แชร์

บทที่ 2338

ผู้แต่ง: โมเนโต้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
คำพูดสุดท้ายของเลนนอนฟังดูราวกับหินก้อนใหญ่ที่ถูกโยนลงในทะเลสาบที่เงียบสงบ ทุกคนตกตะลึงเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น และมีสีหน้าเหมือนอยากจะตาย

ใบหน้าของซาเมียนซีดลง มีเส้นเลือดปรากฏขึ้นบนดวงตาของเขา "เลนนอน… คุณจะไม่พูดเกินจริงไปหน่อยเหรอ? หมอนี่จะทำให้รัฐเวสต์ เซอร์ซีทั้งรัฐอยู่ในกำมือของเขาได้ยังไง?

“เขาจะทำแบบนั้นได้จริงเหรอ? ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ สำนักทางเหนือเองก็มีอัจฉริยะจำนวนไม่น้อย แต่ไม่มีอัจฉริยะคนใดมีพลังขนาดนั้นมาก่อน! มันเป็นสิ่งที่ไม่มีใครทำได้มานานแสนนานแล้ว คุณแน่ใจได้ยังไงว่าหมอนี่จะทำได้?”

เลนนอนเหลือบมองซาเมียน ปกติแล้วเขาจะไม่มามัวเปลืองน้ำลายอธิบายเรื่องนี้ให้ซาเมียนฟัง แต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว และหากเขาอธิบายสิ่งต่าง ๆ ได้ไม่ชัดเจน คนพวกนี้ก็จะไม่เข้าใจถึงความรุนแรงของสถานการณ์

น้ำเสียงของเลนนอนทุ้มลึกมากราวกับว่าเขากำลังประกาศถึงสิ่งที่ทำให้เขาเจ็บปวดอย่างที่สุดออกมา “นายลองใช้สมองดูสักหน่อยสิ คิดดูให้ดี แม้ว่าหลายปีมานี้สำนักทางเหนือจะมีศิษย์มากพรสวรรค์มากมาย แต่ในจำนวนเหล่านั้นไม่มีใครที่สามารถคุกคามสำนักวายชนม์ได้เลยแม้แต่คนเดียว

“ลองคิดดูสิว่าอัจฉร
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2339

    นี่เป็นครั้งแรกที่เฟนด์ได้เห็นโอสถที่มีระดับสูงเช่นนี้ หากเขาสามารถนำมันกลับไปแลกคะแนนที่สำนักได้ เขาจะต้องได้รับคะแนนสะสมมากกว่าหมื่นคะแนนอย่างแน่นอนการบ่มเพาะโอสถระดับนี้ไม่เพียงแต่ต้องใช้หญ้าวิญญาณระดับเก้าและสิ่งของล้ำค่าตามธรรมชาติอีกมากมายเท่านั้น แต่ยังต้องอาศัยฝีมือของนักเล่นแร่แปรธาตุระดับสูงอย่างไม่น่าเชื่ออีกด้วย นักเล่นแร่แปรธาตุจะต้องบ่มเพาะมันเป็นเวลาหลายวัน สิ่งนี้มีค่าอย่างมากมายจริง ๆ!ดวงตาที่ตื่นเต้นของเฟนด์เริ่มเปล่งประกาย เขากล้ำกลืนต่อความเจ็บปวดที่เสียดแทงในกระดูกขณะพยุงร่างให้ลุกขึ้นยืน และเดินโซซัดโซเซไปหายาที่ลอยอยู่กลางอากาศโอสถเม็ดนี้มีค่าสำหรับเฟนด์มากกว่าใคร ๆ โอสถขัดเกลาวิญญาณจะช่วยทำให้เขาสามารถบ่มเพาะพลังวิญญาณของเขาได้ มันจะช่วยเพิ่มระดับพลังและคุณภาพของพลังวิญญาณของเขา และช่วยให้เขาสามารถควบคุมพลังวิญญาณของตัวเองได้ดีขึ้น!เมื่อคิดถึงเรื่องนั้น มือของเฟนด์ก็เริ่มสั่น เขาสูดลมหายใจเข้าขณะที่บังคับตัวเองให้สงบสติอารมณ์ เขาหยิบกล่องหยกออกมาจากมัสตาร์ด ซี๊ดและวางมันลงไปอย่างแผ่วเบา เพื่อให้แน่ใจว่าโอสถจะไม่ได้รับความเสียหายภายใต้สายตาของทุกคน เขาว

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2340

    ในขณะนั้นเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสยิ่งกว่าชายสวมหน้ากากเสียอีก เขาพยายามใช้แขนบังคับให้ร่างกายลุกขึ้นนั่ง แต่หลังจากพยายามอยู่หลายครั้ง เขาก็ล้มลงกับพื้นเสียงดังตึงเขายังได้ยินเสียงคำรามของอสรพิษอีกฝั่งหนึ่ง เขารู้ว่าอสรพิษปีศาจแปดหางกำลังจะโจมตีเขาอีกระลอก!เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่จิตใจของเขากลับว่างเปล่าอย่างไม่น่าเชื่อ แม้ว่าเฟนด์จะพูดจบไปนานแล้ว แต่คำพูดของเฟนด์ก็ยังเวียนซ้ำไปซ้ำมาในหัวของเขาไม่เลิกขณะที่อสรพิษแปดหางกำลังจะใช้หางข้างหนึ่งโจมตีเขา เกรแฮมใช้กำลังเฮือกสุดท้ายตะโกนออกไปว่า "ฉันยอมแพ้!"อันที่จริงแล้ว เขาเองก็ไม่รู้ว่าอสรพิษปีศาจแปดหางจะหยุดการโจมตีหลังจากที่เขายอมยกธงขาวหรือไม่ นั่นก็เพราะผู้อาวุโสเคยกล่าวเอาไว้ว่าในโลกสีโลหิตแห่งนี้ความตายอยู่ใกล้เพียงเอื้อมแต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องยอมเสี่ยงดูสักครั้ง! ในขณะนั้น หัวใจของศิษย์สำนักทางเหนือทั้งหมดหล่นไปกองที่เท้า เพราะเขาไม่อยากจะเห็นร่างของเกรแฮมถูกฉีกทึ้งเหนือสิ่งอื่นใด หากเกรแฮมเสียชีวิตลง พวกเขาก็จะเหลือเพียงเฟนด์แค่คนเดียว พวกเขาไม่อยากจะฝากความหวังไว้ที่เฟนด์เพียงคนเดียวบางคนถึงกับตะโกนเสียงดังสนั่นว่า "เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2341

    “เกรแฮม คุณบ้าไปแล้วหรือไง? คุณก็รู้อยู่แก่ใจว่าคุณสู้มันไม่ได้แล้วทำไมต้องฝืนตัวเองด้วย? ดูสิ สุดท้ายคุณก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส มันจะต้องส่งผลต่ออนาคตของคุณอย่างแน่นอน…“อย่าลืมสิว่าตอนนี้เราไม่ได้อยู่ในสำนักของตัวเอง เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต่อไปเรายังต้องเผชิญกับอันตรายมากน้อยแค่ไหน การที่คุณทำให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงขนาดนี้เป็นสิ่งที่ไร้ความรับผิดชอบอย่างที่สุด!”ขณะที่เขาพูดนั้น ริมฝีปากของเบนจามินก็สั่นเล็กน้อย ก่อนหน้านี้เขาบอกเกรแฮมอย่างชัดเจนแล้วว่าไม่ให้เขาฝืนตัวเองหากรู้ว่าเขาไม่มีทางเอาชนะได้ การยอมแพ้เป็นหนทางที่เขาต้องเลือกแต่ดูเหมือนว่าเกรแฮมจะหลงลืมคำพูดนั้นไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อเกรแฮมต่อสู้กับอสรพิษปีศาจแปดหาง ก็ดูเหมือนว่าเขาจะลืมสิ้นหมดทุกอย่าง และคิดจะสู้กับสัตว์อสูรตัวนั้นชนิดให้ตายกันไปข้างหนึ่ง!เกรแฮมถอนหายใจอย่าเงียบ ๆ เขารู้ดีว่าเบนจามินพูดถูก และเขาก็ย่ามใจเกินไปในขณะนั้นเฟนด์พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “คุณเป็นศิษย์ที่ถูกเลือกจากสำนักระดับสี่ อนาคตคุณยังต้องมีหน้าที่ที่รับผิดชอบอีกมาก การที่คุณคิดจะเอาชีวิตตัวเองมาทิ้งกับชัยชนะเล็กน้อยเช่นนี้ นับว่าไม่คุ้ม

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2342

    แต่ทว่าคราวนี้ จากผู้กล้าจำนวนร้อยแปดสิบคนในคราแรก ตอนนี้เหลือกันเพียงไม่ถึงร้อยคนเท่านั้น! ผู้ที่เสียชีวิตส่วนใหญ่มาจากสำนักทางเหนือ!ในตอนที่เขาถูกย้ายกลับมายังจุดเดิมที่เคยอยู่ เฟนด์ก็สอดส่ายสายตาออกไป จากฝูงชนที่เคยหนาแน่นบัดนี้กลับมีระยะห่างระหว่างพวกเขามากขึ้นกว่าเดิมศิษย์สำนักทางเหนือไม่มั่นใจในความปลอดภัยของตัวเองดังก่อนหน้านี้อีกแล้ว พวกเขาวิตกกังวลและมองดูเหล่าศิษย์ต่างสำนักด้วยความเกลียดชัง!หากพวกเขาไม่ได้รับรู้ถึงความแตกต่างทางด้านจำนวน ทั้งสองฝ่ายก็คงเข้าห้ำหั่นกันแล้ว! เฟนด์ถอนหายใจยาวและมองไปที่เกรแฮมที่อยู่ข้าง ๆ เขาเกรแฮมไม่ได้อยู่ในสภาพที่พร้อมและดูคล้ายจะหลับตาเพื่อหลีกหนีจากทุกสิ่งทุกอย่าง เกรแฮมนั่งขัดสมาธิขณะที่เริ่มฟื้นฟูบาดแผลของตัวเองชายสวมหน้ากากก็ไม่ได้อยู่ในสภาพที่พร้อมกว่ากันมากนัก อาการบาดเจ็บของชายสวมหน้ากากนั้นนับว่าดีกว่าเกรแฮมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เฟนด์เองก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน แต่เมื่อเทียบกับทั้งสองคนแล้ว อาการบาดเจ็บของเขาเทียบอะไรไม่ได้เลยก่อนหน้านี้เขาได้ใช้โอสถฟื้นฟูมาก่อนแล้ว ดังนั้นเฟนด์จึงรู้สึกดีขึ้นมากแล้ว! สายตาเย็นชาของชายสวมหน้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2343

    ชายสวมหน้ากากประกาศเสียงก้องว่า "อย่าคิดว่าแค่เพราะนายมีผลงานดีกว่าแล้วฉันจะแพ้ให้กับนาย! ฉันจะบอกนายให้นะ…ถ้าฉันได้อยู่ในสถานะที่พร้อมที่สุด หรือหากว่าฉันมีระดับพลังยุทธในระดับที่เคยมี นายไม่มีวันจะเอาชนะฉันได้หรอก!”คนอื่น ๆ อาจไม่เข้าใจความนัยที่ซ่อนอยู่ในคำพูดของชายสวมหน้ากาก แต่เฟนด์เข้าใจมันได้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง นั่นก็เพราะว่าเขาเคยสัมผัสกับพลังที่แท้จริงของชายสวมหน้ากากมาแล้วในฐานะคนที่ทะลวงเข้าสู่ระดับผลึกวสันต์แล้ว เพื่อที่ชายสวมหน้ากากจะได้เข้ามาที่นี่เขาได้ใช้โอสถในการลดระดับพลังยุทธของตัวเองลง! ชายสวมหน้ากากพูดถูก หากเขาไม่ได้ลดระดับพลังยุทธของตัวเองลงแล้วล่ะก็ เฟนด์คงไม่มีโอกาสเทียบเคียงเขาได้เพราะอย่างไรเสียเฟนด์ก็เพิ่งอยู่ในขั้นกลางของระดับแรกกำเนิดเท่านั้น หากเฟนด์สามารถทะลวงเข้าถึงระดับผลึกวสันต์ได้ ชายสวมหน้ากากก็คงไม่อาจเป็นปัญหาสำหรับเขาได้!เฟนด์สูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ดวงตาของเขาเป็นประกายขณะที่เขาครุ่นคิดอย่างลึกซึ้ง ทันใดนั้นเขาก็เกิดความกังวลขึ้นในใจ หากชายคนนั้นถูกบีบจนเขาไม่แยแสต่อสิ่งใดจนสามารถกลับไปยังระดับผลึกวสันต์ได้ เฟนด์อาจจะตายขึ้นมาจริง ๆ!เมื่

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2344

    การที่ใครสักคนจะกลืนโอสถขัดเกลาวิญญาณโดยไม่ได้เตรียมตัวไว้ล่วงหน้าย่อมเป็นเรื่องยากอย่างไม่น่าเชื่อ นั่นคือสิ่งที่ทุกคนรู้ แต่ว่าพวกเขากลับไม่รู้ว่าผลของโอสถขัดเกลาวิญญาณนั้นมีอิทธิพลมากมายเพียงใดมันสามารถบ่มเพาะพลังวิญญาณโดยใช้ผลของโอสถที่มีฤทธิ์สูงกว่าในการสลายวิญญาณและประกอบใหม่อีกครั้ง เป็นการบ่มเพาะวิญญาณ!การทำลายวิญญาณและประกอบกลับคืนมาในแต่ละครั้ง จะยิ่งช่วยบ่มเพาะวิญญาณมากยิ่งขึ้น มันจะตัดทอนความโสมมของจิตใจที่ไม่จำเป็นออกไป! ตัดแต่งมันจนคมกริบราวกับใบมีด!ความเจ็บปวดขณะที่วิญญาณถูกเฉือนไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะทนได้ บางคนถึงกับคลุ้มคลั่งจากการถูกทรมานแบบนั้น จำเป็นต้องอาศัยจิตวิญญาณอันแข็งแกร่งและความมุ่งมานะอย่างสูงเพื่อให้สามารถทนทานความเจ็บปวดเหล่านั้นไปได้!ชายสวมหน้ากากหัวเราะอย่างเย้ยหยันเบา ๆ "เวรเอ๊ย! ดูเหมือนเราทั้งคู่จะไม่ต้องสู้กันแล้วด้วยซ้ำ เพราะเดี๋ยวนายก็ตายไปเองอยู่ดี!"ในขณะนี้เฟนด์ไม่อาจต่อปากต่อคำกับชายสวมหน้ากากได้ แต่แม้เขาจะทำได้ เฟนด์ก็คงไม่ต่อปากต่อคำด้วยอยู่ดี ในขณะนั้น เฟนด์กำลังเพ่งสมาธิอยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้นในร่างกายของตัวเองเพียงอย่างเดียวเท่า

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2345

    “แม้แต่คนที่อยู่ในระดับผลึกวสันต์ หรือแม้กระทั่งระดับผลึกสวรรค์ก็ยังไม่กล้าสุ่มสี่สุ่มห้าลองมัน เขาคิดว่าตัวเองไหวเหรอ? กำลังรนหาที่ตายสิไม่ว่า!”เกรแฮมเหลือบมองชายสวมหน้ากาก เกรแฮมเกลียดชายสวมหน้ากากถึงขั้นสูงสุดแล้ว นั่นก็เพราะผู้ชายคนนั้นทำให้เกรแฮมต้องประสบกับปัญหามากมายและยังฆ่าศิษย์จากสำนักสหัสบรรณไปไม่น้อยด้วยเดิมทีเขาอยากจะเพิกเฉยต่อชายสวมหน้ากาก แต่เมื่อได้ยินคำพูดที่ถือดีของชายสวมหน้ากากแล้ว เกรแฮมก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากอย่างเย็นชาว่า "นายมักจะประเมินเฟนด์แบบนี้ตลอดเลยนะ แต่ก็นายไม่ใช่เหรอที่มองเขาผิดไปอยู่ตลอดเวลา? อย่ามาวิจารณ์กันมั่ว ๆ นะ!”จู่ ๆ ใบหน้าของชายสวมหน้ากากก็แดงก่ำด้วยความโกรธ และอยากจะเข้าไปเล่นงานเกรแฮมเสียเดี๋ยวนี้! ขณะที่ชายสวมหน้ากากกำลังจะตอบโต้ เฟนด์ที่อดทนจนถึงขีดสุดก็ส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด "อ๊า..."แต่เสียงร้องของเฟนด์ถูกกลั้นเอาไว้ เขาปิดปากแน่น ไม่อยากให้ใครได้ยินเสียงร้องเนื่องจากความเจ็บปวดของตัวเองแต่เนื่องจากความเจ็บปวดที่เขาต้องทนทุกข์ทรมาน ร่างกายของเขาจึงสั่นสะท้านยิ่งขึ้นไปอีก เขาสั่นอย่างรุนแรงจนกล้ามเนื้อทุกส่วนในร่างกายของเ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2346

    “ในตอนที่พลังวิญญาณของเฟนด์ที่ใช้ในการสนับสนุนการสร้างวิญญาณของเขาขึ้นมาใหม่หมดลง วิญญาณของเขาก็จะแหลกสลาย! หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น จะไม่ใช่แค่การบาดเจ็บสาหัสเท่านั้น แต่เฟนด์อาจจะถึงแก่ความตายก็เป็นได้”คำพูดของเบนจามินทำหน้าที่เป็นเครื่องเตือนใจให้ทุกคน นั่นก็เพราะพวกเขาส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับโอสถขัดเกลาวิญญาณมากนัก แต่กลับกันเบนจามินไม่ได้เป็นเพียงผู้ฝึกยุทธที่มีพรสวรรค์เท่านั้น แต่ยังเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุรุ่นต่อไปอีกด้วยเขาเข้าใจเรื่องโอสถมากกว่าคนทั่วไป ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจเลยที่คำพูดของเขาจะน่าเชื่อถือ อิเซยาห์ทำท่าราวกับคนในครอบครัวของตัวเองกำลังจะตาย "แล้วพวกเราจะทำยังไงดี?!"ในขณะนั้น เขาไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรได้อีกนอกจากพูดออกมาแบบนั้น ใบหน้าของเนลสันเองก็กังวลไม่แพ้กัน นับตั้งแต่ที่เฟนด์กลืนโอสถขัดเกลาวิญญาณลงคอไป เนลสันก็คลายความกังวลลงไม่ได้เลยแม้แต่วินาทีเดียวเขาส่ายหน้าเล็กน้อย ไม่มีคำตอบให้กับอิเซยาห์ นอกจากเบนจามินแล้ว ทุกคนก็เงียบเป็นเป่าสาก เบนจามินมองอิเซยาห์ด้วยสายตามีนัยยะ เขารู้ว่าอิเซยาห์เป็นศิษย์ของตำหนักสองกษัตริย์เช่นเดียวกับเฟนด์หากเกิ

บทล่าสุด

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

DMCA.com Protection Status