"เชี้ย ลืมใส่ถุงยาง" หลังจากที่เสร็จด้วยกันทั้งคู่ผมก็นึกขึ้นมาได้ว่าลืมใส่ถุงยางอนามัยแถมยังปล่อยในใส่ยัยนี่อีกเลยรีบเอาแก่นกายออกทำให้น้ำรักขาวขุนของผมไหลออกมาจากรูสวาทของเธอและเปอะเปื้อนเต็มขาอ่อนของเธอไปหมด
ป๊อก~ "แล้วฉันจะท้องไหม" เธอเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งเงยหน้ามามองที่ผมด้วยสีหน้ากังวล "กินยาคุมฉุกเฉินก็ไม่ท้อง" ผมปรับสีหน้าให้ราบเรียบตามเดิมก่อนจะเอ่ยพร้อมกับมองคนตัวเล็กที่นอนซบอกผมเหมือนลูกแมวที่หอบเหนื่อย "อีกรอบได้ไหม" เธอเอ่ยพร้อมกับมองผมตาปริบๆ "หึ ติดใจคว_ฉันล่ะสิ" ผมเค้นหัวเราะออกมาจากในลำคอกับคำขอของเธอก่อนจะเอ่ยขึ้นพร้อมกับพลิกตัวเธอลงกลับมานอนราบบนที่นอนเหมือนเดิมพร้อมจับขาเธอให้อ้าอีกรอบและจับท่อนเอ็นร้อนที่ตอนนี้กลับมาแข็งอีกครั้งไปจ่อกับรูสวาทของเธอก่อนจะอัดเข้าไปอย่างสุดลำ ส๊วบ! "ซี้ดดด~ ทำไมยังแน่นอยู่วะ" ผมเอ่ยด้วยเสียงกระเส่าเมื่อภายในโพรงสวาทของเธอมันยังคงตอดรัดแก่นกายของผมแน่นเหมือนกับครั้งแรกที่เสียบไปก่อนที่จะเริ่มขยับสะโพกและเริ่มบรรเลงบทรักอีกครั้งและอีกครั้งจนรุ่งสาง "อ้ะๆๆ ดราก้อน" ตับ ตับ ตับ "อ่าา โมเน่" Dragon End Monet Part - เช้าวันรุ่งขึ้น - "โอ้ย ปวดหัวชะมัด" ฉันเอ่ยออกมาเมื่อรู้สึกได้ถึงแสงแดดยามเช้าที่สาดส่องใส่หน้าผ่านทางหน้าต่างบานหรูก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้น "เจ็บจัง" ฉันเอ่ยขึ้นเมื่อรู้สึกเจ็บแสบบริเวณช่วงล่างเมื่อฉันพยายามขยับตัวจะลุกขึ้นก่อนจะมองไปยังรอบๆ ห้องที่ไม่คุ้นเคยจนไปสะดุดอยู่กับ... "ยัยโมเน่แกทำอะไรลงไปเนี้ย" ฉันเอ่ยออกมาอย่างตกใจเมื่อเห็นผู้ชายนอนเปลือยเปล่าอยู่ข้างๆ และสภาพเนื้อตัวฉันที่เปลือยเปล่าที่มีแต่น้ำขาวขุ่นและพอฉันลองสังเกตหน้าของเขาดีๆ เขาก็คือบาร์เทรนเดอร์คนเมื่อคืนอยู่ๆ ฉันก็รู้สึกได้ถึงลมที่ตีใส่หน้าพร้อมกับเหตุการณ์เมื่อคืนที่เลือนลางได้ย้อนกลับมาเป็นบางส่วนแต่แค่บางส่วนที่นึกออกก็ทำให้ฉันแทบอยากมุดแผ่นดินหนี "อืม ว่าแต่นายก็หล่อดีนะหุ่นก็ดี" "...." "เท่าไหร่? " "เธอหมายถึงอะไร? " "ฉันจะซื้อนายมานอนกับฉันนานคิดเท่าไหร่" "เธอพูดอะไรของเธอ" "กรี๊ดด ยัยโมเน่ฉันสัญญากับตัวเองเลยว่าจะไม่กินเหล้าอีกแล้ว! " ฉันเอ่ยออกมาด้วยใบหน้าที่ร้อนระอุด้วยความอายก่อนที่จะรีบพยุงตัวเองลุกออกจากเตียงนอน "โอ้ย แสบชะมัด" ฉันเอ่ยขึ้นอย่างหน้านิ่วเพราะเมื่อขยับตัวก็รู้สึกแสบที่ช่วงล่างเหมือนมันฉีกขาด ก่อนที่จะพยายามฝืนเดินและรีบเก็บเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายมาใส่ก่อนจะรีบออกไปจากที่นี่แต่ก็ไม่ลืมที่จะวางเงินทิ้งไว้ให้เขาที่โต๊ะข้างหัวเตียงจำนวน 300 ดอลล่า ณ คอนโดหรูของโมเน่ "อีตานั้น ชาติที่แล้วเป็นปลิงรึไงถึงได้ดูดฉันแดงเป็นจั้มทั้งตัวขนาดนี้" ฉันเอ่ยขึ้นหลังจากที่เห็นสภาพตัวเองในกระจกห้องน้ำบานหรูที่ตอนนี้เนื้อตัวของฉันมีแต่รอยดูดแดงไปทั้งตัวรวมไปถึงบริเวณจุดสงวนที่แดงและบวมเปร่งอย่างเห็นได้ชัดว่าผ่านศึกหนักมาก่อนที่จะสลัดความคิดทั้งหมดทิ้งและรีบไปชำละล้างร่างกาย - 1 ชั่วโมงต่อมา - หลังจากที่ฉันอาบน้ำเสร็จก็มานั่งเป่าผมอยู่หน้ากระจกพร้อมกับหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าเพื่อที่จะเล่นโซเชียล "แบตหมดหรอเนี้ย" ฉันเอ่ยขึ้นก่อนที่จะหยิบสายชาตแบตมาชาตและกดเปิดเครื่อง ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง สายที่ไม่ได้รับ 50 สาย "ยัยเวนิสต้องคิดว่าฉันตายแล้วแน่ๆ" ฉันเอ่ยทันทีที่เห็นทั้งข้อความไลน์ที่รัวขึ้นมาถี่ๆ ของเมื่อคืนและสายที่ไม่ได้รับอีก 50 สาย ก่อนจะรีบกดโทรกลับไปหาเธอ "ฮัลโหล ยัยเวนิ.." ( อีโมเน่มึงหายหัวไปไหนของมึงมา กูคิดว่ามึงตายไปแล้วสะอีกรู้ไหมว่ากูเป็นห่วงมึงขนาดไหน!) ยังไม่ทันที่ฉันจะเอ่ยจบประโยคยัยเวนิสก็เอ่ยส่วนกับมาเป็นชุดทันทีด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง "มึงใจเย็นๆ ก่อนกูผิดไปแล้วแต่มึงช่วยอะไรกูอย่างได้ไหม" (อะไร?) "มึงช่วยซื้อยาคุมฉุกเฉินมาให้กูหน่อยได้ไหม" (หะ!! อีโมเน่มึง..) "มึงอย่าพึ่งถามอะไรกูนะเดียวรอมึงมาเดียวกูจะเล่าทุกอย่างที่พอจำได้ให้ฟัง" ยัยไม่ทันที่ยัยเวนิสจะเอ่ยจบฉันก็รีบพูดแทรกขึ้นไปก่อนไม่อย่างนั้นยัยนี้ได้บ่นฉันหูชาแน่ (พอจำได้ หมายความว่าไง?) "เออหนา มึงอย่างพึ่งถามอะไรมาก" (เออรอกูแปบ เดียวกูไปเดียวนี้แหละ) Monet Endติ๊งต๊อง~"มาแล้วๆ " ร่างบางของโมเน่รีบเดินไปเปิดประตูและเอ่ยขึ้นทีเมื่อได้ยินเสียงกริ่ง"ยา แล้วเล่ามาให้ละเอียดเดียวนี้ว่าเกิดอะไรขึ้น" ทันทีที่โมเน่เปิดประตูห้องเวนิสก็เอ่ยขึ้นและเดินตรงไปนั่งที่โซฟาหรูกลางห้องพร้อมกับเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าคาดคั้น"เออ คือว่า.." โมเน่ที่รับยามาก็เดินตามมานั่งตรงข้ามกับเพื่อนรักของเธอด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก"โอ้ย มึงไม่ต้องมาอ้ำๆ อึ้งๆ เล่ามาเร็วๆ ""เมื่อวานกูตั้งใจจะไปเซอร์ไพร์ไนท์หลังสอบวิชาสุดท้ายเสร็จแต่กูไปเจอมันนอกใจกู กูเลยลากพวกมันมาตบแล้วบอกเลิกแล้วทีนี้ที่กูชวนมึงไปเที่ยวแล้วมึงไม่ว่างกูเลยไปคนเดียวแต่ว่าเมามากไปหน่อย... " หลังจากที่โดนเวนิสคาดคั้นโมเน่ก็เลยตัดสินใจเล่าทั้งหมดในคราวเดียวด้วยความไวแสงจนแทบไม่เว้นจังหวะหายใจ"มึงก็เลยไปมีอะไรกับคนที่ไม่รู้จัก? " เวนิสหลังจากฟังจบก็เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงและสีหน้าตกใจและรู้สึกผิดในคราวเดียวกันที่ปล่อยให้เพื่อนไปคนเดียวเมื่อคืน"ใช่ และที่แย่ไปกว่านั้นกูขอซื้อเขากินด้วยอะมึง" โมเน่เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงและสีหน้าโอดครวญ"อีโมเน่!! โอ้ยกูปวดหัวรีบๆ แดกยาเข้าไปก่อนเลย" เวนิสเอ่ยขึ้นอย่างตกใจยิ่งกว่าเดิม
ณ งานแฟชั่นโชว์เวลา 18.00 น."ยินดีด้วยนะมึง โชว์มึงดีมากเลยได้ A แน่นอน" โมเน่เอ่ยกับเวนิสทันทีเมื่อโชว์จบลงพร้อมกับยื่นช่อดอกไม้แสนสวยเพื่อเป็นการแสดงความยินดีให้แก่เพื่อนรักของเธอ"ขอบใจนะเพื่อนรัก เดียวกูเคลียร์วิชานี้เสร็จวันศุกร์ไปปาร์ตี้กันไหมกูเลี้ยงเอง" เวนิสเอ่ยขึ้นพร้อมกับยิ้มดีใจที่งานของเธอจบลงด้วยดีและมีเหล่าอาจารย์ต่างชื่นชมโชว์ของเธอ"ไม่ได้ว่ะ กูต้องกลับไทยแล้วแด๊ดดี๊เรียกให้กลับด่วน" โมเน่เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าและน้ำเสียงเสียดาย"ทำไมรีบกลับจัง มีปัญหาไรรึป่าว""แด๊ดดี๊บอกสาขาที่ฝรั่งเศสมีปัญหาเลยจะรีบไปดู""น่าเสียดายจัง ไม่เป็นไรมึงเดียวค่อยเจอกันที่ไทยกูก็จะกลับสิ้นเดือนนี้""กรี๊ด จริงหรอ" โมเน่เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงดีใจสุดขีดโมเน่เองกลับไปก็กลัวเหงาเช่นกันเพราะนอกจากเวนิสที่เป็นเพื่อนกับเธอมาตั้งแต่อนุบาลเธอก็ไม่มีเพื่อนที่ไหนด้วยนิสัยเอาแต่ใจไม่ยอมใครของพวกเธอและไม่อยากสุงสิงกับใครเลยคบกันมาแค่สองคนมาตลอด"จริงสิยะ""งั้นคืนนี้เราไปดินเนอร์กันเบาๆ เพื่อเป็นการฉลองที่เราสองคนจบแล้วดีไหม""ได้ มึงเลือกร้านเลยเดียวกูเคลียร์สถานที่คืนเขาก่อน" เวนิสเอ่ยพร้อมทั้งหันไปม
Monet Partหลังจากที่ฉันกินข้าวเย็นเสร็จก็ขอตัวขึ้นมาบนห้องทันทีเพราะรู้เหมือนเพลียและรู้สึกเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวจากการเดินทาง"ดราก้อนงั้นหรอ""คงไม่ใช่หรอกมั้ง" ฉันที่ล้มตัวบนที่นอนเอ่ยพึมพำกับตัวเองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นกดโทรไปหายัยเวนิส(ว่าไงยะถึงแล้วหรอ)"ถึงได้สักพักแล้ว มึงงงง" (เป็นไรทำไมทำเสียงอย่างงั้นยะ)"เมื่อกี้แด๊ดดี๊กับหม่ามี๊กูให้งานแรกกูทำคือดีลกับบริษัท GR แล้วคนที่กูต้องไปดิวด้วยคือผู้บริหารบริษัทที่ชื่อมิสเตอร์ดราก้อน"(แล้วไงต่อยะ)"ก็คนที่กูไปขอซื้อเขากินก็ซื้อดราก้อนมึงว่าจะเป็นคนเดียวกันไหม"(โอ้ย อีนี่ก็คิดมากคนที่มึงไปขอซื้อนั้นเขาเป็นบาร์เทนเดอร์อันนี้เขาเป็นเจ้าของบริษัทเลยนะยะ) "แต่มึงว่าจะไม่บังเอิญไปหน่อยหรอวะ"(แล้วคนชื่อดราก้อนมันมีคนเดียวในโลกรึไงกูไปนอนต่อดีกว่าแค่นี้แหละ)ตู๊ดๆๆ"คงไม่บังเอิญขนาดนั้นหรอกมั้ง" ฉันเอ่ยหลังจากยัยเวนิสวางสายไป เเต่ก็จริงอย่างที่ยังเวนิสบอกมันคงไม่บังเอิญโลกกลมขนาดที่บาร์เทนเดอร์จะกลายมาเป็นผู้บริหารบริษัทใหญ่โตขนาดนั้นหรอกMonet End- วันต่อมา -ก๊อกๆ"คุณหนูเสร็จรึยังค่ะคุณผู้หญิงให้มาตามค่ะ""เสร็จแล้วค่ะ ช้อยบอกหม
"ไง ดีใจจังที่จำชื่อผัวได้" เขาเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าเรียบเฉยดราก้อนเอ่ยจบก็สาวเท้าเดินมาหาเธอขณะที่เธอเองก็เดินถอยหลังไปติดกับประตูห้องน้ำห้องที่เธอพึ่งจะเดินออกมาด้วยใบหน้าที่แสดงสีหน้าหวาดกลัวได้อย่างชัดเจน"อย่ามาพูดจามั่วๆ เรื่องคืนนั้นมันก็แค่ one night stand และอีกอย่างคืนนั้นฉันก็เมามากจนจำอะไรไม่ได้ด้วย" ร่างบางเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งพยายามผลักอกแกร่งของเขาออกไปแต่ก็ไม่เป็นผล"หึ ถ้าคืนนั้นเธอจำไม่ได้งั้นฉันจะเตือนความจำเธอให้เอง" ร่างแกร่งเค้นหัวเราะออกมาจากลำคอพร้อมกับใช้มือหนาจับคางมนของคนตัวเล็กให้เชิดขึ้นมาสบสายตากับเขา"อย่านะไอ.. อุ้ปป" ยังไม่ทันที่โมเน่จะเอ่ยจบก็โดนร่างแกร่งประกบปากจูบอย่างเร้าร้อนสะก่อนพร้อมกับใช้มือหนารั้งเอวบางเข้ามาแนบตัว"อืมม ~ อ่อยอะ (ปล่อยนะ) " โมเน่ร้องทวงออกมาจากในลำคอทันทีเมื่อถูกมือซุกซนของร่างแกร่งเลื่อยมาบีบขยำหน้าอกอวบอิ่มของเอ่ยอย่างถือวิสาสะก๊อกๆ"ว่า" ดราก้อนที่ถูกลูกน้องที่อยู่หน้าห้องเคาะประตูเรียกขัดจังหวะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์"แย่แล้วครับ ลูกน้องที่โกดังโทรมาบอกว่าสินค้าของเรามาไม่ทันกำหนดครับนาย" มาตินเอ่ยขึ้นจากทางด้านนอกประต
- 3 วันต่อมา -ณ โรงแรม Moonskyทันทีที่ร่างอรชรของหญิงสาวเดินผ่านประตูเข้ามาในโรงแรมพนักงานทุกคนที่กำลังทำงานอยู่ก็รีบยืนขึ้นทำความเคารพเธอทันทีนี้ก็ผ่านมา 3 วันแล้วที่เธอเริ่มฝึกงานและมาเรียนรู้งานที่โรงแรมโดยมีสาวิตรีเลขาของพ่อเธอช่วยสอน"แด๊ดดี๊อยู่ไหม? " โมเน่ที่พึ่งขึ้นลิฟท์มาถึงชั้นบนสุดของโรงแรมเอ่ยขึ้นถามสาวิตรีที่นั่งอยู่หน้าห้องของผู้เป็นพ่อ"อยู่ค่ะคุณโมเน่" หลังจากสาวิตรีเอ่ยจบร่างบางก็เคาะประตูแล้วรีบเปิดเข้าไปทันทีก๊อกๆ"แด๊ดดี๊ขาาา""มาแล้วหรอลูก" ก้องเกียรติที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ของผู้บริหารเอ่ยขึ้นแต่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองลูกสาวที่กำลังเดินเข้ามาแต่กับเอาแต่จ้องอ่านบางอย่างในไอแพดด้วยใบหน้าเคร่งเครียด"เป็นอะไรคะแด๊ดดี๊ทำไมหน้าเครียดเชียว" โมเน่ที่เดินมายืนข้างผู้เป็นพ่อเอ่ยขึ้นพร้อมกับชะโงกหน้าดูไอแพดของผู้เป็นพ่อ"โรงแรม Mareena สื่อแววจับมือกับบริษัทนำเขาเครื่องดื่มแอลกอฮอลยักษ์ใหญ่ GR " โมเน่อ่านข่าวที่ขึ้นพลาดหัวข่าวว่าโรมแรมดังของอังกฤษที่พึ่งมาเปิดสาขาที่ไทยสนใจร่วมมือกับบริษัท GR พร้อมกับมีรูปผู้บริหารสาวของโรมแรมกำลังนั่งคุยอยู่กับดราก้อน"นี้แค่ข่าวออกยังไ
- บนรถ -"เห้อ~ " หลังจากที่รถตู้คันหรูเคลื่อนตัวออกจากบริษัท GR ได้ไม่นานก้องเกียรติก็ถอนหายใจออกมาทันทีอย่างคนเหนื่อยล้า"แด๊ดดี๊อย่าทำหน้าแบบนั้นสิคะ" โมเน่ที่เห็นสีหน้าที่ดูตึงเครียดและเหนื่อยล้าของผู้เป็นพ่อเอ่ยขึ้น"ถ้าโรงแรม Mareena ได้ GR ไปโรงแรมเราแย่แน่""งั้นรอบนี้โมเน่ขอเป็นคนทำข้อเสนอไปยื่นเองได้ไหมคะ""แน่ใจหรอลูก" ก้องเกียรติที่ได้ยินที่ลูกสาวเอ่ยก็หันไปมองหน้าเธอและเอ่ยถาม"แน่ใจคะเชื่อใจโมเน่นะคะ ยิ้มได้แล้ว" โมเน่เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มให้ผู้เป็นพ่อแต่ภายในใจเธอกับสั่นกลัวเพราะเธอรู้ดีว่าสิ่งที่ดราก้อนต้องการคืออะไร- วันต่อมา -ณ บริษัท GRร่างอรชรที่พึ่งขับรถยุโรปคันหรูมาถึงยังบริษัทของดราก้อนได้แต่สูดหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะสวมแว่นตาสีดำจากแบรนด์หรูและก้าวเท้าเดินลงจากรถเข้าไปยังข้างในบริษัทอย่างพยายามซ่อนความกลัวไว้ในใบหน้าที่ดูเย่อหยิ่ง"สวัสดีค่ะมาพบใครคะ" ทันทีที่เธอเดินผ่านพ้นประตูบริษัทเสียงพนักงานต้อนรับก็เอ่ยขึ้น"มิสเตอร์ดราก้อน" โมเน่เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบพร้อมทั้งถอดแว่นตาดำของแบรนด์หรูออก"เออ..คุณโมเน่ได้นัดไว้รึป่าวคะ? " "ไม่ค่ะ""ปกติจะเจอท่านประธานต้
มือหนารวบข้อมือทั้งสองข้างของคนตัวเล็กไปไว้ด้านหลังพร้อมกับไล่ริมฝีปากหนาดูดเม้นตามตัวของเธอจนเกิดรอยแดงเป็นจ้ำๆ"เจ็บ" โมเน่เอ่ยออกมาเสียงสั่นเมื่อถูกชายหนุ่มมอบสัมผัสที่หยาบโลนเหมือนกับสัตว์ร้ายให้แก่เธอ"หุปปาก แล้วจับมันใส่เข้าไปสะ" ดราก้อนเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงกดต่ำพร้อมกับถอดนิ้วของเขาออกจากรูสวาทงามของเธอก่อนที่จะมองไปยังแก่นกายของเขาที่ตอนนี้มันขยายใหญ่เต็มขนาดให้เธอเอาเข้าไปร่างบางที่ได้ยินที่เขาสั่งก็ได้แต่เก็บความเคียดเเค้นไว้ในใจก่อนจะใช้มือเรียวจับแก่นกายมหึมาของเขามาจ่อที่ยังบริเวณรูสวาทของตัวเองพร้อมกับค่อยๆ นั่งลงไป"อื้อ~ เจ็บ" โมเน่ร้องออกมาพร้อมกับน้ำตาที่ค่อยๆ ไหลเมื่อเธอพยายามดันแก่นกายแต่เข้ามาได้แค่หัวมันกับเจ็บมาจนเหมือนตรงส่วนนั้นของเธอมันจะฉีก"อย่ามาสำอ่อยทำยังกับไม่เคย" คนใจร้ายเอ่ยด้วยถ้อยคำที่ร้ายกาจพร้อมกับมองดูแก่นกายของเขาที่เข้าไปยังรูสวาทของเธอได้แค่หัวเท่านั้นก๊อกๆ"นายครับมีสายด่วนจากนายท่านครับ" มาตินเอ่ยขึ้นพร้อมกับเคาะประตู"ให้ตายเถอะ" ดราก้อนสบดออกมาอย่างหงุดหงิดที่ถูกขัดจังหวะพร้อมกับดันตัวร่างบางที่นั่งคล่อมเขาอยู่ให้นั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงานข
ทันทีที่ร่างสูงเอ่ยจบก็ใช้มือหนากระชากข้อเท้าของร่างบางที่ขยับหนีไปจนติดหัวเตียงลงมาพร้อมกับรีบขึ้นไปคล่อมตัวเธอไว้ทันที"นะ..นายจะทำอะไร" โมเน่เอ่ยถามเสียงสั่นเมื่อถูกคนตัวสูงใช้เข็มขัดแบรนด์หรูมามัดแขนทั้งสองข้างของเธอไว้เหนือศรีษะจนทำให้เธอไม่สามารถขัดขืนได้มาเฟียหนุ่มรีบจัดการถอดอาภรณ์ช่วงล่างตัวเองออกเผยให้เห็นแก่นกายมหึมาที่มันดูใหญ่เกินขนาดคนเอเซีย"ดะ..เดียวก่อน อื้ม~ "แคว้ก!ยังไม่ทันที่เธอจะได้เอ่ยห้ามเขาจนจบประโยคคนใจร้ายก็จัดการฉีกกระชากชุดนอนของเธอจนขาดริ้วเผยให้เห็นเรือนร่างขาวอมชมพูที่ตอนนี้มีแค่เสื้อชั้นในและแพตตี้ตัวจิ๋วเท่านั้นมาเฟียหนุ่มไล่สายตามองคนใต้ร่างของเขาตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างพึ่งพอใจที่ร่างกายของเธอยังคงมีรอยแดงเป็นจ้ำๆ จากฝีมือของเขาเมื่อกลางวันอยู่ก่อนจะโน้มหน้าถ้าลงไปดูดเม้นซอกคอขาวไล่ลงมายังเนินอกอวบอิ่ม"อะ..เจ็บ" ร่างบางร้องออกมาด้วยสีหน้าบิดเบียวเมื่อถูกมือหนากระชากเสื้อชั้นในของเธอออกและฝังคมเคี้ยวไว้กับเต้านมอวบจนเป็นรอยเคี้ยวก่อนจะลากลิ้นสากเลื่อนลงต่ำมายังหน้าท้องแบนราบและเลื่อนต่ำลงใต้สะดือไปจนถึงกลีบกุหลาบงามที่ถูกปิดไว้ด้วยแพตตี้ตัวจิ๋ว"อ
- เช้าวันใหม่ -คลืด คลืด~มือเรียวของร่างบางที่กำลังงัวเงียควานหาโทรศัพท์ที่ส่งเสียงร้องปลุกเธอให้ตื่นในยามสายของวัน"ว่าไงคะหม่ามี๊"( ในข่าวหมายความว่ายังไง ทำไมมีอะไรไม่บอกหม่ามี๊กับแด๊ดดี๊! ) คำถามของผู้เป็นแม่และน้ำเสียงที่ดูน่ากลัวอย่างที่ท่านไม่เคยพูดแบบนี้กับเธอดังขึ้นทำเอาร่างบางที่กำลังงัวเงียอยู่ลืมตาเบิกกว้างและดีดตัวลุกขึ้นมาด้วยความตกใจ"ข่าวอะไรคะ? " โมเน่เอ่ยถามผู้เป็นเเม่เสียงแผ่วอย่างมึนงงว่าเธอมีข่าวอะไร( ข่าวลูกกับมิสเตอร์ดราก้อนไงทำไมไม่พูดกับหม่ามี๊กับแด๊ดดี๊ตรงๆ )"ป่าวนะคะหม่ามี๊ต้องมีเรื่องเข้าใจผิดกันแน่ๆ " โมเน่เอ่ยขึ้นพร้อมกับหยิบไอแพดของตัวเองที่วางอยู่ตรงหัวนอนมาเปิดดูข่าวของวันนี้ทันทีพร้อมกับตาเบิกกว้างเมื่อเห็นว่าตอนนี้มีแต่ข่าวของเธอว่อนอินเตอร์เน๊ตไปหมดข่าวใหญ่ช็อควงการธุรกิจ หนุ่มนักธุรกิจสุดฮ็อตซุ่มคบสาวไฮโซทายาทโรงแรมดังถึงกับควงกันมาออกงานสังคมแต่เรื่องไม่จบเพียงเท่านี้เพราะดันไปปะทะกันเข้ากับหนุ่มไฮโซที่เคยเป็นข่าวมาก่อนหน้านี้ไม่นาน!!รูปภาพ ( ตอนเดินควงแขนเข้างานด้วยกัน )รูปภาพ ( ตอนดราก้อนกับซีโน่ทะเลาะกัน )คลิปวิดีโอ ( คลิปวิดีโอตอนดราก
ร่างบางกรีดร้องออกมาเสียงหลงเมื่อถูกมือหนาของร่างแกร่งกระชากเสื้อผ้าของเธอจนขาดวิ่นจนเหลือแต่เพียงบราปีกนกและแพตตี้ตัวจิ๋วพร้อมทั้งพยายามจะดิ้นให้หลุดพ้นจากพันธนาการของเขาแต่ก็ไม่เป็นผล“เหอะ ทีกับฉันทำเป็นดีดดิ้น!! ” ดราก้อนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงกดต่ำอย่างพยายามข่มโทสะไว้ไม่ให้เพิ่มมากขึ้นทั้งๆ ที่เขาแทบจะข่มอารมณ์ไม่ไหวจนอยากฆ่าชายหนุ่มคนที่เธอพุดคุยด้วยให้ตายคามือเสียด้วยซ้ำ“อื้อ~ ปล่อยนะ” โมเน่เอ่ยและพยายามหันหน้าหนีเมื่อมาเฟียหนุ่มโน้มหน้าเข้ามาดูดเม้นคอระหงของเธอจนเกิดรอยแดงมือหนาของดราก้อนเลื่อนมาบีบขยำหน้าอกอวบอิ่มที่กระเพื่อมตามจังหวะการหายใจอย่างแรงจนเหมือนมันจะแหลกคามือก่อนที่จะกระชากบราปีกนกของเธอออก"เจ็บ! " โมเน่เอ่ยออกมาเดียวสีหน้าบิดเบี้ยวมือเรียวพยายามดันใบหน้าของดราก้อนที่กำลังดูดกัดยอดปถุมถันของเธออยู่อย่างแรงแต่ก็ไม่เป็นผลเพราะยิ่งเธอดันเขาออกเท่าไหร่เขาก็ดูดดึงยอดปทุมถันเธอแรงเท่านั้น“อ้าขาออก!! ” ดราก้อนที่พึ่งผละออกจากเต้านมอวบอิ่มก็ตวาดขึ้นเสียงดัง"...." คนตัวเล็กไม่ได้เอ่ยตอบแต่กับหนีบขาตัวเองไว้แน่นอย่างพยายามขัดขืนมือแกร่งของดราก้อนจับขาเธอตั้งฉากขึ้นพร้
"ได้สิงั้นไปทางนั้นกันไหม" ซีโน่เอ่ยพร้อมกับชี้มือไปทางสวนด้านหลังของงานที่ไม่ค่อยมีผู้คนมากนัก"ได้ค่ะ ดูเงียบดี" โมเน่เอ่ยขึ้นพร้อมกับหยิบแก้วไวน์ติดมือไปด้วยก่อนจะเดินตามร่างสูงของซีโน่ไปโดยที่มีเฟรดเดินตามไม่ห่าง"แล้วนี้คุณลุงไม่มาด้วยหรอคะ" โมเน่เอ่ยขึ้นเมื่อทิ้งสะโพกยังม้านั่งตรงข้ามกับร่างสูง"มาสิ โดยพวกหุ้นส่วนลากไปดื่มตั้งแต่เข้างานแล้ว""เข้าทางคุณลุงสินะคะ""ฮ่าๆ แล้วคุณอากับคุณน้ายังไม่กลับหรอ? ""ยังคะ เห็นหม่ามี๊ไลน์มาบอกว่าทางนั้นมีปัญหานิดหน่อยอาจจะกลับมาช้า""งั้นหรอ ถ้าเรื่องงานมีปัญหาอะไรบอกพี่ได้นะเดียวพี่ไปช่วย""ได้เลยค่ะเดียวโมเน่จะทักหาพี่ซีโน่คนแรกเลย ชนแก้วกันดีกว่าค่ะ" โมเน่เอ่ยขึ้นพร้อมทั้งชูแก้วไวน์ในมือขึ้นมาด้านหน้าชายหนุ่มเคร้ง~เสียงชนแก้วไวน์ทั้งสองแก้วประสานเสียงกันก่อนที่ทั้งคู่จะพากับดื่มด่ำกับรสชาติหวานอมฝาดของไวน์ราคาแพงพร้อมกับต่างชวนกันพูดคุยเรื่องต่างๆ อย่างสนุกสนานโดยที่มีเฟรดยืนอยู่ด้านหลังของหญิงสาวไม่ห่าง"เดียวพี่ไปเอาเครื่องดื่มมาเพิ่มให้นะ" ซีโน่เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าไวน์ที่เขาและเธอหยิบมาหมดแล้ว"ค่ะ" โมเน่เอ่ยพร้อมกับยิ้มหวานตอบกลับช
"ได้ค่ะ คุณโมเน่จะเอาไปหัดทำขนมหรอคะ" สาวิตรีเอ่ยตอบหญิงสาวพร้อมทั้งรีบนำของที่เธอใช้ให้ไปซื้อออกมาให้ทันที"ชะ..ใช่ แล้วนี้เชฟมารึยัง" ร่างบางเอ่ยด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักอย่างไม่เต็มเสียงก็จะเอ่ยถามถึงเชฟที่จะสอนเธอทำอาหาร"เชฟมารอคุณโมเน่แต่เช้าแล้วค่ะ""งั้นเดียวฉันลงไป" เอ่ยจบหญิงสาวก็เดินลงไปที่ห่องทำอาหารของโรงแรมทันที- หลายชั่วโมงผ่านไป -ติ๊ง~เสียงของเตาอบขนมดังขึ้นพร้อมทั้งร่างบางที่เปิดฝาเตาเเละนำขนมที่เธอพึ่งอบเสร็จมาวางไว้บนโต๊ะพร้อมกับเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าสภาพขนมที่เธอพึ่งทำนั้นดูน่าตาไม่ค่อยจะดีนัก"ทำไมมันออกมาดูไม่น่ากินเลยค่ะ" "คุณโมเน่พึ่งทำครั้งแรกเดียวเราลองใหม่อีกทีก็ได้ครับ" เชฟที่เป็นคนสอนเธอเอ่ยขึ้นอย่างให้กำลังใจพร้อมทั้งสอนเธอทำขนมอีกรอบและอีกรอบจนเวลาล่วงเลยไปหลายชั่วโมงเวลา 14.00 น."สวยมากครับคุณโมเน่ต่อไปก็เหลือแต่รสชาติ" เชฟเอ่ยชมเธอขึ้นเมื่อเห็นว่าหญิงสาวแต่งหน้าขนมเค้กเสร็จและยังดูดีต่างจากตอนแรกอีกด้วย ก่อนที่เขานั้นจะใช้มีดหันเค้กออกมาดูเนื้อข้างในและใช้ส้อมตักเค้กเข้าปาก"เป็นไงค่ะอร่อยไหม" หญิงสาวยิ้มและเอ่ยขึ้นด้วยแววตาคาดหวัง"อร่อยมากครับกลิ่นว
"คุณโมเน่มีอะไรจะให้ดิฉันทำหรอคะ? " สาวิตรีเอ่ยถามเมื่อเดินเข้ามาในห้องทำงานของหญิงสาว"วอลนัททำเมนูอะไรได้บ้าง" โมเน่เอ่ยถามขณะกำลังหย่อนสะโพกลงที่เก้าอี้ทำงานของเธอ"วอลนัทหรอคะ? " สาวิตรีเอ่ยทวนอีกครั้งอย่างแปลกใจเมื่ออยู่ดีๆ ก็ถูกถามถึงเรื่องวอลนัทไม่ใช่เรื่องงาน"....""คงจะเป็นพวกขนมมั้งคะดิฉันไม่ค่อยทราบคุณโมเน่จะให้ไปตามเชฟมาให้ไหมคะ""อืม ไปตามมาให้ทีนะ""ค่ะรอสักครู่นะคะ" สาวิตรีเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งกำลังจะเดินออกไปจากห้องแต่ก็ถูกหญิงสาวเรียกไว้ก่อน"เดียวก่อน""คะ? ""เธอช่วยไปหาซื้อผงวอลนัทสำหรับทำอาหารมาให้ฉันหน่อยแล้วอย่าให้ใครรู้" โมเน่เอ่ยพร้อมกับหยิบกระเป๋าตังแบรนด์หรูออกมาก่อนจะหยิบเงินจำนวนหนึ่งที่ดูเยอะกว่าค่าวอลนัทวางไว้บนโต๊ะทำงานของเธอ"ได้ค่ะ คุณโมเน่ต้องการอะไรเพิ่มอีกไหมคะ" สาวิตรีที่มองเจ้านายของตนอย่างไม่ค่อยเข้าใจนักก่อนจะเดินกลับมายังที่โต๊ะทำงานของผู้เป็นนายอีกครั้งและเอ่ยขึ้นพร้อมหยิบเงินจำนวนนั้นไป"ไม่มีแล้วไปเถอะ" หลังจากโมเน่เอ่ยจบสาวิตรีก็ออกไปทันทีหลังจากที่สาวิตรีออกไปได้ไม่นานนักก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นก๊อกๆ"เชฟมาแล้วค่ะ" สาวิตรีที่เคาะประตูอยู่
"ผมล้อเล่นอย่าทำหน้าแบบนั้นสิ" ฟอลคอร์เอ่ยอย่างหยอกล้อพร้อมกับยิ้มออกมาซึ่งต่างจากสีหน้าของผู้เป็นพี่โดยสิ้นเชิง"อย่ายุ่งกับยัยนั้น" ดราก้อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงกดต่ำ"ว้าว ดูหวงจังเลยนะไม่สมกับเป็นพี่เลยแต่พี่รู้ใช่ไหมว่าบ้านเรามีจุดอ่อนไม่ได้โดยเฉพาะพี่""กูจัดการคนของกูเองได้""ก็ขอให้เป็นแบบนั้นเพราะดูคนของพี่จะพยศน่าดู" ฟอลคอร์เอ่ยขึ้นก่อนจะล้วงเอาบุหรี่ราคาแพงในกระเป๋าเสื้อของตนออกมาก่อนจะอัดนิโคตินเข้าเต็มปอดแล้วค่อยๆ พ่นควันขาวขุนออกมา"ถ้าจะมาพูดแต่เรื่องไร้สาระก็กลับไปสะกูจะทำงาน""ก็ว่าจะกลับแล้วล่ะป่านี้เด็กๆ ที่ผมเลี้ยงไว้คงคิดถึงผมแย่""....." ดราก้อนไม่ได้เอ่ยตอบอะไรได้แต่มองดูท่าทางสบายๆ ของน้องชายของเขานิ่งๆ จนฟอลคอร์สูบบุหรี่จนหมดม้วนแล้วลุกขึ้นเตรียมตัวที่จะออกจากห้อง"อ่อ พ่อฝากบอกว่าจะไปรอที่ฝรั่งเศสนะอย่านานล่ะ" ขณะที่ผู้เป็นน้องเดินไปถึงหน้าประตูห้องก็หันกลับมามองผู้เป็นพี่พร้อมกับเอ่ยทิ้งท้ายเรื่องที่พ่อของตนฝากมาและเปิดประตูจากไป"เห้อ~ " หลังจากผู้เป็นน้องเดินจากไปมาเฟียหนุ่มก็ถอนหายใจออกมาทันทีอย่างเหนื่อยล้าพร้อมกับเองหลังพิงพนักเก้าอี้ร่างสูงหลับตาลงช้าๆ และค
"เธอสินะที่ชื่อโมเน่" ชายหนุ่มที่หน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกับดราก้อนเอ่ยขึ้นก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้เต็มความสูงและเดินเข้ามาหาเธอ"นี้นายเป็นใคร ถอยไปนะ" โมเน่เอ่ยขึ้นเมื่อร่างสูงเดินเข้ามาประชิดตัวเธอ"ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอก ไม่ต้องกลัว" เขาเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งฝุดยิ้มร้ายที่มุมปากและมองร่างบางตั้งแต่หัวจรดเท้า"...." "สวยดีหนิถึงว่า...""ว้าย~ มีอะไรกันรึป่าวคะคุณฟอลคอร์" ยังไม่ทันที่ฟอลคอร์จะเอ่ยจบมะลิที่พึ่งเดินออกมาจากห้องอาหารเอ่ยขึ้นทันทีอย่างตกใจกลัวว่าทั้งคู่จะมีปัญหากัน"ฟอลคอร์? " โมเน่เอ่ยทวนชื่อคนตรงหน้าอีกครั้ง"นี่คุณฟอลคอร์เป็นน้องชายของนายค่ะ" มะลิเอ่ยแนะนำชายหนุ่มให้กับว่าที่นายหญิงของเธอ"ไม่มีอะไรหรอกไปทำงานของเธอต่อเถอะ" ฟอลคอร์เอ่ยพร้อมกับทำมือไล่ให้สาวใช้ออกไปให้พ้น"ค่ะ" มะลิที่เห็นท่าทางของฟอล์คอร์ก็รีบก้มหน้าก้มตาและรีบเดินออกไปทันที"น้องชายของไอเลวนั้นหรอ เหอะ" โมเน่เอ่ยขึ้นพร้อมกับกอดอกและเชิดหน้าขึ้นก่อนจะเดินไปนั่งไขว่ห้างยังโซฟาหรูกลางห้องรับแขกร่างสูงมองการกระทำของว่าที่พี่สะใภ้ของตัวเองก่อนจะเดินตามหลังเธอไปนั่งโซฟาตรงข้ามกับเธอพร้อมกับเอ่ยขึ้น"ปากร้ายใช้ได้เล
"โอ้ย ปล่อยนะฉันไม่ใช่สัตว์เลี้ยงของนายนะที่นายจะลากไปตรงไหนก็ได้ตามใจตัวเอง" ร่างบางที่ถูกคนตัวสูงลากออกมาเอ่ยโวยวายขึ้นพร้อมทั้งสะบัดแขนของตัวเองออกอย่างไม่พอใจ"...." คนตัวสูงได้แต่มองท่าทางโวยวายอย่างเอาแต่ใจของคนตัวเล็กที่เริ่มจะเมาแล้วเพราะว่าไวน์ที่นำมาเลี้ยงต้อนรับลูกค้าคนสำคัญวันนี้เป็นไวน์แบบพิเศษที่มีเปอร์เซ็นต์ของแอลกอฮอล์ที่แรงกว่าไวน์ธรรมดาเป็นเท่าตัวและไวน์ตัวนี้มักจะไม่ถูกวางจำหน่ายแต่จะรู้จักกันแค่เพียงในวงในเท่านั้น"ไวน์อะไรทำไมมันแรงจัง" โมเน่เอ่ยพึมพำกับตัวเองพร้อมทั้งใช้มือบางตบที่แก้มทั้งสองข้างของตัวเองเบาๆ "ไหวไหมครับ" มาตินเอ่ย"อย่ามายุ่ง""ขึ้นรถ" ดราก้อนที่เห็นท่าทางของคนตัวเล็กก็เอ่ยสั่งขึ้นเสียงดุพร้อมกับใช้สายตามองไปยังประตูรถตู้คันหรู"ดีแต่ออกคำสั่ง" ร่างบางเอ่ยขึ้นพร้อมกับกอดอกแล้วสะบัดหน้าใส่คนตัวสูงก่อนจะเดินขึ้นรถไปด้วยสติที่เริ่มจะมึนเมาจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล"ไม่ไหวก็นอนลงมา" ขณะที่รถคันหรูกำลังแล่นตามท้องถนนดราก้อนที่หันไปมองร่างบางที่นั่งเอาหัวพิงกระจกก็เอ่ยพร้อมกับเอื้อมมือหนาหมายจะไปจับหัวร่างบางหมับ!"ฉันไม่นอนตักคนสกปรกแบบนายหรอก" โมเน่เอ่
แปะ แปะ แปะเสียงปรบมือของเอลิคที่พึ่งเดินออกมาจากอีกห้องดังขึ้นเมื่อได้ยินคำตอบของดราก้อนพร้อมกับมองร่างบางตั้งแต่หัวจรดเท้า"ว้าว คนนี้น่ะหรอที่เอาเลือดหัวมึงออกได้""...." ดราก้อนไม่ได้เอ่ยตอบอะไรพร้อมทั้งเดินไปนั่งบนโซฟาตัวหรูโดยมีโมเน่เดินตามไปด้วย"กูไม่ได้อยากรู้ว่ายัยนี้เป็นอะไรกับมึงกูแค่อยากรู้ว่ามึงพามาด้วยทำไม" เฟยหลงเอ่ยขึ้นเสียงเรียบและมองมาที่ผู้หญิงข้างกายเพื่อนของเขาโมเน่ได้แต่นั่งตัวแข็งทื่ออย่างทำตัวไม่ถูกและหวาดกลัวกับบรรยากาศรอบตัวที่มีแต่เหล่ามาเฟียและภายในโกดังก็ยังมีลูกน้องของแต่ละคนยืนถืออาวุธกันเต็มไปหมด"โทษที พอดีพากลับไปส่งบ้านไม่ทันคงไม่ถือสาใช่ไหม" ดราก้อนขึ้นอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะหยิบบุหรี่ราคาแพงขึ้นมาจุดก่อนจะอัดเข้าปอดของตัวเองและพ่นควันออกมา"กูไม่ถือสาหรอก" แดเนียลที่พึ่งเดินกลับเข้ามาเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งมองมายังโมเน่ก่อนจะพูดกับเธอ"สวัสดีแม่สาวน้อยฉันชื่อแดเนียล""...." ร่างบางที่ถูกมาเฟียหนุ่มอีกคนทักไม่ได้เอ่ยตอบอะไรและใช้มือบางเกาะแขนเสื้อของดราก้อนไว้แน่นอย่างหวาดกลัว"ดูเหมือนเมียมึงจะกลัวนะ" แดเนียลเอ่ยขึ้นก่อนจะเดินไปนั่งข้างเฟยหลง"หึ จะไปนั่ง