“แล้วคุณเป็นใครกันครับ?” เจอรัลด์ถาม ในขณะที่หันไปมองเธอแบบเผิน ๆ‘ตบหัวคนอื่นเพื่อเป็นการทักทายเนี่ยนะ… ฉันเดาว่าเธอคงจะเสียสติไปแล้ว…’หลังจากที่เห็นยาน่าเดินเข้าไปตบหัวของเจอรัลด์จากด้านหลัง จอร์เจียและคนอื่น ๆ ก็รู้สึกกลัวจนตัวสั่น พอตั้งสติได้ สมาชิกในครอบครัวของจอร์เจีย รวมถึงแขกคนอื่นก็พากันรีบวิ่งไปหลบข้างหลังยาน่า“ต่อหน้าฉัน เธอยังจะกล้าทำตัวเสแสร้งอีกเหรอ?” ยาน่าถาม“เสแสร้ง? เราสองคนรู้จักกันด้วยเหรอ?” เจอรัลด์ตอบปฏิเสธ เขานึกไม่ออกจริง ๆ ว่าเธอเป็นใคร“ฮ่าฮ่า! มันคงต้องเป็นอย่างนั้นสินะ! บางทีนี่อาจจะช่วยเตือนความจำเธอได้! ฉันขอถามอะไรหน่อยก็แล้วกัน เธอเคยเรียนที่โรงเรียนประถมศึกษาเธิร์ด ในมณฑลเงียบสงบ ตอนเป็นเด็กหรือเปล่า?” ยาน่าแสยะยิ้ม“ใช่ ฉันเคยเรียนที่นั่น… ทำไมเธอถึงรู้เรื่องนั้นล่ะ…?” เจอรัลด์ตอบ พร้อมกับพยักหน้า“ฮ่า! เธอเคยเรียนในห้องสอง ตอนชั้นประถมสามใช่ไหม?” ยาน่าถามเพิ่มเติม“... ใช่ ฉันเคยจริง ๆ …” เจอรัลด์พูด เขาเริ่มรู้สึกถึงบางอย่างที่ผิดปกติ ท้ายที่สุดแล้ว ทุกเรื่องที่เธอพูดเป็นความจริง ตลอดระยะเวลาหกปีที่เขาเรียนที่โรงเรียนประถมแห่งนั้น เขาได้อย
ทุกคนหันไปมองยาน่าด้วยความตกใจ และไม่อยากจะเชื่อในคำพูดของเธอ“อย่าไปหลงเชื่อผู้ชายคนนี้นะคะ ทุกคน! ฉันเป็นคนที่รู้ความจริงว่าเขาไม่ใช่คุณคลอฟอร์ด! เขาชื่อเจอรัลด์ และเขาก็มาจากหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในมณฑลเงียบสงบ! เมื่อก่อนเขาก็เป็นแค่ไอ้ขี้แพ้จน ๆ คนหนึ่งเท่านั้น! ถ้าพวกคุณต้องการข้อพิสูจน์ ฉันจะสั่งให้คนไปหารูปเขาตอนเป็นเด็กมาให้ดูเดี๋ยวนี้เลย! และหลังจากนั้น พวกคุณจะต้องเชื่อคำพูดของฉันอย่างแน่นอน!”รูปภาพที่เธอพูดถึงคือ รูปหมู่ที่ถ่ายไว้ตอนที่พวกเขายังเรียนด้วยกัน ยาน่าเป็นคนที่ชอบเก็บสะสมรูปภาพ และเมื่อสักครู่นี้ เธอก็สั่งคนของเธอให้ไปนำรูปนี้มาให้ที่งานเลี้ยงเมื่อเธอนำรูปภาพไปให้ทุกคนดู พวกเขาก็เห็นรูปเจอรัลด์ตอนเป็นเด็กอยู่ในนั้นจริง ๆ!“ถ้าอย่างนั้น เขาก็เป็นเพื่อนร่วมชั้นของคุณชูทจริง ๆ น่ะสิ! ดูชุดที่เขาใส่ตอนนั้นสิ มันดูโกโรโกโสมากเลย!”ในขณะที่ทุกคนกำลังตะลึงงันกับสิ่งที่เกิดขึ้น จอร์เจียก็หัวเราะลั่นออกมา ก่อนจะพูดว่า “โธ่ ๆ เซเรนิตึ้ของฉัน! ไม่คิดเลยว่าเธอจะทำตัวต่ำตมได้ถึงเพียงนี้! เมื่อก่อนเธอเคยเป็นคนที่มีความคิดดีกว่านี้… ฉันรู้ว่าเธอยังรู้สึกเสียใจกับเรื่องท
ก่อนที่เจ้าหน้าที่เหล่านั้นจะทำอะไรเจอรัลด์ พนักงานต้อนรับที่นั่งอยู่บนโต๊ะตรงทางเข้ามาโดยตลอด ก็ตะโกนเสียงดัง “มีแขกส่งของขวัญล้ำค่ามาให้คุณหญิงจอร์เดน จากตระกูลสมิทค่ะ!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทุกคนก็เงียบเสียงลงทันที ในขณะที่ยาน่าและคนอื่น ๆ ต่างหันไปมองหน้ากันด้วยความตกใจ จอร์เจียก็เกิดอาการตัวสั่น จากนั้นทุกคนก็พร้อมใจกันหันไปมองตรงประตูทางเข้าด้วยความสงสัยมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ของขวัญล้ำค่าจากแขกคนหนึ่งเหรอ? และพวกมันถูกส่งมาให้หญิงชราอาวุโสแห่งตระกูลสมิทเสียด้วย! เมื่อมันถูกเรียกว่าของขวัญ ‘ล้ำค่า’ แล้วใครก็ตามที่ส่งมันมา คงจะต้องเป็นคนที่ยิ่งใหญ่และร่ำรวยมากกว่าคนอื่น ๆ ที่ส่งของขวัญมาให้จอร์เจียก่อนหน้านี้อย่างแน่นอน ท้ายที่สุดแล้ว การที่คนคนหนึ่งจะมอบของขวัญอันล้ำค่าให้ใครสักคน ก็ไม่ใช่เรื่องปกติที่คนธรรมดามักจะทำกันอยู่แล้วเห็นได้ชัดว่าของขวัญที่ถูกส่งมานั้นต้องมีค่ามากมายมหาศาล แต่สิ่งที่สำคัญกว่าก็คือ การที่บุคคลจะสามารถมอบของขวัญดังกล่าวให้ใครได้ พวกเขาจะต้องมีสถานะและตัวตนที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอนพวกเขาทั้งหมดมั่นใจมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ เนื่องจากกฎของการให้ของขวัญได้ถ
ในมือของพวกเขาคือของขวัญสิบแปดชิ้น ที่ทางพนักงานต้อนรับได้ป่าวประกาศเอาไว้แล้วก่อนหน้านั้น! ส่วนของขวัญที่แพงที่สุด ซึ่งก็คือวิลล่าราคาสี่สิบล้าน ได้ถูกนำมายื่นให้ผู้รับในรูปแบบของหนังสือสัญญา“... ร เรื่องพวกนี้… มันเกิดขึ้นได้อย่างไร…?” จอร์เจียบ่นพึมพำกับตัวเองด้วยความรู้สึกตกตะลึง“เราเอาของขวัญมาแล้วครับ คุณคลอฟอร์ด! นี่ครับ รายการของขวัญทั้งหมด!” บอดี้การ์ดคนหนึ่งพูด หลังจากที่เดินเข้ามาหาเจอรัลด์ และโค้งคำนับเขาอย่างนอบน้อม“แล้วนายจะเอามาให้ฉันดูทำไม? นายควรจะเอาไปให้คุณยายดูมากกว่านะ!” เจอรัลด์พูด พร้อมกับหันไปส่งยิ้มให้เซเรนิตี้“เมื่อวานนี้เป็นวันเกิดของคุณยาย แต่ผมไม่ได้ไปร่วมอวยพร วันนี้ผมก็เลยนำของขวัญมาให้ครับ”ในขณะเดียวกัน ทุกคนในงานต่างทำตาโตด้วยความตกใจ พวกเขาสลับกันบ่นพึมพำ “… ค คุณคลอฟอร์ด…?”ทุกคนได้ยินบอดี้การ์ดคนนั้นเรียกเจอรัลด์ว่าคุณคลอฟอร์ด รวมถึงยาน่าด้วย ด้วยความรู้สึกสับสน ยาน่าและทุกคนหันไปมองเจอรัลด์ด้วยความไม่เชื่อพร้อม ๆ กัน‘... มัน… มันไม่มีทางจะเป็นเขาไปได้… เขาเป็นแค่ไอ้ขี้แพ้จน ๆ คนหนึ่ง จากอำเภอเล็ก ๆ ในเมืองเมย์เบอร์รี่! ของขวัญแค่ชิ้นเดี
ยาน่ามักจะคอยพึ่งพาอำนาจของครอบครัวเธอในการใช้ชิวิตมาโดยตลอด มันจึงส่งผลให้เธอเป็นคนเอาแต่ใจ และทำตัวจองหองแบบนี้ ด้วยเหตุนี้เอง เธอจึงไม่รู้ตัวเลยว่า เธอจะต้องทนทุกข์ทรมานกับอะไรบ้าง จากการที่เธอทำตัวแย่ ๆ กับเจอรัลด์เจอรัลด์ได้ใช้คำพูดของเขาในประโยคสุดท้าย เพื่อเป็นการตักเตือนว่า เธอไม่ใช่เพียงคนเดียวที่มีอำนาจและอิทธิพลบนโลกใบนี้ ความจริงแล้ว มีอีกหลายคนที่มีอำนาจมากกว่าเธออยู่ข้างนอกนั่นจอร์เจียและสมาชิกของตระกูลเซียร์ทุกคนกำลังรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก จนไม่กล้าแม้แต่จะพูดอะไรออกมาสักคำท้ายที่สุดแล้ว งานเลี้ยงฉลองวันเกิดในวันนี้ก็ไร้ความหมาย จากนั้นเจอรัลด์และตระกูลสมิทก็ออกไปจากวิลล่าอย่างเงียบ ๆถึงแม้ว่าเหตุการณ์ทั้งหมดจะเกิดขึ้นแค่ช่วงระยะเวลาสั้น ๆ แต่เซเรนิตี้ก็รู้สึกว่าจิตใจของเธอได้ถูกถาโถมโดยอารมณ์ที่หลากหลาย และก็เป็นจริงตามนั้น หลังจากที่พวกตระกูลสมิทออกมาจากวิลล่าของจอร์เจีย หญิงชราก็รู้สึกถึงเลือดที่สูบฉีดไปทั่วร่างกาย และเสียงหัวใจที่เต้นแรงจนแทบไม่เป็นจังหวะอาการของเธอยังไม่ดีขึ้น หลังจากที่พวกเขาเดินทางมาถึงครึ่งทางแล้ว แขนและขาของเธอมีอาการเหน็บชา! ในขณะ
ก่อนหน้านั้น ตระกูลสมิทได้ไปหาแพทย์หลายคนให้มาช่วยรักษาอาการของเซเรนิตี้ แต่ก็ไม่มีการรักษาไหนที่ให้ผลที่น่าพึงพอใจ ในตอนนั้นเอง ที่พวกเขาได้เจอคุณหมอแมบบ์ผู้มากด้วยฝีมือ จึงติดต่อขอให้เขามาช่วยทำการรักษาหลังจากที่เขามาทำการรักษาอยู่หลายต่อหลายครั้ง คนในตระกูลสมิทก็เริ่มรู้จักสนิทสนมกับลูกศิษย์ของเขามากยิ่งขึ้น ชายคนที่อายุราว ๆ สามสิบปี มีชื่อว่า วอลบริดจ์ ลัมบ์ ส่วนลูกศิษย์อีกคนมีชื่อว่า บริแอนน่า ซีกเลอร์ถึงแม้ว่าคุณหมอแมบบ์จะมาตรวจดูอาการเธอหลายรอบแล้ว แต่เขาก็ยังไม่สามารถสรุปข้อวินิจฉัยของโรคได้“... ถ้าไม่มีอะไรแล้ว เดี๋ยวผมขอเข้าไปดูอาการคุณยายก่อนนะครับ พวกคุณไม่ต้องเป็นกังวลมากเกินไปนะ อาการของเธอไม่ได้ร้ายแรงอะไร” เจอรัลด์พูดด้วยความมั่นใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น วอลบริดจ์ก็ทำสีหน้าโหดเหี้ยม ถึงแม้เขาจะมองเจอรัลด์ว่าเป็นศัตรูตั้งแต่ตอนที่บริแอนน่าพูดว่า เจอรัลด์อาจจะเป็นหมอเหมือนกัน‘หมอนี่กำลังพยายามจะแย่งงานของพวกเราหรืออย่างไร? เขาดูจะอายุน้อยกว่าฉันด้วยซ้ำ แต่ยังกล้าพูดออกมาว่าอาการของคุณหญิงไม่ได้ร้ายแรง ทั้ง ๆ ที่อาจารย์ของเรายังวินิจฉัยโรคไม่ได้เลยด้วยซ้ำ! หมอนี่มัน
“… โอ้! ฉันว่าฉันยังไม่ได้พูดเรื่องเวลาครั้งต่อไปที่อาการจะกำเริบเลยนะ ใช่ไหม?! ทำไมเธอถึงคำนวนได้ตรงขนาดนั้นล่ะ เจอรัลด์?” เซเรนิตี้ถามด้วยความประหลาดใจ “ผมประมาณการเอาเองน่ะครับ ตอนนี้อีกหนึ่งชั่วโมงจะถึงเที่ยงพอดี ในเมื่ออุณหภูมิกำลังจะเพิ่มขึ้น ความร้อนที่เพิ่มขึ้นในร่างกายจะเข้าไปรบกวนการไหลเวียนของโลหิต และระบบการหายใจในร่างกาย ทั้งสองอย่างนี้จะทำให้ไมเกรนกำเริบได้” เจอรัลด์ตอบพร้อมกับยิ้มออกมาเมื่อได้ยินเช่นนั้น หญิงชราก็พยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะพูดว่า “ฉันไม่คิดว่าเธอจะมีความรู้เรื่องพวกนี้เลยนะ เจอรัลด์!”เมื่อเห็นเช่นนั้น วอลบริดจ์ที่ยืนอยู่ด้านข้างก็แสยะยิ้มออกมาด้วยความรู้สึกหงุดหงิดเจซหันไปมองเจอรัลด์ด้วยความประหลาดใจ ในขณะที่เขากำลังคิดว่า ‘… เด็กหนุ่มคนนี้ อาจจะเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการแพทย์จริงหรือเปล่า?’เป็นเหมือนที่เจอรัลด์ได้พูดเอาไว้ไม่มีผิด เซเรนิตี้ที่ก่อนหน้านี้ยังคงพูดคุยและหัวเราะกับทุกคน ก็ได้แสดงสีหน้าที่เจ็บปวดทรมานออกมาในช่วงเวลาก่อนเที่ยงแค่นิดเดียว สักพักเธอก็เอามือทั้งสองข้างขึ้นไปกุมหัว เหงื่อไหลลงมาจากหน้าผากของเธออย่างต่อเนื่อง“ทนเจ็บอีกสักน
หญิงชรายิ้มออกมาด้วยความเหนื่อยล้า ในขณะที่การหายใจขอเธอเริ่มกลับมาสู่ภาวะปกติในขณะที่คนรับใช้ของเธอรีบเข้ามาซับเหงื่อให้ เจซและวอลบริดจ์ก็กำลังยืนมองอย่างตกตะลึงเจซรู้สึกสับสนกับเหตการณ์ที่เกิดขึ้นมากกว่าใคร เพราะเขาไม่คิดว่าเจอรัลด์จะรู้จักวิธีรักษาแบบการฝังเข็มบำบัดขั้นเทพด้วย เพราะท้ายที่สุดแล้ว วิธีการรักษาแบบนี้ไม่ได้นำมาใช้ในการแพทย์แผนปัจจุบันแล้ว เจซคิดว่ามันหายสาบสูญไปจากโลกนี้แล้วเสียอีก เมื่อเขาได้เห็นมันกับตา เขาจึงรู้สึกสับสนเป็นอย่างมากวอลบริดจ์เองก็เริ่มรู้สึกอิจฉาริษยาในตัวเจอรัลด์ เขาคิดในใจว่า ‘ฉันอายุมากกว่าเขาหลายปี และใช้เวลาเรียนรู้ตื้นลึกหนาบางเกี่ยวกับการแพทย์กับอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญหลายต่อหลายท่าน ตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็ก! ฉันเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกฝนและเรียนรู้มาอย่างช่ำชอง แต่ฝือของฉันก็ยังสู้ไอ้สารเลวนี้ไม่ได้! นี่มัน… ฉันรับเรื่องนี้ไม่ได้จริง ๆ!’ตวามริษยาของเขายิ่งเพิ่มมากขึ้น เมื่อเขาเห็นบริแอนน่ายิ้มอย่างมีความสุข เวลาที่เธอมองเจอรัลด์“มันคงจะเป็นเรื่องบังเอิญมากกว่าครับ อาจารย์! ไม่มีทางที่คนอย่างเขาจะมีความรู้ความสามารถแบบนั้นได้!” วอลบ
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ