ซูถิงเองก็ยังสงสัยเลยว่าเย่เทียนหยู่ไปอยู่ที่ไหน เธออดไม่ได้ที่จะแอบโทรหาเขา“เย่เทียนหยู่ หว่านหรูขอให้ฉันถามนายว่าตอนนี้นายอยู่ที่ไหน ทำไม่ยังไม่กลับมาอีก? ”“ฉันมาที่โรงพยาบาล ฉันจะกลับไปหลังทำธุระเสร็จ”หลังจากที่เย่เทียนหยู่พูดจบ เขาก็วางสายโทรศัพท์แล้วเดินเข้าไปข้างใน เนื่องจากวิลล่าอยู่ห่างจากโรงพยาบาลชั้นนำของเมืองเทียนไห่ค่อนข้างไกล จึงต้องใช้เวลาเพิ่มมากขึ้นเล็กน้อยซูถิงตกตะลึงในตอนแรก จากนั้นจึงเข้าใจทันที เย่เทียนหยู่คงต้องการจะระบายความโกรธแทนหลินหว่านหรู หลินหว่านหรูปฏิบัติต่อเขาดีขนาดนั้น เธอไม่เพียงแต่ไม่กล่าวโทษ แต่เธอกลับยิ่งคิดว่าดีซะอีกทันใดนั้นเอง โทรศัพท์มือถือของหลินหว่านหรูก็ดังขึ้น เธอคิดว่าเป็นเย่เทียนหยู่ จึงรีบรับสายทันที“หลินหว่านหรู ฉันจะให้โอกาสเธอเป็นครั้งสุดท้าย ตอนนี้เธอกลับมาที่เตียงของลูกชายฉันแต่โดยดี ไม่เช่นนั้น ฉันรับประกันได้เลยว่า เธอจะต้องเจอเรื่องน่าเวทนาแน่ ตระกูลหลินเองก็จะถูกทำลายด้วยเหมือนกัน”หลังจากที่คุณนายซาพูดขู่เสร็จ เธอก็วางสายโทรศัพท์ทันทีในความเห็นของเธอ คำพูดเหล่านี้ก็เพียงพอแล้ว และไม่จำเป็นต้องมีการต่อบทสนทนาอะไรอีก
ในขณะที่เย่เทียนหยู่ไม่ขยับเลยสักนิดแต่คุณนายซากลับกรีดร้องเพราะโดนตบหน้า รอยนิ้วมือทั้งห้าที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอมองเห็นได้ชัดเจนมากแรกๆคุณนายซาก็รู้สึกสับสน จากนั้นเธอก็เริ่มเป็นบ้าและสาปแช่งเขาด้วยความโกรธ “นี่แกกล้าตบหน้าฉันงั้นเหรอ แกอยากตายนักรึไง ฉันเอาแกตายแน่!”ขณะที่เธอพูดเธอก็รีบวิ่งไปยังเขาเหมือนคนปากร้ายเพี๊ยะ!เธอโดนตบหน้าอย่างแรงอีกครั้งอีกทั้งยังโดนตบซ้ำไปที่เดิมโอ๊ย!คราวนี้คุณนายซาก็จะกรีดร้องอย่างเจ็บปวดและมีเลือดไหลออกมาจากมุมปากของเธอ เธอรีบเอาฝ่ามือทาบแก้ม ไม่อยากจะเชื่อเหตุการณ์ที่เธอเห็นเลยสักนิดเธอไม่เคยคิดเลยว่า คนที่ฐานะสูงส่งอย่างเธอจะมีวันที่เธอต้องโดนตบแบบนี้จริงๆเย่เทียนหยู่ดูสงบและพูดอย่างใจเย็น “โดยปกติแล้วผมจะไม่ตบผู้หญิงนะ แต่สำหรับคนอย่างคุณ ถ้าหากผมเจอคนเดียวก็จะตบคนเดียว แต่ถ้าเจอเป็นคู่ก็จะตบทั้งคู่!”“แก แกมันบ้าจริงๆ ฉันจะบอกให้นะ แกจะต้องตายแน่ๆ ตระกูลซาจะต้องไม่ปล่อยแกไป ไม่ปล่อยแกไปเด็ดขาด”“ตระกูลชาเหรอ?”ใบหน้าเย่เทียนหยู่แสดงความเหยียดหยาม และพูดด้วยความใจเย็นว่า “คุณแน่ใจหรือว่าตอนนี้ตระกูลชายังคงมีอยู่เหมือนเดิม?”
“นี่ตระกูลซาถึงจุดจบแล้วจริงๆเหรอ?”คุณนายซาอดไม่ได้ที่จะถาม เพราะเธอยังยอมรับมันไม่ได้จริงๆฟและเธอก็กังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของตระกูลซามากกว่าอาการบาดเจ็บของลูกชายเธอเสียอีก“ตระกูลซาถูกกำหนดให้ต้องพังพินาศตั้งแต่วินาทีแรกที่คุณทำร้ายภรรยาของผมแล้ว”เย่เทียนหยู่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาเพราะถ้าหากว่าตำรวจจะไม่จัดการกับเรื่องนี้ เขาเองก็จะจัดการประหารตระกูลซาให้ได้“ไม่ แกทำทุกอย่างนี้เองไม่ได้หรอก!”สีหน้าของคุณนายซาเริ่มซีดเซียวลงอย่างชัดเจนในขณะนี้ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายคนปรากฏตัวขึ้น ซึ่งนำโดยผู้กองจางนั่นเองเพราะนายกเทศมนตรีหวงบอกเขาว่าเมื่อคุณเย่มาที่นี่ อาจมีบางอย่างเกิดขึ้น ให้เขามาช่วยจัดการกับเรื่องนี้เองคงจะดีกว่าและมันก็เป็นไปตามนั้น เพราะพอเขามาถึง ก็เห็นเหตุการณ์วุ่นวายเช่นนี้แล้วเมื่อคุณนายซาเห็นผู้กองจางที่เธอรู้จักเดินมา เธอก็กระตือรือร้นขึ้นมาทันทีและพูดขึ้นอย่างเร่งรีบ“ผู้กองจางคะ คุณมาที่นี่ทันเวลาพอดีเลยค่ะ ที่นี่มีฆาตกรบ้าคลั่ง เขากำลังจะฆ่าคน คุณดูสภาพฉันและลูกชายของฉันสิ พวกเราโดนเขาทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้ว”ผู้กองจางมองดูเหตุการณ์ตรงห
“นี่คือเหตุผลที่แกจงใจชักจูงฉันให้ลงมือใช่ไหม?”“ใช่ครับ ลูกน้องของผมทำผิดไปแล้วครับ!” หยางต้าฝูกัดฟันแล้วพูดตามตรง“ดีแล้วที่แกไม่ได้เล่นลิ้นกับฉันน่ะ ไม่อย่างนั้นฉันคงจะสอนบทเรียนอันลึกซึ้งให้กับแกแน่ๆ” เย่เทียนหยู่พูดอย่างใจเย็น“ครับ ขอบคุณท่านราชามังกรมากครับ! แต่ลูกน้องของผมลงมือไปเพราะเขามีความบาดหมางนองเลือดกับพ่อของซาวั่นไห่มาก่อน เขาฆ่าพี่ชายที่ดีที่สุดของผม”“อ๋อ แล้วทำไมแกถึงไม่ขอความช่วยเหลือจากด่านหลงเหมินล่ะ?”“ตอนนั้นผมเคยขออนุญาตแล้ว แต่ไม่มีการตอบกลับครับ”“งั้นเรื่องคราวนี้ก็ช่างมันเถอะ แต่อย่าทำแบบนี้อีกก็แล้วกัน”“ครับท่าน แต่พ่อของซาวั่นไห่เคยเป็นปรมาจารย์เมื่อสี่ปีที่แล้ว และความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขานั้น เราไม่ควรประมาท หากเขากลับมา เขาอาจก่อเรื่องให้กับท่าน ท่านราชามังกร โปรดระวังด้วยนะครับ”“ไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก!”“เขาก็เป็นแค่ปรมาจารย์เท่านั้นเอง ถ้าเขาไม่กลับมาก็แล้วไป แต่ถ้าเขากลับมาก่อเรื่องละก็ ฉันจะโจมตีมันจนกว่าจะพิการไปเลย”เย่เทียนหยู่วางสายโทรศัพท์ทันทีหลังจากพูดจบหยางต้าฝูรู้สึกสับสนในทันที ปรมาจารย์ก็คือระดับสุดยอดที่สุดในระดับนักร
คราวนี้นายท่านถึงกับเงียบไปเล็กน้อย หลังจากที่ได้ฟังลูกชายและลูกสะใภ้บ่นถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ เขาก็เริ่มสงสัยแล้วว่าเขาทำอะไรผิดไปหรือเปล่าจากสิ่งที่ได้เห็นในปัจจุบันนี้ เทียนหยู่ชอบคุยโวจริงๆ ที่สำคัญคือเขาไม่ทำอะไรเลยและเขาก็ไม่ได้เต็มใจทำงานที่จัดเตรียมให้เขาที่บริษัทเลยสักนิดเขาวันๆมัวแต่เดินเตร็ดเตร่และขี้เกียจที่จะทำงาน คิดว่ามีวิชากังฟูที่บ้าๆบอๆของเขา แล้วเขาจะต่อสู้โดยไม่คำนึงถึงความรุนแรงยังไงก็ได้ จนเกือบจะนำตระกูลหลินดิ่งลงเหวครั้งแล้วครั้งเล่าถ้าไม่ใช่เพราะหลิวเจี๋ย พวกเราก็คงจบเห่ไปแล้วเมื่อคุณพ่อตระกูลหลินเห็นว่านายท่านลังเลใจ เขาก็พูดต่อทันที “ใช่แล้วครับ หลายครั้งที่เขาทำมาก่อนหน้านี้เราไม่ว่านะ แต่คราวนี้เขาถึงกับยั่วยุตระกูลซาเลยนะ”“เห็นพวกเขาว่าหว่านหรูพยายามอย่างเต็มที่ที่จะหยุดเขาแล้วนะ และบอกเขาว่าอย่าทําสิ่งเลวร้ายตามอําเภอใจ แต่เย่เทียนหยู่ไม่ฟังเลย เขายังไปตามทางของตัวเองและพูดคำพูดที่หยิ่งยโสโอหังไม่หยุด”“โชคดีที่ครั้งนี้ตระกูลซามีปัญหาจริงๆ โชคดีที่นายน้อยหลิวขอร้องให้ลุงของเขาดำเนินการล่วงหน้า ไม่เช่นนั้นตระกูลหลินของเราคงจะไม่มีที่ยืนอี
“ใช่ครับ แต่แค่ตระกูลซานั่นผมคงไม่สนใจมันหรอก”คุณแม่ตระกูลหลินยิ่งโกรธมากขึ้น “แกไม่สนใจเหรอ ที่แกยังมีชีวิตอยู่ได้ แกควรคุกเข่าลงต่อหน้านายน้อยหลิวและกราบเขาด้วยซ้ำ!”“นี่ถ้าไม่ใช่เพราะนายน้อยหลิวช่วยจัดการตระกูลซาในครั้งนี้ ฉันคิดว่าแกคงจะตายแบบไม่มีดินกลบหน้าไปนานแล้วล่ะ”“นี่นายน้อยหลิวเขาสามารถจัดการตระกูลซาได้จริงๆหรือ”น้ำเสียงของเย่เทียนหยู่สงบ แต่เต็มไปด้วยความดูถูกดูแคลนนักเมื่อเห็นว่าเย่เทียนหยู่ไม่เพียงแต่หยิ่งสยองเท่านั้น แต่ยังไม่มีเหตุผล นายท่านก็รู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมากหลินหว่านหรูทำอะไรไม่ถูก ถ้าไม่ใช่เพราะนายน้อยหลิวที่ยุยงซาวั่นไห่ในครั้งนี้ ผลที่ตามมาคงจะแย่มาก ทำไมเย่เทียนหยู่ถึงเปลี่ยนนิสัยเพื่อรักษาหน้าของเขาไม่ได้เลยนะซูถิงรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากเมื่อเธอดูฉากนี้ โดยเฉพาะเย่เทียนหยู่ถูกทุกคนโจมตีด้วยคำพูดพูดต่อไปเลย สู้ๆ ดีที่สุดคือหย่ากับเย่เทียนหยู่ ไล่เขาออกจากบ้าน และปล่อยให้เขาเป็นตัวของเขาเองหลิวเจี๋ยอยู่ข้างๆ เขา รอโอกาสเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากทุกคนอยู่ ในเวลานี้ เขาพูดทันที “พี่เย่พูดถูกจริงๆล่ะ ตระกูลหลิวไม่สามารถจัดการกับตระกูลซาได้จริงๆ
หลินหว่านหรูลังเลเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม เธอยังเป็นนักเรียนที่โดดเด่นในสาขาวิชาการเงิน นอกจากนี้ เธอยังดูแลบริษัทหลินซื่อกรุ๊ปมาหลายปี ดังนั้นเธอจึงไม่ใช่มือใหม่ธรรมดาที่ไม่รู้อะไรสักนิดแต่ตอนนี้มีขนมตกลงมาจากฟ้าชัดๆ และพวกเธอก็จะได้เงินนั้นมาง่ายๆ“ยังไงดีครับ หว่านหรู เธอไม่เชื่อใจผมเหรอ?”“ใช่ หว่านหรู แกกำลังคิดอะไรอยู่ นายน้อยหลิวทุ่มเทเพื่อแกไปเท่าไหร่แล้ว ถ้าไม่ใช่เพื่อแก คงไม่มีเรื่องดีๆแบบนี้หรอกนะ”“ใช่แล้ว หว่านหรู ผมไม่กลัวที่จะบอกเรื่องนี้กับเธอหรอกนะ ที่ผมทำทั้งหมดนี้ก็เพื่อเธอเท่านั้น”หลิวเจี๋ยพูดตรงๆด้วยเหตุนี้ แม้แต่นายท่านก็อดไม่ได้ที่จะเชื่อเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากประสบการณ์ที่ผ่านมาว่า ฉีเฟยกรุ๊ปนั้นมีคุณภาพสูงและมีโมเมนตั๊มการพัฒนาที่ดีดูเหมือนว่านายน้อยหลิวจะทุ่มเทกับหว่านหรูเป็นอย่างมากจริงๆคงจะน่าเสียดายมากหากพลาดโอกาสเช่นนี้“หว่านหรู แกยังคิดอะไรอยู่หรือ? หรือว่าเพราะนายน้อยหลิวดีกับแกมากเกินไป จนแกไม่อยากรับมันหรือเปล่า”“ลองคิดดูสิว่านายน้อยหลิวทำเพื่อแกมากแค่ไหน เมื่อวานเขารู้ว่าแกถูกรังแก เขาไปโรงพยาบาลโดยตรงเลยนะ เขาทำให้ของสงวนของซาจื่อหาวพิ
ทุกคนเข้าใจความคิดของหลินหว่านหรูทันทีที่ได้ยินเธอพูด และไม่มีทางเลือกนอกจากปล่อยเธอก่อน อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นแค่ช่วงระยะเวลาเพียงหนึ่งเดือนเท่านั้น และมันจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว“แต่สำหรับการลงทุนนี้ ฉันมีเงินสดในมือไม่มากนัก และบริษัทไม่ได้เป็นเพียงของตระกูลหลินเราเท่านั้น ฉันต้องหารือเรื่องนี้กับผู้ถือหุ้นคนอื่นอีกด้วยค่ะ”จริงๆแล้วหลินหว่านหรูเพียงแค่หาข้ออ้างเท่านั้น เพราะผู้ถือหุ้นเหล่านั้นล้วนเป็นพี่น้องของคุณปู่ทั้งนั้น ดังนั้น เธอจึงมีอำนาจตัดสินใจได้ในเรื่องนี้ แต่เธอต้องการหาข้อมูลตรวจสอบก่อนจะตัดสินใจหลิวเจี๋ยก็ได้ยินเช่นกัน แต่เขาพูดอย่างจนใจ “หากเป็นเช่นนั้น มันจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นเท่านั้น ช่างน่าเสียดาย”“โอกาสดีๆ แบบนี้ แกยกให้กับคนอื่นได้ยังไง หว่านหรู แกกำลังคิดอะไรอยู่”“พ่อคะ คุณมีสิทธิในการตัดสินใจมากที่สุดในบริษัท คุณไม่สามารถตัดสินใจในการระดมทุนนี้ได้เหรอคะ?” คุณแม่ตระกูลหลินถามอย่างเร่งด่วน“ฉันไม่ได้ทำงานในบริษัทมานานแล้ว ดังนั้นฉันควรฟังคำพูดของหว่านหรูจะดีกว่า” นายท่านส่ายหัว แสดงถึงการสนับสนุนโดยปริยาย“หว่านหรู พูดตามตรง หากเธอเชื่อมั่นในตัวของผม