ในขณะที่ยาหยีนั่งดื่มอยู่นั้น ไม่ได้มองเห็นว่าโต๊ะด้านหลังเธอนั้นมีใครนั่งอยู่ และนั่งมาสักพักแล้ว โดยที่ยาหยีไม่รู้ตัวเลยว่าวินาทีต่อไปข้างหน้านั้นจะเจอกับอะไร
ยาหยีลุกจากเก้าอี้กำลังหมุนตัวจะเดินกลับออกไป ทว่า ดวงตากลมโตสบตากับสายตาคมดุของมาเฟียหนุ่มคนที่เจอเมื่อตอนกลางวัน จังหวะที่กำลังเดินพ้นออกไปนั้น...
กึก!
“คุยกันหน่อย” วิลล์
“กับฉันเหรอคะ?” ยาหยีชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง ถามด้วยแววตาที่สับสนปนงง“ครับ เชิญคุณผู้หญิงขึ้นไปคุยกับนายที่หน้าผับดีกว่าครับ” เสียงลูคัสเป็นคนตอบ
“โทษนะคะ อยู่ๆ จะให้ไปคุย คุยเรื่องอะไร คุยทำไม แล้วมีเหตุผลอะไรที่จะต้องออกไปกับพวกคุณ”“คือทางเรากำลังสงสัยว่า …”
“...”
“คือเราต้องป้องกันไว้ก่อน วันนี้เราเจอคุณผู้หญิง 2 ครั้งในวันเดียวกัน ทางเราเกรงว่า คุณผู้หญิงจะได้ยินเรื่องงานที่เป็นข้อมูลลับของนายครับ”
“เหอะ ตลกละ คิดว่าฉันเป็นสายลับให้ใครงั้นเหรอ”
“แต่ผมไม่ตลก ตามผมมา แล้วอย่าคิดหนี” วิลล์
(“__”) ... ไม่ทิ้งจังหวะให้ตอบกลับ แล้วเดินนำออกไปดื้อๆ
“ออกไปกับเราเถอะครับ คุยไม่นาน เราขอเจรจาดีๆ ไม่มีการทำร้ายคุณผู้หญิงแน่นอน ไม่งั้นคงเสียชื่อวงการมาเฟีย ถ้าหากมีการรังแกผู้หญิง”“มะ มาเฟีย เหรอ” เธอทวนคำพูดที่ได้ยินเพียงแผ่วเบา
“เชิญครับ”
ฉันที่จำใจต้องเดินตามออกไป ออกไปยืนยันตัวเองด้วยความบริสุทธิ์ใจให้มันจบๆ ในระหว่างที่เดินไปมีมาเฟียคนนั้น บอร์ดี้การ์ดอีก2คน และคนเมื่อกี้
เมื่อเดินออกมาถึงด้านหน้าผับ บอร์ดี้การ์ดก็ทำท่าทางผายมือให้ฉันเดินขึ้นรถตู้สีดำหรูหราคันใหญ่
“เชิญครับ” ลูคัส
“จำเป็นต้องเข้าไปในรถด้วยเหรอคะ คุยกันข้างนอกก็ได้นี่”
“กลัวผมจับพิรุธได้เหรอ” มาเฟียคนหน้าตึงคนนั้นพูด ฉันละอยากจะข่วนหน้าให้หน้าพัง
“คุณอย่ามาปรักปรำฉัน”“เดี๋ยวก็รู้”
“คุณพูดเรื่องของคุณมาเลยดีกว่า ฉันจะได้รีบๆ กลับ” ยาหยีพูดอย่างไม่สบอารมณ์
“คิดว่าจะได้กลับ?”
“...”
“ขึ้นมา” พูดจบเขาก็ใช้ตาบังคับให้นั่งลงบนเบาะรถข้างๆ เขา จากนั้นก็ปิดประตูรถจนสนิท ในรถคันนั้นมีแค่ฉันกับเขาแค่สองคน ฉันถอนหายใจหนักๆ แล้วนั่งลงตามที่เขาบอก ถ้าว่ากลัวไหม กลัวสุดๆ เพราะตอนนี้ฉันตัวคนเดียว แต่ฉันไม่ได้ทำผิดอะไรนี่ ทำไมต้องยอมเขาด้วยล่ะ
“วันนี้คุณไปทำอะไรที่คาเฟ่” “ก็ตามที่คุณเห็นค่ะ”“ถ้าตามที่ผมเห็น ผมคิดว่าคุณมาสอดแนมเรื่องงานของผมให้ใครสักคนนึงที่คุณกำลังทำงานให้”
“คุณพูดอะไร ก็เห็นๆอยู่ว่าฉันทำอะไรบ้าง ถ้าคุณบอกว่าคุณคุยงาน ฉันไม่เห็นคุณจะคุยอะไรแล้วก็ไม่มีเอกสารอะไรทั้งนั้น แล้วที่สำคัญ ฉัน-ก็-มา-คา-เฟ่-ก่อน-คุณ-ด้วย-ซ้ำ”
ยาหยีพูดเน้นคำให้ฟังชัดๆ อธิบายยาวเหยียดให้เขาคิดตาม แต่…….“คุณสังเกตผมขนาดนั้นเชียว”
“เหตุการณ์รอบตัว การสังเกตก็เป็นเรื่องปกตินี่คะ คุณเองก็ยังสังเกตตัวฉันเหมือนกัน”
“งั้นเหรอ”เขาพูดแล้วโน้มตัวมาหาฉัน พร้อมทั้งเอามือหนาเชยคางของฉันให้เงยหน้าขึ้นไปสบตากับเขา วินาทีที่สบตา ทำไมมันรู้สึกใจเต้นแรงแปลกๆ กลิ่นน้ำหอมจากตัวเขา หะ หอมมาก จนฉันตกอยู่ในภวังค์ ฉัน… ที่ไม่เคยหวั่นไหวกับผู้ชายคนไหนง่ายๆ แต่กับคนนี้นั้นมัน... รู้สึกแปลกๆ และคุ้นเคยเหมือนเคยเจอกันมาก่อน และในระหว่างที่ฉันกำลังคิดบางอย่าง
จุ๊บบบบบบ “เห้ยย คุณ!”
ใช่ ฉันโดนเขาจูบริมฝีปากเบาๆ เมื่อรู้สึกตัว ฉันได้แต่สะบัดหน้าหนี และดีดตัวออกจากเขา ฉันเว้นระยะห่างจนรู้สึกว่าตัวเองถอยจนชิดกระจกหน้าต่างอีกฝั่งของประตูรถ
“คะ คุณมาจูบฉันทำไม?” เอารีบเอามือแตะริมฝีปากถามอย่างคนลนลาน
“ผมตีตราไว้ สำหรับตัวประกันของผม” เขาตอบอย่างหน้ามึน
“ฉันไม่เข้าใจ คุณช่วยพูดอะไรให้มันเข้าใจง่ายๆกว่านี้หน่อยได้ไหมคะ”
“ลูคัส เข้ามา” มาเฟียหนุ่มเรียกให้มือขวาของเขาเข้ามาในรถ
“ครับ” คนที่ชื่อลูคัสเปิดประตูรถฝั่งคนขับ มองฉันผ่านทางกระจกมองหลัง
“ตัวประกันอย่างยัยนี่ ต้องใช้ชีวิตแบบไหนต่อจากนี้ อธิบายเธอซะ”
“ผมขอแนะนำตัว ลูคัส นะครับ” เมื่อบอดี้การ์ดคนนี้แนะนำตัวเสร็จ เขาก็ก้มหัวคำนับเบาๆ ให้ฉันผ่านกระจกพร้อมสบตานิ่ง แล้วจะก้มหัวคำนับฉันทำไม ทำตัวไม่ถูกแล้วนะ
“...”
“จากนี้ไปคุณต้องมาอยู่ที่เพนต์เฮ้าส์ของนายน้อย เพื่อให้ทางเราได้เฝ้าระวังคุณได้ง่ายขึ้น”
“ไม่จำเป็นค่ะ” “คุณไม่มีทางเลือกครับ” ลูคัสสวนกลับในทันที “พวกคุณจะให้ฉันมาอยู่ที่นั่นเฉยๆ เพื่อสังเกตการณ์บ้าบออะไรของพวกคุณเนี่ยนะ ฉันต้องไปเรียน ฉันมีคนที่ต้องดูแล” เอาสิ ฉันเถียงนะ พวกเขาคิดง่ายพูดง่ายเกินไปรึป่าว “นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะครับ หากคุณเป็นคนที่เข้ามาสอดแนมจริงๆ เราก็พร้อมจะเก็บคุณทันที” มาเฟียสายตาคมดุหันขวับไปทางลูคัส เขาไม่ได้อยากให้ขู่อะไรรุนแรงขนาดนั้น ยาหยีก็ตัวแค่เนี้ย ดูสิ ตกใจกลัวจนหน้าซีดไปหมดแล้ว“ละ แล้วฉันต้องอยู่ที่นั่นนานแค่ไหน?” ฉันถาม พร้อมกับกำมือแน่นเพื่อไม่ให้ใครเห็นว่ามือสั่นแค่ไหน
“ก็จนกว่าคุณยาหยีจะพิสูจน์ตัวเองได้ เราจะปล่อยคุณไปครับ ในระหว่างที่อยู่ที่นี่ เราจะดูแลคุณอย่างดี แต่คุณก็ต้องรายงานตัวกับนายทุกอย่าง ไม่ว่าจะไปที่ไหน ทำอะไร ก็ต้องบอกทุกอย่าง เพราะเราจะจับตาดูทุกความเคลื่อนไหว เพราะถ้าคุณโกหกแม้แต่ครั้งเดียว ผมไม่รับประกันความปลอดภัยนะครับ
“...”
“ส่วนเรื่องเรียน เรื่องการใช้ชีวิตประจำวัน คุณสามารถทำแบบเดิมได้ตามปกติ แต่จะมีบอดี้การ์ดตามดูอยู่ห่างๆ ครับ”“เดี๋ยวก่อนค่ะ แล้วรู้ชื่อฉันได้ยังไงคะ?”
“อะไรที่อยากรู้ ก็สืบได้ครับ”
“แบบนี้มันก็เกินไปค่ะ”
“อย่างที่ผมบอก คุณไม่มีทางเลือกอื่นครับ ทางที่ดีอย่าขัดใจนาย ผมขอเตือนไว้แค่นี้”
“พวกคุณมันเผด็จการ” “เราทำตามที่นายสั่งครับ” ฉันหันหน้าไปมองมาเฟียคนนั้นทันที คำเดียวที่คิดได้ตอนนี้เลย ‘ขี้เก๊ก’ “แล้วฉันต้องมาอยู่ที่นั่นเมื่อไหร่” ฉันถามอย่างไม่สบอารมณ์มากนัก“ลูคัส” วิลล์ที่เงียบฟังอยู่นานก็เอ่ยขึ้น
“ครับ”
“ออกรถ”
“ครับ”
“จัดการให้เรียบร้อย”“ดะ เดี๋ยวสิคุณ พวกคุณจะพาฉันไปไหน”
“...” มาเฟียวิลล์ไม่ตอบคำถามใดๆ แต่ถือวิสาสะหยิบกระเป๋าคนตัวเล็กเพื่อเอากุญแจรถและส่งให้บอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ด้านนอกรถ
“เอารถคันนั้นไปไว้ที่เพนต์เฮ้าส์กู”
“ครับนาย”
“นี่คุณ แบบนี้มันทำกันเกินไปนะคะ”
“...”
ยาหยีนึกหมั่นเขี้ยวและเผลอทำอะไรไปแบบไม่รู้ตัว โดยการที่หยิบกระเป๋าตัวเล็กมาจากมือหนาแล้วฟาดลงบนบ่าแกร่งไปหนึ่งครั้ง
ตุบ!!
“โอ้ย ตีทำไม”
“ก็ตีให้เจ็บน่ะสิ”
“...” วิลล์คิดในใจ มือหนาชะมัดแต่ก็ไม่ได้คิดโกรธคนตัวเล็ก
เหตุการณ์เมื่อครู่ ลูคัสได้แต่อมยิ้ม แค่เจอกันวันแรก โดนตีขนาดนั้น สงสัยอนาคตนายน้อยเขาคงกลัวเมียเป็นแน่
วิลล์
ที่ผมรีบให้ลูคัสออกรถกลับเพนต์เฮ้าส์ ให้ตายเถอะ ทนดูความน่ารักของว่าที่เมียเด็กไม่ไหว ถ้าขืนยังอยู่ในรถกันสองต่อสอง ก็กลัวจะเผลอยิ้มให้กับความน่ารักอ่ะดิ ปากเล็กๆ ที่เถียงฉอดๆ มันน่าจับจูบซะให้เข็ด ท่าทางที่ดูโมโหนั้น น่าเอ็นดูสุดๆ ‘น่าเอ็นดู จนอยากให้ดูเอ็น’ ถ้ายังมองเธอต่อไป เดี๋ยวมันจะเสียแผนหมด ยอมรับว่าผมพลาดมากตั้งแต่เชยคางมาจูบ เกือบจะทำให้ไก่ตื่นแล้วเชียว
แต่ความรู้สึกส่วนลึกมันสั่งให้ทำเพราะ... ‘คิดถึง’
ยาหยี
นี่มันคราวซวยอะไรของฉันก็ไม่รู้ แล้วนี่มันก็เรื่องจริงแบบเรียลไทม์ ไม่ใช่เรื่องราวในนิยายแต่อย่างใด
ฉันต้องมาอยู่กับคนมากหน้าหลายตาที่ไม่รู้จัก แล้วไม่ใช่คนธรรมดาด้วย แต่เป็นมาเฟียจอมเผด็จการ
ฉันโดนบังคับให้ส่งคีย์การ์ดคอนโดให้ลูกน้องมาเฟียและป้าแม่บ้านคนหนึ่งชื่อป้าแจ่ม เพื่อไปขนย้ายข้าวของของฉันมาที่เพนต์เฮ้าส์นี้ แม้กระทั้งคอนโดฉันก็ไม่มีสิทธิ์กลับไปเก็บของใช้ด้วยตัวเอง ทั้งหนังสือเรียนต่างๆ เขาบอกจะเก็บมาให้ทั้งหมดและจะเก็บเสื้อผ้าบางส่วนมาให้ ขาดเหลืออะไร ให้ซื้อเพิ่มได้ตามใจ โดยที่ฉันได้รับแบล็คการ์ดมาใช้แบบงงๆ ตกลงว่าฉันเป็นตัวประกันแบบใดถึงได้แบล็คการ์ดมาอยู่ในมือ มันก็น่าแปลก แต่ฉันไม่มีเวลามานั่งสงสัยเรื่องเล็กๆ พวกนี้หรอก ที่คิดตอนนี้คือเมื่อไหร่จะหลุดพ้น และฉันก็ถอนหายใจหนักๆ รอบที่ล้านได้แล้วมั้งวันนี้อ่ะ“คุณ…. คุณจะให้ฉันนอนห้องไหนคะ” ยาหยี“ห้องข้างๆฉัน” วิลล์“เดี๋ยวก่อนนะคะ ไม่ได้ให้ฉันนอนห้องรับแขกชั้นหนึ่งเหรอคะ” ฉันไม่อยากนอนห้องติดกันกับเขา ความรู้สึกส่วนลึกของฉันมันบอกว่าไม่ควรไว้ใจ“หรือจะนอนห้องเดียวกับฉันล่ะ ได้นะ ฉันไม่ติด ฉันนอนบนเตียง ส่วนเธอ นอนที่พื้น” (-_-) … กวนประสาทชะมัด … ฉันไม่สนอะไรแล้ว เหนื่อยสุดๆ อยากพัก เดินไปห้องนอนห้องข้างๆ ตามที่เขาบอก ทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่ม กำลังจะเผลอหลับก็มีเสียงเคาะประตู ก๊อก ก๊อก ก๊อก “คุณหนูยาหยีคะ ป
“กรี๊ดดดดดดด” เสียงปืนยิงมาจากด้านหลัง“นั่งนิ่งๆ ฉันจัดการเอง” มาเฟียหนุ่ม เปิดเก๊ะหน้าคอนโซลรถสปอร์ตคันหรูเตรียมหยิบปืนขึ้นมาเพื่อยิงสวนกลับไป ถึงแม้ว่ารถจะกันกระสุน แต่การที่เขาทั้งขับรถ ทั้งต้องยิงปืน มันค่อนข้างลำบาก เพราะห่วงคนตัวเล็กที่นั่งข้างๆ ด้วยจึงต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะถ้ามาคนเดียว ป่านนี้เปิดกระจกรถยิงสวนไปแล้ว “คะ คุณ เดี๋ยวฉันขับรถให้ค่ะ”“จอดรถไม่ได้เด็ดขาด ไม่งั้นเราจะเป็นเป้านิ่งให้พวกมัน”“งั้นคุณปรับที่นั่งไปด้านหลังแล้วเลื่อนเบาะถอยหลังออกไปนิดนึงค่ะ“...”“เร็วค่ะ เรามีเวลาไม่มากพอ” วิลล์ทำตามอย่างเร่งรีบ เขาก็อยากรู้เหมือนกันว่ายาหยีจะทำอะไรพรึบ !!! ยาหยีย้ายมานั่งฝั่งคนขับ โดยนั่งซ้อนด้านหน้าวิลล์ในเบาะเดียวกัน กระทำของยาหยีทำให้วิลล์ได้แต่กลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก เด็กสาวกลิ่นตัวหอมๆ มานั่งแนบชิดขนาดนี้ …. ท่านั่งที่ล่อแหลมมากๆ คิดดีไม่ได้จริงๆปัง ปัง !!!!!! เสียงปืนจากฝ่ายตรงข้าม“คุณ นี่คุณช่วยมีสมาธิหน่อยสิคะ รีบเอาขาคุณออกไปจากคันเร่งค่ะ หยีจะขับเอง คุณเตรียมจัดการพวกมันก็พอ” ยาหยีตะคอกมาเฟียหนุ่มอย่างลืมตัว เพราะวิลล์มัวแต่ไม่มีสมาธิ จนเกือบจะเป็นเป
06.00 น.“อื้อออ เช้าแล้วเหรอเนี้ย แต่วันนี้วันหยุดนี่นา” ยาหยีตื่นแล้วลุกขึ้นนั่งบนเตียง บิดขี้กียจเล็กน้อย จากนั้นเดินไปเปิดผ้าม่านที่หน้าต่าง มองลงไปเห็นสวนดอกไม้สีสันน่ารัก แถมมีศาลาและโต๊ะให้นั่งจิบกาแฟและอ่านหนังสือด้วย“ว้าว สวยจัง แบบนี้มันทางเราเลยนี่ รีบอาบน้ำดีกว่าจะได้ลงไปสำรวจสักหน่อย”ใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวสามสิบนาที เมื่อยาหยีเลือกชุดเดรสสายเดี่ยวสีขาวลายดอกเดซี่ ดีเทลน่ารักๆ แบบสาวหวานซ่อนเปรี้ยวชุดยาวถึงข้อเท้า ผ้าพริ้วๆ สบายๆ ที่เข้ากันกับสวนดอกไม้แล้วจึงเดินลงมาด้านล่าง“สวัสดีครับคุณยาหยี ผมแก๊ปค้าบ คุณวิลล์ให้ผมมาดูแลคุณยาหยี หากต้องการอะไรบอกผมได้เลยค้าบ”แก๊ปพูดพลางเกาที่ท้ายทอยเล็กน้อยอย่างคนเขินสาว ไม่คิดว่านายหญิงของเขาจะสวยน่ารักขนาดนี้ แก๊ป เป็นเด็กหนุ่มอายุสิบเก้าปี ฉะนั้นจะยังมีความซุกซนขี้เล่นแบบเด็กผู้ชาย อายุไม่ห่างกันมาก เห็นแบบนี้ยาหยีก็ลดความตึงเครียดไปนิดนึง อย่างน้อยๆ ก็มีคนคุยเล่นได้บ้าง เพราะนอกจากเด็กคนนี้ ที่เหลือ..มีแต่คนหน้าโหดๆ ทำหน้านิ่งๆ กันทั้งนั้น แต่ก็มีแต่คนหน้าตาดีทั้งนั้นเลยนะ ไม่รู้ว่าที่นี้เขาคัดคนที่หน้าตาด้วยหรือเปล่า ถ้านัตตี้
“นี่คุณ คุณไปพูดแบบนี้ได้ไง”“เรียกพี่”“...” “จากนี้ไปให้เรียกพี่ ว่าพี่ อย่าต้องให้บอกเป็นครั้งที่สาม”“แล้ว คะ คุณ เอ่อ พี่วิลล์ ไปพูดแบบนั้นได้ยังไง หยีไม่ได้เป็นอะไรกับพี่สักหน่อย”“ทำไม กลัวเสียหายเหรอ”“ถึงไม่ได้กลัวเสียหาย แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องจริงนี่คะ”“งั้น… ก็ตกลงเป็นแฟนกับพี่สิ มันจะได้กลายเป็นเรื่องจริง”“...” หลังจากฟังประโยคนั้นไป แก้มทั้งสองข้างก็รู้สึกร้อนวูบวาบ และค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ จะบอกว่ารู้สึกเขิน มันก็ใช่ แต่…ฉันมาในฐานะตัวประกันนี่ หรือเขาจะสมองกลับ แล้วตอนนี้มาป่าวประกาศว่าฉันกับเขาเป็นคู่หมั้นกัน“พี่เมายากันยุงหรือไง จับหยีมาเป็นตัวประกันนะ เผื่อพี่จะลืม”“หึ รู้อะไรไหม … เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะปฎิเสธอะไรจากพี่ทั้งนั้น แล้วประโยคนี้อย่าให้พี่ต้องพูดเป็นครั้งที่สาม”โอเคฉันโดนหมายหัวไปสองเรื่องละ“หยี หิวแล้วค่ะ ขอตัวไปโซนอาหารก่อนนะคะ” พูดจบก็รีบสาวเท้าออกมาอย่างไว จนขาเกี่ยวและสะดุดกับขอบกระโปรงชุดเดรสยาวของตัวเอง“ว๊ายยย”พรึบ!!!“เป็นอะไรไหมครับ เจ็บตรงไหนหรือป่าว”“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณนะคะ” ยาหยีกำลังจะเดินออกไปหลังจากที่เอ่ยขอบคุณ“เดี๋ยวก่อนสิ
@เพนท์เฮ้าส์หรู เมื่อเดินทางมาถึงเพนท์เฮ้าส์ ยัยตัวเล็กที่นั่งมาด้วยกัน ก็หลับไหลมาตลอดทาง “เด็กดีตื่นได้แล้วครับ”“...”“ยาหยี… ”“...”“ที่รัก… ”“...”“ หึ ไม่ตื่นเองนะ”จุ๊บบบ “ยังไม่รู้สึกตัวอีกเหรอ”... จากที่แค่ตั้งใจจะแกล้งคนหลับโดยการจุ๊บริมฝีปาก แต่พอเห็นยาหยีหลับลึกขนาดนี้ ชักอยากจะรังแกมากกว่าการจูบซะแล้ว ปากที่จูบเบาๆ กลายเป็นจูบดูดดื่ม บดคลึงริมฝีปากอย่างอ่อนโยนนานนับนาที“อื้อออ”... ยาหยีตกใจตื่น เริ่มรู้สึกตัวได้ว่าโดนขโมยจูบ ไม่ใช่จูบแบบจุ๊บด้วย“พี่ทำอะไรหยี” ฉันรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา ฉันเผลอหลับไปและการปลุกของเขาก็คือการจูบฉัน การกระทำที่ทำให้ใจฉันเต้นแรงแปลกๆ แต่คิดอีกมุมคือเขาฉวยโอกาส และมันก็ไม่ถูกต้องด้วย“พี่ปลุกเด็กดีแล้ว แต่เด็กดีไม่ตื่นเองนะ”“แต่พี่จะมา จะ จูบ หยีแบบนี้ไม่ได้นะ เราไม่ได้เป็นอะไรกัน”“‘งั้นก็เป็นซะสิ” “ไม่ค่ะ หยีไม่เป็นอะไรทั้งนั้น” พูดอะไรเอาแต่ใจชะมัด ชวนเป็นแฟนเหมือนชวนกินข้าว อะไรของเขาเนี้ย ฉันไม่เก็ทปึง! เสียงปิดประตู ฉันรีบสาวเท้าเดินเข้าเพนท์เฮ้าส์ไปอย่างไวเมื่อเดินเข้าห้องนอนตัวเองได้ ก็มุ่งตรงเข้าห้องน้ำทันที ส่องกระจกมองหน้าตั
“ก็มีอีนางนึงไง”“ใครว่ะอี นอ.ตอ” นาบีที่ถามขึ้น ส่วนยาหยีที่นั่งฟังเพื่อนพูดอย่างเงียบๆ“ก็อีแก้วแตกคนนั้นไงเล่า”“ฮ่า ฮ่า ฮ่า” และสามสาวก็พากันหัวเราะร่วน“เขาชื่อ แก้วตา อีนัตตี้!!!!!!!!!!!”“แก้วตา มันต้องน่ารักใสๆ แต่นี่มันแก้วแตกชัดๆ ร้าวจนไม่เหลือชิ้นดี”“แกนี่นะ อะบูละจี้ ชื่อนาง” ปากว่าเพื่อนแต่ตัวเองก็นั่งขำไม่เลิก“ก็มันจริงนี่ ถ้าไม่มาหาเรื่องไอ้หยี ฉันก็ไม่พูดถึงให้เปลืองน้ำลายหรอก”“ว่าแต่…ทำไมอีนังแก้วแตกมันยังหาเรื่องแกไม่เลิกว่ะยาหยี”“ไม่รู้สิ ช่างนางเถอะ แค่อย่ามาล้ำเส้นฉันก็พอ” ยาหยีจะไม่เปิดโหมดร้ายถ้าไม่โดนใครหาเรื่องจนถึงทำร้ายร่างกาย เช่น ผู้หญิงของพี่ขุนพลที่ไม่รูัทำไมชอบหาเรื่องยาหยีในชนิดที่ว่ารู้ทั้งรู้ ทั้งสองไม่ได้คบกัน เป็นฝ่ายชายต่างหากที่ชอบอยู่ฝ่ายเดียวส่วนแก้วตาน่ะเหรอ นางแค่ปากร้าย ยังไม่เคยถึงหาเรื่องแบบถึงเนื้อถึงตัว ยาหยีเลยยังปิดโหมดร้ายๆนั้นอยู่ แต่ถ้าหล่อนเปิดมายาหยีคนนี้ก็จะเป็นคนปิดจ๊อบให้เองวันนี้มีเรียนแค่ครึ่งวัน….“ยาหยี แกกลับยังไง” “เดี๋ยวฉันนั่งแท็กซี่กลับ”“อ้าว แล้วคนขับรถเมื่อเช้า แกไม่บอกเวลาเลิกเรียนเขาเหรอ” นาบีที่ถามขึ้นอ
จากนั้นมาเฟียหนุ่มก็เดินจับมือว่าที่เมียเด็กของเขาเดินเข้าไปในห้องวินาทีแรกที่แก้วตาเห็นวิลล์ ก็ดีใจจนเนื้อเต้นระริกระรี้ แต่ก็ดีใจได้เพียงไม่นาน เพราะยาหยีมากับวิลล์คนที่เธอหมายปองส่วนศักดาเองก็แอบขัดใจไม่เบา ที่มาเฟียหนุ่มมีสาวข้างกายมาด้วย มันยากให้แก่ถวายลูกสาวใส่พานให้“สวัสดีครับ คุณวิลล์ คุณยาหยี”“สวัสดีครับ คุณศักดา / สวัสดีค่ะ”“เชิญนั่งครับ”“คุณวิลล์อยากดื่มเป็นไวน์หรือวิสกี้ดีคะ” แก้วตาที่กำลังหาจังหวะคุยกับมาเฟียหนุ่ม จึงเอ่ยถามขึ้น ทว่า… มาเฟียหนุ่มไม่ตอบกลับใดๆ ทำให้แก้วตาสีหน้าเจื่อนลงทันที“คุณศักดาเริ่มได้เลยครับ ผมมีเวลาไม่มาก”“ฮ่าๆ งานรัดตัวสิน่ะครับ ทำธุรกิจหลายอย่างขนาดนี้ นี่คงจะเป็นนาทีทองของผมที่คุณวิลล์สละเวลามาให้”“...” วิลล์ชักเริ่มรำคาญกับความพูดมากของศักดาที่ไม่ยอมเข้าเรื่องสักที จึงได้แต่ทำสีหน้าเรียบนิ่งปนดุดัน จริงๆเขาไม่เคยอยากได้คอนเนคชั่นจากศักดาสักนิด แต่เหมือนมีเซ้นต์แปลกๆบอกกับตัวเขาเองว่าควรจับตาดูศักดาไว้ วันนี้เลยมาดูว่าจะมาไม้ไหน และคิดจะทำอะไรอย่างเขาสงสัยหรือเปล่า“คือผมต้องการใช้บริการขนส่งสินค้าผ่านท่าเรือของคุณวิลล์ครับ”“สินค้า?”
“โนวค่ะ พี่อย่ามาตีเนียน หยีไม่รับข้อเสนออะไรทั้งนั้น เราต่างคนต่างอยู่ ถ้าพี่สงสัยอะไรในตัวหยี อยากสืบอะไรก็สืบไปสิ แต่ถ้ามั่นใจแล้วว่าหยีไม่ใช่อย่างที่พวกพี่กล่าวหา ก็ปล่อยหยีไปได้แล้ว”“...”“หยีเป็นลูกที่มีพ่อมีแม่นะ พี่จะทำอะไรตามใจตัวเองแบบนี้ไม่ได้ หยีก็ต้องมีชีวิตของหยี” “...”“ที่พูดเนี้ย เข้าใจบ้างหรือป่าวคะ”“เข้าใจ แต่พี่ไม่ทำ” “เอ๊ะ… พี่นี่พูดไม่รู้เรื่องหรือไง” “หยุด พอได้แล้ว ที่พูดฉอดๆน่ะ ไม่เมื่อยบ้างหรือไง”วิลล์ที่ตอนนี้เริ่มไม่สบอารมณ์ เพราะว่าที่เมียเด็กของเขาค่อนข้างดื้อรั้น ไม่ยอมเข้าใจอะไรเขาเลย“...” … “ออกมาคุยกันข้างนอกค่ะ” เมื่อยาหยีพูดจบ ก็เดินนำออกจากห้องมาโดยไม่รออีกคนแม้แต่น้อย “หงุดหงิดชะมัด คนกำลังง่วงเลย มากวนเวลาคนจะนอนอยู่ได้” ยาหยีได้บ่นเบาๆราวกับเหนื่อยใจวิลล์ ผมไม่เคยเสนออะไรแบบนั้นที่ยาหยีพูดเลยสักนิด เธอคิดเองเออเองไปทั้งหมด ผมไม่รู้ว่าที่ผมแสดงออกมันไม่ชัดเจนมากพอ หรือ ที่ผมทำมันไม่ปกติกันแน่ ยาหยีถึงได้คิดแบบนั้น แต่ถ้าถามว่ามันปกติไหม ก็คงไม่จริงๆแหละ แผนชั่วเริ่มขึ้นตั้งแต่กลับมาเจอเธอ ทำยังไงก็ได้ให้มาอยู่ด้วยกัน แผนการจะสกปรกแค่ไห
ตอนนี้เวลาบ่ายสองนิดๆที่ฉันและเพื่อนอีกสองคนเดินทางมาถึงสนามแข่งรถ พวกฉันผ่านเข้างานมาง่ายดายทุกอย่างเพราะเฮียเซินจัดการให้แล้ว ทางสะดวกทุกอย่าง ทุกเรื่อง และแน่นอนว่าตอนนี้เห็นเป้าหมายแล้ว สนุกแน่… “คนไหนที่เป็นคนแรกที่มาจีบแกไม่ติด แล้วไปเสนอเงื่อนไขให้ไอ้เวรนั่น”“คนผมดำ ใส่เชิ้ตสีเทา”“อืม งั้นคนที่ยืนคลอเคลียอยู่ข้างไอ้เวรนั่นคือเมียมันสินะ”“ใช่”“หน้าตาไม่ได้แย่นะ แต่การกระทำต่ำช้าเลวทราม ไม่เห็นใจผู้หญิงด้วยกันไม่พอ ไม่หวงผัวตัวเองหน่อยหรือไง”“นาบี กูซื้อประโยคด่าของมึง กูชอบว่ะ” นัตตี้ที่เอ่ยชมและอมยิ้มเพราะนาบีไม่เคยด่าใครแรงเท่านี้มาก่อน“นัตตี้ ต่อไปนี้ถ้ากูทำอะไรลงไป มึงจะไม่เสียใจใช่มั้ยที่เห็นมันต้องเจ็บตัว”“เพื่อนรักจัดการได้เต็มที่เลยจ่ะ”“มันต้องแบบนี้สิเพื่อนกู”“แต่อย่าให้กูแอบเห็นนะนัตตี้ว่ามึงแอบร้องไห้ ไม่งั้นนาบีคนสวยคนนี้จะหยุมหัวมึงค่า”“การันตี 3000%เลย”ตอนนี้เหลือเวลาอีก 30 นาที ยาหยีที่หายตัวไปเปลี่ยนชุด และกำลังจะไปเทสรถที่จะลงแข่ง เซินใช้เงินซื้อคิวแข่งรถจากนักแข่งในรอบนี้จำนวนห้าล้านบาท แน่นอนว่าเป็นตัวเลขที่แทบไม่ต้องคิดอะไรเลย ไม่หนำซ้ำ เซินยังบอก
วิลล์จัดการเปิดประตูห้องน้ำให้ยาหยีเข้าไปอาบน้ำชำระร่างกาย ทั้งยังใช้ความคิดตัวเองตัดสินว่าจะยืนเฝ้ายาหยีอาบน้ำด้วย แน่นอนว่าเป็นห่วง กลัวจะล้มไปกองกับพื้น กับอีกอย่างคือได้ดูอาหารตาอีกสักหน่อยก็คงจะดี“ออกไปสิคะ หยีจะอาบน้ำ” วิลล์ที่ตีมึนไม่สำเร็จ ก็โดนยาหยีไล่ตะเพิดออกมาซะก่อน“ครับ อยากได้อะไรเรียกพี่นะ”ฉันอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย โดยที่ป้าจันทร์เป็นคนไปเอาชุดมาไว้ให้ จัดว่าป้าจันทร์รู้ใจและรู้จักสังเกตนะเนี่ย รู้ว่าวันหยุดวันธรรมดาที่ไม่ออกไปไหน ฉันมักจะชอบใส่ชุดเน่าๆอยู่บ้าน คำว่าเน่าของฉันคือ เสื้อผ้าซักจนผ้ามันนิ่ม เบาบางใส่สบาย ถึงแม้ว่าผ้าบางจุดมันจะขาดบ้าง เป็นรูเล็กๆบ้างก็ตาม แต่ยังดูสะอาดทุกตัวพร้อมกับกางเกงผ้าขาสั้นเข้าเซ็ทกับชุดนี้ ห้องอีกห้องที่พี่วิลล์บอกนั้นคือสวยมากกกก สวยแบบตะโกน ห้องสีขาวสไตล์มินิมอลมูจิมูใจ ห้องน่ารักสุดๆ มองออกไปข้างนอกกระจกใส ด้านหน้าเป็นสนามหญ้าที่ตอนแรกมันจะยังโล่งๆ ตอนนี้เริ่มมีคนงานเอาต้นไม้สวยๆมาลงแล้ว ชอบเลยอ่ะ“ทานเลยนะคะ หยีหิว”“ทานเยอะๆครับ เบบี๋”“...”“หึหึ”ทั้งสองคนลงมือทานอาหารกันอย่างรวดเร็ว เพราะตอนนี้เวลาเที่ยงกว่าๆแล้ว แถมพลัง
“อ้าขาออกกว้างๆ ให้พี่ได้เอาเธอได้ถนัดๆ” ยาหยีก็ทำตามอย่างว่าง่าย เธออ้าขากว้างตามที่วิลล์บอก วิลล์จับหัวบานหยักถูไถไปตามร่องระเริงรักเพื่อเป็นการทักทาย“อื้ม / อ่าส์” วิลล์และยาหยีที่ทนต่อการเสียดสีต่อไปไม่ไหว ทั้งคู่จึงได้แต่ครางเบาๆออกมาจากนั้นจึงตัดสินใจส่งท่อนเอ็นแกร่งเข้าไปในโพรงสวาททันทีกึก!!! เสียงเหมือนชนผนังเนื้ออะไรสักอย่าง ทำให้ดันเข้าไปได้ไม่สุด แต่วิลล์รู้ว่านี่คือครั้งแรกของยาหยี มันยังเข้าไปง่ายๆไม่ได้แน่“อ๊ะ จะ เจ็บ”“อย่าเกร็งครับ”“เอาออกไปก่อนได้ไหมคะ หยีทนไม่ไหว” ยาหยีที่ตอนนี้น้ำตาคลอเบ้า เพราะเธอเจ็บจนถอดใจไปหมดแล้ว ไม่เอา ไม่อยากทำแล้ว“อดทนนะคนเก่ง”“ฮึก” ในที่สุดน้ำตาแห่งความเจ็บปวดก็ไหลออกจากหางตา“อีกนิดเดียวหยีก็จะตกเป็นของพี่แล้ว”“อื้อ”“ผ่อนคลายนะ” เมื่อเขาเห็นยาหยีสูดลมหายใจลึกๆ ค่อยๆผ่อนคลายมากขึ้น วิลล์จึงตัดสินใจดันท่อนเอ็นแกร่งเข้าไปคราเดียวจนสุดความยาวกึก!!! “กรี๊ดดด”“อ่าส์!! เบบี๋เป็นของพี่แล้วนะครับ”วิลล์มองหยาดเลือดที่ไหลย้อนออกมาอาบดุ้นของเขา มันเป็นภาพที่ช่างน่าชวนมอง เขาพอใจมาก พอใจที่เขาได้เป็นคนแรกของยาหยี และมันต้องเป็นแบบนั้นก็ถูกต
“อยู่เฉยๆก็ดี หาเรื่องให้นายโกรธ”“โหพี่ลู ผมไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นสักหน่อย นั่นนายหญิงผมนะ”“ก็รู้เอาไว้ ว่านายหวง อย่าไปพูดอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าล่ะ”“แก๊บนี่งงเลยค้าบบบ”“แล้วอีกอย่าง…”“...”“กูชื่อ ลูคัส ไม่ใช่ ลู”“ครับพี่ลู”ลูคัสจนปัญญาเหนื่อยจะพูด เด็กเวรนี่แม่งกวนตีน ได้แต่ส่ายหน้าอย่างเอือมระอาผ่านไป 45 นาที ก็เดินทางมาถึงเพนท์เฮ้าส์ ผมจัดการอุ้มยาหยีขึ้นไปชั้นสอง เดินไปยังห้องนอนของยาหยี ทั้งที่ใจจริงอยากพาเข้าห้องนอนตัวเองด้วยซ้ำ อยากจะทำอะไรต่อมิอะไรตามที่ใจคิด แต่ก็ไม่อยากฉวยโอกาส ถ้าทำแบบนั้นไป คงได้แค่สนองตัวเองเท่านั้น หนำซ้ำคงไม่ได้หัวใจของคนตัวเล็กด้วย“อื้อ ร้อนจัง”“ทนอีกนิดครับ เดี๋ยวก็ถึงห้องแล้ว พี่เช็ดตัวให้นะ”“ไม่อาว อยากอาบน้ำ”“เช็ดตัวก็พอ เมาขนาดนี้จะยืนอาบน้ำได้ไง”เมื่อผมเปิดประตูห้องยาหยี ก็ค่อยๆวางลงบนเตียง เมื่อถึงเตียงยาหยีก็นอนพาดเตียงเป็นแนวเฉียง และนอนคว่ำ ทำให้เห็นแก้มก้นขาวๆนั่น เพราะกระโปรงมันร่นขึ้นมาเมื่อเห็นแบบนั้น ผมก็มองไม่ละสายตา ไม่หันหน้าหนี ก็ผมไม่ใช่สุภาพบุรุษไงครับ อยากมองให้เต็มสองตา“พี่วิลล์ อาบน้ำให้หน่อย น๊าๆ”“นะ แน่ใจนะ” “แน่ซี
“อืม ชอบ… รัก” ปากพูดแต่มองหน้ายาหยีตรงๆ อยากรู้ว่ายาหยีจะมีท่าทางยังไง ส่วนยาหยีเมื่อฟังวิลล์พูดจบแล้วมองมา ก็เขินจนแก้มเป็นสีแดงระเรื่อ ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าผู้ชายคนข้างๆชอบเธอ แต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะพูดต่อหน้าเพื่อนแบบนี้ “ฮิ้ววว เอาละเว้ย น้องยาหยีว่าไงค้าบบบ”ยาหยีไม่ตอบอะไร แต่หยิบแก้วไวน์มาดื่มจนหมด แต่การกระทำดังกล่าวมันมีความหมายแอบแฝงอยู่ อยู่ที่ว่าใครจะตีความหมายนั้นออก“ยกดื่มแบบนี้แปลว่า…” เรนเดลที่ถามเย้าแหย่“ไม่มีอะไรค่ะ แค่หิวน้ำ” “อ้อ!!!” แล้วทุกคนก็พร้อมใจกัน อ้อ… ด้วยน้ำเสียงที่ล้อเลียน“หึ” เสียงวิลล์หัวเราะในลำคอ เขาว่าเขารู้ความหมายที่ยาหยีจะสื่อ ว่ามีใจให้เหมือนกัน อาจจะยังไม่ได้รัก แค่อาจจะชอบ แต่นั่นก็เท่ากับว่า ยาหยีเปิดใจให้เขาแล้ว… “ไอ้เรนเดล คิวมึง ตอบมาไอ้สัx อย่าตีเนียน”“อะไรของมึง”“มึงแอบรักใคร”“กูแค่หิวน้ำเหมือนน้องยาหยี”“ถุย/ถุย” เจย์กับแท็คที่พูดออกมาพร้อมกัน เพราะไม่เชื่อในสิ่งที่เพื่อนพูด“ต่อๆ ไอ้วิลล์ตามึง”“ฉันไม่เคยมีแฟน”“ว้าวววว Presentation on love ไอ้นี่มันขายของเก่ง ขายฉ่ำ”“เอ่อ… คนควง คนคุย คู่บัดดี้ อะไรแบบนี้ นับเป็นแฟนไหมว่ะ” เจย์ท
I-RICH ผับทั้งคู่เดินลงจากรถ และก้าวขาสับๆเดินเข้าไปด้านใน แต่เป็นโซน VVIP ชั้น 2 ที่เพื่อนเขาให้คนของเขารอรับวิลล์และนำทางมา หุ้นส่วนมาทั้งทีก็ต้องมีคนดูแลเป็นพิเศษ….ห้อง VVIP เป็นห้องของเพื่อนวิลล์คือห้องส่วนตัว จะมีแค่กลุ่มเพื่อนๆ ซึ่งไม่ใช่ห้องรองรับลูกค้า ห้องอยู่ชั้น 2 มองเห็นด้านล่างทุกจุด รอบๆห้องถ้ามองจากด้านในจะเป็นกระจกใส แต่หากมองมาจากด้านนอก แน่นอนว่าจะป็นห้องกระจกสีดำ ที่ไม่ว่าจะมองใกล้หรือไกลยังไงก็มองไม่เห็นภายในแน่นอน ในระหว่างที่กำลังเดินนั้น แน่นอนว่าสายตาผู้ชายทั้งหลาย เรียกว่าเป็นพวกขาประจำที่มารอขย้ำเหยื่อสาว ยาหยีที่หน้าตาแปลกใหม่กับที่นี่ เพราะไม่คุ้นหน้าคุ้นตา ดึงดูดสายตาได้นักต่อนัก สายตาที่อ่านกินอย่างชัดเจน วิลล์ที่เห็นแบบนั้นก็ยิ่งไม่พอใจไปกันใหญ่ รีบเดินมาแสดงความเป็นเจ้าของโดยการโอบเอวดึงร่างบางมาเบียดประชิดตัวเขา ยาหยีที่งงในการกระทำของเขาว่าจะให้เธอไปเดินเบียดเขาทำไม ที่ตั้งกว้าง… “เดินดีๆสิคะ จะเบียดทำไมเนี้ย”“รีบเดิน” วิลล์ที่ไม่ตอบคำถาม แต่กลับเอ่ยอีกประโยคออกไป.“สวัสดีครับคุณวิลล์ นายรอด้านในแล้วครับ”“อืม”พลัก!!! เสียงประตูที่โดนผลักออก ท
“คือ… คุณนัตตี้ย้ายออกไปแล้วนะคะ” “ห๊ะ / ห๊ะ” สองสาวที่ตกใจไม่ต่างกัน เพราะเพื่อนไม่ได้บอกอะไรไว้เลย“ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”“เมื่อวานค่ำๆค่ะ ตัวย้ายออกไปก่อน ส่วนของใช้ต่างๆมีคนมาขนย้ายให้อีกทีตอนเช้าวันนี้ค่ะ”“เกิดอะไรขึ้นนะ” ยาหยีได้แต่พึมพำอย่างสงสัย“แล้ว คอนโดนี้ คือนัตตี้ปล่อยเช่า หรือว่ายังไงคะ” “ไม่ค่ะ คุณนัตตี้ไม่ได้ปล่อยเช่าและไม่ได้ขายต่อค่ะ” “งั้นขอบคุณพี่มากๆเลยนะคะ หยีกับเพื่อนต้องขอตัวก่อนค่ะ” “ยินดีค่ะ”..“เราจะเอาไงกันดี” นาบีที่รู้สึกร้อนใจจนไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงต่อ“งั้นวันนี้แยกย้ายก่อน เดี๋ยวที่เหลือฉันจัดการเองนะ” “ฝากด้วยนะแก ฉันเป็นห่วงมันจริงๆ”“งือ ขับรถไปส่งฉันก่อน”เมื่อทั้งคู่เดินออกมายังลานจอดรถ ยาหยีก็หยุดเดินชะงักไป นาบีที่เดินตามหลังมาก็ต้องตกใจเพราะเพื่อนหยุดเดินกระทันหัน จนแทบจะชนกันอยู่แล้ว“อะไรของแกเนี้ย นึกจะหยุดเดินก็หยุด” ในระหว่างที่บ่นเพื่อน สายตาก็มองไปที่ยาหยี แล้วก็ต้องมองตามยาหยีไป จนกระทั่งเจอผู้ชายที่โคตรหล่อ โคตรหน้าตาดี มองมาที่ยาหยีไม่ละสายตา และสุดท้าย ผู้ชายสุดหล่อคนนั้นเดินตรงมายังเพื่อนสาวของตัวเอง “กลับได้ยัง”“พี่มาได้
“โนวค่ะ พี่อย่ามาตีเนียน หยีไม่รับข้อเสนออะไรทั้งนั้น เราต่างคนต่างอยู่ ถ้าพี่สงสัยอะไรในตัวหยี อยากสืบอะไรก็สืบไปสิ แต่ถ้ามั่นใจแล้วว่าหยีไม่ใช่อย่างที่พวกพี่กล่าวหา ก็ปล่อยหยีไปได้แล้ว”“...”“หยีเป็นลูกที่มีพ่อมีแม่นะ พี่จะทำอะไรตามใจตัวเองแบบนี้ไม่ได้ หยีก็ต้องมีชีวิตของหยี” “...”“ที่พูดเนี้ย เข้าใจบ้างหรือป่าวคะ”“เข้าใจ แต่พี่ไม่ทำ” “เอ๊ะ… พี่นี่พูดไม่รู้เรื่องหรือไง” “หยุด พอได้แล้ว ที่พูดฉอดๆน่ะ ไม่เมื่อยบ้างหรือไง”วิลล์ที่ตอนนี้เริ่มไม่สบอารมณ์ เพราะว่าที่เมียเด็กของเขาค่อนข้างดื้อรั้น ไม่ยอมเข้าใจอะไรเขาเลย“...” … “ออกมาคุยกันข้างนอกค่ะ” เมื่อยาหยีพูดจบ ก็เดินนำออกจากห้องมาโดยไม่รออีกคนแม้แต่น้อย “หงุดหงิดชะมัด คนกำลังง่วงเลย มากวนเวลาคนจะนอนอยู่ได้” ยาหยีได้บ่นเบาๆราวกับเหนื่อยใจวิลล์ ผมไม่เคยเสนออะไรแบบนั้นที่ยาหยีพูดเลยสักนิด เธอคิดเองเออเองไปทั้งหมด ผมไม่รู้ว่าที่ผมแสดงออกมันไม่ชัดเจนมากพอ หรือ ที่ผมทำมันไม่ปกติกันแน่ ยาหยีถึงได้คิดแบบนั้น แต่ถ้าถามว่ามันปกติไหม ก็คงไม่จริงๆแหละ แผนชั่วเริ่มขึ้นตั้งแต่กลับมาเจอเธอ ทำยังไงก็ได้ให้มาอยู่ด้วยกัน แผนการจะสกปรกแค่ไห
จากนั้นมาเฟียหนุ่มก็เดินจับมือว่าที่เมียเด็กของเขาเดินเข้าไปในห้องวินาทีแรกที่แก้วตาเห็นวิลล์ ก็ดีใจจนเนื้อเต้นระริกระรี้ แต่ก็ดีใจได้เพียงไม่นาน เพราะยาหยีมากับวิลล์คนที่เธอหมายปองส่วนศักดาเองก็แอบขัดใจไม่เบา ที่มาเฟียหนุ่มมีสาวข้างกายมาด้วย มันยากให้แก่ถวายลูกสาวใส่พานให้“สวัสดีครับ คุณวิลล์ คุณยาหยี”“สวัสดีครับ คุณศักดา / สวัสดีค่ะ”“เชิญนั่งครับ”“คุณวิลล์อยากดื่มเป็นไวน์หรือวิสกี้ดีคะ” แก้วตาที่กำลังหาจังหวะคุยกับมาเฟียหนุ่ม จึงเอ่ยถามขึ้น ทว่า… มาเฟียหนุ่มไม่ตอบกลับใดๆ ทำให้แก้วตาสีหน้าเจื่อนลงทันที“คุณศักดาเริ่มได้เลยครับ ผมมีเวลาไม่มาก”“ฮ่าๆ งานรัดตัวสิน่ะครับ ทำธุรกิจหลายอย่างขนาดนี้ นี่คงจะเป็นนาทีทองของผมที่คุณวิลล์สละเวลามาให้”“...” วิลล์ชักเริ่มรำคาญกับความพูดมากของศักดาที่ไม่ยอมเข้าเรื่องสักที จึงได้แต่ทำสีหน้าเรียบนิ่งปนดุดัน จริงๆเขาไม่เคยอยากได้คอนเนคชั่นจากศักดาสักนิด แต่เหมือนมีเซ้นต์แปลกๆบอกกับตัวเขาเองว่าควรจับตาดูศักดาไว้ วันนี้เลยมาดูว่าจะมาไม้ไหน และคิดจะทำอะไรอย่างเขาสงสัยหรือเปล่า“คือผมต้องการใช้บริการขนส่งสินค้าผ่านท่าเรือของคุณวิลล์ครับ”“สินค้า?”