ฉันโดนบังคับให้ส่งคีย์การ์ดคอนโดให้ลูกน้องมาเฟียและป้าแม่บ้านคนหนึ่งชื่อป้าแจ่ม เพื่อไปขนย้ายข้าวของของฉันมาที่เพนต์เฮ้าส์นี้ แม้กระทั้งคอนโดฉันก็ไม่มีสิทธิ์กลับไปเก็บของใช้ด้วยตัวเอง ทั้งหนังสือเรียนต่างๆ เขาบอกจะเก็บมาให้ทั้งหมดและจะเก็บเสื้อผ้าบางส่วนมาให้ ขาดเหลืออะไร ให้ซื้อเพิ่มได้ตามใจ โดยที่ฉันได้รับแบล็คการ์ดมาใช้แบบงงๆ ตกลงว่าฉันเป็นตัวประกันแบบใดถึงได้แบล็คการ์ดมาอยู่ในมือ มันก็น่าแปลก แต่ฉันไม่มีเวลามานั่งสงสัยเรื่องเล็กๆ พวกนี้หรอก ที่คิดตอนนี้คือเมื่อไหร่จะหลุดพ้น และฉันก็ถอนหายใจหนักๆ รอบที่ล้านได้แล้วมั้งวันนี้อ่ะ
“คุณ…. คุณจะให้ฉันนอนห้องไหนคะ” ยาหยี
“ห้องข้างๆฉัน” วิลล์
“เดี๋ยวก่อนนะคะ ไม่ได้ให้ฉันนอนห้องรับแขกชั้นหนึ่งเหรอคะ” ฉันไม่อยากนอนห้องติดกันกับเขา ความรู้สึกส่วนลึกของฉันมันบอกว่าไม่ควรไว้ใจ
“หรือจะนอนห้องเดียวกับฉันล่ะ ได้นะ ฉันไม่ติด ฉันนอนบนเตียง ส่วนเธอ นอนที่พื้น”
(-_-) … กวนประสาทชะมัด
… ฉันไม่สนอะไรแล้ว เหนื่อยสุดๆ อยากพัก เดินไปห้องนอนห้องข้างๆ ตามที่เขาบอก ทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่ม กำลังจะเผลอหลับก็มีเสียงเคาะประตู
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“คุณหนูยาหยีคะ ป้าแจ่มเองค่ะ”
“ค่ะป้าแจ่ม”
“ป้าจะขออนุญาต จัดของเก็บใช้และเสื้อผ้าเข้าตู้ให้คุณหนูค่ะ”
“เดี๋ยวหยีจัดการเองดีกว่านะคะ แล้วก็เรียกหยีเฉยๆ ก็ได้ค่ะป้าแจ่ม หยีไม่ใช่คุณหนูของที่นี่สักหน่อย”
“หน้าที่ของป้า ป้าต้องเรียกแบบนี้ค่ะ คุณหนูไปอาบน้ำนะคะ ป้าจัดของแป๊บเดียว ไม่รบกวนนานค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นก็ได้ค่ะ ขอบคุณป้าแจ่มมากๆ นะคะ”
20 นาทีผ่านไปหลังจากอาบน้ำเสร็จ
จ่อกกกก หื้มมมม จะหิวประท้วงอะไรตอนนี้เนี้ย จะเที่ยงคืนแล้ว ลงไปข้างล่างตอนนี้จะมีอะไรให้ทานบ้างนะ ว่าแล้วก็เปิดประตู แล้วเดินย่องเบาไปที่ครัวทันที
ในขณะที่ผมนั่งมองกล้องวงจรปิดในห้องนอนของใครบางคนอย่างใจจดใจจ่อ จะเดินไปไหนนะนั่น ดูสิ เดินย่องเป็นแมวขโมยเชียว เมื่อเห็นว่าที่เมียเด็กเดินไปข้างล่างมุ่งตรงไปที่ห้องครัว…
“หึ เด็กวัยกำลังโตสินะ ถึงได้หิวเก่งขนาดนี้”
ด้านยาหยีที่เปิดตู้เย็นก็เจอแต่เบียร์และน้ำเปล่า ยืนลูบท้องตัวเองป้อยๆ อย่างน่าสงสาร
“ฮือๆ หิวข้าว จะกินเบียร์แทนข้าวก็ไม่ไหวมั้ง อดทนนะ พรุ่งนี้เช้าค่อยกิน” พึมพำกับตัวเองเบาๆ ก่อนที่จะหันหลังเดินออกจากห้องครัวไป
“ว๊าย กรี๊ดดดดดด”
… “คะ คุณ เฮ้อ ตกใจหมดเลย”
“มาขโมยอะไร”
ฉันเม้มปากเป็นเส้นตรง “เปล่าค่ะ หยีหิว ก็เลยลงมาหาอะไรทาน”
ปกติเวลาพูด เธอมักพูดแทนชื่อตัวเอง ก่อนหน้านี้ไม่ชินกับพวกเขา ก็เลยแทนตัวเองว่าฉัน ตอนนี้เป็นตัวของตัวเองแล้ว และเริ่มปรับตัวเองให้เข้ากับสถานการณ์ตรงหน้าได้บ้าง เลยแทนชื่อตัวเองออกมา เพื่อจะได้ไม่เกร็งเกินไป
“ขอตัวก่อนนะคะ”
“อยากทานอะไร”
“หยีเลือกได้เหรอคะ” ถามด้วยความดีใจและยิ้มหวานออกมา ทำเอาคนฟังใจสั่นไม่น้อย
“อืม”
“โจ๊กหมูร้อนๆ รอบดึกก็น่าสนใจดีนะคะ เอาพิเศษหมู พิเศษตับ ใส่ไข่ลวก และไม่ใส่ขะ ……”
“พอ ไปเปลี่ยนชุด”
“คุณจะพาหยีไปซื้อเหรอคะ”
“รีบ ให้เวลาเปลี่ยนชุด 10 นาที”
“อ๋อ อะ เอ่อ รอแป๊บนะคะ” พูดจบแล้วก็วิ่งแจ้นไปเลย
“หึ จะดีใจอะไรขนาดนั้น” ที่ผมต้องบอกให้ไปเปลี่ยนชุดก็เพราะว่า ชุดนอนเธอตอนนี้มันน่าขย้ำมากกว่าการทานข้าวน่ะสิ ดีนะ ที่มีชุดคลุมใส่ทับมาอีกที ไม่งั้นละก็… เฮ้อ
“เสร็จแล้วค่ะ ไปกันเล้ยยยย”
มันหนึบหนับหัวใจ อะไรจะน่ารักขนาดนี้ แล้วนี่ ไม่กลัวเลยรึไง มาเฟียนะนิ่ มาเฟียที่โหดๆ อ่ะ
@ร้านโจ๊กรอบดึกร้านหนึ่ง
ตั้งแต่ก้าวเท้าลงจากรถสปอร์ตคันหรู ความหล่อเหลาก็เรียกสายตาผู้หญิงแถวนั้นได้เป็นอย่างดี ส่วนยาหยีก็ไม่น้อยหน้า บรรดาหนุ่มๆ มองตาเป็นมัน แต่ก็ต้องรีบหันกลับทันทีเพราะสายตาคมดุของมาเฟียที่จ้องมองอย่างเอาเรื่อง
“อยากกินอะไรก็สั่ง”
“ทานที่ร้านได้เหรอคะ”
“อืม”
“คุณจะทานด้วยกันมั้ย”
มาเฟียหนุ่มพยักหน้าเป็นการตอบกลับ เพราะรู้สึกหิวเหมือนกัน
“พี่คะ เอาโจ๊กหมู พิเศษหมู พิเศษตับ ใส่ไข่ลวก และไม่ใส่ขิง 2 ที่ค่ะ แล้วก็ เอาผัดผักบุ้งไฟแดง เอาผัดกวางตุ้งใส่หมูกรอบ เอาผัดแบบน้ำฉ่ำๆ ใส่น้ำมันหอยเยอะๆ เลยนะคะ แล้วก็น้ำเปล่าสองที่ค่ะ
ยาหยีสั่งอาหารรัวๆ โดยไม่ได้ถามมาเฟียหนุ่มเลยว่าอยากทานอะไรเป็นพิเศษไหม ก็นะ ไม่ถามหรอก เดี๋ยวก็จะตอบกลับมาว่า อยากสั่งอะไรก็สั่ง ทั้งที่ความจริง วิลล์ไม่ชอบทานตับหมูเลย แต่ถ้าตับๆ กับเธอก็พอได้
“พรุ่งนี้จะมีคนของฉันมาดูแลเธอเพิ่มอีกคน”
“เรียกว่ามาช่วยจับผิดดีกว่าค่ะ”
“...” วิลล์ยักไหล่เบาๆ ด้วยท่าทางกวนๆครืดดดด LINE CALLING – N.TY กำลังโทรเข้า…
“ขอรับโทรศัพท์แป๊บนึงนะคะ” งงตัวเองจะขอเขาทำไมเนี้ย นี่มันโทรศัพท์ของฉันเองนี่
(ฉันให้แกออกจากผับตั้งแต่สามทุ่มครึ่ง จนตอนนี้เที่ยงคืนกว่า ถึงคอนโดหรือยัง ฉันรอแกจนง่วงแล้วเนี่ยยาหยี)
“อ้อ อืม ถึงนานแล้ว ลืมบอกน่ะ กลับมาก็รีบอาบน้ำเลย”
(แล้วนี่แกอยู่ไหน เสียงเหมือนไม่ได้คอนโดอยู่เลย)
“หิวน่ะสิ ออกมาหาอะไรกิน”
(หิวก็กินข้าวนะจ๊ะ อย่าริอ่านกินผู้ชาย)
“ยัยนัตตี้ พูดบ้าอะไรของแก” สิ้นประโยคนี้ของนัตตี้ ฉันตกใจจนรีบมองหน้าคนที่นั่งตรงข้าม ฉันแอบเห็นแววตาไม่พอใจอยู่ในนั้น หรือฉันคิดมากไปเอง แต่ก็คงไม่มีอะไรหรอก
ว่าแต่เขาได้ยินด้วยเหรอ...
(แหมๆ แซวนิดแซวหน่อย ทำเป็นโมโหกลบเกลื่อนน๊า)
“พอๆ หยุดหอนจ้ะ แล้วกลับไปกินอาหารเม็ดซะ ฉันวางสายแล้วนะ”
(เดี๋ยวก่อน พรุ่งนี้ไปไหนไหมจะชวนไปเดินห้าง)
“โนว ฉันไม่ไปไหนกับแกแล้วทั้งนั้น เทจนฉันได้เรื่องเนี้ย”
(ว่ายังไงนะ)
“เปล่าๆ ไม่มีไร แค่นี้แหละ”
(จ้าาาาา เชิญคุณหนูยาหยีตามสบายค่ะ แต่ถ้าเปลี่ยนใจก็กริ๊งกร๊างมานะ)
“ไม่เปลี่ยนใจ แค่นี้นะ”.
.
“อาหารที่สั่งได้แล้วค่ะ”
และแล้วอาหารก็มาเสิร์ฟ ฉันมองอาหารตรงหน้าด้วยแววตาเป็นประกาย ปรุงด้วยพริกป่นนิดหน่อย เติมแม็กกี้นิดนึง แล้วคนๆ ให้เข้ากัน ไม่ลืมที่จะเจาะไข่ลวกในถ้วยให้แตกเป็นลาวา คำแรกที่ตัดเข้าปากนั้น…
“อื้มมมมม อร่อยจัง”
ในขณะที่ฉันรับประทานอย่างเอร็ดอร่อย ตักหมูกรอบกับกวางตุ้งลงในถ้วย ตักพร้อมโจ๊กแล้วเอาข้าวปาก หื้อออ มันอร่อยแบบเหาะได้เลย และฉัน… ก็มีน้ำใจ ไม่ลืมที่แบ่งปันความอร่อยไปให้คนที่นั่งตรงข้าม ก็เขาเป็นคนพาฉันออกมานี่นา ฉันใช้ช้อนกลางตักหมูกรอบและผักกวางตุ้งพร้อมน้ำมันหอยเยิ้มๆในจาน อร่อยแบบอูมามิ300% วางลงในถ้วยของคนนั่งตรงข้าม
“คุณ ลองทานนี่สิคะ”
ส่วนเขาก็ทานอย่างไม่อิดออด ฉันที่รอลุ้นว่าเขาจะอร่อยเหมือนกับฉันรึป่าว สรุปได้ว่า อร่อย (ละมั้ง)
“อร่อยไหมคะ”
เขาพยักหน้าตอบรับฉันจึงยิ้มกว้างขึ้นกว่าเดิมเพราะถ้าเขาบอกว่าไม่อร่อย ฉันคงเฟลแย่เลย… แต่แล้วอยู่ๆ ตับหมูในถ้วยเขา ก็ลอยมาอยู่ในถ้วยโจ๊กของที่ฉัน
สิ่งที่เขาทำมันคล้ายๆ การกระทำของคนที่เป็นแฟนกันเลย ตักอาหารที่ชอบแบ่งให้กัน ตักจากในชามที่กินแล้วแบบไม่ถือสา และฉันก็ต้องหยุดความคิดไว้เพราะเขาพูดทักขึ้นมา
“กินสิ ฉันเห็นเธอชอบกินตับ”
“แล้วคุณไม่ชอบเหรอคะ”
“ชอบสิ ใครบ้างจะไม่ชอบกินตับ” (ตับ ตับ ตับ น่ะเข้าใจมั้ยยัยว่าที่เมียเด็ก)
ประโยคนี้ ทำไมฉันฟังแล้วแอบเขินนะ เขาก็หมายถึงตับหมูนี่แหละยาหยีเอ้ย“ถ้าชอบ แล้วคุณให้หยีทำไมคะ”
“ก็เธอมันเด็กวัยกำลังโตนี่”ยาหยีขมวดคิ้ว ฉันเนี้ยนะ… เด็กตรงไหน อายุ 20 ปี แล้วต่างหากเถอะ สาววัยสะพรั่งน่ะเข้าใจไหม ไม่ใช่เด็กวัยกำลังโตสักหน่อย ว่าแล้วก็ไม่อยากเสียเวลา รีบทานรีบกลับดีกว่า
หลังจากทานข้าวเสร็จเรียบร้อย ฉันก็เดินไปซื้อชานมไข่มุกร้านข้างๆ มา 1 แก้วก่อนจะเดินขึ้นรถและขับออกไป
ขับรถออกไปได้ไม่นาน ทว่า…บรื้นนนนน ปัง! ปัง! ปัง! ........
“กรี๊ดดดดดดด” เสียงปืนยิงมาจากด้านหลัง“นั่งนิ่งๆ ฉันจัดการเอง” มาเฟียหนุ่ม เปิดเก๊ะหน้าคอนโซลรถสปอร์ตคันหรูเตรียมหยิบปืนขึ้นมาเพื่อยิงสวนกลับไป ถึงแม้ว่ารถจะกันกระสุน แต่การที่เขาทั้งขับรถ ทั้งต้องยิงปืน มันค่อนข้างลำบาก เพราะห่วงคนตัวเล็กที่นั่งข้างๆ ด้วยจึงต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะถ้ามาคนเดียว ป่านนี้เปิดกระจกรถยิงสวนไปแล้ว “คะ คุณ เดี๋ยวฉันขับรถให้ค่ะ”“จอดรถไม่ได้เด็ดขาด ไม่งั้นเราจะเป็นเป้านิ่งให้พวกมัน”“งั้นคุณปรับที่นั่งไปด้านหลังแล้วเลื่อนเบาะถอยหลังออกไปนิดนึงค่ะ“...”“เร็วค่ะ เรามีเวลาไม่มากพอ” วิลล์ทำตามอย่างเร่งรีบ เขาก็อยากรู้เหมือนกันว่ายาหยีจะทำอะไรพรึบ !!! ยาหยีย้ายมานั่งฝั่งคนขับ โดยนั่งซ้อนด้านหน้าวิลล์ในเบาะเดียวกัน กระทำของยาหยีทำให้วิลล์ได้แต่กลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก เด็กสาวกลิ่นตัวหอมๆ มานั่งแนบชิดขนาดนี้ …. ท่านั่งที่ล่อแหลมมากๆ คิดดีไม่ได้จริงๆปัง ปัง !!!!!! เสียงปืนจากฝ่ายตรงข้าม“คุณ นี่คุณช่วยมีสมาธิหน่อยสิคะ รีบเอาขาคุณออกไปจากคันเร่งค่ะ หยีจะขับเอง คุณเตรียมจัดการพวกมันก็พอ” ยาหยีตะคอกมาเฟียหนุ่มอย่างลืมตัว เพราะวิลล์มัวแต่ไม่มีสมาธิ จนเกือบจะเป็นเป
06.00 น.“อื้อออ เช้าแล้วเหรอเนี้ย แต่วันนี้วันหยุดนี่นา” ยาหยีตื่นแล้วลุกขึ้นนั่งบนเตียง บิดขี้กียจเล็กน้อย จากนั้นเดินไปเปิดผ้าม่านที่หน้าต่าง มองลงไปเห็นสวนดอกไม้สีสันน่ารัก แถมมีศาลาและโต๊ะให้นั่งจิบกาแฟและอ่านหนังสือด้วย“ว้าว สวยจัง แบบนี้มันทางเราเลยนี่ รีบอาบน้ำดีกว่าจะได้ลงไปสำรวจสักหน่อย”ใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวสามสิบนาที เมื่อยาหยีเลือกชุดเดรสสายเดี่ยวสีขาวลายดอกเดซี่ ดีเทลน่ารักๆ แบบสาวหวานซ่อนเปรี้ยวชุดยาวถึงข้อเท้า ผ้าพริ้วๆ สบายๆ ที่เข้ากันกับสวนดอกไม้แล้วจึงเดินลงมาด้านล่าง“สวัสดีครับคุณยาหยี ผมแก๊ปค้าบ คุณวิลล์ให้ผมมาดูแลคุณยาหยี หากต้องการอะไรบอกผมได้เลยค้าบ”แก๊ปพูดพลางเกาที่ท้ายทอยเล็กน้อยอย่างคนเขินสาว ไม่คิดว่านายหญิงของเขาจะสวยน่ารักขนาดนี้ แก๊ป เป็นเด็กหนุ่มอายุสิบเก้าปี ฉะนั้นจะยังมีความซุกซนขี้เล่นแบบเด็กผู้ชาย อายุไม่ห่างกันมาก เห็นแบบนี้ยาหยีก็ลดความตึงเครียดไปนิดนึง อย่างน้อยๆ ก็มีคนคุยเล่นได้บ้าง เพราะนอกจากเด็กคนนี้ ที่เหลือ..มีแต่คนหน้าโหดๆ ทำหน้านิ่งๆ กันทั้งนั้น แต่ก็มีแต่คนหน้าตาดีทั้งนั้นเลยนะ ไม่รู้ว่าที่นี้เขาคัดคนที่หน้าตาด้วยหรือเปล่า ถ้านัตตี้
“นี่คุณ คุณไปพูดแบบนี้ได้ไง”“เรียกพี่”“...” “จากนี้ไปให้เรียกพี่ ว่าพี่ อย่าต้องให้บอกเป็นครั้งที่สาม”“แล้ว คะ คุณ เอ่อ พี่วิลล์ ไปพูดแบบนั้นได้ยังไง หยีไม่ได้เป็นอะไรกับพี่สักหน่อย”“ทำไม กลัวเสียหายเหรอ”“ถึงไม่ได้กลัวเสียหาย แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องจริงนี่คะ”“งั้น… ก็ตกลงเป็นแฟนกับพี่สิ มันจะได้กลายเป็นเรื่องจริง”“...” หลังจากฟังประโยคนั้นไป แก้มทั้งสองข้างก็รู้สึกร้อนวูบวาบ และค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ จะบอกว่ารู้สึกเขิน มันก็ใช่ แต่…ฉันมาในฐานะตัวประกันนี่ หรือเขาจะสมองกลับ แล้วตอนนี้มาป่าวประกาศว่าฉันกับเขาเป็นคู่หมั้นกัน“พี่เมายากันยุงหรือไง จับหยีมาเป็นตัวประกันนะ เผื่อพี่จะลืม”“หึ รู้อะไรไหม … เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะปฎิเสธอะไรจากพี่ทั้งนั้น แล้วประโยคนี้อย่าให้พี่ต้องพูดเป็นครั้งที่สาม”โอเคฉันโดนหมายหัวไปสองเรื่องละ“หยี หิวแล้วค่ะ ขอตัวไปโซนอาหารก่อนนะคะ” พูดจบก็รีบสาวเท้าออกมาอย่างไว จนขาเกี่ยวและสะดุดกับขอบกระโปรงชุดเดรสยาวของตัวเอง“ว๊ายยย”พรึบ!!!“เป็นอะไรไหมครับ เจ็บตรงไหนหรือป่าว”“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณนะคะ” ยาหยีกำลังจะเดินออกไปหลังจากที่เอ่ยขอบคุณ“เดี๋ยวก่อนสิ
@เพนท์เฮ้าส์หรู เมื่อเดินทางมาถึงเพนท์เฮ้าส์ ยัยตัวเล็กที่นั่งมาด้วยกัน ก็หลับไหลมาตลอดทาง “เด็กดีตื่นได้แล้วครับ”“...”“ยาหยี… ”“...”“ที่รัก… ”“...”“ หึ ไม่ตื่นเองนะ”จุ๊บบบ “ยังไม่รู้สึกตัวอีกเหรอ”... จากที่แค่ตั้งใจจะแกล้งคนหลับโดยการจุ๊บริมฝีปาก แต่พอเห็นยาหยีหลับลึกขนาดนี้ ชักอยากจะรังแกมากกว่าการจูบซะแล้ว ปากที่จูบเบาๆ กลายเป็นจูบดูดดื่ม บดคลึงริมฝีปากอย่างอ่อนโยนนานนับนาที“อื้อออ”... ยาหยีตกใจตื่น เริ่มรู้สึกตัวได้ว่าโดนขโมยจูบ ไม่ใช่จูบแบบจุ๊บด้วย“พี่ทำอะไรหยี” ฉันรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา ฉันเผลอหลับไปและการปลุกของเขาก็คือการจูบฉัน การกระทำที่ทำให้ใจฉันเต้นแรงแปลกๆ แต่คิดอีกมุมคือเขาฉวยโอกาส และมันก็ไม่ถูกต้องด้วย“พี่ปลุกเด็กดีแล้ว แต่เด็กดีไม่ตื่นเองนะ”“แต่พี่จะมา จะ จูบ หยีแบบนี้ไม่ได้นะ เราไม่ได้เป็นอะไรกัน”“‘งั้นก็เป็นซะสิ” “ไม่ค่ะ หยีไม่เป็นอะไรทั้งนั้น” พูดอะไรเอาแต่ใจชะมัด ชวนเป็นแฟนเหมือนชวนกินข้าว อะไรของเขาเนี้ย ฉันไม่เก็ทปึง! เสียงปิดประตู ฉันรีบสาวเท้าเดินเข้าเพนท์เฮ้าส์ไปอย่างไวเมื่อเดินเข้าห้องนอนตัวเองได้ ก็มุ่งตรงเข้าห้องน้ำทันที ส่องกระจกมองหน้าตั
“ก็มีอีนางนึงไง”“ใครว่ะอี นอ.ตอ” นาบีที่ถามขึ้น ส่วนยาหยีที่นั่งฟังเพื่อนพูดอย่างเงียบๆ“ก็อีแก้วแตกคนนั้นไงเล่า”“ฮ่า ฮ่า ฮ่า” และสามสาวก็พากันหัวเราะร่วน“เขาชื่อ แก้วตา อีนัตตี้!!!!!!!!!!!”“แก้วตา มันต้องน่ารักใสๆ แต่นี่มันแก้วแตกชัดๆ ร้าวจนไม่เหลือชิ้นดี”“แกนี่นะ อะบูละจี้ ชื่อนาง” ปากว่าเพื่อนแต่ตัวเองก็นั่งขำไม่เลิก“ก็มันจริงนี่ ถ้าไม่มาหาเรื่องไอ้หยี ฉันก็ไม่พูดถึงให้เปลืองน้ำลายหรอก”“ว่าแต่…ทำไมอีนังแก้วแตกมันยังหาเรื่องแกไม่เลิกว่ะยาหยี”“ไม่รู้สิ ช่างนางเถอะ แค่อย่ามาล้ำเส้นฉันก็พอ” ยาหยีจะไม่เปิดโหมดร้ายถ้าไม่โดนใครหาเรื่องจนถึงทำร้ายร่างกาย เช่น ผู้หญิงของพี่ขุนพลที่ไม่รูัทำไมชอบหาเรื่องยาหยีในชนิดที่ว่ารู้ทั้งรู้ ทั้งสองไม่ได้คบกัน เป็นฝ่ายชายต่างหากที่ชอบอยู่ฝ่ายเดียวส่วนแก้วตาน่ะเหรอ นางแค่ปากร้าย ยังไม่เคยถึงหาเรื่องแบบถึงเนื้อถึงตัว ยาหยีเลยยังปิดโหมดร้ายๆนั้นอยู่ แต่ถ้าหล่อนเปิดมายาหยีคนนี้ก็จะเป็นคนปิดจ๊อบให้เองวันนี้มีเรียนแค่ครึ่งวัน….“ยาหยี แกกลับยังไง” “เดี๋ยวฉันนั่งแท็กซี่กลับ”“อ้าว แล้วคนขับรถเมื่อเช้า แกไม่บอกเวลาเลิกเรียนเขาเหรอ” นาบีที่ถามขึ้นอ
จากนั้นมาเฟียหนุ่มก็เดินจับมือว่าที่เมียเด็กของเขาเดินเข้าไปในห้องวินาทีแรกที่แก้วตาเห็นวิลล์ ก็ดีใจจนเนื้อเต้นระริกระรี้ แต่ก็ดีใจได้เพียงไม่นาน เพราะยาหยีมากับวิลล์คนที่เธอหมายปองส่วนศักดาเองก็แอบขัดใจไม่เบา ที่มาเฟียหนุ่มมีสาวข้างกายมาด้วย มันยากให้แก่ถวายลูกสาวใส่พานให้“สวัสดีครับ คุณวิลล์ คุณยาหยี”“สวัสดีครับ คุณศักดา / สวัสดีค่ะ”“เชิญนั่งครับ”“คุณวิลล์อยากดื่มเป็นไวน์หรือวิสกี้ดีคะ” แก้วตาที่กำลังหาจังหวะคุยกับมาเฟียหนุ่ม จึงเอ่ยถามขึ้น ทว่า… มาเฟียหนุ่มไม่ตอบกลับใดๆ ทำให้แก้วตาสีหน้าเจื่อนลงทันที“คุณศักดาเริ่มได้เลยครับ ผมมีเวลาไม่มาก”“ฮ่าๆ งานรัดตัวสิน่ะครับ ทำธุรกิจหลายอย่างขนาดนี้ นี่คงจะเป็นนาทีทองของผมที่คุณวิลล์สละเวลามาให้”“...” วิลล์ชักเริ่มรำคาญกับความพูดมากของศักดาที่ไม่ยอมเข้าเรื่องสักที จึงได้แต่ทำสีหน้าเรียบนิ่งปนดุดัน จริงๆเขาไม่เคยอยากได้คอนเนคชั่นจากศักดาสักนิด แต่เหมือนมีเซ้นต์แปลกๆบอกกับตัวเขาเองว่าควรจับตาดูศักดาไว้ วันนี้เลยมาดูว่าจะมาไม้ไหน และคิดจะทำอะไรอย่างเขาสงสัยหรือเปล่า“คือผมต้องการใช้บริการขนส่งสินค้าผ่านท่าเรือของคุณวิลล์ครับ”“สินค้า?”
“โนวค่ะ พี่อย่ามาตีเนียน หยีไม่รับข้อเสนออะไรทั้งนั้น เราต่างคนต่างอยู่ ถ้าพี่สงสัยอะไรในตัวหยี อยากสืบอะไรก็สืบไปสิ แต่ถ้ามั่นใจแล้วว่าหยีไม่ใช่อย่างที่พวกพี่กล่าวหา ก็ปล่อยหยีไปได้แล้ว”“...”“หยีเป็นลูกที่มีพ่อมีแม่นะ พี่จะทำอะไรตามใจตัวเองแบบนี้ไม่ได้ หยีก็ต้องมีชีวิตของหยี” “...”“ที่พูดเนี้ย เข้าใจบ้างหรือป่าวคะ”“เข้าใจ แต่พี่ไม่ทำ” “เอ๊ะ… พี่นี่พูดไม่รู้เรื่องหรือไง” “หยุด พอได้แล้ว ที่พูดฉอดๆน่ะ ไม่เมื่อยบ้างหรือไง”วิลล์ที่ตอนนี้เริ่มไม่สบอารมณ์ เพราะว่าที่เมียเด็กของเขาค่อนข้างดื้อรั้น ไม่ยอมเข้าใจอะไรเขาเลย“...” … “ออกมาคุยกันข้างนอกค่ะ” เมื่อยาหยีพูดจบ ก็เดินนำออกจากห้องมาโดยไม่รออีกคนแม้แต่น้อย “หงุดหงิดชะมัด คนกำลังง่วงเลย มากวนเวลาคนจะนอนอยู่ได้” ยาหยีได้บ่นเบาๆราวกับเหนื่อยใจวิลล์ ผมไม่เคยเสนออะไรแบบนั้นที่ยาหยีพูดเลยสักนิด เธอคิดเองเออเองไปทั้งหมด ผมไม่รู้ว่าที่ผมแสดงออกมันไม่ชัดเจนมากพอ หรือ ที่ผมทำมันไม่ปกติกันแน่ ยาหยีถึงได้คิดแบบนั้น แต่ถ้าถามว่ามันปกติไหม ก็คงไม่จริงๆแหละ แผนชั่วเริ่มขึ้นตั้งแต่กลับมาเจอเธอ ทำยังไงก็ได้ให้มาอยู่ด้วยกัน แผนการจะสกปรกแค่ไห
“คือ… คุณนัตตี้ย้ายออกไปแล้วนะคะ” “ห๊ะ / ห๊ะ” สองสาวที่ตกใจไม่ต่างกัน เพราะเพื่อนไม่ได้บอกอะไรไว้เลย“ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”“เมื่อวานค่ำๆค่ะ ตัวย้ายออกไปก่อน ส่วนของใช้ต่างๆมีคนมาขนย้ายให้อีกทีตอนเช้าวันนี้ค่ะ”“เกิดอะไรขึ้นนะ” ยาหยีได้แต่พึมพำอย่างสงสัย“แล้ว คอนโดนี้ คือนัตตี้ปล่อยเช่า หรือว่ายังไงคะ” “ไม่ค่ะ คุณนัตตี้ไม่ได้ปล่อยเช่าและไม่ได้ขายต่อค่ะ” “งั้นขอบคุณพี่มากๆเลยนะคะ หยีกับเพื่อนต้องขอตัวก่อนค่ะ” “ยินดีค่ะ”..“เราจะเอาไงกันดี” นาบีที่รู้สึกร้อนใจจนไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงต่อ“งั้นวันนี้แยกย้ายก่อน เดี๋ยวที่เหลือฉันจัดการเองนะ” “ฝากด้วยนะแก ฉันเป็นห่วงมันจริงๆ”“งือ ขับรถไปส่งฉันก่อน”เมื่อทั้งคู่เดินออกมายังลานจอดรถ ยาหยีก็หยุดเดินชะงักไป นาบีที่เดินตามหลังมาก็ต้องตกใจเพราะเพื่อนหยุดเดินกระทันหัน จนแทบจะชนกันอยู่แล้ว“อะไรของแกเนี้ย นึกจะหยุดเดินก็หยุด” ในระหว่างที่บ่นเพื่อน สายตาก็มองไปที่ยาหยี แล้วก็ต้องมองตามยาหยีไป จนกระทั่งเจอผู้ชายที่โคตรหล่อ โคตรหน้าตาดี มองมาที่ยาหยีไม่ละสายตา และสุดท้าย ผู้ชายสุดหล่อคนนั้นเดินตรงมายังเพื่อนสาวของตัวเอง “กลับได้ยัง”“พี่มาได้
1 ปีผ่านไป ไวเหมือนโกหกตอนนี้ฉันตั้งท้องได้ 5 เดือนแล้วนะ พี่วิลล์น่ะเร่งจะมีลูกอยู่ทุกวัน เอาจริงๆหลังแต่งงานฉันก็ปล่อยมาตลอดนะ ไม่ได้ฉีดยาคุมแล้วด้วยซ้ำ แต่ตอนนั้นสงสัยลูกยังไม่พร้อมมาเกิด ส่วนตอนนี้ก็คงจะพร้อมแล้วสินะเพราะมาอยู่ในท้องได้ 5 เดือนแล้ว อ้อ รู้เพศแล้วนะ ฉันได้ลูกชาย ถูกใจพี่วิลล์เขาล่ะ จริงๆเขาบอกว่าสำหรับเขาเพศไหนเขาก็รัก แต่หากมีลูกสาวจะทำให้ห่วงมากขึ้นแปลกมากนะตอนที่ท้องแรกๆ ฉันไม่แพ้ท้องเลย แต่คนที่แพ้ท้องแทนคือพี่วิลล์ อาเจียนทุกเช้า ทานข้าวก็ไม่ได้ เหม็นไปหมดเหมือนโดนลูกแกล้งอ่ะ ผ่านไปไม่นานพี่วิลล์ก็หายแพ้ท้องแทนฉัน แต่ฉันนี่แหละที่ตอนนี้กลับมาแพ้ท้องเอง ฉันกินอาหารเมนูเดิมๆซ้ำเพราะกินอย่างอื่นไม่ได้ สงสัยเจ้าตัวเล็กจะชอบกินเมนูนี้ ก๊วยเตี๋ยวหมูน้ำใส เป็นเมนูง่ายๆมากเลยนะที่ลูกชายฉันชอบน่ะ… พี่วิลล์ดูแลเอาใจใส่ฉันอย่างดีทุกอย่างแทบจะไม่ออกไปไหน… ตอนนี้ของใช้เด็กมีเต็มบ้านตั้งแต่ที่ลูกชายฉันยังไม่ออกมาลืมตาดูโลกเลยนะ จะฝีมือใครได้ถ้าไม่ใช่คุณปู่คุณย่าและคุณตาคุณยาย แล้วก็มีครั้งนึงที่บรรดาเพื่อนๆพี่วิลล์มาเยี่ยมก็มาพร้อมๆกับเพื่อนพวกฉัน เดี๋ยวนี้นะไปไหนมาไหนก็ไ
ห้องหอของเราคือห้องพักที่โรงแรมจัดเตรียมไว้ให้“มีความสุขมั้ย”“มีความสุขมากค่ะ”“เริ่มเลยเถอะ ไม่ไหวแล้ว อยาก…”“ขออาบน้ำก่อนได้มั้ยคะ เหนียวตัว”“พี่ไม่ไหวแล้ว”“นะคะ หยีมีรางวัลให้ พี่วิลล์ไปอาบน้ำห้องด้านนอกนะคะ”ฉันพูดจบพี่วิลล์เดินออกจากห้องรีบไปอาบน้ำทันที วันนี้ฉันมีรางวัลให้สามีด้วยนะ ก็พี่วิลล์ทำเซอร์ไพร์สฉันขนาดนั้น ฉันก็ต้องตอบแทนเป็นอย่างดี15 นาทีผ่านไปฉันอาบน้ำเรียบร้อยแล้ว แล้วก็ใส่ชุดคลุมไว้รออีกคนที่กำลังเปิดประตูห้องนอนซึ่งกำลังเดินเข้ามา“ทำไมยังใส่ชุด”“หยีมีอะไรจะให้ค่ะ” ฉันลุกจากเตียงเดินไปหาพี่วิลล์ ค่อยๆจับมือพี่วิลล์มาดึงสายที่ผูกไว้ตรงเอว เหมือนเขาลุ้นอ่ะ เขาค่อยๆดึงออกเบาๆ จนในที่สุด…พรึบ!นี่คือชุดที่ฉันใส่ไว้ด้านใน อีกคนก็มองตาค้างไม่กระพริบตาเลย ฉันไม่เคยใส่อะไรแบบนี้ให้เขาดูนะ วันนี้ถือว่าเป็นวันพิเศษที่ฉันมอบให้ก็แล้วกันวิลล์คืนนี้ยาหยีไม่อ่อนโยนเลยสักนิด ทำเอาผมเองที่ไม่ได้คิดว่ายาหยีจะทำ ถึงกับใจเต้นรัว ผมขบกรามแน่นอยากจับฟัดซะตอนนี้เลย แต่ก็ยังอยากดูให้เต็มสองตา เมียใครวะ ยั่วมากผมจ้องมองเรือนร่างของคนตรงหน้าอย่างไม่ละสายตา ถึงแม้จะเห็นบ่อยและก
“โอ้ยยย แสงเพชรทิ่มตากูไอ้วิลล์” เสียงพี่เจย์แซว“เดี๋ยวมึงขอเมียแต่งงาน มึงก็ต้องเตรียมเพชรเม็ดใหญ่เหมือนกัน”“ไอ้แท็คมึงอย่าพูด กูขนลุก กูจะอยู่เป็นโสดให้สาวเสียดายเล่น”“เออ งั้นเรื่องของมึงเถอะ” เสียงพูดคุยระหว่างพี่แท็คกับพี่เจย์นั่นทำให้ทุกคนอมยิ้ม..“ดีใจด้วยนะแก”“อือ ขอบใจพวกแกสองคนมากนะ”“ผัวมึงน่ารักมากไอ้หยี โรแมนติกอ่ะ โทรมานัดพวกกูก่อนที่มึงจะโทรมาอีก”ฉันยิ้มเมื่อจบประโยคนั้นของนาบี ฉันเองก็ไม่คิดว่าพี่วิลล์จะทำอะไรแบบนี้นะ มีความสุขจัง6 เดือนผ่านไปตอนนี้ฉันเรียนปีสี่เทอมสองแล้วนะ อยู่ในช่วงฝึกงาน แน่นอนว่าพวกฉันกับเพื่อนๆฝึกที่เดียวกันสามคนที่บริษัทรถนำเข้าของพี่วิลล์และพี่เรนเดลและเพื่อนในแก๊งส์ที่ทำด้วยกัน และแล้ววันนี้ที่รอคอยก็มาถึง วันแต่งงานของฉันกับพี่วิลล์พิธีช่วงเช้าก็มีแค่คนสนิทกันเอง จัดทำตามพิธีสงฆ์ แล้วก็แห่ขบวนขันหมาก ฉันใส่ชุดไทยสีครีมทองอ่อนๆ ส่วนพี่วิลล์น่ะหน้าตาลูกครึ่งพอแต่งชุดไทยแล้วหล่อมาก ใส่แว่นตาดำเสริมยิ่งดูเท่ห์ ดูก็รู้เลยว่าคนนี้คือเจ้าบ่าว หล่อเด่นสะดุดตาสุดๆ เพื่อนฉันก็ทำหน้าที่เพื่อนเจ้าสาว และที่สองคนนี้สนุกที่สุดก็คงเป็นช่วงกั้นประ
ผ่านไปสองวันพี่วิลล์ก็มารับฉันกลับไปอยู่เพนท์เฮ้าส์ เมื่อเช้าฉันกับพี่วิลล์ไปส่งปะป๊ากับหม่ามี๊ที่สนามบินเรียบร้อย พอถึงเพนท์เฮ้าส์เขาไม่ลืมเลยที่จะทำโทษฉัน เรื่องนี้แบบนี้จำแม่นเชียว ขยันเกินไปแล้วนะ กว่าจะปล่อยให้ฉันพัก ฉันถึงขั้นต้องขอร้องเลยล่ะ ฉันกับพี่วิลล์เราคบกันมาเรื่อยๆ จนตอนนี้ฉันอยู่ปีสามเทอมสองแล้วนะ เวลาผ่านไปรวดเร็วมาก เหลืออีกแค่ปีเดียวฉันก็จบแล้ว ตื่นเต้นอ่ะ วันหยุดที่จะนี้พี่วิลล์ชวนไปคาเฟ่พี่เจนด้วย เห็นบอกว่าพี่คินนัดรวมกลุ่มที่นั่น ก็เป็นเดอะแกงส์ของพวกเขานั่นแหละ ฉันก็เลยถือโอกาสชวนนัตตี้กับนาบีไปด้วยเลย ฉันชอบเวลาที่เราเจอกันเป็นกลุ่มใหญ่นะ คุยสนุกดี โดยเฉพาะมีพี่เจย์กับพี่แท็ค สองคนเป็นสีสันของกลุ่มเลยก็ว่าได้วันเสาร์ระหว่างที่พี่วิลล์กำลังขับรถไปยังคาเฟ่ เขาหันมามองฉันบ่อยมาก มองแล้วยิ้ม มองอีกครั้งก็ยิ้มอีก แปลกๆแหะ สักพักก็ดึงมือฉันไปจูบบ้างล่ะ ดมบ้างล่ะ แล้วพอตอนที่ติดไฟแดงนะ โน้มตัวมาหาฉัน จับหอมแก้มบ้าง จุ๊ปปากบ้าง เขาคลั่งรักจนบางทีฉันก็ตั้งตัวไม่ทันนะ“วันนี้แปลกๆนะคะ”“ไม่เห็นจะแปลกเลย”“พี่วิลล์”“หืม”“หยีมีเรื่องคาใจจะถาม พี่ตอบความจิงนะ”“...”
ฉันจะบอกพี่วิลล์ยังไงดี และฉันก็ขัดใจป๊าไม่ได้ด้วย ป๊าบอกเลือกคนนี้ให้แล้ว ไม่ถามฉันสักคำ ถ้าพี่วิลล์รู้ต้องโกรธมากแน่ๆ ฉันเลยเลือกที่จะเก็บมันไว้ก่อน ไปเจอให้มันจบๆ แล้วจะขอให้หม่ามี๊ช่วยอีกที เฮ้อ… อีกไม่กี่ชั่วโมงพวกเขาก็จะมาที่บ้านแล้วก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! “ยาหยี” เสียงเรียกจากหม่ามี๊กำลังเคาะประตูอยู่หน้าห้องนอน“ขาหม่ามี๊” ฉันเดินไปเปิดประตูและขานรับ“หลับเหรอคะลูกสาว”“เปล่าค่ะ นั่งคิดอะไรเพลินๆ” ฉันตอบอย่างคนหน้ามุ่ย ไม่มีรอยยิ้มสดใสเลยสักนิด“มีอะไรจะเล่าหม่ามี๊มั้ยคะ” หม่ามี๊น่ะรู้ใจฉันที่สุด คงเห็นท่าทีอึดอัดของฉันนั่นแหละ“...”“เรื่องปะป๊าใช่มั้ยคะ”หงึกๆ ฉันพยักหน้าตอบรับ“ลูกสาวหม่ามี๊มีแฟนแล้วใช่รึป่าวน๊า”“หม่ามี๊… ดูออกขนาดนั้นเหรอคะ”“หม่ามี๊เคยเป็นวัยรุ่นมาก่อนน๊า ทำไมจะไม่รู้หืม”“หยีจะทำไงดีคะ ปะป๊าไม่ฟังเลย”“แค่เจอกันเอง ยังไม่ได้ให้ตกลงสักหน่อย”“แต่ปะป๊าพูดแบบนั้น…”“หึหึ เชื่อหม่ามี๊สิ ลูกสาวคนสวยของหม่ามี๊อาจจะเซอร์ไพร์สก็ได้นะ”“งือ หม่ามี๊ แฟนหยีทั้งดุทั้งโหดทั้งขี้หวง”“ฮ่าๆ มีคนโหดกว่าปะป๊าอีกเหรอเนี้ย”“สูสีกันเลยค่ะ เฮ้อ…”“งั้นเอาแบบนี้ ถ้าเจอแล้วไม่ชอ
วันรุ่งขึ้นวันนี้ทุกคนเตรียมการและเตรียมตัวจัดการคนหักหลังที่แอบเล่นสกปรก วิลล์… ถึงเขาจะเป็นมาเฟียที่ทำธุรกิจสีเทาแต่เขาก็มีกฎเหล็กของเขา ในการทำธุรกิจข้อตกลงและเงื่อนไขแต่ละอย่างนั้นชัดเจนไม่ซับซ้อนและไม่เคยเล่นแง่ แต่มันก็มีจะมีพวกที่กล้าลองดี คิดว่าจะหลุดพ้นสายตาได้ แน่นอนว่า ทุกคนก็รู้จักเขาในนามนักธุรกิจหนุ่มหน้าใหม่ไฟแรงที่มีนิสัยดุดันเท่านั้น ส่วนเบื้องหลังของตระกูลเขานั้น ถ้าไม่ใช่กลุ่มคนสีเทาจริงๆก็จะไม่รู้ แต่ตอนนี้เริ่มจะมีคนรู้แล้วว่าวิลล์คือมาเฟียทายาทตระกูลคลาสเซอร์ และผู้หญิงของเขาก็ไม่มีใครกล้ายุ่ง@ ท่าเรือก่อนหน้านั้นที่ศักดาบอกวิลล์ไว้ว่าขอมาควบคุมสินค้าด้วยตัวเอง ซึ่งวิลล์ก็อนุญาต อนุญาตเพราะปล่อยให้ศักดาทำชั่วได้เต็มที่เพราะเขาจะได้จัดการทีเดียวให้สิ้นซาก ลูกน้องของวิลล์รายงานมาว่าครั้งนี้สินค้าล็อตใหญ่กว่าปกติมาก แน่นอนว่าพวกมันสอดแทรกยาเสพติดแฝงเข้าไปในตู้คอนเทนเนอร์ ศักดารู้ว่าวิลล์นั้นมีเส้นสายกับพวกเครื่องแบบและเส้นใหญ่มากด้วย จึงชะล่าใจคิดว่าคงไม่มีตำรวจมาตรวจสอบ แต่หารู้ไม่ว่าวิลล์ทำให้ศักดาตายใจไปก่อน เขาเตรียมการกับพวกตำรวจไว้เรียบร้อยแล้ว พวกยศใหญ่ๆที
ในช่วงที่วิลล์ไปเข้าห้องน้ำ แก้วตาส่งซิกให้พนักงานที่ดิลกันไว้ จัดการใส่ยาปลุกเซ็กซ์ลงในแก้วน้ำของวิลล์ แต่แก้วน้ำใบนั้นกลับไม่ได้ถูกวางยาใดๆ เพราะที่นั่นเป็นโรงแรมของวิลล์ที่ร่วมลงทุนทำกับมาร์คเพื่อนของเขา ศักดาไม่รู้ แก้วตาไม่รู้ แต่พนักงานรู้ ซึ่งเจ้าของก็นั่งร่วมโต๊ะรับประทานอาหารอยู่ด้วย ใครจะกล้าทำ ถ้าทำคงไม่ใช่แค่โดนไล่ออก แต่อาจจะตายยกครัวก็เป็นได้ ใครมันจะกล้าเอาเงินหนึ่งหมื่นมาแลกกับชีวิต ไม่มีทาง พนักงานส่งสายตาไปยังบอร์ดี้การ์ดของวิลล์ซึ่งก็คือลูคัส ลูคัสอ่านสายตาที่สื่อออกมาได้เป็นอย่างดีว่าพนักงานคนนั้นต้องการจะบอกอะไร ทุกอย่างมันง่ายและเข้าแผนไปหมด ก่อนที่งานเลี้ยงจะเลิกราวิลล์แสร้งทำเป็นดื่มน้ำในแก้วเพื่อหลอกคนชั่วที่ต้องการวางแผนจะจับเขา เมื่อเขาดื่มน้ำในแก้วนั้นไป ทั้งศักดาและแก้วตาก็ส่งสายตาให้กันทันที พิรุธแล้ว พิรุธเล่าที่หลุดออกมา มีเหรอที่จะหลอกมาเฟียแบบเขาได้หลังจากที่วิลล์เข้าห้องไปกับแก้วตาแล้ว ในระหว่างนั้นเขาจะอยากจะบีบคอแก้วตาให้แหลกคามือ หงุดหงิดที่มาโดนตัวเขา แต่การแสดงยังไม่จบก็ต้องทำต่อไป ยาหยีกำกับบทเองว่าต้องทำให้แนบเนียน เชื่อเมียหรอกนะ ถึงได้ทำเ
@โรงแรมหรูแห่งหนึ่งวิลล์ ลูคัส แก๊ป และบอร์ดี้การ์ดอีกส่วนหนึ่ง วันนี้ติดตามวิลล์มาเพื่อเจรจาธุรกิจกับศักดาที่โรงแรม วันนี้ไม่ได้มีแค่ศักดาแต่ยังคงมีลูกค้ารายอื่นมาด้วย การเจรจาครั้งนี้เนื่องจากว่าการส่งออกสินค้าในวันพรุ่งนี้ค่อนข้างจะมีมูลค่ามาก จึงได้ขอนัดแนะและเตรียมกับทางวิลล์ คำว่ามูลค่ามาก ทำให้ วิลล์นั้นรู้สึกสังหรณ์ใจไม่น้อย แต่คนอย่างเขาไม่เคยเสียรู้ใครทั้งนั้น ถ้าเป็นเรื่องงานเขาจริงจังเสมอ ใครก็เอาเปรียบเขาไม่ได้ เพราะเขาไม่ยอมในชีวิตไม่เคยก้มหัวให้ใครนอกจากเมีย แถมยังก้มต่ำอีกต่างหากการพูดคุยในวันนี้นี้ก็จบลงในช่วงเย็น รายละเอียดการต่างๆในคืนนี้ศักดาขอไปควบคุมงานด้วยตัวเอง ซึ่งวิลล์ก็ตกลง วิลล์ใช้ช่วงเวลาที่ไปเข้าห้องน้ำและพูดคุยกับยาหยีแค่เวลาไม่นานก็ต้องวางสาย คิดถึงเมียใจจะขาด ไม่อยากอยู่ตรงนี้ด้วยซ้ำ กลับมายังโต๊ะอาหาร พนักงานก็มาเสริฟน้ำแก้วใหม่ทันที แต่ก่อนที่จะลุกไปเข้าห้องน้ำจำได้ว่าน้ำในแก้วยังดื่มไม่หมดแน่นอนว่ามีสายตาคู่นึงที่จ้องมองวิลล์ปานจะกลืนกิน ‘แก้วตา’ วันนี้ดีใจจนเนื้อเต้นเพราะยาหยีไม่ได้มาด้วย แก้วตาเดินเข้าๆออกๆจนดูมีพิรุธ วันนี้ไม่ได้เข้ามาทำตัว
“พี่จี๋ อยู่ในนี้เป่า” (พี่หยีอยู่ในนี้ป่าว)“...”“...”เสียงน้องกิ่งถามหาอย่างไร้เดียงสา ส่วนฉันกับพี่วิลล์ต่างคนต่างก็ตกใจ ฉันจึงตอบเพื่อทำลายความเงียบนั้นไป“ยะ อยู่ค่ะ”“เป็นใยยึป่าว” (เป็นไรรึป่าว)“มะ ไม่ค่ะ เดี๋ยวพี่หยีตามออกไปนะคะ เอ่อ น้องกิ่งไปรอหลังบ้านนะ”“โอเช น้อนจิ่งรอกงนี้นะ” (โอเค น้องกิ่งรอตรงนี้นะ) ตอบตกลง แต่ไม่ไป จะรอพี่สาวคนสวยของเขาเดินกลับไปพร้อมกัน“เฮ้อ” วิลล์ถอนหายใจหนักๆ กำลังเข้าได้เข้าเข็มกับเมียแท้ๆ แล้วอารมณ์ตอนนี้มันก็ยากเกินไปที่จะหยุดด้วย“พี่วิลล์ หยีออกไปก่อน พี่ค่อยตามไปนะคะ”“ยึดตุ๊กตาคืนซะดีมั้ยหื้ม ขัดขวางความสุขจริงๆ” วิลล์ขบกรามแน่นที่ต้องระงับอารมณ์ตอนนี้ ทั้งที่มันตั้งลำแข็งโป๊กพร้อมเสียบขนาดนั้น“เอ่อ พี่จัดการตัวเองด้วยนะคะ” เขารู้ว่าฉันหมายถึงให้จัดการอะไรยาหยีรีบดึงกางเกงมาใส่ เมื่อเช็คความเรียบร้อยแล้วก็เปิดประตูเพียงน้อยนิดเพื่อให้แทรกตัวเองออกไปได้ ไม่กล้าเปิดประตูกว้างกลัวน้องจะเห็นอีกคนที่แอบอยู่หลังประตูห้องน้ำตกเย็น ทุกคนทานข้าวด้วยกันวันนี้เป็นวงใหญ่มากนะประมาณเกือบยี่สิบได้ สัมผัสได้ว่าทุกคนมีความสุขมาก แต่อยู่ได้ไม่นานก็ต้อ