นางก็คว้าแขนของไป๋เฟิ่งหว่านเอาไว้

ไป๋เฟิ่งหว่านหันมองมู่จิ่วซี ราวกับมู่จิ่วซีไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีสักวันที่ทำดีกับนาง

"ประหลาดใจเหรอ?" มู่จิ่วซีเลิกคิ้ว

ไป๋เฟิ่งหว่านทันใดนั้นก็กลอกตาและพูดกล่าว : "ใครจะไปรู้ว่าเจ้าคิดอะไร"

"ข้าจะบอกเจ้าให้ ถ้าไม่ใช่เพราะลุงไป๋ข้อร้องข้าอย่างน่าสงสาร เจ้าคิดเหรอว่าข้าจะสนใจความเป็นตายของเจ้า อัครมหาเสนาบดีไป๋เป็นองคมนตรีสำคัญในแคว้นเกาอวิ๋น ข้าไม่อาจใจดำกับเขาได้หรอก เจ้าเองเป็นลูกสาวก็ยิ่งไม่ควร เข
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 303

    ไป๋ชิงหลุดขำพรืดออกมาและก็กล่าว: "น้องรอง ดูเหมือนเจ้าเฝ้ารอจะได้เห็นนายโลมนะ""แค่กๆๆ ก็ข้าไม่เคยเห็นนายโลมมาก่อน ก็แค่อยากรู้อยากเห็นนิดหน่อยเอง" ไป๋เฟิ่งหว่านรีบพูดขึ้นมา"เจาน่ะ เคยเห็นแค่โม่จุน ดังนั้นก็เลยรู้สึกว่าเขาดีที่สุด อันที่จริงผู้ชายดีๆ มีตั้งมากมาย" มู่จิ่วซียิ้มขึ้นมา"ไป๋ชิง เจ้าหลังจากนี้ก็คงไม่ได้เอาแต่สวดมนต์ใช่ไหมล่ะ ข้ามีความคิดดีๆ พวกเจ้าอยากฟังไหม" ตรงหัวของมู่จิ่วซีก็ปรากฎราวกับแสงธรรมจักรไป๋ชิงหลังจากชะงักไปก็ยิ้มแห้งๆ กล่าวออกมา : "จิ่วซี เจ้าจะทำอะไร?""ก่อนหน้านี้การแข่งของข้ากับแคว้นซีเย่ว์คงเคยได้ยินใช่ไหม?" มู่จิ่วซีถามไป๋ชิงรีบพยักหน้า แววตาสองข้าวเต็มไปด้วยความอิจฉาและนับถือ : "จิ่วซี เจ้าเก่งกาจมากจริงๆ"ไป๋เฟิ่งหว่านสีหน้ามึนงง ไป๋ชิงจึงได้แต่บอกกับนาง ไป๋เฟิ่งหว่านก็เอาแต่พูดว่าเป็นไปไม่ได้ เป็นไปได้ยังไง ไม่มีทาง แต่ตกใจอยู่ตลอด"เพราะการแข่งอันเป็นเกียรติยศให้กับแคว้นเกาอวิ๋น โม่จุนก็เลยแพ้มอบหอโม่ช่างเหวินให้ข้า" มู่จิ่วซีเผยสีหน้าภูมิใจอันเจ้าเล่ห์ออกมา"หอโม่ช่างเหวิน!" ไป๋เฟิ่งหว่านถึงกับตกใจอุทาน "นึกไม่ถึงว่าท่านผู้สำเร็จราชการแท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-30
  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 304

    หลังจากช่วงบ่าย มู่จิ่วซีก็พาทั้งสามคนไปที่โรงน้ำชาหลายแห่งเพื่อเลือกซื้อ และยังได้กล่าวข้อดีของร้านอื่นๆ พร้อมพูดถึงหอโม่ช่างเหวินของตัวเองว่าจะเปลี่ยนแปลงอย่างไรต่อจากนี้พี่น้องสองคนนี้มีความอยากรู้อยากเห็นมาก โดยเฉพาะยังรู้สึกว่าสิ่งที่มู่จิ่วซีบอกกล่าวเป็นของแปลกใหม่ เลยทำให้พวกนางมีอารมณ์คึกคักอยากสนใจทั้งสามคนหลังจากเดินจนพอและทานจนอิ่มแล้วก็กลับไปยังจวนอัครมหาเสนาบดี มู่จิ่วซีก็ได้เห็นแววตาอันซาบซึ้งของอัครมหาเสนาบดีไป๋ จากนั้นก็รีบไปที่โรงแพทย์หย่งไท่เพื่อเยี่ยมเซียวหลิงเย่ว์โม่จุนและมู่จิ่วซีได้เจอกันตรงหน้าประตูของโรงแพทย์พอเข้าไปก็เห็นองค์หญิงสือเฟิงสือหย่าอยู่ด้วย เซียวหลิงเย่ว์ได้ฟื้นขึ้นมาแล้ว นางนอนอยู่บนเตียงและกำลังคุยกับเฟิงสือหย่าเมื่อหมอเห็นท่านผู้สำเร็จราชการแทนและมู่จิ่วซีมาถึงแล้วก็รีบรายงานสถานการณ์ สถานการณ์ของเซียวหลิงเย่ว์ตอนนี้มั่งคงแล้วหลักจากทักทายกัน เฟิงสือหย่าก็ออกไปดูยา ส่วนมู่จิ่วซีนั่งอยู่ข้างเตียงมองเซียวหลิงเย่ว์ ใบหน้าเดิมทีอันงดงามแดงระเรื่อกลับขาวซีดไร้เลือดฝาด แต่สายตาก็ยังคงหันมองมู่จิ่วซีและเผยสีหน้าที่ซับซ้อนอย่างมากมู่จิ่วซีนั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-31
  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 305

    โม่จุนออกไปด้วยความเร็วราวกับบิน มู่จิ่วซีและชิงเฟิงก็รีบกลับไปที่บ้านพอถึงบ้านก็ได้รู้ว่ามู่เทียนซิงก็ถูกทางวังเรียกเข้าไปแล้วเช่นกันมู่จิ่วซีเดินอยู่ในเรือนของตัวเองไปมา นางคิดไม่ตกว่าทำไมตอนนี้ถึงได้เกิดสงครามกับแคว้นเป่ยจิ้นขึ้นมา?เสริมกำลังทหารโดยด่วน แสดงว่าสถานการณ์จะต้องรุนแรงมากระหว่างแคว้นเกาอวิ๋นและแคว้นเกาอวิ๋นเป็นพื้นที่ทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ เป็นภูมิประเทศราบลุ่ม เมื่อสองปีก่อน โม่จุนได้พากองทหารและใช้เมืองอิงซึ่งอยู่เหนือสุดเป็นกองหนุนเบื้องหลัง พร้อมกับทำสงครามกับทหารแคว้นเป่ยจิ้นบนทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ต่อเนื่องหลายแรมเดือน จนสุดท้ายก็ไล่แคว้นเป่ยจิ้นออกไปได้แคว้นเป่ยจิ้นได้พักฟื้นฟูไม่ถึง 2 ปีก็กล้าบุกมาหาเรื่องอีกแล้ว?ไม่ได้บอกว่าอีกเดือนต่อจากนี้ แคว้นเป่ยจิ้นจะส่งคนมาเจรจาพันธมิตรหรอกเหรอ?มู่จิ่วซียิ่งคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ยิ่งแปลกมาก แต่ว่านางเองก็ไม่ใช่คนในราชสำนัก นางไม่อาจเข้าไปหารือเกี่ยวกับเรื่องทางการทหาร ดังนั้นจึงได้แต่รอท่านพ่อกลับมาแล้วค่อยถามหลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วยาม เย่ฮานก็กลับมาแล้วบอกว่าได้จัดการเรียบร้อยทั้งหมดแล้ว พรุ่งนี้ก็ค่อยไปดูจ้วงชิงเหม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-01
  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 306

    "ฮาๆ พูดได้ดี งั้นพอกลับไปที่หอดาราจันทราแล้วเรามาแลกเปลี่ยนวรยุทธ์กับเจ้าสำนักกันต่อ" มู่จิ่วซียิ้มขึ้นมาและหัวเราะให้กับฮั้วอวิ๋นเทียนอย่างสบายใจ นางได้ทำเหมือนเขาเป็นเพื่อน แน่นอนว่านางเลยตอบรับไปอย่างอารมณ์ดีฮั้วอวิ๋นเทียนไม่นานก็ขอตัวลา มู่จิ่วซีก็มองร่างของเขาซึ่งเดินออกไปไกล มุมปากของนางก็ค่อยๆ ยิ้มขึ้นมาฮั้วอวิ๋นเทียนบอกข่าวกรองของแคว้นเป่ยจิ้นให้กับนางข่าวหนึ่ง สำหรับแคว้นเกาอวิ๋นถือว่าสำคัญมากจริงๆมู่จิ่วซีก็อยู่บ้านรอท่านพ่อตลอด แต่ว่ารอจนหลังอาหารเย็นแล้วก็ยังไม่กลับมา นางเลยจึงไปที่จวนอัครมหาเสนาบดี ถึงอย่างไรนางก็สัญญาอัครมหาเสนาบดีไป๋แล้วว่าจะพักอาศัยสองสามวันแต่นางก็ยังบอกชิงเฟิงให้เขาคอยรอบอกท่านพ่อว่าอย่าวิตกกังวลเกินไปแต่ไม่คาดคิดว่าโม่จุนกำลังรอนางอยู่ที่จวนอัครมหาเสนาบดี เพราะเขารู้ว่ามู่จิ่วซีจะต้องมาพักอาศัยที่จวนอัครมหาเสนาบดีมู่จิ่วซีพอมาถึงก็ถูกเชิญให้ไปยังห้องตำราของอัครมหาเสนาบดีไป๋ พอเห็นโม่จุน นางก็รู้ว่าเจ้าจิ้งจอกเจ้าเล่ห์สองคนนี้จะต้องคุยเจรจากันมานานแล้ว"ซีเอ๋อร์ เจ้าทราบรายงานสถานการณ์ทหารทางชายแดนของแคว้นเป่ยจิ้นแล้วใช่ไหม?" อัครมหาเสนา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-02
  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 307

    มู่จิ่วซีหันมองสีหน้าบูดบึ้งของโม่จุน ในใจก็คิดว่าเขาอุตส่าห์เอาข้อมูลมาให้ เจ้ายังจะมาชักสีหน้าอีก ทำหน้าแบบนี้ให้ใครดูกันนางไม่แม้แต่จะเหลือบสายตามองโม่จุน"ฮั้วอวิ๋นเทียนบอกว่าแคว้นเป่ยจิ้นรวมกำลังพลไม่ใช่เพื่อทำสงคราม เบื้องหลังเองก็ไม่มีกองทหารเลยสักกอง อาหารของแคว้นเป่ยจิ้นไม่เพียงพอ ไม่มีทางจะทำสงครามในฤดูหนาวได้ เสบียงอาหารของทหารไม่พอ""พวกเขารวมกำลังพลเพื่อกดดันแคว้นเกาอวิ๋น หลังจากนี้อีก 1 เดือนทั้งสองแคว้นจะเจรจาเป็นพันธมิตรกัน แคว้นเป่ยจิ้นบางทีอาจจะเสนอข้อเรียกร้องอันล้ำเส้นออกมา แต่ว่าเป็นข้อเรียกร้องอะไรนั้น ฮั้วอวิ๋นเทียนก็ไม่รู้"มู่จิ่วซีเอาคำพูดของฮั้วอวิ๋นเทียนบอกกับอัครมหาเสนาบดีไป๋อัครมหาเสนาบดีไป๋และโม่จุนก็มองหน้ากัน"ท่านผู้สำเร็จราชการแทน พอฟังแบบนี้แล้ว มันก็สมเหตุสมผลอยู่บ้าง เจ้าคิดว่าอย่างไรล่ะ?" อัครมหาเสนาบดีไป๋ถามโม่จุนโม่จุนก็เงียบครุ่นคิดไปพักก่อนจะพูดขึ้นมา : "แม้ว่าจะเป็นข่าวดี แต่หากข้อมูลนี้ผิดพลาด นั่นจะเป็นอันตรายร้ายแรงของแคว้นเกาอวิ๋น"มู่จิ่วซีพยักหน้าและกล่าว : "คำพูดนี้ข้าเห็นด้วย แต่ข้าคิดว่าฮั้วอวิ๋นเทียนไม่มีทางให้ข้อมูลข่าวก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-03
  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 308

    โม่จุนและอัครมหาเสนาบดีไป๋ก็มองหน้ากัน ทั้งสองหันไปมองมู่จิ่วซีตอนนี้มู่จิ่วซีได้นั่งลงมา เงียบสนิทและกำลังคิดอะไรอยู่แต่โม่จุนและอัครมหาเสนาบดีไป๋กลับรู้ใจและไม่ได้เอ่ยปากพูดขัดจังหวะความคิดของนางประโยคนี้ของนาง ทำให้รู้ว่านางกำลังจะต้องกาวิธีทำอย่างไรถึงจะทำให้มีเครื่องมือที่ดีพร้อมผ่านไปสักพักมู่จิ่วซีก็เงยหน้าขึ้นมาและกล่าว : "ตอนนี้อาวุธของทหารในสนามรบคืออะไร?""ดาบกระบี่ หอก เกราะ ธนูหน้่ไม้และเครื่องยิงหิน พวกขวดน้ำมันเพลิง..." โม่จุนรีบพูดขึ้นมา "โดยพื้นฐานแล้วคือศาสตร์การใช้กำลังพลที่มากกว่าและรูปแบบทัพ แต่ถ้าหากจำนวนคนในทัพแตกต่างมากเกินไป ก็แทบจะไม่มีทางชนะได้เลย"มู่จิ่วซีก็กล่าวอย่างตกใจ : "ไม่มีปืนใหญ่หรอ?""ปืนใหญ่? อะไรคือปืนใหญ่?" โม่จุนกล่าวอย่างตกใจ"ปืนใหญ่ ก็คืออาวุธซึ่งมีอำนาจทำลายล้างมากกว่าขวดน้ำมันเพลิง ระยะก็สามารถยิงได้ไกลกว่ามาก ปืนใหญ่แค่ 1 กระสุน ส่งผลกระทบเป็นรัศมีได้หลาย 10 เมตร" มู่จิ่วซีก็กล่าวอย่างคนหัวโบราณโม่จุนก็ตกใจ อัครมหาเสนาบดีไป๋ก็ถลึงตาโตพร้อมกับพูด : "มีอาวุธแบบนี้ด้วยงั้นเหรอ?"มุมปากของมู่จิ่วซีก็กระตุกขึ้นมา ไม่คาดคิดว่ายุค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-04
  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 309

    กรมพระราชวังนครบาลส่งมา 4 คนเพื่อรับจ้วงชิงเหมย พอรวมกับคนองครักษ์ของจวนอัครมหาเสนาบดีอีก 4 คนก็มีทั้งหมด 8 คนคอยคุ้มกันรถม้าแต่ก่อนจะออกไป มู่จิ่วซีก็ยัดก้อนผ้าเข้าไปในปากของจ้วงชิงเหมย จากนั้นก็ลากนางเข้ามาในรถม้าเล็กๆ ของตนเองในความมืด มู่จิ่วซีได้สั่งให้จี๋เฟิงพากลุ่มของทหารมังกรดำคอยดักเส้นตามเส้นทางสำคัญที่ผ่านไปตลอดทางส่วนนางเอง จ้วงชิงเหมยและเย่ฮานทั้งสามคนก็นั่งอยู่ในรถม้าธรรมดา และให้คนขับรถม้าธรรมดาขับออกไป พร้อมกับให้ขับตามหลังรถม้าซึ่งไม่ได้มีจ้วงชิงเหมยอยู่ด้านใน แต่กลับเป็นทหารมังกรดำคนหนึ่งแทนเพราะกรมพระราชวังนครบาลออกจากจวนอัครมหาเสนาบดีมาได้สักระยะ จะต้องผ่านเส้นทางขนาดใหญ่ไม่น้อย อีกทั้งยังต้องผ่านศูนย์กลางการค้า ผู้คนก็มีจำนวนไม่น้อย ดังนั้นความเร็วการเคลื่อนที่จึงค่อยๆ ช้าลงมู่จิ่วซีหลับตาพักสมองมาตลอดทาง ส่วนเย่ฮานกลับกังวลอย่างมาก จ้วงชิงเหมยก็ถูกมัดไพล่หลังรั้งคอพร้อมกับอุดปากเอาไว้ นางถลึงตามองมู่จิ่วซีอย่างโกรธแค้นหากสายตานั้นฆ่าคนได้ มู่จิ่วซีคงถูกฆ่านับครั้งไม่ถ้วนไปแล้ว"คุณหนูใหญ่ จะมีคนมาช่วยจ้วงชิงเหมยจริงๆ งั้นเหรอขอรับ?" เย่ฮานรู้สึกว่ามัน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-04
  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 310

    หวางชิวได้ตัดแส้ของนางจนขาด แต่เนื่องจากระยะที่ใกล้กันเกินไป เขาเลยถูกกรีดที่ไหล่ เขาตีลังกาหลบกลับหลังไปแล้ว แต่กริชชิงหลงช่างคมเกินไป ดังนั้นเลยทำให้เขาบาดเจ็บนั่นเลยทำให้เขาหวาดกลัวในใจ แต่มู่จิ่วซีก็ไม่ได้ให้เวลาเขาได้คิด นางได้กระโจนเข้ามาหาอีกครั้งแล้วกริชและดาบสั้นก็ปะทะเข้าด้วยกัน จากนั้นหวางชิวก็ต้องคร่ำครวญอีกครั้ง เพราะดาบสั้นของเขาถูกกริชชิงหลงฟันจนแตกหวางชิวก็เอาดาบสั้นอีกครึ่งหนึ่งแมงไปที่มู่จิ่วซีมู่จิ่วซีไม่ได้ถอยกลับ นางเพียงแค่เอี้ยวหัวหลบ ส่วนหวางชิวก็คิดจะอาศัยจังหวะนี้หลบหนี แต่ไม่คาดคิดว่าความเร็วของมู่จิ่วซีจะยังเร็วกว่าเขาความรู้สึกอันตรายเบื้องหลังทำให้หวางชิวแทบจะต้องเรียกสติกลับมา เขาใช้กำลังภายในทั้งหมดชกเข้าหามู่จิ่วซีมู่จิ่วซีได้โยกย้ายกำลังภายในของเฟิงเหยียนหยูเฟยมาทั้งหมด แต่นางก็ยังรู้สึกถึงแรงกดดันของหมัดที่พุ่งเข้ามา ทำให้นางยากที่รุกคืบหน้า กริชชิงหลงเลยถูกยกขึ้นเพื่อพยายามจะกรีดแทงหมัดนั้นที่กำลังพุ่งเข้ามาแต่หวางชิวก็ได้รู้ถึงความคมของกริชชิงหลงนั้นแล้ว เขาจะกล้าไปแตะต้องซะที่ไหน เขากลับหดหมัดนั้นกลับไป ขาของเขาก็ลอยเตะเข้ามาแทนไปยังต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-05

บทล่าสุด

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 507

    ฮั้วอวิ๋นเทียนหันมองจื่ออวิ๋นเฟยด้วยแววตาปวดร้าว เขากล่าวอย่างเสียใจ : "ทำไมเป็นแบบนี้? เป็นฝีมืออาจื่อใช่ไหม?"จื่ออวิ๋นเฟยพาเขามานั่งข้างนอกและถอนใจสารภาพ : "อาจื่อสวมหน้ากากหนังมนุษย์ปลอมตัวเป็นหญิงอุ้มท้อง มู่จิ่วซีเจตนาดีช่วยหญิงอุ้มท้องจนถูกอาจื่อทำร้ายในระยะประชิด แผลที่เอวบาดเจ็บสาหัส แต่โชคดีที่นางทานยาเทพสถิตย์ทันที"แม้จื่ออวิ๋นเฟยจะเสียยายาเทพสถิตย์ไปสองเม็ดจนเขาอยากจะสบถ แต่พอรู้ว่ามู่จิ่วซีไม่เป็นอะไร เขาก็รู้สึกว่ามันคุ้มที่จะเสีย หากมู่จิ่วซีเป็นอะไรไป เขาคงจะเสียใจมากกว่าไม่ง่ายที่ในชีวิตนี้เขาจะมีเพื่อนสนิทไว้พูดคุย ได้เป็นศิษย์น้องของเขาร่วมกันค้นคว้าวิจัย เขาไม่อยากเสียนางไปจริงๆมีแค่นางสามารถปรุงยาเทพสถิตย์ฮั้วอวิ๋นเทียนตัวสั่นยิ้มเจื่อน : "ตอนนั้นเพื่อจะปกป้องอาจื่อ ข้าเลยขอยาเทพสถิตย์และหน้ากากหนังมนุษย์ให้นาง แต่กลับถูกเอามาใช้เล่นงานจิ่วซี จิ่วซีพูดถูกแล้ว ข้ามันไม่ทันสังเกต"ชิงเฟิงตายไปแล้ว มู่จิ่วซีคงทำใจไม่ได้ในทันที วิธีเดียวที่จะคลายปมแค้นในใจนางคือต้องจับอาจื่อ เจ้ารู้ไส้อาจื่อเป็นอย่างดี เจ้าพอจะช่วยนางได้ไหม?" จื่ออวิ๋นเฟยถามฮั้วอวิ๋นเทียนกล

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 506

    จื่ออวิ๋นเฟยใช้เวลากว่า 1 ชั่วยามซับเหงื่อมู่จิ่วซี เขาถอนหายใจมองใบหน้าซีดเซียวของนางผู้หญิงคนนี้ทำเวรทำกรรมอะไรมา แผลตรงอกไม่ทันหาย ตรงเอวก็มาเป็นต่อ แค่มองก็รู้ว่าถูกแทงระยะประชิดมู่จิ่วซีได้สติในเช้าวันรุ่งขึ้น นางตะโกนเสียงดัง : "ชิงเฟิง ! ชิงเฟิง?"ลู่เอ๋อร์กล่าวร้องห่มร้องไห้ : "คุณหนู ท่านอย่าเพิ่งขยับตัว ชิงเฟิงจากไปแล้วเจ้าค่ะ"มู่จิ่วซีกำผ้าห่มแน่น ในหัวยังคงเห็นภาพที่เกิดขึ้นเมื่อวานทั้งหมดชิงเฟิงตายเพราะช่วยนาง คนลงมือสังหารไม่ใช่อาจื่อ แต่เป็นมือธนูที่เชี่ยวชาญอีกคนต้องโทษนางที่มองแผนการปลอมเป็นหญิงตั้งครรภ์ไม่ออก ตอนนั้นเหตุการณ์โกลาหล ผู้คนวิ่งเตลิดร้องขอความช่วยเหลือนางช่วยหญิงตั้งภรรค์คนนั้นไว้เพราะอยากให้ต้องตายทั้งกลม ไม่คาดคิดว่าอาจื่อจะใช้ประโยชน์จากความใจอ่อนย้อนมาทำร้ายนางเองผู้หญิงคนนี้ฉลาด โหดร้ายชั่วช้า"ฉินหลานจื่อ! ข้าขอสาบาน ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อหาเจ้าให้เจอ ข้าจะเลาะเนื้อเฉือนกระดูกเจ้าเพื่อแก้แค้นให้ชิงเฟิง!" มู่จิ่วซี"คุณหนูใหญ่ ท่านใจเย็นก่อน! เดี๋ยวแผลฉีก!" จื่ออวิ๋นเฟยเดินเข้ามาเห็นคราบเลือดบนเตียงขณะมู่จิ่วซีหุนหันเคียดแค้นโม่จุนเด

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 505

    มู่จิ่วซีหันไปมอง เห็นธนูเพลิงดอกหนึ่งพุ่งไปยังหญิงสาวด้านหลังคนนั้นอีกทั้งนางเป็นหญิงท้องตั้งครรภ์มู่จิ่วซีไม่มีเวลาให้คิดมาก นางพุ่งตัวเข้าไปหาจากบนม้า กริชเล็งเควี้ยงออกไปยังธนูดอกนั้น ส่วนนางก็กระโจนคว้าหญิงตั้งครรภ์เอาไว้"คุณหนูใหญ่!" ชิงเฟิงตะโกนลั่นตามเข้ามาร่างกายของมู่จิ่วซีกระโจนไปหาหญิงตั้งครรภ์ ขณะมือของนางกำลังจะคว้าหญิงตั้งครรภ์คนนั้น นางกลับขนลุกชันขึ้นมาทั้งตัว นางจึงเอี้ยวตัวไปด้านข้าง"ฉวก!" กริชเล่มหนึ่งปักลงตรงเอวด้านซ้ายของนางมีดบินในมือของมู่จิ่วซีเล็งปาดไปที่คอของผู้หญิงตรงหน้าอย่างแรงนางเห็นใบหน้าของหญิงสาวคนนั้นชัดเจน เป็นสาวชาวบ้านธรรมดาๆ ทว่าตรงจมูกระหว่างตามีไฝสีดำเม็ดเล็กอาจื่อ! คาดไม่ถึงว่านางจะปลอมเป็นคนท้องเพียงเพื่อจะสังหารมู่จิ่วซี"มู่จิ่วซี เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า!" เสียงของอาจื่อแฝงไปด้วยความเย็นเยือกสุดขั้วพร้อมกับเบี่ยงศีรษะไปด้านหลัง หลบเลี่ยงคอ ทว่ามีดบินก็ยังกรีดเข้าที่หน้า บาดหน้ากากหนังมนุษย์จนเป็นรอย เลือดสดไหลซึมออกมาดวงตาของมู่จิ่วซีทั้งสองข้างคือความโกรธแค้น มีดบินปรากฎขึ้นในมืออีกครั้ง อาจื่อกลิ้งหลบไปด้านหลังสองตลบแล

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 504

    "แน่นอนอยู่แล้ว เซวียนหยวนเชาเมื่อก่อนคิดอยากจะช่วยหวางชิว หวางชิวไม่ใช่คนในราชวงศ์ แล้วเขาเป็นใครกันแน่? เขาถึงได้ไม่ไหว้หน้าเซวียนหยวนห้าว?" มู่จิ่วซียิ้มกล่าวโจวเหยาส่ายหัวและกล่าว : "หวางชิวแทรกซึมเข้าในแคว้นเกาอวิ๋น 20 กว่าปีแล้ว คงมีน้อยคนมากที่จะรู้ตัวตนแท้จริงของเขาในแคว้นเป่ยจิ้น"มู่จิ่วซีพยักหน้าพูด : "ดูเหมือนเซวียนหยวนห้าวใกล้จะมาแล้ว ในเมื่อหวางชิวสำคัญขนาดนั้น คราวนี้แคว้นเป่ยจิ้นคงต้องได้สังเวยเลือดครั้งใหญ่""คุณหนูใหญ่ เราจะต้องปล่อยหวางชิวไปในตอนสุดท้ายใช่ไหม?" โจวเหยาร้อนรนกล่าว "ถ้าต้องปล่อยเขาไป แบบนั้นเป็นการปล่อยเสือกลับภูเขาชัดๆ""เจ้าคิดว่าข้าใจดีขนาดนั้น?" ดวงตาทั้งสองข้างของมู่จิ่วซีมองโจวเหยาโจวเหยาตกตะลึง จากนั้นก็หัวเราะเสียงดังกล่าวออกมา : "งั้นข้าก็สบายใจได้แล้ว เขารู้ความลับของแคว้นเกาอวิ๋นมากเกินไป ถ้าต้องปล่อยเขากลับแคว้นเป่ยจิ้น ถือว่าไม่เป็นประโยชน์ต่อพวกเรา""วางใจเถอะ ต่อให้ปล่อยเขาออกกรมพระราชวังนครบาลไป ก็คงกลับไม่ถึงแคว้นเป่ยจิ้น เรื่องนี้ข้ากับโม่จุนได้ปรึกษากันแล้ว อนุญาตให้เซวียนหยวนเชามกุฎราชกุมารพิการคนนี้กลับไปได้เท่านั้น" มุมปาก

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 503

    มู่จิ่วซีกล่าวอย่างยิ้มมีเสน่ห์ : "ถึงอย่างไรเจ้าก็ห้ามทำไม่ดีกับข้า ไม่งั้นหลังจากนี้ข้าจะคิดบัญชีกับเจ้า อ่อใช่ เจ้าเคยคิดถึงกิจการในห้าแคว้นอื่นของท่านอ๋องสี่ไหม? ร่วมมือกับท่านพี่ฮั้วไหม?"มู่จิ่วซีเคยพูดถึงแผนการของฮั้วอวิ๋นเทียนให้โม่จุนฟัง"ฮั้วอวิ๋นเทียนคนนี้มันเจ้าเล่ห์ ต่อให้ข้าไม่ร่วมมือ เข้าก็ยังได้ทราบข้อมูลข่าวกรองก่อนใคร ลงมือก่อนใคร ข้าเองได้แต่เป็นฝ่ายถูกกระทำ ในเมื่อเขาเสนอมาว่าจะให้แบ่งให้เจ้าครึ่งหนึ่ง ข้าก็ตกลง เจ้าสมควรได้รับไว้"มู่จิ่วซีทันใดนั้นก็คลายกังวลและยิ้มกล่าว : "แล้วทางพระพันปีหลวงล่ะ?""อีกห้าแคว้นยังมีตำหนัก ไม่ได้ประกอบธุรกิจ ยังมีโฉนดอยู่ บางส่วนมอบคืนให้ราชวงศ์ ส่วนกิจการอื่นที่เกี่ยวข้องกับพระพันปีหลวงก็คงจะรู้ว่าไม่อาจเอากลับมาได้ ทั้ง 5 แคว้นแย่งไปจนเกลี้ยงแล้ว"โม่จุนกล่าวต่อ "ต่อให้ทหารมังกรดำของข้าอยู่ใน 5 แคว้น ก็ไม่อาจเอากลับมาได้ แบบนั้นจะเป็นหารเปิดเผยตัวตนพวกเขา ดังนั้นแผนการของฮั้วอวิ๋นเทียนจึงถูกใจข้าพอดี ข้าเดิมทีก็อยากจะร่วมมือกับเขา ในเมื่อเขามาหาเองถึงที่ งั้นทางเราก็จะไว้หน้าเขา""เจ้าเองก็จิ้งจอกเฒ่า" มู่จิ่วซีมองเขาซึ่งวา

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 502

    "ที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด ดูเหมือนว่าเราจะเดาผิด" มู่จิ่วซีกล่าว "แผลจะได้ไม่ต้องปริ"มู่จิ่วซีกุมอก"หากเป็นที่ลับตา ยังมีอีกที่หนึ่ง" โม่จุนหันมองมู่จิ่วซี"จวนท่านอ๋องสาม?" มู่จิ่วซีเลิกคิ้ว"ใช่ เขาหนีออกไปได้แล้ว ใครจะคิดว่าเขาจะกลับมา?" โม่จุนรีบกลับเลี้ยวม้าออกไปนอกวังด้านหลังตามขบวนมายาวเป็นหางว่าว เย่ฮาน ชิงเฟิงและทหารมังกรดำตามมาติดๆจนเมื่อมาถึงจวนอ๋องสาม เดิมทีควรจะเงียบสงัด ทว่ากลับได้ยินเสียงร้องไห้จากด้านในหลังจากโม่จุนอุ้มมู่จิ่วซีลงจากม้าก็กระโดดข้ามกำแพงเรือนเข้าไป ไม่ได้เข้ามาทางประตูใหญ่พอถึงพื้นก็ได้กลิ่นคาวเลือดคลุ้ง ทั้งสองสีหน้าเปลี่ยนไปมาก"ท่านผู้สำเร็จราชการแทน ช่วยด้วย!" บ่าวรับใช้รีบตะโกนเรียกเมื่อเห็นโม่จุนและมู่จิ่วซีโม่จุนเห็นบ่าวรับใช้นอนจมกองเลือดเลยรีบเข้าไปถาม : "ที่นี่เกิดอะไรขึ้น?""พระชายา พระชายาถูกลักพาตัวไปแล้วเจ้าค่ะ องค์หญิงสือบาดเจ็บ..." บ่าวรับใช้ชี้นิ้วไปด้านในโม่จุนรีบเรียกคนด้านหลังให้มาช่วยปฐมพยาบาล ส่วนเขาเองกับมู่จิ่วซีรีบเข้าไปด้านใน ตามทางมีองครักษ์มากมายถูกฆ่า ทั้งสองสีหน้าแย่มากกว่าเก่าหลังจากท่าน

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 501

    เย่อู่เหิงรีบวิ่งออกไป มู่จิ่วซีสีหน้าเปลี่ยน หลังจากเดินไปมาหลายรอบก็กัดฟัน เปลี่ยนเป็นชุดจิ้นจวงและเดินออกมา"คุณหนู ท่านจะไปไหน?" ลู่เอ๋อร์เข้ามาจากด้านนอกเห็นมู่จิ่วซีเปลี่ยนเสื้อผ้าออกไป นางตกใจสะดุ้งจนตะโกนร้องเรียก"ข้ามีธุระ เย่ฮาน ชิงเฟิง!" มู่จิ่วซีตะโกนเรียกจื่ออวิ๋นเฟยที่กำลังงุ่นง่านกับศาสตร์ศัลยกรรมตกแต่งได้ยินเสียงของมู่จิ่วซี ก็รีบวิ่งออกมา"คุณหนูใหญ่ เจ้า ท่านจะออกไปข้างนอกรึ?" เย่ฮานกล่าวอย่างตกใจ"มู่จิ่วซี ไม่รักชีวิตตัวเองเลยรึไง แผลยังไม่ทันหายยังจะออกไปอีก?" จื่ออวิ๋นเฟยเองก็ตกใจ"ข้าต้องเข้าไปในวัง ไปเตรียมม้า!" มู่จิ่วซีรีบวิ่งออกไป"เห้ยๆๆ เจ้าระมัดระวังด้วย อย่าบุ่มบ่ามจนแผลฉีกล่ะ" จื่ออวิ๋นเฟยตะโกนจากด้านหลัง"เอายามาให้ข้าเม็ดหนึ่ง! กันไว้ก่อน" มู่จิ่วซีันควับกลับมาและยืนมือไปทางจื่ออวิ๋นเฟย "กลับมาแล้วข้าจะปรุงยาเอามาคืนเจ้า"จื่ออวิ๋นเฟยเบือนหน้าหนีเดินถอยออกไป มู่จิ่วซีเบ้ปากกล่าว : "ขี้งก"พูดจบก็รีบเดินไปทางประตูจื่ออวิ๋นเฟยหยุดฝีเท้าลงและพูดขึ้นมากะทันหัน : "เอาไป!"มู่จิ่วซีหันกลับมา เห็นเพียงขวดยาที่ถูกโยนมาให้"ในนั้นเหลือแค่ 2 เม็ด

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 500

    "เจ้าไปวาดใบหน้าของหน้ากากหนังมนุษย์ของอาจื่อออกมาก่อน" มู่จิ่วซีกล่าว"เออ ข้า ข้าก็จำไม่ค่อยได้แล้ว เป็นผู้หญิงธรรมดามากๆ ไม่สะดุดตาเลย ข้าตอนนั้นกำลังเพิ่งเริ่มศึกษาค้นคว้า เลยทำหน้ากากออกมาแค่ผืนเดียว ถ้าของมันดี ข้าคงอดไม่ได้ที่จะต้องยกให้คนอื่นใช่ไหมล่ะ?" จื่ออวิ๋นเฟยทำสีหน้าโศกเศร้า"ไม่มีเอกลักษณ์อะไรเลยงั้นเหรอ? ถ้าเจ้าเห็นกับตาจะจำได้ไหม?" มู่จิ่วซีสูดหายใจเข้า"เอกลักษณ์? มีสิ ตรงจมูกหว่างตามีไฝสีดำเม็ดหนึ่ง มีแค่จุดนั้น เพราะว่าเป็นไฝเลยไม่มีวิธีจะเอาออก อาจื่อตอนนั้นยังบอกว่าอัปลักษณ์"มู่จิ่วซีก็ถอยหายใจได้ในที่สุด ขอเพียงมีเอกลักษณ์จุดสังเกต อย่างน้อยให้นางครั้งหน้าเห็นและจำได้ อีกอย่างอาจื่อคงจะต้องคิดหาวิธีมาฆ่านางแน่นอน"อายุล่ะ ภายนอกอายุประมาณเท่าไหร่?" มู่จิ่วซีถาม"ประมาณระหว่าง 20-30 ปี" จื่ออวิ๋นเฟยกล่าว "สีผิวดูคล้ำกว่าเจ้าเล็กน้อย ไม่ใช่คุณหนูประเภทนั้น คล้ายกับบ่าวรับใช้"มู่จิ่วซีพยักหน้า เข้าใจแล้ว"งั้นก็ดี ตอนนี้ข้าจะสอนศาสตร์ศัลยกรรมตกแต่งให้เจ้า" มู่จิ่วซีจิตใจวิตกกังวล แต่ก็ทำได้เพียงสงบใจและรอฟังข่าวเท่านั้นตกกลางคืน เย่อู่เหิงได้มาเยี่ยม คน

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 499

    จื่ออวิ๋นเฟยกล่าวอย่างระแวง : "เจ้า เจ้าอย่ามองข้าแบบนั้น อาจื่อไม่ใช่ว่ามีโรคหัวใจแต่กำเนิดรึไง? มอบยาให้นางไปก็เพื่อใช้ปกป้องชีวิตของนาง""เจ้าไม่ใช่ว่าเห็นนางขัดหูขัดตาหรือไง?" มู่จิ่วซีกล่าวอย่างโมโห"เออ คือ คือข้าได้แลกเปลี่ยนกับฮั้วอวิ๋นเทียน ว่าให้ข้าสามารถรับสวัสดิการที่ดีที่สุดในหอดาราจันทราทั้ง 6 แคว้นได้ ได้รับการปกป้องจากหอดาราจันทราทั้ง 6 แคว้น" จื่ออวิ๋นเฟยสำนักผิดมู่จิ่วซีหมดคำจะพูด"ท่านอ๋องสามตอนนั้นได้ก่อกบฎ ถูกโม่จุนหักขาไปข้าง ทว่าวันนี้ขาของข้ากลับมาเดินบนพื้นได้อีก แค่อาจไม่ค่อยคล่องแคล่ว คงได้ทานยาเทพสถิตย์ไปแล้วแน่" มู่จิ่วซีกล่าวอย่างมั่นใจ "นอกเสียจากมียารักษาสุดยอดยิ่งกว่ายาเทพสถิตย์"จื่ออวิ๋นเฟยอ้าปากกว้าง จากนั้นก็กล่าวอย่างอักอ่วน : "งั้น งั้นก็คงจะเป็นยาเทพสถิตย์แล้วล่ะ""จะให้พวกเขาหนีออกไปจากแคว้นเกาอวิ๋นไม่ได้เด็ดขาด ไม่งั้นไอระยำสองตัวนั้นคงทำให้พวกเราไม่อาจอยู่อย่างสงบได้แน่นอน" มู่จิ่วซีกำหมัดจนแน่น แววตาเต็มไปด้วยจิตสังหารจื่ออวิ๋นเฟยส่งเสียงไอ เขาถึงกับหัวหด"เจ้ายังมีอะไรปิดบังข้าอีก?" มู่จิ่วซีรู้สึกว่าจื่ออวิ๋นเฟยแปลกออกไป"หะ! ไม่

DMCA.com Protection Status