เย่เทียนหยู่ขับรถด้วยตัวเอง แค่เขาไม่ได้ขับตามรถของซูถิงแต่ขับไปอีกทางหนึ่งแทน ขับไปทางโรงพยาบาลหญิงชราคนนั้นกล้ามาตบหน้าภรรยาของเขา เขาจะปล่อยเรื่องนี้ไปง่าย ๆ ได้อย่างไร?ผู้กองจางและคนอื่น ๆ พาตัวซาวั่นไห่ไป ออกไปอย่างเอิกเกริก ระหว่างทางเขาได้โทรหานายกเทศมนตรีหวง และรายงานว่า “การดำเนินการราบรื่นดีมาก พวกคุณผู้ชายเย่และคนอื่น ๆ ก็ไปแล้ว ซาวั่นไห่เองก็ถูกนำตัวกลับไปที่สถานีตำรวจแล้วครับ”“ดี ความดีความชอบครั้งนี้ นายเป็นคนได้ทั้งหมด”ในใจนายกเทศมนตรีหวงเองก็รู้สึกตื่นเต้นมากเช่นกัน การที่จับตัวซาวั่นไห่ได้นั้น ก็เหมือนได้ช่วยเมืองเทียนไห่แก้ปัญหาโรคเรื้อรังนี้ได้ ได้ทำเพื่อผู้ที่เกี่ยวข้องและเสียใจไปไม่น้อยกับเรื่องนี้ที่ได้“ขอบคุณมากครับ นายกเทศมนตรีหวง! ”ผู้กองจางเองก็มีความสุขมากเช่นกัน ที่จริงพวกเขากำลังตรวจสอบซาวั่นไห่อย่างลับ ๆ อยู่ เหตุผลหลัก ๆ เลยก็คือครอบครัวของซาวั่นไห่นั้นทั้งหยิ่งและทำตัวครอบงำมากเกินไป แทบจะไม่มีทางควบคุมได้เลยด้วยซ้ำแต่เนื่องจากความแข็งแกร่งที่ไม่มีใครเทียบได้ของตระกูลซา บวกกับการสนับสนุนอย่างลับ ๆ จากใครบางคน การตรวจสอบจึงถูกขัดขวางอยู่ระ
ซูถิงเองก็ยังสงสัยเลยว่าเย่เทียนหยู่ไปอยู่ที่ไหน เธออดไม่ได้ที่จะแอบโทรหาเขา“เย่เทียนหยู่ หว่านหรูขอให้ฉันถามนายว่าตอนนี้นายอยู่ที่ไหน ทำไม่ยังไม่กลับมาอีก? ”“ฉันมาที่โรงพยาบาล ฉันจะกลับไปหลังทำธุระเสร็จ”หลังจากที่เย่เทียนหยู่พูดจบ เขาก็วางสายโทรศัพท์แล้วเดินเข้าไปข้างใน เนื่องจากวิลล่าอยู่ห่างจากโรงพยาบาลชั้นนำของเมืองเทียนไห่ค่อนข้างไกล จึงต้องใช้เวลาเพิ่มมากขึ้นเล็กน้อยซูถิงตกตะลึงในตอนแรก จากนั้นจึงเข้าใจทันที เย่เทียนหยู่คงต้องการจะระบายความโกรธแทนหลินหว่านหรู หลินหว่านหรูปฏิบัติต่อเขาดีขนาดนั้น เธอไม่เพียงแต่ไม่กล่าวโทษ แต่เธอกลับยิ่งคิดว่าดีซะอีกทันใดนั้นเอง โทรศัพท์มือถือของหลินหว่านหรูก็ดังขึ้น เธอคิดว่าเป็นเย่เทียนหยู่ จึงรีบรับสายทันที“หลินหว่านหรู ฉันจะให้โอกาสเธอเป็นครั้งสุดท้าย ตอนนี้เธอกลับมาที่เตียงของลูกชายฉันแต่โดยดี ไม่เช่นนั้น ฉันรับประกันได้เลยว่า เธอจะต้องเจอเรื่องน่าเวทนาแน่ ตระกูลหลินเองก็จะถูกทำลายด้วยเหมือนกัน”หลังจากที่คุณนายซาพูดขู่เสร็จ เธอก็วางสายโทรศัพท์ทันทีในความเห็นของเธอ คำพูดเหล่านี้ก็เพียงพอแล้ว และไม่จำเป็นต้องมีการต่อบทสนทนาอะไรอีก
ในขณะที่เย่เทียนหยู่ไม่ขยับเลยสักนิดแต่คุณนายซากลับกรีดร้องเพราะโดนตบหน้า รอยนิ้วมือทั้งห้าที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอมองเห็นได้ชัดเจนมากแรกๆคุณนายซาก็รู้สึกสับสน จากนั้นเธอก็เริ่มเป็นบ้าและสาปแช่งเขาด้วยความโกรธ “นี่แกกล้าตบหน้าฉันงั้นเหรอ แกอยากตายนักรึไง ฉันเอาแกตายแน่!”ขณะที่เธอพูดเธอก็รีบวิ่งไปยังเขาเหมือนคนปากร้ายเพี๊ยะ!เธอโดนตบหน้าอย่างแรงอีกครั้งอีกทั้งยังโดนตบซ้ำไปที่เดิมโอ๊ย!คราวนี้คุณนายซาก็จะกรีดร้องอย่างเจ็บปวดและมีเลือดไหลออกมาจากมุมปากของเธอ เธอรีบเอาฝ่ามือทาบแก้ม ไม่อยากจะเชื่อเหตุการณ์ที่เธอเห็นเลยสักนิดเธอไม่เคยคิดเลยว่า คนที่ฐานะสูงส่งอย่างเธอจะมีวันที่เธอต้องโดนตบแบบนี้จริงๆเย่เทียนหยู่ดูสงบและพูดอย่างใจเย็น “โดยปกติแล้วผมจะไม่ตบผู้หญิงนะ แต่สำหรับคนอย่างคุณ ถ้าหากผมเจอคนเดียวก็จะตบคนเดียว แต่ถ้าเจอเป็นคู่ก็จะตบทั้งคู่!”“แก แกมันบ้าจริงๆ ฉันจะบอกให้นะ แกจะต้องตายแน่ๆ ตระกูลซาจะต้องไม่ปล่อยแกไป ไม่ปล่อยแกไปเด็ดขาด”“ตระกูลชาเหรอ?”ใบหน้าเย่เทียนหยู่แสดงความเหยียดหยาม และพูดด้วยความใจเย็นว่า “คุณแน่ใจหรือว่าตอนนี้ตระกูลชายังคงมีอยู่เหมือนเดิม?”
“นี่ตระกูลซาถึงจุดจบแล้วจริงๆเหรอ?”คุณนายซาอดไม่ได้ที่จะถาม เพราะเธอยังยอมรับมันไม่ได้จริงๆฟและเธอก็กังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของตระกูลซามากกว่าอาการบาดเจ็บของลูกชายเธอเสียอีก“ตระกูลซาถูกกำหนดให้ต้องพังพินาศตั้งแต่วินาทีแรกที่คุณทำร้ายภรรยาของผมแล้ว”เย่เทียนหยู่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาเพราะถ้าหากว่าตำรวจจะไม่จัดการกับเรื่องนี้ เขาเองก็จะจัดการประหารตระกูลซาให้ได้“ไม่ แกทำทุกอย่างนี้เองไม่ได้หรอก!”สีหน้าของคุณนายซาเริ่มซีดเซียวลงอย่างชัดเจนในขณะนี้ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายคนปรากฏตัวขึ้น ซึ่งนำโดยผู้กองจางนั่นเองเพราะนายกเทศมนตรีหวงบอกเขาว่าเมื่อคุณเย่มาที่นี่ อาจมีบางอย่างเกิดขึ้น ให้เขามาช่วยจัดการกับเรื่องนี้เองคงจะดีกว่าและมันก็เป็นไปตามนั้น เพราะพอเขามาถึง ก็เห็นเหตุการณ์วุ่นวายเช่นนี้แล้วเมื่อคุณนายซาเห็นผู้กองจางที่เธอรู้จักเดินมา เธอก็กระตือรือร้นขึ้นมาทันทีและพูดขึ้นอย่างเร่งรีบ“ผู้กองจางคะ คุณมาที่นี่ทันเวลาพอดีเลยค่ะ ที่นี่มีฆาตกรบ้าคลั่ง เขากำลังจะฆ่าคน คุณดูสภาพฉันและลูกชายของฉันสิ พวกเราโดนเขาทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้ว”ผู้กองจางมองดูเหตุการณ์ตรงห
“นี่คือเหตุผลที่แกจงใจชักจูงฉันให้ลงมือใช่ไหม?”“ใช่ครับ ลูกน้องของผมทำผิดไปแล้วครับ!” หยางต้าฝูกัดฟันแล้วพูดตามตรง“ดีแล้วที่แกไม่ได้เล่นลิ้นกับฉันน่ะ ไม่อย่างนั้นฉันคงจะสอนบทเรียนอันลึกซึ้งให้กับแกแน่ๆ” เย่เทียนหยู่พูดอย่างใจเย็น“ครับ ขอบคุณท่านราชามังกรมากครับ! แต่ลูกน้องของผมลงมือไปเพราะเขามีความบาดหมางนองเลือดกับพ่อของซาวั่นไห่มาก่อน เขาฆ่าพี่ชายที่ดีที่สุดของผม”“อ๋อ แล้วทำไมแกถึงไม่ขอความช่วยเหลือจากด่านหลงเหมินล่ะ?”“ตอนนั้นผมเคยขออนุญาตแล้ว แต่ไม่มีการตอบกลับครับ”“งั้นเรื่องคราวนี้ก็ช่างมันเถอะ แต่อย่าทำแบบนี้อีกก็แล้วกัน”“ครับท่าน แต่พ่อของซาวั่นไห่เคยเป็นปรมาจารย์เมื่อสี่ปีที่แล้ว และความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขานั้น เราไม่ควรประมาท หากเขากลับมา เขาอาจก่อเรื่องให้กับท่าน ท่านราชามังกร โปรดระวังด้วยนะครับ”“ไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก!”“เขาก็เป็นแค่ปรมาจารย์เท่านั้นเอง ถ้าเขาไม่กลับมาก็แล้วไป แต่ถ้าเขากลับมาก่อเรื่องละก็ ฉันจะโจมตีมันจนกว่าจะพิการไปเลย”เย่เทียนหยู่วางสายโทรศัพท์ทันทีหลังจากพูดจบหยางต้าฝูรู้สึกสับสนในทันที ปรมาจารย์ก็คือระดับสุดยอดที่สุดในระดับนักร
คราวนี้นายท่านถึงกับเงียบไปเล็กน้อย หลังจากที่ได้ฟังลูกชายและลูกสะใภ้บ่นถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ เขาก็เริ่มสงสัยแล้วว่าเขาทำอะไรผิดไปหรือเปล่าจากสิ่งที่ได้เห็นในปัจจุบันนี้ เทียนหยู่ชอบคุยโวจริงๆ ที่สำคัญคือเขาไม่ทำอะไรเลยและเขาก็ไม่ได้เต็มใจทำงานที่จัดเตรียมให้เขาที่บริษัทเลยสักนิดเขาวันๆมัวแต่เดินเตร็ดเตร่และขี้เกียจที่จะทำงาน คิดว่ามีวิชากังฟูที่บ้าๆบอๆของเขา แล้วเขาจะต่อสู้โดยไม่คำนึงถึงความรุนแรงยังไงก็ได้ จนเกือบจะนำตระกูลหลินดิ่งลงเหวครั้งแล้วครั้งเล่าถ้าไม่ใช่เพราะหลิวเจี๋ย พวกเราก็คงจบเห่ไปแล้วเมื่อคุณพ่อตระกูลหลินเห็นว่านายท่านลังเลใจ เขาก็พูดต่อทันที “ใช่แล้วครับ หลายครั้งที่เขาทำมาก่อนหน้านี้เราไม่ว่านะ แต่คราวนี้เขาถึงกับยั่วยุตระกูลซาเลยนะ”“เห็นพวกเขาว่าหว่านหรูพยายามอย่างเต็มที่ที่จะหยุดเขาแล้วนะ และบอกเขาว่าอย่าทําสิ่งเลวร้ายตามอําเภอใจ แต่เย่เทียนหยู่ไม่ฟังเลย เขายังไปตามทางของตัวเองและพูดคำพูดที่หยิ่งยโสโอหังไม่หยุด”“โชคดีที่ครั้งนี้ตระกูลซามีปัญหาจริงๆ โชคดีที่นายน้อยหลิวขอร้องให้ลุงของเขาดำเนินการล่วงหน้า ไม่เช่นนั้นตระกูลหลินของเราคงจะไม่มีที่ยืนอี
“ใช่ครับ แต่แค่ตระกูลซานั่นผมคงไม่สนใจมันหรอก”คุณแม่ตระกูลหลินยิ่งโกรธมากขึ้น “แกไม่สนใจเหรอ ที่แกยังมีชีวิตอยู่ได้ แกควรคุกเข่าลงต่อหน้านายน้อยหลิวและกราบเขาด้วยซ้ำ!”“นี่ถ้าไม่ใช่เพราะนายน้อยหลิวช่วยจัดการตระกูลซาในครั้งนี้ ฉันคิดว่าแกคงจะตายแบบไม่มีดินกลบหน้าไปนานแล้วล่ะ”“นี่นายน้อยหลิวเขาสามารถจัดการตระกูลซาได้จริงๆหรือ”น้ำเสียงของเย่เทียนหยู่สงบ แต่เต็มไปด้วยความดูถูกดูแคลนนักเมื่อเห็นว่าเย่เทียนหยู่ไม่เพียงแต่หยิ่งสยองเท่านั้น แต่ยังไม่มีเหตุผล นายท่านก็รู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมากหลินหว่านหรูทำอะไรไม่ถูก ถ้าไม่ใช่เพราะนายน้อยหลิวที่ยุยงซาวั่นไห่ในครั้งนี้ ผลที่ตามมาคงจะแย่มาก ทำไมเย่เทียนหยู่ถึงเปลี่ยนนิสัยเพื่อรักษาหน้าของเขาไม่ได้เลยนะซูถิงรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากเมื่อเธอดูฉากนี้ โดยเฉพาะเย่เทียนหยู่ถูกทุกคนโจมตีด้วยคำพูดพูดต่อไปเลย สู้ๆ ดีที่สุดคือหย่ากับเย่เทียนหยู่ ไล่เขาออกจากบ้าน และปล่อยให้เขาเป็นตัวของเขาเองหลิวเจี๋ยอยู่ข้างๆ เขา รอโอกาสเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากทุกคนอยู่ ในเวลานี้ เขาพูดทันที “พี่เย่พูดถูกจริงๆล่ะ ตระกูลหลิวไม่สามารถจัดการกับตระกูลซาได้จริงๆ
หลินหว่านหรูลังเลเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม เธอยังเป็นนักเรียนที่โดดเด่นในสาขาวิชาการเงิน นอกจากนี้ เธอยังดูแลบริษัทหลินซื่อกรุ๊ปมาหลายปี ดังนั้นเธอจึงไม่ใช่มือใหม่ธรรมดาที่ไม่รู้อะไรสักนิดแต่ตอนนี้มีขนมตกลงมาจากฟ้าชัดๆ และพวกเธอก็จะได้เงินนั้นมาง่ายๆ“ยังไงดีครับ หว่านหรู เธอไม่เชื่อใจผมเหรอ?”“ใช่ หว่านหรู แกกำลังคิดอะไรอยู่ นายน้อยหลิวทุ่มเทเพื่อแกไปเท่าไหร่แล้ว ถ้าไม่ใช่เพื่อแก คงไม่มีเรื่องดีๆแบบนี้หรอกนะ”“ใช่แล้ว หว่านหรู ผมไม่กลัวที่จะบอกเรื่องนี้กับเธอหรอกนะ ที่ผมทำทั้งหมดนี้ก็เพื่อเธอเท่านั้น”หลิวเจี๋ยพูดตรงๆด้วยเหตุนี้ แม้แต่นายท่านก็อดไม่ได้ที่จะเชื่อเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากประสบการณ์ที่ผ่านมาว่า ฉีเฟยกรุ๊ปนั้นมีคุณภาพสูงและมีโมเมนตั๊มการพัฒนาที่ดีดูเหมือนว่านายน้อยหลิวจะทุ่มเทกับหว่านหรูเป็นอย่างมากจริงๆคงจะน่าเสียดายมากหากพลาดโอกาสเช่นนี้“หว่านหรู แกยังคิดอะไรอยู่หรือ? หรือว่าเพราะนายน้อยหลิวดีกับแกมากเกินไป จนแกไม่อยากรับมันหรือเปล่า”“ลองคิดดูสิว่านายน้อยหลิวทำเพื่อแกมากแค่ไหน เมื่อวานเขารู้ว่าแกถูกรังแก เขาไปโรงพยาบาลโดยตรงเลยนะ เขาทำให้ของสงวนของซาจื่อหาวพิ
หม่าจวิ้นตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและรีบพูดทันทีว่า “สภาพร่างกายของผมยอดเยี่ยมมาแต่เด็ก ผมไม่จำเป็นต้องฝึกหรอกครับ”“ผมบอกว่าต้องก็ต้อง จะไปมั้ย” เย่เทียนหยู่ถาม“ไปครับ!”หม่าจวิ้นจะไม่คว้าโอกาสแบบนี้เอาไว้ได้ยังไง เขาจึงตอบกลับทันทีเย่เทียนหยู่แจ้งหมายเลขโทรศัพท์และชื่อของหยางผั่วจวินให้เขาทันที จากนั้นเขาก็โทรหาหยางผั่วจวินและเล่าความเป็นมาให้เขาฟังแม้ว่าเขาจะยังไม่สามารถติดตามราชามังกร แต่เขาก็เป็นได้เป็นลูกกระจ๊อกคนหนึ่งแล้ว ต่อไปในอนาคตเขายังมีโอกาสอีกมากใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มกับความตื่นเต้นอันไม่อาจควบคุมเมื่อหลิวเมิ่งเห็นว่าเย่เทียนหยู่คุยกำลังว่าง่าย เธอก็พูดทันที “พี่เขย เรื่องพี่สาว...”“ผมพูดไปแล้ว ไม่ต้องพูดอะไรอีก”เย่เทียนหยู่ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ดึกแล้ว ผมจะไปพักผ่อน ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็รีบกลับไปเถอะ” หลิวเมิ่งทำอะไรไม่ถูก หมายความว่าไงถ้าไม่มีอะไรแล้ว เธอก็พูดอยู่ตลอดว่ามีเรื่องนี่ แต่เขาเองที่ไม่ยอมฟังดูเหมือนคราวนี้พี่เขยตั้งใจจะออกจากตระกูลหลินอย่างแน่วแน่ แล้วลูกพี่ลูกน้องของเธอจะทำยังไงดีภายใต้ความสิ้นหวัง หลิวเมิ่งจากไปพร้อมกับหม่าจวิ้น หลังจากก
หลังจากวางสาย เย่เทียนหยู่ก็เดินทางไปยังบ้านพักของตระกูลหยางและแจ้งให้หยางเฉียนเฉียนทราบด้วยตัวเองว่าปัญหาแก้ไขแล้ว หรือให้พูดตามตรงก็คือ เขาไม่อยากทำให้เธอต้องเสียใจวินาทีแรกที่หยางเฉียนเฉียนได้ยิน เธอก็ยินยอมรับปากเย่เทียนหยู่ สำหรับเธอขอแค่พี่เย่มีความสุขเธอก็มีความสุขต่อมาแม้เธอจะผิดหวังอยู่บ้าง ที่สุดท้ายเธอไม่ได้ลงเอยกับพี่เย่ แต่อย่างน้อยเธอก็ได้จัดงานแต่งงานที่สมบูรณ์แบบกับเขา และยังได้รับใบทะเบียนสมรสกับเขาด้วยหยางต้าฝูดูหดหู่มากกว่า เขาได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่นดูเหมือนว่า ความมั่งคั่งมหาศาลนั่น จะไม่ใช่ของตระกูลหยางของพวกเขาหลังจากจัดการเรื่องนี้แล้ว เย่เทียนหยู่ก็ขับรถกลับไปที่วิลล่าสกายพาเลซหมายเลขหนึ่งแต่ทันทีที่เขามาถึงหน้าประตู เขาก็พบแขกที่ไม่ได้รับเชิญสองคนถูกเขาลงโทษไปแล้ว เจ้าโง่นั่นก็ไม่ยอมแพ้แถมยังตามเขามาถึงที่นี่ ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาคงไม่ได้โง่ขนาดนั้นหรอกใช่มั้ย!เดี๋ยวก่อน หลิวเมิ่งก็อยู่ที่นี่ด้วย แม้ว่าจะน่ารำคาญเล็กน้อย แต่เธอกับหว่านหรูก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันพวกเขาทั้งสองเห็นเย่เทียนหยู่แล้วรีบรุดหน้ามาทันที
ใบหน้าของหลินหว่านหรูแดงระเรื่อขึ้นมาทันทีเล็กน้อย เมื่อคิดถึงเรื่องเมื่อคืน เธอรู้สึกถึงความปรารถนาที่อธิบายไม่ได้ในใจ“เฮ้ คุณบอกว่าคุณต้องการมันมากใช่ไหม” เย่เทียนหยู่พูดด้วยรอยยิ้มที่ไม่ดี เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอกหลังจากแก้ไขปัญหานี้ไม่อย่างนั้น เขารู้สึกจริง ๆ ว่าเขาเป็นหนี้หยางเฉียนเฉียนมากจนเขาไม่รู้ว่าจะเผชิญมันยังไง ในอนาคต“อะไรนะ ฉันจะมีอารมณ์คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ยังไง” ในเวลานี้ หลินหว่านหรูรู้สึกเหนื่อยมากเมื่อเธอคิดถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น“เกิดอะไรขึ้น เกิดอะไรขึ้น ตระกูลสวี่มาที่นี่หรือเปล่า” เย่เทียนหยู่ถาม ปัจจุบัน ตระกูลหลินควรจะมีเพียงธุรกิจของ หลินจื่อตงเท่านั้น“นั่นไม่เป็นความจริง แต่ตระกูลสวี่และตระกูลซุนตกลงกันว่าพ่อแม่ทั้งสองจะหมั้นกันในวันพรุ่งนี้ เราจะรอจนกว่าจะเลือกวันอันเป็นมงคลอื่นก่อนจึงจะจัดงานแต่งงานอย่างเป็นทางการ”“แล้วจื่อตงก็เริ่มวิตกกังวล พรุ่งนี้เขาต้องไปเยี่ยมตระกูลสวี่เขาบอกว่าแม้ว่าเขาจะตาย เขาก็จะไม่ปล่อยให้สวี่เจียเจียหมั้นหมายกับตระกูลซุนเลย” หลินหว่านหรูกล่าวอย่างช่วยไม่ได้ในความเป็นจริง เขารู้สึกว่าทั้งสองฝ่ายเพิ่งหมั้นกันและ
หลินหว่านหรูขมวดคิ้วทันที มาจนถึงตอนนี้แล้วทำไมแม่เธอยังไม่ได้สติอีก ถ้าแม่เธอยังเป็นอยู่แบบนี้ ต่อให้เย่เทียนหยู่กลับมา จะช้าเร็วก็คงเกิดปัญหาอยู่ดีเมื่อแม่ตระกูลหลินเห็นหน้าตาของลูกสาว เธอก็รำคาญทันที “สายตาอะไรของลูกฮะ หรือแกจะทนดูน้องชายตัวเองตายไปทั้งแบบนี้รึไง”คุณปู่ตระกูลหลินเองก็รีบ “หว่านหรู ไม่ว่ายังไงก็ น้องก็คอยสนับสนุนหลานมาโดยตลอด หลานต้องช่วยเขานะ”“ใช่ หว่านหรู ลูกต้องช่วยจื่อตงนะ” หลินหงรีบพูดเสริมหลินจื่อตงเปิดปาก เขาไม่ต้องการรบกวนพี่สาว เพราะมีหลายเรื่องเกิดขึ้นในช่วงนี้ แถมความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลกับพี่เขยก็จบลงไปแล้วแต่เขาไม่อยากเสียสวี่เจียเจียไปเลยจริง ๆเมื่อมองดูสายตาของคนในตระกูล หลินหว่านหรูรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่งและพูดว่า “คิดว่าหนูจะไม่ช่วยจื่อตงเหรอคะ”คุณปู่ตระกูลหลินดูไม่ค่อยดีนัก แต่หลินจื่อตงก็พูดทันที “พี่ อย่าฟังคุณปู่กับทุกคนเลยครับ ผมเชื่อพี่อยู่แล้ว ถ้าพี่ไม่สะดวกจริง ๆ ผมจะไปเองครับ”“นายก็ยังไม่เชื่อพี่อยู่ดี”หลินหว่านหรูโกรธ เธอหันหลังกลับและเดินกลับห้องด้วยความโมโหคุณปู่ตระกูลหลินและคนอื่นๆ ที่ถูกทิ้งไว้ มองหน้ากันอย่างไม่เช
“แต่เธอจะมาที่นี่เร็วๆ นี้”“โอเค ถ้างั้นผมจะรอ”ตอนนี้ ขอแค่แม่ของเขาสบายดีแล้ว เย่เทียนหยู่ก็รู้สึกโล่งใจมากขึ้น แต่เขากังวลว่าตอนนี้แม่ของเขาเป็นอิสระแล้วจริง ๆ หรือเปล่า“ผมขอยืนยันอีกที พวกคุณไม่ขอให้ผมจดทะเบียนกับหยางเฉียนเฉียนแล้วใช่มั้ย” เย่เทียนหยู่ถามย้ำ“ใช่!”“โอเค ถ้างั้นผมไปละ!”เย่เทียนหยู่จากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ แม้ว่าผู้หญิงตรงหน้าเขาจะมีเสน่ห์มากและดูเหมือนเธอจะไม่ได้ต่อต้านการการลุกล้ำของเขาเลยด้วยซ้ำจูเก่อหลิวหลีตกอยู่ในอาการมึนงง นี่เขา ออกไปแล้วเหรอตัวเธอมีเสน่ห์ไม่พอเลยหรือไงนี่เป็นครั้งแรกที่เธอสงสัยในความสวยของตัวเอง!เธอรู้สึกมาโดยตลอดว่าถ้าเธอเต็มใจ ก็คงไม่มีใครต้านทานเสน่ห์ของเธอได้ขณะที่เธอกำลังคิดอยู่ โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น ท่านผู้หญิงของเธอโทรมา“ท่านผู้หญิง ฉันขอโทษ ทั้งหมดเป็นความผิดของฉัน” จูเก่อหลิวหลีรับสายและพูดทันที“ไม่เป็นไร!”“ฉันเพิ่งรู้ว่าเทียนหยู่ได้รับพลังลมปราณซวนหมิงของหยางเฉียนเฉียนมาแล้ว เพราะงั้นเขาจะอยู่กับหยางเฉียนเฉียนหรือไม่ก็ไม่สำคัญ”ท่านผู้หญิงตอบ“พลังลมปราณซวนหมิงนั่นคืออะไรคะ” จูเก่อหลิวหลีไม่เคยรู้
“ฉัน…”จูเก่อหลิวหลีเกือบจะหลุเบอกความจริง แต่เมื่อนึกถึงคำเตือนของท่านผู้หญิง ที่ว่าห้ามให้เย่เทียนหยู่รู้เกี่ยวกับการเข้าพักของท่านผู้หญิงในเมืองเทียนไห่เด็ดขาดเธอไม่สนใจอะไรอีกต่อไปและพูดว่า “คุณไม่เชื่อฉันก็หมดหนทางจะพูด อยากทำอะไรก็ทำเถอะ”“พูดจริงเหรอ ถึงผมจะไม่ชอบคุณ แต่ด้วยความสวยของคุณ คนรอบตัวผม…”“กล้าเหรอ!”จูเก่อหลิวหลีรู้สึกอับอาย แต่เสียใจมากกว่า เธอขัดจังหวะและพูดด้วยความโกรธ “ถ้าคุณกล้าทำแบบนั้น ฉันจะไม่ปล่อยคุณไปแน่ ต่อให้ฉันต้องตายไปเป็นผีก็ตาม!”ขณะที่เธอพูดน้ำตาของเธอก็ไหลไม่หยุดคราวนี้ ทำเอาเย่เทียนหยู่รู้สึกสับสนโดยเฉพาะตอนที่เห็นอีกฝ่ายทั้งเสียใจและโกรธมากจนน่าสงสาร เขาก็รู้สึกสงสารเขาเหมือนเป็นคนเลวทรามเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายน่าสงสารเพียงใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งว่าเขาน่าสงสารเพียงใด เย่เทียนหยู่ก็ไม่สามารถเคลื่อนไหวใด ๆ ได้และพูดอย่างช่วยไม่ได้ “ก็ได้ ถ้าคุณไม่พูดก็ช่างมันเถอะ แต่ในเมื่อคุณเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ ตอนนี้คุณคงยอมปล่อยเรื่องนี้ไปได้แล้วใช่มั้ย”ถึงยังไงมันไม่ก่ออันตรายใด ๆ กับเขา หากปัญหานี้ได้รับการแก้ไข และเขาไม่ตามเอาความทุกอย่างก็จบจ
จูเก่อหลิวหลีตกใจมาก นายน้อยคนนี้เก่งเชื่อมโยงเกินไปแล้ว อุตส่าห์เดาถูกเสียหมด แต่เธอรีบตอบทันทีว่า “เธอเป็นแค่หุ้นส่วนของฉัน คุณคงไม่คิดว่าเธอเป็นแม่ของคุณหรอกนะคะ”“คุณคิดมากไป ถ้าเธอเป็นแม่ของคุณจริง ๆ เธอคงออกมาพบคุณนานแล้ว”“ก็ใช่นะ”เย่เทียนหยู่พยักหน้าเห็นด้วย แต่เขาก็พูดต่อทันที “แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นอย่างนั้นหรอก ตามที่คุณพูด แม่ของผมยังมีชีวิตอยู่ แต่เธอไม่มาเจอผมด้วยตัวเองเลย บางทีเธออาจมีเหตุผลบางอย่าง”“…”จูเก่อหลิวหลียิ้มอย่างขมขื่น นายน้อยคนนี้สมองเร็วเสียจรงิ “ถ้าคุณอยากจะคิดแบบนั้นก็ตามใจ” เธอตอบอย่างเป็นหลาง“เอาล่ะ ถ้างั้น ผมขอถามคุณ ว่าตอนนี้แม่ของผมเป็นยังไงบ้าง”“ไม่ต้องห่วง เธอสบายดี เธอแค่ยุ่งอยู่กับเรื่องใหญ่ เมื่อเสร็จแล้ว เธอจะมาที่เมืองเทียนไห่เพื่อตามหาคุณเอง”“จริงเหรอ” เย่เทียนหยู่รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เป็นเวลาหลายปีแล้วที่ไม่มีข่าวเกี่ยวกับแม่ของเขา ตอนนี้เขารู้ว่าเธอปลอดภัย เขาก็ย่อมมีความสุข“จริงแท้แน่นอนค่ะ”“คุณคือคนที่คอยจัดการให้ผมหย่ากับหลินหว่านหรูแล้วแต่งงานกับหยางเฉียนเฉียนเหรอ” เย่เทียนหยู่ถาม“ถูกต้อง!”จูเก่อหลิวหลียืนยัน“เพร
“ถ้าคุณจูเก่อชอบก็ทำตามที่ชอบเถอะครับ!” เย่เทียนหยู่กล่าวเสียงเรียบจูเก่อหลิวหลีเริ่มโกรธเล็กน้อยและพูดว่า “คุณเย่ คุณต้องการอะไร”“บอกผมมา ผู้หญิงที่อยู่กับคุณคือใคร ทำไมคุณถึงไม่อยากให้ฉันอยู่กับ หลินหว่านหรูและอยากให้ฉันแต่งงานกับหยางเฉียนเฉียน” เย่เทียนหยู่กล่าว“ฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดถึงอะไร!”“ดูเหมือนว่าคุณจะหลั่งน้ำตาไม่ได้จริง ๆ จนกว่าคุณจะเห็นโลงศพ” เย่เทียนหยู่รู้สึกหงุดหงิด ลุกขึ้นยืนตรง ก้าวไปข้างหน้า และจู่ๆ ก็ดึงจูเก่อหลิวหลีตรงหน้าเขาจูเก่อหลิวหลีสะดุ้ง และสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย“คุณ คุณจะทำอะไร”“ทำอะไรเหรอ คุณคิดว่าผู้ชายจะทำยังไง เวลาเผชิญหน้ากับผู้หญิงสวยแบบคุณน่ะ” เย่เทียนหยู่พูดอย่างจงใจแต่เมื่อเขาหรี่ตาลง เขาเห็นจูเก่อหลิวหลีสีขาวจาง ๆ ซึ่งสูงและสมบูรณ์แบบมากจนแทบจะกระโดดออกจากผ้าเช็ดตัวผิวโดยรอบเป็นสีขาวพราว และดวงตากลมโตที่สดใสเหล่านั้นปรากฏให้เห็นอารมณ์แสนซับซ้อน รวมถึงความเขินอาย ความกังวลใจ และแม้แต่ความหลงใหลเย่เทียนหยู่ไม่สามารถจัดการมันได้ในทันทีทั้งที่ถูกเขารุกขนาดนี้แล้ว แต่เธอยังมองเขาด้วยสายตาร้อนแรงแบบนั้นหมายความว่ายังไงจู
เธอพยักหน้าทันทีและพูดว่า “ค่ะ ท่านผู้หญิง ไม่ต้องกังวล ฉันจะไม่เปิดเผยเรื่องนี้อีกแม้แต่คำเดียว”“ลองดูสถานการณ์ก่อนเถอะ”“พวกเขาไม่ใช่ศัตรู เธอสามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง คำขอเดียวคืออย่าให้เขารู้ว่าฉันอยู่ในเมืองเทียนไห่”อีกฝ่ายทิ้งคำพูดไว้ แล้วรีบเก็บข้าวของพอประมาณ ก่อนจะออกจากโรงแรมไปพร้อมกับคนของเธอเธอเดินเร็วมากและไม่แม้แต่จะใช้ลิฟต์ แต่เลือกใช้บันไดเพื่อเลี่ยงกล่องวงจรปิดทั้งหมด และเดินย่างไร้เสียงทันทีที่เธอออกจากรถ รถของเย่เทียนหยู่ก็เข้ามาใกล้ เขาได้สอบถามและรู้ว่าจูเก่อหลิวหลีอาศัยอยู่ในห้องไหน เขาจึงเดินเข้าไปเมื่อมาถึงหน้าประตูห้องของจูเก่อหลิวหลีเขาก็เคาะเบา ๆจูเก่อหลิวหลีเปิดประตูเย่เทียนหยู่ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งเพราะในเวลานี้ จูเก่อหลิวหลีเพิ่งอาบน้ำเสร็จ และเธอยังสวมเสื้อคลุมอาบน้ำอยู่ ขาของเธอเรียวยาว ใบหน้างดงามราวดอกบัวที่เพิ่งบานทำให้หัวใจของคนที่เห็นเต้นผิดจังหวะผิวพรรณที่เผยออกมาเล็กน้อยของเธอขาวโดดเด่น ทำให้ใครเห็นก็ไม่อาจกระพริบตา“คุณเย่เหรอคะ” จูเก่อหลิวหลีพูดด้วยสีหน้าประหลาดใจ“ผมเอง คุณจูเก่อจะนอนแล้วเหรอ”“ใช่ คุณเย่ เจอที่นี่ได้ยังไ