“เย่เทียนหยู่ นายเป็นคนแจ้งตำรวจหรือเปล่า” หลินหว่านหรูอดไม่ได้ที่จะถาม“เปล่า! ” เย่เทียนหยู่ส่ายหัว“จะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไง ดูท่าทางของผู้กองจางเมื่อกี้ เห็นได้ชัดว่าพวกเราก็อยู่ที่นี่ด้วย” หลินหว่านหรูพูดด้วยความสับสนซูถิงเองก็ตกตะลึง ไม่ใช่เย่เทียนหยู่หรอกเหรอ? แต่ว่าต่อให้ไม่ใช่เขา คนนั้นก็น่าจะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเย่เทียนหยู่พอสมควร แต่ก็ไม่ควรให้หลินว่านหยูรู้เรื่องนี้ยิ่งไปกว่านั้น เธอยังต้องการที่จะให้หลินหว่านหรูรู้สึกหวั่นไหวกับนายน้อยหลิวด้วยจู่ ๆ เธอก็มีความคิดเข้ามาในหัว และรีบพูดว่า “ฉันรู้แล้ว ต้องเป็นนายน้อยหลิวแน่ ๆ! ”“นายน้อยหลิวอย่างงั้นเหรอ? ”หลินหว่านหรูกลับไม่คิดแบบนั้น จากพฤติกรรมของนายน้อยหลิวเมื่อต้องเผชิญหน้ากับซาจื่อหาว เขาไม่กล้าแม้แต่จะเป็นปรปักษ์กับตระกูลซาด้วยซ้ำ ไม่เห็นก่อนหน้านี้ที่หลิวเจี๋ยถูกเขาทำให้ตกใจจนตื่นตระหนกหรือไง“ต่อให้เธอจะคิดว่านายน้อยหลิวไม่ได้เรื่อง แต่ฉันก็ยังโทรหาเขา เขาบอกให้ฉันใจเย็น ๆ แล้วยังบอกอีกว่าลุงของเขากำลังตรวจสอบซาวั่นไห่อยู่”“ถ้าฉันเดาไม่ผิด นี่อาจจะเป็นคำขอของนายน้อยหลิว เบื่องบนถึงได้ดำเนินหารกับซาวั
เย่เทียนหยู่ขับรถด้วยตัวเอง แค่เขาไม่ได้ขับตามรถของซูถิงแต่ขับไปอีกทางหนึ่งแทน ขับไปทางโรงพยาบาลหญิงชราคนนั้นกล้ามาตบหน้าภรรยาของเขา เขาจะปล่อยเรื่องนี้ไปง่าย ๆ ได้อย่างไร?ผู้กองจางและคนอื่น ๆ พาตัวซาวั่นไห่ไป ออกไปอย่างเอิกเกริก ระหว่างทางเขาได้โทรหานายกเทศมนตรีหวง และรายงานว่า “การดำเนินการราบรื่นดีมาก พวกคุณผู้ชายเย่และคนอื่น ๆ ก็ไปแล้ว ซาวั่นไห่เองก็ถูกนำตัวกลับไปที่สถานีตำรวจแล้วครับ”“ดี ความดีความชอบครั้งนี้ นายเป็นคนได้ทั้งหมด”ในใจนายกเทศมนตรีหวงเองก็รู้สึกตื่นเต้นมากเช่นกัน การที่จับตัวซาวั่นไห่ได้นั้น ก็เหมือนได้ช่วยเมืองเทียนไห่แก้ปัญหาโรคเรื้อรังนี้ได้ ได้ทำเพื่อผู้ที่เกี่ยวข้องและเสียใจไปไม่น้อยกับเรื่องนี้ที่ได้“ขอบคุณมากครับ นายกเทศมนตรีหวง! ”ผู้กองจางเองก็มีความสุขมากเช่นกัน ที่จริงพวกเขากำลังตรวจสอบซาวั่นไห่อย่างลับ ๆ อยู่ เหตุผลหลัก ๆ เลยก็คือครอบครัวของซาวั่นไห่นั้นทั้งหยิ่งและทำตัวครอบงำมากเกินไป แทบจะไม่มีทางควบคุมได้เลยด้วยซ้ำแต่เนื่องจากความแข็งแกร่งที่ไม่มีใครเทียบได้ของตระกูลซา บวกกับการสนับสนุนอย่างลับ ๆ จากใครบางคน การตรวจสอบจึงถูกขัดขวางอยู่ระ
ซูถิงเองก็ยังสงสัยเลยว่าเย่เทียนหยู่ไปอยู่ที่ไหน เธออดไม่ได้ที่จะแอบโทรหาเขา“เย่เทียนหยู่ หว่านหรูขอให้ฉันถามนายว่าตอนนี้นายอยู่ที่ไหน ทำไม่ยังไม่กลับมาอีก? ”“ฉันมาที่โรงพยาบาล ฉันจะกลับไปหลังทำธุระเสร็จ”หลังจากที่เย่เทียนหยู่พูดจบ เขาก็วางสายโทรศัพท์แล้วเดินเข้าไปข้างใน เนื่องจากวิลล่าอยู่ห่างจากโรงพยาบาลชั้นนำของเมืองเทียนไห่ค่อนข้างไกล จึงต้องใช้เวลาเพิ่มมากขึ้นเล็กน้อยซูถิงตกตะลึงในตอนแรก จากนั้นจึงเข้าใจทันที เย่เทียนหยู่คงต้องการจะระบายความโกรธแทนหลินหว่านหรู หลินหว่านหรูปฏิบัติต่อเขาดีขนาดนั้น เธอไม่เพียงแต่ไม่กล่าวโทษ แต่เธอกลับยิ่งคิดว่าดีซะอีกทันใดนั้นเอง โทรศัพท์มือถือของหลินหว่านหรูก็ดังขึ้น เธอคิดว่าเป็นเย่เทียนหยู่ จึงรีบรับสายทันที“หลินหว่านหรู ฉันจะให้โอกาสเธอเป็นครั้งสุดท้าย ตอนนี้เธอกลับมาที่เตียงของลูกชายฉันแต่โดยดี ไม่เช่นนั้น ฉันรับประกันได้เลยว่า เธอจะต้องเจอเรื่องน่าเวทนาแน่ ตระกูลหลินเองก็จะถูกทำลายด้วยเหมือนกัน”หลังจากที่คุณนายซาพูดขู่เสร็จ เธอก็วางสายโทรศัพท์ทันทีในความเห็นของเธอ คำพูดเหล่านี้ก็เพียงพอแล้ว และไม่จำเป็นต้องมีการต่อบทสนทนาอะไรอีก
ในขณะที่เย่เทียนหยู่ไม่ขยับเลยสักนิดแต่คุณนายซากลับกรีดร้องเพราะโดนตบหน้า รอยนิ้วมือทั้งห้าที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอมองเห็นได้ชัดเจนมากแรกๆคุณนายซาก็รู้สึกสับสน จากนั้นเธอก็เริ่มเป็นบ้าและสาปแช่งเขาด้วยความโกรธ “นี่แกกล้าตบหน้าฉันงั้นเหรอ แกอยากตายนักรึไง ฉันเอาแกตายแน่!”ขณะที่เธอพูดเธอก็รีบวิ่งไปยังเขาเหมือนคนปากร้ายเพี๊ยะ!เธอโดนตบหน้าอย่างแรงอีกครั้งอีกทั้งยังโดนตบซ้ำไปที่เดิมโอ๊ย!คราวนี้คุณนายซาก็จะกรีดร้องอย่างเจ็บปวดและมีเลือดไหลออกมาจากมุมปากของเธอ เธอรีบเอาฝ่ามือทาบแก้ม ไม่อยากจะเชื่อเหตุการณ์ที่เธอเห็นเลยสักนิดเธอไม่เคยคิดเลยว่า คนที่ฐานะสูงส่งอย่างเธอจะมีวันที่เธอต้องโดนตบแบบนี้จริงๆเย่เทียนหยู่ดูสงบและพูดอย่างใจเย็น “โดยปกติแล้วผมจะไม่ตบผู้หญิงนะ แต่สำหรับคนอย่างคุณ ถ้าหากผมเจอคนเดียวก็จะตบคนเดียว แต่ถ้าเจอเป็นคู่ก็จะตบทั้งคู่!”“แก แกมันบ้าจริงๆ ฉันจะบอกให้นะ แกจะต้องตายแน่ๆ ตระกูลซาจะต้องไม่ปล่อยแกไป ไม่ปล่อยแกไปเด็ดขาด”“ตระกูลชาเหรอ?”ใบหน้าเย่เทียนหยู่แสดงความเหยียดหยาม และพูดด้วยความใจเย็นว่า “คุณแน่ใจหรือว่าตอนนี้ตระกูลชายังคงมีอยู่เหมือนเดิม?”
“นี่ตระกูลซาถึงจุดจบแล้วจริงๆเหรอ?”คุณนายซาอดไม่ได้ที่จะถาม เพราะเธอยังยอมรับมันไม่ได้จริงๆฟและเธอก็กังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของตระกูลซามากกว่าอาการบาดเจ็บของลูกชายเธอเสียอีก“ตระกูลซาถูกกำหนดให้ต้องพังพินาศตั้งแต่วินาทีแรกที่คุณทำร้ายภรรยาของผมแล้ว”เย่เทียนหยู่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาเพราะถ้าหากว่าตำรวจจะไม่จัดการกับเรื่องนี้ เขาเองก็จะจัดการประหารตระกูลซาให้ได้“ไม่ แกทำทุกอย่างนี้เองไม่ได้หรอก!”สีหน้าของคุณนายซาเริ่มซีดเซียวลงอย่างชัดเจนในขณะนี้ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายคนปรากฏตัวขึ้น ซึ่งนำโดยผู้กองจางนั่นเองเพราะนายกเทศมนตรีหวงบอกเขาว่าเมื่อคุณเย่มาที่นี่ อาจมีบางอย่างเกิดขึ้น ให้เขามาช่วยจัดการกับเรื่องนี้เองคงจะดีกว่าและมันก็เป็นไปตามนั้น เพราะพอเขามาถึง ก็เห็นเหตุการณ์วุ่นวายเช่นนี้แล้วเมื่อคุณนายซาเห็นผู้กองจางที่เธอรู้จักเดินมา เธอก็กระตือรือร้นขึ้นมาทันทีและพูดขึ้นอย่างเร่งรีบ“ผู้กองจางคะ คุณมาที่นี่ทันเวลาพอดีเลยค่ะ ที่นี่มีฆาตกรบ้าคลั่ง เขากำลังจะฆ่าคน คุณดูสภาพฉันและลูกชายของฉันสิ พวกเราโดนเขาทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้ว”ผู้กองจางมองดูเหตุการณ์ตรงห
“นี่คือเหตุผลที่แกจงใจชักจูงฉันให้ลงมือใช่ไหม?”“ใช่ครับ ลูกน้องของผมทำผิดไปแล้วครับ!” หยางต้าฝูกัดฟันแล้วพูดตามตรง“ดีแล้วที่แกไม่ได้เล่นลิ้นกับฉันน่ะ ไม่อย่างนั้นฉันคงจะสอนบทเรียนอันลึกซึ้งให้กับแกแน่ๆ” เย่เทียนหยู่พูดอย่างใจเย็น“ครับ ขอบคุณท่านราชามังกรมากครับ! แต่ลูกน้องของผมลงมือไปเพราะเขามีความบาดหมางนองเลือดกับพ่อของซาวั่นไห่มาก่อน เขาฆ่าพี่ชายที่ดีที่สุดของผม”“อ๋อ แล้วทำไมแกถึงไม่ขอความช่วยเหลือจากด่านหลงเหมินล่ะ?”“ตอนนั้นผมเคยขออนุญาตแล้ว แต่ไม่มีการตอบกลับครับ”“งั้นเรื่องคราวนี้ก็ช่างมันเถอะ แต่อย่าทำแบบนี้อีกก็แล้วกัน”“ครับท่าน แต่พ่อของซาวั่นไห่เคยเป็นปรมาจารย์เมื่อสี่ปีที่แล้ว และความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขานั้น เราไม่ควรประมาท หากเขากลับมา เขาอาจก่อเรื่องให้กับท่าน ท่านราชามังกร โปรดระวังด้วยนะครับ”“ไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก!”“เขาก็เป็นแค่ปรมาจารย์เท่านั้นเอง ถ้าเขาไม่กลับมาก็แล้วไป แต่ถ้าเขากลับมาก่อเรื่องละก็ ฉันจะโจมตีมันจนกว่าจะพิการไปเลย”เย่เทียนหยู่วางสายโทรศัพท์ทันทีหลังจากพูดจบหยางต้าฝูรู้สึกสับสนในทันที ปรมาจารย์ก็คือระดับสุดยอดที่สุดในระดับนักร
คราวนี้นายท่านถึงกับเงียบไปเล็กน้อย หลังจากที่ได้ฟังลูกชายและลูกสะใภ้บ่นถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ เขาก็เริ่มสงสัยแล้วว่าเขาทำอะไรผิดไปหรือเปล่าจากสิ่งที่ได้เห็นในปัจจุบันนี้ เทียนหยู่ชอบคุยโวจริงๆ ที่สำคัญคือเขาไม่ทำอะไรเลยและเขาก็ไม่ได้เต็มใจทำงานที่จัดเตรียมให้เขาที่บริษัทเลยสักนิดเขาวันๆมัวแต่เดินเตร็ดเตร่และขี้เกียจที่จะทำงาน คิดว่ามีวิชากังฟูที่บ้าๆบอๆของเขา แล้วเขาจะต่อสู้โดยไม่คำนึงถึงความรุนแรงยังไงก็ได้ จนเกือบจะนำตระกูลหลินดิ่งลงเหวครั้งแล้วครั้งเล่าถ้าไม่ใช่เพราะหลิวเจี๋ย พวกเราก็คงจบเห่ไปแล้วเมื่อคุณพ่อตระกูลหลินเห็นว่านายท่านลังเลใจ เขาก็พูดต่อทันที “ใช่แล้วครับ หลายครั้งที่เขาทำมาก่อนหน้านี้เราไม่ว่านะ แต่คราวนี้เขาถึงกับยั่วยุตระกูลซาเลยนะ”“เห็นพวกเขาว่าหว่านหรูพยายามอย่างเต็มที่ที่จะหยุดเขาแล้วนะ และบอกเขาว่าอย่าทําสิ่งเลวร้ายตามอําเภอใจ แต่เย่เทียนหยู่ไม่ฟังเลย เขายังไปตามทางของตัวเองและพูดคำพูดที่หยิ่งยโสโอหังไม่หยุด”“โชคดีที่ครั้งนี้ตระกูลซามีปัญหาจริงๆ โชคดีที่นายน้อยหลิวขอร้องให้ลุงของเขาดำเนินการล่วงหน้า ไม่เช่นนั้นตระกูลหลินของเราคงจะไม่มีที่ยืนอี
“ใช่ครับ แต่แค่ตระกูลซานั่นผมคงไม่สนใจมันหรอก”คุณแม่ตระกูลหลินยิ่งโกรธมากขึ้น “แกไม่สนใจเหรอ ที่แกยังมีชีวิตอยู่ได้ แกควรคุกเข่าลงต่อหน้านายน้อยหลิวและกราบเขาด้วยซ้ำ!”“นี่ถ้าไม่ใช่เพราะนายน้อยหลิวช่วยจัดการตระกูลซาในครั้งนี้ ฉันคิดว่าแกคงจะตายแบบไม่มีดินกลบหน้าไปนานแล้วล่ะ”“นี่นายน้อยหลิวเขาสามารถจัดการตระกูลซาได้จริงๆหรือ”น้ำเสียงของเย่เทียนหยู่สงบ แต่เต็มไปด้วยความดูถูกดูแคลนนักเมื่อเห็นว่าเย่เทียนหยู่ไม่เพียงแต่หยิ่งสยองเท่านั้น แต่ยังไม่มีเหตุผล นายท่านก็รู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมากหลินหว่านหรูทำอะไรไม่ถูก ถ้าไม่ใช่เพราะนายน้อยหลิวที่ยุยงซาวั่นไห่ในครั้งนี้ ผลที่ตามมาคงจะแย่มาก ทำไมเย่เทียนหยู่ถึงเปลี่ยนนิสัยเพื่อรักษาหน้าของเขาไม่ได้เลยนะซูถิงรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากเมื่อเธอดูฉากนี้ โดยเฉพาะเย่เทียนหยู่ถูกทุกคนโจมตีด้วยคำพูดพูดต่อไปเลย สู้ๆ ดีที่สุดคือหย่ากับเย่เทียนหยู่ ไล่เขาออกจากบ้าน และปล่อยให้เขาเป็นตัวของเขาเองหลิวเจี๋ยอยู่ข้างๆ เขา รอโอกาสเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากทุกคนอยู่ ในเวลานี้ เขาพูดทันที “พี่เย่พูดถูกจริงๆล่ะ ตระกูลหลิวไม่สามารถจัดการกับตระกูลซาได้จริงๆ
“จะอะไรได้อีก ก็แค่ถ่วงเวลาแล้วพยายามหาทางหนี ถ้าไม่เชื่อก็รอดู ตอนสามทุ่มพวกนั้นปล่อยอะไรออกมาไม่ได้หรอก”เวลาสองทุ่มเป็นเวลาที่พอเหมาะพอดี แต่ถ้าสามทุ่มออกจะดึกไปหน่อย ถ้าเลยช่วงเวลานั้นไป คงจะไม่มีหลักฐานแน่ถึงได้ทำแบบนั้นเมื่อทุกคนได้ยินคำพูดของปาร์คดาฮยอน พวกเขาต่างก็เห็นด้วยโดยเฉพาะผู้หญิงที่เดินทางมาด้วยกัน เธอชมเขาไม่ขาดปากว่าเก่งกาจแค่ไหนพี่ดาฮยอนเก่งทุกอย่างจริงๆ ถึงแม้ว่าเขาจะต้องเสพยาก็ตามที“ดาฮยอน ดูสิ พวกเขาโพสต์บัญชีติ๊กต็อก ได้ยินมาว่าพวกเขาจะลงหลักฐานในนั้น” ผู้จัดการรีบพูด“แล้วพวกเขาลงหรือยัง?” ปาร์คดาฮยอนถาม“ยังหรอก”“ก็นั่นละ หลอกลวงคนอื่นใครจะทำไม่เป็น ไม่เห็นเหรอว่าออฟฟิศเชียลของแพลตฟอร์มก็ไม่ได้ออกมาพูดอะไร?”“นั่นสินะ”ที่แท้แล้วตอนนั้นเอง เมื่อบรรลุข้อตกลงแล้ว เย่เทียนหยู่จึงเป็นผู้นำในการลงทะเบียนบัญชีในนามของหลินหว่านหรู และแจ้งลงในบัญชีนั้นว่าจะมีการเผยแพร่หลักฐานในตอนแรกทุกคนไม่เชื่อ แต่พวกเขาก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปและอยากจะเชื่อมัน ผู้คนก็เริ่มเชื่อมันมากขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากนั้นไม่นาน เจ้าหน้าที่แพลตฟอร์มก็ยืนยันเรื่องนี้ ในขณ
เมื่อกลับมาที่ห้อง หลินหว่านหรูอดไม่ได้ที่จะถามด้วยความกังวล: "เทียนหยู่นายเตรียมหลักฐานทั้งหมดแล้วจริงๆ เหรอ?""แน่นอน!"เย่เทียนหยู่ยืนยัน ถ้าหากไม่ต้องเตรียมตัวให้เรื่องของหลินหว่านหรูมากหน่อย ทุกอย่างคงจะเรียบร้อยก่อนแล้วเพราะเรื่องคราวนี้ อาจโปรโมตไปถึงเครื่องสำอางของหลินซื่อกรุ๊ป แต่ถึงเขาจะใจดีสุดๆ แต่เขาก็ไม่อาจปล่อยให้คนอย่างแม่ตระกูลหลินระเริงใจมากไปนักประเด็นเพราะนิสัยของแม่ตระกูลหลิน เวลาได้รับผลประโยชน์ เธอไม่เพียงแต่ไม่เคยรู้สึกขอบคุณ แต่เธออาจจะแว้งมาเยาะเย้ยหลินหว่านหรูไม่อย่างนั้น เขาคงไม่ต้องกังวลกับการปล่อยให้แม่หลินฉวยโอกาสพูดถึงแม่หลินถึงแม้จะเป็นวันแรกที่เธอเข้ารับตำแหน่ง แต่มันก็ไปได้ไม่ดีนัก เพราะคนที่เป็นระดับลูกน้องของเธอไม่มีความประทับใจในตัวเธอเลยยิ่งไปกว่านั้น คือทันทีที่เธอเข้ารับตำแหน่ง เธอก็เข้ามาชี้แนะอะไรมากมายราวกับตัวเองรู้ทุกอย่างเป็นอย่างดีสิ่งสำคัญที่สุดคือต้องมีสามสิ่งเพื่อให้เจ้าหน้าที่ใหม่เข้ารับตำแหน่ง พวกเขาจะต้องควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างเข้มงวดและลดรางวัลที่ไม่จำเป็นมากมาย ซึ่งก็คือการลดเงินเดือนของทุกคนแค่ลดค่าจ้างไม่สะดวกจริงๆ
“สมควรตายจริงๆ ถ้าแกด่าพ่อแม่ฉันยังพอทน แต่แกกล้าด่าพี่ดาฮยอนของฉัน ฉันจะสู้กับแกให้ตายไปข้าง” หนึ่งในหมู่แฟนคลับพ่นประโยคไร้สมองที่ทำให้คนอื่นๆต้องตกตะลึงออกมา และเธอเป็นแค่เด็กสิบขวบเจ้าหน้าที่หวงกังวลมากจนเหงื่อไหลผุดออกมาบนหน้าผาก กองกำลังตำรวจของเขาเพียงลำพังไม่สามารถรักษาสถานการณ์ได้อีกต่อไป และทุกอย่างกำลังจะเข้าสู่ความสับสนวุ่นวายเย่เทียนหยู่ส่งเสียงเหอะเป็นเชิงเยาะเย้ยออกมาด้วยความโกรธ และเสียงนั่นก็ทำให้ฝูงชนตะลึงงันไปชั่วขณะ: “พวกคุณไม่เชื่อใช่มั้ย คืนนี้ผมจะปล่อยหลักฐานให้พวกคุณดู ให้พวกคุณได้ตาสว่างสักที” เขาพูดด้วยความโกรธทุกคนหยุดครู่หนึ่ง แต่ไม่นานก็มีคนพูดอย่างไม่มั่นใจ: "คุณต้องการนำหลักฐานประเภทใดมา ฉันคิดว่าคุณแค่อยากจะชะลอเวลาและหลบหนี"“หนีเหรอ คนโง่อย่างพวกคุณ คุ้มค่าให้ผมต้องหนีด้วยเหรอ?”เย่เทียนหยู่ดูถูกเหยียดหยาม และเสียงของเขาก็ดังพอจะเข้าถึงหูของทุกคนเมื่อทุกคนได้ยินแบบนั้น ต่างก็โมโหจนแทบคลั่งขึ้นมาทันที และอยากจะฉีกเขาเป็นชิ้นๆเจ้าหน้าที่หวงทำอะไรไม่ถูก หมอนี่ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆแต่ในเวลานี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนมากพยายามรักษาความสงบเรียบร้อย ปร
ไม่น่าแปลกใจเลย เพราะถึงยังไงพวกเขาก็ทำจนกลายเป็นเรื่องใหญ่ คนถ่ายทอดสดที่มาถึงสถานที่แล้วต่างก็พากันโพสต์วิดีโอ ส่วนคนที่มาไม่ได้ก็รีบพากันแชร์ในขณะนี้ สถานีโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ และสื่อต่างๆ มากมายแห่แหนกันเข้ามาทำข่าวอย่างบ้าคลั่งมีคนที่ได้รับชมวิดีโอก่อนหน้านี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้จำนวนคนที่ด่าเย่เทียนหยู่มากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะเรื่องท่าทางเย่อหยิ่งและพฤติกรรมอำมหิตของเขาแฟนคลับสมองนิ่มของปาร์คดาฮยอนหลายคนตื่นเต้นมากเมื่อได้เห็นแบบนั้น พวกเธอภูมิใจกับพฤติกรรมอันทรงพลังในการปกป้องเจ้านายของพวกเขาผู้นำของอาณาจักรมังกรกลัวสิ่งที่ร้ายแรงที่สุด คราวนี้ ด้วยการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ พวกเขายังคงกังวลว่าจะไม่สามารถลงโทษฆาตกรอย่างรุนแรงได้โดยไม่สังเกตว่าแกนนำ สภ. ปรากฏตัวแล้ว เจ้าหน้าที่หวงก็ตะโกนดังลั่น: "ทุกคนอย่ากังวล เราจะสอบสวนความจริงอย่างเคร่งครัดและจะไม่ยอมให้ใครก็ตามที่ฝ่าฝืนกฎหมายและระเบียบวินัยหลุดลอยไป"อย่างไรก็ตามทุกคนยังคงไม่พอใจและตะโกนลั่นและเรียกร้องให้จับฆาตกรทันทีและลงโทษอย่างรุนแรงเจ้าหน้าที่หวงเองก็ทำอะไรไม่ถูก ความจริงแล้ว ในความเห็นของเขา ไม่ว
เย่เทียนหยู่ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งเมื่อได้ยินแบบนั้น คนพวกนั้นบ้าไปแล้วเหรอ เป็นเรื่องยากมากที่ในอาณาจักรมังกรจะมีคนจำนวนมากจับกลุ่มประท้วงคราวนี้ เกรงว่าคงจะโกรธจริงเข้าแล้วความจริงทั้งหมดต้องถูกตรวจสอบอย่างละเอียด!ต่อให้เขาไม่มีหลักฐานอะไรเลย เกรงว่าก็คงจะหาทางตรวจสอบจนละเอียดยิบคนโง่เหล่านี้ไม่ได้ช่วยเหลือปาร์คดาฮยอน ซึ่งพวกเขาต้องการ แต่กำลังพยายามทำร้ายปาร์คดาฮยอนไม่ว่าปาร์คดาฮยอนจะมีความสามารถแค่ไหน ก็ไม่มีทางที่เขาจะสามารถต่อสู้กับพลังเช่นนี้ได้เป็นกรณีนี้จริง ๆ เรื่องนี้ได้รับการรายงานอย่างรวดเร็วไปยังผู้นำที่รับผิดชอบข้างต้น ซึ่งโกรธเคืองและขอให้ผู้คนดำเนินการทันทีต้องตรวจหาความจริงทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นความผิดของใคร ล้วนต้องถูกโทษสถานหนักเมื่อหลินหว่านหรูได้ยินคำพูดของหยางไฉ่อวิ๋นเธอก็ร้อนใจขึ้นมาทันที: “เทียนหยู่ฉันควรทำยังไงดี? นายหลบไปก่อนดีมั้ย ฉันจะรับหน้าให้เอง” เธอรีบเอ่ยปากถึงคนพวกนั้นจะด่าเธอด้วยถ้อยคำหยาบคาย แต่ถึงยังไง คนที่ทำร้ายร่างกายก็เป็นเทียนหยู่ก็ ไม่ใช่เธอเย่เทียนหยู่ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ไม่ต้องหรอก ผมจะจัดการเอง”หยางไฉ่อวิ๋นรู้สึกกังวลมากจ
เย่เทียนหยู่สังเกตเห็นท่าทางแปลกๆของเธอจึงรีบถามว่า: “เป็นอะไรไป เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า”เมื่อเผชิญกับคำถามของเย่เทียนหยู่ หลินหว่านหรูก็ไม่คิดจะปิดบัง และบอกเธออย่างไม่เต็มใจ: “ฉันเกรงว่าตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปของกลุ่มเทียนเฟิง คงจะ คงจะไม่ได้แล้วเหรอ...”“ทำไมเหรอ”เย่เทียนหยู่ถามหลินหว่านหรูพูดความจริงหลังจากได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด ก็เกิดแสงเย็นวูบวาบในดวงตาของเย่เทียนหยู่ ก่อนจะพูดด้วยความโกรธ: “สมควรตาย!” คนอื่นอาจจะมองไม่ออก แต่เขาเข้าใจเหตุการณ์ในทันทีดูเหมือนว่าความเอาใจใส่จะนำไปสู่ความวุ่นวายเพราะกลัวจะทำร้ายทรัพย์สินของแม่และทำให้แม่ไม่มีความสุขไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาแปลกใจที่ หลินหว่านหรูไม่ได้เข้ารับตำแหน่งด้วยซ้ำ และเธอก็ไม่เปิดเผยข่าวใด ๆ เกี่ยวกับการเข้ารับตำแหน่งด้วยซ้ำ แล้วทำไมเธอถึงเข้าไปเกี่ยวข้องกับ เทียนเฟิงกรุ๊ปเว้นแต่จะเป็นเลขานุการของหยางไฉ่อวิ๋นแต่นั่นเป็นไปไม่ได้สำหรับเธอในที่สุดเย่เทียนหยู่ก็เข้าใจแล้วว่ารองประธานาธิบดีจางเฉียงที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ถ้าอยากเข้ารับตำแหน่งใช่ไหม ผมอยากให้คุณเกษียณตรงๆ และอยู่บนเตียงไปตลอดชีวิต“เทียนหยู่ฉัน
ตกลงใครกันแน่ที่เป็นหน้าม้าในขณะนั้นเอง มีคนมาเคาะประตู หลินหว่านหรูเปิดประตูและเห็นชายวัยสี่หรือห้าสิบคนหนึ่ง“สวัสดี คุณคือคุณหลินใช่ไหม”“ใช่ค่ะ แล้วคุณคือ?”“ผมคือจางเฉียง รองผู้จัดการทั่วไปของเครือบริษัทเทียนเฟิงกรุ๊ปสาขาหนานเจียง”“คุณนี่เอง เข้ามาคุยกันด้านในก่อน มาหาฉันมีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ?” หลินหว่านหรูกล่าว“คือเรื่องนั้น…”จางเฉียงพูดด้วยท่าทีลำบากใจ: “ผู้จัดการหลิน คุณคงจะพอทราบเรื่องทุกอย่างบนโซเชียลแล้วใช่ไหม?” เขาพูดอย่างช่วยไม่ได้“ฉันรู้ค่ะ” หลินหว่านหรูพยักหน้า สีหน้าของเธอไม่สู้ดีเท่าไหร่นัก นอกจากจะรู้สึกผิดหวังต่อตัวเองแล้ว สิ่งที่เธอกังวลมากกว่าคือเทียนหยู่จะรับมือกับเรื่องทั้งหมดนี้ได้ยังไงไม่ว่าเธอจะเก่งแค่ไหน ก็คงไม่สามารถต่อต้านการความเห็นของประชาชนได้ ถ้าหากทำให้ผู้คนโกรธแค้น ต่อให้เป็นเทียนหยู่ที่มีความสามารถมาก เขาก็อาจจะไม่รอดเหมือนกันท้ายที่สุดแล้ว ไม่มีอำนาจใดยิ่งใหญ่เกินกว่าอำนาจของประชาชน“ถ้าอย่างนั้น ผมก็จะขอพูดอย่างตรงไปตรงมา ผมเชื่อในความบริสุทธิ์ของคุณนะ แต่สถานการณ์ของคุณส่งผลกระทบต่อเทียนเฟิงกรุ๊ปอย่างมาก”จางเฉียงถอนหายใจ“อ
ดวงตาของเย่เทียนหยู่เต็มไปด้วยความโกรธ เขาโทรออกติดต่อกันหลายครั้ง อย่างแรก คือการขุดหาประวัติเสียหายของปาร์คดาฮยอน และอย่างที่สอง การตามหาวิดีโอที่เป็นหลักฐานคราวนี้ เขาจะทำให้ปาร์คดาฮยอนต้องชดใช้ราคาแห่งความสิ้นหวังแน่นอนว่าปาร์คดาฮยอนไม่รู้เรื่องทั้งหมดที่กำลังเกิดขึ้น เขายังรู้สึกภาคภูมิใจมากกับเรื่องที่เกิดก่อนหน้าไม่เลิก จนกระทั่งถึงเวลาอาหารค่ำ เขาสอบถามและได้รู้ว่าเย่เทียนหยู่กับคนอื่น ๆ ยังไม่ออกมาเขาพูดพร้อมรอยยิ้มเย็นยะเยือก: “นานขนาดนี้แล้ว ยังไม่มีคนไปจับตัวมันอีก ไอ้หมอนั่น แบล็คอัพไม่เลวเลยนี่”ในตอนนั้นเอง จู่ ๆ เขาก็ได้รับข้อความแจ้งว่า หลินหว่านหรูเป็นผู้จัดการทั่วไปคนใหม่ของเครือบริษัทเทียนเฟิงกรุ๊ปอย่างนั้นเองสินะ ไม่น่าแปลกใจเลยที่เจ้าหน้าที่ไม่ออกหน้าจับกุมตัวพวกเขาแต่ว่า เขาจบการศึกษาในระดับที่ไม่ได้สูงมากนัก และเขาก็ไม่รู้จักเทียนเฟิงกรุ๊ป แต่แน่นอนว่า ต่อให้มีวุฒิการศึกษาระดับสูง ก็อาจไม่เข้าใจเทียนเฟิงกรุ๊ปเหมือนกันก็แค่ผู้บริหารคนหนึ่งของเครือบริษัทไม่ใช่หรือไงกัน เขายังมีอีกหลายวิธีที่จะจัดการกับคนพวกนั้น: “ไปปล่อยข่าวเพิ่มให้ผมหน่อยสิ” เขาสั่งก
จนถึงตอนนี้ยังไม่ถูกนำตัวไปที่สถานีตำรวจ เห็นได้ชัดว่าเขาพอจะมีพลังอยู่บ้าง แต่กล้าจะสู้กับเขาด้วยพลังกระจ้อยร่อยแบบนั้น ถ้างั้นเขาก็จะแสดงพลังเทียมฟ้าให้อีกฝ่ายได้เห็นเองหญิงสาวที่อยู่ข้าง ๆ อดไม่ได้ที่จะเตือนว่า: “แต่ว่า พี่ดาฮยอน เมื่อกี้พี่ขู่เขาแบบนั้น พี่ไม่กลัวเขาจะแอบบันทึกเสียงเหรอ”“จะกลัวอะไร ต่อให้เขาบันทึกเสียงอยู่ ใครจะพิสูจน์ได้ว่าเขาคือบริกรที่พี่ส่งมา ผมจะบอกว่าเขาเล่นเองเออเองก็ยังได้” ปาร์คดาฮยอนยิ้มเยาะ“พี่ดาฮยอนฉลาดจังเลย สุดยอดไปเลยค่ะ”“ก็แหงอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นพวกเธอสองคนจะยอมปรนิบัติพี่ได้ยังไงละ” ปาร์คดาฮยอนพูดอย่างภาคภูมิใจ นอกจากนั้น หญิงสาวสองคนที่อยู่ข้างกายเขา คือคนที่เคยโดนเย่เทียนหยู่ตบหน้ามาก่อน“ใช่ พี่ดาฮยอนหล่อ สง่างาม และเย่อหยิ่ง เรารักเขามาก สำหรับพี่ดาฮยอน ฉันกำลังสมัครขอสัญชาติแดนกิมจิแล้ว”“ฮ่าฮ่า คุณต้องละทิ้งอาณาจักรมังกร อาณาจักรมังกรของคุณนั้นสมัครได้ยากที่สุดในโลก เมื่อคุณยอมแพ้ คุณจะไม่มีโอกาส”“หากฉันมีโอกาส ฉันจะติดตามพี่ดาฮยอนและกลายเป็นพลเมืองจีนผู้สูงศักดิ์”“โอเค คุณเก่งมาก!”ปาร์คดาฮยอนภูมิใจมาก แล้วก็หัวเราะเยาะ: “เด็