ศัตรูสามคนรายล้อมเฟนด์ สายตาของพวกเขาเร่าร้อนไปด้วยความเคียดแค้น แต่ก็ยินดีที่จะได้บดขยี้เฟนด์จนเป็นชิ้น ๆ เฟนด์ไม่ลงรอยกับคนทั้งสาม และเขารู้ว่าอีกฝ่ายสามารถเข้ามารุมทึ้งฉีกเลือดเนื้อของเขาได้ขณะนี้เฟนด์ตกอยู่ในความโกลาหล เขารู้ว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในอันตรายอย่างยิ่ง เพราะศัตรูกำลังจะทรมานเขาจนตาย เขาอยากจะหลุดพ้นจากสถานการณ์นี้ไปให้ได้ แต่ร่างกายของเขาให้ความรู้สึกราวกับถูกโบกทับด้วยปูนซีเมนต์ เขาขยับไปไหนไม่ได้ด้วยซ้ำลมหนาวพัดผ่านจอนผมของเขา และหัวใจของเขาก็เต้นรัว เขาหันหลังกลับไปและเห็นว่าชายสวมหน้ากากกำลังถือมีดสั้นอยู่ในมือ ขณะที่เขาเข้าใกล้เฟนด์ ส่วนอีกสองคนที่เหลือก็เคลื่อนไหวเช่นกัน พวกเขาทั้งสามมีอาวุธแหลมคมอยู่ในมือด้วยกันทั้งนั้น และเขารู้ว่าพวกเขากำลังจะทำอะไรแน่นอนว่าสิ่งที่เขากลัวที่สุดกำลังเกิดขึ้นทันใดนั้น ความคิดแวบเข้ามาในหัวของเฟนด์ ในขณะนั้นเองเฟนด์ดูเหมือนจะตระหนักได้ในทันที และสีหน้าของเขาก็แข็งทื่อไปไม่สิ… ทำไมสิ่งที่เขากลัวที่สุดถึงเกิดขึ้นกับเขาได้? เพียงไม่กี่วินาทีก่อนที่เขาคิดว่าชายสามคนจะเลาะกระดูกเขาจนเกลี้ยง และในตอนนั้นเอง พวกเขาก็ก้าวเข้ามาหา
อย่างไรก็ตามเฟนด์ไม่ได้คิดแค่นั้นอีกเมื่อเขาเห็นการเปลี่ยนแปลงในดวงตาของนักรบแห่งสุญญะ ร่างเงาพวกนี้สติปัญญาเป็นของตัวเอง!นี่…มันชักจะเกินไปแล้ว…เฟนด์รู้สึกกระวนกระวายใจเพราะเขาไม่สามารถบอกได้ว่าตัวเองรู้สึกเช่นไร สิ่งเหล่านี้คืออะไร?“ปล่อยผมไป! ผมขอโทษ! มันเป็นความผิดของผมเอง! ผมจะไม่ทำอีกแล้ว!” เสียงร้องอันน่าสะเทือนใจดังมาจากทางซ้ายของเขา และเฟนด์ก็หันกลับไปมอง เขาสังเกตเห็นว่าเกือบทุกคนหยุดนิ่งอยู่กับที่ แต่ใบหน้าของพวกเขาแสดงอารมณ์ออกมาอย่างชัดเจน เสียงร้องดังกล่าวมาจากศิษย์ของเผ่าปฐมหายนะร่างกายของศิษย์คนนั้นแข็งเกร็ง ในขณะที่ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ดูเหมือนเขาจะอ้อนวอนน้ำตาไหลอาบแก้ม จนเสื้อที่สวมอยู่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา เห็นได้ชัดว่าเขาร้องไห้มาระยะหนึ่งแล้ว แต่เขาไม่ใช่คนเดียวที่มีปฏิกิริยาในลักษณะนี้ เนื่องจากศิษย์ส่วนใหญ่อยู่ในสถานะการณ์เดียวกัน ขณะที่เฟนด์มองไปรอบ ๆไม่ใช่เรื่องยากเลยที่เฟนด์จะจินตนาการออกว่าคนเหล่านี้ตกอยู่ในภาพลวงตาแบบไหน เมื่อนึกย้อนไปถึงสิ่งที่เขาประสบมากับตัวเองก่อนหน้านี้ ภาพลวงตานั้นค่อย ๆ เปิดเผยความกลัวที่ฝังอยู่ในใจของเหล่าศิษย
เฟนด์และธีโอทำให้เกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่ก่อนหน้านี้และศิษย์ของเผ่าปฐมหายนะก็ไม่กล้าติดตามธีโอไปหาเรื่องตำหนักสองกษัตริย์ พวกเขาต่างก็มุ่งความสนใจไปที่ด้านนั้นทั้งหมด ดังนั้นศิษย์คนนี้จึงรู้สึกประหลาดใจอย่างยิ่งเมื่อรู้ว่าคนคนนี้คือใครผู้ชายคนนี้เป็นคนแรกที่หลุดพ้นออกมาจากภาพลวงตาได้? เขาแค่โชคดีหรือว่าเขามีความสามารถจริง ๆกันแน่? ศิษย์ของเผ่าปฐมหายนะมีสีหน้ามืดมน ระดับพลังยุททธของเขาสูงกว่าเฟนด์อยู่หนึ่งระดับและอยู่ในขั้นสูงสุดของระดับแรกกำเนิดทุกคนให้ความสนใจกับความวุ่นวายในตอนที่ธีโอสร้างปัญหาให้เฟนด์เนื่องจากชายผู้นี้อยู่เพียงขั้นกลางของระดับแรกกำเนิด พวกเขาจึงไม่ได้สนใจเขามากนัก พวกเขาได้ยินมาว่าเขาเป็นเพียงศิษย์ของผู้อาวุโสและไม่ใช่ศิษย์ที่ถูกเลือกด้วยซ้ำศิษย์ของเผ่าปฐมหายนะไม่สามารถยอมรับความจริงที่ว่าคนที่เขาดูถูกนั้นแข็งแกร่งกว่าเขาได้ เขาไม่มีแก่ใจจะมารักษาบาดแผลของตัวเองเลย"อ๊าก!" ชายสวมหน้ากากตะโกนเสียงดัง และสติก็ค่อย ๆ กลับคืนมาสู่ดวงตาของเขา เขาหอบอย่างหนัก ในที่สุดเขาก็หลุดพ้นจากภาพลวงตาได้เพล้ง!ร่างเงาของนักรบแห่งสุญญะที่ยืนอยู่ต่อหน้าเขาจางหายไป ไม่มีอะไรม
ในขณะนี้ ผู้คนจำนวนมากที่อยู่รอบตัวเขาค่อย ๆ หลุดพ้นจากการถูกคุมขังทางจิต พวกเขาหลายคนดูเหมือนจะอยู่ในภาวะตื่นตระหนกและไม่ได้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์เต็มร้อยนัก ในตอนที่หลุดพ้นออกมาจากภาพลวงตาได้ หลังจากที่ภาพลวงแห่งสุญญะได้เล่นงานจุดอ่อนของหัวใจมนุษย์ทำให้พวกเขาเห็นในสิ่งที่พวกเขาไม่อยากจะเผชิญเหล่าศิษย์ต่างรู้สึกหวาดกลัวและรู้สึกขอบคุณที่รอดพ้นจากภาพลวงตามาได้"โอ้พระเจ้า! นี่มันเป็นทักษะประเภททักษะลวงตางั้นเหรอ? มันช่าง...แข็งแกร่งซะจนคิดว่าทุกอย่างเป็นเรื่องจริง! ฉันเกือบไม่รอดแล้ว!"“เย้! ศิษย์พี่รอง คุณก็ได้สติแล้วเหมือนกันเหรอ? คุณฟื้นสติได้เร็วกว่าเราศิษย์สำนักอื่นมาก!”ในเมื่อมีผู้ชนะก็ต้องมีผู้แพ้ด้วยเช่นกัน หลายคนล้มเหลวและถึงกับอาเจียนเป็นเลือดเนื่องจากจิตใจอ่อนแอ คนเหล่านี้ถูกแสงสีส้มอมแดงปกคลุมอยู่เช่นนั้น และไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อีกต่อไปเนื่องจากพวกเขาไม่ผ่านการทดสอบ อย่างไรก็ตาม พวกเขาส่วนใหญ่ต่างประสบความสำเร็จ และมีอัตราความสำเร็จสูงถึงเจ็ดในสิบส่วนทีเดียว ผู้คนจำนวนนี้คือผู้ที่ประสบความสำเร็จในการทดสอบ และนักรบแห่งสุญญะที่อยู่เบื้องหน้าพวกเขาก็หายไปในไม่ช้า ก็มีค
ชายสวมหน้ากากถอนหายใจยาว ในขณะที่เขาหรี่ตามองไปยังเฟนด์ การจ้องมองของเขาอาจรุนแรงจนทำให้เฟนด์ต้องหันมามองเขา แม้ว่าเขาจะอยู่ห่างออกไปค่อนข้างไกล แม้ว่าหน้ากากจะปกปิดใบหน้าของเขาอยู่ แต่เฟนด์ก็ยังสามารถบอกได้ว่าสีหน้าที่แสดงออกที่อยู่ภายใต้หน้ากากนั้นเป็นอย่างไรจากการมองเพียงแค่ดวงตาของเขามันเป็นสิ่งที่รับไม่ได้หรือเปล่า? หรือเป็นความริษยา? บางทีอาจจะเป็นความขมขื่นก็เป็นได้ใช่ไหม?เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา หากชายสวมหน้ากากจะรู้สึกเช่นนั้นแล้วจะสำคัญตรงไหน? คนแพ้ยังไงก็แพ้อยู่วันยังค่ำ รอยยิ้มเยือกเย็นของเฟนด์กระตุ้นความโกรธของชายสวมหน้ากาก“นายคงพอใจในตัวเองมากนักสินะ คิดว่าสามารถเอาชนะฉันได้แล้วหรือไง นายเร็วกว่าฉันก็จริง แต่นั่นก็แค่แปลว่านายมุ่งมั่นมากกว่าฉัน ถ้านายแข็งแกร่งกว่าฉันจริง ๆ แล้วตลอดเวลาที่เราต่อสู้กันมาทำไมนายถึงเอาแต่หนีล่ะ?”เสียงของชายสวมหน้ากากนั้นทั้งดังและชัดเจน แม้ว่าเขากับเฟนด์จะอยู่ห่างกันก็ตามเฟนด์เลิกคิ้ว ไม่ได้โกรธกับคำพูดของเขา "ผมรู้ว่าทักษะเราแตกต่างกันอย่างไร แต่อย่าได้ลืมความจริงว่าระดับการบ่มเพาะของคุณนั้นสูงกว่าผมอยู่ หากเราทั้งคู่มีระดับการบ่มเพ
ความสนใจของทุกคนมุ่งเน้นไปที่ชายคนนั้น นักรบแห่งสุญญะที่ยืนอยู่ข้างหน้าเขาเริ่มเคลื่อนไหวในขณะที่ศิษย์เริ่มเรียกใช้ทักษะยุทธใบมีดสีม่วงในมือของนักรบเปล่งแสงเจิดจ้า ในขณะที่นักรบรับมือกับคลื่นโลหิตที่พุ่งมาข้างหน้าแต่ทว่าในขณะนั้น ก็เกิดเสียงกริ๊กดังขึ้นเมื่อออร่าสีม่วงที่อยู่บนร่างของนักรบแห่งสุญญะเปล่งประกายเจิดจ้าจนทุกคนต้องหลับตาลง นักรบแห่งสุญญะจางหายไปในแสงสีม่วงในวินาทีต่อมาแสงสีม่วงดังกล่าวก็สลายไป แต่ภาพที่น่าตกใจก็ปรากฏขึ้นล่วงหน้าทุกคน นักรบแห่งสุญญะแบ่งออกเป็นสองร่าง ทั้งคู่ถือดาบสีม่วงและเผชิญหน้ากับการโจมตีของศิษย์จากสำนักสหัสบรรณ"ทักษะลวงตาอีกแล้ว! คราวนี้เป็นภาพลวงตา!" ศิษย์จำนวนหนึ่งอุทานด้วยความตกใจศิษย์จากสำนักสหัสบรรณก็คิดเช่นเดียวกัน ศิษย์คนนั้นขมวดคิ้วและจ้องมองนักรบแห่งสุญญะที่แบ่งออกเป็นเป็นสองร่างก่อนจะพูดอย่างเย็นชา "แกหลอกฉันไม่ได้หรอก!"ดาบยาวหนึ่งเมตรของเขาเปลี่ยนทิศทาง ก่อนจะฟาดฟันไปยังนักรบแห่งสุญญะที่อยู่ด้านซ้ายการระเบิดครั้งใหญ่ดังก้องไปทั่วสถานที่ และแสงสีม่วงก็ปะทะเข้ากับรัศมีสีเลือด มันส่งเสียงแหลมคมบาดหูดังสนั่น แสงสีม่วงเปล่งประกายอย่า
ก่อนที่ความสับสนของเหล่าศิษย์จะตกผลึก ฝูงชนสังเกตเห็นว่านักรบแห่งสุญญะที่ถูกฟันกลายเป็นจุดแสงสีม่วงในทันที และถูกนักรบแห่งสุญญะทางด้านขวาดูดกลืนพลังของร่างนั้นไปอย่างรวดเร็วภาพนี้ทำให้ทุกคนถึงกับหายใจไม่ทั่วท้อง ร่างที่ถูกแทงไปก่อนหน้านี้ไม่ใช่ร่างที่แท้จริง!ขณะนี้มีนักรบแห่งสุญญะยืนอยู่ต่อหน้าศิษย์ของสำนักสหัสบรรณเพียงแค่ร่างเดียว ศิษย์คนนั้นเบิกตากว้างในขณะที่เขาจ้องมองไปยังนักรบแห่งสุญญะด้วยความไม่เชื่อจากนั้นเขาก็ตระหนักว่าเขาเดาผิด…แต่มันก็สายไปเสียแล้ว ดาบของนักรบแห่งสุญญะอยู่ตรงหน้าศิษย์แล้วทุกคนได้ยินเสียงของการถูกแทงศิษย์จากสำนักสหัสบรรณได้รับบาดแผลขนาดใหญ่จากดาบของนักรบแห่งสุญญะอย่างไม่อาจป้องกันการโจมตีได้ แผลของเขาลึกไปตั้งแต่ไหล่ซ้ายถึงเอวด้านขวาศิษย์ของสำนักสหัสบรรณกระอักเลือดออกมาและทรุดตัวลงกับพื้นทันที อาการบาดเจ็บที่เขาได้รับจากการฟันนั้นทำให้เขาไม่มีเรี่ยวแรงเหลือที่จะต่อสู้ได้อีกต่อไป เลือดของเขาเปียกชุ่มเสื้อผ้าที่สวมอยู่ และเหล่าศิษย์จากสำนักสหัสบรรณที่รู้จักกับเขาต่างก็ตะโกนเสียงดังว่า "ฮิวส์! นายเป็นยังไงบ้าง?!"ในขณะนั้น ฮิวส์ไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะ
นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับศิษย์ที่จะพิสูจน์ว่าพวกเขาแข็งแกร่งกว่าเฟนด์มากแค่ไหนในทางกลับกันเฟนด์ไม่ได้ใส่ใจกับความคิดเล็กคิดน้อยของพวกเขาเลย เขาหันหน้าหนีและไม่แยแสต่อคนเหล่านั้นแต่ถึงเวลานั้นกริฟฟินดันเข้าใจผิดว่าเฟนด์ทำเช่นนี้เพราะเขากังวลใจ ดังนั้นกริฟฟินจึงออกปากเย้ยหยันอย่างเย็นชา “แน่นอนว่านายคงไม่ได้คิดว่าผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เป็นเพราะทักษะของนายแข็งแกร่งกว่าทุกคนที่นี่หรอก ใช่ไหม?”เฟนด์ขมวดคิ้ว เขาไม่อยากยุ่งกับแมลงรำคาญตัวนี้จริง ๆ แต่ในทางกลับกันหากเขาไม่ตอบโต้ คนอื่นจะคิดว่าเขากลัวอีกฝ่ายถึงได้ไม่กล้าที่จะตอบเขาหันมาอย่างค่อนข้างโกรธจัด “ผมไม่เคยอยากมีอำนาจเหนือใคร ช่วยหุบปากสักหน่อยได้หรือเปล่า ถ้าอยากจะพิสูจน์ฝีมือกันจริง ๆ ก็มาหาผมสิ เสียเวลาพูดจาไร้สาระไปทำไม?!”ใบหน้าของกริฟฟินแดงด้วยความโกรธขณะที่เขาชี้ไปที่เฟนด์ "ดีมาก! ฉันจะให้นายได้สัมผัสว่าช่องว่างระหว่างทักษะยุทธของเรานั้นห่างไกลกันแค่ไหน!"ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น ก็ได้ยินเสียงโครมครามดังขึ้นรอบตัวพวกเขา ศิษย์จากเผ่าปฐมหายนะถูกทุบตีและกระอักเลือดอยู่บนพื้น! เขาเป็นคนที่สองที่เริ่มเคลื่อนไหวหลัง