ยาน่ามีน้ำเสียงที่ฟังดูมั่นใจมากขึ้น“เพื่อน… เพื่อนร่วมชั้นเหรอ?” จัสตินและจอร์เจียพูดออกมาพร้อมกัน ทั้งคู่รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมากราวกับว่าพวกเขากำลังได้ยินเรื่องราวจากเรื่องเดอะ อาราเบียน ไนทส์ และพวกเขาก็มีเหตุผลมากพอที่จะเกิดความสงสัย เรื่องราวที่บังเอิญแบบนี้มักจะเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก! นอกจากนั้นแล้ว ถึงยาน่าจะมาจากครอบครัวที่มีอำนาจ แต่เธอก็ไม่มีทางร่ำรวยพอที่จะมีโอกาสได้เป็นเพื่อนร่วมชั้นของคุณคลอฟอร์ดได้อย่างแน่นอน!“... เธอพูดถึงเพื่อนร่วมชั้นแบบไหนกันเหรอ? เราไม่มีเวลามาล้อเล่นกับเรื่องแบบนี้หรอกนะ ยาน่า! ฉันขอบอกเธอไว้ก่อนเลยว่า ฉันพอจะรู้เรื่องที่มาของแฟนมิล่าอยู่บ้างแล้ว และฉันก็รู้ว่าเขาเป็นคนที่มีอำนาจมาก นั่นก็เป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงเชื่อว่า คุณคลอฟอร์ดเป็นแฟนของมิล่าจริง ๆ ตอนที่เขาเปิดเผยตัวตนออกมา! หากเราทำอะไรให้เขาไม่พอใจในตอนนี้ เราอาจจะใช้ชีวิตในเมืองเมย์เบอร์รี่อย่างสงบสุขต่อไปไม่ได้อีกแล้วนะ!” จอร์เจียตอบพร้อมกับเอากำปั้นทุบสะโพกของตัวเองด้วยความวิตกกังวล“ฉันมั่นใจค่ะ ว่าเขาเคยเป็นเพื่อนร่วมชั้นของฉันจริง ๆ ฉันจำได้ชัดเจนว่า ตอนช่วงที่ฉันยังเรียนอยู่ชั้น
“แล้วคุณเป็นใครกันครับ?” เจอรัลด์ถาม ในขณะที่หันไปมองเธอแบบเผิน ๆ‘ตบหัวคนอื่นเพื่อเป็นการทักทายเนี่ยนะ… ฉันเดาว่าเธอคงจะเสียสติไปแล้ว…’หลังจากที่เห็นยาน่าเดินเข้าไปตบหัวของเจอรัลด์จากด้านหลัง จอร์เจียและคนอื่น ๆ ก็รู้สึกกลัวจนตัวสั่น พอตั้งสติได้ สมาชิกในครอบครัวของจอร์เจีย รวมถึงแขกคนอื่นก็พากันรีบวิ่งไปหลบข้างหลังยาน่า“ต่อหน้าฉัน เธอยังจะกล้าทำตัวเสแสร้งอีกเหรอ?” ยาน่าถาม“เสแสร้ง? เราสองคนรู้จักกันด้วยเหรอ?” เจอรัลด์ตอบปฏิเสธ เขานึกไม่ออกจริง ๆ ว่าเธอเป็นใคร“ฮ่าฮ่า! มันคงต้องเป็นอย่างนั้นสินะ! บางทีนี่อาจจะช่วยเตือนความจำเธอได้! ฉันขอถามอะไรหน่อยก็แล้วกัน เธอเคยเรียนที่โรงเรียนประถมศึกษาเธิร์ด ในมณฑลเงียบสงบ ตอนเป็นเด็กหรือเปล่า?” ยาน่าแสยะยิ้ม“ใช่ ฉันเคยเรียนที่นั่น… ทำไมเธอถึงรู้เรื่องนั้นล่ะ…?” เจอรัลด์ตอบ พร้อมกับพยักหน้า“ฮ่า! เธอเคยเรียนในห้องสอง ตอนชั้นประถมสามใช่ไหม?” ยาน่าถามเพิ่มเติม“... ใช่ ฉันเคยจริง ๆ …” เจอรัลด์พูด เขาเริ่มรู้สึกถึงบางอย่างที่ผิดปกติ ท้ายที่สุดแล้ว ทุกเรื่องที่เธอพูดเป็นความจริง ตลอดระยะเวลาหกปีที่เขาเรียนที่โรงเรียนประถมแห่งนั้น เขาได้อย
ทุกคนหันไปมองยาน่าด้วยความตกใจ และไม่อยากจะเชื่อในคำพูดของเธอ“อย่าไปหลงเชื่อผู้ชายคนนี้นะคะ ทุกคน! ฉันเป็นคนที่รู้ความจริงว่าเขาไม่ใช่คุณคลอฟอร์ด! เขาชื่อเจอรัลด์ และเขาก็มาจากหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในมณฑลเงียบสงบ! เมื่อก่อนเขาก็เป็นแค่ไอ้ขี้แพ้จน ๆ คนหนึ่งเท่านั้น! ถ้าพวกคุณต้องการข้อพิสูจน์ ฉันจะสั่งให้คนไปหารูปเขาตอนเป็นเด็กมาให้ดูเดี๋ยวนี้เลย! และหลังจากนั้น พวกคุณจะต้องเชื่อคำพูดของฉันอย่างแน่นอน!”รูปภาพที่เธอพูดถึงคือ รูปหมู่ที่ถ่ายไว้ตอนที่พวกเขายังเรียนด้วยกัน ยาน่าเป็นคนที่ชอบเก็บสะสมรูปภาพ และเมื่อสักครู่นี้ เธอก็สั่งคนของเธอให้ไปนำรูปนี้มาให้ที่งานเลี้ยงเมื่อเธอนำรูปภาพไปให้ทุกคนดู พวกเขาก็เห็นรูปเจอรัลด์ตอนเป็นเด็กอยู่ในนั้นจริง ๆ!“ถ้าอย่างนั้น เขาก็เป็นเพื่อนร่วมชั้นของคุณชูทจริง ๆ น่ะสิ! ดูชุดที่เขาใส่ตอนนั้นสิ มันดูโกโรโกโสมากเลย!”ในขณะที่ทุกคนกำลังตะลึงงันกับสิ่งที่เกิดขึ้น จอร์เจียก็หัวเราะลั่นออกมา ก่อนจะพูดว่า “โธ่ ๆ เซเรนิตึ้ของฉัน! ไม่คิดเลยว่าเธอจะทำตัวต่ำตมได้ถึงเพียงนี้! เมื่อก่อนเธอเคยเป็นคนที่มีความคิดดีกว่านี้… ฉันรู้ว่าเธอยังรู้สึกเสียใจกับเรื่องท
ก่อนที่เจ้าหน้าที่เหล่านั้นจะทำอะไรเจอรัลด์ พนักงานต้อนรับที่นั่งอยู่บนโต๊ะตรงทางเข้ามาโดยตลอด ก็ตะโกนเสียงดัง “มีแขกส่งของขวัญล้ำค่ามาให้คุณหญิงจอร์เดน จากตระกูลสมิทค่ะ!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทุกคนก็เงียบเสียงลงทันที ในขณะที่ยาน่าและคนอื่น ๆ ต่างหันไปมองหน้ากันด้วยความตกใจ จอร์เจียก็เกิดอาการตัวสั่น จากนั้นทุกคนก็พร้อมใจกันหันไปมองตรงประตูทางเข้าด้วยความสงสัยมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ของขวัญล้ำค่าจากแขกคนหนึ่งเหรอ? และพวกมันถูกส่งมาให้หญิงชราอาวุโสแห่งตระกูลสมิทเสียด้วย! เมื่อมันถูกเรียกว่าของขวัญ ‘ล้ำค่า’ แล้วใครก็ตามที่ส่งมันมา คงจะต้องเป็นคนที่ยิ่งใหญ่และร่ำรวยมากกว่าคนอื่น ๆ ที่ส่งของขวัญมาให้จอร์เจียก่อนหน้านี้อย่างแน่นอน ท้ายที่สุดแล้ว การที่คนคนหนึ่งจะมอบของขวัญอันล้ำค่าให้ใครสักคน ก็ไม่ใช่เรื่องปกติที่คนธรรมดามักจะทำกันอยู่แล้วเห็นได้ชัดว่าของขวัญที่ถูกส่งมานั้นต้องมีค่ามากมายมหาศาล แต่สิ่งที่สำคัญกว่าก็คือ การที่บุคคลจะสามารถมอบของขวัญดังกล่าวให้ใครได้ พวกเขาจะต้องมีสถานะและตัวตนที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอนพวกเขาทั้งหมดมั่นใจมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ เนื่องจากกฎของการให้ของขวัญได้ถ
ในมือของพวกเขาคือของขวัญสิบแปดชิ้น ที่ทางพนักงานต้อนรับได้ป่าวประกาศเอาไว้แล้วก่อนหน้านั้น! ส่วนของขวัญที่แพงที่สุด ซึ่งก็คือวิลล่าราคาสี่สิบล้าน ได้ถูกนำมายื่นให้ผู้รับในรูปแบบของหนังสือสัญญา“... ร เรื่องพวกนี้… มันเกิดขึ้นได้อย่างไร…?” จอร์เจียบ่นพึมพำกับตัวเองด้วยความรู้สึกตกตะลึง“เราเอาของขวัญมาแล้วครับ คุณคลอฟอร์ด! นี่ครับ รายการของขวัญทั้งหมด!” บอดี้การ์ดคนหนึ่งพูด หลังจากที่เดินเข้ามาหาเจอรัลด์ และโค้งคำนับเขาอย่างนอบน้อม“แล้วนายจะเอามาให้ฉันดูทำไม? นายควรจะเอาไปให้คุณยายดูมากกว่านะ!” เจอรัลด์พูด พร้อมกับหันไปส่งยิ้มให้เซเรนิตี้“เมื่อวานนี้เป็นวันเกิดของคุณยาย แต่ผมไม่ได้ไปร่วมอวยพร วันนี้ผมก็เลยนำของขวัญมาให้ครับ”ในขณะเดียวกัน ทุกคนในงานต่างทำตาโตด้วยความตกใจ พวกเขาสลับกันบ่นพึมพำ “… ค คุณคลอฟอร์ด…?”ทุกคนได้ยินบอดี้การ์ดคนนั้นเรียกเจอรัลด์ว่าคุณคลอฟอร์ด รวมถึงยาน่าด้วย ด้วยความรู้สึกสับสน ยาน่าและทุกคนหันไปมองเจอรัลด์ด้วยความไม่เชื่อพร้อม ๆ กัน‘... มัน… มันไม่มีทางจะเป็นเขาไปได้… เขาเป็นแค่ไอ้ขี้แพ้จน ๆ คนหนึ่ง จากอำเภอเล็ก ๆ ในเมืองเมย์เบอร์รี่! ของขวัญแค่ชิ้นเดี
ยาน่ามักจะคอยพึ่งพาอำนาจของครอบครัวเธอในการใช้ชิวิตมาโดยตลอด มันจึงส่งผลให้เธอเป็นคนเอาแต่ใจ และทำตัวจองหองแบบนี้ ด้วยเหตุนี้เอง เธอจึงไม่รู้ตัวเลยว่า เธอจะต้องทนทุกข์ทรมานกับอะไรบ้าง จากการที่เธอทำตัวแย่ ๆ กับเจอรัลด์เจอรัลด์ได้ใช้คำพูดของเขาในประโยคสุดท้าย เพื่อเป็นการตักเตือนว่า เธอไม่ใช่เพียงคนเดียวที่มีอำนาจและอิทธิพลบนโลกใบนี้ ความจริงแล้ว มีอีกหลายคนที่มีอำนาจมากกว่าเธออยู่ข้างนอกนั่นจอร์เจียและสมาชิกของตระกูลเซียร์ทุกคนกำลังรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก จนไม่กล้าแม้แต่จะพูดอะไรออกมาสักคำท้ายที่สุดแล้ว งานเลี้ยงฉลองวันเกิดในวันนี้ก็ไร้ความหมาย จากนั้นเจอรัลด์และตระกูลสมิทก็ออกไปจากวิลล่าอย่างเงียบ ๆถึงแม้ว่าเหตุการณ์ทั้งหมดจะเกิดขึ้นแค่ช่วงระยะเวลาสั้น ๆ แต่เซเรนิตี้ก็รู้สึกว่าจิตใจของเธอได้ถูกถาโถมโดยอารมณ์ที่หลากหลาย และก็เป็นจริงตามนั้น หลังจากที่พวกตระกูลสมิทออกมาจากวิลล่าของจอร์เจีย หญิงชราก็รู้สึกถึงเลือดที่สูบฉีดไปทั่วร่างกาย และเสียงหัวใจที่เต้นแรงจนแทบไม่เป็นจังหวะอาการของเธอยังไม่ดีขึ้น หลังจากที่พวกเขาเดินทางมาถึงครึ่งทางแล้ว แขนและขาของเธอมีอาการเหน็บชา! ในขณะ
ก่อนหน้านั้น ตระกูลสมิทได้ไปหาแพทย์หลายคนให้มาช่วยรักษาอาการของเซเรนิตี้ แต่ก็ไม่มีการรักษาไหนที่ให้ผลที่น่าพึงพอใจ ในตอนนั้นเอง ที่พวกเขาได้เจอคุณหมอแมบบ์ผู้มากด้วยฝีมือ จึงติดต่อขอให้เขามาช่วยทำการรักษาหลังจากที่เขามาทำการรักษาอยู่หลายต่อหลายครั้ง คนในตระกูลสมิทก็เริ่มรู้จักสนิทสนมกับลูกศิษย์ของเขามากยิ่งขึ้น ชายคนที่อายุราว ๆ สามสิบปี มีชื่อว่า วอลบริดจ์ ลัมบ์ ส่วนลูกศิษย์อีกคนมีชื่อว่า บริแอนน่า ซีกเลอร์ถึงแม้ว่าคุณหมอแมบบ์จะมาตรวจดูอาการเธอหลายรอบแล้ว แต่เขาก็ยังไม่สามารถสรุปข้อวินิจฉัยของโรคได้“... ถ้าไม่มีอะไรแล้ว เดี๋ยวผมขอเข้าไปดูอาการคุณยายก่อนนะครับ พวกคุณไม่ต้องเป็นกังวลมากเกินไปนะ อาการของเธอไม่ได้ร้ายแรงอะไร” เจอรัลด์พูดด้วยความมั่นใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น วอลบริดจ์ก็ทำสีหน้าโหดเหี้ยม ถึงแม้เขาจะมองเจอรัลด์ว่าเป็นศัตรูตั้งแต่ตอนที่บริแอนน่าพูดว่า เจอรัลด์อาจจะเป็นหมอเหมือนกัน‘หมอนี่กำลังพยายามจะแย่งงานของพวกเราหรืออย่างไร? เขาดูจะอายุน้อยกว่าฉันด้วยซ้ำ แต่ยังกล้าพูดออกมาว่าอาการของคุณหญิงไม่ได้ร้ายแรง ทั้ง ๆ ที่อาจารย์ของเรายังวินิจฉัยโรคไม่ได้เลยด้วยซ้ำ! หมอนี่มัน
“… โอ้! ฉันว่าฉันยังไม่ได้พูดเรื่องเวลาครั้งต่อไปที่อาการจะกำเริบเลยนะ ใช่ไหม?! ทำไมเธอถึงคำนวนได้ตรงขนาดนั้นล่ะ เจอรัลด์?” เซเรนิตี้ถามด้วยความประหลาดใจ “ผมประมาณการเอาเองน่ะครับ ตอนนี้อีกหนึ่งชั่วโมงจะถึงเที่ยงพอดี ในเมื่ออุณหภูมิกำลังจะเพิ่มขึ้น ความร้อนที่เพิ่มขึ้นในร่างกายจะเข้าไปรบกวนการไหลเวียนของโลหิต และระบบการหายใจในร่างกาย ทั้งสองอย่างนี้จะทำให้ไมเกรนกำเริบได้” เจอรัลด์ตอบพร้อมกับยิ้มออกมาเมื่อได้ยินเช่นนั้น หญิงชราก็พยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะพูดว่า “ฉันไม่คิดว่าเธอจะมีความรู้เรื่องพวกนี้เลยนะ เจอรัลด์!”เมื่อเห็นเช่นนั้น วอลบริดจ์ที่ยืนอยู่ด้านข้างก็แสยะยิ้มออกมาด้วยความรู้สึกหงุดหงิดเจซหันไปมองเจอรัลด์ด้วยความประหลาดใจ ในขณะที่เขากำลังคิดว่า ‘… เด็กหนุ่มคนนี้ อาจจะเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการแพทย์จริงหรือเปล่า?’เป็นเหมือนที่เจอรัลด์ได้พูดเอาไว้ไม่มีผิด เซเรนิตี้ที่ก่อนหน้านี้ยังคงพูดคุยและหัวเราะกับทุกคน ก็ได้แสดงสีหน้าที่เจ็บปวดทรมานออกมาในช่วงเวลาก่อนเที่ยงแค่นิดเดียว สักพักเธอก็เอามือทั้งสองข้างขึ้นไปกุมหัว เหงื่อไหลลงมาจากหน้าผากของเธออย่างต่อเนื่อง“ทนเจ็บอีกสักน