ทันทีทันใดหลังจากพูดไปแบบนั้น เจอรัลด์ก็ยกมือทั้งสองข้างขึ้นมา และยัดบางอย่างเข้าไปในปากของพวกเขา! “น นายเพิ่งป้อนอะไรให้พวกเรากัน?!” พวกเขาทั้งคู่ต่างพูดละล่ำละลัก รู้สึกมึนงงกับเหตุการณ์ที่พลิกผันนี้ ไม่นานที่ผู้ชายสองคนนั้นจะตระหนักได้ว่าไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม มันเจ็บปวดมากเหมือนตกนรก ผลกระทบแทบจะในทันที ขณะผู้ชายทั้งคู่เริ่มกุมท้องของพวกเขาและกลิ้งไปกับพื้นด้วยความเจ็บปวด ด้วยสีหน้าทรมานที่เห็นได้ชัดมากบนใบหน้าของพวกเขา เกสท์เองที่ยืนเงียบ ๆ อยู่ด้านข้างตลอดเวลา ก็ถึงกับตัวแข็งทื่อเพราะความกลัว ขณะที่เขาเฝ้ามองพวกเขากลิ้งเกลือกไปมาด้วยความเจ็บปวด “ก็แค่หนอนพิษ เข้าใจไว้ด้วยว่าหนอนพวกนี้อาจจะกลืนกินอวัยวะภายในของพวกนายไปแล้วก็ได้ ขณะที่พวกเราคุยกัน ไม่นานหรอกก่อนที่ความทรมานจะสิ้นสุดลงและนายทั้งคู่ก็จะตาย” เจอรัลด์กล่าวด้วยรอยยิ้มที่เย็นชาบนใบหน้าของเขา “ด ได้โปรดไว้ชีวิตของพวกเราด้วย! ด ได้โปรด…” ผู้ชายคนนั้นเริ่มอ้อนวอน “งั้นก็ต่อเมื่อนายตอบคำถามทั้งหมดของฉัน อย่างแรก ทำไมนายถึงย่องตามพี่น้องเฟนเดอร์สันไป? นายเป็นสมาชิกของตระกูลไหนกัน?” แม้ผู้ชายทั้งคู่ได้สาบานว่า
ตามที่ชายชราบอกเป็นนัย โจชัวเคยพบกับเฟนเดอร์สันเมื่อสองสามปีก่อนจริง ความจริงแล้ว ก็เป็นเฟนเดอร์สันนั่นเองที่ต้องการจะจ้างโจชัวให้เป็นหมอส่วนตัวของตระกูลพวกเขาในตอนนั้น แม้พวกเขาเสนอเงินเดือนที่สูงลิ่วให้เขา แต่สุดท้ายโจชัวก็ยังคงปฏิเสธข้อเสนอพวกเขา “ยินดีอย่างยิ่งจริง ๆ ครับ” โจชัวตอบกลับด้วยรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้าของเขา เป็นตอนนั้นเองที่โจชัวสังเกตเห็นใบหน้าใหม่ หรืออย่างน้อยก็ครึ่งใบหน้าใหม่ ชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังยืนอย่างอ่อนน้อมถัดจากโจชัวขณะที่เขาถือชุดเครื่องมือแพทย์ไว้ในมือ อย่างไรก็ดี สิ่งที่แปลกประหลาดเกี่ยวกับเขาก็คือความจริงที่ว่าคนหนุ่มคนนั้นสวมหน้ากากครึ่งซีก มันปิดบังใบหน้าส่วนบนของเขา และมันก็ไม่ต่างจากหน้ากากงานแฟนซี “ผมขอทราบได้ไหมว่านี่อาจเป็นใครกันครับ?” ไบรสันถามด้วยรอยยิ้ม “อ อ่า…! อ่า!” คนหนุ่มที่สวมหน้ากากตอบกลับ ขณะที่เขาชี้ไปที่ปากของตัวเองก่อนจะโปกมือเล็กน้อย จากนั้นเขาก็ชี้ไปที่โจชัวก่อนจะวางฝ่ามือของเขาไว้ใกล้หัวใจของเขา เมื่อเห็นแบบนั้น มินดี้จึงหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะพูดขึ้นมา “แซนเดอร์สันเป็นลูกมือฝึกหัดของผู้เชี่ยวชาญเจนคินสันค่ะ คุณปู่! เขาเป็นใบ้ดั
ด้วยมือเล็ก ๆ ของมินดี้ที่นุ่มนวลและอบอุ่นมาก ไม่นานก่อนที่เจอรัลด์จะเริ่มรู้สึกแปลกประหลาดขึ้นมา ก่อนที่เขาจะทันได้พูดอะไร ทันใดนั้นมินดี้ก็เริ่มลากเขาไปยังม้านั่งหินเล็ก ๆ สองสามตัวในสวนที่พวกเขาทั้งคู่นั่งอยู่ “นายรู้ไหม แซนเดอร์สัน ฉันสงสัยมาตลอดว่าทำไมฉันถึงคุ้นกับนายมากขนาดนี้…หลังจากคิดดูแล้ว ฉันคิดว่ามันเป็นเพราะประสบการณ์ในอดีตของพวกเรานั้นคล้ายคลึงกัน… แม้มันเป็นเรื่องจริงที่ฉันเป็นหญิงสาวที่ร่ำรวยซึ่งใช้ชีวิตหรูหรามาตลอดชีวิตของฉัน ในขณะที่นายมีอดีตที่ยากลำบากมาก แถมยังประสบกับอุบัติเหตุที่น่าสังเวชอีกด้วยซ้ำ แต่พวกเราทั้งคู่ก็คล้ายกันในด้านที่ว่าพวกเราไม่ได้มีเพื่อนที่ดีเยี่ยมตลอดทั้งขีวิตของพวกเราเลย” มินดี้อธิบาย เมื่อได้ยินแบบนั้น เจอรัลด์เพียงพยักหน้าเล็กน้อย “ฉันไม่พอใจกับความจริงมากมายเมื่อฉันยังเด็ก รู้ไหม? นายอาจไม่รู้ แต่เพราะครอบครัวหนึ่ง ทั้งแจสมินและฉันก็ถูกกักบริเวณอยู่ภายในบ้านมาเป็นเวลานานมากที่สุด นั่นคล้ายกับการทรมานสำหรับฉัน เพราะฉันเป็นคนประเภทที่ไม่สามารถอยู่นิ่ง ๆ กับที่เป็นเวลานานได้…ฉันมั่นใจว่านายสามารถเชื่อมโยงเรื่องนั้นได้ในระดับหนึ่ง…ไม่ว่
หลังจากเห็นเขาพยักหน้า จากนั้นมินดี้ก็พูดขึ้นมา “ไปตรวจดูแจสมินก่อนเถอะ เพราะเธอฝึกฝนอย่างมากเมื่อไม่นานมานี้ มันอาจเป็นปัญหาเดิมอีกแล้วก็ได้ ฉันจะรอนายอยู่ที่นี่คืนพรุ่งนี้ เพื่อที่เราจะได้คุยกันอีก!” มินดี้กล่าว จากนั้นเจอรัลด์ก็พยักหน้าตกลง ขณะที่เขาเริ่มตามคนรับใช้หญิงไปที่ห้องของแจสมินพร้อมกับอุปกรณ์ทางการแพทย์ในมือ เมื่อพวกเขาไปถึงที่นั่น เจอรัลด์ได้รับการทักทายด้วยภาพของแจสมินที่สวมชุดนอนสตรี ผมของเธอห้อยหลวม ๆ รอบไหล่ของเธอ และรูปลักษณ์ราวกับเทพธิดาของเธอก็ทำให้เจอรัลด์ถึงกับตกตะลึงไปชั่วขณะ “เนื่องจากนายอยู่กับผู้เชี่ยวชาญเจนคินสันในช่วงเช้าเป็นส่วนใหญ่ ฉันรู้สึกว่ามันจะเป็นการไม่สุภาพที่รบกวนนาย ฉันเกรงว่าฉันสามารถขอความช่วยเหลือของนายได้ในตอนกลางคืนเท่านั้น” แจสมินกล่าวด้วยรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้าของเธอ“อ่า! อ่า!” เจอรัลด์ตอบกลับ ขณะที่เขาแสดงท่าทางเป็นการตอบสนอง บ่งบอกว่าเขาไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับมันเลย เมื่อเห็นแบบนั้น แจสมินจึงนั่งลงก่อนจะพูดขึ้นมา “ขอบคุณนะ…คือ ไหล่ของฉันเจ็บปวดเป็นครั้งคราวนับตั้งแต่ที่มันได้รับบาดเจ็บในอดีต เนื่องจากการฝึกฝนของฉันรุนแรงยิ่งขึ้นเมื
มันไม่น่าประหลาดใจที่ทำไมเขาถึงทำผิดพลาดไปแบบนั้นอย่างไม่ตั้งใจ ท้ายที่สุดแล้วเจอรัลด์ก็รู้สึกตกตะลึงที่รู้ว่าจริง ๆ แล้วเธอมีความรู้สึกให้เขาเล็กน้อย เท่าที่เจอรัลด์จำได้ เขาเคยสนทนากับแจสมินสั้น ๆ เท่านั้น แม้เขายอมรับว่าหลอกเธอเล็กน้อยในระหว่างเหตุการณ์บางอย่างก็ตาม แต่เมื่อคิดว่าเธอจะลงเอยด้วยการตกหลุมรักเขาเพียงเพราะเรื่องนั้นล่ะก็… “ยังไงซะ เมื่อเฟนเดอร์สันไปหาตระกูลคลอฟอร์ดมานานสักพักแล้ว พวกเราก็ได้รู้ว่าเขาหายตัวไป แม้ฉันส่งคนมากมายออกไปค้นหาเขา มันก็ผ่านมากว่าครึ่งปีแล้วในตอนนี้ แต่ก็ยังคงไม่มีข่าวคราวใดเกี่ยวกับเขาเลย…ฉันยังคงสงสัยบางครั้งว่าเขาเลือกโดยสมัครใจหรือไม่…” แจสมินกล่าวด้วยน้ำเสียงค่อนข้างเศร้าสร้อย “…ไม่ว่าจะยังไง นายเสร็จหรือยัง?” แจสมินถาม ขณะที่เธอหันไปมองแซนเดอร์สัน เพียงแค่นั้น เจอรัลด์ก็พยักหน้าก่อนจะแสดงท่าทางให้เธอเพื่อไปพักผ่อนให้ดี ๆ และในขณะที่เขากำลังจะออกไปพร้อมกับชุดเครื่องมือทางการแพทย์ของเขา ขณะนั้นเขาก็เห็นเครื่องมืออธิษฐานบางอย่างวางอยู่รอบห้องของเธอแวบ ๆ เขทขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นเขาก็ชี้ไปยังของดังกล่าวก่อนจะพูด “อ่า อ๋า?” เข
“ดื่ม!” ตามที่แจสมินได้พูดไว้คืนก่อน งานที่โบสถ์ถูกจัดขึ้นในเมืองตอนเช้าของวันต่อมา ด้วยทุกอย่างที่ดูยิ่งใหญ่มาก จึงไม่แปลกที่ทำไมมันถึงพลุกพล่านไปด้วยผู้คนกัน “ช่างมีชีวิตขีวาจริง!” มินดี้กล่าวอย่างตื่นเต้น ขณะที่เธอยืนอยู่ในท่ามกลางฝูงชน “เธอช่วยสงบเสงี่ยมมากกว่านี้หน่อยได้ไหม มินดี้?” แจสมินพูดอย่างค่อนข้างช่วยไม่ได้“ทำไมฉันควรทำด้วยล่ะ? วันนี้เป็นวันที่น่าตื่นเต้น! เธอไม่รู้สึกเหรอ? เมื่อเห็นผู้คนทั้งหมดที่นี่จึงทำให้ฉันรู้สึกมึนหัวไปหมด!” มินดี้ตอบกลับ ขณะที่แจสมินส่ายหัวของเธอ “นาน ๆ ทีก็ไม่เป็นไรหรอก ไม่ใช่หรือไงแจสมิน? ไปเดินเล่นกันสั้น ๆ ก่อนมุ่งหน้าไปยังโบสถ์เพื่ออธิษฐานขอพรกันในภายหลังเถอะ” อาสองของพวกเธอกล่าว ขณะที่เธอหันไปมองคนหนุ่มที่ตอดตามพวกเธอจากด้านหลังอยู่เงียบ ๆ ตลอดเวลามานี้ “ฉันขอโทษที่เธอต้องมาเห็นด้านเด็ก ๆ ของครอบครัวของเราด้วยนะ” อาสองกล่าว ขณะที่เธอยิ้ม ในการตอบสนอง เจอรัลด์ส่ายหัวของเขา ด้วยความสัตย์จริง แม้ว่าพวกเธอห้ามไม่ให้เจอรัลด์ติดตามมาด้วย เขาก็จะยังคงทำมันอย่างลับ ๆ อยู่ดี อย่าลืมว่า เขาจะไม่ทำได้ยังไง ในเมื่อเขารู้ดีว่าชุยเลอร์กำลัง
เธอทำแบบนั้น เนื่องจากเวลาครึ่งปีก็แทบจะไม่พอเปลี่ยนนิสัยที่หยิ่งยโสของเธอได้เลย อย่างที่คาดไว้ เมอายังคงชอบที่จะอยู่ใกล้ผู้คนที่มีสถานะสูงในสังคม เหมือนวอร์เรน แจสมิน และมินดี้เท่านั้น ไม่มีใครตำหนิเธอสำหรับเรื่องนั้นได้จริง ๆ ไม่ว่าจะยังไง เจอรัลด์ก็ยุ่งมากเกินไปในการจับตาดูสภาพแวดล้อมของเขา จนไม่ได้สังเกตการเพ่งมองอย่างดูถูกจากทั้งเมอาและอิซาเบลเลยด้วยซ้ำ “เฮ้ แจสมิน ดูนั่นสิ! เห็นขนมหวานเล็ก ๆ ที่พวกเด็ก ๆ กำลังถืออยู่ไหม? ฉันชอบพวกมันมากเลย! ฉันสงสัยว่าพวกเขาซื้อพวกนั้นมาจากที่ไหน!” มินดี้พูดขึ้นสักพักต่อมา ขณะที่เธอชี้ออกหน้าต่างไปยังเด็กสองสามคนที่กำลังเดินผ่านไป ในเวลานี้กลุ่มนั่งอยู่ในร้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในขณะที่เพลิดเพลินกับการดื่มกาแฟกัน “โอ้ งั้นเหรอ? ฉันรู้ว่าพวกเขาขายมันพวกนั้นที่ไหน! มันอยู่ไกลขึ้นไปทางเหนือเล็กน้อย แต่ฉันสามารถพาเธอไปที่นั่นได้ถ้าเธอต้องการ!” เมอาตอบกลับ “นั่นยอมเยี่ยมไปเลย!” มินดี้กล่าวด้วยความตื่นเต้น ขณะที่เธอหันไปมองเจอรัลด์ จากนั้นมินดี้ก็ยิ้มและพูดขึ้นมา “เอาน่า แซนเดอร์สัน! มากับฉัน! อย่าลืมว่า นายก็ดูไม่เหมือนว่านายมีอะไรอื่นให้ทำอย
“ฮ่า! อย่างกับว่าพวกเราไม่รู้ว่าเธอเป็นใครงั้นแหละ! เธอคือมินดี้ คุณหนูรองแห่งตระกูลเฟนเดอร์สันไง! อีกอย่าง แจสมินก็กำลังดื่มกาแฟอยู่แน่นอน แต่เป็นอดีตไปแล้วแน่นอน เพราะเธอถูกจับไปแล้ว! เธอเป็นคนเดียวที่เหลือให้จัดการ! ตอนนี้ก็เดินไปซะ!” ผู้ชายที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้ากลุ่มสั่ง ขณะที่เขาผลักมินดี้ไปอย่างค่อนข้างกระโชกโฮกฮาก ทันทีที่เขากล่าวไปแบบนั้น ก็ได้ยินเสียงเครื่องยนต์กำลังเร่งเครื่องในระยะไกล ครู่ต่อมา ก็สามารถเห็นได้ว่ารถตู้ขนาดเล็กกำลังเร่งเครื่องผ่านฝูงชนมาทางพวกเขา! “เข้าไปในรถ!” ผู้ชายคนนั้นสั่งทันทีที่รถมาหยุดเสียงดังต่อหน้าพวกเขา โดยไม่มีทางเลือกอื่นใด ๆ ทั้งสามคนจึงทำตาม ณ จุดนั้น เจอรัลด์ยังคงครุ่นคิดอยู่ว่าเขาควรลงมือตอนนี้หรือรอต่อไปอีกสักหน่อย ท้ายที่สุดแล้ว แม้ว่าคนเหล่านี้มีปืนติดตัวกัน แต่เขาก็ไม่คิดว่าพวกเขาทั้งหมดเป็นเรื่องใหญ่อะไรขนาดนั้นจริง ๆ ในขณะนั้น ก็ได้ยินเสียงนิ่งดังมาจากวิทยุสื่อสาร โดยพูดว่า “นายเสร็จหรือยัง?” “เรียบร้อยครับ! มันง่ายมาก!” หัวหน้าคนนั้นตอบกลับ ขณะที่ทั้งสองคนยังคงคุยกันผ่านวิทยุสื่อสารต่อไป พอถึงจุดหนึ่ง ก็ได้ยินเสียงของแจสม
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ